ทานโทษเถอะค่ะ ไม่เห็นมติคณะรัฐมนตรีจะเอาที่ไหนไปฟ้องค่ะ ทำอะไรก็ต้องมีเอกสารหลักฐาน ไม่ใช่ยืนมั่วด่าใครก็ได้อ่ะ อะไรไม่ถูกใจก็ด่า ใครไม่เข้าข้างก็ด่า ใครไม่เห็นด้วยก็ด่า คิดว่าถูกต้องเหรอคะ ทำอย่างงั้น ต่างจากพวกแม้วตรงไหน
ตรงประเด็นมากเลยครับคุณแอน จะเอาผิดต้องเห็นมติ ครม.ก่อน
...
วันนี้ทาง ปชป. ไปยื่นขอให้เปิดเผยเอกสารมติ ครม.แล้วครับ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ปชป. ยื่นหนังสือขอให้เปิดเผยเอกสารมติครม. กรณีลงนามแถลงการณ์ร่วมไทย - กัมพูชาhttp://www.democrat.or.th/viewnews.asp?id_head=9347%20%20&id_main=60&p=0&ca=62&mt=175.92.185.153.216.238.33.205&st=172.102.168.190.167.250.47.206สภาผู้แทนราษฎร
ถนนอู่ทองใน กรุงเทพฯ
๙ กรกฎาคม ๒๕๕๑
เรื่อง ขอให้เปิดเผยเอกสารและขอสำเนาเอกสารรายละเอียดการดำเนินการ
กรณีที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ลงนามในการแถลงการณ์ร่วมไทย – กัมพูชาฯ
เรียน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี
ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีคำวินิจฉัยชี้ขาดเมื่อวันที่ ๘ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๑ กรณี ประธานวุฒิสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร
ส่งความเห็นของสมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาดว่า คำแถลงการณ์ร่วมไทย – กัมพูชา หรือ
Joint Communiqué ฉบับ ลงวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๑ เป็นหนังสือสัญญาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐
มาตรา ๑๙๐ วรรคสอง ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภาหรือไม่ ว่า แถลงการณ์ร่วมฉบับดังกล่าว มีลักษณะครบองค์ประกอบของ
ความเป็นสนธิสัญญา ตามอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยกฎหมายสนธิสัญญา ค.ศ.๑๙๖๙ และเป็นไปตามนัยคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่
๑๑/๒๕๔๒ และที่ ๓๓/๒๕๔๓ จึงเป็นหนังสือสัญญาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๙๐ และต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภานั้น
เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นที่สนใจของพี่น้องประชาชน อีกทั้งยังเกี่ยวข้องกับการดำเนินการของคณะรัฐมนตรีว่าได้ดำเนินการ
โดยคำนึงถึงความรับผิดชอบในฐานะรัฐบาลของประเทศไทย ที่จะต้องรักษาไว้ซึ่งบูรภาพแห่งดินแดนอธิปไตย และความมั่นคงของ
ทั้งทางสัมคม เศรษฐกิจของประเทศชาติโดยรวมหรือไม่
แต่ โดยที่การดำเนินการในขั้นตอนต่างๆ ของรัฐบาลและคณะรัฐมนตรี ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเอกสารหลักฐานต่างๆ อย่าง
เพียงพอและครบถ้วน เพื่อแสดงให้เห็นว่า คณะรัฐมนตรีได้ดำเนินการไปโดยคำนึงถึงหลักการดังกล่าวข้างต้นโดยสมบูรณ์แล้ว
ดังนั้น เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาดว่า คำแถลงการณ์ร่วมไทย – กัมพูชา หรือ Joint Communiqué ฉบับลงวันที่ ๑๘ มิถุนายน
๒๕๕๑ เป็นหนังสือสัญญาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.๒๕๕๐ มาตรา ๑๙๐ วรรคสอง ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบจาก
รัฐสภาแล้ว คณะรัฐมนตรีจึงน่าจะสมควรเปิดเผยเอกสารและรายละเอียดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนและ
สมาชิกรัฐสภาได้รับทราบต่อไป
พวกผมในฐานะสมาชิกรัฐสภา จึงขอให้เปิดเผยเอกสารมติคณะรัฐมนตรี และเอกสารรายละเอียด การดำเนินการกรณีที่คณะรัฐมนตรี
เห็นชอบให้มีการลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย – กัมพูชาฯ ดังกล่าว โดยจะขอรายละเอียด และสำเนาเอกสารต่างๆ ดังนี้
๑. สำเนา เอกสารการดำเนินการของนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ได้นำคณะผู้แทนไทย ไปหารือกับผู้แทน
กัมพูชา เมื่อวันที่ ๒๒ – ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๑ รวม ทั้งสรุปรายละเอียดผลการเจรจา ฉบับที่นำเสนอคณะรัฐมนตรี ภายหลังเสร็จสิ้นการ
เจรจาและนำเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อขอความเห็นชอบ และมติคณะรัฐมนตรีก่อนหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไปดำเนิน
การหารือดังกล่าว หากมี
๒. สำเนา เอกสารที่นำเสนอคณะรัฐมนตรี และสำเนามติคณะรัฐมนตรี กรณีที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบร่างคำแถลงการณ์ร่วม
รวมทั้งร่างแผนผัง เมื่อคราวประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๑
๓. สำเนา เอกสารที่เสนอคณะรัฐมนตรีและสำเนามติคณะรัฐมนตรี กรณีที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ ให้เปลี่ยนคำว่า แผนที่ เป็น แผนผัง
เมื่อคราวประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๕๑
๔. เอกสารประกอบอื่นๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการให้ตามร้องขอ ทั้งนี้ตรมพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.๒๕๔๐ มาตรา ๙
ได้บัญญัติให้รัฐต้องจัดให้มีข้อมูลข่าวสารตามที่ระบุไว้ข้างต้นอยู่แล้ว เช่น ( ๗ ) มติคณะรัฐมนตรี เป็นต้น โดยข้อมูลดังกล่าวนั้น
เป็นสิทธิที่สามารถขอได้ตาม ม.๙ วรรคสามอยู่แล้ว ทั้ง มิใช่เป็นการไปวิเคราะห์ รวบรวม จำแนก หรือจัดให้มีขึ้นใหม่แต่ประการใด
อีกทั้งสำเนาเอกสารที่ขอ ก็ไม่เข้าข่ายข้อมูลข่าวสารที่ไม่ต้องเปิดเผยตามมาตรา ๑๔ หรือ ๑๕ แต่ประการใด
ขอแสดงความนับถือ( นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ )
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร