55555
|
|
« เมื่อ: 06-07-2008, 12:46 » |
|
การตรวจสอบและชี้มูลความผิดคดีทุจริตประพฤติมิชอบโครงการต่างๆยุครัฐบาลทักษิณโดยคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.)เป็นหนามยอกอกและเหมือนฝันร้ายที่ตามหลอกหลอน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและสมาชิกในครอบครัวมาตลอด ซึ่งความหวังหนึ่งที่จะสลัดตัวเองให้หลุดพ้นหนามยอกอกและฝันร้ายเริ่มริบหรี่ลงเรื่อยๆ เมื่อล่าสุดศาลรัฐธรรมนุญได้มีคำวินิจฉัยการปฏิบัติหน้าที่ของคตส. รวมทั้งการต่ออายุคตส.ในช่วงที่ผ่านมาชอบด้วยกฏหมายทุกประการ อันส่งผลให้คดีทุจริตต่างๆที่คตส.ตรวจสอบและชี้มูลความผิดตลอด 1 ปี 9 เดือนที่ผ่านมายังคงเดินหน้าต่อไปตามกระบวนการยุติธรรม
แม้คตส.จะปิดฉากบทบาทของตัวเองลงแล้วตามวาระอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมาแต่ก็สามารถส่งไม้ต่อไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ดำเนิตการคดีทุจริตที่ยังคั่งค้างอยู่ โดย 1 ปี 9 เดือนภายใต้การทำงานอย่างคร่ำเคร่งของคตส.สามารถสรุปคดีทุจริตจึงถึงขั้นยื่นฟ้องต่อศาลแล้ว 5 คดีประกอบด้วย
1.คดีทุจริตการจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษกมูลค่า 772 ล้านบาทที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา ตกเป็นจำเลย ซึ่งคดีอยู่ในขั้นตอนการไต่สวนของศาลฏีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
2. คดีหวยบนดินซึ่งสร้างความเสียหายแก่รัฐคิดเป็นมูลค่าหลายหมื่นล้านบาทโดยมี พ.ต.ท.ทักษิณ และคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลทักษิณ ตลอดจนผู้บริหารหน่วยราชการรัฐวิสาหกิจอีกจำนวนมากตกเป็นจำเลย ซึ่งคดีนี้อยู่ระหว่างรอคำวินิจฉัยจากศาลฏีกาฯว่าจะรับฟ้องหรือไม่ 3.คดีการหลีกเลี่ยงภาษีกรณีการโอนหุ้นบริษัทชินวัตรคอมพิวเตอร์โดยมี คุณหญิงพจมาน และ นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายบุญธรรม ตกเป็นจำเลย 4. คดีทุจริตโครงการจัดซื้อกล้ายางพารา 90 ล้านต้นมูลค่าเกือบ 2,000 ล้านบาทของกรมวิชาการการเกษตร โดยมีรัฐมนตรีหลายคนในรัฐบาลทักษิณตกเป็นจำเลยและ 5.คดีรัฐบาลทักษิณาสั่งให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าหรือเอ็กซ์ซิมแบงก์อนุมัติปล่อยเงินกู้จำนวน 4,000 ล้านบาทแก่รัฐบาลพม่าโดยมีเบื้องหลังเกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อน โดยคดีนี้ คตส.ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นจำเลยเพียงคนเดียว
ส่วนคดีที่คตส.ชี้มูลความผิดและยื่นเรื่องส่งฟ้องไปแล้วแต่ค้างเติ่งอยู่ที่สำนักงานอัยการสูงสุด มีจำนวน 6 เรื่องประกอบด้วย 1.คดีทุจริตการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 เพื่อติดตั้งภายในสนามบินสุวรรณภูมิ ที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรมว.คมนาคม และพวกตกเป็นจำเลย 2.คดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ร่ำรวยผิดปกติและได้ทรัพย์สินถือครองหุ้นสัมปทานโดยมิชอบมูลค่า 76,000 ล้านบาท ซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุดไม่ยอมส่งฟ้องต่อศาลในวินาทีสุดท้ายก่อนคตส.พ้นวาระโดยอ้างว่าสำนวนของคตส.ไม่สมบูรณ์ 3.คดีทุจริตโครงการจัดซื้อจัดจ้างท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินภายในสนามบินสุวรรณภูมิ 4.คดีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้แก่บริษัทกฤษดามหานครมูลค่า 9,900 ล้านบาทโดยมิชอบ 5.คดีเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการเรียกเก็บภาษีบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น และ 6. คดี พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้อำนาจแปลงค่าสัมปทานเป็นภาษีสรรพมิตเอื้อประโยชน์แ ก่ตัวเอง
สำหรับคดีที่คตส.ยังตรวจสอบไม่เสร็จสิ้นและต้องส่งต่อทำหน้าที่ไปยัง ป.ป.ช.มีทิ้งสิ้น 9 คดีประกอบด้วย 1.คดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทรซึ่งมี นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และพวกเป็นจำเลย 2.คดีการเคหะแห่งชาติขายที่ดินและรับซื้อโครงการบ้านเอื้ออาทรย่านร่มเกล้า-บางพลีโดยมี นางชวนพิศ ฉายเหมือนวงศ์ อดีตผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ เป็นจำเลย 3.คดีทุจริตโครงการรับซื้อบ้านเอื้ออาทรอรัญประเทศ 4.คดีทุจริตรับซื้อโครงการบ้านเอื้ออาทรกบินทร์บุรี 2 5.0คดีทุจริตโครงการขนส่งรถไฟฟ้าเชื่อท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ(แอร์พอร์ตลิ้งก์) 6.คดีทุจริตการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของกรุงเทพมหานคร ซึ่ง นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ตกเป็นหนึ่งในจำเลยในฐานะอดีตผู้ว่ากทม. 7.คดีทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างโครงการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ของบริษัทห้องปฏิบัติการกลางตรวจสอบผลิตภัณฑ์เกษตรและอาหาร(เซ็นทรัลแล็บ) 8.คดีการซื้อสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ มูลค่าเกือบ 10,000 ล้านบาททั้งๆที่คตส.ได้สั่งอายัดทรัพย์สินทั้งหมดของอดีตนายกรัฐมนตรีแล้วก่อนหน้านี้ทำให้ต้องมีการตรวจสอบว่า เงินมหาศาลก้อนนี้มาจากไหน และ 9.คดีการปกปิดบัญชีทรัพย์สิน หุ้นบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ธนชาติประกันภัยมูลค่า 60 ล้านบาทในชื่อ นายบรรณพจน์
นอกจากนี้ยังมีคดีที่คตส.ส่งเรื่องให้กรมสรรพากรประเมินภาษีบุคคลในตระกูล"ชินวัตร" 4 คดีประกอบด้วย 1.กรณีนายบรรณพจน์ รับหุ้นจาก คุณหญิงพจมาน โดยไม่เสียภาษีคิดเป็นมูลค่า 546 ล้านบาท 2. กรณีนายพานทองแท้ ชินวัตร และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร บุตรชายและบุตรสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ซื้อหุ้นจ่ากบริษัทแอมเพิลริชอินเวสเมนต์จำกัดที่ถือหุ้นอยู่ในบริษัทชินคอร์ปอเรชั่นหุ้นละ 1 บาทและขายหุ้นละ 49.25 บาทโดยไม่เสียภาษีคิดเป็นมูลค่า 11,808 ล้านบาท 3.กรณีบริษัทแอมเพิลริชฯขายหุ้นโดยไม่เสียภาษีคิดเป็นมูลค่า 20,923 ล้านบาท และ4.กรณีบริษัทชินแซทเทลไลท์จำกัดรับเงินค่าสินไหมทดแทนกรณีนำดาวเทียมไทยคม 3 ไปซ่อมโดยไม่ส่งเงินค้ำประกันให้รัฐโดยไม่เสียภาษีเป็นมูลค่า 1,082 ล้านบาท
คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่รับรองสถานะอันชอบด้วยกฏหมายของคตส.และทำให้คดีทุจริตต่างๆในยุครัฐบาลทักษิณยังคงเดินหน้าต่อไปตามกระบวนการยุติธรรมจึงเหมือนเป็นการดับฝันของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่พยายามดิ้นรนทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองพ้นผิด
ก่อนหน้านี้ก็มีความพยายามจากพรรคพลังประชาชนที่จะผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 309 เพื่อลบล้างคำสั่งของคณะรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 อันจะส่งผลให้การตรวจสอบชื้มูลความผิดคดีทุจริตต่างๆโดยคตส.กลายเป็นโมฆะ แต่ความพยายามดังกล่าวก็ล้มเหลวต้องถอนญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญกลางคันหลังถูกกระแสต่อต้านจากสังคมอย่างหนักหน่วง
ขณะที่คดีทุจริตบีบรัดใกล้เข้ามาทุกขณะทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ตกอยู่ภายใต้สถานการณ์หลังพิงฝาเลือดเข้าตาก็เกิดข่าวสะพัดเกี่ยวกับแผนที่จะล้มกระดานทางการเมืองด้วยการยึดอำนาจเพื่อ ล้มล้างมาตรา 309 ของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันอันเป็นการฟอกคดีทุจริตโดยปริยาย
อย่างไรก็ตามการยึดอำนาจจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อฝ่ายที่ก่อการต้องสามารถยึดอำนาจในกองทัพให้ได้เสียก่อนซึ่งปัจจุบันผู้นำเหล่าทัพต่างๆล้วนเป็นแกนนำที่ร่วมก่อรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.อ.ชวลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผู้บัญชาการทหารเรือ รวมทั้ง พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1
ในเมื่อแผนล้มกระดานทางการเมืองถูกกำหนดขึ้นจึงต้องมีแผนยึดอำนาจในกองทัพโดยมีรายงานข่าวบรรดาแกนนำของเครือข่ายระบอบทักษิณพยายามอาศัยสายสัมพันธ์และช่องทางทุกวิถีทางเพื่อเจาะล็อบบี้พร้อมทั้งทุ่มเสนอผลประโยชน์ทุกรูปแบบอย่างไม่อั้นหวังซื้อตัวบรรดาผู้นำเหล่าทัพต่างๆ รวมไปถึงนายทหารระดับคุมกำลังทั้งหมดเพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามแผน
ผู้นำเหล่าทัพที่ถูกจับตาเป็นพิเศษในฐานะที่ตกเป็นเป้าล็อบบี้อย่างหนักก็คือ พล.อ.อนุพงษ์ทั้งนี้เนื่องจากกองทัพบกคุมกำลังหลักอันเป็นตัวแปรสำคัญหากมีการก่อรัฐประหาร โดยเครือข่ายระบอบทักษิณพยายามอาศัยบุคคลที่มีสายสัมพันธ์กับนายทหารผู้นี้เพื่อล็อบบี้มาตลอดให้มาเป็นพวก ทั้งนี้ทางหนึ่งมีรายงานข่าวว่ามีการอาศัยนายทหารเตรียมทหารรุ่น 10 (ตท.10) ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นทั้งของพ.ต.ท.ทักษิณ และ พล.อ.อนุพงษ์ บางคนพยายามล็อบบี้ พล.อ.อนุพงษ์ โดยอาศัยความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนร่วมรุ่น
บทบาทของ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีหุ่นเชิด ซึ่งควบเก้าอี้รมว.กลาโหมอีกตำแหน่งหนึ่งนับว่ามีส่วนสำคัญในการปูทางสร้างสายสัมพันธ์ด้วยการพยายามซื้อใจสนับสนุนบทบาทของ พล.อ.อนุพงษ์ ซึ่งเห็นได้ชัดว่านายกรัฐมนตรีหุ่นเชิดจะหอบหิ้ว พล.อ.อนุพงษ์ ร่วมคณะเดินทางไปเยือนต่างประเทศทุกนัดจนเหมือนคนสนิทผู้รู้ใจ
ขณะเดียวกันก็มีความพยายามเข้าทางหลังบ้านของผู้บัญชาการทหารบกโดยมีข่าวว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย มีบทบาทสำคัญในการเข้าหาภรรยาของ พล.อ.อนุพงษ์ ในฐานะที่สนิทสนมคุ้นเคยกันมานานแล้ว
นอกจากนี้ยังมีการดึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งมีความแนบแน่นกับครอบครัวชินวัตร และเป็นอดีตเจ้านายเก่าของ พล.อ.อนุพงษ์ ตั้งแต่อยู่กองพลทหารราบที่ 2 หรือที่เรียกว่ากองพลทหารเสือราชินี มาเป็นตัวประสานเพื่อล็อบบี้ พล.อ.อนุพงษ์ ให้เข้ามาเป็นพวกอีกแรงหนึ่ง
ไม่เพียงความพยายามล็อบบี้เพื่อดึงนายทหารระดับผู้บัญชาการเหล่าทัพมาเป็นพวก แต่ยังมีข่าวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการเสนอเงื่อนไขและผลประโยชน์ที่สร้างแรงจูงใจสูงมากเพื่อโน้มน้าวบรรดานายทหารหน่วยคุมกำลังในระดับที่รองลงมาโดยเฉพาะบรรดาแม่ทัพ รวมทั้งผู้บังคับกองพันต่างๆด้วยเพื่อเพาะขุมกำลังสร้างหลักประกันให้กับแผนล้มกระดานด้วย
ความเคลื่อนไหวที่สำคัญซึ่งต้องจับตาอีกประการหนึ่งก็คือการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ซึ่งมีผู้นำเหล่าทัพเกษียณอายุเกือบยกแผงโดยที่สำคัญคือ ผู้บัญชาการทหารอากาศและผู้บัญชาการทหารเรือ ทั้งนี้การแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารซึ่งจะมีขึ้นในเดือนก.ย.จะเป็นตัวชี้ขาดจุดเปลี่ยนของบ้านเมืองที่ล่อแหลมและสำคัญมากในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เพราะผลการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารครั้งนี้จะเป็นตัวชี้วัดว่า ระบอบทักษิณได้ฟื้นคืนชีพกลับมายึดอำนาจในกองทัพและยึดครองประเทศได้อย่างเบ็ดเสร็ดเด็ดขาดหรือไม่
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) วิเคราะห์สถานการณ์ในงานเลี้ยงอำลา คตส.เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมาโดยชี้ว่า คดีทุจริตต่างๆที่ดำเนินการโดยคตส.น่าจะได้ข้อยุติก่อนเดือนต.ค.ก่อนที่จะมีการโยกย้ายนายทหารหน่วยคุมกำลังสำคัญ เพราะไม่เช่นนั้นอาจทำให้ฝ่ายตรงข้ามได้เปรียบ
เพราะฉะนั้นภายใต้สถานการณ์ที่งวดเข้ามาทุกขณะ ฝ่ายที่เลือดเข้าตาย่อมกระทำทุกวิถีทางเพื่อต่อสู้ดิ้นรนหนีความผิดเอาตัวรอด ซี่งแผนการยึดกองทัพอันจะนำไปสู่การล้มกระดานทางการเมืองก็คือไพ่ตายใบสุดท้ายในสถานการณ์ที่หลังพิงฝา ส่วนจะสำเร็จหรือไม่เป็นสิ่งที่จะต้องจับตากันต่อไป ซึ่งหากสำเร็จนั่นหมายถึงการกลัมมาของวงจรอุบาทว์ที่เลวร้ายกว่าเก่าและเป็นไปได้สูงที่จะเป็นชนวนนำพาบ้านเมืองไปสู่กลียุคมิคสัญญี ทีมข่าวการเมือง http://www.naewna.com/news.asp?ID=112767
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
พรรณชมพู
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 06-07-2008, 13:06 » |
|
ทางสุดท้ายที่จะเอาตัวรอดโดยปราศจากความผิดได้ คือการล้มกระดาน หลังจากความพยายามในการแก้รัฐธรรมนูญไม่เป็นผลแล้ว หรือไม่ทันการณ์แล้ว ปกติทักษิณเล่นเกมส์การเมืองโดยถือไพ่เหนือกว่ามาตลอด และเป็นคนคุมเกมส์ต่างๆ ในอดีตจึงเชื่อกันว่ายากที่จะเอาชนะคนผู้ใน เพราะเขาจะเป็นคนกำหนดกติกาและขีดเส้นให้เกมส์เดินไปตามทางที่ต้องการ จึงมีความเชื่อกันว่าบุคคลคนนี้ฉลาดลึกล้ำ แต่ถ้ามองย้อนอดีตไปนานกว่านั้น จะพบว่าเมื่อบุคคลคนนี้ต้องเล่นเกมส์ที่มีกติกา ไม่อาจแหกกติกาได้ เขาจะพ่ายแพ้อยู่เสมอๆ ดังนั้นที่จริงแล้วคนคนนี้ไม่ได้เก่งกาจอย่างที่ใครคิด วันนี้เกมส์เดินไปตามกติกา เมื่อมีความพยายามจะละเมิดกติกา ก็จะมีคนออกมาขวางไว้ เพื่อให้เกมส์เดินไปตามกติกา แพ้ชนะวัดกันที่ฝีมือ ผลก็เห็นๆว่าทักษิณกลับมาสู่ความพ่ายแพ้ เช่นที่เคยประสบมาในการดำเนินธุรกิจตามกติกาเหมือนคนอื่น เมื่อครั้งอดีตกาล หลังพิงฝา หมาจนตรอก เหลือทางรอดเดียว ทางรอดที่เคยชิน นั่นคือการ ละเมิดกติกา จึงมีข่าวความพยายามในการปฏิวัติ ซึ่งก็จะต้องปฏิวัติล้มรัฐบาลที่ตนเองชักใยอยู่เบื้องหลังนั่นเอง ไม่เกินสิ้นเดือนกันยายน 2551 อย่างที่บทความนี้วิเคราะห์ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะต้ดสินคดีแรกคือคดีที่ดินรัชดา คดีเดียวก็เพียงพอจะปิดฉากของทักษิณได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพราะนอกจากจะถูกจำจองแล้ว คดีที่ตามหลังมาจะปราศจากแรงเสียดทานขัดขวางที่รุนแรง และการลงโทษจะต่อเนื่องไปจนไม่เห็นว่า คนคนนี้จะมีกำหนดพ้นคุกตามปกติได้เมื่อไร ระบอบทักษิณจะแตกกระจาย เหล่าขุนพลที่เคยร่วมกันสวาปามประเทศจะหนีกระเจิดกระเจิง หลายคนเชื่อว่าต้องหายสาปสูญเพราะไม่อยากติดคุก อวสานใกล้เข้ามาแล้ว วัดใจเหล่าทหาร จะยอมขายตัวเพื่อเงิน ช่วยคนผิดหรือไม่ อีกไม่นานได้รู้กันค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เอกราช
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 06-07-2008, 13:52 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
สภาพดินฟ้าอากาศที่ได้เปรียบมิสู้มีชัยภูมิที่มั่นคง ชัยภูมิที่เป็นเลิศมิอาจเทียบได้กับความมีน้ำหนึ่งใจเดียวของผู้คน
|
|
|
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 06-07-2008, 13:56 » |
|
หนังสือพิมพ์น้ำแตกรุ่นแรกก่อน manager
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
qazwsx
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 06-07-2008, 16:11 » |
|
คุณพรรณชุมพูวิเคราะห์ได้ชัดเจนครับ ทักษิณไม่เคยเล่นชนะหากเล่นตามกติกา ไอ้ขี้โกงไร้ฝีมือตัวนี้ขี้ขลาดตาขาวเกินไปที่จะปล่อยให้นำประเทศไทยแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ ในโลก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
55555
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 06-07-2008, 20:56 » |
|
ผมนำมาแปะ เพราะ มั่นใจว่าอยู่ในความคิดของคุณทักษิณแน่นอน....
หลายคดีที่อยู่ในศาล กับ คดีที่ส่งถึงมือ ปปช. ส่วนใหญ่ เป็นคดีที่มาน้ำหนักพยานหลักฐาน ค่อนข้างแน่น
เนื่องจาก ตอนที่เรื่องอำนาจอยู่ คุณทักษิณ เหลิงอำนาจจนประมาทพลาดท่า ทิ้งเอกสารมัดตัวไว้เป็นจำนวนมาก...
คนอย่างคุณทักษิณ ไม่มีวันยอมติดคุกง่าย ๆ หรอกครับ...คงต้องสู้กันอีกพักใหญ่
ตอนนี้ เหลืออยู่ไม่กี่ทาง รัฐธรรมนูญก็แก้ไม่ได้....
สุดท้าย ต้องวัดใจทหารแล้วครับ....ว่าจะยอมก้มหัวให้กับคนโกงชาติหรือไม่....
หากมีการล้มกระดาน งานนี้ รับรองได้เลยครับ....มีการนองเลือด....เพราะทางพันธมิตรก็คงไม่ยอมเช่นกัน...
คุณจำลองและพวก อยู่ในบัญชีดำคุณทักษิณ อันดับต้น ๆ อยู่แล้ว.....มั่นใจได้เลย...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
สมชายสายชม
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 06-07-2008, 21:26 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อธิฏฐาน
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 06-07-2008, 21:36 » |
|
หรือว่าทหารกำลังชั่งน้ำหนักอยู่ว่า "ถ้าทำสำเร็จ ก็จะได้ทั้งยศ ได้ทั้งลาภ รวยไปถึงชาติหน้า แต่ถ้าทำไม่สำเร็จ ไม่ได้ลาป อาจจะได้เป็น น้ำ(ตา)ตก ซกเล็ก ถ้าไม่ตายก็คงจะได้ย้ายสัมโนครัวไปอยู่ที่ต่างประเทศ แถมอาจจะได้ตำแหน่งใหม่หรือนามสกุลใหม่เป็น "สมุนทรราชย์" (โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อเป็น "สมัคร") นพดลชั่งน้ำหนักแล้ว แต่สายตาดูเข็มชี้พลาดไปค่ะ กลับมาคราวนี้อาจได้ลาบเขารุมสับเป็นชิ้น ๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Iona
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 07-07-2008, 01:08 » |
|
นพดล ไม่ได้เป็นเหมือนข้าราชการ นพดล ไม่ต้องสร้างและไม่ต้องทำ สิ่งที่เรียกว่า "ต้นทุนทางสังคม" แต่เมื่อ ข้าราชการผู้สร้างและทำสิ่งนั้น ตลอดอายุราชการที่ผ่านมา ต้องมากังวลหรือเสียหายเพราะคนประเภทนี้ >>>> มันถูกหรือ? (เมื่อการเมือง กลับปลดใคร ดังใจต้องการ)
แล้วจะเหลือข้าราชการ ที่กล้าทำสิ่งดีไหม?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
เงินงบประมาณของประเทศที่นำไปใช้จ่ายต่างๆ มาจาก การจัดเก็บภาษีที่เราประชาชนคนไทยทุกคนต้องจ่ายกันอยู่แล้วทั้งจากภาษีทางตรงและภาษีทางอ้อม(vet 7) (ขอย้ำว่าทุกคนเพราะเมื่อเราได้ซื้อสินค้าใดๆ สินค้านั้นยอมมีต้นทุนมาจากการเสียภาษีแล้ว) หรือจากการจัดเก็บจากทรัพย์สินส่วนรวมของคนไทยทุกคนที่เกิดบนแผ่นดินที่บรรพบุรุษของเราปกป้องรักษา ไม่ว่าจะเป็น แผ่นดิน แผ่นน้ำ ใต้แผ่นดิน ใต้แผ่นน้ำ ท้องฟ้า อวกาศ
เงินงบประมาณของประเทศ ไม่ได้มาจากเงินของคนใดคนหนึ่งหรือพรรคใดพรรคหนึ่ง ไม่มีใครสมควรอย่างยิ่งที่จะแอบอ้างว่าเงินนี้เป็นของตนนำมาแจกจ่าย การแอบอ้างนั้น เป็นการกระทำที่ไร้จริยธรรม และไม่ยุติธรรมต่อความรู้ของทุกๆคนในประเทศที่ต้องเสียภาษี
อย่าโทษหรือด่าว่า คนที่เค้าไม่มีโอกาศเข้าถึงข่าวสารข้อมูล ปัญหาจะแก้ได้คือ ทำอย่างไรให้เค้าเหล่านั้น ได้เข้าถึงข่าวสารข้อมูล
หลอกคนไทยตลอดไป คิดว่าหลอกได้หรือ? รัฐบาลของทักษิณ
เป็นเรื่องแปลก...สิ่งที่คนโกงกลัวที่สุดคือ ....ไม่ได้มีชีวิตเพื่อใช้เงินที่โกงมา? ประวัติศาสตร์โลกมีให้เห็น
|
|
|
ดอกฟ้ากับหมาวัด
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 07-07-2008, 01:43 » |
|
แผนอ้าปากก็เห็นคอหอยแบบเหลี่ยมๆ
เค้ารู้ทัน...แถมดักคอไว้หมด ใครหน้าไหนกล้าร่วมมือ
โง่ตายห่ะ....เหว
แต่ถ้าใครดันซื้อบื้อแกล้งโง่..รับรองลงนรกไปพร้อมๆกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ
น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
|
|
|
บักหัวเถิก
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 07-07-2008, 02:19 » |
|
ทักกี้ ปฎิวัติรับรองไม่ได้เผาผีในประเทศแน่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
NAJ
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 07-07-2008, 04:50 » |
|
มีผู้ใหญ่ที่เคารพได้คุยกับทหารระดับสูงมากท่านหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ นายทหารท่านนั้นพูดว่า "ถ้ารัฐบาลสั่งให้จับปืน ทหารก็จะจับปืน แต่จะหันหลังให้ประชาชนและหันกระบอกปืนไปอีกทาง" หวังว่าสิ่งที่นายทหารท่านนี้พูดจะเป็นจริง เพราะถ้ามีคนคิดจะล้มกระดาน ก็อาจจะได้ล้มไม่เป็นท่าเสียเอง
(อ้อ นายทหารท่านนี้ มักจะโดนจับตาว่าอยู่ข้างทักษิณ แต่ท่านยืนยันมาแต่ไหนแต่ไรกับคนใกล้ชิดและคนรอบตัว ว่าผมอยู่ข้างประชาชนและสถาบัน)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
The Last Emperor
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 07-07-2008, 09:02 » |
|
พปช.ชนะใจและชนะคะแนนการเลือกตั้งมาตลอดเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา คงไม่บ้าทำลายตัวเองโดยการทำรัฐประหารแน่นอน เห็นมีแต่ปชป.+พันธมารเท่านั้นแหล่ะที่เป็นฝ่ายขี้แพ้ซ้ำซาก เลยต้องการเปลี่ยนการเลือกตั้งเป็นระบบ 70:30 แต่สังคม turn downed the idiot proposal!!
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
55555
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 07-07-2008, 09:25 » |
|
ไม่ทำรัฐประหารตัวเอง ก็ดีแล้ว.....ได้ยินมาว่าไปคุย ๆ กันแล้ว...แต่ ไม่ได้รับความร่วมมือเท่าไหร่
ขยันไปศาลหน่อยก็แล้วกัน.เรื่องจะได้จบ ๆ ซะที....ต่อต้านรัฐประหารไปเรื่อย ๆ นั่นแหละดีแล้ว..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
ริวเซย์
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: 07-07-2008, 12:55 » |
|
ผมพนันว่ามันไม่กล้าหรอกครับ ถ้ามันหนีไปอยู่เมืองนอกตอนนี้ ก็มีเงินเสพสุขสบายไปทั้งชาติ แต่มันไม่ทำ เพราะความโลภยังกัดกินจิตใจของมันอยู่ มันก็เลยพยายามดิ้นรน ยิ่งดิ้นเท่าไรก็ยิ่งมัดตัว วาระสุดท้ายของไอ้เหลี่ยมใกล้เข้ามาแล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^
|
|
|
Familie
|
|
« ตอบ #20 เมื่อ: 07-07-2008, 14:33 » |
|
คนแบบนี้ ผมว่าตอนนี้ไม่มีความโลภแล้วครับ มีแต่ความแค้น ดูแล้วน่ากลัวมาก เป็นคนแค้นฝังใจ จะทำทุกวิถีทาง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
บรรพบุรุษ ของไทย แต่โบราณ ปกบ้าน ป้องเมือง คุ้มเหย้า เสียเลือด เสียเนื้อ มิใช่เบา หน้าที่เรา รักษา สืบไป ลูกหลาน เหลนโหลน ภายหน้า จะได้มี พสุธา อาศัย อนาคต จะต้องมี ประเทศไทย มิยอมให้ ผู้ใด มาทำลาย
|
|
|
The Last Emperor
|
|
« ตอบ #21 เมื่อ: 07-07-2008, 15:10 » |
|
ประเด็นก็คือ ฝ่าย Pro-Thaksin ชนะและครองใจปชช.ส่วนมากของประเทศนี้อย่างเบ็ดเสร็จ เรื่องอะไรที่จะทำรัฐประหารตัวเองให้เสื่อมเสียเกียรติ์!?! ฝ่ายพันธมารแตกร่นถอยไม่เป็นท่า...เห็นไหมว่าตอนนี้คนร่วมม๊อบแค่หลักร้อย(มาจากสันติอโศกซะ 80%)เท่านั้นเอง ฝ่าย Pro-Thaksin เลยได้ใจกันถ้วนหน้าจวบจน ณ บัดดี้!!
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|