กาลีเหล่โอ

cameronDZ

ขาประจำขั้นที่ 3

ออฟไลน์

กระทู้: 3,827

my memory

กาลีเหล่โอ

« เมื่อ: 05-07-2008, 03:59 »

ติงเหล่ ดิ้นพล่าน
โยนขี้ให้รัฐบาลขิงแก่
ยกตนเทียบ อ.ป๋วย และ กาลิเลโอ

อ้างถึง

"นพดล" แฉเอกสารรัฐบาลสุรยุทธ์ หนุนกัมพูชาขึ้นทะเบียนเขาพระวิหาร
http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=327879&lang=T&cat=

นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ เปิดเผยว่า วันนี้ (4) ตนได้ไปให้การกับศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นได้ด้วยดี ตนคิดว่าตุลการศาลรัฐธรรมนูญ น่าจะเข้าใจประเด็นต่างๆในเรื่องนี้มากยิ่งขึ้น เนื้อหาสาระในการชี้แจงในวันนี้ คือตนได้ชี้ให้เห็นถึงความเป็นมาของตัวปราสาท ตั้งแต่ที่ประเทศไทยแพ้คดีที่ศาลโลกในปี 2505 ซึ่งตัวปราสาทพระวิหาร และที่ดินใต้บริเวณใต้ตัวปราสาท ได้มอบให้กับกัมพูชาตั้งแต่ปี 2505 ตามมติครม. วันที่ 10 กค 2505 และพันเอกถนัด คอร์มันต์ ก็ได้มอบเอกสารเหล่านี้แจ้งไปยังองค์การสหประชาชาติ นอกจากนี้ตนได้ชี้แจงให้เห็นถึงกรณีที่กัมพูชาได้ขอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ในปี 2546 แต่ทางฝ่ายไทยได้ยื่นคัดค้าน เพราะไม่ต้องการให้มายุ่งเกี่ยวกับพื้นที่ทับซ้อน ซึ่งตนได้เสนอแผนที่ต่างๆ เพื่อประกอบการพิจารณา ท้ายที่สุดก็ได้มีการพูดคุยในประเด็นมาตรา 190 ซึ่งศาลปกครองห้ามไม่ให้ตนพูดถึงเอกสาร(แถลงการณ์ร่วมไทยกัมพูชา) เพราะไม่ใช่สัญญา และไม่ส่งผลกระทบต่อเขตแดนของไทย

"ทางตุลาการท่านก็สนใจซักถามผมหลายประเด็น ผมก็เล่าให้ท่านฟังย้อนหลังไปเมื่อ 46 ปีที่แล้ว และผมได้ยืนยันกับท่านว่าในการเดินทางไป ควิเบก แคนนาดาในครั้งนี้ ผมก็จะปฎิบัติตามคำสั่งของท่านอย่างเคร่งครัด ก็คือไม่สามารถไปสนับสนุนการขึ้นทะเบียนตัวปราสาทพระวิหารได้ ตามคำสั่งของศาลปกครอง ซึ่งผมขอยืนยันว่า สิ่งที่กระทรวงการต่างประเทศทำมา ตลอดจนมีคำสั่งศาล เราได้ทำมาถูกต้อง และปกป้องอธิปไตย และดินแดนของชาติได้อย่างสมบูรณ์" นายนพดลระบุ

รมว.ต่างประเทศกล่าวว่า สิ่งสำคัญตนขอความเป็นธรรมกับทุกๆคน ที่จะบอกให้ทราบว่า ผู้ที่สนับสนุนการขึ้นทะเบียนปราสาท ก็คือพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายนิตย์ พิบูลสงคราม อดีตรมว.ต่างประเทศ ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยประชุมที่ 31 ในวันที่ 23 มิถุนายน Christchurch ประเทศนิวซีแลนด์ โดยมีเนื้อหาใจความว่า รัฐภาคีกัมพูชา และรัฐภาคีไทย เห็นพ้องกันอย่างเต็มที่ว่า ปราสาทพระวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ มีคุณค่าสากลที่โดดเด่นและจะต้องได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยเร็วที่สุด ดังนั้นทั้งสองฝ่ายจึงตกลงให้กัมพูชา เสนอขึ้นทะเบียนปราสาทโดยการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากไทย

" นี่คือความจริง การที่จะดำเนินการใดๆ ถ้าเราไม่เอาความจริงมาพูดอาจเกิดความสับสนได้ ฉะนั้นการสนับสนุนของไทยมีมาตั้งแต่ยุคของพลเอกสุรยุทธ์ อยู่แล้ว และส่งที่ผมกังวลใจก็คือ เอกสารที่ไปตกลงกันก่อนที่ผมจะเป็น รมว.ต่างประเทศ คณะกรรมการมรดกโลกทั้ง 21ประเทศ ก็เห็นว่าเราได้ตกลงกันแล้วในเรื่องคุณค่าศิลปวัฒนธรรรม จะเหลือก็แต่เรื่องการบริหารจัดการ ตรงนี้ผมเกรงว่ากัมพูชาจะใช้ประโยชน์กับข้อตกลงที่ทำเอาไว้ ในการประชุมที่นิวซีแลนด์ ตรงนี้คือสิ่งที่ผมกังวล และได้ชี้แจงให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทราบ และการที่ผมไปควิเบก แคนนาดา คราวนี้ มีวัตถุประสงค์ 3 เรื่อง คือ หนึ่งไปขอเลื่อนการพิจารณา สองไปขอร่วมประชุม และสามคือคัดค้านไม่ให้ขึ้นทะเบียน หรือไม่สามารถการให้สนับสนุนได้ ซึ่งผมมองว่าโอกาสที่จะขอเลื่อนก็คงจะไม่ได้ทั้ง 100%แต่จะทำดีที่สุด" นายนพดลกล่าว

ต่อข้อซักถามว่า เอกสารของรัฐบาลที่แล้ว กับเอกสารที่รัฐมนตรีเซ็นไปนั้น มีค่าเท่ากันหรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า เอกสารทั้งสองอย่างเป็นคนละแบบ อย่างแรกเป็นเอกสารในที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ส่วนเอกสารที่ตนเซ็นเป็นอีกแบบหนึ่ง แต่ตนไม่สามารถอ้างถึง หรือพูดถึงเอกสารชุดใหม่ได้ เพราะต้องปฎิบัติตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ทว่าทั้งสองเอกสารต่างก็มีเจตนารมย์คล้ายกัน สิ่งสำคัญตนต้องการให้สังคมรับรู้ว่า การสนับสนุนของไทยมีตั้งแต่สมัยรัฐบาลชุดก่อน

"กาลิเลโอ เคยบอกว่าโลกกลม และด้วยสาเหตุที่บอกว่าโลกกลม เขาจึงถูกประหารชีวิต ต่อมาโลกก็กลมดังที่เขาพูดแล้ว วันนี้ชีวิตกาลิเลโออยู่ไหน เอาคืนได้หรือไม่ ผู้ยิ่งใหญ่หลายคนในเมืองไทยเป็นอย่างไรบ้าง อาจารย์ป๋วย อึ้งภากรณ์ ไม่ใช่ผมเปรียบกับท่าน เพราะผมเป็นแค่ธุลีดิน ผมไม่อยากจะพูดอะไร เพราะขณะนี้กระแสชาตินิยมถูกปลุกขึ้นมาจนเกินเหตุ ผมอยู่หรือไปไม่ใช่ประเด็น สักวันสังคมจะรู้ว่าเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ รวมทั้งกองทัพไทย ได้ทำประโยชน์ให้ชาติ แต่สิ่งที่พวกเราได้คือ ถูกตะโกนด่าว่าขายชาติ" รมว.ต่างประเทศระบุ

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเตรียมความพร้อมของสถานฑูตเป็นอย่างไรบ้าง หากการขึ้นทะเบียนพระวิหารไม่ประสบความสำเร็จ นายนพดล กล่าวว่า ทางสถานฑูตได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทางรัฐบาลกัมพูชา ที่ส่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคุ้มกันเพิ่มมากขึ้น ตนไม่ต้องการให้คนไทย และทรัพย์สินของไทยในกัมพูชา ต้องเสียหายไม่ว่าจะเป็นทางหนึ่งทางใด ทว่าถึงอย่างไรตนต้องการที่จะเรียนให้ทุกท่านทราบว่า การทำงานของกระทรวงการต่างประเทศ ในการที่จะรักษาความสัมพันธ์ยากมากขึ้นกว่าเดิม เพราะกระแสปลุกเร้าชาตินิยมที่เกินสมควร ซึ่งตนจะพยายามรักษาความสัมพันธ์ที่ดีต่อไป เพราะไทยและกัมพูชา ยังมีผลประโยชน์ร่วมกันอีกมาก

โยนความผิดให้ ทีมทนายสมัย 2505 ก็แล้ว
โยนให้ กรมแผนที่ทหาร สมช. ฝ่ายค้าน ยูเนสโก จนล่าสุด ให้ รัฐบาลขิงแก่ ไปอีกราย
คงยังเหลือ แต่ ไอ้ปื๊ด กระมัง ที่ยังไม่ได้โยนความผิดไปให้
(แต่ไม่รู้ว่า เป็ดเหลิมจะยอมหรือเปล่า เพราะไอ้ปื๊ดเป็นลิขสิทธิ์ผูกขาดของ
เป็ดเหลิมแต่เพียงผู้เดียว)

อาการดิ้นพล่าน เพ้อเจ้อ แถกเหงือก
ยังกล่าวลามปาม ยกชื่อ อ.ป๋วย อึ้งภากรณ์ ขึ้นมาอ้าง

ติงเหล่ จะยกตนเสมอ อ.ป๋วย เชียวรึ
เอาแค่ เสมอ-เท่าเทียมกัน กับ ลูก อ.ป๋วย ไปก่อนแล้วกัน
สูสี ไปกันได้

แถมยังเพ้อเจ้อ อ้างชื่อ กาลิเลโอ มาเทียบเคียงกับตัวเองซะอีก
เอากะมันสิ

อย่าไปสนใจ เอามาเป็นสาระเลยว่า
ที่มันพูดมั่วซั่วว่า กาลิเลโอ จุดจบถูกประหารชีวิต ทั้งที่กาลิเลโอ ไม่ได้ถูกประหารชีวิตสักกะหน่อย
เป็นการแสดงความโง่เง่าออกมาขนาดไหน
เพราะมันก็พูดโกหกตอ-แหล เพ้อเจ้อบ้าบอ แถไปเรื่อย อยู่ทุกวี่วัน
เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว

แต่จงสนใจว่า
จุดจบของ กาลีเหล่โอ คนนี้
มีความเป็นไปได้ว่า
จะได้รับโทษประหารชีวิต สมพรปาก(พล่อย)
ในฐานขายชาติ ขายแผ่นดิน เพื่อชิน นะ วัด
หรือเปล่า


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-07-2008, 04:44 โดย cameronDZ (อวตารเป็นครั้งคราว) »	บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...

northstar

ขาประจำขั้น 2

ออฟไลน์

กระทู้: 635