-สมุดปกขาวบัวแก้ว เรื่องปราสาทพระวิหาร (ฉบับไม่ได้ออก)
http://annlaser.googlepages.com/doc300608.pdfหน้า ข (หน้า 4 ตามไฟล์)
ปราสาท พระ วิหาร เป็น มรดก ทาง ศิลปะ และ วัฒนธรรม ที่ ตกทอด มาสู่ มวล มนุษยชาติ
รัฐบาล ไทย ได้ พยายาม เสมอ ที่จะ ให้ สถานที่ แห่งนี้ เป็น สัญลักษณ์ แห่ง มิตรภาพ และ
ความ รว่ มมือ ที่ แนน่ แฟน้ และ ยั่งยืน ระหวา่ ง ไทย กับ กัมพูชา โดย ใน การ ประชุม คณะ รัฐมนตรี
รว่ ม ไทย – กัมพูชา เมื่อ เดือนมิถุนายน 2546 ที่เ มือง เสียมราฐ และ จังหวัด อุบลราชธานี ที่ประชุม
ได้ มี มติ ร่วมกัน เป็น ครั้งแรก ให้ มี ความ ร่วมมือ พัฒนา เขา พระ วิหาร และบูร ณ ปฏิสังขรณ์
ปราสาท พระ วิหาร เพื่อ เป็น สัญลักษณ์ แห่ง มิตรภาพ และ ความ สัมพันธ์ ที่ แน่นแฟ้น และ
ยั่งยืน ระหว่าง สอง ประเทศ และ เพื่อ ผลประโยชน์ ร่วมกัน ของ ประชาชน ไทย กับ กัมพูชา
ใน ทุกๆ ด้าน ซึ่ง คณะกรรมการ ร่วม เพื่อ พัฒนา เขา พระ วิหาร ได้ ประชุม ร่วมกัน เมื่อ วันที่
25 มีนาคม 2547 ที่ กรุงเทพฯ และ ตกลง หลักการ ขั้น พื้นฐาน เพื่อ พัฒนา เขา พระ วิหาร และ
บูร ณ ปฏิสังขรณ์ ปราสาท พระ วิหาร ร่วมกัน โดย กัมพูชา ได้ ขอให้ ความ ร่วมมือ ใน เรื่อง นี้ เริ่ม
ดำเนินการ หลังจากที่ ได ข้ ึ้น ทะเบียน ปราสาท พระ วิหาร เปน็ มรดก โลก ซึ่ง ฝา่ ย ไทย ได ร้ ับทราบ
และ ขอให้ มี การ ร่วมมือ และ ปรึกษาหารือ ร่วมกัน ใน ทุก เรื่อง ที่ เกี่ยวข้อง อย่าง ใกล้ ชิด
-----------------------
หน้า ค (หน้า 5)
ในที่สุด จาก การ รณรงค์ ชี้แจง ข้อ กังวล ของ ฝ่าย ไทย และ โดย คำนึงถึง ปัญหา เทคนิค
อื่น ที่ประชุม คณะกรรมการ มรดก โลก สมัย ที่ 31 ที่ เมือง ไค รส ต์เชิร์ช ประเทศ นิวซีแลนด์
ได้ มี มติ เมื่อ วันที่ 28 มิถุนายน 2550 ให้ เลื่อน การ พิจารณา การ ขึ้น ทะเบียน ของ กัมพูชา
ออกไป และ ให้ ไทย และ กัมพูชา ร่วมมือกัน อย่าง ใกล้ ชิด ทั้ง ใน การ ให้ความสนใจ อย่าง
รีบด่วน ใน การบูร ณ ะปฏิสังขรณ์ ปราสาท และ ก าร จัดทำ แผน บริหาร จัดการ เพื่อ การ ปกปอ้ ง
คุม้ ครอง ปราสาท โดย จะ มี การ พิจารณา เรื่อง นี้ อีกครั้ง ใน การ ประชุม คณะกรรมการ มรดก โลก
สมัย ที่ 32 ที่ เมือง ควิเบก ประเทศ แคนาดา ใน ป 2551 ซึ่ง ใน โอกาส แรก หลัง การ ประชุม สมัย
ที่ 31 ฝา่ ย ไทยไ ด เ้ ปน็ ฝา่ ย ริเริ่ม หารือ กับ กัมพูชา โดย ได เ้ สนอ ใหก้ าร ฝกึ อบรม ฝา่ ย กัมพูชา ใน
การ บูรณ ปฏิสังขรณ์ โบราณสถาน และ ให้ คำ แนะนำ ใน ทางวิชาการ อื่นๆ และ มี การ หารือ
หลายครั้ง ใน ระดับสูง
------------------------
หน้า 9-10 (21-22)
การ ประชุม คณะกรรมการ มรดก โลก สมัย ที่ 31
ใน การ ประชุม คณะกรรมการ มรดก โลก
สมัย ที่ 31 ที่ เมือง ไค รส ต์เชิร์ช นิวซีแลนด์
เมื่อ เดือนมิถุนายน 2550 ฝ่าย ไทย ได้ รณรงค์ ทาง
การเมือง และ การ ทูต โดย มี วัตถุ ประสงค์ ที่จะ ให้
ผู้ เกี่ยวข้อง ได้ เข้าใจ ว่า
ไทย ไม่ได้ คัดค้าน การ ที่ กัมพูชา จะ ยื่น ขอ จด ทะเบียน ปราสาท พระ วิหาร
เป็น มรดก โลก แต่ ไทย มี ข้อ ห่วง กังวล ว่า หาก ไทย และ กัมพูชา ยัง ไม่ได้ ตกลง กัน ใน เรื่อง หลักการ
เกี่ยวกับ วิธี บริหาร จัดการ ใน เขต พื้นที่ ที่ ต่าง ฝ่าย ต่าง อ้าง สิทธิ ทับ ซ้อนกัน เสีย ก่อน อย่าง เป็น
กิจจะ ลักษณะ แม้ ปราสาท พระ วิหาร จะ ได้ ขึ้น ทะเบียน เป็น มรดก โลก แต่ การ ดูแล และ พัฒนา
ปราสาท ต่อไป ให้ เป็น ผลได้ จริง ในทาง ปฏิบัติ ก็ จะ ไม่ สามารถ กระทำ ได้ อย่าง จริงจัง และ ปราศจาก
ปัญหา อยู่ ดี
ในที่สุด จาก การ รณรงค์ และ ชี้แจง ของ
ไทย ให้ ประเทศ สมาชิก คณะกรรมการ มรดก
โลก ตระหนักถึง ปัญหา ที่จะ กระทบ ต่อ การ อ้าง
สิทธิ ทาง ดินแดน ของ ไทย รวมทั้ง ปัญหา เทคนิค
อื่น ที่ประชุม คณะกรรมการ มรดก โลก สมัย ที่ 31
ได้ มี มติ เมื่อ วันที่ 28 มิถุนายน 2550 ให้ เลื่อน
การ พิจารณา การ ขึ้น ทะเบียน ของ กัมพูชา
ออกไป และ ให้ ไทย และ กัมพูชา ร่วมมือกัน
อย่าง ใกล้ ชิด ทั้ง ใน การ ให้ความสนใจ อย่าง รีบด่วน ใน การบูร ณ ปฏิสังขรณ์ ปราสาท และ การ
จัดทำ แผน บริหาร จัดการ เพื่อ การ ปกป้อง คุ้มครอง ปราสาท โดย จะ มี การ พิจารณา เรื่อง นี้ อีกครั้ง
ในการประชุม คณะกรรมการ มรดก โลก สมัย ที่ 32 ที่ เมือง ควิเบก แคนาดา ใน เดือน กรกฎาคม
ปี 2551
-----------------------
หน้า 11 (23)
สถานที่ เกี่ยวข้อง กับ ปราสาท ที่อยู่ ใน พื้นที่ ฝั่ง ไทย เช่น สระต ราว สถูป คู่ แหล่ง ตัด หิน ไป ขึ้น
ทะเบียน เป็น มรดก โลก เช่น ใน ระหว่าง การ หารือ กับ ฝ่าย กัมพูชา โดย นายเตช บุนนาค อดีต ปลัด
กระทรวง การ ต่างประเทศ และ ประธาน คณะกรรมการ สมาคม วัฒนธรรม ไทย – กัมพูชา
เมื่อ ปี 2549 และ
ใน การ หารือ ระหว่าง ดร. มนัส พาสน์ ชู โต ที่ปรึกษา รัฐมนตรี ว่าการ กระทรวง
การ ต่างประเทศ และ ประธาน คณะทำงาน พิเศษ ว่าด้วย การ ขึ้น ทะเบียน ปราสาทพระ วิหาร
เป็น มรดก โลก กับ ฝ่าย กัมพูชา เมื่อ ปี 2550 แต่ ฝ่าย กัมพูชา ไม่รับ ข้อเสนอ ดังกล่าว ของ
ไทย เนื่องจาก เห็นว่า ปราสาท พระ วิหาร ตั้งอยู่ ใน ดินแดน ภายใต้ อธิปไตย ของ กัมพูชา อย่าง
ชัดเจน ดังนั้น การ ที่ กัมพูชา จะ นำ ปราสาท พระ วิหาร ไป ขอ ขึ้น ทะเบียน มรดก โลก จึง เป็น สิ่ง ที่
กัมพูชา สามารถ กระทำ ได้ เอง ฝ่ายเดียว โดย หาก ฝ่าย ไทย ประสงค์ จะ นำ โบราณ สถานที่ ตั้งอยู่
ใน เขตแดน ไทย ไป ดำเนินการ ขอ ขึ้น ทะเบียน บ้าง ก็ สามารถ กระทำ ได้ เอง เช่นกัน
-----------------------
เอกสารของบัวแก้วเอง ค้านกับที่นพดลสัมภาษณ์ แบบนี้เรียกว่า โยนขี้ไม่พ้น หล่นใส่หน้าตัวเอง
ตัวหนังสือ ก๊อบมาจากไฟล์ pdf อ่านยากนิดนึง ขี้เกียจจัดหน้าใหม่ ถ้าอ่านไม่สะดวกเปิดไฟล์ในลิ้งแระกันนะคะ