ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
27-04-2024, 08:23
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ตัดข่าวมาแปะ : แถลงการณ์ ๒๒ พฤษภา หน้ากากนพดล 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ตัดข่าวมาแปะ : แถลงการณ์ ๒๒ พฤษภา หน้ากากนพดล  (อ่าน 1372 ครั้ง)
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« เมื่อ: 04-07-2008, 10:52 »

บทความของลุงเปลวครับ
อ้างถึง
ฮืมมมมม..ใจเย็นๆ กันไว้นะครับ ผมอยากให้ข้อสังเกตไว้ว่า "ประเทศไทย" ตอนนี้ ทุกอย่างตกอยู่ภายใต้อำนาจ กฎหมาย กฎ-กติกา สัญญา และศาล ไม่ต้องดูอื่นไกลหรอก

    ขนาดเรื่อง "แถลงการณ์ร่วมฯ" ที่ไทยเราไปลงนามให้กัมพูชาใช้ไปขอจดทะเทียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่ ฝ่ายเดียว นั่นคือ "เงื่อนไขกฎหมาย" ที่รัฐบาลไทยทำซ่อนเงื่อน "ฆ่าไทย" เราเอง!
    เรื่องนี้ "น้ำตื้น" จริงๆ  หากแต่รัฐบาลนอมินีทักษิณ โดยนายสมัคร นายนพดล "เป็นคนน้ำลึก คือลึกล้ำเหนือกำหนด" ในจิตเจตนา เห็นหน้า-เห็นตา เฉพาะนายนพดล ก็พอเดา "ความคด-ความตรง" ได้มิใช่หรือ?
    การประชุมมรดกโลกที่ควิเบก   แคนาดา ๒-๑๐ กรกฎานี้ อย่าตายใจกันนะครับว่าที่  คณะกรรมการจาก  ๒๑ ประเทศเขาจะรู้-เขาจะเข้าใจอย่างที่เราเข้าใจว่า
    ไทยไม่ได้ยอมให้กัมพูชายื่นจดทะเบียนฝ่ายเดียว
    ทั้งศาลปกครองสูงสุด ทั้งรัฐบาลไทย  สั่งยกเลิกการลงนามในแถลงการณ์ร่วม ๑๘ มิ.ย.๕๑ ไปแล้ว!
    ควรเข้าใจ ด้วยการ "ทำใจ" ไว้ล่วงหน้าว่า นายนพดลไปเซ็นให้เขาไว้ล่วงหน้าที่ฝรั่งเศส เมื่อ ๒๒ พ.ค.ฉบับหนึ่งก่อนแล้ว และ ๑๘ มิ.ย.เป็นแค่ ครม.อนุมัติย้อนหลังอีกฉบับเท่านั้น
    แต่เท่ากับสลักหลังเช็ค "รับรอง-ผูกมัด" ให้แน่นหนายิ่งขึ้น!
    และทั้งหมดนั้น  กัมพูชานำแนบคำร้องขอว่าได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่คณะ กรรมการสั่งให้มาแก้ไขเมื่อปีที่แล้วครบถ้วนแล้ว  และเอกสารเหล่านั้น
    อยู่ในแฟ้มเพื่อการพิจารณาของ  ๒๑  คณะกรรมการไปเรียบร้อยแล้ว  การโวยวาย  และการกระทำการใดๆ ของไทยหลังจากนั้น เป็นเรื่องเฉพาะภายในของไทย
    คณะกรรมการเขาไม่รู้เรื่องด้วย!
    ต้องเข้าใจให้ถูกต้องนะครับ คณะกรรมการ ๒๑ ประเทศที่จะประชุมชี้ขาดกันนั้น "ไม่มีประเทศไทย"
    และในการประชุม  ประเทศไทยก็จะไปพูดจา ชี้แจงอะไรในวงประชุมไม่ได้ เพราะคณะของไทยที่มีนายปองพล อดิเรกสาร ประธานคณะกรรมการมรดกโลกของไทยที่เดินทางไปนั้น
    ไปในฐานะ "ผู้สังเกตการณ์" ครับ ไม่ใช่ในฐานะคณะกรรมการที่จะไปประชุม ถกเถียง ชี้แจง โหวตเสียงอะไรกับเขาได้
    ยิ่งนายนพดลบอกว่า "จะไปด้วย" ก็เลยไม่แน่ว่า ระหว่างนายนพดล กับนายปองพล "ใครจะเป็นหัวหน้าคณะฝ่ายไทย?" ซึ่งด้วยตำแหน่ง "รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ" นายนพดลน่าจะเป็นเบอร์ ๑
    แล้ววางใจได้หรือว่า คนที่มีพฤติกรรม "ใจอยู่กับเขมร" จะจริงใจไปพูดจาหักล้างในสิ่งที่ตัวเองทำไปทั้งต่อหน้าและลับหลัง
    อย่างเก่ง ก็คงมาเหลือกตาบอกว่า "สายเสียแล้ว..ประเทศไทย"!
    ผมอ่านเว็บไซต์ "กรุงเทพธุรกิจ" วานนี้ เขานำที่ "ศ.ดร.อดุล วิเชียรเจริญ" พูดไว้มาเผยแพร่ ในฐานะที่ท่านเป็นประธานมรดกโลกไทยมาก่อน ความเห็นท่านน่าใคร่ครวญอย่างยิ่ง ผมจะลอกมาให้อ่านกันบางตอนนะครับ
    "ผมย้ำจุดยืนว่า ประเทศไทยควรขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก อย่างไรก็ตาม เชื่อว่านายปองพลจะไม่สามารถคัดค้านในที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกได้ เพราะได้ข่าวว่านายนพดลไปด้วย ที่สำคัญคือ นายนพดลอาจจะไปในฐานะหัวหน้าคณะเสียด้วยซ้ำ
    นอกจากนี้ ไทยไม่ใช่ประเทศสมาชิก  ๑  ใน ๒๑ ประเทศ เป็นเพียงประเทศภาคีเท่านั้น  โดยธรรมเนียมปฏิบัติ ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ผู้ที่มีสิทธิ์ออกเสียง หรือให้ความเห็นประกอบการพิจารณาก็คือ ประเทศสมาชิก ๒๑ ประเทศ
    ส่วนประเทศอื่นๆ จะอยู่ในฐานะสังเกตการณ์เท่านั้น ซึ่งถ้าเขาเปิดโอกาส ไทยก็อาจมีโอกาสแสดงความคิดเห็น แต่นั่นคือภายหลังการหารือพิจารณาของประเทศสมาชิก หรือบางกรณี คืออาจจะเป็นหลังการลงมติด้วย
    วาระสำคัญ ๒ ประการจากการประชุมที่นิวซีแลนด์ ที่เกี่ยวเนื่องมาจนถึงการประชุมในครั้งนี้ก็คือ ประการแรก คือการเห็นควรว่าปราสาทพระวิหารมีคุณสมบัติตรงตามที่คณะกรรมการมรดกโลกระบุ สามารถขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกได้
    อีกประการหนึ่ง คือแม้ในหลักการจะสามารถขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทได้ ก็จำเป็นจะต้องใช้พื้นที่ในการสร้างพื้นที่อนุรักษ์ในการวางแผนพัฒนา ดังนั้น คณะกรรมการมรดกโลกจึงให้ไทยและกัมพูชากลับมาตกลงกันก่อน และเมื่อนายนพดลไปลงนามสนับสนุนเช่นนั้น  ก็แปลว่าการประชุมที่แคนาดาครั้งนี้ 'เป็นการตอบโจทย์' เพื่อปิดประเด็นจากการประชุมคราวที่แล้ว"
    ครับ..เหล่านี้เป็นข้อห่วงกังวลที่ "ผู้รู้-ผู้หลักผู้ใหญ่" ติติงให้เรารู้ไว้ล่วงหน้าจากประสบการณ์จริง อันนับว่าเป็นความห่วงกังวลที่มีความเป็นไปได้สูง!
    ยิ่งนับวัน ก็ยิ่งเห็นว่า "อันตราย" ที่จะให้นายนพดลเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศอยู่ต่อไป เพราะวางใจอะไรไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าจะใช้ตำแหน่ง-ฐานะไปทำอะไรผูกพันในนามประเทศไว้ ที่ไหน เมื่อไหร่บ้าง
    เพราะนายนพดลปกปิด  ซ่อนเร้นทุกอย่าง เช่นในกรณีลงนามแถลงการณ์ร่วมนี้ จริงๆ แล้ว  ทั้งในสภาฯ-นอกสภาฯ   ไม่มีใครรู้แน่ว่านายนพดลไปเซ็นอะไรไว้กับกัมพูชาบ้าง?
    จนกว่าจะจับได้อย่างหนึ่ง นายนพดลก็จะคายตรงนั้นออกมาทีหนึ่ง!?
    อย่างโวยวายกันเรื่องมติ ครม. ๑๗  มิ.ย. ที่ให้นายนพดลไปลงนามแถลงการณ์ร่วมกับกัมพูชา นายนพดลก็เอาตรงนี้แพลมมาซะทีหนึ่ง ของจริง-ของปลอม ตรงกับที่ไปเซ็น และทำไปเป็นเอกสารแนบท้ายหรือเปล่า ก็ไม่มีใครตอบได้
    พอนายเชลดอน แชฟเฟอร์  ผู้อำนวยการยูเนสโก ประจำกรุงเทพฯ อ้างอิงเอกสารผิดฉบับในหนังสือตอบวุฒิสมาชิกและคณะ ที่ยื่นคำร้องคัดค้านให้ชะลอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร
    คือจากเอกสารที่ทราบกันทั่วไปว่าแถลงการณ์ร่วม  เป็นวันที่ ๑๘ มิ.ย. แต่นายแชฟเฟอร์กลับไปเอ่ยถึงการลงนามในเอกสารฉบับวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๑
    นายนพดลก็ "ท้วง" นายแชฟเฟอร์ทันทีว่า แถลงการณ์ร่วมฯ ที่ ครม.ยกเลิกไปนั้น ลงนามวันที่ ๑๘ มิ.ย. ไม่ใช่ ๒๒ พ.ค.อย่างที่นายแชฟเฟอร์อ้างอิงในหนังสือตอบกลับ ส.ว.และคณะ!?
    ตรงนี้กลายเป็นการ "เผยไต๋" ที่ตัวเองอุบซ่อนไว้โดยไม่ตั้งใจ  จากที่ชาวบ้านไม่ทราบมาก่อน ก็เลยทราบกันตอนนี้เองว่า
    "อ้อ..ที่ไปที่ฝรั่งเศสคราวนั้น แอบไปเซ็น 'แถลงการณ์ร่วม ๓ ฝ่าย' ยูเนสโก-ไทย-กัมพูชา ไว้ฉบับหนึ่งเมื่อ ๒๒ พฤษภา แล้วหรือ..นี่!?"
    แล้วยังมีอะไรอีกมากน้อยขนาดไหน ที่นายนพดล "อุบไต๋" ไม่ยอมบอกประชาชนคนไทย คิดแล้วน่ากลัวนะครับ!
    อย่าไปฟังที่นายนพดลอ้างว่า  แถลงการณ์ ๒๒ พฤษภา ไม่มีความหมายอะไร ถ้าไม่มีความหมาย  ความสำคัญอะไร แล้วจะต้องไปเซ็นหาวิมานอะไร ยิ่งฟังที่นายแชฟเฟอร์พูดให้มองเห็นถึง "น้ำหนัก-ความสำคัญ" ของแถลงการณ์ ๒๒ พฤษภา ก็ยิ่งน่าตกใจ
    "เป็นอำนาจการตัดสินใจของรัฐบาลไทย จะจัดการกับเอกสารที่แตกต่างนี้อย่างไรว่า  จะใช้เอกสารฉบับแรก  หรือเอกสารฉบับที่ได้รับความเห็นชอบจาก ครม.แล้ว ผมเชื่อว่าคณะกรรมการมรดกโลกจะตัดสินใจขึ้นปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกภายใต้ หลักฐานที่ปฏิบัติได้ เพื่อพิจารณาเรื่องนี้"
    ครับ..นี่มันก็ชัดแจ้งแดงแจ๋จากที่ยูเนสโกเขาบอกแล้วว่า "แถลงการณ์ร่วม ๒๒ พฤษภา" กับ "แถลงการณ์ ๑๘ มิถุนา" มันมีค่าเท่ากัน!
    แต่เราให้น้ำหนัก โวยวายกันแต่ "แถลงการณ์ร่วม" ไทย-กัมพูชา แต่หารู้ไม่ว่ายังมีอีกฉบับที่มีความหมายเหนือกว่า  คือ "แถลงการณ์ร่วม  ๓ ฝ่าย" คือไม่เฉพาะกับไทย-กัมพูชาเท่านั้น
    ยังมี "ยูเนสโก" ผู้มีความสำคัญเป็นน้ำหนักสูงสุดของปัญหานี้  เป็นผู้ลงนามร่วมรับรู้ ในการตกลงยินยอมจากฝ่ายไทยให้กัมพูชาจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมดกโลกแต่ ฝ่ายเดียวอยู่ด้วย!!
    ทั้งซีด   ทั้งซวยละตานี้ ศาลปกครองกลางท่านก็คุ้มครอง "ห้ามใช้" แถลงการณ์ร่วม ๑๘ มิ.ย.ฉบับเดียว ครม.ก็ยกเลิกแค่ฉบับ ๑๘ มิ.ย.ฉบับเดียว
    แต่ "แถลงการณ์ร่วม" อีกฉบับ  ที่นายนพดลแอบไปเซ็น  ๓ ฝ่ายที่ฝรั่งเศสเมื่อ ๒๒ พฤษภา ไม่มีใครนึกถึงเลย!!
    ทั้งที่มีความหมาย  มีผล-มีน้ำหนัก  มีศักดิ์ และสิทธิ์ ในการรับรู้ของยูเนสโก และคณะกรรมการมรดกโลก  ๒๑ ประเทศ อาจจะเหนือกว่า "แถลงการณ์ร่วม" ฉบับ ๑๘ มิ.ย.
    ซึ่งมาทีหลัง และเขาอาจไม่รับรู้ก็ได้!?
    ครับ..ก็คอยดูกัน ประมาณวันที่  ๖-๗  กรกฎานี้ ก็จะรู้ว่าไทยแพ้เขมรซ้ำสอง  หรือว่าดึงสิทธิ์เหนือปราสาทพระวิหารกลับมาได้  ยกนี้-สิ่งที่ทำได้คือ เชื่อใจตามที่นายนพดลพูด  แต่ถ้าเขมรใช้เอกสารที่นายนพดลเซ็นไปสามารถตีทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดก โลกได้ สงสัย..จะต้องตายคาสุวรรณภูมิ

ที่ีมา http://www.thaipost.net/index.asp?bk=thaipost&iDate=4/Jul/2551&news_id=160569&cat_id=200

----------------------------------------------------

จะจัดการกับไอ้นพดลอย่างไรดี พี่น้อง!!!!!
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 04-07-2008, 11:19 »

ประหารสถานเดียว จึงจะเหมาะสม

เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่นักการเมืองรุ่นหลังที่เห็นแก่ตัว

คิดขายชาติขายอธิปไตยของชาติ
บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


mebeam
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 634


Fear can hold you prisoner. Hope can set you Free.


« ตอบ #2 เมื่อ: 04-07-2008, 11:36 »

พอนายเชลดอน แชฟเฟอร์  ผู้อำนวยการยูเนสโก ประจำกรุงเทพฯ อ้างอิงเอกสารผิดฉบับในหนังสือตอบวุฒิสมาชิกและคณะ ที่ยื่นคำร้องคัดค้านให้ชะลอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร
    คือจากเอกสารที่ทราบกันทั่วไปว่าแถลงการณ์ร่วม  เป็นวันที่ ๑๘ มิ.ย. แต่นายแชฟเฟอร์กลับไปเอ่ยถึงการลงนามในเอกสารฉบับวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๑
    นายนพดลก็ "ท้วง" นายแชฟเฟอร์ทันทีว่า แถลงการณ์ร่วมฯ ที่ ครม.ยกเลิกไปนั้น ลงนามวันที่ ๑๘ มิ.ย. ไม่ใช่ ๒๒ พ.ค.อย่างที่นายแชฟเฟอร์อ้างอิงในหนังสือตอบกลับ ส.ว.และคณะ!?
    ตรงนี้กลายเป็นการ "เผยไต๋" ที่ตัวเองอุบซ่อนไว้โดยไม่ตั้งใจ  จากที่ชาวบ้านไม่ทราบมาก่อน ก็เลยทราบกันตอนนี้เองว่า
    "อ้อ..ที่ไปที่ฝรั่งเศสคราวนั้น แอบไปเซ็น 'แถลงการณ์ร่วม ๓ ฝ่าย' ยูเนสโก-ไทย-กัมพูชา ไว้ฉบับหนึ่งเมื่อ ๒๒ พฤษภา แล้วหรือ..นี่!?"



   ท่อน นี้ คุณเปลวเขียนไปโดยไม่รู้จริง   หรือรู้ แต่แกล้งใส่ร้าย   
บันทึกการเข้า
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 04-07-2008, 11:39 »

พอนายเชลดอน แชฟเฟอร์  ผู้อำนวยการยูเนสโก ประจำกรุงเทพฯ อ้างอิงเอกสารผิดฉบับในหนังสือตอบวุฒิสมาชิกและคณะ ที่ยื่นคำร้องคัดค้านให้ชะลอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร
    คือจากเอกสารที่ทราบกันทั่วไปว่าแถลงการณ์ร่วม  เป็นวันที่ ๑๘ มิ.ย. แต่นายแชฟเฟอร์กลับไปเอ่ยถึงการลงนามในเอกสารฉบับวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๑
    นายนพดลก็ "ท้วง" นายแชฟเฟอร์ทันทีว่า แถลงการณ์ร่วมฯ ที่ ครม.ยกเลิกไปนั้น ลงนามวันที่ ๑๘ มิ.ย. ไม่ใช่ ๒๒ พ.ค.อย่างที่นายแชฟเฟอร์อ้างอิงในหนังสือตอบกลับ ส.ว.และคณะ!?
    ตรงนี้กลายเป็นการ "เผยไต๋" ที่ตัวเองอุบซ่อนไว้โดยไม่ตั้งใจ  จากที่ชาวบ้านไม่ทราบมาก่อน ก็เลยทราบกันตอนนี้เองว่า
    "อ้อ..ที่ไปที่ฝรั่งเศสคราวนั้น แอบไปเซ็น 'แถลงการณ์ร่วม ๓ ฝ่าย' ยูเนสโก-ไทย-กัมพูชา ไว้ฉบับหนึ่งเมื่อ ๒๒ พฤษภา แล้วหรือ..นี่!?"



   ท่อน นี้ คุณเปลวเขียนไปโดยไม่รู้จริง   หรือรู้ แต่แกล้งใส่ร้าย  

ช่วอธิบายเพิ่มเติมด้วย 
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
mebeam
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 634


Fear can hold you prisoner. Hope can set you Free.


« ตอบ #4 เมื่อ: 04-07-2008, 12:12 »

ช่วอธิบายเพิ่มเติมด้วย 


การที่จะนำเรื่อง เข้าคณะครมเพื่ออนุมัติ       ก็ต้องมีการคุยหารือเรื่อง ในรายละเอียดเบื้องต้นก่อน
ว่า 1 อะไร 2 อะไร 3 อะไร 4 อะไร   แล้วก็เอาเอกสาร ที่ได้ข้อสรุปเหล่านี้ไปเสนอ ที่ประชุมครม.
เพื่อดูและอนุมัติ มีข้อข้องใจอะไร ในข้อสรุปที่ไม่เห็นด้วยหรือจะต้องแก้ไขหรือไม่ ถ้าไม่มีก็อนุมัติ

     คุณนพดลก็ชี้แจงอย่างชัดเจน ว่า การประชุมวันที่ 22 พค.นั้น เป็นการประชุมเบื้องต้นหาข้อสรุปไปเสนอครม.
แล้ว แกก็เซ็นต์เป็นหลักฐานในข้อสรุป ไว้เพื่อไม่ให้มีการเพิ่มเปลี่ยนแปลง ถ้อยคำในข้อสรุปนั้น ระหว่างนำเสนอ
ครม.  ลายเซ็นต์ก็ไม่ใช่ตัวเต็ม แก เซ็น NP ( นพดล ปัทมะ ) กำกับไว้เท่านั้นเอง

แล้วประธานยูเนสโกประจำประเทศไทย ก็ยอมรับผิดแล้ว ที่ดันไปอ้างวันที่เขาหารือในข้อสรุปกัน แทนที่จะอ้างวันลงนามจริงหลังผ่าน ครม.

ลองอ่าน 4 ข้อที่อย่อในเอกสารวันที่ 22 พค. โดยเฉพาะข้อ 4 



   
บันทึกการเข้า
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #5 เมื่อ: 04-07-2008, 12:54 »

 
แผนที่มั่ง แผนผังมั่ง
ข้อสรุปมั่ง แถลงการณ์มั่ง สัญญามั่ง


รอดูทางแคนาดาละกัน Rolling Eyes
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
คนไทยคนหนึ่ง
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 744


« ตอบ #6 เมื่อ: 04-07-2008, 14:05 »

วันนี้ เหล่ หาเรื่องโยนความผิด โทษขิงแก่อีกแล้ว

ขิงแก่แค่บอกว่าเห็นด้วยที่จะขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก

ไม่เคยบอกว่าให้เขมรขื้นทะเบียนคนเดียวเสียเมื่อไร

ไทยเรายืนยันที่จะจดทะเบียนร่วมมาตลอด

อธิบดีกรมสนธิสัญญาคนเก่าก็ยืนยันจุดยืนนี้ไม่ยอมเหล่

เหล่เลยเด้งให้ไปนอนตบยุงเลย แล้ววันนี้มาเฉไฉอีกแล้ว

ด้านจริงๆ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-07-2008, 14:58 โดย คนไทยคนหนึ่ง » บันทึกการเข้า
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 04-07-2008, 16:41 »

วันนี้ เหล่ หาเรื่องโยนความผิด โทษขิงแก่อีกแล้ว

ขิงแก่แค่บอกว่าเห็นด้วยที่จะขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก

ไม่เคยบอกว่าให้เขมรขื้นทะเบียนคนเดียวเสียเมื่อไร

ไทยเรายืนยันที่จะจดทะเบียนร่วมมาตลอด

อธิบดีกรมสนธิสัญญาคนเก่าก็ยืนยันจุดยืนนี้ไม่ยอมเหล่

เหล่เลยเด้งให้ไปนอนตบยุงเลย แล้ววันนี้มาเฉไฉอีกแล้ว

ด้านจริงๆ



ไม่ด้าน ไม่ทน เป็นขี้ข้าไ่มได้เด้อออ 
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
หน้า: [1]
    กระโดดไป: