ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
29-03-2024, 15:27
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  //การเมือง"แนวใหม่"ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน// 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
//การเมือง"แนวใหม่"ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน//  (อ่าน 3743 ครั้ง)
Scorpio6
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,210


Man on Mission *เสี่ยวฯ>สันติภาพ*


« เมื่อ: 02-07-2008, 22:20 »

จาก กระทู้ ระบอบการปกครองแนวใหม่ที่เหมาะสมกับประเทศไทย ของคุณ PastelSalad
ในสภากาแฟ เสรีไทย http://forum.serithai.net/index.php?topic=17506.0
ผมเห็นว่าน่าสนใจครับและน่าจะนำมาแลกเปลี่ยนอย่างต่อเนื่องเพราะสถานการณ์ทางการเมืองบ้านเรา
เริ่มถึงเวลาจะพูดถึงการ"เปลี่ยน"จากการเมืองแบบ"ระบบรัฐสภา"ไปสู่"การเมืองทางตรง"มากขึ้น
โดยจะเห็นได้จากการเคลื่อนไหวทางการเมืองแบบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแม้กระทั่ง นปก.
และการเมืองในโลกเสมือนจริงมีผลต่อโลกจริงมากขึ้นเพราะไม่ว่าเราคนไทยอยุ่จุดใดในโลก
สามารถแสดงความคิดเห็นผ่านเน็ทได้จะเห็นได้จากกรณีแม้เวลาทักษิณอยู่ต่างแดนยังบัญชาการ
ผ่านจอม"ยุทธ"ได้เฉยเลย กรณีจักรภพอีกเล่า กรณีวุฒิการศึกษาสุธา ก็ล้วนมีผลต่อการเปลี่ยนแปลง
จากการเมืองทางตรงของประชาชน...
ผมคิดว่าถึงเวลาที่เราจะมาหาทางออกทางการเมืองแนวใหม่"ร่วมกัน"


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-07-2008, 00:09 โดย Scorpio6 » บันทึกการเข้า



คิดจะล้มระบอบทักษิณ ต้องอ่านใจเนวินและเพื่อน
บล็อกเสี่ยวไทบ้าน*แวะเยี่ยมRepublican Collage ของคุณสุธา ชันแสง*
http://www.oknation.net/blog/thaibaan/2008/03/26/entry-1
"ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนและในฐานะอย่างไร จงตรองหาว่า จะมีทางใช้ชีวิต
ให้เป็นประโยชน์ในทางใดบ้าง เมื่อตั้งใจคิดถึงมันแล้วก็จะพบเสมอ
ไม่ว่าอยู่ที่ใด เมื่อพบทางแล้วจงลงมือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์"
Scorpio6
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,210


Man on Mission *เสี่ยวฯ>สันติภาพ*


« ตอบ #1 เมื่อ: 02-07-2008, 22:23 »



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-07-2008, 22:35 โดย Scorpio6 » บันทึกการเข้า



คิดจะล้มระบอบทักษิณ ต้องอ่านใจเนวินและเพื่อน
บล็อกเสี่ยวไทบ้าน*แวะเยี่ยมRepublican Collage ของคุณสุธา ชันแสง*
http://www.oknation.net/blog/thaibaan/2008/03/26/entry-1
"ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนและในฐานะอย่างไร จงตรองหาว่า จะมีทางใช้ชีวิต
ให้เป็นประโยชน์ในทางใดบ้าง เมื่อตั้งใจคิดถึงมันแล้วก็จะพบเสมอ
ไม่ว่าอยู่ที่ใด เมื่อพบทางแล้วจงลงมือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์"
Scorpio6
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,210


Man on Mission *เสี่ยวฯ>สันติภาพ*


« ตอบ #2 เมื่อ: 02-07-2008, 22:36 »

ขอบคุณข้อมูลคุณPastelSaladครับและเชิญชวนพวกเราช่วยกัน"ขัดเกลา"เพื่อให้เกิดการ"ตกผลึก"
ให้เป็นโมเดลที่เกิดจาการทำงานร่วมกันของสมาชิก"เสรีไทย"เราให้เหมาะที่สุดกับการเมืองบ้านเรา
โดยคำนึงถึง๓สถาบันหลักสูงสุดคือสถาบันชาติ สถาบันศาสนาและสถาบันพระมหากษัตริย์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-07-2008, 22:42 โดย Scorpio6 » บันทึกการเข้า



คิดจะล้มระบอบทักษิณ ต้องอ่านใจเนวินและเพื่อน
บล็อกเสี่ยวไทบ้าน*แวะเยี่ยมRepublican Collage ของคุณสุธา ชันแสง*
http://www.oknation.net/blog/thaibaan/2008/03/26/entry-1
"ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนและในฐานะอย่างไร จงตรองหาว่า จะมีทางใช้ชีวิต
ให้เป็นประโยชน์ในทางใดบ้าง เมื่อตั้งใจคิดถึงมันแล้วก็จะพบเสมอ
ไม่ว่าอยู่ที่ใด เมื่อพบทางแล้วจงลงมือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์"
chaturant
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 499



« ตอบ #3 เมื่อ: 03-07-2008, 01:35 »

ผมเห็นด้วยน่ะ มันอาจจะลำบากตอนแบ่งกลุ่ม แล้วแต่ละจังหวัดจะเลือกกันยังไงอ่ะครับ แต่ผมว่าเป็นแนวคิดที่ดีมากๆ  
บันทึกการเข้า
Scorpio6
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,210


Man on Mission *เสี่ยวฯ>สันติภาพ*


« ตอบ #4 เมื่อ: 03-07-2008, 02:15 »

บันทึกการเข้า



คิดจะล้มระบอบทักษิณ ต้องอ่านใจเนวินและเพื่อน
บล็อกเสี่ยวไทบ้าน*แวะเยี่ยมRepublican Collage ของคุณสุธา ชันแสง*
http://www.oknation.net/blog/thaibaan/2008/03/26/entry-1
"ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนและในฐานะอย่างไร จงตรองหาว่า จะมีทางใช้ชีวิต
ให้เป็นประโยชน์ในทางใดบ้าง เมื่อตั้งใจคิดถึงมันแล้วก็จะพบเสมอ
ไม่ว่าอยู่ที่ใด เมื่อพบทางแล้วจงลงมือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์"
Scorpio6
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,210


Man on Mission *เสี่ยวฯ>สันติภาพ*


« ตอบ #5 เมื่อ: 03-07-2008, 02:38 »

ผมเห็นด้วยน่ะ มันอาจจะลำบากตอนแบ่งกลุ่ม แล้วแต่ละจังหวัดจะเลือกกันยังไงอ่ะครับ แต่ผมว่าเป็นแนวคิดที่ดีมากๆ  

การเลือกหรือคัดสรรจากกลุ่มที่ชำนาญในแต่ละหน้าที่ตามความถนัดในการนำ
ผมลองยกสมมติฐานตัวอย่างนะครับหมู่บ้านเล็กๆดูเป็นโมเดลให้เห็นรูปแบบกันนะครับ
จะเห็นว่าในทุกหมู่บ้านในชนบทส่วนใหญ่จะมีกลุ่มหลากหลายเช่นกลุ่มเกษตรกร
กลุ่มแม่บ้าน กลุ่มข้าราชการ ผู้สูงอายุที่เป็นคลังสมองหมู่บ้าน ปราชญ์ชาวบ้าน ผู้ใหญ่บ้านและกลุ่มเครือญาติฯลฯ
หากมองการเมืองแนวใหม่คือการมีประชาคมหมู่บ้านตัดสินในการบริหารหรือการนำกลุ่ม
แทนที่จะเป็นผู้ใหญ่บ้าน(รัฐ)ก็เปลี่ยนเป็นผู้มีความชำนาญด้านบริหารในแต่ละกลุ่ม
เช่นผู้นำตามธรรมชาติ ปราชญ์ชาวบ้าน ประธานประชาคม..แม้แต่มัคทายกวัด(คัดเลือกตามความสามารถ)
จะเห็นว่าในกลุ่มต่างๆก็จะมีการนำไปตามความถนัดมีการนำหลายคนในหมู่บ้านครับ
ส่วนการเลือกในระดับอำเภอ จังหวัด และระดับชาติก็เพิ่มที่คุณภาพคนตามหน้าที่มากอีกครับ
วุฒิการศึกษาไม่เกี่ยวแต่เชียวชาญ(ดูภาพประกอบ)แต่คงไม่ได้เลือกตั้งแบบ"รัฐสภา"ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
อย่างแน่นอนครับ..โปรดติดตาม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-07-2008, 02:45 โดย Scorpio6 » บันทึกการเข้า



คิดจะล้มระบอบทักษิณ ต้องอ่านใจเนวินและเพื่อน
บล็อกเสี่ยวไทบ้าน*แวะเยี่ยมRepublican Collage ของคุณสุธา ชันแสง*
http://www.oknation.net/blog/thaibaan/2008/03/26/entry-1
"ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนและในฐานะอย่างไร จงตรองหาว่า จะมีทางใช้ชีวิต
ให้เป็นประโยชน์ในทางใดบ้าง เมื่อตั้งใจคิดถึงมันแล้วก็จะพบเสมอ
ไม่ว่าอยู่ที่ใด เมื่อพบทางแล้วจงลงมือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์"
(ลุง)ถึก สไลเดอร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,026



« ตอบ #6 เมื่อ: 03-07-2008, 09:45 »

การเลือกหรือคัดสรรจากกลุ่มที่ชำนาญในแต่ละหน้าที่ตามความถนัดในการนำ
ผมลองยกสมมติฐานตัวอย่างนะครับหมู่บ้านเล็กๆดูเป็นโมเดลให้เห็นรูปแบบกันนะครับ
จะเห็นว่าในทุกหมู่บ้านในชนบทส่วนใหญ่จะมีกลุ่มหลากหลายเช่นกลุ่มเกษตรกร
กลุ่มแม่บ้าน กลุ่มข้าราชการ ผู้สูงอายุที่เป็นคลังสมองหมู่บ้าน ปราชญ์ชาวบ้าน ผู้ใหญ่บ้านและกลุ่มเครือญาติฯลฯ
หากมองการเมืองแนวใหม่คือการมีประชาคมหมู่บ้านตัดสินในการบริหารหรือการนำกลุ่ม
แทนที่จะเป็นผู้ใหญ่บ้าน(รัฐ)ก็เปลี่ยนเป็นผู้มีความชำนาญด้านบริหารในแต่ละกลุ่ม
เช่นผู้นำตามธรรมชาติ ปราชญ์ชาวบ้าน ประธานประชาคม..แม้แต่มัคทายกวัด(คัดเลือกตามความสามารถ)
จะเห็นว่าในกลุ่มต่างๆก็จะมีการนำไปตามความถนัดมีการนำหลายคนในหมู่บ้านครับ
ส่วนการเลือกในระดับอำเภอ จังหวัด และระดับชาติก็เพิ่มที่คุณภาพคนตามหน้าที่มากอีกครับ
วุฒิการศึกษาไม่เกี่ยวแต่เชียวชาญ(ดูภาพประกอบ)แต่คงไม่ได้เลือกตั้งแบบ"รัฐสภา"ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
อย่างแน่นอนครับ..โปรดติดตาม
สวัสดีครับคุณสกอร์ฯ เมื่อภาคการเมืองของประชาชนเข้มแข็งแล้ว การเมืองโฉมใหม่มันก็จะ
ปรากฏขึ้นมาเอง ผมเป็นห่วงแต่ว่า พวกนักการเมืองและข้าราชการเลวๆ มันจะต้องต่อต้านกันอย่างสุดฤทธิ์ มัน
ต้องงัดวิชามารออกมาสลายการเมืองภาคประชาชนอย่างแน่นอน ผมเป็นห่วงตรงจุดนี้มากครับ

 
บันทึกการเข้า

(ลุง)ถึก สไลเดอร์
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #7 เมื่อ: 03-07-2008, 10:50 »

เราจะตั้งชื่อระบอบการปกครองใหม่นี้ว่า 'ระบอบโควต้าอ้อย' หรือ  'ระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆ' ดีน๊า
บันทึกการเข้า
เอกราช
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 826


กับคนที่ไร้ซึ่งจริยธรรม ยังจะสามารถสมาคมด้วยหรือ


« ตอบ #8 เมื่อ: 04-07-2008, 15:50 »

กำหนดจำนวน สส. ตามรายได้จากการจัดเก็บภาษีของแต่ละจังหวัด
แทนที่จะกำหนดจำนวน สส. มากน้อยเป็นไปตามทะเบียนบ้านของประชาชน

ยกตัวอย่างเช่น 
ถ้ากำหนดให้ การจัดเก็บภาษี 1000 ล้านบาท ต่อ สส.1คน

จังหวัดบุรีรัมย์เป็นจังหวัดที่มีประชาชนอยู่มาก
แต่จัดเก็บภาษีได้ปีละ 1000 ล้านบาท
บุรีรัมย์ก็จะมี สส. ได้ 1 คน

จังหวัดระนองเป็นจังหวัดที่มีประชากรน้อย
แต่จัดเก็บภาษีได้ปีละ 5000 ล้านบาท
ระนองก็ควรจะมี สส. ได้ 5 คน

จังหวัดไหนอยากมี สส. หลายคน ก็ต้องช่วยกันเสียภาษีให้ครบถ้วน

มันน่าจะดีกว่าที่จะ จัดแบ่งจำนวน สส. ตามจำนวนประชากร
ก็ช่วยๆกันออกความคิดเห็นครับ

 
บันทึกการเข้า

สภาพดินฟ้าอากาศที่ได้เปรียบมิสู้มีชัยภูมิที่มั่นคง
ชัยภูมิที่เป็นเลิศมิอาจเทียบได้กับความมีน้ำหนึ่งใจเดียวของผู้คน
天时不如地利,地利不如人和
mebeam
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 634


Fear can hold you prisoner. Hope can set you Free.


« ตอบ #9 เมื่อ: 04-07-2008, 15:59 »

มีประเทศไหน ใช้ระบบแบบนี้ พอที่จะเอาเป็นตัวอย่างได้มั่งครับ

หรือว่าเราจะคิดใหม่ทำใหม่ลองผิดลองถูกเป็นเจ้าแรก   
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #10 เมื่อ: 04-07-2008, 15:59 »

กำหนดจำนวน สส. ตามรายได้จากการจัดเก็บภาษีของแต่ละจังหวัด
แทนที่จะกำหนดจำนวน สส. มากน้อยเป็นไปตามทะเบียนบ้านของประชาชน

ยกตัวอย่างเช่น 
ถ้ากำหนดให้ การจัดเก็บภาษี 1000 ล้านบาท ต่อ สส.1คน

จังหวัดบุรีรัมย์เป็นจังหวัดที่มีประชาชนอยู่มาก
แต่จัดเก็บภาษีได้ปีละ 1000 ล้านบาท
บุรีรัมย์ก็จะมี สส. ได้ 1 คน

จังหวัดระนองเป็นจังหวัดที่มีประชากรน้อย
แต่จัดเก็บภาษีได้ปีละ 5000 ล้านบาท
ระนองก็ควรจะมี สส. ได้ 5 คน

จังหวัดไหนอยากมี สส. หลายคน ก็ต้องช่วยกันเสียภาษีให้ครบถ้วน

มันน่าจะดีกว่าที่จะ จัดแบ่งจำนวน สส. ตามจำนวนประชากร
ก็ช่วยๆกันออกความคิดเห็นครับ

 

ฤาไทยจะเป็นชาติแรกที่เงินซื้อจำนวนเสียงในสภาได้โดยตรง...จังหวัดไหนทำเงินให้รัฐได้มากก็มีเสียงดังกล่าวจังหวัดที่ยากจน คงเป็นเรื่องตลกร้ายที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา!?!
บันทึกการเข้า
moon
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 780


« ตอบ #11 เมื่อ: 04-07-2008, 16:12 »

อย่ามัวแต่ติติง ต่อว่า หรือกระแนะกระแหนเลย ถ้าคิดว่าดีก็ว่าดี ถ้าคิดว่าไม่ดีก็บอกว่าไม่ดี ถ้ามันใหม่แล้วดี ก็ไม่เห็นจะต้องไปอ้างประเทศไหนเลย
หัดเป็นผู้เริ่มบ้างสิ แค่ได้คิด ได้บริหารรอยหยักในสมองก็ยังดี

ขอร้องละ ผมมั่นใจว่าท่านทั้งสองน่ะ เป็นผู้รอบรู้อีกผุ้หนึ่งในผืนแผ่นดินนี้ ถอยหลังกลับซักก้าว แล้วก็ลองพิจารณาใหม่ สุดท้ายกระทู้นี้ก็อาจจะไม่มีอะไรในกอไผ่เลยก็ได้
บันทึกการเข้า
qazwsx
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


นักธุรกิจและตำรวจ ต้องออกไปจากการเมือง


« ตอบ #12 เมื่อ: 04-07-2008, 16:36 »

ไม่เห็นด้วยครับ
เพราะปัญหาการเมืองไทยในทุกนี้ เกิดจาก "ตัวบุคคล"
ไม่ว่าจะเป็นตัวนักการเมือง หรือโดยเฉพาะอย่างยิ่งก็คือ "ประชาชนผู้ลงคะแนน" เลือกนักการเมืองเหล่านั้น

ปัญหาตัวบุคคลต้องแก้ที่ตัวบุคคล
คือ "ต้องทำให้ตัวบุคคลนั้นมีคุณภาพ - มีความรับผิดชอบ"
ไปพร้อม ๆ กับ "บังคับให้ตัวบุคคลต้องพัฒนาคุณภาพ และแสดงความรับผิดชอบ"

เราจะอ้าง "ความเท่าเทียมกัน" ในด้านสิทธิไม่ได้  ถ้าหากความรับผิดชอบและความสามารถของบุคคล "ไม่เท่าเทียมกัน"
ไม่เช่นนั้นแล้ว  แม่บ้านทำความสะอาดในบริษัทย่อมเท่าเทียมกันกับ Director
- ถ้า Dirctor เที่ยวไปโพนทะนาว่า "บริษัทกรูแม่งเจ๊งแล้ว" ก็ไม่แตกต่างจากแม่บ้าน ฯ เที่ยวไปโพนทะนาว่า "บริษัทกรูแม่งเจ๊งแล้ว" ( จริงหรือ ?)
- ถ้า  Dirctor โทรศัพท์ไปพูดในรายการวิทยุว่า "สินค้าที่เราขายห่วยทุกอย่าง คนซื้อแม่งโง่ฉิบหาย" ก็ไม่แตกต่างจากแม่บ้าน ฯ เที่ยวไปโพนทะนาว่า "สินค้าที่เราขายห่วยทุกอย่าง คนซื้อแม่งโง่ฉิบหาย" ( จริงหรือ ?)

...ซึ่งเรารู้ว่า "ไม่ใช่"
...ระดับความรับผิดชอบและสิทธิของคนในสังคมย่อมไม่เท่ากัน

ปัญหา จึงน่าจะอยู่ที่
แล้วเราจะ "ปรับแก้" หรือ Calibrate อย่างไรล่ะ ?
หรือเราจะ "มีแต้มต่อ ( และแต้มปรับ )" อย่างไรล่ะ ?

ไม่ใช่มานั่งเขียน "ระบอบ - ระบบ" กันใหม่อยู่ร่ำไป
ทั้ง ๆ ที่ตัวระบอบ - ระบบมันไม่ได้ผิด



"ผู้บริหารตัวจริง" ขององค์กร มักจะ "ให้ความสำคัญกับคน" มากกว่า "ตั้งหน้าตั้งตาปั้นแต่งระบบ"
เพราะ "ผู้บริหารตัวจริง" ไม่ใช่เพียง CEO หรือ "ผู้บริหารรับจ้าง" ที่ไม่ต้องรับผิดชอบอันใดกับความฉิบหายหรือเสื่อมโทรมขององค์กรเมื่อเขาจากไปแล้ว

ผู้บริหารรับจ้าง - ปริญญาชนผู้รับจ้างทำงานตำแหน่งผู้บริหาร  ย่อมต้อง "สมอ้างว่าตนเก่ง"
คนเหล่านี้มักจะอ้างว่า "ถ้าระบบดีซะอย่าง - อะไร ๆ มันก็ดีไปเอง"
นั่นเพราะเขา "อ่อนด้อย" หรือ "ขี้ขลาด" เกินกว่าที่จะเผชิญหน้ากับบุคคล  พนักงาน คู่แข่ง  หรือแม้แต่คณะกรรมการ
คนเหล่านี้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยการ "สวมหน้ากาก" และ "คุ้นชินกับการยกยอปอปั้น" เกินกว่าที่จะลงมาคลุกคลีกับสิงที่เรียกว่า "สันดานมนุษย์"
เขาจึง "สร้างระบบ - ระบอบ" ที่จะต้องผ่านกระบวนการโฆษณาประชาสัมพันธ์ว่ามันช่างวิเศษเหลือหลายเพื่อบีบบังคับให้คนทั่วไปยอมรับอย่างกราย ๆ ด้วยสิ่งที่เขาฟูมฟายว่ามันคือ "ภูมิปัญญาและมันสมองอันล้ำเหลือ"
ทั้ง ๆ ที่ "ผู้บริหารตัวจริง" มองอย่างไรก็รู้ว่า แท้แล้ว "ระบบ - ระบอบ" เหล่านั้นเป็นเพียง "กรอบ" ที่ผู้บริหารรับจ้าง CEO เหล่านั้นสร้างขึ้นมา  เพื่อใช้ "กำหนดขอบเขตความรับผิดชอบของตนเองให้่น้อยที่สุด" รวมทั้ง "ปกป้องตนเอง" จากความอ่อนด้อย - อ่อนหัด - ขี้ขลาดของตัวเขาเอง
...ไม่ต่างจาก "เปลือก" ของสัตว์ชั้นต่ำจำพวก หอย แมลง

เลิกคิดเรื่อง "ระบบ - ระเบียบ - วิธีการ" ไปซะ
ถ้าคุณต้องการเป็น "ผู้นำตัวจริง"
หรือต้องการให้องค์กร - สังคม - ประเทศชาติ อยู่รอดอย่างแท้จริง
( ประชาชนคือ "เจ้าของอำนาจอธิปไตย" หรือเป็น "ผู้นำ - ผู้มีอำนาจ" ตัวจริง ของรัฐ )




แถม...
แต่คุณรู้อะไรไหม ?
นอกจาก "ผู้นำตัวจริง" แล้ว  ยังมีผู้นำที่ "เหนือกว่านั้น"
ผู้นำเหล่านี้ไม่ติดอยู่ที่กรอบ ระบบ ระบอบ หรือแม้แต่ตัวบุคคล
...ซึ่งเราเรียกว่า "ปราชญ์แห่งการปกครอง"


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-07-2008, 16:57 โดย qazwsx » บันทึกการเข้า

นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: 04-07-2008, 22:17 »


ปัญหาตัวบุคคลต้องแก้ที่ตัวบุคคล
คือ "ต้องทำให้ตัวบุคคลนั้นมีคุณภาพ - มีความรับผิดชอบ"
ไปพร้อม ๆ กับ "บังคับให้ตัวบุคคลต้องพัฒนาคุณภาพ และแสดงความรับผิดชอบ"


เห็นด้วยประเด็นหลักนี้ครับ


ปัญหา จึงน่าจะอยู่ที่
แล้วเราจะ "ปรับแก้" หรือ Calibrate อย่างไรล่ะ ?
หรือเราจะ "มีแต้มต่อ ( และแต้มปรับ )" อย่างไรล่ะ ?


ผมว่าวิธี การกดดันด้วยภาคประชาชน อย่างที่พธม ทำก็เป็นทางหนึ่งที่สามารถใช้เป็นชั่วครั้งชั่วคราว

อาจกระตุกต่อมละอายของนักการเมืองได้บ้าง

แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีผลในระยะยาวไหม...

...

ส่วนที่ จขกท เสนอมา ผมว่าคล้ายกับ สภาสนามม้า นะครับ

http://www.parliament.go.th/news/news_detail.php?prid=31166
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-07-2008, 22:20 โดย นทร์ » บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
Scorpio6
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,210


Man on Mission *เสี่ยวฯ>สันติภาพ*


« ตอบ #14 เมื่อ: 04-07-2008, 22:59 »

เห็นด้วยประเด็นหลักนี้ครับ

ผมว่าวิธี การกดดันด้วยภาคประชาชน อย่างที่พธม ทำก็เป็นทางหนึ่งที่สามารถใช้เป็นชั่วครั้งชั่วคราว

อาจกระตุกต่อมละอายของนักการเมืองได้บ้าง

แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีผลในระยะยาวไหม...

...

ส่วนที่ จขกท เสนอมา ผมว่าคล้ายกับ สภาสนามม้า นะครับ

http://www.parliament.go.th/news/news_detail.php?prid=31166

ขอบคุณมากครับคุณปู่เย็น ลุงถึกฯ คุณmebeam คุณmoon คุณนทร์ คุณเอกราชและ...แน่นอนคุณqazwsx
สิ่งที่นำมาแลกเปลี่ยนคือการคลำ//แล้วจะเจอแนวทาง//นำไปสู่การเปลี่ยนแปลง
ตรงไปเด็นเลยคือทุ่มน้ำหนักไปที่ตัวบุคคลคุณภาพ//คือตัวแทนต้องเป็นคนที่มีความรับผิดชอบนั่นเอง//
//แล้วเราจะปรับแก้อย่างไรให้มีแต้มต่อ//และต่อยอด การเมืองต่อไปในทุกระดับ//อย่างไรต่างหาก//

กระทู้นี้ไม่มีอะไรในกอไผ่ไม่ได้มีเจตนา//เลือก//ระบอบใหม่ด้วยซ้ำไป
หากเป็นแค่นำเสนอหรือการหยิบปรับวิธีคิดอีกด้านที่ต่างออกไปที่นำเสนอโดยสมาชิกเสนอร่วมกัน
หาทางที่จะนำไปยอดต่อ//แตกหน่อของกระบวนการทางการเมืองใหม่//ที่แม้แต่เหล่าพธม.เราเองยังหาทางอยู่เหมือนกันครับ
ว่างๆท่านใดคิดอะไรออก.....มาช่วยบอกความเห็นต่างร่วมกันนะครับ//รับรองว่าเมืองไทยเรามีดี//
บันทึกการเข้า



คิดจะล้มระบอบทักษิณ ต้องอ่านใจเนวินและเพื่อน
บล็อกเสี่ยวไทบ้าน*แวะเยี่ยมRepublican Collage ของคุณสุธา ชันแสง*
http://www.oknation.net/blog/thaibaan/2008/03/26/entry-1
"ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนและในฐานะอย่างไร จงตรองหาว่า จะมีทางใช้ชีวิต
ให้เป็นประโยชน์ในทางใดบ้าง เมื่อตั้งใจคิดถึงมันแล้วก็จะพบเสมอ
ไม่ว่าอยู่ที่ใด เมื่อพบทางแล้วจงลงมือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์"
Scorpio6
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,210


Man on Mission *เสี่ยวฯ>สันติภาพ*


« ตอบ #15 เมื่อ: 04-07-2008, 23:44 »

//หยิบการเมืองใหม่แบบคุณสนธิ ลิ้มฯมาแลกเปลี่ยนกันครับ//

"สนธิ"เสนอรูปแบบระบบการเมืองใหม่ต่อผู้ชุมนุม
 22:32 น.

เมื่อเวลา 20.40 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล ขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ปราศรัยถึงระบบการเมืองใหม่ว่า การต่อสู้ของประชาชนครั้งนี้ไม่ได้มีเป้าหมายเพียงให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ติดคุก หรือรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ออกไป แต่ต้องเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองและเอาประเทศคืนมา ทุกวันนี้การเมืองมีพรรคการเมืองเป็นเพียงบริษัท มีนายทุน ทุกอย่างทำเพื่อตอบสนองนายทุน จนกลายเป็นแก็งค์การเมือง และมีอันธพาลการเมือง ประชาธิปไตยเป็นแค่ประชาธิปไตย 4 วินาที คือมีค่าแค่ตอนเข้าคูหา ส่วนประชาชนกลายเป็นเพียงลูกจ้างบริษัท จ่ายเงินเพื่อให้เลือกตั้ง ให้ลงคะแนน องค์กรอิสระก็ถูกแทรกแซงด้วยอำนาจทุน แล้วเขาก็อ้างว่าประชาชนเลือกตั้งเข้ามา นี้คือการเมืองเก่า หากใครมีเงินหมื่นล้าน ก็ซื้อประเทศได้ อย่าว่าแต่ซื้อประเทศเลย ล้มสถาบันก็ยังได้ การเมืองใหม่ต้องให้ประชาชนต้องมีส่วนร่วม โดยลดทอนบทบาทของนักเลือกตั้ง โดยให้ส.ส. มาจากจังหวัดละ 1 คนเท่านั้น ส่วนสัดส่วน 70 ต่อ 30 ที่ตนเคยเสนอไปนั้น เป็นเพียงตุ๊กตาเบื้องต้นเท่านั้น และอยากให้ทุกคนช่วยกันคิด ว่าสัดส่วนของการมีส่วนร่วมของกลุ่มอาชีพต่างๆ จะมาได้อย่างไร

นายสนธิ กล่าวว่า ก่อนจะมีการเมืองใหม่ เราต้องร่างหลักการปกครองเบื้องต้นเสียก่อน เช่น ต้องมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ประชาชนมีอิสระในการนับถือศาสนา กำหนดสิทธิต่างๆ ่ของประชาชน รวมถึงการกำหนดเรื่องความเท่าเทียมในการทำมาหากิน เมื่อได้หลักการปกครองแล้ว ก็ให้นำไปทำประชามติให้ประชาชนเห็นชอบ แล้วค่อยไปร่างรัฐธรรมนูญและกฏหมายลูกประกอบ

นายสนธิ ยังเสนอบทบาทขององค์กรต่างๆ ในการเมืองใหม่ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องเป็นองค์กรอิสระ การเมืองแทรกแซงไม่ได้ ผบ.ตร.จะต้องมาจากการเลือกของเสียงในสภาฯ จำนวน 3 ใน 4 และประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมก็จะไม่มีฝ่ายค้าน เพราะตัวแทนกลุ่มอาชีพต่างๆ จะแสดงความไม่เห็นด้วยกับนโยบายเอง หากเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ในขณะที่ทหารก็สามารถเข้ามาเปลี่ยนแปลงการเมืองได้โดยถูกต้องตามกฏหมาย หากเข้าเงื่อนไข 4 ประการ คือ 1.สถาบันกษัตริย์ถูกหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ แล้วรัฐบาลไม่ทำอะไร 2.มีเจตนาที่จะโค่นล้มสถาบันกษัตริย์ แล้วรัฐบาลปล่อยปละละเลย 3. มีการฉ้อราษฎร์บังหลวง 4.มีการยกอธิปไตยให้กับต่างชาติ หากเข้าหลักการทั้ง 4 ข้อ ทหารสามารถเข้ามาได้ทันที ส่วนสภากลาโหมก็จะเป็นอิสระ ไม่ต้องขึ้นตรงกับนายกฯ เมื่อจัดโผทหารเสร็จแล้ว ก็ให้ยื่นทูลเกล้าได้เลย เพราะพระมหากษัตริย์ถือเป็นจอมทัพไทย และหากพระองค์จะเปลี่ยนรายชื่อ ก็สามารถทำได้

นายสนธิ ยังเสนอให้เปิดมหาวิทยาลัยอีก 8 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนเรียนฟรี และถ้าใครมีความเห็นเรื่องรูปแบบการเมืองใหม่อย่างไร ก็สามารถเขียนเสนอมาได้ โดยพันธมิตรฯจะตั้งเต้นท์เพื่อรับความเห็นของทุกคน

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=327902
 
//อย่างน้อยประเด็นที่ตรงกันระหว่างรูปแบบก็เกี่ยวกับเรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชนและเปิดประเด็นกลุ่มอาชีพต่างๆเข้ามามีบทบาทมากขึ้น//
 
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-07-2008, 23:47 โดย Scorpio6 » บันทึกการเข้า



คิดจะล้มระบอบทักษิณ ต้องอ่านใจเนวินและเพื่อน
บล็อกเสี่ยวไทบ้าน*แวะเยี่ยมRepublican Collage ของคุณสุธา ชันแสง*
http://www.oknation.net/blog/thaibaan/2008/03/26/entry-1
"ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนและในฐานะอย่างไร จงตรองหาว่า จะมีทางใช้ชีวิต
ให้เป็นประโยชน์ในทางใดบ้าง เมื่อตั้งใจคิดถึงมันแล้วก็จะพบเสมอ
ไม่ว่าอยู่ที่ใด เมื่อพบทางแล้วจงลงมือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์"
Scorpio6
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,210


Man on Mission *เสี่ยวฯ>สันติภาพ*


« ตอบ #16 เมื่อ: 05-07-2008, 23:35 »

การเมืองใหม่..ในความเห็นต่าง..หยิบมาวางจากแมเนเจอร์

http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9510000078442

ความเห็นที่82
เห็นด้วย เรี่องระบบการเมืองใหม่
ให้คำจำกัดความว่า
1.ระบบเก่า คือ การเลือกตั้งแบบเก่า คือ ระบบการเลือกตั้งที่ใช้ในปัจจุบัน
2.ระบบใหม่ คือ ระบบที่กำลังเสนอ วิธีการจัดการเลือกตั้งแบบเลือกผู้นำใหม่ในอุดมการณ์ของประชาชน
เป็นเส้าทางใหม่ของประชาชนใช้วิธีการที่เลือกตั้ง
เหตุผล มีดังนี้
--ระบบเก่าได้ใช้มานาน ได้สร้างทายาทความชั่วร้าย สร้างส่วนประกอบไม่ดีต่อทางสังคม ทำลายระบบบุคลากรที่ดีทุกระดับลงไปเรื่อย
และทำลายความดีงามของมวลมนุษยชาติที่ควรดำรงสืบทอดไปในอนาคตของการดำรงเผ่าพันธ์ ใช้เวลาที่ประชาชนมอบให้ไปในการทำงาน
เพื่อเป้าหมายตนเอง มากกว่านำไปใช้เพื่อประโยชน์ให้กับสังคมส่วนรวม จึงทำให้สูญเสียเวลา และทรัพยากรด้านต่างๆ จำนวนมาก
เหตุที่เกิดขึ้นจึงไม่ได้เป็นที่ระบบ แต่เป็นเพราะระบบยังไม่ดีพอที่จะยับยั้งกลุ่มบุคคลเหล่านี้ นับวันก็มากขึ้นเรื่อย เพราะบุคคลบางคนก็
ต้องยอมจำนนกับเขา ถึงแม้ว่าระบบจะปรับตัว เพื่อต่อต้านและทำลาย โดยสร้างองค์กรตรวจสอบ หลายชนิดขึ้นมา ก็หารอดพ้นเป็นเครื่องมือ
และกลับไปส่งเสริมให้กลุ่มความชั่วได้แข็งแรงขึ้น ดังนั้น การลงทุนเดินหน้าในระบบเก่านี้ จึงไม่สมควร เพราะมีต้นทุนสูง ใช้องค์กรและ
บุคลากรมากเกิน สิ้นเปลืองเวลา และทรัพยากร อีกทั้งเชื่องช้าในการทำงาน ไม่สามารถตอบสนองในการหยุดยั้ง หรือทำลาย ผู้นำที่อ้างตัวเองว่า
ถูกต้องได้ทันท่วงที และเป็นมูลเหตุทำให้ประชาชนขาดความเชื่อถือ ระบบเลือกตั้งแบบเก่านี้ ยังทำให้เราหลอกตัวเองว่าดี เราไม่เคยแน่ใจ
เลยว่าบุคคลที่นำมาเสนอให้เราเลือก โดยเฉพาะพรรคการเมือง เราได้มอบความไว้วางใจให้เขา มีหน้าที่เลือก คัด และนำเสนอสิ่งที่ดีให้กับเรา
ก็ไม่ได้นำเสนอสิ่งที่เป็นความจริง หลอกให้เราเลือกพรรค แต่คนที่ประกอบอยู่ในพรรคละเป็นใครมาจากใหน ไม่มีอุดมการณ์ และไม่มีความจริงใจ
เมื่อเรามอบอำนาจให้ก็ใหญ่ค้ำฟ้า ไม่นำพากลับบอกว่า ข้าได้มาจากการเลือกตั้ง ทั้งที่ทำความผิกมากมาย พรรคก็ยังคงสนับสนุน
น่าเจ็บใจกล้าหลอกลวงประชาชน ถ้าเราจะมาสร้างระบบตรวจสอบอีก ผมว่าไปกันใหญ่แล้ว
จึงเป็นเหตุที่ต้องเปลี่ยนระบบการเลือกตั้งจะดีกว่าจะดีกว่า
-ระบบใหม่ เป็นความคิดของประชาชนคนหนึ่ง ที่ขอเสนอร่วมนำเเสนอด้วย ฝากรวมกับกลุ่มพันธ์มิตร เพราะเคยคิดตั้งนานแล้วว่า
น่าจะทำได้ดีกว่าระบบเก่า มากและแน่นอน ประชาชนได้รับเต็มๆ
*** ก่อนเสนอระบบใหม่นี้ขอให้ผู้อ่านทำจิตใจให้ว่างเสียก่อน ไม่มีพวก ไม่คิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่น มีจิตใจดี มีเพื่อนทุกระดับ ตั้งดนดี คนมี
จนถึงคนขาดโอกาส ทุกสภาพสังคม จงจำไว่ว่า มนุษย์มีข้อยกเว้นและเห็นแก่ตัวที่สุด ของบรรดาสรรพสิ่งที่มีชีวิตในโลกและยังดำรงต่อ
ไปอีกนาน ดังนั้น เราต้องอยู่บนโลกใบนี้ร่วมกันจนตาย ต้องไม่ทำร้ายกัน ทุกทาง ควรเห็นใจกัน แน่นอนไม่เกินร้อยปี หนีไม่พ้น เอาอะไรไป
ไม่ได้สักอย่าง เหลือแต่ความทรงจำ ที่ถ่ายทอดกันไป และอีกไม่นานก็ลืมหรือสิ้นไปเป็นรอยอดีตแห่งกาลเวลา***

โดยระบบใหม่ ที่นำเสนอนี้
โดยย่อและรวบรัดว่า ในปัจจุบันประชาชนชาวไทยเข้าใจการรวมเป็นกลุ่มๆ และมีความเข้าใจในการใช้หน้าที่และอำนาจ วัตถุประสงค์ เป้าหมาย
และยังเข้าใจในรัฐธรรมนูญ
ข้อเสนอระบบใหม่
1.การเลือกตั้งแบบใหม่ ต้องรับจดทะเบียนกลุ่มอาชีพ ทุกระดับ ประกอบไปด้วยชื่อกลุ่มอาชีพ ที่จัดตั้งมา เหมือนพรรคการเมือง แบบกลุ่มอาชีพ
เก่าก็มี เช่น พรรคเกษตร, พรรคชาวนา และอื่น ต้องมีตัวกลางจัดตั้งดูแลข้อคุณสมบัติของกลุ่มอาชีพ
2.กำหนด ว่า 1 พรรคจะได้ 1 ที่นั้ง เป็นตัวแทนของกลุ่ม ที่เลือกมา
3.พรรคหรือกลุ่มอาชีพจะมีจำนวนเท่าไรก็ได้ ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดการเป็นกลุ่มอาชีพ แต่จะต้องทำการเลือกล่าวหน้า โดยมีการประชุมสามัญ
เพื่อเลือกพรรคกลุ่มอาชีพ ที่จะส่งตัวแทนไปบริหารบ้านเมือง 480 ที่นั้ง ทุก 2 ปี จะจับ ออก 50% เและเลือกก่อนจับออก 50% เมื่อเลือกแล้ว ก็รอวันจับออก
ในวันสุดท้ายของพรรคที่ได้รับเลือก(ครั้งแรก) ต่อไปอีก 2 ปีที่เหลือ วนอย่างนี้เรื่อยๆ
4.ทุกพรรค ต้องทำตามระเบียบในการคัดเลือก ผู้เข้าดำรงตำแหน่ง เป็นตามระเบียบและกฏหมายเลือกตั้ง
5.บุคคลที่ไม่ได้สังกัดอาชืพ เข้ากลุ่มไม่ได้แจ้ง 1 ได้ 1 ที่นั้ง รวมอยู่ในข้อ 3
6.พรรคหรือกลุ่มอาชืพ ที่ไม่ได้รับการเลือก จะได้รับ 10 ที่นั้ง รวมอยู่ในข้อ 3
7.พรรคหรือกลุ่มอาชืพ จะไม่ทำการรวมเป็นกลุ่มการเมือง เพื่อต่อรองอำนวจ มีบทลงโทษ
8.การเลือกนายก เลือกโดยตรงจากประชาชน ทุก 4 ปี เลือกใหม่ ก่อน 6 เดือน เข้าสู่ตำแหน่งก่อน 2 เดือน ทำงานร่วมกับนายกปัจจุบัน
9.นายกเลือก เป็นผู้ฟอร์มทีมเป็นรัฐบาล มีการเลือกตำแหน่งโดยตัวแทนที่ถูกเลือกเข้าไป
10.การเลือก นายกและตัวแทนกลุ่มอาชีพ ต้องทำการเลือกให้เสร็จก่อน 6 เดือน และเข้ารับตำแหน่งทดลองและเรียนรู้ 2 เดือน
11.กลุ่มอาชีพที่ได้รับเลือก และส่งตัวแทนเข้าไปบริหารบ้านเมือง อาจถูกถอน ตามการลงมติของกลุ่มอาชีพของตน เมื่อบุคคลที่ส่งไป
ไม่มีผลงานและทำผิดกฏหมาย และบทบัญญัติของกลุ่มอาชีพ


ข้อดี
1.ไม่มีฝ่ายค้านเพราะทุกตัวแทน สามารถลงเสียงได้อิสระ อีกทั้งถูกควบคุมคุณภาพโคยกลุ่มอย่างเคร่งคัด
2.ผู้ได ที่คิดจะรวบอำนาจก็ทำอยาก จะซื้อก็ยาก เพราะกลุ่มอาชืพมีมาก
3.การทำงานจะเป็นไปโยอิสระ สร้างสรร ใช้เวลาอย่างคุ้มค่า เพื่อประชาชน
4.ทุกหน้าที่ต้องระมัดระวังในการทำงานเสมอ ว่าทำอะไร ทำเพื่อใคร ทำทำไม ต้องตอบประชาชนได้
5.เป็นการลดต้นทุนของรัฐ แลระบบการจัดการที่เป็นเหตุผล โปร่งใส ตรวจสอบได้ กกต.ก็ทำงานได้ดีขึ้นไม่หรือมีน้อยมลภาวะมารบกวน
6.จะมีผู้มีอิธิพลใหม่ แต่รับรองไม่ใหญ่จนเป็นปัญหา ระบบจะทำการลด และขจัด ด้วยความรวดเร็ว ของแต่ละส่วน
7.ผลประโยขน์ก็จะเกิดแก่ประชาชน ด้วยทุกตัวแทนร่วมกันสร้างสรร ไม่นานประชาชนก็จะอยู่ดีกิน เพราะว่าประชาชนจะเข้า
ร่วมกำหนดความเป็นไป ที่ตนต้องการและถูกรวบรวมจากกลุ่มอาชืพซึ่งมีหน้าที่ต้องเสนอรัฐตามวาระ กำหนดนโยบายได้โดยตรง
8.มีระบบร่วมการประชุมกลุ่มทุกระดับ เพื่อสร้างความเข้าใจ ทำงานร่วมกัน กำหนดเป้าหมายและกำหนดยุทธศาสตร์ร่วมกันเป็นระยะที่กำหนด
9.ใช้เวลาที่ประชาชนมอบให้อย่างคุ้มค่า ไม่ต้องไปคิดทุจริต
10. รัฐจะตอบแทนให้ผู้ทำงาน ผู้ปฎิบัติดี ผู้ที่แสดงผลงานดีและส่งผลต่อประเทศชาติในอนาคต ด้วยคณะกรรมการที่เป็นตัวแทนจากกลุ่มอาชีพ
11.การเคินขบวนก็ลดลง เพราะปัญหาที่เกิดจะถูกแก้อย่างรวดเร็ว เมื่อมีการเรียกร้องโดยตรงยังกลุ่มอาชืพและหน่วยงาน และมีข้อกำหนดควบคุม
12.เป็นการเปิดช่องทางใหม่ให้ประชาชน มีโอกาสในชีวิต ได้มีทางออก ภาวะต่างๆ ก็ลดลง

ข้อเสีย
1.ต้องเริ่มการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะต้องใช้เวลา และต้องการความรวดเร็ว
2.ระบบเก่าได้ขยายตัว และลงลึก ต้องใช้เวลา และมีบุคคลที่เอาตัวรอด มีมลทินและอยู่ในอำนาจ เป็นปัญหา ต้องคัดออก ถ้ามีข้อมูลที่เป็นธรรม
3.ต้องการระบบยุติธรรม ที่ทำงาน เพื่อช่วยลดทอนอำนาจที่ไม่ถูกต้อง อย่างจริงจังและรวดเร็ว
4.บางระบบไม่ ต้องสร้างขึ้น จะสร้วงอย่างไร
5.ยังมีอุปสรรคอีกมาก ต้องมีประชาชนช่วยจึงจะสำเร็จ
6.จะมีผู้ไม่พอใจ หรือผู้เสียผลประโยขน์ขัดขวาง และสร้างความสับสน

รักเธอประเทศไทย
id194300@yahoo.com
บันทึกการเข้า



คิดจะล้มระบอบทักษิณ ต้องอ่านใจเนวินและเพื่อน
บล็อกเสี่ยวไทบ้าน*แวะเยี่ยมRepublican Collage ของคุณสุธา ชันแสง*
http://www.oknation.net/blog/thaibaan/2008/03/26/entry-1
"ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนและในฐานะอย่างไร จงตรองหาว่า จะมีทางใช้ชีวิต
ให้เป็นประโยชน์ในทางใดบ้าง เมื่อตั้งใจคิดถึงมันแล้วก็จะพบเสมอ
ไม่ว่าอยู่ที่ใด เมื่อพบทางแล้วจงลงมือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์"
เอกราช
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 826


กับคนที่ไร้ซึ่งจริยธรรม ยังจะสามารถสมาคมด้วยหรือ


« ตอบ #17 เมื่อ: 08-07-2008, 20:37 »

ความเห็นบางส่วนของกาแฟดำ ว่าด้วยการเมืองใหม่
 'การเมืองใหม่'คำตอบสุดท้ายอยู่ที่การเมืองภาคประชาชน vs นักเลือกตั้ง

ตามไปอ่านฉบับเต็มตามลิ้งค์
http://www.bangkokbiznews.com/2008/07/08/news_273627.php

ก็ต้องช่วยๆกันแสดงความคิดเห็นครับ

 
บันทึกการเข้า

สภาพดินฟ้าอากาศที่ได้เปรียบมิสู้มีชัยภูมิที่มั่นคง
ชัยภูมิที่เป็นเลิศมิอาจเทียบได้กับความมีน้ำหนึ่งใจเดียวของผู้คน
天时不如地利,地利不如人和
KILL...ER
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 330



« ตอบ #18 เมื่อ: 08-07-2008, 20:44 »

ลองไปหากระทู้เก่าๆ เมื่อปี 49 ของกระผม ดูละกัน ไม่ใช่การเมืองใหม่อะไรหรอก

แต่มันเป็น วาระศักดินา เลยล่ะจ้า

เค้ายิงประเด็นมาตั้งนานแล้ว มองกันไม่ออกเอง เคยเตือนไว้แล้ว ว่าเค้าจะเอาแบบนั้นจริงๆ ก็หาว่า ข้าพเจ้า เว่อร์

มาถึงวันนี้ เริ่มเห็นเค้าลางกันแล้ว

ไม่มีปัญหา จะตอแหลกันยังไงก็เชิญเถอะ...

สามารถอยู่ได้ทุกยุคทุกสมัยทุกระบอบอยู่แล้ว

บันทึกการเข้า

จงภาคภูมิใจในความเป็นไพร่กระฎุมพี
เอกราช
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 826


กับคนที่ไร้ซึ่งจริยธรรม ยังจะสามารถสมาคมด้วยหรือ


« ตอบ #19 เมื่อ: 08-07-2008, 21:35 »

ลองไปหากระทู้เก่าๆ เมื่อปี 49 ของกระผม ดูละกัน ไม่ใช่การเมืองใหม่อะไรหรอก

แต่มันเป็น วาระศักดินา เลยล่ะจ้า

เค้ายิงประเด็นมาตั้งนานแล้ว มองกันไม่ออกเอง เคยเตือนไว้แล้ว ว่าเค้าจะเอาแบบนั้นจริงๆ ก็หาว่า ข้าพเจ้า เว่อร์

มาถึงวันนี้ เริ่มเห็นเค้าลางกันแล้ว

ไม่มีปัญหา จะตอแหลกันยังไงก็เชิญเถอะ...

สามารถอยู่ได้ทุกยุคทุกสมัยทุกระบอบอยู่แล้ว


KILL...ER
ทำเป็นลิ้งค์มาเลย
ก็ถือเป็นอีกความคิดเห็นครับ

 
บันทึกการเข้า

สภาพดินฟ้าอากาศที่ได้เปรียบมิสู้มีชัยภูมิที่มั่นคง
ชัยภูมิที่เป็นเลิศมิอาจเทียบได้กับความมีน้ำหนึ่งใจเดียวของผู้คน
天时不如地利,地利不如人和
วิหค อัสนี
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 946



« ตอบ #20 เมื่อ: 08-07-2008, 23:37 »

ขอเสนออีก 1 แนวคิดครับ

http://forum.serithai.net/index.php?topic=29268.0

บันทึกการเข้า

_______ดังนี้แล
__เปลวไฟจักลุกโชน
___หามีวันดับลงได้
_ตราบที่ในมือพวกสูเจ้า
ยังแต่น้ำมันเตาให้ราดรดไป
เอกราช
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 826


กับคนที่ไร้ซึ่งจริยธรรม ยังจะสามารถสมาคมด้วยหรือ


« ตอบ #21 เมื่อ: 10-07-2008, 13:53 »

ขอบคุณครับ คุณ วิหค อัสนี (ศรีวิชัย)   ที่ทำลิ้งค์มารวมที่กระทู้นี้
ขอทำลิ้งค์กระทู้ของ คุณเบื่อไอ้เหลี่ยม มารวมที่กระทู้นี้เช่นกันครับ
http://forum.serithai.net/index.php?topic=29365.0

ขอเชิญเพื่อนๆมาช่วยๆกันเเสดงความคิดเห็นครับ

การเมืองใหม่ ต้องยกเลิก ยศตำรวจ

 
บันทึกการเข้า

สภาพดินฟ้าอากาศที่ได้เปรียบมิสู้มีชัยภูมิที่มั่นคง
ชัยภูมิที่เป็นเลิศมิอาจเทียบได้กับความมีน้ำหนึ่งใจเดียวของผู้คน
天时不如地利,地利不如人和
หน้า: [1]
    กระโดดไป: