หลังจากเฝ้ารอผลงานที่เข้าท่า จากรัฐบาลสมัครมานานหลายเดือน
เพิ่งจะเห็นโครงการจากรัฐมนตรีพรรคเพื่อแผ่นดินที่ดูจะเข้าท่าเข้าที
หวังว่าจะไม่ถูกสกัด หรือดองเค็มโดยพรรคแกนนำรัฐบาลนะครับ
กระทรวงพลังงานก็ควรรับลูก เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเพื่อผลักดัน E85
ทั้งการผลิตและการส่งเสริมการผลิตรถ FFV รวมทั้งศึกษาการปรับปรุง
เครื่องยนต์รถที่มีอยู่เดิมให้สามารถใช้ E85
แก้ปัญหาพลังงานได้ก็จะแก้ปัญหาอื่นๆได้ ไม่ทำวันนี้วันหน้าก็ต้องทำ
แค่นี้ก็ล่าช้าจนจะตายกันทั้งประเทศอยู่แล้วโครงการนี้ถ้าทำได้สำเร็จสมบูรณ์ จะสามารถผลักดันให้ไทยกลายเป็น
ผู้ส่งออกสินค้าพลังงานในอนาคต เพิ่มเติมจากการส่งออกอาหารถึงจะปาเข้าไปเดือนที่ 4 แต่ก็นับเป็นโครงการแรกที่เข้าตาสำหรับผมนะครับ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
"สุวิทย์"ดันวาระอ้อยแห่งชาติเข้า ครม.พรุ่งนี้โดย Post Digital 30 มิถุนายน 2551 13:59 น.
http://www.posttoday.com/breakingnews.php?sec=breaking&id=246990ก.อุตสาหกรรม เตรียม ดันวาระอ้อยแห่งชาติเข้า ครม.พรุ่งนี้
นายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวในโอกาสเป็นประธาน
ในพิธีเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง”ระเบียบ วาระอ้อยแห่งชาติ แผนปฏิบัติการพัฒนาด้านอ้อย” ซึ่งมี
ผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายเข้าร่วมสัมมนากว่า 1,000 คน
นายสุวิทย์ ระบุว่า แผนปฏิบัติการพัฒนาด้านอ้อยของประเทศ ตามระเบียบวาระอ้อยแห่งชาติที่คณะรัฐมนตรี
อนุมัติในหลักการไว้แล้ว มีกำหนดแล้วเสร็จภายในวันนี้ ( 30 มิ.ย.) และกระทรวงอุตสาหกรรมจะเสนอเข้าสู่
การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (1 ก.ค.) ซึ่งเป้าหมายสำคัญของการกำหนดระเบียบวาระอ้อยแห่งชาติ
คือ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อย ภายในปีการผลิต 2553 /2554 จะมีผลผลิตอ้อยเพิ่มเป็น 95 ล้านตัน
จากปัจจุบันมีผลผลิต 73.3 ล้านตัน หรือผลผลิตเพิ่มจาก 11.81 ตันต่อไร่เป็น 15 ตันต่อไร่ ค่าความหวาน
เพิ่มจาก 12.1 ซีซีเอสเป็น 13 ซีซีเอส
นายสุวิทย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาการพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อย ไม่เป็นระบบ ไม่มีแผนรองรับ แต่จากนี้ไปจะมีแผน
รองรับ ซึ่งผลกระทบจากราคาน้ำตาลทรายในตลาดโลก กระทบต่อชาวไร่อ้อย จึงได้แก้ไข โดยหันมาผลิต
พลังงานทดแทนหรือนำผลผลิตจากอ้อยไปผลิตเป็นสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มมากกว่า ทั้งเส้นใย ยา และอาหาร
และเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนให้ดียิ่งขึ้น จึงต้องปรับปรุงระเบียบกฎหมายเพื่อให้ผู้ได้รับ
ใบอนุญาตตั้งโรงงานผลิตเอทา นอลที่ได้รับใบอนุญาตไปแล้วประมาณ 40 รายได้รับความสะดวกยิ่งขึ้น
เพราะปัจจุบันมีผู้ตั้งโรงงานเอทานอลประมาณกว่า 10 ราย เนื่องจากติดเงื่อนไขต้องขายให้ผู้ค้าน้ำมัน
ตามมาตรา 7 เท่านั้น เป็นอุปสรรคและเป็นการผูกขาดตัดตอน อีกทั้งผู้ค้าน้ำมันสามารถรวมหัวกันกดราคา
เอทานอล ขณะเดียวกัน ปริมาณเอทานอลที่ผลิตได้ขณะนี้เกินความต้องการของตลาด แต่การจะส่งออกได้
ต้องขออนุญาต ดังนั้นจึงต้องให้สิ่งที่เป็นอุปสรรคได้รับการแก้ไข เพราะรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมแก๊สโซฮอล์
อี 85 อยู่แล้ว ซึ่งหากปริมาณการใช้ในประเทศเพิ่มขึ้นค่อยมาทบทวนการคุมเข้มการส่งออกอีก ครั้ง
“ตามแผนปฏิบัติการของระเบียบวาระอ้อยแห่งชาติที่จะเสนอคณะรัฐมนตรีวันพรุ่ง นี้ จะมีการเสนอให้
คณะรัฐมนตรีอนุญาตให้โรงงานเอทานอล ซื้อน้ำมันเบนซินมาผสมเอทานอลเพื่อผลิตเป็นแก๊สโซฮอล์
อี 85 จำหน่ายได้ในบริเวณใกล้เคียงโรงงานด้วย เพื่อลดต้นทุนการขนส่งเอทานอลไปโรงกลั่นน้ำมัน “
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าว.