หนทางที่ดีที่สุด 3 กกต.ลาออก ! เปิดทางฟื้นฟูวิกฤตการเมืองวิเคราะห์
เมื่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกามีมติปฏิเสธข้อเสนอของนายสุชน ชาลีเครือ ประธานวุฒิสภา ที่ให้สรรหากรรมการการเลือกตั้งแทนนายจรัล บูรณพันธุ์ศรี ที่เสียชีวิตและพล.อ.จารุภัทร เรืองสุวรรณ ที่ลาออกไป
สังคมแห่งนี้ก็แลเห็นแนวทางเพื่อฟื้นฟูวิกฤตการเมืองของประเทศได้เด่นชัดขึ้น
ทั้งนี้ เพราะที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกามิได้มีเพียงมติไม่รับเรื่องจากประธานวุฒิสภามาพิจารณาเท่านั้น แต่ยังมีหนังสือชี้แจงเหตุผลตอบกลับไปให้นายสุชนด้วย
เนื้อหาของหนังสือฉบับดังกล่าวนั่นเองที่ทำให้ทิศทางการฟื้นฟูวิกฤตการเมืองของประเทศเด่นชัดขึ้น
เป็นความเด่นชัดที่ว่า ตุลาการทั้ง 3 ศาล อันประกอบด้วยศาลยุติธรรม ศาลรัฐธรรมนูญ และศาลปกครอง หลังจากรับฟังพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้งนำคณะตุลาการเข้าเฝ้าฯแล้ว เห็นพ้องกับการใช้อำนาจตุลาการเข้ามาแก้ไขปัญหาของประเทศ เพื่อรักษาเจตนารมณ์แห่งรัฐธรรมนูญที่ต้องการให้ประเทศไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุขต่อไป
ความจริงแล้ว ทิศทางของตุลาการเคยปรากฏออกมาแล้วหลายครั้ง
ปรากฏออกมาหลังจากการหารือร่วมของประธานศาลฎีกา ประธานศาลปกครอง และประธานศาลรัฐธรรมนูญ
ครั้งแรกปรากฏออกมาโดยมีข้อเสนอแนะให้เลือก
คือ 1.ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งใช้อำนาจตามมาตรา 145 (2) ขอให้ส่งตุลาการมาร่วมในการเลือกตั้ง หรือ 2.เปิดโอกาสให้มีการเลือกกรรมการการเลือกตั้งชุดใหม่ตามมาตรา 138 (3) คือให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาสรรหาบุคคลที่เหมาะสมเป็นกรรมการการเลือกตั้งจำนวน 10 คน เสนอให้กับวุฒิสภาเลือกให้เหลือเพียง 5 คน
ทั้งนี้ ได้มีการแฝงนัยยะให้กรรมการการเลือกตั้งเลือกข้อเสนอแนะตามข้อ 2 คือ ให้ กรรมการการเลือกตั้งลาออก เพื่อเปิดทางให้มีการเลือกคณะกรรมการการเลือกตั้งชุดใหม่เข้ามาทำงานแทน
แต่กรรมการการเลือกตั้งชุดของ พล.ต.อ.วาสนา ไม่ยอมลาออก
ครั้งที่สอง คณะกรรมการการเลือกตั้งชุดของ พล.ต.อ.วาสนา ได้หารือกับพรรคการเมืองเพื่อกำหนดวันเลือกตั้ง ซึ่งการหารือครั้งนี้ บรรดาพรรคการเมืองฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคชาติไทย ไม่เข้าร่วม
แต่ที่ประชุมพรรคการเมืองก็ด้ข้อสรุปว่าน่าจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 22 ตุลาคม
ทันทีทันใดนั้น ที่ประชุมประธาน 3 ศาล ก็มีข้อสรุปว่า การกำหนดวันเลือกตั้งวันที่ 22 ตุลาคมนั้น หากคณะกรรมการการเลือกตั้งสรุปเป็นมติก็ถือว่าผิดกฎหมาย เพราะในวันดังกล่าวมีกรรมการการเลือกตั้งเข้าประชุมไม่ครบองค์ประชุม
อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งอ้างว่า ข้อเสนอดังกล่าวมิได้กระทำเป็นมติ แต่เป็นเพียงข้อมูลที่เสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา
แต่ผลแห่งการแสดงเจตนาของประธานตุลาการ 3 ศาล ก็ทำให้ พล.อ.จารุภัทร เรืองสุวรรณ ทำหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง
ทำให้กรรมการเลือกตั้งเหลือเพียง 3 คน
หากยังจำกันได้ ระหว่างนั้นทางตัวแทนฝ่ายตุลาการก็ออกมาส่งสัญญาณให้กรรมการการเลือกตั้งที่เหลือเสียสละด้วยการลาออก
แต่ดูเหมือนว่า กรรมการการเลือกตั้งทั้ง 3 คน ไม่เข้าใจสัญญาณที่ปรากฏ
กระทั่งนายสุชน ในฐานะประธานวุฒิสภาทำหนังสือถึงประธานศาลฎีกาเพื่อให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาสรรหาบุคคลที่จะเข้ามาเป็นกรรมการการเลือกตั้งแทนนายจรัล และ พล.อ.จารุภัทร
เจตนาของตุลาการในการดำเนินการกู้วิกฤตชาติก็ปรากฏออกมาอย่างชัดเจน
ชัดเจนจากหนังสือที่ประธานศาลฎีกาเขียนไปถึงประธานวุฒิสภา
ชัดเจนว่า ตุลาการต้องการให้คณะกรรมการการเลือกตั้งชุดที่มี พล.ต.อ.วาสนาเป็นประธานลาออก
เหตุที่ต้องการให้คณะกรรมการการเลือกตั้งชุดดังกล่าวลาออก ก็เพราะเห็นว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งชุดนี้ไม่มีคุณสมบัติตามมาตรา 136
นั่นคือ ไม่มีคุณสมบัติแห่งความเป็นกลางทางการเมือง
เมื่อคุณสมบัติแห่งความเป็นกลางซึ่งเป็นคุณสมบัติเบื้องต้นของการเป็นกรรมการการเลือกตั้งยังไม่มี พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ นายปริญญา นาคฉัตรีย์ และนายวีระชัย แนวบุญเนียร จึงสมควรจะลาออก !
ถือเป็นเหตุและผลของฝ่ายตุลาการที่ชี้แจงออกมาให้ปรากฏอย่างชัดเจนที่สุด
เพราะเหตุแห่งความไม่เป็นกลางนี้ย่อมจะนำความวุ่นวายตามมา ซึ่งขณะนี้ก็เริ่มมีเค้าลางปรากฏออกมาแล้ว เพราะเมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 15 ตุลาคม ก็เริ่มมีบางพรรคชักไม่แน่ใจว่า มติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ หลายคนหวั่นไหว เกรงว่าการเลือกตั้งวันที่ 15 ตุลาคม จะกลายเป็น "โมฆะ" เหมือนการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เมษายน
เหตุที่หวั่นไหวก็เพราะ วันนี้คณะกรรมการการเลือกตั้งชุดของ พล.ต.อ.วาสนาเองก็ยังไม่มีความมั่นใจ
ไม่มั่นใจเพราะปัญหาเรื่ององค์ประชุมของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ปัญหาเรื่องการลงมติเพื่อจัดการงานในหน้าที่ของกรรมการการเลือกตั้งยังไม่คลี่คลาย
และเพราะเหตุแห่งความไม่เป็นกลาง จึงทำให้ตุลาการต้องการจะเปลี่ยนคณะกรรมการการเลือกตั้ง
วันนี้หนทางที่ดีที่สุดสำหรับ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ นายปริญญา นาคฉัตรีย์ และนายวีระชัย แนวบุญเนียร คือ การลาออก
วันนี้ หนทางที่ดีที่สุดของพรรคการเมืองคือ ให้ พล.ต.อ.วาสนา นายปริญญา และนายวีระชัย ลาออก
และวันนี้ หนทางที่ดีที่สุดสำหรับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งก็คือ ให้กรรมการการเลือกตั้งทั้ง 3 คน ลาออกจากตำแหน่ง
เพื่อเปิดทางให้คณะทำงานชุดใหม่เข้ามาเริ่มต้นฟื้นฟูวิกฤตการเมือง อันจะนำไปสู่การฟื้นฟูวิกฤตของประเทศต่อไป
หน้า 3<
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01col01040649&day=2006/06/04วิเคราะห์ประเด็นได้ชัดเจนดี