การเมืองไร้จิตสำนึกhttp://www.komchadluek.net/2008/06/30/x_colu_m003_209257.php?news_id=209257 เห็นกันทั้งเมืองแล้วว่าการเมืองบ้านเรานั้นยังจมปลักอยู่ในบ่อน้ำเน่า คนในวงการซีกรัฐบาลยังรักษาพฤติกรรม นิสัยดั้งเดิม ไม่ยอมพัฒนาตัวเอง หรือแสดงออกให้เห็นว่ามีจิตสำนึกเพียงพอที่จะแยกแยะความผิดชอบชั่วดีได้
ขนาดประชาชนชุมนุมกลางเมืองเป็นหมื่นเป็นแสนคน ยาวนานกว่า 1 เดือน นักการเมืองในวงจรอุบาทว์ก็ยังดันทุรังอุ้มชูพวกเดียวกัน มลทินติดตัวโสโครก ส่งกลิ่นเน่าโชยเหมือนซากศพจนน้ำยาอาบศพรักษาไว้ไม่ไหว
ก็ยังหาบหามกันไป ให้รอดจากการไม่ไว้วางใจในสภา รักษาหน้ากันไว้ หรือว่าเหม็นเน่าคละคลุ้งด้วยกัน ทำให้ไม่ได้กลิ่นแปลก แยกแยะไม่ออก
เมื่อเป็นเช่นนี้
ทำให้ชาวบ้านสรุปว่าการเมืองในสภาฯ เป็นเพียงพิธีกรรมไร้สาระ เปลืองน้ำเปลืองไฟฟ้า เมื่อคำอภิปรายของฝ่ายค้านไม่สามารถเจาะกะโหลกหนาของนักการเมืองมือฝักถั่วให้รู้สึกผิดชอบชั่วดี สำนึกบุญคุณชาติ
เรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นตำตาชาวบ้าน นักการเมืองกุมอำนาจยังหยาบหนา ดิ้นรนช่วยเหลือผู้อุปถัมภ์ เจ้านายเงิน ไม่เห็นแก่บ้านเมืองและประชาชน
เห็นหรือยังว่าเสียงข้างมากนั้น ไม่จำเป็นต้องถูกต้อง ถูกใจประชาชน! ความหวังว่าแกนนำรัฐบาลจะเปลี่ยนแปลงคณะรัฐมนตรียังริบหรี่ เพราะคิดอยู่แต่ว่าถ้าปรับใครออกเท่ากับยอมรับว่าฝ่ายค้านพูดถูก จำต้องให้อยู่ต่อไประยะหนึ่ง จนกว่าพวกที่มีคดีอาญาติดตัวจะโดนกระบวนการยุติธรรมเล่นงาน
พรรคย่อยยิ่งเกาะเหนียวหนับเหมือนปลิงดูดเลือด ด้านได้อายอด หลับหูหลับตา ยิ่งพวกนักการเมืองน้ำเน่าแก่พรรษา ก็ยิ่งน่าสะอิดสะเอียนกว่าเดิม
นักการเมืองยังปิดช่องจิตสำนึก เพราะต้องการรักษาผลประโยชน์ของกลุ่มตัวเอง ต่อให้อภิปรายเป็นเดือนๆ มีหลักฐานมาแสดงให้เห็นอย่างไร ก็ยังมีมือฝักถั่วหาบหามพวกเดียวกัน จะได้อยู่ยาวกอบโกยความมั่งคั่งต่อไป
แล้วจะมีความหวัง หรือทางเลือกอะไรให้ประชาชนอีกบ้าง!
ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป นักการเมืองมีมลทินไร้ยางอายด้านหน้าอยู่ต่อไปไม่แยแสคำครหานินทา หรือประชาชนรุมด่าชุมนุมขับไล่อย่างไรแล้ว บ้านเมืองย่อมเสี่ยงต่อความล่มจม เพราะกลุ่มอุบาทว์จะเร่งกอบโกยให้เร็วกว่าเดิม
เมื่อจำเป็นต้องไปสักวันหนึ่ง ขอให้มีทุนสะสมไว้กินยามสิ้นอำนาจ! นอกจากเราได้เห็นการโกงตัวเองในด้านความรู้ วุฒิการศึกษาแล้ว เรายังได้เห็นความกล้าหาญในการขายชาติซึ่งหน้า เพื่อประโยชน์ส่วนตัว กล้าติดสินบนกลางศาล ติดคุกตะรางยังมีคนเล่านิทานหมิ่นสติปัญญาชาวบ้าน
กรณีปราสาทพระวิหาร ทำให้เรานึกว่ามี ส.ส.กัมพูชามาพูดในสภาไทย แถมยังมีข้าราชการเขมรไปขึ้นศาลปกครอง อย่างนั้นแหละ หรือร้ายกว่านั้น เหมือนมีนักการเมืองเขมรเข้ามาบริหารกระทรวงการต่างประเทศ เกียรติยศ ศักดิ์ศรีของความเป็นชาติไทยไม่เหลือ เพราะพวกขี้ฉ้อต้องการผลประโยชน์ทางธุรกิจจากเพื่อนบ้าน กล้าเอาบ้านเมืองเราไปแลกนิ!