เปิดเอกสารรัฐบาลกัมพูชา เสนอเป็นมรดกโลก มีเนื้อที่ตามศาลโลกแถมคำพิพากษาศาลโลก

[Can ไทเมือง]

เปิดเอกสารรัฐบาลกัมพูชา เสนอประสาทพระวิหาร เป็นมรดกโลก ต่อ'ยูเนสโก้'
มติชน วันที่ 25 มิถุนายน 2551 เวลา 11:44:55 น.



http://www.matichon.co.th/flvmovie/Document/Temple-Cambodia.pdf

[Can ไทเมือง]

เขมรใช้ภาพ นายก รมต.ต่างประเทศ รองนายก ใส่ในเอกสาร

พร้อมแผยที่ฝรั่งเศสที่ใช้ในศาลโลกกำกับ

ในขณะที่ฝ่ายค้านบอกว่า แผนที่ประเทศไทยระวางนี้ ไม่ใช่เป็นทางการ

[คนไทยคนหนึ่ง]

สรุปว่า เหล่หลอกคนทั้งประเทศ

ทำไมมันกล้าขนาดนี้

[justy]

หนูไปเห็นหัวข้อนี้ที่ คม ชัด ลึก  แทบจะเป็นลมค่ะ

และไม่อยากอ่านรายละเอียดอะไรมันแล้ว

[คนไทยคนหนึ่ง]

อยากดูว่าหน้าไหนจะยกมือไว้วางใจเหล่

เสียดายที่รู้สึกว่าจะเป็นการลงคะแนนลับ ถ้าผ่านก็เหมาโหลทั้งพรรคที่สนับสนุนอยู่เลยว่า

เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการขายชาติครั้งนี้ งานนี้พรรคร่วมเหนื่อยแน่จะร่วมต่อดีหรือเปล่า

ถ้าร่วมต่อจะมีหน้ากลับไปเจอประชาชนในพื้นที่หรือเปล่า หาเสียงคราวหน้าก็จะถูกชี้หน้าว่า ไอ้พวกขายชาติ

สมัยหน้าจะได้กลับมาเหยียบสภาอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้

[นักปฏิวัติ]

1.   จดหมายของ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช มีถึงจอมพลสฤษฎิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ยืนยันว่า คำพิพากษาของศาลโลก ผิดทั้งข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายและความเป็นธรรม
   
http://www.matichon.co.th/news_title.php?id=2308

2.   ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๐๕ หลังจากศาลโลกตัดสินแล้ว ๒๐ กว่าวัน รัฐบาลไทยโดย ดร.ถนัด คอมันตร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้มีหนังสือไปยัง นายอูถั่น เลขาธิการสหประชาชาติ เพื่อประท้วงคำพิพากษาของศาลโลก โดยอ้างว่าคำพิพากษานั้นขัดต่อกฎหมายและความยุติธรรม
นอกจากนี้ ยังสงวนสิทธิที่ประเทศไทยจะเอาปราสาทพระวิหารกลับคนมาในอนาคตด้วย
   
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000072311

3.   ข้อบังคับของคณะกรรมการมรดกโลกข้อที่ 132.1 เรื่องการพิสูจน์สถานที่ ระบุว่า "ในกรณีที่เป็นพื้นที่ทับซ้อนซึ่งมีเขตแดนที่ไม่ชัดเจน ประเทศข้างเคียงจะต้องลงนามให้ความยินยอม คณะกรรมการมรดกโลกจึงจะรับพิจารณา"
   นอกจากนี้ยังมีข้อบังคับข้อที่ 135  ซึ่งระบุว่า "หากเป็นไปได้ ประเทศที่มีมรดก   โลกร่วมกันตามแนวชายแดน ควรเสนอขอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก   ร่วมกัน เพื่อสะดวกในการบริหารจัดการและพัฒนาพื้นที่ร่วมกันของ   ทั้งสองประเทศ" 
   
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=37636&catid=1

4.   "การจัดทำเขตอนุรักษ์นั้นจะเป็นเรื่องที่ไทยเสียดินแดน เนื่องจากการประกาศเขตอนุรักษ์จะต้องมีมาตรการทางกฏหมาย การก่อสร้างในเขตพัฒนาตามมา ถ้าไทยขึ้นทะเบียนร่วม เราเป็นเจ้าของพื้นที่ร่วมกันในฐานะดินแดนเรา ก็สามารถออกกฎหมายควบคุมอาคาร ห้ามก่อสร้างหรือ ดำเนินการกิจกรรมที่กระทบตัวปราสาทได้ แต่เมื่อกัมพูชาเป็นเจ้าของ กัมพูชาก็คือผู้กำหนด ซึ่งตอนนั้นจะเห็นชัดเจนว่า การเสียอธิปไตยคืออะไร เพราะดินแดนของเรา จะให้ใครมาสั่งว่าเราควรและไม่ควรทำอะไรเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง"
   
http://www.bangkokbiznews.com/2008/06/25/news_270347.php

5.   บทบัญญัติของประมวลกฎหมายอาญา
   มาตรา 119 ระบุว่า “ผู้ใดกระทำการใด ๆ เพื่อให้ราชอาณาจักรหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของราชอาณาจักร   ตกไปอยู่ภายใต้อำนาจอธิปไตยของรัฐต่างประเทศ หรือเพื่อให้เอกราชของรัฐเสื่อมไป ต้องระวางโทษ ประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต”
   คำอธิบายเพิ่มเติม
   มาตรา 119 อยู่ในหมวดความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมาย   อาญา เป็นเรื่องที่มีผู้กระทำการต้องมีเจตนาพิเศษหรือมูลเหตุชักจูงใจ และมีความผิด 2 กรณี คือ
   1. ทำให้ประเทศไทยต้องเสียดินแดนให้แก่ต่างประเทศ ตัวอย่างเช่น การก่อสงคราม การให้ความ   ช่วยเหลือแก่ข้าศึก การเป็นสายลับ หรืออะไรที่ร้ายแรงถึงขนาดที่จะทำให้ประเทศสูญเสียดินแดนไป   ให้แก่ต่างประเทศ
   2. ทำให้เอกราชของประเทศ คืออำนาจปกครองของประเทศ ต้องเสื่อมเสียไป

ข้อสรุปจากศาลไคฟง 
นายเหล่ต้องโทษอาญา ม.119 ด้วยเครื่องประหารหัวสุนัข ตาเหล่่

[jerasak]

หนูไปเห็นหัวข้อนี้ที่ คม ชัด ลึก  แทบจะเป็นลมค่ะ

และไม่อยากอ่านรายละเอียดอะไรมันแล้ว

เจ้านายสั่งมาน่ะครับ แต่เดี๋ยวคงต้ิองเปลี่ยนคำแถลงใหม่อีกรอบ 

[mebeam]

แปลกใจที่กัมพูชาเอาแผนที่ ที่เราใช้แนบคู่ไปด้วย
บอกให้เราด้วยเลย ว่าไทยเรายึดแผนที่ขอบเขตแค่ใหน ต่อ Unesco

[jerasak]

เพิ่งเจอข้อมูลเพิ่มเติมครับ เขมรวางแผนเอาปราสาทพระวิหารไปขายสัมปทานเรียบร้อยแล้ว 

==เขมรตกลงขายสัมปทาน ปราสาทพระวิหาร ให้ บ.เวียดนามไปแล้ว==
http://forum.serithai.net/index.php?topic=28601.0

[mebeam]

สิ่งที่ คุณนพดล เจรจาได้ เริ่มส่งผล เสียต่อรัฐบาลเขมรแล้ว 
แล้วรู้ไหมมันส่งผลดีกับไทยแค่ไหน  ถ้าเขมรยอมทำตามคุณนพดล 

เอ็นจีโอเขมร ออกแถลงการณ์ ชี้รบ.กัมพูชาตกหลุมพรางไทย
 19:04 น.


สภาเฝ้าระวังกัมพูชา (Cambodia Watchdog Council International) ได้ออกคำแถลงการณ์วันที่ 23 มิถุนายน 2008 เรื่อง การสูญเสียบูรณภาพดินแดน พื้นที่หมายเลข 3 ปราสาทเขาพระวิหาร โดยมีเนื้อหาสรุปว่า แผนที่ใหม่ที่รัฐบาลกัมพูชาส่งไปให้กับองค์การยูเนสโก มีข้อสังเกตเห็นว่า บูรณภาพดินแดนกัมพูชาในส่วนทิศตะวันตก และทิศเหนือของตัวปราสาท (พื้นที่หมายเลข 3) ได้สูญเสียไป และดูเหมือนว่ารัฐบาลกัมพูชากำลังตกหลุมพรางของประเทศไทย โดยเสนอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเฉพาะตัวปราสาท และบริเวณโดยรอบตัวปราสาทห่างออกมาเพียง 30 เมตรเท่านั้น โดยไม่ได้ผนวกพื้นที่ในส่วนของหมายเลข 3 เข้าไปด้วย
ในคำแถลงการณ์ ยังระบุอีกว่า รัฐบาลกัมพูชากำลังทำให้สูญเสียดินแดนไปให้กับประเทศไทย ในการยอมรับข้อเสนอให้เขียนแผนที่ขึ้นมาใหม่ และจากการที่ไม่ยอมผนวกเอาพื้นที่หมายเลข 3 ว่าเป็นดินแดนของกัมพูชา ซึ่งพื้นที่ตรงนี้จะเป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวจะขึ้นไปชมปราสาทเขาพระวิหารจากฝั่งประเทศกัมพูชา เนื่องจากพื้นที่หมายเลข 2 นั้น เป็นพื้นที่ลาดชันมากจนไม่สามารถที่จะขึ้น-ลง ได้

ทั้งนี้ สภาเฝ้าระวังกัมพูชาได้อ้างเอกสารของนายดี แกเร็ตต์ รองประธานคณะอนุกรรมาธิการพรมแดนกัมพูชาบอกให้ทราบว่า เมื่อปี 1962 ศาลโลก ณ กรุงเฮก ได้กำหนดใช้แผนที่ในกรณีปราสาทเขาพระวิหารขนาด 1 / 2,000 ซึ่งได้เก็บรักษาไว้ที่ศาลโลก และในสนธิสัญญาฝรั่งเศส-เซียม ปี 1904 และ 1907 ได้แจงไว้อย่างชัดเจนเกี่ยวกับพรมแดนทางบก และพรมแดนทางน้ำ ระหว่างประเทศกัมพูชา-ไทย โดยเฉพาะดินแดนตรงพื้นที่หมายเลข 3 นั้น เป็นของกัมพูชาอย่างแน่นอน ซึ่งตรงกันข้ามกับการกล่าวอ้างของไทยบางส่วนที่ว่า เส้นแบ่งพรมแดนตรงปราสาทเขาพระวิหารนั้น อยู่ตรงหน้าบันไดขึ้นปราสาท

“สังเกตเห็นว่า ประเทศไทย ไม่เคยที่จะกล้ารุกล้ำต่อบูรณภาพดินแดนของประเทศมาเลเซีย และประเทศพม่าเลยสักครั้ง เนื่องเพราะรัฐบาลของประเทศทั้งสอง มีความตั้งใจในอันที่จะปกป้องบูรณภาพดินแดนของตนสูงมาก จะมีก็แต่ประเทศกัมพูชาเท่านั้น ที่ประเทศไทยมักจะล่วงละเมิดต่อบูรณภาพดินแดนอยู่เนืองๆ และอีกอย่าง กรณีปราสาทเขาพระวิหารนี้ประเทศไทยไม่เคยที่จะกล้าเรียกร้องอย่างเป็นทางการบนเวทีโลกเลย แต่เขาก็มีความฝังใจในอันที่จะหาเรื่องประเทศกัมพูชาอยู่ตลอดมา นั่นแสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยมีเจตนารุกรานบูรณภาพดินแดนแขมร์ และปิดกั้นลมหายใจทางเศรษฐกิจของกัมพูชาที่มีรายได้มาจากด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะที่ปราสาทเขาพระวิหารแห่งนี้” คำแถลงการณ์ของสภาเฝ้าระวังกัมพูชาระบุ

ทั้งนี้ สภาเฝ้าระวังกัมพูชาได้เรียกร้องต่อรัฐบาลกัมพูชาขอให้ยกเลิกการใช้แผนที่ใหม่ แล้วเอาแผนที่ที่ศาลโลกใช้มาเสนอขอขึ้นทะเบียนปราสาทแทน และขอให้เสนอขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกเพียงลำพังฝ่ายเดียว
http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?lang=th&newsid=326742
 

 
 
 
 

[snowflake]

^
^

เราคนดี มีจริยธรรมสูงส่ง

จะปล่อยให้ รัฐบาลไทย ไปโกงเพื่อนบ้านได้ไง

ยอมไม่ได้เด็ดขาด เสียชื่อประเทศชาติหมด

[Caocao]

มันคงพูดได้อีกว่า คนไทยมันทำกันเอง โถ่ๆๆๆๆ ใครมันเอาหัวคะแนนฮุนเซนมานั่งในสภาหว่า

[snowflake]

เค้าจะขายของเค้า เราอย่าไปช่วยขาย

ปล่อยให้รกร้างอย่างนั้นแหละ อย่าไปแตะต้อง


สงสัยอยู่หน่อยว่า ถ้าเรื่องนี้ทำสำเร็จตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว

หรือคนมาสานต่อเป็นรัฐบาลประชาธิปัตย์ มันจะวุ่นวายยุ่งขิง อย่างนี้หรือเปล่า

 

[เช็คบิล]

หนูไปเห็นหัวข้อนี้ที่ คม ชัด ลึก  แทบจะเป็นลมค่ะ

และไม่อยากอ่านรายละเอียดอะไรมันแล้ว

ข่าวมันพิมพ์ไปก่อนล่วงหน้าน่ะ ที่ทราบคือ ทางบัวแก้ว มันส่งทีมทนายไปที่ศาลปกครองเพื่อค้านว่าไม่มีอำนาจในการพิจารณา แต่ศาลปกครองบอกว่า เรื่องนี้อยู่ในอำนาจที่จะพิจารณา

ทางบัวแก้วก็หน้าแตกกลับไป

ลองมาคิดสิว่า ทำไม ทางบัวแก้ว ถึงกระ***นกระหือรือ แบบนั้น? น่าเศร้าใจจริงๆ กระทรวงนี้ 

[เช็คบิล]

เค้าจะขายของเค้า เราอย่าไปช่วยขาย

ปล่อยให้รกร้างอย่างนั้นแหละ อย่าไปแตะต้อง


สงสัยอยู่หน่อยว่า ถ้าเรื่องนี้ทำสำเร็จตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว

หรือคนมาสานต่อเป็นรัฐบาลประชาธิปัตย์ มันจะวุ่นวายยุ่งขิง อย่างนี้หรือเปล่า

 

ถ้ามุมมองของคุณเห็นว่าเรื่องนี้เป็นผลงานละก็ คิดผิด อย่ามองในมุมแพ้ชนะอย่างเดียวในทางการเมือง ที่จะใช้เรื่องนี้มามองแบบนั้น

[snowflake]

Decision: 31 COM 8B.24
The World Heritage Committee,

1. Having examined Documents WHC-07/31.COM/8B and WHC-07/31.
COM/INF.8B.1,

2. Having taken note of the following statement by the Chairperson of
the World Heritage Committee which has been agreed to by the Dele-
gation of Cambodia and the Delegation of Thailand:

“The State Party of Cambodia and the State Party of Thailand are in
full agreement that the Sacred Site of the Temple of Preah Vihear has
Outstanding Universal Value and must be inscribed on the World Heritage
List as soon as possible. Accordingly, Cambodia and Thailand agree that
Cambodia will propose the site for formal inscription on the World Heritage
List at the 32nd session of the World Heritage Committee in 2008 with
the active support of Thailand.

They also agree that the site is in need of urgent attention and requires
international financial and technical assistance and close cooperation be-
tween them.
They further agree that it is essential to strengthen conservation and
management at the site including by the development of an appropriate
management plan, as required under paragraph 108 of the Operational
Guidelines, that will ensure the future protection of this property.

They understand, following consultation with the World Heritage Centre,
that financial and technical assistance for the development of a manage-
ment plan will be available through the World Heritage Centre’s Interna-
tional Assistance programme.”

3. Recognizes that the Sacred Site of the Temple of Preah Vihear
is of great international significance and has Outstanding Universal Value
on the basis of criteria (i), (ii) and (iv), agrees in principle that it should
be inscribed on the World Heritage List and notes that the process for
inscription is in progress;

4. Requests the State Party of Cambodia to strengthen conservation
and management at the site by making progress in developing an ap-
propriate management plan, which progress will enable its formal inscrip-
tion by the Committee at its 32nd session in 2008;

5. Further requests the State Party of Cambodia to submit a progress
report to the World Heritage Centre, by 1 February 2008.

Decisions report (Christchurch, 2007) p.154-155.
http://whc.unesco.org/archive/2007/whc07-31com-24e.pdf

[Cherub Rock]

เค้าจะขายของเค้า เราอย่าไปช่วยขาย

ปล่อยให้รกร้างอย่างนั้นแหละ อย่าไปแตะต้อง


สงสัยอยู่หน่อยว่า ถ้าเรื่องนี้ทำสำเร็จตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว

หรือคนมาสานต่อเป็นรัฐบาลประชาธิปัตย์ มันจะวุ่นวายยุ่งขิง อย่างนี้หรือเปล่า

 

แนวทางการต่อรองของไทย ยันให้ขึ้นทะเบียนร่วมกัน มาตั้งแต่ต้น
มีสมเด็จเหล่นี่แหละ เข้ามาปุ๊บก็กลับลำปั๊บ

กลายเป็น active support ให้เค้าขึ้นฝ่ายเดียวเฉยเลย

[mebeam]

      ประเด็นข้อพิพาท พศ.2505  ปราสาทเขาพระวิหาร นั้น
จริงๆ แล้วควรเป็นข้อพิพาท เส้นเขตแดนมากกว่า ว่าของใครถูก เส้นสันปันน้ำขอบผาของไทยหรือเส้นคูน้ำที่ฐานเนิน ของฝรั่งเศษ
      เพราะถ้าตัดสินเรื่องเขตแดนได้แล้ว
ปราสาทเขาพระวิหาร ก็จะตกไปอยู่ในการครอบครอง ของผู้มีกรรมสิทธิ์โดยอัตโนมัติ

     แต่เขมรกลับโฟกัสไปที่ ปราสาท เพราะเชื่อว่าถ้าสืบ ประเด็นปราสาท ย่อมได้เปรียบจากหลัก
ฐานที่มีอยู๋ ไทยพลาดที่ไม่ยอมโฟกัสไปที่แผนที่ เส้นพรหมแดนที่ถูกผิด  ถ้านำสืบกันในเฉพาะแง่แผนที่
อาจทำให้ไทยเป็นฝ่ายมีชัยชนะ

      พอศาลโลกตัดสินให้ปราสาท เป็นของกัมพูชา ดังหลักฐานที่มี แต่ไม่ยอมตัดสิน เส้นพรหมแดนระหว่างประเทศ
เพราะถือว่าเป็นการตัดสินคนละกรณี 
     
     ทำให้ไทยต้องยอมเฉือนเขตแดนบริเวณตัวปราสาทให้กัมพูชา เหมือน แหลมสามเหลี่ยมโดนแบ่งครึ่ง และยังยืนยันในอธิปไตยในพื้นที่ ที่เหลืออยู่
ถามว่า เคยมีสักครั้ง ที่กัมพูชายอมรับในแผนที่ และอธิปไตยตรงนี้ของไทย อย่างเป็นทางการ 
คำตอบคือไม่มี  เพราะกัมพูชายืนยันใช้แผนที่ของฝรั่งเศษ ที่ลากเส้นเขตแดน ที่ฐานเนิน ยึดเขตแดนแหลม 3 เหลี่ยมทั้งหมด

     จุดนี้ถือว่าเป็นระเบิดเวลา ถ้าเรากับกัมพูชา เจรจากันไม่ลงตัว ต้องให้ศาลโลกตัดสินเส้นพรหมแดนอีกครั้ง  เราจะมีหลักฐานเท่ากับกรณีคดีปราสาท
ส่วนกัมพูชานอกจากจะมีหลักฐานเท่าเดิมแล้ว ยังมี คำตัดสินกรรมสิทธิ์ปราสาทเขาพระวิหาร แนบให้ศาลโลกไปด้วย  ซึ่งผลการตัดสินจะเป็นไป
ยังไง จะแย้งคำตัดสินเดิมที่เคยตัดสินไว้มั๊ย คงไม่มีใครยืนยันได้ชัดเจน

    ถ้า นายนพดล สามารถทำให้กัมพูชา ยื่นจดทะเบียนมรดกโลก โดยใช้หลักฐานปัจจุบัน  จะเป็นการที่กัมพูชายอมรับว่ามีแผนที่ ของไทยตามแนว L 7017
และยอมรับว่ามีอธิปไตย ของไทยในพื้นที่ครึ่งสามเหลี่ยม โดยการต้องเปลี่ยนเขตแนวการยื่น โดยไม่รุกล้ำอธิปไตยของไทย
 ถือว่าเป็นการยอมรับว่ารับรู้ทั้งแผนที่เรา และอธิปไตยเราอย่างเป็นทางการ ( แต่ก็ต้องว่ากันอีกที )

    ถามว่าไทยเรายอมสละอธิปไตยเหนือปราสาท เขาพระวิหารไหม  คำตอบคือไม่ เพราะ เราเคยค้านในการรุกอธิปไตยของเราไว้  และบีบบังคับให้กัมพูชา
ต้องจดทะเบียนเฉพาะตัว ปราสาทจริงๆ ตามคำตัดสินโลก ( ศาลโลกตัดสินให้ท่านได้ปราสาทไป ท่านก็จดเฉพาะตัวปราสาท เรายอมเพราะท่านถือคำตัดสินไว้ )
จะเห็นได้ว่า ที่เราได้สนับสนุนกัมพูชา นั้นแท้จริงแล้วเราไม่ได้สนับสนุนอะไรเลย  กัมพูชาเสียอีก ยอมรับเราได้เกินคาด 


     

[mebeam]

สำหรับใครที่ จุดกระแส  L 7017  ไม่เป็นเส้นแดนไทย
ระวัง จะกลายเป็น ราชอาณาจักรไทย ไม่มีจุดยืนเรื่อง เส้นแดนเอาไปยันกับกัมพูชานะ
จะกลายเป็นว่า ไอ้ทีขีดกันไว้ ขีดกันเล่นๆ ไม่เป็นทางการ คนในประเทศเรายังไม่รับกันเลย
ถ้ามีความจำเป็นต้องขึ้นศาลโลกอีกครั้ง จะอายเค้า 

[mebeam]

เอาเรื่องยุ่งๆ มาฝากอีก 

เขมรอาจจะรู้ตัวว่า การปฏิบัติตามคำสั่งศาลโลกไม่สมบูรณ์ครบถ้วน...ส่งเรื่องให้ศาลโลกวินิจฉัยคำพากษาเพิ่มเติม


กัมพูชายื่นเรื่องต่อ องค์การยูเนสโก ขอขึ้นทะเบียน “เขาพระวิหาร” เป็น “มรดกโลก” โดยไม่บอกกล่าวฝ่ายไทย เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว

        แต่ผู้แทนไทยในที่ประชุมประท้วง เพราะองค์ประกอบ ของเขาพระวิหารไม่ได้มีแต่ ปราสาทเขาพระวิหาร ซึ่งอยู่ในเขตกัมพูชา เท่านั้น แต่ยังมีโบราณสถานอีกหลายอย่าง ประกอบกันเป็นเขาพระวิหาร เช่น ภาพแกะสลักนูนต่ำ สระตราว สถูปคู่ เป็นต้น อยู่ใน เขตไทย มรดกโลกที่สมบูรณ์จะต้องมีองค์ประกอบครบถ้วน

        เมื่อไทยท้วงด้วยเหตุผลเช่นนี้ ยูเนสโกก็เลื่อนการพิจารณาออกไป โดยให้ไทยกับกัมพูชาไปตกลงกันให้เรียบร้อยก่อน และนำเข้าพิจารณา ในที่ประชุมที่รัฐควีเบค ประเทศแคนาดา ในเดือนหน้านี้ศาลโลก พิพากษาให้ ปราสาทเขาพระวิหาร เป็นของกัมพูชาในปี 2505 โดยบอกแต่เพียงว่า “ปราสาทเขาพระวิหารอยู่ในอาณาเขต ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา” แต่ไม่ได้บอกว่ามีอาณาเขต กว้างยาวแค่ไหน กระทรวงมหาดไทยของไทยจึงกำหนดพื้นที่ไม่เกิน 150 ไร่ ให้เป็นเขตปราสาทเขาพระวิหาร โดยมีช่องบันไดหัก ให้ฝ่ายเขมรต่ำมีทางขึ้นปราสาท เขาพระวิหารได้

ที่นี้ ตายหยังเขียดเลย คนไทย ฝ่ายค้าน นักวิชาการ มันพูดจนทางเขมรตื่นตัวว่า ประเทศไทย ปฏบัติตามคำพิพากษาศาลโลกครบถ้วนหรือไม่....

เหตุเพราะนักวิชาการฝ้ายไทย ที่คัดค้านการยื่นมรดกโลกของกัมพูชาว่า ไม่สามารถยื่นได้ เพราะไม่ครบองค์ประกอบของความเป็นปราสาทเขาพระวิหาร มันไม่ใช่ตัวปราสาทเท่านั้น...แต่ต้องรวมถึงบริเวณ องค์ประกอบอื่นๆไปด้วย เช่น สระตราว บันไดทางขึ้น สถูปคู่...ซึ่งล้วนอยู่ในพื้นทีทับซ้อน พื้นที่พิพาทเดิมทั้งสิ้น....แต่ไทยกลับขีดเส้นให้ไปตรงใกล้ตัวอาคารปราสาทเท่านั้น...

แต่ความเป็นปราสาทเขาพระวิหาร มันมีมากกว่านั้น ศาลโลกไม่มีระบุว่า BUILDING ตัวอาคาร...แต่พูดถึง temple ความเป็น temple  มันไม่ได้แค่ปราสาทบนเขาเท่านั้น...วัด ก็ต้องมีโสถ์ กำแพงวัด สระในวัด...เจดีย์ สถูปต่างๆ....ทีนี้หล่ะตายหยังเขียด....

เขมรจะยื่นเรียกร้องใหม่ให้ศาลโลกพิจารณาว่า ไทย ปฏิบัติตามคำพิพากษาครบถ้วนหรือไม่...จากที่นักวิชาการไทยมันพูดยอมรับเองว่า...ปราสาทเขาพระวิหารไม่ใช่แค่ตัวปราสาท....

คราวนี้แทนที่จะเสียแค่ตรงที่ตั้งปราสาท ตามที่ทหารตีเส้นเอาไว้ ตามที่รัฐบาลพยายามจะกันเอาไว้......จะกลายเป็นมากกว่านั้น...เพราะกัมพูชาจะเอาคำพิพากษาศาลโลกเดิมนี่หล่ะครับ...มาบังคับใช้ให้ตนเองได้กลับคืนอย่างสมบูรณ์....

แบบนี้หล่ะครับ...ค้านจนเสียหายได้เรื่องแน่ๆ....อีกหนึ่งผลงานของ ปชป. และนักวิชาการที่ไม่คิดหน้าหลังของไทย....

และพยานที่จะยืนยันว่า ตัวปราสาทเขาพระวิหาร...ไม่ครบถ้วน คือ ยูเนสโก้...นั่นเอง...

เขมรก็จะหันมาเอาเรื่องไทย....อ้าววววว.....ทำไมคืนไม่ครบ...เพราะคำพิพากษาระบุว่า ให้ปราสาทเขาพระวิหาร...นี่เป็นอธิปไตยของเขมร...มันยังมีมากกว่านี้นี่...ไม่ใช่แค่ตัวปราสาท...

ทีนี้หล่ะ มันกระโตกกระตากจนได้เรื่อง ได้เสียดินแดนเพิ่มสมใจมันหล่ะครับ..

เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย....เล่นไม่รู้เรื่อง...รักประเทศกันจนน้ำลายหก

แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 51 11:23:10

จากคุณ : minimalist - [ 27 มิ.ย. 51 11:22:00 A:58.8.118.13 X: ] (ราชดำเนิน )

[jerasak]

อ่านเนื้อหาที่คุณ mebeam เอามาลงก็พบว่ากระบวนการบิดเบือนเริ่มทำงานแล้ว
แต่ลองสังเกตดูสิครับ การบิดเบือนตั้งอยู่บนพื้นฐานข้อมูลที่ฝ่ายคัดค้านรัฐบาล
นำมาเปิดเผย คือประเทศไทยยังมีสิทธิตามที่สงวนไว้เมื่อ ปี พ.ศ. 2505
ผมต้องออกไปข้างนอกแล้ว ถ้าอยากคุยกันต่อลองไปตั้งกระทู้รอไว้นะครับ 

[คนไทยคนหนึ่ง]

ท่าทีของประเทศไทย ต่อการเสนอ ปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก

ไม่ว่าฝ่ายไหนก็ควรทำให้เป็นแนวเดียวกัน เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศไทย

1. ต้องคัดค้านการจดทะเบียนมรดกโลกของ เขมรแต่เพียงฝ่ายเดียว ไม่ว่าจะด้วยวิธีการอะไรก็ตาม

2. ต้องผลักดันให้มีการจดร่วม

3. ถ้าเขมรไม่ยอมจดร่วมก็ไม่ต้องจด

ต้องให้มีการปักปันเขตแดนมรบริเวณนั้นให้ชัดแจ้ง โดยยึดสันปันน้ำ ตามสนธิสัญญาระหว่างไทย-ฝรั่งเศส

ไม่เข้าใจ ไทยถือไพ่เหนือเขมรในทุกๆด้าน แต่ทำไมเวลาเจรจาถึงเสียเปรียบทุกครั้ง เขมรจะได้ผลประโยชน์มากมายกับการ

ได้ขึ้นทะเบียนเป้นมรดกโลกของปราสาทพระวิหาร