ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
18-04-2024, 08:04
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ใครจะสนับสนุน ให้ไทย ร้องเรียนศาลโลกว่า การตัดสินที่แล้วไม่ถูกต้อง 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ใครจะสนับสนุน ให้ไทย ร้องเรียนศาลโลกว่า การตัดสินที่แล้วไม่ถูกต้อง  (อ่าน 2281 ครั้ง)
เบื่อไอ้เหลี่ยม
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 389


« เมื่อ: 24-06-2008, 10:34 »

เมื่อก่อน เศษฝรั่ง ทำแสบ มาขีดเส้นเอาปราสาทพระวิหารไป แต่เขาเป็นของเรา มีที่ไหนในโลกเป็นแบบนี้กันครับ  เขมรไม่ได้เช่าเขาพระวิหารมาสร้างปราสาทนะครับ  ต้องเริ่มก่อนว่า เขตแดนของไทยควรเป็นอย่างไรก่อนครับ  การวัดเขตแดนต้องใช้มาตรฐานเหมือนกันทั่วโลก  ถ้าไม่มีสนธิสัญญาระบุไว้ถึงการแบ่งอาณาเขต  ต้องใช้เขตธรรมชาติมาแบ่ง เช่น สันเขาที่สูงที่สุด  หรือร่องน้ำที่ลึกที่สุดเป็นต้น
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว มาดูเขาพระวิหารกัน  ส่วนที่สูงที่สุดจะสุดขอบเขาที่เป็นหน้าผา ใช่ไหมครับ ดังนั้น ส่วนที่ต่ำเป็นหน้าผา เป็นของเขมร  ส่วนที่เหนือหน้าผาขึ้นมา จะมีทั้งพระวิหาร บันได้ และสิ่งก่อสร้างอื่นๆ จะต้องเป็นเขตไทย ใช่ไหมครับ
มันก้แค่นี้เอง  แล้วสิ่งก่อสร้างที่อยู่ในเขตประเทศไหน ก้เป็นของประเทศนั้นใช่ไหมครับ เพราะว่าไทยไม่ได้ให้สัมประทานเขมรมาปลูกปราสาท บนเขาใช่ไหมครับ จะมาอ้างว่าปราสาทเป็นของเขมรได้ยังไง
   ส่วนที่ นายใจ อึ้งภากร  ไอ้สันดานที่มันบอกว่ามันไม่ใช่คนไทย  และบอกว่าปราสาทเป็นของเขมรนั้น เหตุผลของมันฟังทุเรสสิ้นดี  มันอ้างว่าเป็นศิลปขอม ดังนั้นจึงเป็นของเขมรถ้าเราปลูกบ้านทรงฝรั่งเศษ  บ้านนั้นก้เป็นของฝรั่งเศษ ใช่ไหม ไอ้สันดาน
  อาณาจักร ไทย แผ่ขยายไปถึงไหน ของที่อยู่ในอาณาจักร ต้องเป็นของชนชาวไทยทุกคน จะเป็นของต่างชาติได้อย่างไร  มรึงเอาอะไรมาพูด มาคิดหรือ ไอ้สันดาน ไอ้ขายชาติ ไอ้ ใจ(ทราม) อึ้งภากร
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #1 เมื่อ: 24-06-2008, 10:37 »

ฮ่าๆๆๆ...แค่นี้คนในปชป.ก็เจ็บแปล๊บแล้วที่ว่าความแล้วแพ้เขมรจนเสียดินแดนน๊ะ ถ้าทนายความของไทยฉลาด...มันก็ไม่เป็นแบบนั้นหรอก  นี่พอแพ้แล้วจะมาพาลเอาดื้อๆแบบนี้ ไม่อายสังคมโลกเค้าเหรอ?


ไอ้พวกขี้แพ้เอ๊ย!!
บันทึกการเข้า
เบื่อไอ้เหลี่ยม
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 389


« ตอบ #2 เมื่อ: 24-06-2008, 10:46 »

การอ้าง ว่าเคยมีธงฝรั่งเศษไปอยู่ที่เขาพระวิหาร แล้วจะเป็นของฝรั่งเศษฟังไม่ขึ้น
ลองเทียบดูว่า สมัยนาซีเยอรมัน ไปรุกรานฝรั่งเศษ มีธงของเยอรมัน อยูไปแทบทุกพื้นที่ของฝรั่งเศษ มีรูปถ้ายมากมาย  แล้วจะอ้างว่า พื้นที่นั้นเป็นของเยอรมันหรือไม่
ที่เรายอมเพราะเหตุ จำนนด้วยอำนาจของฝรั่งเศษตอนนั้น มันยังคับโลก แต่ปัจจุบันไม่ใช่แล้วครับ  สถานการณ์เปลี่ยนไป  ไทยก็มีศักดิ์ศรีในเวทีโลก  มากกว่ากัมพูชามากมายครับ  และใครๆก็รู้ว่าฝรั่งเศษเป็นผู้รุกรานไทย  เหมือนกับนาซีเยอรมัน รุกรานฝรั่งเศษ มิใช่หรือ

สำหรับไอ้ emporor ผมจะไม่พูดด้วย เพราะ มรึงไม่ใช่คนไทย  มรึงเป็นกบฏ
บันทึกการเข้า
มารุจัง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,761


@^____^@


« ตอบ #3 เมื่อ: 24-06-2008, 10:56 »

น่าแปลก
หากเขมรมั่นใจว่า ปราสาทพระวิหารเป็นของเขา
เหตุใดจึงต้องมาให้ฝั่งไทยเซ็นยอมรับร่วมด้วยไม่ทราบคะ
ก็แจ้งจดไปเลยสิ ไม่ต้องมาให้เหล่มันเซ็นยินยอมยอมรับ

และที่น่าแปลก เมื่อไทยจะขอแจ้งจดบริเวณบันได
ทำไมชาวเขมรถึงได้ไม่ยอมกันเสียขนาดนั้น
ในเมื่อมันเป็นของไทย ไ่ม่เกี่ยวกับเขมร แล้วเขมรจะมาโวยวายทำไม

พวกรัฐบาลที่ชอบอ้างคำตัดสินศาลโลก ชอบอ้างว่าเป็นของเขมรไปแล้ว
น่าจะต้องตอบคำถามนี้
บันทึกการเข้า


ประชาธิปไตย มิได้จบอยู่แค่การเลือกตั้ง
ปล.รูปจากเวบ ผจก.
see - u
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,370


.......... I'm not Supergirl


« ตอบ #4 เมื่อ: 24-06-2008, 11:12 »

* เอาจากใจจริงเลยนะ ............  !!

   เรื่องผืนดิน  ดิฉัน  พอเข้าใจถึงจะไม่เห็นด้วยก็ตาม  ก็คงต้องค้านกันต่อไป

   ที่ผ่านมา .... เป็น 10 ปี แล้วที่ชาวเขมรกว่า  500  คนบุกรุกพื้นที่มาตั้งรกรากในเขตุแดนไทย  .........

   โดยมีกลุ่มคนชาวศรีษะเกษ .... ออกมาขับไล่  ( หารูปดูได้จากหลาย ๆ กระทู้  )

   ทุกวันนี้ .... กรณี เขาพระวิหาร  กลายเป็นเรื่องถกเถียงเพราะไอ้เหล่มันไปมุบมิบทำสัญญา

   แต่สิ่งที่  ดิฉัน  ยังคาใจอยู่ คือ เรื่อง ....  ก๊าซธรรมชาติและน้ำมันในทะเล  ที่พวกมันไปเจอ

   กรณีนี้มันเชื่อมโยงกันค่ะ .............  ใครช่วยอธิบายเพิ่มเติมได้ไหม ???
บันทึกการเข้า

    " I  will  unforgive  you  to  do  the  bad  thing  like  this. "   

                           

                        The  fox  changes  his  skin  but  not  his  habits.   *

                 Superman ( It's Not Easy )   >>  http://www.ijigg.com/songs/V2B7G4GPD
    
    
   "  กฏหมายต้องเดินหน้าเอาผิดต่อคนไม่ดี  ........  ไม่ใช่ปล่อยให้คนไม่ดีมากล่าวเอาโทษกฏหมาย  "

                                     
                                          
dragon baby
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 379



« ตอบ #5 เมื่อ: 24-06-2008, 11:18 »

เอาคืนหรือไม่เอาคืน ไม่เป็นไร   

แต่ที่นายกหอกหัก พูดแล้วพูดอีก ว่า มันเป็นของเขมร แล้ว นี่สิ .... คนเขมรมันคงหัวร่อ งอหาย ว่านายกไทย แม.ร่งกระจอก shiphai
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #6 เมื่อ: 24-06-2008, 11:26 »

สำหรับไอ้ emporor ผมจะไม่พูดด้วย เพราะ มรึงไม่ใช่คนไทย  มรึงเป็นกบฏ

You're totally non sense and funny.


"ปลุกกระแส อารมณ์คลั่งชาติอย่างไร้เหตุผล กรณี 'เขาพระวิหาร' ประวัติศาสตร์จักจารึกนามท่านว่า...

โดย คุณ ชูวัส ฤกษ์ศิริสุข
ที่มา เวบไซต์ ประชาไท
23 มิถุนายน 2551

การไล่รัฐบาลของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยรอบใหม่ กว่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมา นับได้ว่า มาถึงจุดที่เลอะเทอะ และสะท้อนการอับจนปัญญาของกลุ่มพันธมิตรฯ อย่างถึงที่สุด โดยเฉพาะการเอาเรื่องเขาพระวิหารมาเล่น อันเป็นประเด็นเกี่ยวกับเขตแดนหรือ ‘ชาติ’ โดยตรง

เรื่องเขาพระวิหาร เด็กรุ่นใหม่ๆ ต่างรับรู้เป็นอย่างดีว่า “ปราสาทเป็นของกัมพูชา ทางขึ้นเป็นของไทย” และรู้กระทั่งว่า ไทยเสียเขาพระวิหาร อันเนื่องมาจากการพิพาท และการยอมยุติข้อพิพาทด้วยเวทีศาลโลก ด้วยหลักฐาน การอ้างอิง และการชั่งตวงวัดน้ำหนักต่างๆ ซึ่งหมายความว่า โลกทั้งใบนี้ รับรู้ข้อยุติตามนั้น

เอาเป็นว่า เขาพระวิหารเป็นของกัมพูชานั้นเป็น ‘ข้อเท็จจริงอันเป็นที่ยุติ’ ที่ยากจะเถียง ส่วนพื้นที่ทับซ้อน ก็คือพื้นที่ทับซ้อน ซึ่งหมายความว่า จะต้องเจรจาตกลงกันต่อไประหว่างไทยกับกัมพูชา

จริงเรื่องเขตแดนนั้น ต้องถือว่า กองทัพไทยเป็นเจ้าของประเด็นนี้โดยตรง การขอขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกนั้น พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ก็ออกมานั่งแถลงเองว่า เป็นแต่เพื่ยงเฉพาะตัวปราสาท (ตัวปราสาทซึ่งเราเองก็รับแล้วว่าเป็นของเขา คนไทยส่วนใหญ่ก็รับรู้เรื่องนี้)ไม่เกี่ยวกับพื้นที่ทับซ้อน แล้วกลุ่มพันธมิตรฯ กำลังเล่นอะไรกันอยู่

ต่อให้ใช้ประเด็นนี้ไล่รัฐบาลได้สำเร็จ เราก็หนี ‘ข้อเท็จจริง’ ไปไม่ได้ ประเด็นนี้ จึงเป็นประเด็นเพื่อปลุกกระแส และอารมณ์คลั่งชาติอย่างไร้เหตุผลที่สุด สะเทือนความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านอย่างที่สุด เพราะจินตนาการไปทางไหน ก็ไม่มีทางได้เขาพระวิหารมาเป็นของไทยได้

เมื่อข้อเท็จจริงว่า ปราสาทเขาพระวิหารเป็นของกัมพูชา พื้นที่ทับซ้อนก็ยังเป็นพื้นที่ทับซ้อน อะไรที่มันเคยเป็น ก็เป็นอยู่อย่างนั้น แล้วจะมีประเด็นเรื่อง ใครจะไปแลกประโยชน์ด้วยการอ้างจากเรื่องนี้ได้อย่างไร เพราะกัมพูชาก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา เพราะเขาขอปราสาทของเขาเอง เป็นมรดกโลกไม่ใช่ปราสาทของเรา

อันที่จริง จินตนาการไปทางไหน กัมพูชาก็ต้องเป็นเพื่อนบ้านของเรา จินตนาการตรงไหน เขาพระวิหารก็ต้องอยู่ตรงนั้น ไม่มีใครยกไปไหนได้ การไม่ทะเลาะกับเพื่อนบ้าน ก็ทำให้ใช้ประโยชน์จากเขาพระวิหารได้ทั้งสองฝ่าย (โดยที่เราไม่ต้องดูแลรักษา)

พูดง่ายๆ ไม่ใช่ของเรา แต่เราใช้ประโยชน์ได้ ตรงกันข้าม ยิ่งหยิบเรื่องนี้มาเล่น ต่อให้ไล่รัฐบาลได้ เราเองก็อาจจะไม่มีโอกาสได้ไป แม้กระทั่งเหยียบบันไดขั้นแรกของตัวปราสาทเขาพระวิหารด้วยซ้ำ แล้วจะเป็นของเราได้อย่างไร พูดอีกอย่างก็คือ ต่อให้คิดว่าเป็นของเรา เราก็อาจจะใช้ประโยชน์ไม่ได้

การหยิบประเด็นอันไร้เหตุผลนี้มา จึงสะท้อนว่า กลุ่มพันธมิตรฯ เอง อับจนปัญญาอย่างที่สุด ที่จะหาจุดอ่อนของรัฐบาลมาเป็นจุดขาย (ทั้งๆ ที่มีจุดอ่อนมากมาย ที่แม้จะ ‘ขาย’ ไม่ได้แต่ก็เป็นประโยชน์ต่อประชาชน) จึงเลือกที่จะเล่นกับอารมณ์ความรู้สึกของประชาชน และการลงเอยของอารมณ์ความรู้สึก มันก็อาจจะจบลง เหมือนที่นักการเมืองในกัมพูชาเคยเอาประเด็นดาราไทยไปบิด เพื่อปลุกกระแสคลั่งชาติ จนกระทั่งบุกเผาสถานทูตไทยในกัมพูชามาแล้ว

น่าสงสัยว่า ธงของกลุ่มพันธมิตรฯ คืออะไร หลังจากที่ประเด็นเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ถูกกัน และมีสัญญาณห้ามอย่างชัดเจนจากทุกฝ่ายมาแล้ว มาบัดนี้ มาเปิดประเด็นว่าด้วยเรื่อง ‘ชาติ’ อย่างไร้เหตุผล และจงใจปั่นที่อารมณ์ความรู้สึก ใช่หรือไม่ ที่ยังคงเป้าหมายไว้ที่การจลาจล และใช้ประชาชนที่นิยมตนเป็นเหยื่อ

หากเป็นเช่นนั้นแล้ว ใช่หรือไม่ ที่ความขลาดเขลาของคนไม่กี่คน เกิดขึ้นจากการไม่ชอบหน้านักการเมือง ไม่เชื่อมั่นนักการเมือง และไม่เชื่อมั่นในรัฐธรรมนูญ กฎกติกา กลไก และการตรวจสอบใดๆ อีกแล้ว ทั้งๆ ที่ตัวเองมีส่วนสร้างมากับมือ

ใช่หรือไม่ว่า ความขลาดเขลาของคนไม่กี่คน เกิดขึ้นจากความกลัวว่า ‘เขา’ จะเอาคืน จนหลงลืมว่า ตนเคยเป็นคนมีเหตุมีผลอย่างไร กระทั่งทำให้ต้องเห็นแก่ตัวอย่างที่สุด โดยเอาชีวิตประชาชนมาเดิมพัน

มนุษย์ต้องมีจินตนาการ และผมยังฝัน ฝันว่า คนบางคนในกลุ่มพันธมิตรฯ จะเรียกร้องความกล้าครั้งสุดท้ายในชีวิตเพื่อให้คนได้จดจำความกล้าของเขา ด้วยการเดินลงจากหลังเสือ

ไม่เช่นนั้น หากเหตุการณ์ในวันข้างหน้าบานปลาย กลายเป็นการจลาจล เกิดความรุนแรง ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากฝ่ายไหน ไม่ว่าใครจะกระทำ ไม่ว่าใครจะผิด นอกจากรัฐบาลที่ผิด และต้องรับผิดชอบแล้ว คนที่ ‘ปั่น’ เหล่านี้ ก็หนีความรับผิดชอบ และการถูกตราหน้าว่า ‘มือเปื้อนเลือด’ ไปไม่พ้นจนชั่วลูกชั่วหลาน"
บันทึกการเข้า
(ลุง)ถึก สไลเดอร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,026



« ตอบ #7 เมื่อ: 24-06-2008, 11:29 »

กรณีเขาพระวิหาร เริ่มจะบานปลาย ไปๆมาๆก็ไม่ใช่ใครที่ไหน
เป็นฝีมือของทักษิณ กับลิ่วล้อที่อยู่ใน รบ.ชุดนี้ทั้งนั้น
   ผลประโยชน์ของพวกมัน ถึงขนาดยอมงุบงิบขายอธิปไตยของชาติไทยให้เขมรไปแล้ว
ขนาดจอมพลคนชั่วอย่างจอมพลสฤษดิ์ยังรักชาติรักแผ่นดิน มากกว่าพวกเหี้-ยทั้งหลายเลยครับ

 
บันทึกการเข้า

(ลุง)ถึก สไลเดอร์
moon
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 780


« ตอบ #8 เมื่อ: 24-06-2008, 11:31 »

ค้านครับ งานนี้ต้องค้านหัวชนฝา หาทุกวิถีทางให้ได้คืนมาก่อน

ยังจะดีกว่ามาบอกว่าเป็นของเขาแล้ว โดยที่ยังไม่ได้ทำอะไรต่อเลย

คนโง่อย่างผม พอได้อ่านข้อมูลมากขึ้น ยังพอจะทราบเลยว่ามันน่าจะมีช่องทาง


ถ้าผมเป็นไอ้เหล่นะ เป้ามันอยู่ตรงที่เราจะต้องยกให้เขมรเพื่อพ่อมัน โอเคเห็นเป้าอยู่

แต่วิธี จะหาทางคัดค้านก่อน ทำให้ดูว่าเราได้ทำแล้ว แต่ว่ามันไม่ไดคืนมารหอก

แล้วค่อยหาวิธีสมยอมกับเขมรต่อไป (ตั้งอยู่บนสมมติฐานที่ว่าเรามั่นใจจากเอกสารที่อยู่ตรงหน้าว่ายังไงก็ค้านไม่ได้หรอก)

นี่มันยกให้เขาไปก่อนเลย ไม่ได้แสดงสปิริตในความเป็นคนไทยเลยสักนิดเดียว

ได้แต่ออกมาประสานเสียงกันว่า เป็นของเขมรแล้ว ไปดูสิ ศาลโลกตัดสินแล้วเมื่อปี พ.ศ. 2505

รัฐบาลนี้ไม่ได้ทำให้ประชาชนสัมผัสหรือรับรู้ได้เลยว่า พวกมันมีสำนึกรับผิดชอบแผ่นดิน มากน้อยเพียงใด
บันทึกการเข้า
ใบไม้ทะเล
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,321


In politics stupidity is not a handicap


« ตอบ #9 เมื่อ: 24-06-2008, 11:38 »

ทำไมเราถึงปล่อยเวลาให้ล่วงเลยมาถึง 40 ปีค่ะ ทำไมก่อนหน้านั้นเราถึงไม่ทำ เหมือนกับการแบ่งเขตแม่น้ำโขงนั่นแระ ทำไมมาใช้เส้นแบ่งที่เขตแดนไทย ปรากฏพื้นที่น้ำเป็นของประเทศอื่นไป ถ้าฟ้องปราสาท สิ่งนี้ก็ควรฟ้องด้วย

เมื่อวานนั่งฟังท่านอาจารย์เลคเชอร์ปราสาท ทำให้รู้ว่า ฝรั่งเศลเขาก็ละอายเหมือนกันค่ะ ที่ไปตัดสินแบบนั้นเพราะเขาไม่ได้เห็นพื้นที่ปราสาทจริง แต่ไปตัดสินเอากับแผนที่แนวสันเขาเท่านั้น ไม่รู้จะโกรธดีไหม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-06-2008, 11:41 โดย ใบไม้ทะเล » บันทึกการเข้า

立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #10 เมื่อ: 24-06-2008, 11:50 »

บริบทในสมัยโน้นประเทศเจ้าอาณานิคมต้องช่วยเหลือประเทศลูก
และในสมัยนั้นไทยเองก็ยังไม่มีประเทศมหาอำนาจสนับสนุนมากพอ
ผลจึงเป็นอย่างที่เห็น

แต่ปัจจุบันสถานการณ์เปลี่ยน
ประเทศลูกที่สั่งไม่ได้ดั่งใจ ตัดขาดไร้ผลประโยชน์
เขมรที่ทำผิดกฎ ขยายดินแดนล่วงล้ำเข้ามาในแผ่นดินไทยอย่างชัดแจ้ง
สังคมข่าวสารที่กระจายได้เร็ว และมีมากพอที่จะโต้แย้งอะไรได้
เป็นโอกาสอันดีที่จะโต้แย้ง แต่นายกไทยเสือกไปยกให้เขาไป

 
บันทึกการเข้า
เช็คบิล
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 580



« ตอบ #11 เมื่อ: 24-06-2008, 12:30 »

ผมไม่นึกฝันเลยว่า นายนพดล จะทำอะไรแบบนี้ และเป็นข้อสงสัยคือ ทำไมต้องรีบทำ ถ้าไม่ทำมันจะตายไหม? นี่แหละ อาจเป็นการสวมบทบาททนาย และ รมต.ต่างประเทศ เพื่อบางคน?
บันทึกการเข้า
Scorpio6
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,210


Man on Mission *เสี่ยวฯ>สันติภาพ*


« ตอบ #12 เมื่อ: 24-06-2008, 12:37 »

กรณีเขาพระวิหาร เริ่มจะบานปลาย ไปๆมาๆก็ไม่ใช่ใครที่ไหน
เป็นฝีมือของทักษิณ กับลิ่วล้อที่อยู่ใน รบ.ชุดนี้ทั้งนั้น
   ผลประโยชน์ของพวกมัน ถึงขนาดยอมงุบงิบขายอธิปไตยของชาติไทยให้เขมรไปแล้ว
ขนาดจอมพลคนชั่วอย่างจอมพลสฤษดิ์ยังรักชาติรักแผ่นดิน มากกว่าพวกเหี้-ยทั้งหลายเลยครับ

 

เราจะเรียกว่า "หอกนั้นคืนสนอง"ได้ป่าว ลุง
บันทึกการเข้า



คิดจะล้มระบอบทักษิณ ต้องอ่านใจเนวินและเพื่อน
บล็อกเสี่ยวไทบ้าน*แวะเยี่ยมRepublican Collage ของคุณสุธา ชันแสง*
http://www.oknation.net/blog/thaibaan/2008/03/26/entry-1
"ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนและในฐานะอย่างไร จงตรองหาว่า จะมีทางใช้ชีวิต
ให้เป็นประโยชน์ในทางใดบ้าง เมื่อตั้งใจคิดถึงมันแล้วก็จะพบเสมอ
ไม่ว่าอยู่ที่ใด เมื่อพบทางแล้วจงลงมือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์"
personal jesus
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 632



« ตอบ #13 เมื่อ: 24-06-2008, 13:37 »

ฮ่าๆๆๆ...แค่นี้คนในปชป.ก็เจ็บแปล๊บแล้วที่ว่าความแล้วแพ้เขมรจนเสียดินแดนน๊ะ ถ้าทนายความของไทยฉลาด...มันก็ไม่เป็นแบบนั้นหรอก  นี่พอแพ้แล้วจะมาพาลเอาดื้อๆแบบนี้ ไม่อายสังคมโลกเค้าเหรอ?


ไอ้พวกขี้แพ้เอ๊ย!!


ไอ้เหรี้ยเอ๊ยยย อายสังคมโลก มรึงยังไม่อาย
ที่เสือกเขียนออกมาอย่างนี้ ไอ้ฝรั่งที่เป็นศาลโลกไม่ใช่โคตรพ่อ
โคตรแม่  หรือว่ามันเป็นโคตรพ่อโคตรแม่มึง ??
ถ้ารื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ เกรงว่าศาลโลกชุดปัจจุบัน
หรือชุดหลังจาก ความอัปยศ ก็คงอดสูเช่นกัน
ไม่ได้รู้สึกรู้สมเลยนะมรง ดีแต่เห่า หาว่าคลั่งชาติ
ส่วนมึงจัดรวมไปอยู่ ในพวกขายชาติ

เห็นมึงเห่าว่า ชื่นชมความเก่งไอ้ทักษิณ
แค่นั้นเหรอ ไอ้ริยำ มึงชื่นชมความเหรี้ยของมันด้วย
เพราะมรึงก็คือเหรี้ย พันธุ์เดียวกัน



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-06-2008, 13:48 โดย personal jesus » บันทึกการเข้า

The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #14 เมื่อ: 24-06-2008, 13:48 »


ไอ้เหรี้ยเอ๊ยยย อายสังคมโลก มรึงยังไม่อาย
ที่เสือกเขียนออกมาอย่างนี้ ไอ้ฝรั่งที่เป็นศาลโลกไม่ใช่โคตรพ่อ
โคตรแม่  หรือว่ามันเป็นโคตรพ่อโคตรแม่มึง ??

เห็นมึงเห่าว่า ชื่นชมความเก่งไอ้ทักษิณ
แค่นั้นเหรอ ไอ้ริยำ มึงชื่นชมความเหรี้ยของมันด้วย
เพราะมรึงก็คือเหรี้ย พันธุ์เดียวกัน



เปิดรายงานลับ ย้อนรอยเขาพระวิหาร 



รายงานฉบับนี้เป็นรายงานล่าสุดลงวันที่ 25 มกราคม 2551สรุปถึงความก้าวหน้าในการเสนอเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ของประเทศไทย - กัมพูชา ที่นำเสนอต่อนายอดุล วิเชียรเจริญ ประธานคณะกรรมการมรดกโลกแห่งชาติ ว่าด้วยอนุสัญยาคุ้มครองมรดกโลก ซึ่งกล่าวถึงความเป็นมาเป็นทั้งหมดของเรื่องนี้ รวมถึงความพยายามของไทยที่ขอเจรจากับกัมพูชาหลายครั้ง แต่ได้รับการปฏิเสธ

เรื่องเดิม

            เมื่อ 25 มีนาคม 2547 เวลา 15.11 น. นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ประชุมร่วมกับนาย ซก อาน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา โดยประชุมกันที่กรุงเทพฯ เรื่อง การร่วมพัฒนาปราสาทพระวิหาร พร้อมแถลงข่าวร่วม ภายหลังการประชุมโดย นายสุรเกียรติ์ กล่าวว่าที่ประชุมมีข้อสรุป ดังนี้

            1.จะดำเนินโครงการให้เป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพไทย-กัมพูชา โดยร่วมมือและอยู่บนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกัน

            2.อนุรักษ์ปราสาทพระวิหาร ให้เป็นมรดกโลกของมนุษย์ชาติ โดยจะร่วมกับ UNESCO พัฒนา หลังจากจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกแล้ว

            3.จะแก้ไขปัญหาสำคัญๆ และแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าทันที โดยฝ่ายกัมพูชาจะตั้งคณะอนุกรรมการ 2 คณะ เหมือนกับไทย และจำมีการประชุมระหว่างคณะอนุกรรมการไทย-กัมพูชา ต่อไป เพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ เช่น การตั้งร้านค้าที่มีระเบียบ ปัญหาสิ่งแวดล้อม การเก็บกู้ทุ่นระเบิด

            4.จะดำเนินโครงการพัฒนาร่วมปราสาทพระวิหารให้เข้ากับโครงการในกรอบอื่นๆ เช่น ยุทธศาสตร์ความร่วมมือเศรษฐกิจ ประเทศลุ่มแม่น้ำอิรวดี เจ้าพระยา แม่โขง (ACMECS)

            5.ไทยและกัมพูชายินดีให้ประเทศที่ 3 องค์การระหว่างประเทศ และภาคเอกชนมาพัฒนาร่วมกัน

            6.การพัฒนาปราสาทพระวิหารจะไม่กระทบกับการปักปันเขตแดน

            7.กำหนดแผนปฏิบัติการให้เป็นขั้นตอน โดยจะมีการสำรวจรายละเอียดเพื่อหายอดงบประมาณในการดำเนินการโครงการทั้งหมดว่าจะใช้จำนวนเท่าไร อย่างไรก็ตาม หาก UNESCO รับจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกแล้ว จะไม่เป็นเรื่องยากที่จะมีการบูรณะและพัฒนา

        ความร่วมมือตามมติที่ประชุมร่วมคณะรัฐมนตรีไทย-กัมพูชา เรื่องการพัฒนาร่วมปราสาทพระวิหาร

       คณะกรรมการร่วมเพื่อพัฒนาเขาพระวิหาร (ฝ่ายไทย) มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธาน  ตามที่ได้รับมอบหมายโดยมติคณะรัฐมนตรีร่วมฯ ได้เริ่มดำเนินงานแล้ว ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2546 โดยในส่วนของกัมพูชา ได้มีการจัดตั้ง คณะกรรมการระหว่างกระทรวงเพื่อเตรียมการพัฒนาพื้นที่ช่องตาเฒ่าและเขาพระวิหาร โดยมี นายสก อาน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เป็นประธาน

       ฝ่ายไทย ได้จัดตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 2 ชุดได้แก่ คณะอนุกรรมการวางแผนการพัฒนาร่วเขาพระวิหาร โดยมีรองปลัดกระทรวงมหาดไทย (นายบัณฑิต โสตถิพลาฤทธิ์) เป็นประธาน และคณะอนุกรรมการเพื่อบูรณปฏิสังขรณ์ปราสาทเขาพระวิหาร โดยมีนายเตช บุนนาค อดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศในฐานะนักประวัติศาสตร์เป็นประธาน

       คณะกรรมการร่วมเพื่อพัฒนาปราสาทพระวิหาร ไทยและกัมพูชา ได้จัดประชุมกลุ่มย่อยโดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและนาย สก อาน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เป็นประธานการประชุมร่วมกันเมื่อ 25 มีนาคม 2547 ซึ่งทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงเกี่ยวกับหลักการพื้นฐานในการพัฒนาร่วมเขาพระวิหาร ทั้งนี้ โครงการบูรณปฏิสังขรณ์ปราสาทพระวิหารจะเริ่มดำเนินการภายหลังจากที่ UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกแล้ว

        การเยือนกัมพูชาของนายกรัฐมนตรีไทย

            เมื่อ 15 ตุลาคม 2549 พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางไปเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ สรุปสาระสำคัญผลการเยือนได้ดังนี้

            นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจที่ถูกต้องถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เพื่อยืนยันถึงความสัมพันธ์ที่แนบแน่นระหว่างประเทศทั้งสอง ซึ่งไทยให้ความสำคัญกับกัมพูชาในฐานะที่มีพรมแดนติดกันและเป็นมิตรประเทศที่สำคัญของไทย

            โดยนายกรัฐมนตรีแจ้งให้ทราบว่า ความผูกพันที่รัฐบาลไทยได้มีกับกัมพูชาที่ผ่านมา ทั้งในกรอบความร่วมมือแบบทวิภาคี และความร่วมมือภายใต้กรอบ ACMECS ประเทศไทยจะคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงประเด็นความร่วมมือกับฝ่ายกัมพูชาอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด

อย่างไรก็ดี ฝ่ายกัมพูชา ได้แสดงความวิตกกังวลต่อการให้ความช่วยเหลือด้านการสร้างเส้นทางคมนาคมของไทย ได้แก่ การสร้างถนนหมายเลข 48 (เกาะกง-สแรอัมเปิล) ถนนหมายเลข 67 (สะงำ-อันลองเวง-เสียมราฐ) ถนนหมายเลข 68 (โอเสม็ด-สำโรง-กรอลัน)

            นายกรัฐมนตรีจึงได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรับไปพิจารณาและดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไป อย่างไรก็ตามฝ่ายไทยจะให้การช่วยเหลือในการก่อสร้างและซ่อมแซมถนนหมายเลข 48 กับ 67 ให้เสร็จสิ้นก่อน แล้วจึงจะพิจารณาให้ความช่วยเหลือในการก่อสร้างถนนหมายเลข 68 ต่อไป

           นอกจากนี้ ได้มีการเจรจาเกี่ยวกับการปักปันเขตแดน โดยฝ่ายกัมพูชาได้หยิบยกขึ้นมาระหว่างการหารือ ซึ่งนายกรัฐมนตรียืนยันว่า การตัดสินใจของรัฐบาลจะอยู่บนพื้นฐานของหลักฐาน จะไม่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ ทั้งต่อประชาชนชาวไทยและกัมพูชาอย่างแน่นอน

            ทั้งนี้ ฝ่ายกัมพูชาได้เสนอให้มีการพบปะระหว่าง ไทย ลาว และกัมพูชา เพื่อร่วมกันพัฒนาในพื้นที่บริเวณสามเหลี่ยมมรกตต่อไป สำหรับการเปิดช่องทางที่บริเวณช่องตาเฒ่า เขาพระวิหาร นั้น ไทย พร้อมที่จะร่วมพัฒนาเขาพระวิหารกับกัมพูชา และยินดีที่กัมพูชาขอจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกแล้ว

        ผลการเยือนประเทศไทยของรัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา

            เรื่องการจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชา นาย ฮอร์ นำ ฮง รองนายกรัฐมนตรี.และรัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา ได้หารือข้อราชการกับรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2550 ในประเด็นเรื่องความพยายามของทางการกัมพูชาในการยื่นขอจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกจะได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวในการประชุมสมัยที่ 31 ซึ่งจะจัดขึ้นที่ นครไครสท์เชิร์ช นิวซีแลนด์ ในปลายมิถุนายน 2550

            การหารือเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวในระหว่างการเยือนครั้งนี้เป็นไปอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งทั้งสองฝ่ายยังมีท่าทีและความเห็นที่แตกต่างกันในหลายประเด็น เนื่องจากมีประเด็นด้านกฎหมาย เขตแดนและอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งการเดินทางมาหารือกับฝ่ายไทยของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาครั้งนี้กระชั้นกับช่วงเวลาประชุมคณะกรรมการมรดกโลกมาก

             แม้ว่าก่อนหน้านี้ฝ่ายไทยได้พยายามขอพบฝ่ายกัมพูชาเพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้หลายครั้ง แต่ได้รับการปฏิเสธ ยังผลให้การหารือระหว่างไทย-กัมพูชา ในครั้งนี้ไม่อาจกระทำได้ในรายละเอียดซึ่งมีความละเอียดอ่อนได้อย่างครบถ้วน

            รัฐมนตรีต่างประเทศของไทยจึงได้มอบหมายให้ ดร.มนัสพาสน์ ชูโต ที่ปรึกษารัฐมนตรีต่างประเทศในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนกัมพูชาที่จะเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการมรดกโลกที่นครไครสท์เชิร์ส เพื่อหาข้อสรุปที่เป็นยอมรับได้ทั้งสองฝ่าย
บันทึกการเข้า
personal jesus
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 632



« ตอบ #15 เมื่อ: 24-06-2008, 13:50 »



ไม่อ่านที่มึงนำมาแปะหรอก
กูมีปัญญาหาอ่านได้ ถุ๊ยยย
 
บันทึกการเข้า

Familie
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 369



« ตอบ #16 เมื่อ: 24-06-2008, 14:04 »

ตามความเข้าใจของผมที่อ่านๆมา
เรายอมปฏิบัติตามคำตัดสินของศาลโลก แต่เราไม่ยอมรับในคำตัดสิน
เราถึงได้มีการสงวนสิทธิที่จะคัดค้านในภายหน้าได้ ถ้าเรามีหลักฐาณเพียงพอ
คำตัดสิน ก็ไม่เด็ดขาด ยังมีหลายประเทศที่เข้าข้างเรา
เขาถึงแนะนำให้เราใช้วิธีสงวนสิทธิไว้
แล้วใยสิทธิอันนี้เราถึงไม่ไช้ หรืออ้างออกมาคัดค้าน
ตอนที่กัมพูชายื่นเรื่อง

บันทึกการเข้า


บรรพบุรุษ ของไทย แต่โบราณ      ปกบ้าน ป้องเมือง คุ้มเหย้า
เสียเลือด เสียเนื้อ มิใช่เบา           หน้าที่เรา รักษา สืบไป
ลูกหลาน เหลนโหลน ภายหน้า      จะได้มี พสุธา อาศัย
อนาคต จะต้องมี ประเทศไทย       มิยอมให้ ผู้ใด มาทำลาย
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #17 เมื่อ: 24-06-2008, 14:07 »

ตามความเข้าใจของผมที่อ่านๆมา
เรายอมปฏิบัติตามคำตัดสินของศาลโลก แต่เราไม่ยอมรับในคำตัดสิน
เราถึงได้มีการสงวนสิทธิที่จะคัดค้านในภายหน้าได้ ถ้าเรามีหลักฐาณเพียงพอ
คำตัดสิน ก็ไม่เด็ดขาด ยังมีหลายประเทศที่เข้าข้างเรา
เขาถึงแนะนำให้เราใช้วิธีสงวนสิทธิไว้
แล้วใยสิทธิอันนี้เราถึงไม่ไช้ หรืออ้างออกมาคัดค้าน
ตอนที่กัมพูชายื่นเรื่อง


ช่วยตอบหน่อยครับว่าถ้าไทยเราไม่ปฏิบัติตามในคำพิพากษาของศาลโลก....แล้วทำไมเราถึงใช้กระบวนการไต่สวน/พิพากษาคดีนี้ผ่านศาลโลกครับ?
บันทึกการเข้า
เบื่อไอ้เหลี่ยม
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 389


« ตอบ #18 เมื่อ: 24-06-2008, 18:26 »

ผมขอยืนยันว่า ถึงเวลาแล้วที่คนไทยทั้งมวล จะต้องลุกขึ้นมาสะสาง เพื่อให้เกิดความถูกต้อง ตามมาตรฐานสากลเสียที
เราไม่ได้ด้อยไปกว่า ไอ้เศษฝรั่ง ที่ทำกับเราแบบนั้นมาก่อน  แบ่งแยกดินแดนของเรา แล้วยังมาขีดเส้นแบ่งเขตแบบตามใจกรู
แล้วคุณจะเห็นด้วยกับผมไหม  ถ้าเห็นด้วย มายืนยันในกะทู้นี้ได้เลยครับ
บันทึกการเข้า
เบื่อไอ้เหลี่ยม
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 389


« ตอบ #19 เมื่อ: 24-06-2008, 19:05 »

ทำไม TPBS จึงตัดการอภิปราย ของคุณ พีพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ซึ่งกำลังลำดับเหตุการณ์ทั้งหมด แล้วไปเอาของเก่ามาเปิดครับ  บอกด้วย
ช่วงนี้สำคัญมากครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-06-2008, 19:19 โดย เบื่อไอ้เหลี่ยม » บันทึกการเข้า
เบื่อไอ้เหลี่ยม
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 389


« ตอบ #20 เมื่อ: 24-06-2008, 19:12 »

ให้ดู พีรพัน สาลีรัฐวิภาค เอาข้อมูลมาอภิปราย  เห็นว่าเราถูกโกงแน่นอน และไอ้ เหล่ เป็นทาส เขมร เอาชาติเราไปยกให้เขมร อย่างลุกลี้ลุกรน  อย่างมีนัยสำคัญ
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #21 เมื่อ: 24-06-2008, 19:41 »

* เอาจากใจจริงเลยนะ ............  !!

   เรื่องผืนดิน  ดิฉัน  พอเข้าใจถึงจะไม่เห็นด้วยก็ตาม  ก็คงต้องค้านกันต่อไป

   ที่ผ่านมา .... เป็น 10 ปี แล้วที่ชาวเขมรกว่า  500  คนบุกรุกพื้นที่มาตั้งรกรากในเขตุแดนไทย  .........

   โดยมีกลุ่มคนชาวศรีษะเกษ .... ออกมาขับไล่  ( หารูปดูได้จากหลาย ๆ กระทู้  )

   ทุกวันนี้ .... กรณี เขาพระวิหาร  กลายเป็นเรื่องถกเถียงเพราะไอ้เหล่มันไปมุบมิบทำสัญญา

   แต่สิ่งที่  ดิฉัน  ยังคาใจอยู่ คือ เรื่อง ....  ก๊าซธรรมชาติและน้ำมันในทะเล  ที่พวกมันไปเจอ

   กรณีนี้มันเชื่อมโยงกันค่ะ .............  ใครช่วยอธิบายเพิ่มเติมได้ไหม ???


มันเชื่อมโยงกันเพราะทั้งกรณีปราสาทพระวิหาร และกรณีอาณาเขตทางทะเล
(ที่มีแหล่งปิโลเลียมอยู่ในนั้น) มีปัญหาพิพาทจากแผนที่ขี้โกงของฝรั่งเศส
ที่เขมรพยายามโกงไทยต่อ

กรณี ปราสาทพระวิหาร เขมรฟ้องไทยต่อศาลโลกว่าฝรั่งเศสโกงแล้วไทยไม่ค้าน
ดังนั้นเขมรจึงได้รับสิทธิการโกงต่อ และสุดท้ายศาลโลกก็ช่วยโกง

เรื่องอาณาเขตทางทะเลเรื่องยังไม่จบ เพราะรัฐบาลไทยยังไ่ม่ยอมรับ(หรือเปล่า)
กับแผนที่ขี้โกง ที่ผ่าอ่าวไทยแบบประหลาด

ทีนี้มีข่าวปูดออกมาจากบุคคลระดับสูงในกัมพูชา ว่ารัฐบาลไทยมีการเคลื่อนไหว
จะเอาปราสาทพระวิหารยกให้เขมร แลกกับสิทธิทางทะเล หรือหนักกว่านั้นคือ
อาจยกให้เขมรไปทั้งหมด โดยมีผลประโยชน์ในสัมปทานปิโตรเลียมในทะเล

และก็มีข่าวลือต่อไปอีกว่า คนหน้าเหลี่ยมจะมีส่วนได้สัมปทานปิโตรเลียมในนั้น
โดยมีสัมปทานบ่อนกาสิโนในที่ต่างๆ ให้ด้วยเป็นของแถม
สรุปข่าวก็คงได้ประมาณนี้แหละครับ คุณ see-u  
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
西施无情
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 456


ไซซีไ้ร้ใจ


« ตอบ #22 เมื่อ: 24-06-2008, 21:27 »

เป็นเพราะทนายเราเก่งค่ะ

ว่าความให้ท่านพ่อจนชนะ
บันทึกการเข้า

我愛你, 陈一冰,
KILL...ER
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 330



« ตอบ #23 เมื่อ: 24-06-2008, 21:34 »

มันเชื่อมโยงกันเพราะทั้งกรณีปราสาทพระวิหาร และกรณีอาณาเขตทางทะเล
(ที่มีแหล่งปิโลเลียมอยู่ในนั้น) มีปัญหาพิพาทจากแผนที่ขี้โกงของฝรั่งเศส
ที่เขมรพยายามโกงไทยต่อ

กรณี ปราสาทพระวิหาร เขมรฟ้องไทยต่อศาลโลกว่าฝรั่งเศสโกงแล้วไทยไม่ค้าน
ดังนั้นเขมรจึงได้รับสิทธิการโกงต่อ และสุดท้ายศาลโลกก็ช่วยโกง

เรื่องอาณาเขตทางทะเลเรื่องยังไม่จบ เพราะรัฐบาลไทยยังไ่ม่ยอมรับ(หรือเปล่า)
กับแผนที่ขี้โกง ที่ผ่าอ่าวไทยแบบประหลาด

ทีนี้มีข่าวปูดออกมาจากบุคคลระดับสูงในกัมพูชา ว่ารัฐบาลไทยมีการเคลื่อนไหว
จะเอาปราสาทพระวิหารยกให้เขมร แลกกับสิทธิทางทะเล หรือหนักกว่านั้นคือ
อาจยกให้เขมรไปทั้งหมด โดยมีผลประโยชน์ในสัมปทานปิโตรเลียมในทะเล

และก็มีข่าวลือต่อไปอีกว่า คนหน้าเหลี่ยมจะมีส่วนได้สัมปทานปิโตรเลียมในนั้น
โดยมีสัมปทานบ่อนกาสิโนในที่ต่างๆ ให้ด้วยเป็นของแถม
สรุปข่าวก็คงได้ประมาณนี้แหละครับ คุณ see-u  

555555555555 มั่วเข้าไส้ดีจริงๆ จับแพะชนแกะมั่วไปหมด

นี่หมายความว่า เขมรอยากได้ ปราสาทนี่จนตัวสั่นระริกกกก
ยอมทุกอย่างเพื่อให้ได้มา ใครเอามามอบให้ได้นี่ จะกำนัลให้ด้วย สัมปทานก๊าซในทะเล งั้นเหรอ 555555555
บันทึกการเข้า

จงภาคภูมิใจในความเป็นไพร่กระฎุมพี
เบื่อไอ้เหลี่ยม
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 389


« ตอบ #24 เมื่อ: 24-06-2008, 22:59 »

ไม่ใช่หรอกขี้เลอะ  ฮุนเซนต้องการเรื่องนี้เพื่อเอาชนะฝ่ายตรงข้าม ซึ่งไอ้นพดวยก็ยังบอกว่า ถ้าพูดไปเขมรอาจมีปัญหา  จึงต้องปิดลับไม่ให้คนไทยรู้
ครวยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ครับบบบบบบบบบบบบบบบ
ส่วนเรื่องไปหาแดกกะฮุนเซนน่ะ มันก็ร่วมมือกันแดกชาติเขมรกับฮุนเซน ส่วนไอ้เหลี่ยมและพรรคพวก ก็ช่วยกันแดกผลประโยชน์ชาติไทย  เรียกว่า win-winไง ใช่ไหม ไอ้ทาสแม้ว ขายชาติ
บันทึกการเข้า
เบื่อไอ้เหลี่ยม
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 389


« ตอบ #25 เมื่อ: 26-06-2008, 22:44 »


   
 
 
   
สมัชชาประชาชนจังหวัดศรีสะเกษ หนุนกัมพูชาปิดยาวเขาพระวิหาร ชี้ระยะยาวเป็นผลดีต่อประเทศไทย
 

 
 
ศรีสะเกษ - สมัชชาประชาชนฯศรีสะเกษหนุนกัมพูชาปิดยาว “เขาพระวิหาร” ชี้ เป็นผลดีต่อไทยในระยะยาว เชื่ออีกไม่นานชาวกัมพูชาและเจ้าหน้าที่เชิงเขาพระวิหารจะประสบปัญหาขาดแคลนอาหาร เครื่องอุปโภคบริโภค เหตุต้องซื้อจากฝั่งไทย ที่ “ผามออีแดง” เผยเครือข่ายพันธมิตรฯและชาวศรีสะเกษมีมติเคลื่อนพลชุมนุมใหญ่ทวงคืนเขาพระวิหาร-ขับไล่ชุมชนชาวกัมพูชาออกจากเขตแดนไทย 27 มิ.ย.นี้ ซัดผู้ว่าฯ-แก๊ง ส.ส.ศรีสะเกษ “รักชาติแต่ปาก”
       
       วันนี้ (26 มิ.ย.) นายอรุณศักดิ์ โอชารส ประธานสมัชชาประชาชนจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า การที่ขณะนี้ประเทศกัมพูชาได้สั่งปิดด่านผ่านแดนประตูทางขึ้นเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ อย่างไม่มีกำหนดเพราะไม่พอใจที่ประชาชนชาวไทยเคลื่อนไหวชุมนุมเรียกร้องทวงคืนเขาพระวิหารและผลักดันขับไล่ชาวกัมพูชาที่รุกล้ำเขตแดนไทยเข้ามาตั้งชุมชนสร้างบ้านเรือน ร้านค้า วัดและถนน อยู่บริเวณเชิงเขาพระวิหาร เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น
       
       รัฐบาลไทยและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องไม่ควรที่จะไปเจรจาเรียกร้องให้เปิดประตูเขาพระวิหารเพื่อเพิ่มความสำคัญให้ฝ่ายกัมพูชามากจนเกินไป เหมือนกับพฤติกรรมของ นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยที่ทำตัวเสมือนเป็นทนายความแก้ต่างให้กับกัมพูชาอยู่ในขณะนี้
       
       ทั้งนี้ พวกเราเห็นว่าควรที่จะให้ประเทศกัมพูชาปิดประตูทางขึ้นเขาพระวิหารตลอดไป เพราะอีกไม่นานประชาชนชาวกัมพูชาและเจ้าหน้าที่ของกัมพูชาที่มาปฏิบัติหน้าที่ประจำอยู่ในพื้นที่เชิงเขาพระวิหาร ฝั่งกัมพูชา จะประสบปัญหาขาดแคลนอาหาร น้ำดื่ม เครื่องอุปโภคบริโภค เนื่องจากเครื่องอุปโภคบริโภคทุกอย่างล้วนมาจากพ่อค้าแม่ค้าคนไทยที่นำไปขายให้ที่บริเวณผามออีแดง ด้านฝั่งประเทศไทยทั้งสิ้น
       
       “การที่กัมพูชาปิดประตูเขาพระวิหารแม้จะทำให้แม่ค้าชาวไทยเสียรายได้บ้าง แต่ก็เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติส่วนรวมและคนไทยทุกคนในระยะยาว” นายอรุณศักดิ์ กล่าว
       
       นายอรุณศักดิ์ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 27 มิ.ย.นี้ สมัชชาประชาชน จ.ศรีสะเกษ และองค์กรเครือข่ายพันธมิตรฯ รวมทั้งประชาชนชาวศรีสะเกษได้มีมติแล้วว่า จะร่วมกันเดินทางไปชุมนุมใหญ่ที่บริเวณเชิงเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อทวงคืนเขาพระวิหาร และขับไล่ชาวกัมพูชาที่รุกล้ำเขตแดนไทยออกไปจากเชิงเขาพระวิหาร พร้อมจะทำการยื่นหนังสือประท้วงและเรียกร้อง เป็นภาษากัมพูชาให้กับรัฐบาลกัมพูชาและประชาชนชาวกัมพูชาได้รับทราบด้วย
       
       สำหรับกรณีพื้นที่ทับซ้อนบริเวณเขาพระวิหารนั้น พวกเราเห็นว่าไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อนแต่อย่างใดเพราะตามแผนที่ไทยที่ยึดสันปันน้ำ และหน้าผาเป็นเส้นแบ่งเขตแดนตามหลักสากลแล้วบริเวณดังกล่าวเป็นเขตแดนของประเทศไทยอย่างชัดเจน ซึ่งบริเวณเป้ยตาดีบนเขาพระวิหาร นั้นเป็นแหล่งต้นน้ำที่ไหลลงไปสู่ห้วยขะยูงลำห้วยสายสำคัญของ จ.ศรีสะเกษ ดังนั้น การยึดเอาสันปันนี้ตามหลักสากลของการแบ่งเขตแดนจึงถือได้ว่า เขาพระวิหารเป็นของไทย
       
       ส่วนการที่ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และ ส.ส.ศรีสะเกษ ไม่ได้ออกมาเคลื่อนไหวช่วยชาวศรีสะเกษในการทวงคืนเขาพระวิหารและผลักดันชาวกัมพูชาให้ออกไปจากเขตแดนไทยนั้น ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่กรณีที่พากันนิ่งเฉยไม่ออกมาขับเคลื่อนร่วมกับชาวศรีสะเกษนั้นพวกเราเห็นว่าเป็นการกระทำที่เรียกได้ว่า “รักชาติแต่ปาก” ซึ่งประชาชนชาวศรีสะเกษจะต้องร่วมกันพิจารณาทบทวนในเรื่องนี้ต่อไป
       
 
 
 
 
 
ดีครับ สนับสนุนครับ
บันทึกการเข้า
คิคิ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 271



« ตอบ #26 เมื่อ: 27-06-2008, 05:58 »

ระอากับไอ้คำว่า" พวกคลั่งชาติ" จัง

เพราะพวกนี้คงมีแผลจากที่พวกมันเป็นพวกคลั่งเหลี่ยม และคลั่งประชาธิปไตย

พอคิดอะไรไม่ออก พอมีใครไม่เห็นด้วยเรื่องเขาพระวิหาร ก็เลยเรียกเขาว่าคลั่งซะเลย 5555ๆๆๆๆๆ

สมองไอ้พวกคลั่ง มันก็คลั่งคิดได้เท่านี้ 5555ๆๆๆๆๆๆ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: