ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
19-04-2024, 05:24
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ==นพดล ลงนามกรณีปราสาทพระวิหารโดยไม่มีมติ ครม.เป็นลายลักษณ์อักษร?== 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
==นพดล ลงนามกรณีปราสาทพระวิหารโดยไม่มีมติ ครม.เป็นลายลักษณ์อักษร?==  (อ่าน 1348 ครั้ง)
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« เมื่อ: 24-06-2008, 04:08 »

ทำไมถึงมีข่าวแปลกๆ จากโฆษกพรรคเพื่อแผ่นดิน ว่ากรณีปราสาทพระวิหาร
ไม่มี มติ ครม.เป็นลายลักษณ์อักษร ถึงขนาดพรรคต้องฝาก รองนายกฯ และ
รัฐมนตรีอุตสาหกรรม ที่เป็นหัวหน้าพรรคไปสอบถาม!!!!

ถ้า มติ ครม. ไม่แน่นอน ไม่มีเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรให้พรรคร่วมรัฐบาล
แล้วจะเป็น มติ ครม. ที่มีผลบังคับใช้ได้อย่างไร?
เรื่องสำคัญขนาดเสียดินแดนแต่ทำแบบนี้ เป็นการบริหารประเทศแบบไหน? 

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เพื่อแผ่นดินติดใจ 'นพดล' ปมปราสาทเขาพระวิหารไม่มีมติ ครม.
http://www.matichon.co.th/news_title.php?id=2326

นายไชยยศ จิรเมธากร โฆษกพรรคเพื่อแผ่นดิน (พผ.) เปิดเผยผลการประชุม พผ.ว่า ในหลักการ
พผ. ยืนยันสนับสนุนและไว้วางใจการทำหน้าที่นายสมัครและ 7 รัฐมนตรีที่ถูกฝ่ายค้านยื่นอภิปราย
อย่างไรก็ตาม มีความเป็นห่วงใยประเด็นเขาพระวิหาร จึงมอบหมายให้ 4 รัฐมนตรีของพรรคนำโดย
นายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะหัวหน้าพรรค พผ.
ไปสอบถามมติ ครม.ที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก เพราะจนขณะนี้
ยังไม่มีมติ ครม.ที่เป็นลายลักษณ์อักษรออกมา
นอกจากนี้พรรคขอรับฟังคำชี้แจงของนายนพดล
ในสภาก่อน จากนั้นจะมีการประชุม ส.ส. ของพรรคอีกครั้งในเวลา 08.00 น. ของวันที่ 25 มิถุนายน
เพื่อหารือครั้งสุดท้ายก่อนลงมติ

'เรื่องเขาพระวิหารเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ถือเป็นประเด็นสำคัญของประเทศ ในฐานะ ส.ส.
จำเป็นต้องปกป้องอำนาจอธิปไตยของประเทศ' โฆษก พผ.กล่าว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-06-2008, 04:38 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
คนไทยคนหนึ่ง
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 744


« ตอบ #1 เมื่อ: 24-06-2008, 04:33 »

กำลังจะถูกแม้วลอยแพอีกคนแล้ว

เพราะเริ่มมีเสียงดังออกมาจากทั่วอีสานแล้วว่า

"เอาแม้วคืนไป เอาประเทศไทยของเราคืนมา"
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-06-2008, 07:19 โดย คนไทยคนหนึ่ง » บันทึกการเข้า
นค
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 86


« ตอบ #2 เมื่อ: 24-06-2008, 04:46 »

เห้นกระทู้ที่โพสต์ความเห็นเสธ แดง ถ้ามันเป็นตามทีพูดแล้ว ทำไม  รบ ต้องรีบร้อน ลุกลี้ลุกลน
ต้องรีบปิดห้องเซ็น  แถมยังสั่งให้ ทหารหุบปาก  กรมศิลป์หุบปาก  ....

ความจริงเรื่องใหญ๋ขนาดนี้  ทำไมจะพูดอย่างโปร่งใสไม่ได้   เพราะกลัวคนค้านนั่น ค้านนี่  แล้วทำให้ข้อตกลงอะไรบางอย่างไม่สำเร็จ
ใช่หรือไม่  นี่ไม่มี มติ คนม อีก  ยิ่งน่าสงสัย

ถ้ามันเป็นอย่างเสธ แดง พุด  จริง

บันทึกการเข้า
นิรนาม
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 554



« ตอบ #3 เมื่อ: 24-06-2008, 08:22 »

นี่คือเส้นทางและบริบทที่นำมาสู่การสูญเสียแผ่นดินไทยบริเวณ "เขาพระวิหาร" 4.6 ตารางกิโลเมตร

ข่าวกระทรวงการต่างประเทศ
1 - การประชุมไทย-กัมพูชาว่าด้วยการพัฒนาร่วมเขาพระวิหาร
March 25, 2004, 5:42 pm

   วันนี้ (25 มีนาคม 2547) ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้หารือข้อราชการกับนายสก อัน รัฐมนตรีอาวุโสประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา และเป็นประธานการประชุมร่วมไทย-กัมพูชาว่าด้วยการพัฒนาร่วมเขาพระวิหารที่กระทรวงการต่างประเทศ
   ภูมิหลัง
   การพัฒนาร่วมเขาพระวิหาร เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีร่วมไทย-กัมพูชา เมื่อ 31 พฤษภาคม - 1 มิถุนายน 2546 ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างเห็นชอบในหลักการให้ร่วมมือกันพัฒนาเขาพระวิหารเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันทั้งในด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว การศึกษาทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี การพัฒนาพื้นที่ในปริมณฑลรอบปราสาทเขาพระวิหาร เพื่อยกสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนของทั้งสองประเทศ รวมทั้งเพื่อให้ปราสาทเขาพระวิหารเป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นและยั่งยืนระหว่างไทยและกัมพูชา หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมไทย-กัมพูชาดังกล่าว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยและกัมพูชาต่างได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อร่วมมือกันในการดำเนินการเรื่องนี้ โดยในส่วนของฝ่ายไทย คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้จัดตั้งคณะกรรมการร่วมเพื่อพัฒนาเขาพระวิหาร มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธาน กรรมการประกอบด้วยผู้แทนส่วนราชการต่าง ๆ โดยภายใต้กรรมการดังกล่าว ยังมีอนุกรรมการอีก 2 ชุด คือ (1) คณะอนุกรรมการบูรณปฏิสังขรณ์ปราสาทเขาพระวิหาร มีนายเตช บุนนาค เป็นประธาน และ (2) คณะอนุกรรมการวางแผนพัฒนาร่วมเขาพระวิหาร มีนายบัณฑิต โสตถิพลาฤทธิ์ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธาน ซึ่งคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการทั้งสองดังกล่าวได้ดำเนินการตามความรับผิดชอบ เพื่อศึกษาแนวทางและนำเสนอข้อมูลสำหรับการพัฒนาเขาพระวิหารให้บรรลุผลตามความมุ่งหมาย การดำเนินงานมีความคืบหน้ามาตามลำดับ
   ในส่วนของกัมพูชาได้จัดตั้ง “คณะกรรมการระหว่างกระทรวงเพื่อพัฒนาพื้นที่ตาเฒ่าและปราสาทเขาพระวิหาร” มีนายสก อัน รัฐมนตรีอาวุโสประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งคณะกรรมการชุดดังกล่าวจะร่วมมือกับคณะกรรมการร่วมเพื่อพัฒนาเขาพระวิหาร (ฝ่ายไทย) เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการพัฒนาร่วมเขาพระวิหารและปริมณฑลต่อไปผลการประชุมทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันในเรื่องสำคัญ ๆ ได้แก่
   1. ให้การพัฒนาร่วมเขาพระวิหารเป็นโครงการความร่วมมือที่เป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพบนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกันที่แท้จริง
   2. ดำเนินการเพื่ออนุรักษ์ปราสาทเขาพระวิหารให้คงคุณค่าด้านความงาม ศิลปะ
ประวัติศาสตร์และโบราณคดี เพื่อเป็นมรดกของมนุษยชาติสืบไป โดยเป็นการดำเนินการร่วมกับองค์การ UNESCO หลังจากที่มีการจดทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกแล้ว
   3. ร่วมมือกันแก้ไขปัญหาสำคัญ ๆ ที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะที่มีผลกระทบต่อสภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งสองฝ่าย เช่น สิ่งแวดล้อม การเก็บกู้กับระเบิด ฯลฯ
   4. ดำเนินการให้โครงการพัฒนาร่วมนี้ เกื้อหนุนและสอดคล้องกับโครงการพัฒนาอื่น ๆ อาทิ ACMECS สามเหลี่ยมมรกต ฯลฯ เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
   5. ยินดีต้อนรับการเข้ามีส่วนร่วมให้การช่วยเหลือและร่วมมือของประเทศที่สาม องค์การระว่างประเทศ และภาคเอกชน ในการร่วมพัฒนาเขาพระวิหาร
   6. เกี่ยวกับเรื่องเส้นเขตแดน ได้ตกลงกันในหลักการที่จะให้มีการสำรวจสภาพภูมิประเทศร่วมกัน เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการปักปันหลักเขตแดนในอนาคต โดยจะไม่ให้ปัญหาด้านเขตแดนมาเป็นอุปสรรคต่อโครงการร่วมพัฒนานี้ ทั้งนี้ ในการดำเนินการตามหลักการดังกล่าว ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันในการกำหนดแผนพัฒนาเขาพระวิหารอย่างเป็นระบบ โดยมอบหมายให้คณะอนุกรรมการ/คณะทำงานที่เกี่ยวข้อง และอาจจำเป็นต้องตั้งขึ้นใหม่ ทำงานร่วมกัน และเสนอแนวความคิดและแนวทางดำเนินการให้รัฐบาลทั้งสองฝ่ายให้ความความเห็นชอบเพื่อดำเนินการต่อไป โดยที่นายสก อัน รัฐมนตรีอาวุโสประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา รับผิดชอบหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความร่วมมือระหว่างไทย-กัมพูชา ในการเยือนประเทศไทยครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายจึงได้หารือกันเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคีในเรื่องอื่น ๆ ด้วย โดยเฉพาะที่เป็นเรื่องสำคัญและมีผลต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา อาทิ ในเรื่องความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ความร่วมมือด้านแรงงาน ความร่วมมือด้านวัฒนธรรมในกรอบคณะกรรมการร่วมสมาคมวัฒนธรรมไทย-กัมพูชา และการพัฒนาเส้นทางหมายเลข 67 (สะงำ-อันลองเวง-เสียมราฐ) เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและการติดต่อไปมาหาสู่กันระหว่างประชาชน รวมทั้งได้หารือกันเกี่ยวกับโครงการที่จะมีส่วนช่วยเชื่อมโยงด้านคมนาคมในภูมิภาค ได้แก่ โครงการพัฒนาเส้นทางหมายเลข 48(เกาะกง-สแรอัมเบิล) โดยความช่วยเหลือของรัฐบาลไทยด้วย การประชุมและการหารือข้อราชการที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ เป็นไปในบรรยากาศแห่งมิตรภาพและความร่วมมือที่ใกล้ชิด ด้วยความจริงใจและเข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกัน สะท้อนถึงมิตรภาพอันแน่นแฟ้นและอบอุ่นระหว่างไทยและกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายถือว่าเป็นก้าวที่สำคัญอีกก้าวในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสอง

*****************
25 มีนาคม 2547
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-06-2008, 08:29 โดย นิรนาม » บันทึกการเข้า

"คืนที่ดำทะมึนมืดสนิท ยังรอแสงอาทิตย์ส่องสว่าง มีที่ไหนถูกปิดทุกทิศทาง เพียงม่านควันหมอกบางมันพรางตา"ถ้อยวลีของ..ประเสริฐ  จันดำ
ถ้อยวลี - จาก; "บันทึกจากกองร้อย ทหารปลดแอก" โดย..เสกสรรค์ ประเสริฐกุล
      นักรบจรยุทธอย่างพวกเราไม่รู้ว่าบ้านของตัวเองอยู่ที่ไหน รู้แต่ว่าเรามีปิตุภูมิเป็นของพวกเรา ทุกหนทุกแห่งที่เราล้มตัวลงนอนที่นั่นก็คือบ้าน
“บ้านของเราก็คือประเทศชาติ พ่อแม่ของเราก็คือประชาชน และเราจะไปทุกหนทุกแห่งเพื่อจัดการกับเจ้าคนที่มันเหยียบย่ำบ้านกับพ่อแม่ของเรา”
ใบไม้ทะเล
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,321


In politics stupidity is not a handicap


« ตอบ #4 เมื่อ: 24-06-2008, 11:24 »

ขอให้พี่ส่อน ออกไปเถอะ เบื่อขี้หน้าเต็มที 
บันทึกการเข้า

立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
หน้า: [1]
    กระโดดไป: