ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
20-04-2024, 11:37
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  กกต.เมินมติศาลฯ โต้ผ่านเว็บ - ยันทุกอย่างถูกต้อง 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
กกต.เมินมติศาลฯ โต้ผ่านเว็บ - ยันทุกอย่างถูกต้อง  (อ่าน 1325 ครั้ง)
Sweet Chin Music
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,613



« เมื่อ: 02-06-2006, 21:14 »

ไปเอามาจาก เวปของ กกต โดยตรงเลยครับ แต่ข่าวพาดหัวเอามาจาก ผู้จัดการ

http://www.ect.go.th/thai/fact.html#7



ขณะนี้ดูเหมือนมรสุมทุกลูกจะพุ่งมาที่ กกต. เพียงแห่งเดียวเท่านั้น
ข่าวคราวที่ออกมามีทั้งที่เป็นความจริง มีทั้งที่คลาดเคลื่อนเข้าใจผิดและมีทั้งที่บิดเบือน
จึงขอใช้หน้าเว็บของ กกต.เปิดข้อมูลชี้แจงเป็นระยะๆ มิใช่เผชิญหน้า แต่เพื่อโอกาสในการเสนอความจริง !

          อ่านข้อชี้แจงกรณีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง และสำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง

          กรณีการกำหนดวันเลือกตั้งไม่เหมาะสม
          กรณีการแก้ไขข้อมูลพรรคเล็ก
          กรณีการวินิจฉัย เรื่องร้องเรียน/คัดค้าน (การให้ใบเหลือง-ใบแดง) ของกกต.ไม่มีมาตรฐาน
          กรณีการออกระเบียบเกี่ยวกับการเลือกตั้งไม่เหมาะสม เช่น การจัดคูหาเลือกตั้ง/การใช้ตรายาง
          ความโปร่งใสในการบริหารงบประมาณการเลือกตั้ง
          ทำไม กกต. จึงไม่ลาออก
          วิกฤติการณ์ครั้งนี้กระทบต่อภาพลักษณ์องค์กรหรือไม่อย่างไร
 


กรณีการกำหนดวันเลือกตั้งไม่เหมาะสม

การกำหนดวันเลือกตั้ง เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกายุบสภา ซึ่งอยู่ในอำนาจของคณะรัฐมนตรี กกต.เป็นเพียงให้ความเห็นว่าระยะเวลาที่ใช้ในการจัดการเลือกตั้งนั้น จะต้องใช้ระยะเวลาเท่าใด ซึ่ง กกต.ได้คำนึงถึงระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด และมิให้มีผลกระทบต่อการทำงานของ กกต. เช่น

- ระยะเวลา การประกาศวันสมัครรับเลือกตั้ง

- ระยะเวลา การตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัคร

- ระยะเวลา การจัดทำบัญชีรายชื่อและการประกาศบัญชีรายชื่อ

- ระยะเวลา การเพิ่มชื่อถอนชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

- ระยะเวลา การลงทะเบียนเลือกตั้งนอกเขต และการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า

- ระยะเวลา การแจ้งเหตุไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง

ฯลฯ

ส่วนเมื่อ กกต.ได้ให้ความเห็นไปแล้ว การจะตัดสินใจยุบสภาและกำหนดให้วันเลือกตั้งเป็นวันใดนั้น เป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรีและเมื่อตราเป็นพระราชกฤษฎีกามีผลใช้บังคับแล้ว กกต.ได้ปฏิบัติตามนั้น

สำหรับการพิจารณาว่า การกำหนดระยะเวลาวันเลือกตั้งเท่าใดจึงจะเหมาะสมนั้น กกต.แม้จะมิได้มีหน้าที่กำหนดวันเลือกตั้ง แต่ก็ยอมรับผลการพิจารณาของศาลและพร้อมที่จะปฏิบัติตาม โดยจัดประชุมหารือฝ่ายที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะพรรคการเมืองต่างๆ ซึ่งเมื่อรับทราบความคิดเห็นและข้อเสนอของฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้ว ก็ได้รวบรวมเสนอต่อสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไปแล้ว ขึ้นอยู่กับคณะรัฐมนตรีจะพิจารณากำหนดวันเลือกตั้งต่อไป

Back To Top

 


กรณี การแก้ไขข้อมูลพรรคเล็ก

เมื่อทราบปัญหา ได้แต่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงทันที โดยย้ายพนักงานผู้รับผิดชอบในการจัดทำข้อมูลให้พ้นจากหน้าที่เดิมระหว่างรอการสอบสวน และเมื่อผลการสอบสวนปรากฏความจริง ก็ได้สั่งสอบวินัยพนักงานดังกล่าว พร้อมทั้งแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย และส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการต่อไป

ด้านพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดก็ได้แจ้งศาลรัฐธรรมนูญ และอัยการสูงสุดดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว

ส่วนกรณีมีพรรคการเมืองขนาดใหญ่ถูกพาดพิงถึงทั้งการจ้างลงสมัคร(ทรท.) และการจ้างล้มการเลือกตั้ง (ปชป.)อยู่ในระหว่างดำเนินการสืบสวนสอบสวน หากมีหลักฐานว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้องการกระทำผิดอย่างไร ก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป เช่น การยุบพรรค การดำเนินคดีอาญา เป็นต้น

Back To Top


กรณีการวินิจฉัย เรื่องร้องเรียน/คัดค้าน

(การให้ใบเหลือง-ใบแดง) ของ กกต.ไม่มีมาตรฐาน

กกต.ยึดมาตรฐาน ตามรัฐธรรมนูญ กฎหมายเลือกตั้ง และระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวนสอบสวนฯ เป็นแนวทางพิจารณาสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย

ในการพิจารณาได้คำนึงถึงข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานแต่ละกรณี โดยให้โอกาสทั้งฝ่ายผู้ถูกร้อง และฝ่ายผู้ร้องได้อ้างพยานหลักฐานเอกสาร พยานบุคคล พยานวัตถุ ทั้งนี้เพื่อความสุจริตและเที่ยงธรรม แต่ในการวินิจฉัยของ กกต.ย่อมมีทั้งผู้ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ ผู้ได้ประโยชน์ก็ย่อมพอใจ ผู้ที่เสียประโยชน์ก็ย่อมไม่พอใจเป็นธรรมดา ซึ่ง กกต.ไม่อาจนำความพอใจหรือความไม่พอใจมากดดันการทำงานให้เสียความเที่ยงธรรมไปได้ ทุกอย่างขึ้นกับพยานหลักฐาน และผลการสืบสวนสอบสวน ซึ่งได้ฟังความทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว

ส่วนเหตุที่การวินิจฉัยแต่ละเรื่องที่มีกรณีเหมือนกันหรือใกล้เคียงกัน แต่มีผลแตกต่างกัน เช่น บางรายได้ใบเหลือง บางรายได้ใบแดง และบางรายประกาศรับรองผล นั้น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอ ขึ้นกับพฤติการณ์แห่งคดี ความน่าเชื่อถือของพยาน และการให้การของผู้ร้องและผู้ถูกร้อง รวมทั้งพยานหลักฐานที่ได้รับจากการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งแต่ละกรณีมีความแตกต่างกัน

ทั้งนี้ กกต.มีมาตรฐานในการวินิจฉัยเสมอ รวมทั้งได้ใช้บรรทัดฐานที่เคยวินิจฉัยเดิมมาเป็นแนวทางการพิจารณาด้วย

Back To Top

 


กรณีการออกระเบียบเกี่ยวกับการเลือกตั้งไม่เหมาะสม

เช่น การจัดคูหาเลือกตั้ง / การใช้ตรายาง

การออกระเบียบเกี่ยวกับการเลือกตั้งไม่เหมาะสม เช่น การจัดคูหาเลือกตั้ง หรือ การใช้ตรายางนั้นเป็นผลจากการศึกษาและพัฒนารูปแบบวิธีการลงคะแนนเลือกตั้งที่ต้องการอำนวยความสะดวกแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และเพื่อมิให้มีปัญหาการร้องเรียนการทุจริตเลือกตั้ง เช่น กล่าวหาว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งนำบัตรเลือกตั้งออกจากที่เลือกตั้ง การถ่ายภาพการลงคะแนนนำไปแสดงเพื่อขอรับเงินจากหัวคะแนน เป็นต้น

จากการทดลองใช้ในการเลือกตั้ง อบต.จำนวน 3,499 แห่ง ในเดือนกรกฎาคม 2548 พบว่าไม่มีปัญหาการปฏิบัติ และ จากการประเมินผลการใช้ตรายาง โดยสอบถามจากประชาชนผู้มาใช้สิทธิ พบว่ากว่าร้อยละ 70 มีความพึงพอใจเพราะใช้ง่ายและสะดวกกว่าการใช้ปากกาสามารถวินิจฉัยบัตรดี-บัตรเสียได้ชัดเจนขึ้น รวมทั้งมีจำนวนบัตรเสียลดลง ดังนั้น กกต.จึงได้นำมาใช้ในการเลือกตั้ง ส.ส.ด้วย

การออกระเบียบเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เป็นความพยายามในการสร้างนวัตกรรมใหม่ในการเลือกตั้ง ซึ่งจะต้องพัฒนาอยู่เสมอ ดังเช่นที่ กกต.ได้ศึกษาทดลองนำเครื่องลงคะแนนมาใช้ในการเลือกตั้ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการแก้ไขกฎหมายเลือกตั้ง ส่วนเมื่อออกระเบียบแล้วจะเหมาะสมหรือไม่ เป็นสิ่งที่ กกต.ยินดีรับฟังและแก้ไข ดังเช่นที่ได้ยกเลิกการหันคูหาออกในการเลือกตั้ง ส.ว.ที่ผ่านมา

Back To Top


ความโปร่งใสในการบริหารงบประมาณการเลือกตั้ง

การเลือกตั้ง ส.ส.แต่ละครั้งใช้เงินประมาณ 2,000 ล้านบาท สำหรับในการเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 49 ใช้งบประมาณ 1,800 ล้านบาท จำนวนนี้แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ

1. ส่วนที่ดำเนินการในส่วนกลาง เช่น การพิมพ์บัตรเลือกตั้ง คูหาและวัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่จำเป็นต้องจัดหาที่ส่วนกลาง การประชาสัมพันธ์ การจัดชุดสืบสวนสอบสวนหาข่าวทางลับ ฯลฯ ใช้เงินประมาณ 500 ล้านบาท หรือร้อยละ 24

2. ดำเนินการโดย กกต.เขต เช่น การฝึกอบรม และค่าตอบแทนกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง กรรมการนับคะแนน และการณรงค์ประชาสัมพันธ์ ฯลฯ ใช้เงินประมาณ 1,200 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 60

3. ดำเนินการโดยหน่วยงานสนับสนุนต่างๆ เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ บริษัท ทศท.คอร์เปอเรชั่น จำกัด บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด บริษัทการบินไทย จำกัด ฯลฯ ใช้งบประมาณ 350 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 16

จะเห็นได้ว่างบประมาณส่วนใหญ่ กกต.ส่วนกลางใช้งบประมาณเฉพาะการดำเนินการในภาพรวมทั่วประเทศซึ่งใช้งบประมาณเพียงเท่าที่จำเป็น งบประมาณส่วนใหญ่ได้จัดสรรให้ระดับจังหวัดและระดับเขต รวมทั้งหน่วยงานสนับสนุนต่างๆ และเป็นงบประมาณที่จำเป็นต้องใช้ในการจัดการเลือกตั้งทุกครั้ง เช่น วัสดุอุปกรณ์การจัดการเลือกตั้ง ค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ในการจัดการเลือกตั้ง เป็นต้น

Back To Top


ทำไม กกต.จึงไม่ลาออก

คำถามที่ควรถาม คือ จำเป็นอย่างไรที่ กกต.จะต้องลาออกโดยที่ยังไม่ครบวาระการดำรงตำแหน่ง และเมื่อลาออกแล้ว สังคมจะได้ประโยชน์อะไร

ต้องยอมรับว่าวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจาก 2 ประเด็นใหญ่ คือ การกำหนดวันเลือกตั้งไม่เหมาะสม และการหันคูหาออกทำให้ไม่เป็นความลับ โดยประเด็นแรกยุติได้ว่าเป็นเรื่องของคณะรัฐมนตรีกำหนด ส่วนประเด็นที่ 2 เกี่ยวกับเรื่องการหันคูหานั้น อยู่ในความรับผิดชอบของ กกต. ซึ่งได้อธิบายแล้วว่า เพื่อป้องกันมิให้มีการทุจริตเลือกตั้ง ส่วนประเด็นเรื่องการไม่เป็นความลับ นั้น ขึ้นกับผู้ลงคะแนนว่าประสงค์จะรักษาความลับมากน้อยเพียงใด และเจตนาของผู้ที่จ้องดูว่าผู้ใดจะลงคะแนนให้ใคร ซึ่งหากเป็นการลงคะแนนที่ระมัดระวังตามสมควรและไม่มีผู้ใดเจตนาจ้องหรือแอบดู การลงคะแนนก็ยังเป็นความลับ

อย่างไรก็ตาม เมื่อมีคำวินิจฉัยของศาลออกมาเช่นนี้ กกต.ก็ได้ปฏิบัติตามโดยหันคูหาเข้าแล้ว มิได้มีเจตนาบิดพลิ้ว หรือแข็งขืนแต่อย่างใด

ดังนั้น ในความรับผิดชอบของ กกต.ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ จึงมีทางเลือก 2 ทางคือ

1. การละทิ้งความรับผิดชอบในงานซึ่งยังคั่งค้างอยู่แล้วปล่อยภาระให้ผู้อื่นมารับผิดชอบแทน

หรือ 2. อยู่ต่อไปเพื่อสะสางงานในความรับผิดชอบ โดยไม่ผลักภาระให้ผู้อื่นในงานที่ไม่อาจมีใครมาทำแทนได้ (เนื่องจากไม่ได้ร่วมพิจารณามาตั้งแต่ต้น) เช่น การลงนามในคำวินิจฉัยใบเหลือง-ใบแดงในการเลือกตั้งท้องถิ่น และการเลือกตั้ง ส.ว. เป็นต้น โดยอยู่ดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อน จากนั้นจึงค่อยพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเอกสิทธิของ กกต.แต่ละท่านว่าจะลาออกหรือไม่ อย่างไร

Back To Top


วิกฤติการณ์ครั้งนี้กระทบต่อภาพลักษณ์องค์กรหรือไม่ อย่างไร

ยอมรับว่าสถานการณ์ที่เป็นอยู่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของ กกต.ว่า ดำเนินการเลือกตั้งโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพราะนั่นหมายถึงสิ่งที่ กกต. สำนักงาน กกต. และสำนักงาน กกต.จว. ดำเนินการนั้นไม่ถูกต้องเป็นผลให้การเลือกตั้งต้องเสียไป และต้องดำเนินการเลือกตั้งใหม่

อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่ยังเป็นหลักประกันรับรองการทำงานของเราอยู่ คือ การดำเนินการของ กกต.นั้น แสดงถึงเจตนาโดยสุจริต และมุ่งหมายให้เกิดความเที่ยงธรรม (คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ หน้า 44) เพียงแต่ในการดำเนินการเกี่ยวกับการเลือกตั้งนั้น มีปัญหาความชอบด้วยกฎหมาย และเป็นการเลือกตั้งที่ทำให้เกิดผลการเลือกตั้งที่ไม่เที่ยงธรรม (หน้า 52) หรือพูดง่ายๆก็คือ มีเจตนาที่ดี แต่เมื่อทำแล้วกลับได้ผลไม่ดี ซึ่งก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในการทำงาน

ประเด็นอยู่ที่ว่าเมื่อกกต.ได้ทราบว่าการกระทำดังกล่าวไม่ถูกต้องก็ได้แก้ไขเสียให้ถูกต้องจึงนับว่าเป็น การแก้ไขเยียวยาความผิดพลาดอันสมควรแล้ว

ความรับผิดชอบครั้งนี้ จึงเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของคนใน กกต.ทุกคน เปรียบดัง กกต.เป็นเรือแล่นอยู่กลางทะเล กัปตันเรือตัดสินใจสั่งหันหัวเรือไปในทางที่คิดว่าจะช่วยให้ถึงฝั่งโดยเร็วและปลอดภัย แต่ครั้นเรือแล่นไปกลับชนหินโสโครก ก็ขึ้นกับคนในเรือจะช่วยกันซ่อมเรือและช่วยกันพายเข้าฝั่ง หรือ กระโดดเรือหนี ?

คิดว่า โดยจิตสำนึกรับผิดชอบ ในภาวะเช่นนี้ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร กัปตันเรือและลูกเรือทุกคนต้องประคองเรือไว้ก่อน ถ้าทุกคนยังคิดว่าตนเป็นเจ้าของเรือลำนี้ แม้ตนจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับกัปตันเรือก็ตาม

บันทึกการเข้า


You'll Never Walk Alone
เข้าไปกันได้ค๊าป- - - >http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sweetchinmusic&group=1
นายเบียร์
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 997



« ตอบ #1 เมื่อ: 02-06-2006, 21:23 »

ดีครับ งัดข้อศาลต่อไปเลยนะครับ เอาให้ถึงที่สุดเลย อุตส่าห์มีบันไดมาให้ไต่ลงดันไม่ลง หาเรื่องเอง เหอๆ
บันทึกการเข้า

cameronDZ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,827


my memory


« ตอบ #2 เมื่อ: 02-06-2006, 21:30 »

ถ้าเป็นสัตว์เลี้ยงประเภทเอาไว้ดูแลบ้าน ปกป้องเจ้าของ ผมจะชอบมาก

เพราะเป็นพันธุ์ดุ สู้ไม่ถอย

แต่นี่เป็นคน ที่มีมันสมองเอาไว้คิดผิดถูก

จึงได้แต่บอกว่า

ไอ้หน้าด้าน
บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
จูล่ง_j
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,901



« ตอบ #3 เมื่อ: 02-06-2006, 21:33 »

มี ทรท เป็นแบ๊คอัพ มันเลยซ่าได้ขนาดนี้
บันทึกการเข้า

soco
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,842



« ตอบ #4 เมื่อ: 02-06-2006, 21:55 »

เนื่องจากข้อมูลบน website ect.go.th มีการ update ทุกวัน กรุณากด ctrl+F5 ทุกครั้งที่ทำการเปิดหน้า Web page เพื่อรับชมข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน -:- 23 เมษายนนี้ ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทยผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกท่าน อย่าลืม มาใช้สิทธิเลือกคนดีเข้าสภา 1 ใบเลือกคนที่รัก ในเขตเลือกตั้งที่มีกำหนดการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.-:-
บันทึกการเข้า
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 02-06-2006, 22:00 »

ยังจะดิ้นต่อไปนะ กกต  Surprised
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
R O S #41
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 236



« ตอบ #6 เมื่อ: 02-06-2006, 22:27 »

ยาวมากนะคะ ก็คำแก้ตัวเมื่อก่อนนั้นแหละคะไม่มีอะไรใหม่ๆมา แถไปเรื่อย ไปใกลๆ กกต เหม็นขี้ฟัน สาธุติดคุกที่ กกต แม้แต่ศาลยังไม่รับก้างเถียงข้างๆคูๆ
บันทึกการเข้า

ไม่มีอะไรที่ จะทำไม่ได้ และไม่ได้มา นอกจากเราจะท้อแท้ และยอมแพ้กับมัน
RiDKuN
Administrator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,015



เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 02-06-2006, 22:30 »

นักข่าว: ท่านมีความเห็นอย่างไรกับเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญบอกว่าการหันคูหาเช่นนั้นขัดรัฐธรรมนูญคะท่าน
ท่านหนา : เราสั่งให้หันคูหาออก เพื่อป้องกันการทุจริต ดังนั้นจึงถือว่าเราดำเนินการโดยสุจริตและไม่มีความผิด
นักข่าว: แต่ว่า....งบประมาณ 2,000 ล้านที่ใช้ไปสำหรับการเลือกตั้งในคราวที่แล้วละคะ
ท่านหนา: เราใช้ไปหมดแล้ว แต่ไม่เป็นไร เลือกตั้งคราวหน้าก็ขอใหม่นะจ๊ะ
บันทึกการเข้า

คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
แอ่นแอ๊น
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,591


"Angela Gheorghiu" My goddess


เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 02-06-2006, 22:33 »

กำ
บันทึกการเข้า

       

"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
ตะกร้าหวายสีขาว
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 141



เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 02-06-2006, 22:40 »

อึดอัดกับ กกต. ชุดนี้จริงๆค่ะ เอือมระอา
บันทึกการเข้า

ชีวิตสามารถก้าวไปได้ไกล ... เท่าที่หัวใจมีแรงทะยาน ...
TaGrA ...
... My Blog ...    http://takra.bloggang.com
An.mkII
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,984


Out of kontrol....!!!!!


เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 02-06-2006, 22:49 »

 

ความรับผิดชอบครั้งนี้ จึงเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของคนใน กกต.ทุกคน เปรียบดัง กกต.เป็นเรือแล่นอยู่กลางทะเล กัปตันเรือตัดสินใจสั่งหันหัวเรือไปในทางที่คิดว่าจะช่วยให้ถึงฝั่งโดยเร็วและปลอดภัย แต่ครั้นเรือแล่นไปกลับชนหินโสโครก ก็ขึ้นกับคนในเรือจะช่วยกันซ่อมเรือและช่วยกันพายเข้าฝั่ง หรือ กระโดดเรือหนี ?

คิดว่า โดยจิตสำนึกรับผิดชอบ ในภาวะเช่นนี้ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร กัปตันเรือและลูกเรือทุกคนต้องประคองเรือไว้ก่อน ถ้าทุกคนยังคิดว่าตนเป็นเจ้าของเรือลำนี้ แม้ตนจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับกัปตันเรือก็ตาม




เอ๋่...

ว่าแต..


เหตุไร..กกต.มิคิดมั่ง...ล่ะว่า...

ว่าตัวเองนั้นเเหละคือตนเหตุที่มันจะเป็นตัวเร่งให้เรือจม...เร็้วขึ้น...

ตราบใดที่ตัวเองและคณะ.. ยังบังคับเรืออยู่...



เพราะมันมีกัปตันที่เห็็นแก่ตัว....


สุดท้าย..


กกต..มิใช้เจ้าของเรือ...


แต่กกต.คือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจให้คุมเรือ...

และ่ประชาชนคนไทยทั่วประเทศต่างหากคือเจ้าของเรือ...


และเมื่อเจ้าของเรือตัวจริง....เขาต่างออกมาพากันขับไล่...
 


รึเเม้แต่ตัวเเทนของสถาบันที่เจ้าของเรือเคารพ...ยิ่ง...

เขายังออกมาไล่...


แต่เหตุไรกับตันเรือที่บ้านผมเขาเรียกว่าหน้าด้าน...

ยังไม่ยอมปล่อยวางให้คนอืนเป็นเเทนอีก..


และผมถามว่าถ้าเรือมันล่้มเมื่อไร..ก็เตรียมรับผิดชอบกันได้เลย...


และในการที่จะช่วยประคับประคองเรือให้ไปถึงฝั่งได้ดีที่สุดก็คือ...


การที่เจ้าของเรือ....นั้นต้องร่วมด้วยช่วยกัน "ถีบ" ไอ้กับตันเฮงซวย..

ออกไปให้พ้นจากเรือ..นั้นเอง...!!!




โดยยึดถือตามคำที่ในหลวงท่านทรงว่าเอาไว้...

ก็คือเราควรส่งเสริมคนดี..และกำจัดคนชั่ว...

 
บันทึกการเข้า
micro
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 52



« ตอบ #11 เมื่อ: 03-06-2006, 01:06 »


ความโปร่งใสในการบริหารงบประมาณการเลือกตั้ง

การเลือกตั้ง ส.ส.แต่ละครั้งใช้เงินประมาณ 2,000 ล้านบาท สำหรับในการเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 49 ใช้งบประมาณ 1,800 ล้านบาท จำนวนนี้แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ

1. ส่วนที่ดำเนินการในส่วนกลาง เช่น การพิมพ์บัตรเลือกตั้ง คูหาและวัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่จำเป็นต้องจัดหาที่ส่วนกลาง การประชาสัมพันธ์ การจัดชุดสืบสวนสอบสวนหาข่าวทางลับ ฯลฯ ใช้เงินประมาณ 500 ล้านบาท หรือร้อยละ 24

2. ดำเนินการโดย กกต.เขต เช่น การฝึกอบรม และค่าตอบแทนกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง กรรมการนับคะแนน และการณรงค์ประชาสัมพันธ์ ฯลฯ ใช้เงินประมาณ 1,200 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 60

3. ดำเนินการโดยหน่วยงานสนับสนุนต่างๆ เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ บริษัท ทศท.คอร์เปอเรชั่น จำกัด บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด บริษัทการบินไทย จำกัด ฯลฯ ใช้งบประมาณ 350 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 16

จะเห็นได้ว่างบประมาณส่วนใหญ่ กกต.ส่วนกลางใช้งบประมาณเฉพาะการดำเนินการในภาพรวมทั่วประเทศซึ่งใช้งบประมาณเพียงเท่าที่จำเป็น งบประมาณส่วนใหญ่ได้จัดสรรให้ระดับจังหวัดและระดับเขต รวมทั้งหน่วยงานสนับสนุนต่างๆ และเป็นงบประมาณที่จำเป็นต้องใช้ในการจัดการเลือกตั้งทุกครั้ง เช่น วัสดุอุปกรณ์การจัดการเลือกตั้ง ค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ในการจัดการเลือกตั้ง เป็นต้น

Back To Top



500+1200+350 ล้านบาท  = 2050 ล้านบาท


ขนาดข้อมูลที่เป็นตัวเลขยังมั่วเลย แล้วข้อมูลที่เหลือจะเชื่อได้รึเปล่า 

ท่าทางสับสนกับเงินที่อมไว้ตามข่าว ตัวเลขเลยไม่ตรงกัน

บันทึกการเข้า
สี่หามสามแห่
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,460



« ตอบ #12 เมื่อ: 03-06-2006, 13:52 »

เก็บไว้แก้ตัวกับศาลดี กว่า

กกต.

บันทึกการเข้า
Kittinunn
Aloha007
Global Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,127


ไปได้สวย...ด้วยเกียร์ต่ำ!!!


เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: 03-06-2006, 19:49 »

น้ำหนักไม่พอครับ ...
บันทึกการเข้า

“ผมเขียนไปในบล็อกนั้น แบบข้างบนนี้เหมือนกัน นึกว่า จะโพสต์ ปรากฏว่า เขาบอกว่า ต้อง สมัครสมาชิกก่อน ผมขี้เกียจ เลยมาโพสต์ที่นี่แทน อ้อ ตอนเขียน ผมใส่คำว่า ทุเรศ และ น่าสมเพช ไปด้วย” (อ.สมศักดิ์ เจียมธีระสกุล-เว็บบอร์ดฟ้าเดียวกัน - ข้อความในเสรีไทย โดย Snowflake)

หน้า: [1]
    กระโดดไป: