ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
07-07-2025, 20:10
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ขอลองเสนอ แนวทางประชาธิปไตยทางตรง 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ขอลองเสนอ แนวทางประชาธิปไตยทางตรง  (อ่าน 3433 ครั้ง)
Iona
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 271


« เมื่อ: 22-06-2008, 21:52 »

(มันเป้นเสียงสะท้อนบอกว่า ถ้ารัฐบาลและพรรคร่วมของประเทศเรายังหน้าด้าน ประชาชนก็ต้องมานั่งเสียเวลา "ค้นหาวิธีแก้ไข" อยู่แบบนี้ตลอดไปเหมือนกัน)


ใช้วิธีแบบโหวตรัฐธรรมนูญ
เช่น
-การโหวตออก (คือ ให้รัฐมนตรีคนนั้น ทำงานต่อหรือไม่ให้ทำงานต่อ อาจใช้วิธีเข้าชื่อถอดถอน, อภิปรายไม่ไว้วางใจหรืออื่นๆ)
จังหวัดหรือเขตเลือกสส.>สส.เลือกรัฐมนตรี>คนทั้งประเทศเลือกโหวตให้รัฐมนตรีคนนั้น ทำงานต่อหรือให้ออก
(รัฐมนตรีที่โดนโหวตออก ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง เขตนั้นเลือกตั้งใหม่ ยกเลิกสส.สัดส่วน รัฐมตรีต้องมาจากการเลือกตั้ง)
ตัวอย่าง กรณีนพดลเขาพระวิหาร พอสิ้นเดือนเราก็โหวต คนที่เราเห็นว่าทำงานโอเคเราก็โหวตให้ทำงานต่อ ส่วนนพดลเราก็โหวตไม่ให้ทำงานต่อ

(โหวตพรบ.เพื่อนบอกว่าแล้วชาวบ้านจะเข้าใจไหม - -'' ลืมคิดไป ขอลบออก)

ข้อเสนอแนะจากเพือนๆในกระทู้นี้
ข้อดี
1.สามารถแสดงความต้องการได้โดยทางตรง
2.แสดงผลเสียงข้างมากในประเทศได้ที่แท้จริงกว่า ประชาธิปไตยแบบตัวแทน
3.การซื้อตัวสส.อาจลดลง
4
ข้อเสีย
1.ผู้บริหารที่ไม่มั่นคง เพราะเสี่ยงต่อการถูกปลดตลอดเวลา
2.เกิด "ทรราชเสียงข้างมาก" ได้มากขึ้นกว่าเดิม
3.อาจจะได้เห็น พรบ. ประหลาดๆ
4.เอานอมินี่มานั่งแทน -*-
5.โหวตทุกเดือนมันลำบากต่อการปฏิบัติ (ข้อเสนอแก้ว่า ถ้าเปลี่ยนเป็นทุก3เดือนแทน เป็นการตรวจสอบการบริหารของประชาชนทางตรง)
6.มีการโกงผลการเลือกตั้ง ก็มีการโกงผลการโหวตได้

ข้อเสนอเพิ่มเติม
1.ให้การเลือกตั้งมีคะแนนของคนที่ไม่ต้องการด้วย ตัดสิทธิ เพื่อสกรีนนักการเมืองที่แย่ๆออกจากการเมืองทางตรง
2.การอภิปรายไม่ไว่วางใจ สส.ไม่ต้องยกมือแทนประชาชน หลังการอภิปรายจบ ประชาชนทั่วประเทศโหวตรัฐมนตรี ให้ทำงานต่อหรือให้ออกเอง (เลือกเข้ามาเอง เลือกเอาออกเอง)
3.อภิปรายเสร็จก็ลงประชามติกันทั้งประเทศเลย ฝ่ายไหนชนะ ก็ได้คะแนนจากจำนวน สส.ของจังหวัดนั้นไปหมดเลย


ปล.ถ้าคิดอะไรออกเพิ่มเติม ขอพิมพ์เพิ่มเลยนะ ถ้าเพือนๆคนไหนมีความเห็นที่ดีๆ ก็จะขอนำมาพิมพ์เพิ่มด้านบน
เพื่อให้คนที่มาอ่านใหม่ได้ข้อมูลตรงกัน ร่วมกันคิด โดยไม่ต้องอ่านการด่าอันยาวยืด แถกระจาย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-06-2008, 00:47 โดย Iona » บันทึกการเข้า

เงินงบประมาณของประเทศที่นำไปใช้จ่ายต่างๆ มาจาก การจัดเก็บภาษีที่เราประชาชนคนไทยทุกคนต้องจ่ายกันอยู่แล้วทั้งจากภาษีทางตรงและภาษีทางอ้อม(vet 7) (ขอย้ำว่าทุกคนเพราะเมื่อเราได้ซื้อสินค้าใดๆ สินค้านั้นยอมมีต้นทุนมาจากการเสียภาษีแล้ว) หรือจากการจัดเก็บจากทรัพย์สินส่วนรวมของคนไทยทุกคนที่เกิดบนแผ่นดินที่บรรพบุรุษของเราปกป้องรักษา ไม่ว่าจะเป็น แผ่นดิน แผ่นน้ำ ใต้แผ่นดิน ใต้แผ่นน้ำ ท้องฟ้า อวกาศ

เงินงบประมาณของประเทศ ไม่ได้มาจากเงินของคนใดคนหนึ่งหรือพรรคใดพรรคหนึ่ง ไม่มีใครสมควรอย่างยิ่งที่จะแอบอ้างว่าเงินนี้เป็นของตนนำมาแจกจ่าย การแอบอ้างนั้น เป็นการกระทำที่ไร้จริยธรรม และไม่ยุติธรรมต่อความรู้ของทุกๆคนในประเทศที่ต้องเสียภาษี

อย่าโทษหรือด่าว่า คนที่เค้าไม่มีโอกาศเข้าถึงข่าวสารข้อมูล ปัญหาจะแก้ได้คือ ทำอย่างไรให้เค้าเหล่านั้น ได้เข้าถึงข่าวสารข้อมูล

หลอกคนไทยตลอดไป คิดว่าหลอกได้หรือ? รัฐบาลของทักษิณ

เป็นเรื่องแปลก...สิ่งที่คนโกงกลัวที่สุดคือ ....ไม่ได้มีชีวิตเพื่อใช้เงินที่โกงมา? ประวัติศาสตร์โลกมีให้เห็น
sleepless
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 525


Sleepless


« ตอบ #1 เมื่อ: 23-06-2008, 19:15 »

อันที่จริงผมไม่อยากให้มี "ผู้แทน" เลยด้วยซ้ำ
ประชาชนออกเสียงในญัตติทุกญัตติที่เข้าในสภาโดยตรงผ่านระบบสื่อสารต่างๆ ที่เรามี
แต่หากคิดว่ายังทำไม่ได้ เอาเป็นว่าเพิ่มช่องโหวตไม่เอาใครไว้ให้เลือกตอนที่เลือกตั้งด้วย
เวลานับคะแนน ต้องเอาคะแนนไม่เอาไปลบออกจากคะแนนที่คนเลือกด้วย
แล้วจึงเอาคะแนนสุทธิมานับกัน
แล้วคนที่ได้คะแนน เอา น้อยกว่า ไม่เอา ก็ห้ามมาลงสมัครในครั้งต่อไป เราจะค่อยๆ สกรีนนักการเมืองแบบเห็นหน้าแล้วอ้วกแตกออกไปเรื่อยๆ

 
บันทึกการเข้า
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #2 เมื่อ: 23-06-2008, 19:24 »

 
โหวตออก


AF หนาวแน่ๆ
555
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
RiDKuN
Administrator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,015



เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 23-06-2008, 19:27 »

การโหวตบ่อยๆ มันเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ ทั้งเรื่องของงบประมาณที่ต้องใช้งบมหาศาล
และเรื่องของสภาพการเป็นผู้แทนและผู้บริหารที่ไม่มั่นคง เพราะเสี่ยงต่อการถูกปลดตลอดเวลา
และมันก็จะยิ่งทำให้นักการเมืองมัวแต่พะวงกับการรักษาฐานคะแนนของตัวเอง มากกว่าที่จะทำงานให้ได้เป็นชิ้นเป็นอัน

ส่วนการโหวตทางตรง ยิ่งทำให้มีความเป็นไปได้ในการเกิด "ทรราชเสียงข้างมาก" ได้มากขึ้นกว่าเดิม
เพราะการโหวตทางตรง ทำให้การใช้อำนาจอธิปไตยของประชาชน อยู่เหนือคุณธรรมศีลธรรมและความเหมาะสม
เช่นเราอาจจะได้เห็น พรบ. ลดภาษี หรือ พรบ. แจกเงินประชาชนเฉพาะบางส่วน และคนส่วนใหญ่ก็โหวตให้ผ่าน
ซึ่งในขณะที่ตัวอย่างสมมติดังกล่าวไม่สามารถเป็นไปได้เลยในระบอบรัฐสภาในปัจจุบัน
บันทึกการเข้า

คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #4 เมื่อ: 23-06-2008, 19:29 »

ประชาธิปไตยทางตรงแทบจะไม่เคยเกิดขึ้นในโลกเลยก็ว่าได้ครับ

ประชาธิปไตยทางตรงในสมัยก่อน ผู้ใหญิงก็ไม่มีสิทธิ์ในการออกเสียง

แสดงว่า ประชาธิปไตยทางตรงไม่เคยเกิดขึ้นในโลก

และผมคิดว่ามันเกิดขึ้นยากด้วย
บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
Iona
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 271


« ตอบ #5 เมื่อ: 23-06-2008, 19:42 »

คิดเหมือนกันว่า ประเด็นนี้ เป็นเพียงการแก้ไขปัญหา ความหน้าด้านและบ้าอำนาจของสส.และรัฐมนตรี ที่ชอบอ้างว่ามาจากการเลือกตั้ง
(ถ้าประเทศเรามีรัฐมนตรีหน้าบางกว่านี้ ตั้งใจทำงานกว่านี้ ประชาชนคงไม่ต้องมานั่งคิดหน้าวิธีแก้ไขปัญหา เหมือนสถานการณ์ปัจจุบัน)

ถ้ารัฐบาลและพรรคร่วมประเทศเราหน้าบางกว่านี้ หัดทำเหมือนประเทศอื่นๆที่เค้าเจริญแล้ว มีความรับผิดชอบต่อกระทำของตัวเองที่ผิดพลาด มันคงไม่ต้องมาวุ่นวายกันแบบนี้
ประชาชนก็จะได้ มีสมาธิตั้งใจทำหน้าที่ ทำมาหน้ากินได้อย่างสบายใจ

ยังเชื่อเสมอว่า ปัญหาประเทศเรา คือการเข้าไม่ถึงข่าวสาร ของประชาชนส่วนมาก ร่วมกับการขนัยปกปิดหรือบิดเบือนข้อมูลข่าวสารโดยฝ่ายรัฐบาล
บันทึกการเข้า

เงินงบประมาณของประเทศที่นำไปใช้จ่ายต่างๆ มาจาก การจัดเก็บภาษีที่เราประชาชนคนไทยทุกคนต้องจ่ายกันอยู่แล้วทั้งจากภาษีทางตรงและภาษีทางอ้อม(vet 7) (ขอย้ำว่าทุกคนเพราะเมื่อเราได้ซื้อสินค้าใดๆ สินค้านั้นยอมมีต้นทุนมาจากการเสียภาษีแล้ว) หรือจากการจัดเก็บจากทรัพย์สินส่วนรวมของคนไทยทุกคนที่เกิดบนแผ่นดินที่บรรพบุรุษของเราปกป้องรักษา ไม่ว่าจะเป็น แผ่นดิน แผ่นน้ำ ใต้แผ่นดิน ใต้แผ่นน้ำ ท้องฟ้า อวกาศ

เงินงบประมาณของประเทศ ไม่ได้มาจากเงินของคนใดคนหนึ่งหรือพรรคใดพรรคหนึ่ง ไม่มีใครสมควรอย่างยิ่งที่จะแอบอ้างว่าเงินนี้เป็นของตนนำมาแจกจ่าย การแอบอ้างนั้น เป็นการกระทำที่ไร้จริยธรรม และไม่ยุติธรรมต่อความรู้ของทุกๆคนในประเทศที่ต้องเสียภาษี

อย่าโทษหรือด่าว่า คนที่เค้าไม่มีโอกาศเข้าถึงข่าวสารข้อมูล ปัญหาจะแก้ได้คือ ทำอย่างไรให้เค้าเหล่านั้น ได้เข้าถึงข่าวสารข้อมูล

หลอกคนไทยตลอดไป คิดว่าหลอกได้หรือ? รัฐบาลของทักษิณ

เป็นเรื่องแปลก...สิ่งที่คนโกงกลัวที่สุดคือ ....ไม่ได้มีชีวิตเพื่อใช้เงินที่โกงมา? ประวัติศาสตร์โลกมีให้เห็น
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 23-06-2008, 19:48 »

ยุ่งตายห่า!  คือเวลานี้พยายามคิดสารพัดระบบมาป้องกันตรงนั้น ตรวจสอบตรงนี้ เช่น
- มีคณะกรรมการ 4-5 ชุด มาตรวจสอบตรงนั้น
- รวบรวมรายชื่อกี่หมื่นชื่อถอดถอน
- ให้ยื่นบัญชีทรัพย์สินก่อนและหลังดำรงตำแหน่ง
- ยุบพรรค แต่เสือกให้มันเปลี่ยนชื่อแล้วตั้งพรรคขึ้นมาใหม่ได้
- ให้ยื่นบัญชีทรัพย์สินก่อนและหลังดำรงตำแหน่ง แต่เสือกไม่มีใครไปตรวจสอบที่มาทรัพย์สิน
- เดี๋ยวเลือกตั้งรวมเขตเบอร์เดียว เดี๋ยวก็เขตละเบอร์
ฯลฯ ............. ทั้งหมดคือการไปแก้ปัญหาที่ปลายเหตุแล้ว แล้วถึงเวลาก็มีแต่การ abuse มั่ง เช่น เอาคณะกรรมการตรวจสอบทั้งหลายที่ตั้งขึ้นมา ไปเล่นงานฝ่ายที่จ้องจะตรวจสอบตัวเองอีกที หรือไปเอาระบบที่คุณคิดมาไปเล่นงานคนอื่นอีกที ไปกันใหญ่  ถึงเวลาจริงๆก็ไม่เป็นอันทำงาน

ในเมื่อปัญหามันเกิดตั้งแต่ "ปากทางเข้า" ... ก็เห็นไอ้นั่นรวย มีบ้านหลังโตๆ คือรวยขึ้นมาโดยไร้เหตุผล ทั้งๆที่ไม่เคยทำธุรกิจหรืออาชีพอะไรเป็นหลักเป็นฐาน   ทำไมไม่ไป "ตรวจสอบประวัติการเสียภาษีเงินได้ส่วนบุคคลย้อนหลังสัก 7 ปี"?  โดยถือหลักที่ว่าหากมีทรัพย์สินมากเท่าไร แปลว่าที่ผ่านมาต้องมีรายได้เท่านั้น  แล้วรายได้น่ะ พวกมึงมีหลักฐานการเสียภาษีหรือเปล่า? หากไม่มีหลักฐานการเสียภาษีก็แปลว่า เป็นเงินไม่บริสุทธิ์ ก็สามารถปรับและยึดเงินไปเลย เป็นกรองโจรที่หวังมาปล้นชาติไปในตัว
บันทึกการเข้า

mebeam
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 634


Fear can hold you prisoner. Hope can set you Free.


« ตอบ #7 เมื่อ: 23-06-2008, 23:14 »

ยุ่งตายห่า!  คือเวลานี้พยายามคิดสารพัดระบบมาป้องกันตรงนั้น ตรวจสอบตรงนี้ เช่น
- มีคณะกรรมการ 4-5 ชุด มาตรวจสอบตรงนั้น
- รวบรวมรายชื่อกี่หมื่นชื่อถอดถอน
- ให้ยื่นบัญชีทรัพย์สินก่อนและหลังดำรงตำแหน่ง
- ยุบพรรค แต่เสือกให้มันเปลี่ยนชื่อแล้วตั้งพรรคขึ้นมาใหม่ได้
- ให้ยื่นบัญชีทรัพย์สินก่อนและหลังดำรงตำแหน่ง แต่เสือกไม่มีใครไปตรวจสอบที่มาทรัพย์สิน
- เดี๋ยวเลือกตั้งรวมเขตเบอร์เดียว เดี๋ยวก็เขตละเบอร์
ฯลฯ ............. ทั้งหมดคือการไปแก้ปัญหาที่ปลายเหตุแล้ว แล้วถึงเวลาก็มีแต่การ abuse มั่ง เช่น เอาคณะกรรมการตรวจสอบทั้งหลายที่ตั้งขึ้นมา ไปเล่นงานฝ่ายที่จ้องจะตรวจสอบตัวเองอีกที หรือไปเอาระบบที่คุณคิดมาไปเล่นงานคนอื่นอีกที ไปกันใหญ่  ถึงเวลาจริงๆก็ไม่เป็นอันทำงาน

ในเมื่อปัญหามันเกิดตั้งแต่ "ปากทางเข้า" ... ก็เห็นไอ้นั่นรวย มีบ้านหลังโตๆ คือรวยขึ้นมาโดยไร้เหตุผล ทั้งๆที่ไม่เคยทำธุรกิจหรืออาชีพอะไรเป็นหลักเป็นฐาน   ทำไมไม่ไป "ตรวจสอบประวัติการเสียภาษีเงินได้ส่วนบุคคลย้อนหลังสัก 7 ปี"?  โดยถือหลักที่ว่าหากมีทรัพย์สินมากเท่าไร แปลว่าที่ผ่านมาต้องมีรายได้เท่านั้น  แล้วรายได้น่ะ พวกมึงมีหลักฐานการเสียภาษีหรือเปล่า? หากไม่มีหลักฐานการเสียภาษีก็แปลว่า เป็นเงินไม่บริสุทธิ์ ก็สามารถปรับและยึดเงินไปเลย เป็นกรองโจรที่หวังมาปล้นชาติไปในตัว


 
บันทึกการเข้า
KILL...ER
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 330



« ตอบ #8 เมื่อ: 24-06-2008, 21:48 »

โหวต ตามวรรณะสิจ้ะ

ให้ประชาชนไปยื่นบัญชีทรัพย์สิน ตรวจสอบโคตรเหง้าเหล่ากอ ระดับวุฒิการศึกษา

แล้วจัดหมวดหมู่เป็นวรรณะ พราหมณ์ แพศย์ ศูทร จัณฑาล

เสร็จแล้วก็กำหนดไปเลยว่า วรรณะไหน มีสิทธิโหวตอะไรบ้าง

เช่น วรรณะ พราหมณ์ ก็มีเสียงมากหน่อย 1 คนเท่ากับ 4 เสียง

ลดหลั่นกันลงมา ตามวรรณะ

สมประโยชน์ เผด็จการศักดินาทรราช ที่มันต้องการเป๊ะ
บันทึกการเข้า

จงภาคภูมิใจในความเป็นไพร่กระฎุมพี
sleepless
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 525


Sleepless


« ตอบ #9 เมื่อ: 24-06-2008, 22:05 »

การโหวตบ่อยๆ มันเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ ทั้งเรื่องของงบประมาณที่ต้องใช้งบมหาศาล
และเรื่องของสภาพการเป็นผู้แทนและผู้บริหารที่ไม่มั่นคง เพราะเสี่ยงต่อการถูกปลดตลอดเวลา
และมันก็จะยิ่งทำให้นักการเมืองมัวแต่พะวงกับการรักษาฐานคะแนนของตัวเอง มากกว่าที่จะทำงานให้ได้เป็นชิ้นเป็นอัน

ก็ไม่ต้องมีผู้แทนแล้วจะเอาผู้แทนที่ใหนมาพะวงกับฐานคะแนนเสียงอยู่ละครับ
ส่วนรัฐมนตรีก็เลือกเอาไว้ตัดริบบิ้นกับรับแขกก็พอ

 

ส่วนการโหวตทางตรง ยิ่งทำให้มีความเป็นไปได้ในการเกิด "ทรราชเสียงข้างมาก" ได้มากขึ้นกว่าเดิม
เพราะการโหวตทางตรง ทำให้การใช้อำนาจอธิปไตยของประชาชน อยู่เหนือคุณธรรมศีลธรรมและความเหมาะสม
เช่นเราอาจจะได้เห็น พรบ. ลดภาษี หรือ พรบ. แจกเงินประชาชนเฉพาะบางส่วน และคนส่วนใหญ่ก็โหวตให้ผ่าน
ซึ่งในขณะที่ตัวอย่างสมมติดังกล่าวไม่สามารถเป็นไปได้เลยในระบอบรัฐสภาในปัจจุบัน


หมายถึงว่าคน 40 ล้านคนออกเสียงในแต่ละเรื่องจะทำให้เกิดการลากเสียงมากกว่าที่เป็นอยู่ในสภาทุกวันนี้หรือครับ
เคยทดลองทำแล้วหรือครับถึงบอกว่าไม่สามารถเป็นไปได้
สภาเอาไว้ให้เป็นที่ๆ ให้ผู้เชี่ยวชาญมาอภิปรายให้ประชาชนฟังก็พอครับ มาอภิปรายข้อดีข้อเสียในแต่ละเรื่องแล้วให้ประชาชนตัดสินใจเอง ไม่ใช่ให้คนเพียงไม่กี่ร้อยคนตัดสินใจแทนคนทั้งประเทศ
บันทึกการเข้า
sleepless
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 525


Sleepless


« ตอบ #10 เมื่อ: 24-06-2008, 22:22 »

ประชาธิปไตยทางตรงแทบจะไม่เคยเกิดขึ้นในโลกเลยก็ว่าได้ครับ

ประชาธิปไตยทางตรงในสมัยก่อน ผู้ใหญิงก็ไม่มีสิทธิ์ในการออกเสียง

แสดงว่า ประชาธิปไตยทางตรงไม่เคยเกิดขึ้นในโลก

และผมคิดว่ามันเกิดขึ้นยากด้วย

ไม่เคยเกิดขึ้นไม่ได้หมายความว่าไม่สามารถเกิดขึ้นได้
ช่วยอธิบายเหตุผลว่าทำไมจึงเกิดขึ้นไม่ได้ครับ

คือแบบว่าผมไม่ใช่นักรัฐศาสตร์ ไม่ค่อยเข้าใจว่าเขาคิดกันยังไง
เห็นๆ กันอยู่ว่าระบบมันห่วยแตก มี bug เพียบไปหมดยังทนนั่งใช้กันอยู่ได้
เสร็จแล้วก็เห็นออกมานั่งบ่นทุกครั้งหลังเลือกตั้ง
เหมือนกับคนที่มีไวรัสคอมพิวเตอร์ในเครื่อง
นั่งทนใช้มันไปทุกวันเพราะกลัวว่า format ใหม่แล้วจะยุ่งยาก
วันนึงจำเป็นจริงๆ จึงต้องกัดฟัน format ใหม่
หลัง format เสร็จก็ได้คิดว่า ไม่เห็นมันจะลำบากเลยนี่นา แค่เสียเวลานิดหน่อย

ทำไมคนไทยต้องทนใช้ระบบสัปปะรังเคนี่ด้วยเมื่อเรามีทางเลือกอื่นซึ่งยังไม่เคยลอง
นั่งสะกดจิตตัวเองอยู่ได้ว่าประชาธิปไตยทางตรงไม่ต้องมีตัวแทนทำไม่ได้
เพราะเรากักตัวเองเอาไว้กับนิยามและโลกตามความเคยชินของเราไงครับ มันถึงทำไม่ได้ ไม่ใช่มันทำไม่ได้
สมัยก่อนตอนมีอีเมล์ใหม่ๆ คนก็บอกว่าไม่มีทางที่มันจะใช้แทนไปรษณีย์จริงๆ ได้
เผลอแป๊บเดียวมันกลายเป็นของจำเป็นไปซะแล้ว
ถ้าเราไม่กล้าเปลี่ยน ก็อยู่นิ่งๆ เสียดีกว่า ออกไปจากแดดตากฝนเป็นเดือนเพื่อให้นักการเมืองที่มีวิวัฒนาการใหม่ๆ เพิ่มขึ้นทุกวันหมุนเวียนกลับมาทำแบบเดิม

เสียเวลาเปล่า อีกสิบปีเว็บบอร์ดนี้ก็ยังต้องกลับมานั่งบ่นเรื่องนักการเมืองเหมือนเดิม
แล้วใครชอบบอกว่าแก้ที่ปลายเหตุ
ก็ต้นเหตุมันคือนักการเมืองนี่แหล่ะ ในเมื่อรู้ว่าต้นเหตุคือนักการเมือง ยังจะเก็บไว้เป็นเชื้อให้มันพัฒนาการต่อไปอีกหรือครับ
ยกเลิก และลบคำว่านักการเมืองออกไปจากพจนานุกรมไทยไปเลยดีกว่า
ให้เด็กรุ่นหลังได้มาเรียนประวัติศาสตร์ว่านักการเมืองคืออะไร

 
บันทึกการเข้า
sleepless
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 525


Sleepless


« ตอบ #11 เมื่อ: 24-06-2008, 22:42 »

เอาง่ายๆ เลยนะ
อย่างอภิปรายไม่ไว้วางใจตอนนี้หากให้นักการเมืองไม่กี่ร้อยคนตัดสินว่าจะไว้วางใจรัฐบาลให้ทำงานต่อไปหรือเปล่า
เทียบกับให้คนทั้งประเทศโหวตกันหลังจากอภิปรายจบ
ผลจะออกมาเหมือนกันเหรอ?
ผมจะบอกให้ว่า นักการเมืองเป็นส่วนเกินของประชาธิปไตย แต่เราถูกล้างสมองจนเราคิดว่าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
ล้างสมองโดยใครหล่ะ ก็โดยนักการเมืองนั่นแหล่ะ
คือผมไม่ได้จบรัฐศาสตร์หรอก ไม่ได้เรียนปรัชญาการเมืองการปกครองมามากมาย
แต่ผมรู้ว่าระบบที่นักรัฐศาสตร์พยายามใช้มานานหลายปี มันห่วยแตก
ขอโทษนักรัฐศาสตร์ในที่นี้ด้วยนะ แต่มันเป็นเรื่องจริง


โลกทุกแขนงอยู่ในยุค real-time แล้ว แต่ระบบประชาธิปไตยของเรายังเป็นแบบ 4 ปีครั้งอยู่อีกเหรอ??
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-06-2008, 22:48 โดย sleepless » บันทึกการเข้า
Iona
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 271


« ตอบ #12 เมื่อ: 25-06-2008, 00:53 »

โหวต ตามวรรณะสิจ้ะ

ให้ประชาชนไปยื่นบัญชีทรัพย์สิน ตรวจสอบโคตรเหง้าเหล่ากอ ระดับวุฒิการศึกษา

แล้วจัดหมวดหมู่เป็นวรรณะ พราหมณ์ แพศย์ ศูทร จัณฑาล

เสร็จแล้วก็กำหนดไปเลยว่า วรรณะไหน มีสิทธิโหวตอะไรบ้าง

เช่น วรรณะ พราหมณ์ ก็มีเสียงมากหน่อย 1 คนเท่ากับ 4 เสียง

ลดหลั่นกันลงมา ตามวรรณะ

สมประโยชน์ เผด็จการศักดินาทรราช ที่มันต้องการเป๊ะ
ปัญหาอ่อนแบบที่เสนอ ขอไม่นำขึ้นไปแสดงเป็นความเห้น
บันทึกการเข้า

เงินงบประมาณของประเทศที่นำไปใช้จ่ายต่างๆ มาจาก การจัดเก็บภาษีที่เราประชาชนคนไทยทุกคนต้องจ่ายกันอยู่แล้วทั้งจากภาษีทางตรงและภาษีทางอ้อม(vet 7) (ขอย้ำว่าทุกคนเพราะเมื่อเราได้ซื้อสินค้าใดๆ สินค้านั้นยอมมีต้นทุนมาจากการเสียภาษีแล้ว) หรือจากการจัดเก็บจากทรัพย์สินส่วนรวมของคนไทยทุกคนที่เกิดบนแผ่นดินที่บรรพบุรุษของเราปกป้องรักษา ไม่ว่าจะเป็น แผ่นดิน แผ่นน้ำ ใต้แผ่นดิน ใต้แผ่นน้ำ ท้องฟ้า อวกาศ

เงินงบประมาณของประเทศ ไม่ได้มาจากเงินของคนใดคนหนึ่งหรือพรรคใดพรรคหนึ่ง ไม่มีใครสมควรอย่างยิ่งที่จะแอบอ้างว่าเงินนี้เป็นของตนนำมาแจกจ่าย การแอบอ้างนั้น เป็นการกระทำที่ไร้จริยธรรม และไม่ยุติธรรมต่อความรู้ของทุกๆคนในประเทศที่ต้องเสียภาษี

อย่าโทษหรือด่าว่า คนที่เค้าไม่มีโอกาศเข้าถึงข่าวสารข้อมูล ปัญหาจะแก้ได้คือ ทำอย่างไรให้เค้าเหล่านั้น ได้เข้าถึงข่าวสารข้อมูล

หลอกคนไทยตลอดไป คิดว่าหลอกได้หรือ? รัฐบาลของทักษิณ

เป็นเรื่องแปลก...สิ่งที่คนโกงกลัวที่สุดคือ ....ไม่ได้มีชีวิตเพื่อใช้เงินที่โกงมา? ประวัติศาสตร์โลกมีให้เห็น
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #13 เมื่อ: 25-06-2008, 07:02 »

ควายเท่านั้นที่คิดเรื่องไม่มีผู้แทน แค่ระบบบริษัทยังทำไม่ได้ ต้องใช้กรรมการ
ถ้าใช้ทั้งประเทศจะรอพิจารณาเรื่องอะไร คงต้องรอนับคะแนนเสียงซักสามปี
ไม่ต้องดัดจริตว่าใช้อีเล็คทรอนิคส์ เพราะมันมองไม่เห็นตรวจสอบยาก ในสภา
ไม่กี่คนยังต้องใช้ยกมือนับ
บันทึกการเข้า
RiDKuN
Administrator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,015



เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: 25-06-2008, 09:48 »

ควายเท่านั้นที่คิดเรื่องไม่มีผู้แทน แค่ระบบบริษัทยังทำไม่ได้ ต้องใช้กรรมการ
ถ้าใช้ทั้งประเทศจะรอพิจารณาเรื่องอะไร คงต้องรอนับคะแนนเสียงซักสามปี
ไม่ต้องดัดจริตว่าใช้อีเล็คทรอนิคส์ เพราะมันมองไม่เห็นตรวจสอบยาก ในสภา
ไม่กี่คนยังต้องใช้ยกมือนับ

เห็นด้วย ขนาดในสภา มันยังเสียบบัตรแทนกัน 
บันทึกการเข้า

คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
RiDKuN
Administrator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,015



เว็บไซต์
« ตอบ #15 เมื่อ: 25-06-2008, 09:55 »

หมายถึงว่าคน 40 ล้านคนออกเสียงในแต่ละเรื่องจะทำให้เกิดการลากเสียงมากกว่าที่เป็นอยู่ในสภาทุกวันนี้หรือครับ
เคยทดลองทำแล้วหรือครับถึงบอกว่าไม่สามารถเป็นไปได้
สภาเอาไว้ให้เป็นที่ๆ ให้ผู้เชี่ยวชาญมาอภิปรายให้ประชาชนฟังก็พอครับ มาอภิปรายข้อดีข้อเสียในแต่ละเรื่องแล้วให้ประชาชนตัดสินใจเอง ไม่ใช่ให้คนเพียงไม่กี่ร้อยคนตัดสินใจแทนคนทั้งประเทศ

แน่นอนครับ ในทุกวันนี้เราใช้ระบบผู้แทน โดยอนุมานว่าผู้แทนทั้งหมดคือผู้ใช้อำนาจอธิปไตยแทนปวงชนทั้งประเทศ
ดังนั้นเราย่อมมีสิทธิที่จะทักท้วงในเรื่องที่ไม่ถูกไม่ควร แม้ว่าจะไม่ได้เป็นผู้แทนที่เราเลือก
เพราะถือว่าเขาใช้อำนาจอธิปไตยของเราอยู่

แต่ถ้าเราใช้ระบบทางตรง เท่ากับเรายกอำนาจอธิปไตยให้ "คนส่วนใหญ่" ไม่ใช่ "ปวงชน"
เพราะโหวตทีไร "คนส่วนใหญ่" ก็ชนะทุกที
บันทึกการเข้า

คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
ScaRECroW
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,000


สุสูสัง ลภเต ปัญญัง - ผู้ฟังดี ย่อมเกิดปัญญา


เว็บไซต์
« ตอบ #16 เมื่อ: 25-06-2008, 12:15 »

ผมอยากให้ การตัดสินว่าไว้วางใจหรือไม่ไว้วางใจเป็นเรื่องของประชาชน  มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อไร พออภิปรายเสร็จก็ลงประชามติกันทั้งประเทศเลย ฝ่ายไหนชนะจังหวัดไหน ก็ได้คะแนนจากจำนวน สส.ของจังหวัดนั้นไปหมดเลย

อยากซื้อเสียงก็ซื้อไป ฝ่ายค้านอภิปรายปีละหน คนจะได้หายจนกันบ่อย ๆ ตังค์ไม่หมดให้มันรู้ไป
บันทึกการเข้า

Politic is nothing but the continuation of [the sin of] 7 by other means.

ท่านคิดว่า นรม. ควรทำอย่างไรเมื่อพบว่ากฏหมายบางฉบับมีช่องโหว่?
ก.ใช้อำนาจ นรม.ที่ได้รับมาจากประชาชนแก้กฏหมายเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านั้น เพราะเป็นประโยชน์ของแผ่นดิน
ข.ฉวยโอกาสใช้ช่องโหว่เหล่านั้นเพื่อประโยชน์ของตนเองและคนรอบข้าง แล้วก็อ้างว่าคนอื่นเขาก็ทำกัน
sleepless
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 525


Sleepless


« ตอบ #17 เมื่อ: 25-06-2008, 20:28 »

แน่นอนครับ ในทุกวันนี้เราใช้ระบบผู้แทน โดยอนุมานว่าผู้แทนทั้งหมดคือผู้ใช้อำนาจอธิปไตยแทนปวงชนทั้งประเทศ
ดังนั้นเราย่อมมีสิทธิที่จะทักท้วงในเรื่องที่ไม่ถูกไม่ควร แม้ว่าจะไม่ได้เป็นผู้แทนที่เราเลือก
เพราะถือว่าเขาใช้อำนาจอธิปไตยของเราอยู่

แต่ถ้าเราใช้ระบบทางตรง เท่ากับเรายกอำนาจอธิปไตยให้ "คนส่วนใหญ่" ไม่ใช่ "ปวงชน"
เพราะโหวตทีไร "คนส่วนใหญ่" ก็ชนะทุกที

ช่วยอธิบายศัพท์รัฐศาสตร์ "คนส่วนใหญ่" กับ "ปวงชน" ที่ยกมาด้วยครับ ว่าแตกต่างกันอย่างไร

สังคมซึ่งค่อยๆ ให้ความรู้ และมอบอำนาจตัดสินใจให้ประชาชนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือสังคมซึ่งนำไปสู่การยืนได้ด้วยตนเองของประชาชน

ประชาชนอาจจะมีการผิดพลาดในการออกเสียงในเรื่องต่างๆ บ้าง แต่ก็จะต้องเป็นผู้รับผลของสิ่งที่ตนเลือกโดยตรง ไม่ต้องไปโทษตัวกลาง
ประชาชนก็จะค่อยๆ เรียนรู้ในการตัดสินใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และตัดสินใจได้ดีขึ้นเรื่อยๆ

ดีกว่าลงคะแนน 10 วินาทีแล้วนั่งงอมืองอตีนไปอีก 4 ปี (ไม่เคยอดทนถึงสักที)

แล้วคุณ Ridkun คิดว่าประชาชนออกมาเที่ยวนี้ควรจะทำอะไรที่คุณ Ridkun คิดว่าจะเปลี่ยนแปลง "สิ่งที่เป็นอยู่" ทุกวันนี้ได้หรือครับ
ไล่สมัครออก ปชป เข้ามา แล้วอีก 2 ปีก็มานั่งไล่กันใหม่?
คุณ Ridkun ลองเสนอทางเลือกที่คุณ Ridkun ไปนอนคิดมาแล้วว่าดีที่สุด และดีกว่าประชาธิปไตยแบบทางตรงบ้าง


บันทึกการเข้า
sleepless
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 525


Sleepless


« ตอบ #18 เมื่อ: 25-06-2008, 20:47 »

เห็นด้วย ขนาดในสภา มันยังเสียบบัตรแทนกัน 

อันนี้มันปัญหาของการ implement มันไม่ใช่ปัญหาของ model นี่ครับ
เวลาคุณ Ridkun จะทำ business plan สำหรับธุรกิจนะ มันก็จะมีปัญหาในการ implement ต่างๆ
ซึ่งเราสามารถแก้ไขเป็นข้อๆ ไปได้ ก่อนที่จะ implement จริง

ขอเพียง business model มัน work โครงการเขาไม่ล้มเพราะว่าเจอปัญหาในการ implement เพียงจุดเดียวหรอกครับ
ปัญหาคือคุณ Ridkun เชื่อหรือไม่เชื่อว่าระบบแบบทางตรงมันดีกว่าทางอ้อม
หากไม่เชื่อก็ไม่ต้องยกเรื่อง implement มาเป็นจุดโต้แย้งครับ
มันคนละเรื่องกัน

ระบบแบบทางอ้อมมันก็มีปัญหา implement มากมายอย่างที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ไงครับ ถ้าจะเปรียบเทียบก็ต้องเปรียบเทียบให้ตรงจุด
อย่าเอาระดับ business model มาปนกับเรื่อง implement ครับ

discuss ด้วยเหตุผลนะครับ ลองบอกมาดูว่าหากเราแก้ปัญหาการ implement เรื่องต่างๆ ได้ เช่น
- การลดค่าใช้จ่ายต่อ transaction ลง ทำได้ตั้งหลายรูปแบบ เช่น ใช้ระบบสื่อสารที่มีอยู่เดิม จัดหาเฉพาะซอฟต์แวร์ที่มีความปลอดภัย, หา sponsor โฆษณา etc.
- ปัญหาการปลอมแปลงตัวตน ใช้ระบบ biometric + รหัสผ่านในการแยกแยะบุคคล

เราจะยอมรับระบบประชาธิปไตยแบบทางตรงหรือเปล่าครับ

อันนี้เป็นรายละเอียดปลีกย่อยนะครับ ไม่ต้องลงมาค้านระดับนี้เพราะมันเป็นเรื่องของผู้เชี่ยวชาญที่เขาหา solution ให้คุณได้อย่างแน่นอน

ปัญหามีไว้แก้ครับ ตราบใดที่โครงสร้างมันใช้งานได้ ปัญหาก็แก้ได้และคุ้มค่าที่จะใช้
แต่หากฟันธงว่าชาตินี้กรูขอโหวตแค่ 10 วินาที/4 ปีก็พอ ไม่ขอใช้สมองคิดเรื่องการบริหารบ้านเมืองให้รกหัว
อันนั้นก็ไม่ต้องเสียเวลาออกมาเปลียนแปลงอะไรหรอกครับ เสียเลือดเสียเนื้อโดยเปล่าประโยชน์
เอาทักษิณกลับมาบริหารเหมือนเดิม ให้เขาโกงไปบ้าง ทำงานไปบ้าง 4 ปีก็ไปเลือกตั้งทีเหมือนในสิงคโปร์
หรือว่าไงคุณ Ridkun?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-06-2008, 21:40 โดย sleepless » บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: