.... คุณกับเพื่อนบ้านของคุณ ฟ้องร้องกันเรื่องทางเดิน ระหว่างที่ดินว่าเป็นของใคร ปรากฎว่า คุณแพ้ ศาลตัดสินให้ทางเดินเป็นของเพื่อนบ้าน ซึ่งคุณเจ็บใจมาก
.... ต่อมาหลายปี เพื่อนบ้านคุณ จะขายของบนทางเดินนั้น ทางราชการบอกว่า ต้องให้ ข้างบ้านคือ"คุณ" เซ็นยินยอมก่อน ถึงจะอนุญาต
.... ถามว่า เป็นคุณ ถ้าไม่มีอะไรแลกเปลี่ยน คุณจะเซ็นยินยอม ไหม..........
ก็ต้องถามต่อครับ ว่า ที่ผ่านมาหลายปี คุณกับเพื่อนบ้านดีกันหรือยัง มีเรื่องที่เราต้องเกื้อกูลกันไหม มีการไปมาหาสู่ค้าขายสินค้าระหว่างกันหรือเปล่า
เพราะการปล่อยให้ ความเจ็บใจ สมัยก่อน ทำให้คุณไม่ยินยอม ก็ใช่ว่าคุณจะเอาทางเดินกลับมาได้ กลับทำให้ทางเท้านั้นรกร้างสูญเปล่า ไม่ทำประโยชน์ให้ใคร
และการที่มีการเปิดขายของบนทางเดินนั้น ยังช่วยดึงดูดคนมาซื้อสินค้าบ้านเราเพิ่มขึ้นกว่าปล่อยให้รกร้าง
และการปล่อยให้โมหะโทษะเข้าครอบครองกลับทำให้ เราและเพื่อนบ้านที่เดี่ยวนี้เป็นมิตร กลับไปเป็นศัตรูเหมือนเดิม
ผลประโยชน์หรือการค้าใดๆ ที่เคยมีระหว่าง 2 บ้านเรา ก็เป็นอัน สูญสิ้นหมดไป
และพอมองย้อนมา ยังมีทางเดินอีกหลายส่วน ที่ศาลไม่ได้ตัดสินจะเป็นของใครอีก
คราวนี้คุณกับเพื่อนบ้านต้อง เจรจากัน ในฐานะศัตรู มิใช่ในฐานะมิตรอีกแล้ว