|
Can ไทเมือง
|
 |
« เมื่อ: 20-06-2008, 23:28 » |
|
พลตรีจำลอง ศรีเมือง ฝ่าด่านสะกัดก่อนเข้ายึดแยกนางเลิ้ง
ผมคิดว่าน่าจะมีซักระทู้ รวบรวมบทบาทพลตรีจำลอง ในสถานการณ์ม้อบ ตั้งแต่วันแรก
**************************************************
'พันธมิตร'เคลื่อนพล4หมื่นยึดทำเนียบฯสำเร็จ
ปักหลักตั้งเวทีไล่รบ.ที่แยกนางเลิ้ง
'พันธมิตร'เคลื่อนพล4หมื่นยึดข้างทำเนียบฯสำเร็จ ฝ่าด่านแรกถ.พิษณุโลกทะลักไปหน้าก.พ. 'จำลอง'นำม็อบลุยแยกนางเลิ้ง ตั้งเวทีปักหลักไล่รัฐบาลจนกว่าจะออก ตร.ต้านม็อบเจ็บ4นาย ขีดเส้นปีนทำเนียบเจอแน่ เจรจาม็อบให้ย้ายมาหน้าก.พ. พันธมิตรตจว.เจอสกัด
พันธมิตร4หมื่นยึดข้างทำเนียบ
กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกว่า 40,000 คน ใช้ยุทธการสงคราม 9 ทัพ ฝ่าแนวกั้นของตำรวจจากสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยวิธีอหิงสาและปราศจากอาวุธ เข้าไปปักหลักตั้งเวทีปราศรัยอย่างสงบบริเวณถนนพิษณุโลก ข้างเทำเนียบรัฐบาลได้สำเร็จ เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเคลื่อนทัพของพันธมิตรแต่ละจุดเริ่มจากเวลา 12.30 น. โดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตร นำกลุ่มผู้ชุมนุมผ่านทางคลองผดุงกรุงเกษม มาทางวัดโสมนัสวรวิหาร และสามารถแหกด่านสกัดตำรวจบริเวณนางเลิ้งได้ โดยมีประชาชนประมาณ 8,000 คน
ขณะที่ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ นำทีมกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 8,000 คน เข้าทางด้านวัดเบญจบพิตรฯ ฝ่าด่านตำรวจเข้ามาจนทะลุทางด้านสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการ พลเรือน( ก.พ.) เป็นจุดแรกที่ บริเวณสะพานชมัยมรุเชษฐ
ขณะที่ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตร นำกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 4,500 คน บุกแยกมิสกวัน ฝ่าด่านตำรวจเข้ามาที่บริเวณถนนพิษณุโลก โดยมีนายสุริยะใส กตะศิลา แกนนำพันธมิตร ที่นำกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 4,000 คน อ้อมแนวกั้นตำรวจบริเวณสะพานมัฆวานฯ ไปรวมกับกลุ่มนายสมศักดิ์ทางแยกมิสกวัน และเข้าไปรวมกันทั้งหมดที่ถนนพิษณุโลก เมื่อเวลา 15.00 น. ซึ่งมียอดผู้ชุมนุมตามมาเข้าร่วมทั้งหมดประมาณ 40,000 คน
ส่วนก่อนหน้ามีการเคลื่อนกลุ่มผู้ชุมนุม นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตร พร้อมด้วยการ์ดประมาณ 10 คน เดินทางด้วยรถ 2 คัน ไปยังวัดชนะสงครามฯ โดยนายสนธิเข้าไปนั่งสงบอยู่ในโบสถ์ราว 20 นาที ก่อนจะมาร่วมนำกลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนที่
ตร.ต้านม็อบไม่อยู่เจ็บ4นาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้มีหลายจุดที่ตำรวจผู้ควบคุมฝ่ายปฏิบัติการมีการขออนุมัติใช้กำลัง แต่ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แจ้งยืนยันว่าห้ามใช้กำลังเด็ดขาด ถ้ากลุ่มพันธมิตรดันเข้ามาให้ถอยไป ซึ่งจากการที่กลุ่มพันธมิตรใช้วิธีดันฝ่าด่านตำรวจ ทำให้มีผู้ได้รับได้รับบาดเจ็บหลายราย ประกอบด้วย ส.ต.ต.หญิง พรพิรุณ โตวังจร ส.ต.ต.หญิง พจนา แก้วเกตุศรี สังกัด ตชด. บาดเจ็บที่แขนและอาจจะหัก และ ส.ต.ต.คมสัน ศรีคำ สังกัด สน.บางนา เล็บหลุด จ.ส.ต.ศราวุธ เลิศพร ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สน.ลุมพินี นิ้วมือข้างซ้ายที่ถือโล่ได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากมีเพื่อนล้มลงแล้วถูกกลุ่มผู้ชุมนุมเดินเหยียบ ได้พยายามดึงคอเสื้อตำรวจที่ล้มลง ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมดันมือที่ถือโล่จนพลิก ทั้งหมดนำส่งรักษาโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่ง พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจที่ห้องฉุกเฉิน
ตร.ไม่พบข้อมูลระเบิดเพลิง300ลูก
ทางด้าน พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย บอกว่ามีไอ้จ๊อกขนปืนว่า อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลเพิ่มแต่ยังไม่พบ ส่วนกรณีมีข่าวเช้ามืดรับแจ้งระเบิดเพลิง 300 ลูก นั้นก็ยังไม่มีข้อมูลกัน แต่มีรายงานว่ามีอาวุธแต่ยังไม่ทราบเป็นอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข้อหาอะไรดำเนินคดีกับแกนนำได้หรือยัง พล.ต.ต.สุรพลกล่าวว่า ขณะนี้พยานหลักฐานจากการสืบสวนสอบสวนต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคมมา บช.น.ตั้งพนักงานสอบสวน 70 คน มีการรวบรวมพยานหลักฐานเตรียมพร้อม แต่หากวันนี้มีการดำเนินการที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง องค์ประกอบต่างๆ ทางกฎหมายก็จะครบ จะดำเนินคดีทุกกรณีทุกรายไป
แจงไม่ได้ยอมม็อบแต่หวั่นรุนแรง
พล.ต.ต.สุรพลยังแถลงหลังกลุ่มพันธมิตรฝ่าแนวกั้นของตำรวจเข้าไปบริเวณข้างทำเนียบว่า เหตุที่ตำรวจต้องให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปโดยรอบทำเนียบ เพราะเกรงอารมณ์ของกลุ่มผู้ชุมนุมจะปะทุ หากปล่อยให้ถึงช่วงค่ำจะยุ่ง สถานการณ์อาจจะวุ่นวาย เรียนว่าตำรวจไม่ได้ยอม แต่มีกติกาชัดเจนว่าจะไม่ทำร้ายประชาชน ซึ่งมีประชาชนจำนวนมาก การฝ่าด่านกั้นเข้ามาก็ไม่ได้ใช้กำลัง หรืออุปกรณ์ที่ใช้เป็นอาวุธ ไม่ได้ใช้ลักษณะของความรุนแรงเกินกว่าเหตุ แต่ใช้กำลังคนในลักษณะดันเข้ามาก็ดันสู้กัน เมื่อตำรวจดันสู้ไม่ไหว
'' เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมมีจำนวนมาก แม้กระทั่งที่แคบๆ ซึ่งตำรวจไม่คิดว่าจะผ่านได้บริเวณด้านวัดเบญจมบพิตรฯ เพราะสถานที่ทางภูมิศาสตร์น่าจะปะทะไว้ได้ แต่เอาไม่อยู่เพราะมีคนจำนวนมาก ตำรวจเสริมหลายๆ แนวก็ไม่ไหว เพราะถ้ากระแทกออกไป บางทีข้างหน้าเป็นผู้หญิงโล่จะไปกระแทกหน้ากระแทกตา ทำให้เขาบาดเจ็บ ขณะนี้กลุ่มผู้ชุมนุมอยู่ที่ถนนพิษณุโลกหมดแล้ว '' |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
boyk
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 20-06-2008, 23:34 » |
|
แม้อาจได้ชื่อว่าเป็นแกนนำสายบู๊
แต่ทุกการเคลื่อนขบวน พันธมิตรยังคงมอบความไว้วางใจให้มหาจำลองควบคุมวางแผนเบ็ดเสร็จ
ด้วยเชื่อมั่นในประสบการณ์ของนักคิดนักวางแผน
ภายใต้คำมั่นว่า จะไม่ก่อให้เกิดความรุนแรงกระทบกระทั่งใดๆที่เกิดจากฝ่ายพันธมิตรเริ่มก่อน
ทุกอย่างจึงราบรื่นเป็นไปอย่างมีเอกภาพ..
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ไล่งับคนโกง ตอกฝาโลงไม่ให้เกิด
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 20-06-2008, 23:45 » |
|
การให้ความรู้เรื่องการต่อสู้อย่างสันติอหิงสา ตอกย้ำบ่อยๆ และต้องทำให้ดู
เมื่อประชาชนมีความรู้สึกปลอดภัย ผู้คนก็มาร่วมด้วยความสบายใจ
วันนี้เมื่อประเด็น "ปราสาทพระวิหาร" จุดติด ความสำเร็จจึงเป็นของกำนัลแก่นักสู้
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 21-06-2008, 00:24 » |
|
นาทีต่อนาที 'พันธมิตร' ใช้ยุทธการเคลื่อน 9ทัพ 4หมื่นคน
ฝ่าด่านตร.ยึดทำเนียบสำเร็จ
มติชน วันที่ 20 มิถุนายน 2551 เวลา 22:33:44 น.
กลุ่มพันธมิตรฯกว่า 40,000 คน ใช้ยุทธการสงคราม 9 ทัพ ฝ่าแนวกั้นตร. โดยวิธีอหิงสา-ปราศจากอาวุธ เข้าไปปักหลักตั้งเวทีปราศรัยอย่างสงบบริเวณถ.พิษณุโลก-นางเลิ้งสำเร็จ
นาทีต่อนาที 'พันธมิตร' ฝ่าด่านตร. ยึดทำเนียบ
09.00 น. : ที่เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนินนอก บรรดากลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เตรียมความพร้อมด้านต่างๆ ก่อนเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล ขณะนั้นผู้ชุมนุมประมาณ 3,000 คน
09.30 น. : กลุ่มพันธมิตรเรียกประชุมหน่วยรักษาความปลอดภัย (นักรบศรีวิชัย) กว่า 100 คน ซักซ้อมความเข้าใจเพื่อรับมือเหตุไม่คาดฝันขณะเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นแบ่งออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 10 คน ใช้ผ้าพันคอ สีเขียว เป็นสัญลักษณ์ เพื่อป้องกันคนอื่นแอบแฝงเข้ามาก่อกวน อีกด้านหนึ่งเปิดรับสมัครอาสาสมัครหญิงเป็นหน่วยปฐมพยาบาล หากเกิดเหตุการณ์ปะทะกับตำรวจหรือกลุ่มต่อต้าน
09.40 น. : รถบรรทุก 6 ล้อ ขนเรือท้องแบนจำนวน 10 ลำ มาจอดไว้ริมคลองผดุงกรุงเกษมเพื่อใช้ข้ามคลองไปยังฝั่งทำเนียบรัฐบาล
ขณะเดียวกันนั้น กลุ่มต่อต้านกลุ่มพันธมิตรประมาณ 500 คน ซึ่งปักหลักชุมนุมอยู่บริเวณหน้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่วนใหญ่เป็นการปราศรัยโจมตีกลุ่มพันธมิตร และพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตรึงกำลังไว้อย่างหนาแน่น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการปะทะกัน
10.00 น. : พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตร ประกาศบนเวทีเชิงสะพานมัฆวานฯว่า การเดินไปทำเนียบรัฐบาลวันนี้ เชื่อว่าเราได้รับผลสำเร็จแน่นอน โดยรัฐบาลจะต้องลาออกภายใน 1-2 วันนี้ เพราะประชาชนมามากขนาดนี้ รัฐบาลคงอยู่ไม่ได้ วันนี้จะเป็นการเดินมหากุศลครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศ และประวัติการณ์
10.30 น. : นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกกลุ่มพันธมิตร อ่านแถลงการณ์ ฉบับที่ 14/2551 เรื่องดำรงความสงบ อหิงสา และปราศจากอาวุธ แสดงรอยยิ้มไม่ด่าทอ ไม่ยั่วยุ และจะไม่ใช้อาวุธใดๆ ทั้งสิ้น ขณะนั้นมีผู้ชุมนุมมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นประมาณ 6,000 คน
11.20 น. : นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตร พร้อมด้วยการ์ดประมาณ 10 คน เดินทางด้วยรถ 2 คัน ไปยังวัดชนะสงคราม โดยนายสนธิเข้าไปนั่งทำสมาธิอยู่ในโบสถ์ราว 20 นาที
12.00 น. : พล.ต.จำลองขึ้นรถ 6 ล้อ นำประชาชนประมาณ 5,000 คน เคลื่อนจากสะพานมัฆวานฯเลียบถนนกรุงเกษม เลี้ยวซ้ายข้ามคลองผดุงกรุงเกษมเข้าแยกนางเลิ้ง มุ่งหน้าสู่ทำเนียบตามยุทธการ 'สงคราม 9 ทัพ'
12.38 น. : นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำ เดินเท้าพาผู้ชุมนุมเคลื่อนตามโดยใช้เส้นทางเดียวกับขบวนของ พล.ต.จำลอง
12.40 น. : นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ นำผู้ชุมนุมประมาณ 1,200 คน เคลื่อนมาทางวัดเบญจมบพิตร เข้าถนนนครปฐม เจอตำรวจซึ่งตั้งแผงกั้น 2 จุด หน้าวัดและข้างสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ด่านละ 50 นาย แต่ใช้เวลาไม่กี่นาที กลุ่มพันธมิตรช่วยกันดันเข้ามาจนทำให้แผงเหล็กกั้นริมทางสีขาวหักลงมาทับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมกรูกันเข้ามาทำให้ตำรวจหญิงและชาย 4 นาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะเดียวกัน ได้ยกรถควบคุมผู้ต้องหาออกเพื่อนำรถเครื่องเสียงผ่านเข้าไปถึงถนนพิษณุโลก ได้เรียกเสียงเฮและปรบมือลั่น
13.00 น. : นายสมศักดิ์ โกสัยสุข นำสมาชิกสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ รวมเคลื่อนบริเวณแยกวังแดง จากนั้นเคลื่อนประชิดด่านตำรวจประมาณ 400 นาย แยกมิสกวัน เกิดการปะทะกันเล็กน้อย แต่ในที่สุด ก็ฝ่าด่านมารวมกับกลุ่มของนายไชยวัฒน์ได้สำเร็จ พร้อมด้วยเสียงไชโยโห่ร้องดังดึกก้อง
13.05 น. : ขบวนของ พล.ต.จำลองเผชิญหน้ากับด่านตำรวจ 200 นาย ที่แยกนางเลิ้ง ตำรวจใช้รถ 6 ล้อหลายคันจอดขวางพร้อมแผงเหล็ก แกนนำเจรจาให้เปิด มีการขย่มรถตำรวจเป็นระยะ มีกลุ่มบุคคลที่สามขว้างปาจานรับสัญญาณของเอเอสทีวี ทำให้ พล.ต.จำลองต้องพยายามปราศรัยบนรถเป็นระยะๆ ขอร้องไม่ให้ทำ ขอร้องให้ทุกคนนั่งลง อย่าตอบโต้ อย่ายั่วยุ หรือก่อให้เกิดความรุนแรง ใช้เวลาเจรจาอยู่เป็นเวลานานก็ยังไม่สำเร็จ ระหว่างเจรจา ตั้ว-ศรัณยู วงษ์กระจ่าง ดาราชื่อดัง ขึ้นเวทีนำร้องเพลงปลุกใจเป็นระยะ สลับกับพิธีกรปราศรัยร้องให้ตำรวจเปิดทาง และประกาศชัยชนะเป็นระยะๆ
16.00 น. : ผู้ชุมนุมจากสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจกว่า 200 คน ยกกำลังไปช่วยขบวนของ พล.ต.จำลอง ด้วยการมุดใต้รถตำรวจ 6 ล้อที่บริเวณแยกถนนพระราม 5 ตัดถนนพิษณุโลก หน้าพาณิชยการพระนครแล้วเข้ามาตลบหลังตำรวจที่ด่านแยกนางเลิ้ง กดดันจนด่านแตก ตำรวจยอมถอยรถ 6 ล้อออก ท่ามกลางเสียงไชโยโห่ร้องด้วยความยินดี ก่อนจะตะลุยมาสมทบกับพวกที่ยึดข้างทำเนียบไว้ได้ก่อนหน้านี้
ระหว่างการเคลื่อนขบวน อากาศร้อนอบอ้าวมาก มีผู้ร่วมชุมนุมเป็นลมจำนวนมาก โดยเฉพาะคนชราและผู้หญิง ทางกองทัพธรรมต้องปฐมพยาบาลกันจ้าละหวั่น ตั้งเต๊นท์ปฐมพยาบาลบริเวณแยกนางเลิ้ง 1 เต๊นท์
16.20 น. : ผู้ชุมนุมประมาณ 50,000 คน สามารถยึดถนนพิษณุโลกตั้งแต่แยกนางเลิ้งไปจนถึงแยกมิสกวัน จากนั้นตั้งเวที 2 จุด โดยใช้รถ 6 ล้อ 2 คันเทียบกัน จุดแรกที่แยกนางเลิ้ง หันหน้าเข้าหาทำเนียบ คุมเวทีโดย พล.ต.จำลอง นายสนธิ และนายสมเกียรติ จุดที่สอง เชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ์ หันหน้าเข้าหาทำเนียบ คุมเวทีโดยนายไชยวัฒน์ นายพิภพ ธงไชย และนายสมศักดิ์
เมื่อกำลังพันธมิตรส่วนใหญ่ยึดพื้นที่ข้างทำเนียบไว้ได้เบ็ดเสร็จแล้ว นายสุริยะใส กตะศิลา นำ 500 คนที่เหลือ เคลื่อนจากเชิงสะพานมัฆวานฯผ่านวัดมกุฏกษัตริยาราม เลี้ยวขวาผ่านคุรุสภา และเลี้ยวขวาแยกวังแดง เข้าสู่แยกมิสกวันเพื่อมาสมทบกับผู้ชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล พวกที่เหลือรื้อถอนเวทีถาวร สมาชิกกองทัพธรรมเก็บข้าวของโรงครัวจากเชิงสะพานตามมาสมทบ จากนั้นเจ้าหน้าที่ กทม.ระดมกำลังเก็บกวาดล้างขัดพื้นถนนราชดำเนินนอก
17.30 น. : นายสุริยะใสกล่าวถึงภาพรวมการเคลื่อนขบวนจากสะพานมัฆวานฯมาทำเนียบรัฐบาลว่า ถือเป็นชัยชนะของพันธมิตรและประชาชนผู้รักความเป็นธรรม ดังนี้
1.สามารถนำแนวทางสันติวิธีมาเคลื่อนไหวภายใต้คนเรือนแสนได้โดยไม่มีเหตุการณ์เลือดตกยางออก หรือเป็นชนวนที่ทำให้เกิดการเผชิญหน้า หรือทุบตีที่จะซ้ำรอยเหตุการณ์เดือนพฤษภาทมิฬอย่างที่หลายฝ่ายเกรงว่าจะเป็นชนวนการนองเลือด
2.ชัยชนะในการยึดพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นเป้าหมายปลายทาง เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลชุดนี้ลาออกไป ประเด็นเขาพระวิหาร เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนมาร่วมชุมนุมมากขึ้น ทั้งๆ ที่ไม่เคยมาร่วมเลย เพราะประชาชนเห็นว่าการกระทำของรัฐบาลเป็นการขายชาติ
3.ได้เอาวาระของภาคประชาชนที่ต่อสู้มาตลอด โดยไม่ทำให้เกิดความรุนแรง จากนี้ต่อไปรัฐบาลจะลาออกหรือไม่นั้น ไม่ทราบ แต่พันธมิตรจะใช้โอกาสอภิปรายรัฐบาลนอกสภาต่อไปเพื่อตีแผ่เปิดโปงความล้มเหลวของรัฐบาล
คิดว่ารัฐบาลไม่โง่ที่จะใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือใช้กำลังทหารสลายการชุมนุม
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
boyk
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 21-06-2008, 06:21 » |
|
ท่านจำลองอยู่ดูแลทั้งคืนเลยคับ..
บางช่วงก็ขึ้นปราศรัยในสไตล์สบายๆ คนฟังก็ผ่อนคลาย
ถ้าสังเกตเวลาที่ออกคำสั่งเคลื่อนขบวน ท่านก็จะแข็งขันออกดุนิดๆด้วย
แต่พอผ่านสถานการณ์หรือด่านต่างๆจนปักธงหน้าทำเนียบได้เบ็ดเสร็จ
ท่านก็จะช่วยผ่อนคลายให้ผู้ชุมนุมด้วยคำปราศรัยแบบสุภาพๆ
ผมนึกถึงไอ้พวกกเฬวรากตอนที่มันบุกบ้านป๋า แล้วใครมันสั่งให้ดันเข้าไปๆ
มันคนละเรื่องเลยในการควบคุมฝูงชน ฟ้ากับเหวชัดๆ...
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ไล่งับคนโกง ตอกฝาโลงไม่ให้เกิด
|
|
|
|
The wynner
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 21-06-2008, 06:38 » |
|
เอาแผนที่จาก Google Earth มาฝากครับ เคยไปร่วมชุมนุม 2 วัน ที่มัฆวาน
เห็นน้ำจิตน้ำใจของผู้ร่วมอุดมการณ์ มีอะไรก็แบ่งๆกัน ช่วยเหลือกัน
ราวกับเป็นญาติพี่น้องก็ไม่ปาน ประทับใจมากเลยครับ และได้ลายเซ็นต์ของ
คุณลุงจำลอง เขียนลงบนผ้าพันคอให้รู้สึกดีใจและภูมิใจมากๆครับ
|
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-06-2008, 07:34 โดย The wynner »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
พรรณชมพู
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 21-06-2008, 10:46 » |
|
พลตรี จำลอง ศรีเมือง เคยเป็นหัวหน้านักเรียนนายร้อยขณะเรียน สอบได้ที่ 1 ในการเรียนเสนาธิการ ประวัติมิใช่ย่อย เคยปะทะกับผู้ที่สอบได้ที่ 1 ในการเรียนเสนาธิการรุ่นพี่ คือ พลเอก สุจินดามาแล้ว และผลแพ้ชนะคงทราบกันดี ภาวะผู้นำนั้นคงไม่ต้องห่วง เพราะเปิดโรงเรียนผู้นำเองเลย   |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-06-2008, 18:22 โดย พรรณชมพู »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
55555
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 21-06-2008, 11:01 » |
|
ยอดเยี่ยมครับลุงจำลอง.....แผนการยึดทำเนียบครั้งนี้....เนียนดีจริง ๆ ครับ...
มีตำรวจ กับ ประชาชน บาดเจ็บเล็กน้อย..ไม่ถึงสิบคนมั๊ง....
ลุงจำลอง ทั้งอดทน และ ฉลาด.....
จะเห็นได้ว่า เมื่อครั้ง โดนสกัดที่มัฆวาน ก็ไม่รีบร้อนลุย....
อยู่ตั้งหลัก ซักหลายวัน แล้วค่อยลุยใหม่..ใจเย็นจริง ๆ ครับ
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
Moonraker
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 21-06-2008, 11:05 » |
|
สุภาษิตอาหรับ: "ฝูงแกะที่นำโดยราชสีห์ ย่อมสามารถเอาชนะ ฝูงราชสีห์ที่นำโดยแกะได้"
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 21-06-2008, 11:34 » |
|
ชื่นชมมากๆๆค่ะ เวลาให้สัมภาษณ์ คุณลุง เขายิ้มตลอดเลยน๊า เป็นกำลังให้คุณลุงจำลองต่อไป 
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 21-06-2008, 11:38 » |
|
 ให้ทนายฟ้อง นพดล ต่อศาลปกครอง
20 มิ.ย. 51 เวลา 20.30 น. 5 แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ประกอบด้วย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายพิภพ ธงไชย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ได้มีมติร่วมกันมอบหมายให้นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความของกลุ่มพันธมิตรฯ เดินทางไปยื่นฟ้องนายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ ต่อศาลปกครองกลาง ในวันที่ 24 มิ.ย.นี้ ข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ในการเดินทางไปลงนามทำข้อตกลงเรื่องเขาพระวิหารกับกัมพูชา และขอให้ศาลพิจารณาออกคำสั่งคุ้มครองเพื่อระงับการลงนามดังกล่าวไว้ชั่วคราวจนกว่าการพิจารณาคดีจะเสร็จสิ้น
ย้ำจุดยืน สมัคร ต้องลาออก
นายพิภพ ธงไชย หนึ่งในแกนนำพันธมิตร กล่าวว่า กลุ่มพันธมิตรฯได้มอบหมายให้ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง เป็นผู้รับผิดชอบในการตัดสินใจ ขอยืนยันว่า พันธมิตรฯยังคงจะปักหลักชุมนุมกันต่อไป โดยมีจุดยืนคือ นายสมัคร สุนทรเวช ต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และพรรคพลังประชาชนจะต้องไม่เป็นรัฐบาล เนื่องจากหมดความชอบธรรม และล้มเหลวในการบริหารประเทศ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อประสานงานจากรัฐบาลให้ยุติการชุมนุม
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
sensei
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 21-06-2008, 11:50 » |
|
มีภาวะผู้นำแน่นอนครับ เป็นผู้นำที่ฉลาดด้วย
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
Moonraker
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 21-06-2008, 11:53 » |
|
ดูจากรูปข้างบนโดยโมเสสแล้ว บอกไม่ได้หรอกครับว่า จำลองเป็นอย่างที่เขียนกำกับไว้หรือเปล่า เพราะ ลักษณะไม่ได้เหมือนกำลังหลบหนีการจับกุมท่ามกลางฝูงม็อบ ถ้าดูหน้าคุณป้าข้างหน้านี่ ผมคิดว่าม็อบกำลังดูการแสดงหรือการปราศรัยบนเวทีมากกว่า รูปนี้จำลองอาจกำลังเดินทักทายผู้คนที่มารวมม็อบก้อได้
และรูปเดียวกันนี้ผมเห็นมาหลายกระทู้แล้ว ไม่แน่ใจว่าตัดต่อหรือเปล่า เพราะดูแสงเงาแล้วมันดูแปลก ๆ ใครชำนาญเรื่องภาพตัดต่อช่วยออกความเห็นหน่อยครับ
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
แอ่นแอ๊น
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 21-06-2008, 11:55 » |
|
เวลาไปม๊อบ มีแต่คนอยากอยู่ข้างๆ และหลังคุณจำลองค่ะ เพราะรู้ว่าแกเดินเกมยังไงให้เราปลอดภัย เมื่อวานมีเพื่อนๆ ที่อยู่หลังแก บอกว่า เป็นกลุ่มเดียวที่ปะทะ แล้วไม่มีใครเจ็บเลย วันที่ตำรวจทำท่าจะสลายๆ หน่ะ คนชุมนุมเข้าไปนั่งเบียดแกซะแน่น ปล. เคยได้ยินวีรกรรมตอนแกหนุ่มๆ มาเหมือนกันค่ะ เรื่อง กลยุทธการรบกองกำลังผสมกะฝรั่ง แม้แต่จุดยุทธศาสตร์ที่ว่าแข็งๆ และเป็นรอง ฝรั่งยังยึดไม่ได้ แต่ลุงแกพาไปยึดมาแล้ว ใครๆ ที่ไม่เคยอยู่ข้างหลังลุงแก คงนึกไม่ออกว่า ชายแก่คนนี้เป็นแบบไหน ใครจะว่ายังไงก็ช่างเหอะ  |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖ |
|
|
|
sensei
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 21-06-2008, 11:57 » |
|
ดูจากรูปข้างบนโดยโมเสสแล้ว บอกไม่ได้หรอกครับว่า จำลองเป็นอย่างที่เขียนกำกับไว้หรือเปล่า เพราะ ลักษณะไม่ได้เหมือนกำลังหลบหนีการจับกุมท่ามกลางฝูงม็อบ ถ้าดูหน้าคุณป้าข้างหน้านี่ ผมคิดว่าม็อบกำลังดูการแสดงหรือการปราศรัยบนเวทีมากกว่า รูปนี้จำลองอาจกำลังเดินทักทายผู้คนที่มารวมม็อบก้อได้
และรูปเดียวกันนี้ผมเห็นมาหลายกระทู้แล้ว ไม่แน่ใจว่าตัดต่อหรือเปล่า เพราะดูแสงเงาแล้วมันดูแปลก ๆ ใครชำนาญเรื่องภาพตัดต่อช่วยออกความเห็นหน่อยครับ
มันก็จับผิด มันก็สร้างหลักฐาน ตามภาษาแม้วๆ ของพวกมันล่ะครับ ไม่ว่าทำอะไรมันก็จ้องทำลายอยู่แล้ว ยังดีไม่เป็นรูปตอนท่านพลตรีจำลอง ปวดท้อง เดินไปเข้าห้องน้ำ แล้วเอามาหาว่าหน้าตัวเมียหลบในส้วม |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
Cherub Rock
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 21-06-2008, 11:59 » |
|
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
|
|
|
|
An.mkII
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 21-06-2008, 12:20 » |
|
จำลอง อาจจะไม่ใช่คนดี ร้อยเปอร์เซนต์ (แต่ก็ดีมากกว่าไอ้คุณผู้นำหอกหัก) แต่คนอย่าง จำลอง ก็เเสดงให้เห็นได้ว่า คนที่เป็นผู้นำควรมี "วุฒิภาวะ" แบบไหน.. และคนแบบผม ที่ก็็้ไม่ใช่คนดีอะไรร้อยเปอร์เซนต์ แต่ก็เคารพและนับถือแกตรงจุดนี้.. และถ้ามี่ีคนอย่างแกเป็นหัวหน้้าผมก็ยังมีความมั่นใจภูมิใจ ซึ่งก็มากกว่าไอ้คุณผู้นำหอกหัก อีกเช่นกัน |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
LunaticBomberman
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 21-06-2008, 12:27 » |
|
จำลอง อาจจะไม่ใช่คนดี ร้อยเปอร์เซนต์ (แต่ก็ดีมากกว่าไอ้คุณผู้นำหอกหัก) แต่คนอย่าง จำลอง ก็เเสดงให้เห็นได้ว่า คนที่เป็นผู้นำควรมี "วุฒิภาวะ" แบบไหน.. และคนแบบผม ที่ก็็้ไม่ใช่คนดีอะไรร้อยเปอร์เซนต์ แต่ก็เคารพและนับถือแกตรงจุดนี้.. และถ้ามี่ีคนอย่างแกเป็นหัวหน้้าผมก็ยังมีความมั่นใจภูมิใจ ซึ่งก็มากกว่าไอ้คุณผู้นำหอกหัก อีกเช่นกัน  |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
พบกันครึ่งทาง
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: 21-06-2008, 12:32 » |
|
เพิ่งรู้นี่ไง....ภาวะผู้นำ กี่ปีกี่ชาติก็ไม่เคยเปลี่ยน คนดึงดัน กรูดีกว่าใครหมด เชื่อซิ..คนแบบนี้อยู่กับใครไม่ได้หรอก ใครจะตายก็ตายไปซิ แต่กรูขอตายเป็นคนสุดท้าย  [URL=http://g.imageshack.us/g.php?h=57&i=33307381sz4 |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
qazwsx
|
|
« ตอบ #21 เมื่อ: 21-06-2008, 12:37 » |
|
การใส่ความเขาน่ะ
นอกจากเป็นความผิดทาง กม.แล้ว
ยังเป็นบาปอีกด้วยนะ
เพราะเวรกรรมที่พวกคุณจะได้รับ
ก็คือ คุณจะถูกคนใส่ร้ายจนทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงไปจนถึงได้รับความเกลียดชัง
ในวันนี้พวกคุณ "เมามัน"
แต่ในวันข้างหน้า วันที่คุณ "ฉิบหาย" อันเกิดจากกรรมที่กระทำในวันนี้ "อย่างเมามัน"
จะเป็นวันที่คุณและคนที่คุณรักทำได้แต่เพียงก้มหน้าก้มตารับผลกรรมด้วยความหดหู่
ในขณะที่คนซึ่งเขากระทำกับคุณนั้น
...เขาจะกระทำกับคุณ อย่าง "เมามัน"
|
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-06-2008, 13:16 โดย qazwsx »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
แอ่นแอ๊น
|
|
« ตอบ #22 เมื่อ: 21-06-2008, 12:41 » |
|
เอ่อ คนที่พูดว่า จำลองพาคนไปตายหน่ะ หมักไม่ใช่เหรอ
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖ |
|
|
|
อิรวันชาห์ IrWanSyah
|
|
« ตอบ #23 เมื่อ: 21-06-2008, 12:42 » |
|
เหมือนที่แป๊ะนรกโดนพิพากษาจำคุกโดยไม่รอลงอาญาในคดีหมิ่นใช่ใหมครับคุณ qazwsx
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ScaRECroW
|
|
« ตอบ #24 เมื่อ: 21-06-2008, 12:42 » |
|
พลตรี จำลอง ศรีเมือง เคยเป็นหัวหน้านักเรียนนายร้อยขณะเรียน สอบได้ที่ 1 ในการเรียนเสนาธิการ ประวัติมิใช่ย่อย เคยปะทะกับผู้ที่สอบได้ที่ 1 ในการเรียนเสนาธิการรุ่นน้อง คือ พลเอก สุจินดามาแล้ว และผลแพ้ชนะคงทราบกันดี ภาวะผู้นำนั้นคงไม่ต้องห่วง เพราะเปิดโรงเรียนผู้นำเองเลย สุจินดา รุ่นพี่ จ้า |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Politic is nothing but the continuation of [the sin of] 7 by other means.
ท่านคิดว่า นรม. ควรทำอย่างไรเมื่อพบว่ากฏหมายบางฉบับมีช่องโหว่?
ก.ใช้อำนาจ นรม.ที่ได้รับมาจากประชาชนแก้กฏหมายเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านั้น เพราะเป็นประโยชน์ของแผ่นดิน
ข.ฉวยโอกาสใช้ช่องโหว่เหล่านั้นเพื่อประโยชน์ของตนเองและคนรอบข้าง แล้วก็อ้างว่าคนอื่นเขาก็ทำกัน
|
|
|
|
qazwsx
|
|
« ตอบ #25 เมื่อ: 21-06-2008, 12:49 » |
|
เหมือนที่แป๊ะนรกโดนพิพากษาจำคุกโดยไม่รอลงอาญาในคดีหมิ่นใช่ใหมครับคุณ qazwsx
รู้อยู่แค่นั้นก็ใช้กล่าวอ้างเพื่อให้ร้ายเขาได้ทุกเรื่องล่ะครับ พฤติกรรมทั่วไปตามประสาคนโง่งม |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
qazwsx
|
|
« ตอบ #26 เมื่อ: 21-06-2008, 12:52 » |
|
เหมือนที่แป๊ะนรกโดนพิพากษาจำคุกโดยไม่รอลงอาญาในคดีหมิ่นใช่ใหมครับคุณ qazwsx
ว่าแต่คุณโมฯ รับรู้รึยังว่ามันโดนคดี "หมิ่น ฯ" ทักษิณ ไม่ใช่ "หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ" |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
An.mkII
|
|
« ตอบ #27 เมื่อ: 21-06-2008, 12:54 » |
|
เอ่อ คนที่พูดว่า จำลองพาคนไปตายหน่ะ หมักไม่ใช่เหรอ
ใช่ครับ ขอมายืนยันอีกครับว่า สมัคร เป็นคนพูด พูดหลังจากจบเหตุการณ์ |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
watson
|
|
« ตอบ #28 เมื่อ: 21-06-2008, 12:55 » |
|
เหมือนที่แป๊ะนรกโดนพิพากษาจำคุกโดยไม่รอลงอาญาในคดีหมิ่นใช่ใหมครับคุณ qazwsx
หมายถึงสมัครเหรอ |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
qazwsx
|
|
« ตอบ #29 เมื่อ: 21-06-2008, 13:01 » |
|
รู้อยู่แค่นั้นก็ใช้กล่าวอ้างเพื่อให้ร้ายเขาได้ทุกเรื่องล่ะครับ พฤติกรรมทั่วไปตามประสาคนโง่งม vvvvv เหมือนที่แป๊ะนรกโดนพิพากษาจำคุกโดยไม่รอลงอาญาในคดีหมิ่นใช่ใหมครับคุณ qazwsx
^^^^^^ รู้ไหมว่าที่ผมโพสไว้อย่างนี้ ผมกำลังเตือนสติที่ไม่ค่อยมีของคุณอย่างไร ? ...ถ้าไม่รู้ ก็ฟังนะ การ Qoute ของคุณ เป็นการยืนยันว่า คุณผู้ใช้นามแฝง "โมเสส" ในกระทู้นี้ รับรู้ใน กม.อันว่าด้วย "การหมิ่นประมาท" และได้รับการตักเตือนแล้วจากผู้อื่น แต่ัยังคงฝืนกระทำการอันเข้าข่ายผิด กม.อันว่าด้วยการหมิ่นประมาทบุคคลเช่นนัั้น ต่อไปอีก |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
Limmy
|
|
« ตอบ #30 เมื่อ: 21-06-2008, 13:17 » |
|
การวางแผนและบริหารจัดการผู้คนจำนวนหลายหมื่นไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ครับ โดยเฉพาะการกระจายกำลังเข้ายึดพื้นที่ ๆ เดียวพร้อมกันจากหลาย ๆ จุด ถ้าผู้ชุมนุมขาดความเป็นเอกภาพ ไม่มีวินัย ไม่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และที่สำคัญไม่เชื่อถือผู้นำ ไม่มีวันจะทำได้สำเร็จเลย ผู้นำที่มีเป้าหมาย จุดยืน วิสัยทัศน์ชัดเจน ทำให้ตัวให้เห็นเป็นแบบอย่าง ผู้ติดตามามก็ย่อมเอาหัวใจถอดวางไว้ให้ ต่างจากผู้นำที่กลับกลอก เช้าพูดอย่าง เย็นพูดอย่าง สั่งผู้ว่าให้ปิดเคเบิ้ลทีวี วันรุ่งขึ้นลอยแพผู้ว่าให้รับกรรมเอาเอง อ้างว่าไม่ได้สั่ง แบบนี้ไม่มีวันได้ใจผู้ตาม ลับหลังลูกน้องก็ด่าว่า ปราศจากความเชื่อถือศรัทธา เรียกใช้สั่งงานใครก็ไม่ได้รับการตอบสนอง แผนการเดินทางเมื่อวาน ที่สามารถสร้างความงุนงงให้กับตำรวจที่ตั้งรับ จนท้ายที่สุดถึงกับเป็นฝ่ายโอบล้อมตำรวจไว้ได้เสียเอง จนกระทั่งตำรวจต้องประกาศขอทางออกจากวงล้อมผ่านเครื่องขยายเสียง แสดงให้เห็นถึงความแหลมคม ของมันสมองระดับเสนาธิการ ที่สามารถพลิกแพลงตามสถานการณ์ จนถึงขนาดช่วงชิงความได้เปรียบไว้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจำกัดความสูญเสียไว้ให้ต่ำที่สุด ตรงตามเป้าหมายทุกประการ ไม่ธรรมดาจริง ๆ ครับ นายทหารเฒ่าคนนี้ ขอคารวะครับ  |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #32 เมื่อ: 21-06-2008, 15:51 » |
|
เหมือนที่แป๊ะนรกโดนพิพากษาจำคุกโดยไม่รอลงอาญาในคดีหมิ่นใช่ใหมครับคุณ qazwsx
คอยติดตามการพิจารณาคดีต่อไปดีกว่า
'หมัก เมถุน' นายกฯ'ลูกกรอก'ก็ถูกพิพากษาจำคุกโดยไม่รอลงอาญาไม่ใช่เหรอ
เวลานี้ควรจะไปแสดงความยินดีที่ผู้พิพากษาคนนั้นได้เป็น'กรรมการรัฐวิสาหกิจ'ด้วย......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #33 เมื่อ: 21-06-2008, 15:57 » |
|
การวางแผนและบริหารจัดการผู้คนจำนวนหลายหมื่นไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ครับ โดยเฉพาะการกระจายกำลังเข้ายึดพื้นที่ ๆ เดียวพร้อมกันจากหลาย ๆ จุด ถ้าผู้ชุมนุมขาดความเป็นเอกภาพ ไม่มีวินัย ไม่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และที่สำคัญไม่เชื่อถือผู้นำ ไม่มีวันจะทำได้สำเร็จเลย ผู้นำที่มีเป้าหมาย จุดยืน วิสัยทัศน์ชัดเจน ทำให้ตัวให้เห็นเป็นแบบอย่าง ผู้ติดตามามก็ย่อมเอาหัวใจถอดวางไว้ให้ ต่างจากผู้นำที่กลับกลอก เช้าพูดอย่าง เย็นพูดอย่าง สั่งผู้ว่าให้ปิดเคเบิ้ลทีวี วันรุ่งขึ้นลอยแพผู้ว่าให้รับกรรมเอาเอง อ้างว่าไม่ได้สั่ง แบบนี้ไม่มีวันได้ใจผู้ตาม ลับหลังลูกน้องก็ด่าว่า ปราศจากความเชื่อถือศรัทธา เรียกใช้สั่งงานใครก็ไม่ได้รับการตอบสนอง แผนการเดินทางเมื่อวาน ที่สามารถสร้างความงุนงงให้กับตำรวจที่ตั้งรับ จนท้ายที่สุดถึงกับเป็นฝ่ายโอบล้อมตำรวจไว้ได้เสียเอง จนกระทั่งตำรวจต้องประกาศขอทางออกจากวงล้อมผ่านเครื่องขยายเสียง แสดงให้เห็นถึงความแหลมคม ของมันสมองระดับเสนาธิการ ที่สามารถพลิกแพลงตามสถานการณ์ จนถึงขนาดช่วงชิงความได้เปรียบไว้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจำกัดความสูญเสียไว้ให้ต่ำที่สุด ตรงตามเป้าหมายทุกประการ ไม่ธรรมดาจริง ๆ ครับ นายทหารเฒ่าคนนี้ ขอคารวะครับ
ด้วยอานิสงค์ แผนการ'ปั่นให้หัวหมุน' ไปทางซ้าย ไปทางขวา หลอกล่อให้ยันที่สะพานมัฆวาน
ส่วนผมนั่งรถนำเข้าถนนพิษณุโลกสะดวก สบาย
มีเวลาว่าง รอคอย ถ่ายรูปได้มากมาย......
ปล. ไม่ได้เอาเปรียบคนเข้าทางอื่นๆ นะครับ
ผมถูกกำหนดให้เข้าทางนั้น เพราะรู้เส้นทางและซอยแถวนั้นดี.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
|
TheBluECaT
|
|
« ตอบ #34 เมื่อ: 21-06-2008, 16:11 » |
|
ยอมรับว่าแผน ลุงจำลอง แกสุดยอดจริง ๆ ...
ยังไงๆ ภาวะผู้นำของ ลุงจำลอง แกก็สูงกว่า ไอ้หมักเมถุน ที่เป็นนายกฯ
สูงกว่า พ่อไอ้ปื้ด ที่เป็นรัฐมนตรีฯมหาดไทย
และสูงกว่ารัฐมนตรีหน้าหนาของไทย
อีกหลายๆตัวแน่นอนอยู่แล้วครับ...
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"ยามบุญมากาไก่กลายเป็นหงส์ ยามบุญหลงหงส์เป็นกาน่าฉงน... ยามบุญมาหมูหมากลายเป็นคน ยามบุญหล่นคนเป็นหมาน่าอัศจรรย์" |
|
|
|
Can ไทเมือง
|
|
« ตอบ #35 เมื่อ: 21-06-2008, 16:21 » |
|
จากภาพที่ลุงปุฯ ถ่ายมาให้ดู...ประชาชนที่ไปร่วมพันธมิตร คือกลุ่มชนชั้นกลางขึ้นไปถึงชนชั้นบน เป็นส่วนใหญ่
ส่วนมากเป็นคนทำมาหากิน อาจเป็นทั้งพนักงานและผู้ประกอบธุรกิจรายย่อย ที่เป็นผู้บริโภคทั่วๆ ไป
ซึ่งได้รับผลกระทบจากการบริหารงานของรัฐบาลนอมินี
รายได้ลด รายจ่ายเพิ่ม จึงเดือดร้อนกับสภาพเศรษฐกิจเป็นเบื้องต้น
มีความเกลียดการเมืองขี้โกงเป็นชีวิตจิตใจ
มาเจอเรื่อง"ขายชาติ ขายแผ่นดิน" จึงเสมือนฟางเส้นสุดท้าย
คนเหล่านี้มีเงินที่สามารถเช่ารถตู้ เช่ารถแอร์ มาร่วมชุมนุม รวมทั้งบริจาคสมทบทุนการต่อสู้
ไม่ใช่นั่งรถอีแต๋นจากการบริการของนักการเมือง ( ไม่เกี่ยวกับม้อบหนี้สินชาวนา )
แกนหลักเป็นฝ่ายปฏิบัติธรรม ประกอบกับนักสู้รุ่นเก่า สหายเก่าผู้รักชาติ สหภาพแรงงาน
( คนรุ่น 14 ตุลา 6 ตุลา พฤษภามทิฬ และไล่ทักษิณรอบแรก ) ที่จิตใจแข็งแกร่งปานหินผา
การวางแผนแบ่งการบริหารเป็นระดับชั้น เป็นขั้นเป็นตอน มีการประชุมวิเคราะห์สถานการณ์กันตลอดเวลา จึงสามารถปรับแผนยุทธวิธีให้ยืดหยุ่นได้
ผู้นำเหล่านี้ผ่านมาทุกสมรภูมิ ไม่ว่าการนำม้อบ การวางแผนการยุทธ์ การนำมวลชนกลุ่มย่อย / กลุ่มใหญ่ ( หรือแม้แต่สงครามจริง )
ทุกคนเป็นคนติดตามข่าวสาร อ่านหนังสือพิมพ์ จึงเข้าใจเรื่องราวเป็นอย่างดี
ดังนั้นจึงไม่มีผู้คนที่เรียกว่า "รากหญ้า" ( ตามนิยามของพรรคพลังประชาชน ) ที่ต้องลงชื่อลงนามในบัญชีเหมือนกลุ่มสนามหลวง
แต่จะเป็นกลุ่ม "หญ้าแพรก" ที่พร้อมจะเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นหนามแหลม ทิ่มแทงผู้ใช้อำนาจบาทใหญ่การที่ผู้คนระดับกลางถึงสูง ยอมรับการนำของพลตรีจำลอง ศรีเมือง มั่นใจว่าสู้แล้วต้องชนะและไม่ตาย เค้าจึงมากันเรื่อยๆ
"เหนื่อยเราก็ไม่เหนื่อย เมื่อยเราก็ไม่เมื่อย เราไล่ไปเรื่อยๆ เราไม่ไม่เมื่อย เราไม่ไม่เหนื่อย...เอ้า..เหนื่อยเราก้ไม่เหนื่อย"
สงสารคุณย่าคุณยายเป็นลมแดด ...ไปหลายคน...
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ไทมุง
|
|
« ตอบ #36 เมื่อ: 21-06-2008, 16:23 » |
|
ยอมรับว่าแผน ลุงจำลอง แกสุดยอดจริง ๆ ...
ยังไงๆ ภาวะผู้นำของ ลุงจำลอง แกก็สูงกว่า ไอ้หมักเมถุน ที่เป็นนายกฯ
สูงกว่า พ่อไอ้ปื้ด ที่เป็นรัฐมนตรีฯมหาดไทย
และสูงกว่ารัฐมนตรีหน้าหนาของไทย
อีกหลายๆตัวแน่นอนอยู่แล้วครับ...ถูกต้องนะคร้าบ อุวะ ฮะ ฮะ ฮะ |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
|
« ตอบ #37 เมื่อ: 21-06-2008, 17:08 » |
|
ลองบางส่วนมาให้อ่าน
http://www.oknation.net/blog/wikulponang/2008/06/21/entry-1
พันธมิตรฯชนะแล้ว...!!! เป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของเหล่าบรรดาผู้สนับสนุน และผู้ร่วมในการเดินทัพย่ำเข้าไปปักธงที่ทำเนียบรัฐบาล
ถ้าหากหวังเพียงกายภาพ ที่ถือการได้เดินผ่านด่านขวางกั้นของตำรวจ เข้าไปในพื้นที่เป้าหมาย ปักธงกลุ่ม พร้อมทั้งค่ายบัญชาการ คือเวทีปราศรัยได้ พันธมิตรฯ ชนะแล้ว
ในใจส่วนลึกของแต่ละคน ที่ยากจะหยั่งถึงนั้นยังไปไม่ถึงที่หมาย ก็ยังประกาศไม่ได้ว่าชนะ โดยเฉพาะแกนนำหลักๆ
ถ้ายังชนะไม่สมบูรณ์เบ็ดเสร็จ ก็ต้องก้าวต่อไป...!!!
ทั้งเป้าหมายทางกายภาพและในใจส่วนลึกของคนๆหนึ่งนั้นได้บรรลุแล้วอย่างสมบูรณ์ เขาผู้นั้นคือ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง จากมหา ๕ ขัน ผู้ไม่มีอนาคต ณ วันนี้พันธมิตรฯ ได้สถาปนาแต่งตั้งให้เป็น แม่ทัพใหญ่
ไม่ผิดหวัง แม่ทัพใหญ่บัญชาการรุกในสมรภูมิการเดินขบวนได้บรรลุเป้าหมาย เป็นที่พอใจของเหล่าขุนและไพร่พล สมกับเป็น จปร.๗/๑ ที่นึกว่าจะเก่งอยู่แต่การรบที่ภูผาที ที่วันนั้นเขาโดนรุกและตั้งรับจนได้ชัย
ชัยชนะที่ว่ามาเป็นเพียงผลพลอยได้เท่านั้น สิ่งที่จำลองต้องการ และเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่กว่า ณ วันนี้ ต้องการที่จะแสดงให้ทุกคนที่เคยได้กล่าวหาเขาไว้ว่า จำลองพาคนไปตาย...! ในครั้งอดีต พฤษภาทมิฬ นั้นไม่เป็นความจริง
การรุกวันนี้จึงออกมาในนามดาวกระจาย ที่ต้องการให้ผู้นำแยกกันบัญชาการ ใครพลาดใช้กำลังก็ไม่เกี่ยวกับจำลอง ส่วนของเขาจะไม่ใช้กำลังโดยเด็ดขาด เพราะทุกคนควบคุมได้อย่างมีระเบียบวินัยด้วยเหล่าไพร่พลคือ สันติอโศก
วันนี้ภาพของจำลองจึงไม่ใช่พาคนไปตาย แต่ พาคนไปชนะ คนที่เคยกล่าวหาจำลอง บัดนี้ แพ้แล้ว ถึงจะรอพิสูจน์มานานเป็นสิบๆปี ครูใหญ่แห่งโรงเรียนผู้นำ รอได้สำเร็จด้วย
งานสร้างมวลมหาปัญญาชน ที่จะเป็นแนวร่วมคู่ขนานไปกับสำนักสันติอโศก ของโรงเรียนผู้นำ จังหวัดกาญจนบุรี ที่รับอบรมให้กับทุกองค์กร ทั้งประชาชนทั่วไป ทหาร ตำรวจ ฯลฯ อันมีเขาเป็นคุณครูใหญ่ จำเป็นต้องฟื้นศรัทธาด้วยการแสดงให้สังคมเห็นว่า การเป็นผู้นำมิได้อยู่แต่ในทฤษฏีหากจำเป็นต้องวัดผลด้วยการปฏิบัติ นับแต่เริ่มจนสิ้นภารกิจ
บัดนี้ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ได้บรรลุสำเร็จอีกคำรบหนึ่ง จากที่ได้เคยรับเสียงตอบรับหลังพฤษภาประชาธรรม นี่ก็ผ่านมานับสิบๆปี ถ้าไม่มี Action อะไรเลยก็คงจะสูญลืมในไม่ช้า จุดนี้เขาชนะแล้ว ต่อไปคิวอบรมที่จะผลิตแนวร่วมจะเพิ่มขึ้นหลายเท่าที่แต่เดิมก็มีไม่ต่ำกว่า ๕๐๐ คน ต่อเดือนอยู่แล้ว
( ท่อนท้าย ไม่ค่อยเห็นด้วยเลยไม่ลอกมา )
http://www.oknation.net/blog/wikulponang/2008/06/21/entry-1
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
fcaon
|
|
« ตอบ #38 เมื่อ: 22-06-2008, 09:18 » |
|
ผมก็ไม่ได้คลั่งไคล้ พลตรีจำลอง เท่าไหร่นะครับ แต่อย่างน้อย คุณจำลอง เป็นคนสำคัญที่ทำให้ ม๊อบพันธมิตร ต่างๆจาก ม๊อบอื่นๆทั่วโลก เช่น เรื่องความสะอาด ที่พยายามบอกให้ผู้ชุมนุม ช่วยกันดูแล การพูดคำหยาบ ที่เน้นมาก คนที่เผลอพูดออกไป ก็จะโดนคุณจำลอง ว่าทุกครั้ง การรู้จักคุณค่าของสิ่งของต่างๆ เช่น น้ำที่ดื่ม ควรดื่มให้หมด การไม่ให้ดื่มของมึนเมาทุกชนิด และยังมีอีกหลายที่เป็น วัฒนะธรรมที่ดี ซึ่งคนไทยในยุคนี้ ถูกค่าของวัตถุนิยม ลบเลือนไปหมดแล้ว |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หากคุณยังติดตามข่าวสารเชิงรับอยู่ นั่นหมายถึงคุณไม่ได้ติดตามข่าวสารใดๆเลย
เพียงแค่วินาทีเดียว ก็ไม่ควรให้คนเลวเข้ามามีอำนาจ
รณรงค์ใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง และใช้ภาษาที่สุภาพครับ
|
|
|
|
weshare
|
|
« ตอบ #39 เมื่อ: 22-06-2008, 10:33 » |
|
<<<<<<<<< ขออนุญาต Replay อดีตนิดๆ
(ติดตามตลอดค่ะแต่ไม่ได้แสดงความคิดเห็น)
เคยสัมผัสกับ พล.ต.จำลอง ตอนพฤษภาทิฬ ตอนนั้นบอกตามตรงว่าไม่ได้
ตั้งใจที่จะไปฟังปราศัยที่สนามหลวง (ไปซื้อไข่ข้าวชอบกินมากที่นั่นน้ำจื้มอหร่อย)
ไปเจอพอดีเลยซื้อไข่ข้าวมานั่งกินและก็ฟังไป ซึ่งมีความเห็นไม่ต่าง เลยนั่งฟังเพลิน
ตั้งแต่ 5 โมงเย็น-ประมาณ 2 ทุ่มกว่า จะกลับบ้านพอขับรถออกมาทางสะพานผ่านฟ้า
มันอะไรกันนี่ไม่มีทางออก โดนปิดล้อมทั้งลวดหนามชั้นแรก ตร.ชั้นสอง ทหารชั้นที่สาม
จึงขอให้ทหารเปิดทางให้ เอารถไปเก็บ และกลับมาใหม่ แต่เข้าไปในที่ชุมนุมไม่ได้
จึงสังเกตการณ์อยู่ด้านนอกทั้งคืน เห็นสถานการณ์ต่างๆ ตลอด พอรุ่งเช้าจึงหาทาง
เข้าไปร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมอยู่ที่ผ่านฟ้า ตั้งแต่ เช้า สาย เที่ยง จึงกลับไปอาบน้ำเปลี่ยน
เสื้อผ้า กะจะมาใหม่ช่วงเย็น พอถึงบ้านเปิดทีวีดู อนิจา สลายม็อบ และจับลุงจำลองไป
เย็นนั้นก็ไปรวมกันที่สี่แยกหลานหลวง เรียกร้องให้ปล่อยตัวลุงจำลอง และคืนนั้นเราวิ่งหลบ
ลูกกระสุนเกือบตาย และคืนนั้นก็เป็นคืนที่มีการเผา รร. และสถานที่ราชการ และมีคนตายเยอะ
เราอยู่ในเหตุการณ์ เห็นด้วยตา ไม่ได้ฟังใครเล่ายืนยันได้ว่าลุงจำลองไม่ได้พา
ใครไปตาย ทุกคนยอมเสี่ยงยอมเหนี่อยเองเพราะมีใจรักชาติโดยแท้
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #40 เมื่อ: 22-06-2008, 10:56 » |
|
จากภาพที่ลุงปุฯ ถ่ายมาให้ดู...ประชาชนที่ไปร่วมพันธมิตร คือกลุ่มชนชั้นกลางขึ้นไปถึงชนชั้นบน เป็นส่วนใหญ่
ส่วนมากเป็นคนทำมาหากิน อาจเป็นทั้งพนักงานและผู้ประกอบธุรกิจรายย่อย ที่เป็นผู้บริโภคทั่วๆ ไป
ซึ่งได้รับผลกระทบจากการบริหารงานของรัฐบาลนอมินี
รายได้ลด รายจ่ายเพิ่ม จึงเดือดร้อนกับสภาพเศรษฐกิจเป็นเบื้องต้น
มีความเกลียดการเมืองขี้โกงเป็นชีวิตจิตใจ
มาเจอเรื่อง"ขายชาติ ขายแผ่นดิน" จึงเสมือนฟางเส้นสุดท้าย
คนเหล่านี้มีเงินที่สามารถเช่ารถตู้ เช่ารถแอร์ มาร่วมชุมนุม รวมทั้งบริจาคสมทบทุนการต่อสู้
ไม่ใช่นั่งรถอีแต๋นจากการบริการของนักการเมือง ( ไม่เกี่ยวกับม้อบหนี้สินชาวนา )
แกนหลักเป็นฝ่ายปฏิบัติธรรม ประกอบกับนักสู้รุ่นเก่า สหายเก่าผู้รักชาติ สหภาพแรงงาน
( คนรุ่น 14 ตุลา 6 ตุลา พฤษภามทิฬ และไล่ทักษิณรอบแรก ) ที่จิตใจแข็งแกร่งปานหินผา
การวางแผนแบ่งการบริหารเป็นระดับชั้น เป็นขั้นเป็นตอน มีการประชุมวิเคราะห์สถานการณ์กันตลอดเวลา จึงสามารถปรับแผนยุทธวิธีให้ยืดหยุ่นได้
ผู้นำเหล่านี้ผ่านมาทุกสมรภูมิ ไม่ว่าการนำม้อบ การวางแผนการยุทธ์ การนำมวลชนกลุ่มย่อย / กลุ่มใหญ่ ( หรือแม้แต่สงครามจริง )
ทุกคนเป็นคนติดตามข่าวสาร อ่านหนังสือพิมพ์ จึงเข้าใจเรื่องราวเป็นอย่างดี
ดังนั้นจึงไม่มีผู้คนที่เรียกว่า "รากหญ้า" ( ตามนิยามของพรรคพลังประชาชน ) ที่ต้องลงชื่อลงนามในบัญชีเหมือนกลุ่มสนามหลวง
แต่จะเป็นกลุ่ม "หญ้าแพรก" ที่พร้อมจะเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นหนามแหลม ทิ่มแทงผู้ใช้อำนาจบาทใหญ่การที่ผู้คนระดับกลางถึงสูง ยอมรับการนำของพลตรีจำลอง ศรีเมือง มั่นใจว่าสู้แล้วต้องชนะและไม่ตาย เค้าจึงมากันเรื่อยๆ
"เหนื่อยเราก็ไม่เหนื่อย เมื่อยเราก็ไม่เมื่อย เราไล่ไปเรื่อยๆ เราไม่ไม่เมื่อย เราไม่ไม่เหนื่อย...เอ้า..เหนื่อยเราก้ไม่เหนื่อย"
สงสารคุณย่าคุณยายเป็นลมแดด ...ไปหลายคน... ดีใจที่คุณแคนเข้าใจเจตนา.....
ผมต้องให้คนที่อยู่ทางบ้าน ดูผ่านอินเตอร์เนท ให้'ภาพเล่าฟัง'
แล้วจะ'รู้ว่า'ดร.กำมะลอ เหลิมเป็ด โอเค ซิกกาเลต...
และบริวารของนักประชาธิปไตยแม๊วๆ โกหก โป้ปด ตอแหลอย่างไร...
ภาพเล่าให้ฟังว่าคนไทยที่มาชุมนุมมีทุกเพศ ทุกวัย ชนชั้น วรรณะ
และศาสนา.....
'มนุษย์เงินเดือน' ลูกจ้างองค์กรเอกชน รัฐวิสาหกิจ และเจ้าของกิจการ
ธุรกิจส่วนตัว......
'มนุษย์เงินเดือน' รู้ดีว่าโครงการประชานิยม เอื้ออาทร หาเสียงรากหญ้านั้น
มาจากภาษีมาจากเงินเดือนของเขา ไม่ใช่เงินส่วนตัว
หรือเงินของบริษัทฯของนักประชาธิปไตยแม๊วๆ ดั่งที่เคยเข้าใจ
เมื่อมาชุมนุมกับเพื่อนคนไทยต่างชั้น ต่างวรรณะ
พวกเขารวมตัวกันอย่างกลมกลืน นั่งไหล่ชนไหล่ หลังชนหลัง เป็นกันเอง
บนพื้นถนนราดยางมะตอย กลางถนนพิษณุโลกเหมือนกัน....
'ดอกไม้ประชาธิปไตย'เป็นเพียง'น้ำผึ้ง'
ล่อ กระตุ้น เหล่า'ภมรประชาธิปไตย'เท่านั้นแหละ......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่าคน'พันธุ์ปากพร่อย' พ่อไอ้ปื๊ดบอกว่าคนมาชุมนุมมาจากพม่า
ถูกจ้างมาด้วยเงิน 300 บาท ถ้าอยากเป็น'อเวไนยสัตว์'อย่างสมาชิก 3-4 คนในนี้
ก็ตามใจว่ะ........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-06-2008, 11:00 โดย ปุถุชน »
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #41 เมื่อ: 22-06-2008, 11:06 » |
|
ผมขอเฉลยว่า.....
คนสูงวัยที่มาร่วมชุมนุมพันธมิตรประชาธิปไตยคราวนี้
เป็นคนไทย หนุ่มสาวที่ผ่าน 14 ตุลาคม 2516
ผ่าน 6 ตุลาคม 2519 และ พฤษภาทมิฬ 35 มาแล้ว ก็มีครับ
หลังจากวันที่ 25 พฤษภาคม 2551.....
พวกเขาก็มีวัยสูงตามวันเวลาที่ผ่านไป
แต่จิตใจรัก ห่วงใยประเทศชาติไทย
รักสถาบันระดับสูงของไทย ยังคงอยู่
มั่นคงในจิตใจ ไม่เสื่อมคลาย......
พร้อมจูงลูก จูงหลานมาร่วมชุมนุมครับ.... 
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
|
|
|
55555
|
|
« ตอบ #43 เมื่อ: 22-06-2008, 11:17 » |
|
พวกเสี้ยน พวกบ่าง พวกโป้ปด หลอกลวง'รากหญ้า'....
อ่าน'ใบบอก'ตามอาจารย์ จึงเป็น'อเวไนยสัตว์'
งมงาย ไม่เชื่อว่า 'หมัก เมถุน' นายกฯลูกกรอก เป็นเจ้าของคำพูดนั้น.....((((ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า))))
ช่วงนี้ พัก ภารกิจ แก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราวครับ.....
รัฐบาลกำลังไปไม่รอด ...มองไปถึงเรื่องเลือกตั้ง...
จึงต้องมุ่งไปที่ภารกิจป้ายสี ปชป. เพราะ หลังอภิปรายเสร็จ จะยุบสภา
ไปเลือกตั้ง..... |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
แอ่นแอ๊น
|
|
« ตอบ #44 เมื่อ: 22-06-2008, 12:02 » |
|
เพื่อนคนที่นั่งอยู่แถวแรกตอนพฤษภา เล่าให้ฟังว่า จริงๆ แล้ว ที่คนตายเพราะจับจำลองตะหาก พอม๊อบไม่มีคนคุมก็เละเทะ กลายเป็นจราจล ระหว่างที่คุณจำลองอยู่ด้วย เอาอยู่ตลอด เพราะเค้าเป็นคนอ่อนนอกแข็งใน เวลาดุ ดุจริง แต่พูดจาดี เพราะงั้นฝูงชนจึงเชื่อ และทำตาม
(ก๊อบที่เค้าเล่าให้ฟังมา งวดนี้เธอส่งแฟนไปอยู่ข้างหลังลุงแทนเพราะติดงาน ใช่แล้ว เพื่อนคนที่เล่านี้ เธอเป็นผู้หญิง)
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖ |
|
|
|
|
|
กระบี่ที่ 15
|
|
« ตอบ #46 เมื่อ: 22-06-2008, 13:05 » |
|
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
กระบี่ที่ 15
|
|
« ตอบ #47 เมื่อ: 22-06-2008, 13:12 » |
|
ไอ ควาย มะแอ ศิษย์บังโม โง่ และ ยัง เห็นชอบเป็นผิด   |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #48 เมื่อ: 22-06-2008, 13:15 » |
|
" ควันหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ" โลกทรรศน์ อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์ มติชนรายสัปดาห์ วันที่ 08 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 ปีที่ 25 ฉบับที่ 1299 ไม่ถึงสัปดาห์ คนไทยก็คงลืมการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมาไปแล้ว นอกจากคนไทยเป็นคนลืมเรื่องที่สำคัญง่ายๆ แล้ว เหตุผลที่ลืมส่วนหนึ่งมาจากเล่ห์กลทางการเมืองที่รัฐบาลเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ .................................................................................................................................................................. ความมั่นคงทางการเมือง การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งที่ผ่านมาได้บอกแก่สังคมไทยว่า รัฐบาลที่มีเสียงข้างมากแต่กลับเป็นรัฐบาลที่ไร้เสถียรภาพทางการเมือง ความไร้เสถียรภาพทางการเมืองเกิดจากข้างในของพรรคไทยรักไทยเองเป็นด้านหลัก หลังการเลือกตั้งได้ไม่นาน แกนนำของพรรคไทยรักไทยได้ประกาศถึงแผนการในอนาคตคือการสร้างพรรคไทยรักไทยให้เป็นสถาบันทางการเมือง (Institutionalization) คำประกาศนี้ช่างสวยหรูจริงแต่ไม่ได้ยืนอยู่บนความเป็นจริงทางการเมืองเลย พรรคไทยรักไทยได้กวาดต้อน ส.ส.จากพรรคต่างๆ ด้วยหลายวิธีการดังที่รู้กันอยู่ แล้วพรรคไทยรักไทยก็ทำศัลยกรรมตกแต่ง ส.ส.เหล่านั้นด้วยการเปลี่ยนสีเสื้อ ใส่สูทโก้หรูภายใต้โลโก้พรรคไทยรักไทย แน่นอน แกนนำของพรรคไทยรักไทยได้ลงทุนด้วยเงินจำนวนไม่น้อยตกแต่งที่ทำการพรรคใหม่ จัดห้องใหม่ จัดเครื่องมือและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ นานา เช่นเครื่องคอมพิวเตอร์ ประเด็นก็คือว่า แกนนำของพรรคไทยรักไทยเชื่อหรือว่านี้คือ กระบวนการสร้างความเป็นสถาบันทางการเมืองให้กับพรรคไทยรักไทย สูท เครื่องคอมพิวเตอร์และที่ทำการพรรคเป็นเครื่องปลอบใจหรือการเรียกเงินว่าจ้างจากแกนนำพรรคกันแน่ ? พฤติกรรมของ สส.พรรคไทยรักไทยไม่เคยเปลี่ยนไปจากเดิมเลย ตอนนี้ ส.ส.ของพรรคเพียงซ้ายหันขวาหันตามอำนาจและเงินบริจาคของแกนนำของพรรคไทยรักไทยเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เอง การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ จึงเป็นปาหี่ครั้งมโหฬาร แกนนำของพรรคปวดหัวกับแรงต่อต้านของ ส.ส.กลุ่มวังน้ำเย็นและต้องคอยระมัดระวังพฤติกรรมของ ส.ส.ทุกคนและทุกฝีก้าว นี่เป็นเพียง 5 เดือนแรก แกนนำของพรรคไทยรักไทยจะแน่ใจได้อย่างไรว่าจะไม่มีครั้งต่อๆ ไปและไม่มีการต่อรองจากกลุ่มอื่นๆhttp://www.nidambe11.net/ekonomiz/2005q3/article2005july08p4.htm
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #49 เมื่อ: 22-06-2008, 13:18 » |
|
" ควันหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ" โลกทรรศน์ อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์ มติชนรายสัปดาห์ วันที่ 08 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 ปีที่ 25 ฉบับที่ 1299 ไม่ถึงสัปดาห์ คนไทยก็คงลืมการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมาไปแล้ว นอกจากคนไทยเป็นคนลืมเรื่องที่สำคัญง่ายๆ แล้ว เหตุผลที่ลืมส่วนหนึ่งมาจากเล่ห์กลทางการเมืองที่รัฐบาลเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ .................................................................................................................................................................. ความมั่นคงทางการเมือง การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งที่ผ่านมาได้บอกแก่สังคมไทยว่า รัฐบาลที่มีเสียงข้างมากแต่กลับเป็นรัฐบาลที่ไร้เสถียรภาพทางการเมือง ความไร้เสถียรภาพทางการเมืองเกิดจากข้างในของพรรคไทยรักไทยเองเป็นด้านหลัก หลังการเลือกตั้งได้ไม่นาน แกนนำของพรรคไทยรักไทยได้ประกาศถึงแผนการในอนาคตคือการสร้างพรรคไทยรักไทยให้เป็นสถาบันทางการเมือง (Institutionalization) คำประกาศนี้ช่างสวยหรูจริงแต่ไม่ได้ยืนอยู่บนความเป็นจริงทางการเมืองเลย พรรคไทยรักไทยได้กวาดต้อน ส.ส.จากพรรคต่างๆ ด้วยหลายวิธีการดังที่รู้กันอยู่ แล้วพรรคไทยรักไทยก็ทำศัลยกรรมตกแต่ง ส.ส.เหล่านั้นด้วยการเปลี่ยนสีเสื้อ ใส่สูทโก้หรูภายใต้โลโก้พรรคไทยรักไทย แน่นอน แกนนำของพรรคไทยรักไทยได้ลงทุนด้วยเงินจำนวนไม่น้อยตกแต่งที่ทำการพรรคใหม่ จัดห้องใหม่ จัดเครื่องมือและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ นานา เช่นเครื่องคอมพิวเตอร์ ประเด็นก็คือว่า แกนนำของพรรคไทยรักไทยเชื่อหรือว่านี้คือ กระบวนการสร้างความเป็นสถาบันทางการเมืองให้กับพรรคไทยรักไทย สูท เครื่องคอมพิวเตอร์และที่ทำการพรรคเป็นเครื่องปลอบใจหรือการเรียกเงินว่าจ้างจากแกนนำพรรคกันแน่ ? พฤติกรรมของ สส.พรรคไทยรักไทยไม่เคยเปลี่ยนไปจากเดิมเลย ตอนนี้ ส.ส.ของพรรคเพียงซ้ายหันขวาหันตามอำนาจและเงินบริจาคของแกนนำของพรรคไทยรักไทยเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เอง การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ จึงเป็นปาหี่ครั้งมโหฬาร แกนนำของพรรคปวดหัวกับแรงต่อต้านของ ส.ส.กลุ่มวังน้ำเย็นและต้องคอยระมัดระวังพฤติกรรมของ ส.ส.ทุกคนและทุกฝีก้าว นี่เป็นเพียง 5 เดือนแรก แกนนำของพรรคไทยรักไทยจะแน่ใจได้อย่างไรว่าจะไม่มีครั้งต่อๆ ไปและไม่มีการต่อรองจากกลุ่มอื่นๆhttp://www.nidambe11.net/ekonomiz/2005q3/article2005july08p4.htm 4 เดือนแรก กับ 5 เดือนแรก ต่างกันแค่ไหนครับ....... 
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
|
