ไทยอาจเสียดินแดนครั้งที่ 15 [20 มิ.ย. 51 - 17:16]
ในที่สุด นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีต่างประเทศ ก็ผลักดันให้ สภาความมั่นคงแห่งชาติ และ คณะรัฐมนตรี ลงมติรับรอง แผนที่เขาพระวิหาร ที่ รัฐบาลกัมพูชา เป็น ฝ่ายจัดทำ ได้สำเร็จ และ เตรียมนำไปแนบท้ายทะเบียนการขึ้นมรดกโลกของ ปราสาทเขาพระวิหาร ตามที่ ฝ่ายกัมพูชา ชงมาให้เรียบร้อยโรงเรียนฮุนเซน
นายนพดล ที่มีตำแหน่งเป็น รัฐมนตรีต่างประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ นักข่าวอย่างปลาบปลื้มก่อนเข้าประชุม ครม.ว่า
เดิมกัมพูชาเสนอแผนที่มา 2 แบบ แผนที่แบบที่ 2 รุกล้ำเข้ามาใน ดินแดนไทย แต่กระทรวงต่างประเทศสามารถเจรจาให้ขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารตามแบบที่ 1 ที่ไม่รุกล้ำดินแดนไทยได้ หากปล่อยไปจนถึง เดือนกรกฎาคมกัมพูชาจะขึ้นทะเบียนลักษณะ 1+2 คือมีพื้นที่ทับซ้อนของไทยด้วย
นายนพดลโอ้อวดด้วยว่า ถ้าผมไม่ได้เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ ผมเรียนโดยตรงว่า เขาอาจจะขึ้นทะเบียนทั้งแบบที่ 1 และ 2 แต่เมื่อผมเข้ามาเป็นรัฐมนตรี ก็ช่วยให้ขึ้นทะเบียนเพียงแบบที่ 1 ไม่มี 2
ฟังดูเหมือนนายนพดลจะขอความดีความชอบในการเจรจาครั้งนี้เสียด้วย
แต่ในเวทีการพูด สิ่งที่ นายนพดล ทำไปอย่างที่ให้สัมภาษณ์ กลับเป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรงยิ่งในเวทีการเจรจาดินแดนระหว่างประเทศ เพราะนายนพดลยอมรับว่า กำลังเล่นตามเกมที่ฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้กำหนด โดนฝ่าย ไทยไม่มีไพ่ในมือเลย แม้แต่ แผนที่แบ่งแยกดินแดนทั้ง 2 ฉบับ ฝ่ายกัมพูชาก็เป็นฝ่ายเขียนขึ้นแต่ฝ่ายเดียว แล้วให้ฝ่ายไทยเป็นฝ่ายเลือก นายนพดลก็เลือกแผนที่แบบที่ 1
เมื่อเลือกแล้ว นายนพดลก็ปกปิดคนไทยทั้งประเทศ ไม่ยอมเปิดเผยแผนที่ของกัมพูชาที่ตัวเองเลือกให้ดู โดยอ้างว่าเป็นความลับ ทั้งๆที่ไม่ใช่ความลับ เพราะการขึ้นทะเบียนมรดกโลก ต้องประกาศอย่างเปิดเผยไปทั่วโลก
แค่ยกแรก นายนพดล ตัวแทนประเทศไทย ก็ แพ้กัมพูชา ไปแล้วในเกมการเมืองระหว่างประเทศ แม้แต่เงื่อนไขการค้าทั่วไป สองฝ่ายก็ต้องมีข้อเสนอของฝ่ายตนอยู่ในมือ ซึ่งเป็นข้อเสนอที่ฝ่ายตนจะได้ประโยชน์ เพื่อใช้เป็นข้อต่อรองในการเจรจา เพื่อให้ฝ่ายตนได้ประโยชน์มากที่สุด
แต่นี่เป็นเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับ การเสียดินแดน ที่อาจจะเกิดขึ้นได้
นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีต่างประเทศไทย กลับไปเจรจากับเขมรด้วยมือเปล่า ไม่มีแผนที่ที่เป็นข้อเสนอของฝ่ายไทยนำไปขึ้นโต๊ะเจรจา แต่กลับยอมรับเอา แผนที่ฝ่ายกัมพูชากำหนดทั้ง 2 ฉบับ เป็นเงื่อนไขเจรจา ซึ่งในทางการทูตถือว่าแพ้ตั้งแต่ยังไม่เจรจาแล้ว เพราะแผนที่กัมพูชาเขียนทั้ง 2 ฉบับ ย่อมเป็นแผนที่ที่ฝ่ายกัมพูชาได้ประโยชน์ทั้ง 2 ฉบับ เพียงแต่ได้มากและได้น้อยเท่านั้นเอง
ฝ่ายที่จะเสียและเสียอย่างเดียวก็คือ ฝ่ายไทย เพราะไม่มีแผนที่ไปต่อรอง
ผมไม่อยากมองว่า การเอาดินแดนประเทศไทยไปเป็นเดิมพันครั้งนี้ จะมี ผลประโยชน์ส่วนบุคคล เข้าไปเกี่ยวข้องอย่างที่มีการลือและกล่าวหากันในเวลานี้หรือไม่
แต่มีข้อมูลเชิงลึกบอกว่า หลังจากที่ปราสาทเขาพระวิหารขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้ว เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของโลกแล้ว ที่เชิงเขาพระวิหารฝั่งกัมพูชา ก็จะมีโครงการ กาสิโน เอนเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ เกิดขึ้น เพื่อเป็นแหล่งการพนัน บันเทิง และท่องเที่ยวที่ สำคัญของกัมพูชาติดชายแดนไทยอีกแห่ง ซึ่งเป็น โครงการในความฝัน อีกโครงการของ นายกฯสมเด็จฮุนเซน แห่งกัมพูชาที่คิดมานานแล้วหากยอมปล่อยให้ นพดล ปัทมะ เล่นไปตามเกมที่ฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้กำหนดอย่างนี้ ผมเชื่อว่าโอกาสที่ไทยจะเพลี่ยงพล้ำเสียดินแดนครั้งที่ 15 เป็น ไปได้สูงยิ่งในยุครัตนโกสินทร์สองร้อยกว่าปีมานี้ ไทยเสียดินแดนไปแล้ว 14 ครั้ง ครั้งสุดท้ายคือเขาพระวิหาร เสียดินแดนไปแล้ว 782,877 ตารางกิโลเมตร จากพื้นที่ประเทศไทยอันยิ่งใหญ่ไพศาล 1,294,992 ตารางกิโลเมตร ในอดีต เหลือแค่ 512,115 ตารางกิโลเมตรในปัจจุบัน หรือจะต้องเสียดินแดนอีกครั้งในยุคนี้.
"ลม เปลี่ยนทิศ"
http://thairath.co.th/news.php?section=society03&content=94086ขออนุญาตตัดแปะค่ะ ถ้าโพสต์ซ้ำขออภัยด้วย เพราะเพิ่งจะมาตามอ่านกระทู้ค่ะ