ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
29-03-2024, 20:38
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ศธ.ทำงามหน้า!เบี้ยวจ่ายงบฝึกนักศึกษาวิชาทหารให้กองทัพ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ศธ.ทำงามหน้า!เบี้ยวจ่ายงบฝึกนักศึกษาวิชาทหารให้กองทัพ  (อ่าน 889 ครั้ง)
นายเบียร์
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 997



« เมื่อ: 02-06-2006, 12:58 »

ออกตัวก่อนว่าเอาข่าวนี้มาลงไม่ได้หวังผลไปถึงการต่อว่านักการเมืองหรือรัฐบาลนะครับ เพียงสงสัยว่างบประมาณหายไปไหนหมด แล้วงบที่ให้มาในการจัดฝึกนสท.ทั่วประเทศซึ่งถือว่าเป็นงานใหญ่และสำคัญทำให้ให้มาน้อยถึงขนาดนี้?

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000072330

ศธ.ทำงามหน้า!เบี้ยวจ่ายงบฝึกนักศึกษาวิชาทหารให้กองทัพ

ผบ.นสร. แฉ! กระทรวงศึกษาธิการเบี้ยวงบประมาณฝึกนักศึกษาวิชาทหารกองทัพต้องแบกรับภาระฝึกกว่า 50,000 คน ยอมรับงบประมาณการฝึกถูกตัดจาก 146 ล้านบาท เหลือ 39 ล้านบาทต่อปี เตรียมเข็น พรบ.กำลังสำรองแห่งชาติมาบังคับใช้

 พล.ท.มนตรี สังขทรัพย์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการกำลังสำรอง (นสร.) กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงศึกษาธิการตัดงบประมาณในการสนับสนุนการฝึกนักศึกษาวิชาการทหาร (รด.) ว่า กองทัพรับนักวิชาการทหารเข้ามาฝึกในกองทัพเท่าเดิมไม่ได้มีการลดลงตามที่กระทรวงศึกษาธิการระบุ โดยกองทัพจะรับนักศึกษาเข้ามาฝึกปีละประมาณ 231,000 คน จากนักศึกษาทั่วประเทศ โดยใช้งบประมาณจากกองทัพบก จำนวน 146 ล้านบาท จนกระทั่งปัจจุบันกองทัพได้ตัดลดงบประมาณลงเหลือเพียง 39 ล้านบาทเท่านั้น
       
       พล.ท.มนตรี กล่าวว่า เดิมทีทางกระทรวงศึกษาธิการได้ติดต่อมายังกองทัพบกให้รับนักศึกษาวิชาทหารเพิ่มเติม ซึ่งทางกองทัพก็ตกลงที่จะรับนักศึกษาเพิ่ม แต่ทางกระทรวงศึกษาธิการจะต้องสนับสนุนงบประมาณในการฝึก ซึ่งทางกระทรวงศึกษาธิการก็ตกลงที่จะสนับสนุนงบประมาณ โดยในปี 2544 ทางกระทรวงศึกษาได้ให้กองทัพฝึกนักศึกษาวิชาทหาร เพิ่มจำนวน 30,000 คน จนถึงปี 2547 โดยมีการสนับสนุนงบประมาณต่อหัวต่อคน คือ จำนวน 400 บาท รวมนักศึกษาที่เข้ารับการฝึกจากกองทัพเป็นจำนวน 90,000 คน จนกระทั่งในปี 2548 ทางกระทรวงศึกษาธิการปฏิเสธที่จ่ายเงินสนับสนุนดังกล่าว โดยระบุว่าไม่งบประมาณให้
       
       “ผมต้องไปตามงบประมาณจากกระทรวงศึกษาธิการเอง แต่ก็ถูกปฏิเสธว่าไม่มีงบประมาณให้ ทำให้กองทัพต้องแบกรับภาระนักศึกษาวิชาทหารที่กระทรวงศึกษาธิการสนับสนุนให้ตอนนี้ ประมาณ 50,000 คน อย่างไรก็ตาม กองทัพยินดีที่จะฝึกนักศึกษาวิชาการให้อยู่แล้ว เพราะทางกองทัพมีความพร้อมและได้เตรียมครูที่จะฝึกให้อยู่แล้ว แต่เพียงงบประมาณในขณะนี้กองทัพไม่สามารถแบกรับภาระตรงนี้ไว้ได้ ทั้งนี้หากทางกระทรวงศึกษาธิการสนับสนุนงบประมาณมาให้ทางเราก็พร้อมที่จะฝึกให้อยู่แล้ว” พล.ท.มนตรี กล่าว
       
       พล.ท.มนตรี กล่าวว่า ขณะนี้กองทัพพยายามเร่งจัดทำ พรบ.กำลังสำรองแห่งชาติ เพื่อให้คลอดออกมาบังคับใช้ กองทัพก็จะได้ไม่ต้องดำเนินการเพียงตามลำพังเหมือนแต่ก่อน เพราะ พรบ.กำลังสำรองแห่งชาติ จะมีนายกรัฐมนตรี หรือ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และมี รมว.กลาโหม และ รมว.มหาดไทย เป็นรองประธาน นอกจากนี้จะมีปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ปลัดกระทรวงแรงงาน และ ปลัดกระทรวงการคลัง เข้ามาเป็นคณะกรรมการ ซึ่งหน่วยงานต่าง ๆ เหล่านี้มีส่วนเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งหมดที่จะต้องเข้ามาร่วมกันแก้ไขปัญหา เพราะที่ผ่านมาเวลาที่กองทัพได้มีการเรียกกำลังสำรองเข้ามารับการฝึกทบทวน แต่ก็ไมได้รับความร่วมมือจากนายจ้าง หรือ ผู้บังคับบัญชาส่วนราชการต่าง ๆ โดยอ้างว่าจะทำให้เสียงานที่กำลังสำรองรับผิดชอบอยู่” พล.ท.มนตรี กล่าว
       
       พล.ท.มนตรี กล่าวอีกว่า สองปีที่ผ่านมากองทัพก็พยายามแก้ไขปัญหาตรงจุดนี้ จากเดิมเรามีการผลิตนักศึกษาวิชาทหาร หรือ กำลังสำรอง ประมาณปีละ 300,000 คน แต่เมื่อถึงเวลาเมื่อกองทัพเรียกกำลังสำรองเหล่านี้มาฝึกในช่วงเสาร์ – อาทิตย์ ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเพียง 10 % ของกำลังสำรองที่มีอยู่ในแต่ละปี หรือเทียบเท่าประมาณ 30,000 คน ดังนั้นเราจำเป็นจะต้องออก พรบ.กำลังสำรองแห่งชาติขึ้นมาดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ พรบ.ฉบับดังกล่าวเริ่มทำมาตั้งแต่ปี 2535 แต่ก็ไม่สามารถคลอดออกมาได้ เพราะมีปัญหาเรื่องการเปลี่ยนรัฐบาล สมัยที่ นายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี กองทัพได้มีการเสนอ พรบ.ฉบับดังกล่าวไป แต่ก็การยุบสภาเรื่องดังกล่าวก็ต้องตีกลับมาที่กองทัพ แต่คราวนี้โชคดีกองทัพทำไปถึงคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว และมีการตรวจสอบรายละเอียดอยู่ ซึ่งคาดว่าจะเดินหน้าดำเนินการต่อไปจนกว่าแล้วเสร็จ
       
       ผบ.หน่วยบัญชาการกำลังสอง กล่าวอีกว่า ขณะนี้จะลดปริมาณไม่ได้ เพราะผู้ปกครองอยากให้บุตรได้มาศึกษาเกี่ยวกับวิชาทหาร เมื่อปี 2547 เรามีการฝึกโครงการนำร่องมา จำนวน 11 เดือน ประเมินผลเป็นที่มั่นใจว่ากำลังสำรองสามารถร่วมรบกับกำลังหลักได้ ซึ่งเราเคยขออนุมัติกองทัพบกว่าขอให้ทางกองทัพพิจารณาบรรจุกำลังส่วนหนึ่ง เพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ในกองพลพัฒนาพิทักษ์ทรัพยากร เพราะจะทำให้เกิดประโยชน์มาก ปัจจุบันเราใช้เวลาผลิตนายสิบประมาณ 1-2 ปี ซึ่งใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก
บันทึกการเข้า

นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 02-06-2006, 13:03 »

“ผมต้องไปตามงบประมาณจากกระทรวงศึกษาธิการเอง แต่ก็ถูกปฏิเสธว่าไม่มีงบประมาณให้"

ข้อสงสัยเรื่องเงินหมดคลัง

ความจริงก็ปรากฏ
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #2 เมื่อ: 02-06-2006, 19:44 »

จาตุรน.......เงียบตามเคย.........ใครเคยเห็นจาตุรนแก้ปัญหาอะไรได้ ช่วยบอกหน่อยคับ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: