ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
17-04-2024, 02:23
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  เล่นทำกับข้าวทางทีวีแก้ปัญหาชาติไม่ได้ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
เล่นทำกับข้าวทางทีวีแก้ปัญหาชาติไม่ได้  (อ่าน 1142 ครั้ง)
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« เมื่อ: 18-06-2008, 21:14 »

ทัศนะวิจารณ์
  กาแฟดำ
18 มิถุนายน พ.ศ. 2551 05:00:00
 

[IMG]
เล่นทำกับข้าวทางทีวีแก้ปัญหาชาติไม่ได้

:นายสมัคร สุนทรเวชธนาคารแห่งประเทศไทย กับกระทรวงพาณิชย์ไม่ต้องถกแถลงกันให้เสียเวลาว่าอัตราเงินเฟ้อทั้งปี 2551 นี้จะถึง "สองหลัก" หรือไม่...เพราะแค่เฉียดๆ สองหลัก ความเป็นอยู่ของชาวบ้านทั่วไปก็หนักหนาสาหัสเหลือเกินแล้ว

กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : ยิ่งเห็นคนเป็นนายกรัฐมนตรีออกมาแสดงวิธีการตำน้ำพริก และเชื้อเชิญให้คนไทยกินกระเทียมมากๆ โดยแยกไม่ออกว่าอะไรคือ "ปัญหาเศรษฐกิจหลัก" อะไรคือ "รายละเอียดปลีกย่อย" ก็ยิ่งรู้ว่าผู้นำประเทศไม่ได้เข้าใจเลยว่าที่ธนาคารชาติกับกระทรวงพาณิชย์ ภายใต้การดูแลของตนนั้น เขากำลังเผชิญศึกใหญ่ทางด้านเศรษฐกิจที่เป็นสาระสำคัญอะไรบ้าง

เป็นหน้าที่ของผู้นำรัฐบาล และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจะต้องออกมาตอบคำถามของชาวบ้าน (ไม่ว่ารัฐบาลจะยอมให้มีการอภิปรายทั่วไปหรืออภิปรายไม่ไว้วางใจในรัฐสภาหรือไม่ก็ตาม) ว่าจริงๆ แล้วค่าของเงินในกระเป๋า และอำนาจซื้อของเขากำลังหดหายไปเท่าไร อย่างไร และรัฐบาลมี "ตาข่ายสังคม" เพื่อบรรเทาความหนักหน่วงของปัญหาอย่างไร

คำถามของนักข่าว คำตอบของรัฐมนตรีทุกวันก็วนเวียนอยู่กับเรื่องการเมือง เรื่องนายกฯ กับรัฐมนตรีจะ "จัดการ" กับผู้ชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และใครในรัฐบาลไปกินข้าวกับใครเพื่อต่อรองแบ่งสรรอำนาจกันอย่างไรเท่านั้น

เราไม่ได้ยินไม่ได้ฟังว่านายกฯ และรัฐมนตรีเศรษฐกิจนั่งลงอธิบาย วิเคราะห์และแจกแจงปัญหาเศรษฐกิจที่ถาโถมเข้ามาทุกด้านพร้อมกับระดมสรรพกำลังเพื่อแก้ปัญหาอย่างไรบ้าง

คุณสมัคร ออกรายการทีวีวันอาทิตย์พูดถึงเรื่องเงินเฟ้อหรือเปล่า? พูดถึงเรื่องวิธีการตั้งรับราคาน้ำมันที่พุ่งไปที่ 140 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลและมาตรการที่ไทยจะตั้งรับหรือเปล่า? (ได้ยินแต่โยนไปให้ "รัฐมนตรีพลโทหญิง" ทุกครั้งไป)

ถ้ารัฐบาลพยายามหลบหลีกการซักฟอกของฝ่ายค้านและสมาชิกวุฒิสภา อย่างน้อยก็จะต้องให้รัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจตั้งวงให้ผู้รู้ของประเทศตั้งคำถามเพื่อถามหาคำตอบให้ชัดเจน

ไม่ใช่ยืนให้สัมภาษณ์หน้ากระทรวงหรือถามตอบอย่างผิวเผินประจำวันเพื่อ "แก้ผ้าเอาหน้ารอด" ไปวันๆ เท่านั้น

นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างก็เลือกจะออกทีวีในรายการที่ผู้ดำเนินรายการไม่กล้าตั้งประเด็นอย่างตรงไปตรงมา...หรือไม่รัฐมนตรีก็เลือกที่จะออกใน "รายการทีวีที่เป็นมิตรกับรัฐบาล"  มากกว่าที่จะกล้าเปิดทีวีให้เป็นเวทีสาธารณะที่เชิญผู้เชี่ยวชาญจริงๆ และสื่อมวลชน ที่เป็นอิสระจริงๆ มาตั้งคำถามเพื่อหาความกระจ่างต่อปัญหาที่บ้านเมืองกำลังเผชิญอยู่

แค่เรื่อง "อัตราเงินเฟ้อ" เรื่องเดียวก็ใหญ่พอที่รัฐบาลจะต้องเปิดเวทีสาธารณะให้กว้างขวางเพื่อบอกประชาชนว่ามีมาตรการอะไรนอกจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเตรียมคิดจะหาทางขึ้นดอกเบี้ยอย่างเดียวเท่านั้น

เพราะเงินเฟ้อคืออาการที่มาจากสาเหตุใหญ่สองอย่างที่รัฐบาลยังดูเหมือนจะไม่สามารถหาทางออกให้ชัดเจนหรือบอกกล่าวกับประชาชนอย่างตรงไปตรงมาได้

นั่นคือราคาน้ำมันพุ่ง และภาวะข้าวยากหมากแพง

แน่นอนว่านี่ไม่ใช่เป็นปัญหาเฉพาะประเทศไทยเท่านั้น นักเศรษฐศาสตร์ทั้งหลายต่างเห็นพ้องต้องกันว่าเอเชียเกือบทุกประเทศกำลังเผชิญอยู่กับปัญหาเดียวกันนี้...และแต่ละประเทศจะต้องหาทางออกด้วยตนเอง

อินเดียเพิ่งประกาศว่าอัตราเงินเฟ้อปีนี้ของเขาสูงสุดใน 7 ปี และเกาหลีใต้ก็เผชิญกับแนวโน้มเดียวกัน

ไทยกับฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ อยู่ในกลุ่มที่ยอมรับว่าอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับ 7.5 ถึง 11 เปอร์เซ็นต์

และที่น่าตกใจที่สุดคือเวียดนามที่ยอมรับว่าอัตราเงินเฟ้อกระโดดไปอยู่ที่ 25.2 เปอร์เซ็นต์แล้ว

ไทยเราได้เปรียบหลายประเทศตรงที่เราปลูกข้าวและส่งข้าวออกขาย แต่วันนี้ "โอกาสกลับกลายเป็นวิกฤติ" เพราะรัฐบาลชุดนี้มุ่งเล่นการเมืองมากกว่าบริหารเศรษฐกิจ

ธนาคารพัฒนาเอเชียหรือเอดีบี บอกว่าอันตรายจากอัตราเงินเฟ้อสูงอย่างนี้ก็คือผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ และจะนำไปสู่ปัญหาการเมืองและสังคมที่เกี่ยวพันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

อาจารย์อัมมาร สยามวาลา แห่งทีดีอาร์ไอ  บอกวันก่อนว่า ในแง่ผลงานด้านแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจ ให้คะแนนรัฐบาลนี้ "F"

ซึ่งแปลว่าสอบตก และถ้าอาจารย์เคร่งครัดจริงๆ ก็ต้องเรียกผู้ปกครองมาปรึกษาหารืออนาคตของเด็กนักเรียนคนนี้ด้วย

เพราะนักเรียนคนนี้นอกจากจะไม่ตั้งใจเรียนหนังสือแล้ว ก็ยังเกเรหาเรื่องก่อความปั่นป่วนไปทั่วโรงเรียนอีกด้วย


(เข้ามาฟังและชมบทวิพากษ์การเมืองร้อนๆ ได้ตลอด 24 ชั่วโมงที่ www.oknation.net/blog/black

http://www.bangkokbiznews.com/2008/06/18/news_267957.php



เป็น'นายกฯนอมินี' 4 เดือนยังไม่ลืมกำพืดเดิม นิสัยเดิม...
ทำตัวเป็น'สายล่อฟ้า'ให้กลุ่มอำนาจเก่าแทนทำคุณประโยชน์ให้ประชาชนที่เสียภาษีเป็นเงินเดือนให้....

อาจารย์อัมมาจะเรียกผู้มีอิทธิพลเหนือนายกฯ'ลูกกรอก'มาอบรมสั่งได้อย่างไร......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-06-2008, 21:21 โดย ปุถุชน » บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ลูกหินฮะ๛
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,099


เสียเข็มขัด อย่าเสียกุงเกง


« ตอบ #1 เมื่อ: 18-06-2008, 21:24 »


 ตอนนี้ ลุกหิน...
อับอาย  เพื่อนฝาหรั่งมากๆ

โดน เพื่อนมัน ล้อ..ทุกวันเลย
ว่า ..นายกฯของลูกหิน เหมือน พ่อค้า ขายหมู
ฮือๆๆๆๆๆๆ
บันทึกการเข้า

  ... ... ... 
หน้า: [1]
    กระโดดไป: