@
ปชป.คุยเน้นทำการเมืองในระบบ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จะพยายามยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก่อนหมดเวลาราชการ ในวันที่ 17 มิถุนายน ส่วนจะได้รับการบรรจุเข้าวาระหรือไม่นั้น คงต้องวัดใจกันดู เพราะฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่อย่าไปกังวล เพราะเห็นว่าบ้านเมืองวันนี้มีปัญหามากและประชาชนควรได้รับรู้ นี่คือสาระสำคัญที่ตั้งใจพูดจาให้ประชาชนทราบผู้สื่อข่าวถามว่า นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร อ้างว่าถึงแม้จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจไปก็มีเวลาไม่เพียงพออยู่แล้ว นายสุเทพกล่าวว่า ที่จริงประธานสภาก็ต้องทำหน้าที่เป็นกลางในทางการเมืองตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ประธานสภาจะไปร้องเพลงเดียวกับนายกฯหรือขานรับกับนายกฯไม่ได้ "ผมเห็นว่าหลังอภิปราย พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 ก็ยังมีเวลาอยู่" นายสุเทพกล่าว
เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์กล่าวกรณีหากใช้เวทีในสภาไม่ได้ จะต้องเปิดเวทีนอกสภาหรือไม่ว่า ต้องทำการเมืองในระบบ การเมืองไม่ใช่เรื่องของ ส.ส.เท่านั้น ประชาชน สื่อมวลชน ข้าราชการ นักธุรกิจก็มีส่วนร่วมทั้งนั้น และมีสิทธิที่จะแสดงความเป็นห่วงบ้านเมืองในรูปแบบต่างๆ กันในกรอบของรัฐธรรมนูญ ขณะนี้ยังไม่คิดที่จะเปิดเวทีสาธารณะ เพราะตั้งใจที่จะทำงานในสภาให้ดีที่สุด การที่กลุ่มพันธมิตรออกมาชวนว่า ถ้าใช้เวทีในสภาไม่ได้ให้ไปร่วมกับพันธมิตรนั้น ตนเอาใจช่วยเพราะมองว่าพันธมิตรก็มีความปรารถนาดีต่อบ้านเมือง เพราะการออกมาตากแดดตากลมทุกวัน ไม่ได้ประโยชน์อะไร รัฐบาลจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่เปลี่ยนแปลง แต่จะให้ไปร่วมด้วยคงไม่ได้ เพราะมีเวทีอยู่แล้ว@
อ้างชั้นเชิงลึกล้ำขุดเรื่องโกงยากนายสุเทพยังกล่าวตอบโต้สมาชิก พปช.ที่ระบุประชาธิปัตย์เล่น 2 หน้า ทั้งในและนอกสภาว่า คงไม่ใช่ จริงๆ แล้วพันธมิตรก็ไม่ได้สนใจมากว่าใครจะรู้สึกอย่างไร เนื่องจากเขามีแนวทางชัดเจน
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ก็มีแนวทางมาตลอด 62 ปี ตราบใดที่พันธมิตรชุมนุมประท้วงต่อต้านแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือแจกแจงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในการใช้อำนาจของรัฐบาลอย่างนี้ก็ไปร่วมด้วย แต่เมื่อไหร่ที่เปิดเกมขับไล่รัฐบาลคงไปร่วมไม่ได้"คาดหวังว่าเมื่อได้นำเสนอข้อเท็จจริงไม่ใช่เฉพาะพรรคร่วมรัฐบาลเท่านั้น แต่ประชาชนทั้งประเทศจะได้เห็นพ้องต้องกัน" นายสุเทพกล่าว
นายสุเทพยังกล่าวถึงคำสบประมาทของสมาชิก พปช. ที่ระบุเนื้อหาในการซักฟอกยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอว่า ต้องยอมรับว่า การเอาเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่นมาอภิปรายทำยากขึ้น เพราะคนที่ทำการมีชั้นเชิงและลึกล้ำ การตรวจสอบจึงทำยากขึ้น วันนี้ถือว่าถึงไม่ได้หลักฐานเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น แต่การทำหน้าที่ที่บกพร่องเพียงพอแล้วต่อการที่จะไม่ไว้วางใจให้เป็นรัฐมนตรี
ส่วนที่นายกฯอ้างเรื่องกรอบเวลาว่าการยื่นอาจจะไม่ทันการประชุมสภาสมัยวิสามัญ เนื่องจากมีระยะเวลาในการปิดสภาเอาไว้แล้วนั้น นายสุเทพกล่าวว่า ฟังไม่ค่อยขึ้น การเปิดสมัยวิสามัญ ได้ยินตั้งแต่ครั้งแรกว่าเปิดวันที่ 9-30 มิถุนายน แต่อยู่ๆ นายกฯบอกว่าจะปิดวันที่ 27 มิถุนายน ซึ่งลดไป 3 วัน "พวกผมพูดวันครึ่งก็พอแล้ว และถ้าเวลาไม่พอก็ขยายเวลาได้ " นายสุเทพกล่าว
@
เผยปมไม่ไว้วางใจนายกฯ-6รมต.ทั้งนี้ แกนนำพรรคประชาธิปัตย์หารือถึงการร่างญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 158 และมาตรา 159 ในเวลา 10.00 น. ณ ที่ทำการพรรคถนนเศรษฐศิริ โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคเป็นประธาน ที่ประชุมสรุปรายชื่อรัฐมนตรีที่จะถูกยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเบื้องต้น 7 คน ประกอบด้วย 1.นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กรณีการบริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว 2.นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในกรณีการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ 3.นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กรณีการแก้ไขปัญหาราคาข้าวตกต่ำ 4.นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กรณีเขาพระวิหาร 5.นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กรณีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในกระทรวงที่ไม่เป็นธรรม และกรณีการแต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) 6.นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในกรณีการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี จำนวน 6,000 คัน
7.ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย @
แยก2ญัตติ-เสนอ"อภิสิทธิ์"นายกฯนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เปิดเผยว่า การร่างญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น จะแยกออกเป็น 2 ชุด โดยชุดแรกคือ ร่างญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 158 โดยใช้เสียง 1 ใน 5 ของ ส.ส.ในสภา โดยในร่างจะระบุถึงพฤติกรรมของนายสมัคร ว่าไม่น่าไว้วางใจจากการบริหารราชการแผ่นดิน พร้อมกันนั้นพรรคจะเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำพรรคฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้ดำรงตำแหน่งแทนตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ส่วนร่างญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีอีก 6 คน จะแยกออกมาอีกหนึ่งฉบับ ซึ่งจะเน้นภาพรวมการบริหารงานที่บกพร่องล้มเหลว ตามมาตรา 159 ที่จะใช้เสียง 1 ใน 6 ของ ส.ส.ในสภา ซึ่ง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 164 คน จะเซ็นชื่อทุกคนใน 2 ญัตติที่จะยื่นพร้อมๆ กัน
@
อภิสิทธิ์ดักคอรบ.ต้องพร้อมแจง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมข้อมูล ค่อนข้างชัดว่ามีเรื่องอะไรบ้าง ส่วนตัวบุคคลจะเป็นใครบ้างจะปรึกษาหารือกันอีกครั้งในวันที่ 17 มิถุนายน เพราะมีความเห็นในเชิงกฎหมายหรือรูปแบบที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม คนที่จะอภิปรายนั้นไม่มีปัญหา เพราะพรรคมีคนที่ติดตามงานของพรรคในทุกกระทรวงอยู่แล้วแต่ในชั้นนี้ยังไม่ได้วางตัว เนื่องจากวันนี้พรรคให้ความสำคัญกับเนื้อหาสาระก่อน และยังเชื่อมั่นว่ามีเวลาพอที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ ทั้งนี้ ถ้าพรรคยื่นญัตติไปตามรัฐธรรมนูญ ก็จะดูว่ารัฐบาลกับประธานสภาจะดำเนินการอย่างไร
"
อย่างกรณีของวุฒิสภาที่ยื่นขอเปิดอภิปรายไปแล้ว ประธานสภาหรือรัฐบาลต้องพูดให้ชัด เพราะมองไม่เห็นว่ามีเหตุผลอะไรที่วุฒิสภาจะไม่สามารถใช้สิทธิของเขาได้ และวันนี้ยังยืนยันว่าเวลาเพียงพอ หากยื่นญัตติวันนี้ การตรวจสอบรายชื่อประมาณวันสองวันก็น่าจะเสร็จ สามารถส่งเรื่องให้รัฐบาล ซึ่งรัฐบาลก็ต้องพร้อมชี้แจงอยู่แล้ว หลังพิจารณางบประมาณก็ได้ ทำไมถึงจะไม่ให้ในเมื่อรัฐบาลมีมติไว้เองว่าจะปิดสภาวันที่ 30 มิถุนายน ถ้ารัฐบาลจะชิงปิดสมัยประชุมรัฐสภาก่อนก็คงจะต้องดูว่ามีความจงใจที่จะไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่ข้อมูลที่มีอยู่ก็จะไม่สูญเปล่าอย่างแน่นอน" นายอภิสิทธิ์กล่าว
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01p0101170651&day=2008-06-17§ionid=0101ถ้าประเมินจากการให้สัมภาษณ์ของนายกฯนอมินี และการอ้อนวอน ขอร้อง ขอเวลาของแกนนำพรรค พปช.แล้ว คาดว่า
รัฐบาล'ลูกกรอก' ด้วยความร่วมมือของประธานสภา'ลูกกรอก' คงไม่ยินยอมให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคฝ่ายค้าน พรรคประชาธิปัตย์ค่อนข้างแน่นอน......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า