ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
19-04-2024, 10:40
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  ห้องสาธารณะ  |  2 กรกฎาคม ????? 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
2 กรกฎาคม ?????  (อ่าน 1313 ครั้ง)
nosided
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 17-06-2008, 14:39 »

2 กรกฎาคม จะ????

จำได้ไหม 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2540 (ค.ศ. 1997) - เกิดวิกฤติเศรษฐกิจเอเชีย: รัฐบาลไทยประกาศปรับเปลี่ยนระบบอัตราแลกเปลี่ยน จากระบบตะกร้าเงินมาเป็นระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัวแบบกึ่งจัดการ ทำให้ค่าเงินบาทลดลงอย่างมาก

วิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชีย เป็นวิกฤตการเงินที่เริ่มในประเทศไทย 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2540 และส่งผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ตลาดหลักทรัพย์ และราคาสินทรัพย์อื่น ๆ ในประเทศในทวีปเอเชียหลายประเทศ

แง่คิดและข้อสังเกต เกี่ยวกับการลอยตัวค่าเงินบาท ปี 2540

จากคำอภิปรายประวัติศาสตร์ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ซึ่งตั้งข้อสงสัยว่า นายโภคิน พลกุล เข้าไปล่วงรู้ข้อมูลลับเกี่ยวกับการลอยตัวค่าเงินบาท ปี 2540 และพาดพิงไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กระทั่งว่านายสุเทพถูกนายโภคินฟ้องเรียกค่าเสียหาย 2,500 ล้านบาท ก่อนที่ศาลฎีกาจะมีคำพิพากษาให้ยกฟ้อง เมื่อต้นเดือนเมษายน 2551

เมื่อพิจารณาจากคำพิพากษาของศาลฎีกา ได้ข้อยุติว่า

(1) เชื่อได้ว่า นายโภคินได้เข้าไปล่วงรู้ข้อมูลลับในการประชุมตัดสินใจลอยตัวค่าเงินบาท เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2540 ก่อนวันประกาศลอยตัว 2 กรกฎาคม 2540 ถึง 3 วัน ทั้งๆ ที่ นายโภคินไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง และไม่สมควรจะไปนั่งอยู่ด้วย ในการประชุมระหว่าง พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรี, นายทนง พิทยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายเริงชัย มะระกานนท์ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย

(2) ข้อสงสัยว่า จะนำความลับไปบอก "ทักษิณ" หรือไม่ เป็นข้อที่สงสัยได้ ไม่เลื่อนลอย จากการที่มีข้อพิรุธหลายประการ แม้นายโภคินจะปฏิเสธว่าไม่ได้นำไปบอก พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ตาม ทั้งจากการที่นายโภคินเข้าไปล่วงรู้ข้อมูลลับที่สุดโดยที่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง อีกทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจการค้ารายใหญ่ ก็ไม่ได้รับผลกระทบเสียหายรุนแรงจากการเปลี่ยนแปลงค่าเงินบาทดังกล่าว แตกต่างจากผู้ประกอบธุรกิจการค้าใหญ่รายอื่นที่มีหนี้สินเป็นเงินตราต่างประเทศ ที่ต่างประสบความเสียหายอย่างรุนแรง เป็นต้น

เรื่องของคำพิพากษาของศาลฎีกา มีเท่านี้ แต่.....

เกี่ยวกับเรื่องนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เคยลุกขึ้นอภิปรายตอบนายสุเทพในสภาผู้แทนราษฎร โดยที่ขณะนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า

"..เมื่อวันที่ 1 กรกฏาคม ( 2540 ) กลางคืนวันนั้น บังเอิญผมทานข้าวกับผู้ใหญ่ที่ผมนับถือร่วมกับนักหนังสือพิมพ์อาวุโสคนหนึ่ง ประมาณ 4 ทุ่ม มีคนโทรมาบอกผมว่า ได้มีการพบปะกันอย่างซีเรียสมากที่ทำเนียบ มีคน 4 คน คือ นายกฯ ( พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ ), นายเริงชัย มะระกานนท์ ( ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยขณะนั้น ), นายทนง พิทยะ และ นายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ ( รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย )

เพราะผมรู้ว่า นายชัยวัฒน์ เป็นผู้จัดการกองทุนรักษาระดับ ผมเลยเดา แล้วยังบอกกับผู้ใหญ่คนนั้นกับนัก นสพ. อาวุโส ว่า สงสัยจะมีการลดค่าเงินบาทแน่ เพราะถ้ามีผู้จัดการทุนรักษาระดับเข้าไปร่วมด้วยในการพิจารณาซีเรียสอย่างนั้น ผมเดาว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น ผู้ใหญ่ที่ผมนับถือ คือ พล.ต. สนั่น ขจรประศาสน์ ครับ ผมอยู่กับท่านวันที่ 1 กรกฏาคม ตอน 4 ทุ่ม"

เท่ากับยอมรับว่า มีคนโทรศัพท์ไปบอกจริง แต่อ้างว่า โทรไปเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2540

คือ 2 วัน หลังจากที่มีการประชุมตัดสินใจลดค่าเงินบาท เมื่อ 29 มิถุนายน 2540 หรือ 1 วัน ก่อนประกาศลดค่าเงินบาท ในวันที่ 2 กรกฏาคม 2540

แต่ในข้อเท็จจริง รายละเอียด จะเป็นอย่างไร เรื่องนี้ ยังไม่ได้มีการสอบสวนหรือไต่สวนอย่างเป็นระบบ ทำให้ยังไม่มีบทสรุปข้อเท็จจริงที่ทำให้เชื่อแน่ได้ว่า ใครเป็นคนโทรไปบอก ? โทรไปเมื่อไหร่ ?

และเมื่อทราบข้อมูลแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ทำอะไร ? อย่างไร ? ได้ผลประโยชน์หรือไม่ อย่างไร ?
บันทึกการเข้า
เพื่ออะไร !
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5


« ตอบ #1 เมื่อ: 17-06-2008, 15:46 »

  ผมนี่ใครครับ คุณหรือเปล่าครับ ทำไมคนไทยถึงชอบความกำกวมทิ้งอะไรไว้เป็นคำถามเพื่อให้คนอื่นไปคิดต่อครับ ทำไมไม่เอาความจริงมาพูดกัน นักการเมือง บ้าบอชอบเอาแต่ได้ไม่ว่าใคร เพราะมันมีบุคคลที่น่านับถือ หือก้อไม่ได้ เพราะเดี๋ยวไม่มีใครยอมรับ รวยแล้วก้ออยากรวยต่อไป อย่างนี้สิครับไม่มีใครยอมใคร ปล่อยวางเหอะคนไทย ทะเลาะกันมันก็แค่ทะเลาะ จะบานปลายก็แค่ตาย ทำอะไรที่มีประโยชน์ไม่ดีกว่าเหรอ อายุก้อไม่ได้ถึงร้อยกัน นะนะ คนไทย ปล่อยวาง 
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: