ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
26-04-2024, 19:25
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  เห็นด้วยไหม"การศึกษาไทย"ถอยหลังลงคลอง 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
เห็นด้วยไหม"การศึกษาไทย"ถอยหลังลงคลอง  (อ่าน 2364 ครั้ง)
1133
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 67


« เมื่อ: 16-06-2008, 18:05 »



-เรียนฟรีมีค่าใช้สูงจ่ายกว่าตอนเสียค่าเทอม

-มาตราฐานความรู้เด็กต่ำกว่าเดิม

-เรียนพิเศษกลายเป็นสิ่งจำเป็น(ต้องเรียนตั้งแต่อนุบาล)

-เด็กไม่เคารพครู ครูไม่รักเด็ก

น่าจะปรับปรุงใหม่ทั้งระบบได้หรือยัง
บันทึกการเข้า
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #1 เมื่อ: 16-06-2008, 18:09 »

เห็นด้วยค่ะ

สมัยก่อนนั้นเรามีปราชญ์ดูแลกระทรวงศึกษา นักเรียนจบชั้นมัธยมปลาย ทำงานกับฝรั่งได้ พูดภาษาอังกฤษปร๋อ รับราชการเป็นใหญ่เป็นโตกันมากมาย 

สมัยนี้เรามีดอกเตอร์คุมกระทรวงศึกษา นักศึกษาจบปริญญาเอกแล้ว พูดได้แค่ เยส โน โอเค โคคาโคล่า   

อ้อ อย่าไปว่ามหาวิทยาลัยเขานะคะ ก็ก่อนจะเรียนมหาวิทยาลัย ต้องจบมัธยมศึกษาตอนปลายมาก่อน สมัยรุ่นพ่อรุ่นปู่ ยังไงก็รู้มากว่าคำว่า แอ๊กอาร์ต   

ถอยหลังลงคลองแน่นอนค่ะ 
บันทึกการเข้า
1133
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 67


« ตอบ #2 เมื่อ: 16-06-2008, 18:19 »

ที่น่ากลัวคือการศึกษาไม่ช่วยยกระดับจิตใจของเด็ก(หรือผู้เรียน)เลย
บันทึกการเข้า
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 16-06-2008, 18:49 »

1. ก็ดูคนรุ่นใหม่สมัยนี้มันใช้ภาษากัน หัวจัย(ใจ) โทสับ ทำมดา เทอ  พวกนี้อ้างว่าเป็นคนไทยแท้ แต่ใช้ภาษาได้เลวกว่าคนไทยไม่แท้ซะอีก

2. หรือนิยมพูดไทยคำอังกฤษคำกันทั้งเมือง แต่ให้ พูด อ่าน เขียน ก็เอ้อๆอ้าๆ

3. เรียกให้มันชี้แผนที่โลก ฮ่องกงอยู่ตรงไหน สิงคโปร์อยู่ตรงไหน กัมพูชา  แต่คนที่จบปริญญาตรีหลายคนชี้ไม่ถูก บางคนเทียบบัญญัติไตรยางค์ไม่เป็น แล้วมันจบมาได้ยังไง จะอ้างว่าไม่ได้จบเอกคณิตศาสตร์มันเป็นไม่ได้ เพราะมันเป็นทักษะพื้นฐานที่สอนในระดับมัธยมต้นแล้ว

4. ถ้าใครได้อ่านโฆษณาในนสพ. Bangkok Post ประมาณวันอาทิตย์ก่อน โรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนา ซึ่งถือว่าเป็นโรงเรียนชั้นนำแห่งหนึ่ง  มีการลงรายชื่อนักเรียนระดับเกรดเอซึ่งเพิ่งเรียนจบว่า ได้ไปเรียนสถาบันระดับโลกใน อังกฤษ แคนาดา อเมริกา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น  ปรากฎว่า กว่า 90% ของประมาณ 80 กว่าคน สาขาที่ไปเรียนมีแต่สาขาที่ไม่ได้ส่งเสริมเทคโนโลยีอะไร และเรียนกันแบบสะเปะสะปะ เช่น communication arts, visual communications, marketing, graphic design, sociology มีอยู่ประมาณไม่ถึง 10 คนที่ไปเรียนด้านเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์


แค่นี้ก็สามารถฟันธงได้แล้วว่า ศรีธนญชัยแลนด์จะไปในทิศทางไหน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-06-2008, 18:51 โดย Thailand = Land of Srithanonchais » บันทึกการเข้า

Familie
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 369



« ตอบ #4 เมื่อ: 16-06-2008, 18:57 »

ผมว่าการศึกษาของไทยไม่ได้ล้าหลังหรือถอยหลังลงคลองหรอกครับ
เป็นเพราะคนและสภาพแวดล้อมมากกว่าครับ
ไม่อย่างนั้นคงไม่มีคำว่า การศึกษาไม่ช่วยให้คนดีขึ้นเลย
เหมือนระบบการเมืองไทยนั่นแหละครับ
ระบบมันดีอยู่แล้ว แต่ตัวนักการเมืองเองต่างหาก
ที่เลวจนระบบเอาไม่อยู่
บันทึกการเข้า


บรรพบุรุษ ของไทย แต่โบราณ      ปกบ้าน ป้องเมือง คุ้มเหย้า
เสียเลือด เสียเนื้อ มิใช่เบา           หน้าที่เรา รักษา สืบไป
ลูกหลาน เหลนโหลน ภายหน้า      จะได้มี พสุธา อาศัย
อนาคต จะต้องมี ประเทศไทย       มิยอมให้ ผู้ใด มาทำลาย
see - u
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,370


.......... I'm not Supergirl


« ตอบ #5 เมื่อ: 16-06-2008, 19:01 »

เรียนกันแบบสะเปะสะปะ
เช่น communication arts, visual communications, marketing, graphic design,
sociology มีอยู่ประมาณไม่ถึง 10 คนที่ไปเรียนด้านเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์[/b]



*  ไม่ขอพูดถึงสถาบันที่คุณพาดพิง  ........

    แต่จะถามว่าการเรียน   visual    communications   มันเป็นการเรียนแบบสะเปะสะปะ  ตรงไหนมิทราบ ???

    ดิฉัน  ก็จบ  visual  มาเลยอยากรู้  !!!
บันทึกการเข้า

    " I  will  unforgive  you  to  do  the  bad  thing  like  this. "   

                           

                        The  fox  changes  his  skin  but  not  his  habits.   *

                 Superman ( It's Not Easy )   >>  http://www.ijigg.com/songs/V2B7G4GPD
    
    
   "  กฏหมายต้องเดินหน้าเอาผิดต่อคนไม่ดี  ........  ไม่ใช่ปล่อยให้คนไม่ดีมากล่าวเอาโทษกฏหมาย  "

                                     
                                          
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 16-06-2008, 19:07 »

ไม่ได้บอกว่าสาขาเหล่านี้ไม่สำคัญ แต่คุณปฏิเสธได้หรือไม่ว่า เวลานี้แนวโน้มมันเป็นแบบนี้ เพราะใช้คำว่า "เสรีภาพ" "กลไกตลาด" มาอ้างกันว่า ทุกคนมีสิทธิจะเรียนอะไรก็ได้

แต่ถ้าเด็กหัวกะทิของประเทศแห่ไปเรียนแต่ international business, international marketing, visual communication, communication arts หรือสาขาแนวๆนี้กันหมด กันหมด คุณคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศครับ  Question Question


เวลานี้ ญี่ปุ่นกำลังวิตกมากว่า ตัวเองคนญี่ปุ่นจะสนใจเรียนด้านวิทยาศาสตร์น้อยลง  เขากำลังกลัวว่าอนาคตจะพลาดท่าแก่เกาหลีใต้ได้ หรือแม้แต่อาจจะโดนจีนไล่กวดทันในอีก 20 ปี

มีรัฐบาลก็เหมือนไม่มีรัฐบาล ไม่มีใครกำหนดทิศทางประเทศ  เมื่อปีสองปีก่อนมีคนออกมาบอกว่า ประเทศนี้ขาดแคลนคนที่จะมาทำงานด้านเทคนิค เพราะคนแห่ไปเรียนด้าน visual งี้ marketing งี้ MBA  อีกหน่อยความระดับความเป็นอยู่ของคนในประเทศนี้จะยิ่งตกต่ำลง เพราะทุกคนคิดว่า เรียนง่าย หางานง่าย เงินดี กันอย่างเดียว ไม่มีรัฐบาลมากำกับว่าเวลานี้ประเทศกำลังต้องการอะไร อีก 10 20 30 ปี ประเทศจะมีรูปร่างหน้าตายังไง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-06-2008, 19:21 โดย Thailand = Land of Srithanonchais » บันทึกการเข้า

ลูกหินฮะ๛
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,099


เสียเข็มขัด อย่าเสียกุงเกง


« ตอบ #7 เมื่อ: 16-06-2008, 19:26 »

ไม่จริ๊งง..


ถอยหลังลงทะเลจีนใต้ ตะหากฮะ


(แซวเจ้าของกาทู้เล่น..นะฮะ)
 
บันทึกการเข้า

  ... ... ... 
see - u
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,370


.......... I'm not Supergirl


« ตอบ #8 เมื่อ: 16-06-2008, 19:35 »

ไม่ได้บอกว่าสาขาเหล่านี้ไม่สำคัญ แต่คุณปฏิเสธได้หรือไม่ว่า เวลานี้แนวโน้มมันเป็นแบบนี้ เพราะใช้คำว่า "เสรีภาพ" "กลไกตลาด" มาอ้างกันว่า ทุกคนมีสิทธิจะเรียนอะไรก็ได้

แต่ถ้าเด็กหัวกะทิของประเทศแห่ไปเรียนแต่ international business, international marketing, visual communication, communication arts หรือสาขาแนวๆนี้กันหมด กันหมด คุณคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศครับ  Question Question


*  การเลือกเรียนในแต่ละสาขา .... มันอยู่ที่ความถนัดของแต่ละคน

    การที่เรา  เอาความเหมาะสม  ตามทัศนคติของเราไปยัดใส่หัวคนอื่น  มันถูกต้องหรือเปล่า  ??

    และการที่มีแนวโน้มว่าหลาย ๆ คนแตกแขนงไปเรียนด้านต่าง ๆ เป็นเรื่องที่ดีด้วยซ้ำ

    visual  communication  art   เองยังต้องเกี่ยวข้องกะ  marketing  เลย ..... ทุกอย่างมันเอื้อกันหมด

    คุณจะให้คนมาหมกหมุ่นเรียนแต่วิทยาศาสตร์อย่างเดียวได้อย่างไร  ......

    หรือเราจะผลิตแต่หุ่นยนต์  แล้วไปสำรวจอวกาศ กันอย่างเดียว  พร้อมกะการ วิจัย  มันทั้งปีทั้งชาติ งั้นหรือ ???

    ...............................  คุณนี่  เผด็จการ  จริง ๆ

    ถ้าจะพูดว่า  ..... การศึกษาถอยหลัง   มันเป็นเพราะตัวบุคลากรต่างหากที่ไม่มีคุณภาพ

    หรือจะพูดว่า ..... สภาวะรอบด้านที่เอื้อกัน เช่น  สถาบัน  ตัวอาจารย์  เด็ก  ฯลฯ  ทำให้คุณภาพลดลง  ยังมีเหตุผลกว่านะ
บันทึกการเข้า

    " I  will  unforgive  you  to  do  the  bad  thing  like  this. "   

                           

                        The  fox  changes  his  skin  but  not  his  habits.   *

                 Superman ( It's Not Easy )   >>  http://www.ijigg.com/songs/V2B7G4GPD
    
    
   "  กฏหมายต้องเดินหน้าเอาผิดต่อคนไม่ดี  ........  ไม่ใช่ปล่อยให้คนไม่ดีมากล่าวเอาโทษกฏหมาย  "

                                     
                                          
meriwa
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,100



เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 16-06-2008, 19:58 »

ผมไปค้นหนังสือเก่าๆ ที่บ้านไปเจอหนังสือภาษาไทย ป.5 สมัยก่อนเล่มหนึ่ง เก่ากว่ารุ่น มานี มานะ อีก
พอเปิดดูเนื้อหาในเล่มแล้ว โอโห บอกได้เลยว่า เนื้อหาที่มีอยู่นั้นเทียบได้กับระดับ ป.ตรี สมัยนี้ สบายๆ เลย
บันทึกการเข้า

ผู้ปกครองระดับธรรมดา   ใช้ความสามารถของตน    อย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับกลาง       ใช้กำลังของคนอื่น             อย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับสูง           ใช้ปัญญาของคนอื่น           อย่างเต็มที่

                                                                  ...คำคมขงเบ้ง
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #10 เมื่อ: 16-06-2008, 20:00 »

*  การเลือกเรียนในแต่ละสาขา .... มันอยู่ที่ความถนัดของแต่ละคน

    การที่เรา  เอาความเหมาะสม  ตามทัศนคติของเราไปยัดใส่หัวคนอื่น  มันถูกต้องหรือเปล่า  ??

    และการที่มีแนวโน้มว่าหลาย ๆ คนแตกแขนงไปเรียนด้านต่าง ๆ เป็นเรื่องที่ดีด้วยซ้ำ

    visual  communication  art   เองยังต้องเกี่ยวข้องกะ  marketing  เลย ..... ทุกอย่างมันเอื้อกันหมด

    คุณจะให้คนมาหมกหมุ่นเรียนแต่วิทยาศาสตร์อย่างเดียวได้อย่างไร  ......

    หรือเราจะผลิตแต่หุ่นยนต์  แล้วไปสำรวจอวกาศ กันอย่างเดียว  พร้อมกะการ วิจัย  มันทั้งปีทั้งชาติ งั้นหรือ ???

    ...............................  คุณนี่  เผด็จการ  จริง ๆ

    ถ้าจะพูดว่า  ..... การศึกษาถอยหลัง   มันเป็นเพราะตัวบุคลากรต่างหากที่ไม่มีคุณภาพ

    หรือจะพูดว่า ..... สภาวะรอบด้านที่เอื้อกัน เช่น  สถาบัน  ตัวอาจารย์  เด็ก  ฯลฯ  ทำให้คุณภาพลดลง  ยังมีเหตุผลกว่านะ


เพราะแนวคิดเรื่องการมัวแต่เอามหาวิทยาลัยออกนอกระบบ เพื่อแนวคิดทางด้านทุดนนิยมไงครับที่ผิด

อาจารย์มันก็สอนเหมือนขายความรู้ เด็กเข้าใจรึป่าว ไม่สนใจ

ผมไม่รู้ว่าจะบ้ากับการออกนอกระบบ ไปทำซากอะไร
บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 16-06-2008, 20:05 »

การเลือกเรียนในแต่ละสาขา .... มันอยู่ที่ความถนัดของแต่ละคน

    การที่เรา  เอาความเหมาะสม  ตามทัศนคติของเราไปยัดใส่หัวคนอื่น  มันถูกต้องหรือเปล่า  ??

    และการที่มีแนวโน้มว่าหลาย ๆ คนแตกแขนงไปเรียนด้านต่าง ๆ เป็นเรื่องที่ดีด้วยซ้ำ

    visual  communication  art   เองยังต้องเกี่ยวข้องกะ  marketing  เลย ..... ทุกอย่างมันเอื้อกันหมด

    คุณจะให้คนมาหมกหมุ่นเรียนแต่วิทยาศาสตร์อย่างเดียวได้อย่างไร  ......

    หรือเราจะผลิตแต่หุ่นยนต์  แล้วไปสำรวจอวกาศ กันอย่างเดียว  พร้อมกะการ วิจัย  มันทั้งปีทั้งชาติ งั้นหรือ ???

    ...............................  คุณนี่  เผด็จการ  จริง ๆ


    ถ้าจะพูดว่า  ..... การศึกษาถอยหลัง   มันเป็นเพราะตัวบุคลากรต่างหากที่ไม่มีคุณภาพ

    หรือจะพูดว่า ..... สภาวะรอบด้านที่เอื้อกัน เช่น  สถาบัน  ตัวอาจารย์  เด็ก  ฯลฯ  ทำให้คุณภาพลดลง  ยังมีเหตุผลกว่านะ


คุณกำลังจะยอมรับว่า อยู่ดีๆประเทศญี่ปุ่น เกาหลี หรือ จีน ที่เขาเจริญขึ้นมา มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นมา เป็นเพราะ "เผอิญ" ว่า คนของเขา "ถนัด" ในเรื่องวิทยาศาสตร์  ในขณะที่ "เผอิญ" ว่า คนไทย "ถนัด" แต่เรื่องศิลปะหรือ Question Question  แปลว่า ทุกวันนี้ที่มันบ้าจะไปเป็นดีเจ นักร้อง ดารา ไปร่วมเรียลลิตี้โชว์ ก็แปลว่าพันธุกรรมคนประเทศนี้มีแค่นี้หรือ  Question Question

ของแบบนี้เกิดจากวิสัยทัศน์ของคนในบ้านเมืองเขา เขาต้องการให้ประเทศเขาไปทางไหน สู้เขาได้หรือเปล่า แล้วก็มีการวางแผนกันล่วงหน้าเป็น 1 ชั่วรุ่นคนล่วงหน้าครับ หลังจากนั้นก็มาคิดว่า จะสร้างคนขึ้นมาได้ยังไง จะ "จูงใจ" ให้คนไปเรียนในด้านใดบ้าง บางครั้งก็ต้องใช้ affirmative action (ภาษาไทยไม่มีคำนี้นะ) ก็คือคล้ายๆกับการวางโควต้า หรือออกกฎแกมบังคับเพื่อให้เกิดทิศทางไปในทางที่ต้องการ

ผมสนับสนุนระบอบเผด็จการครับ  เลิกบ้าประชาธิปไตยสุดโต่งกันได้แล้ว!!!
บันทึกการเข้า

AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 16-06-2008, 20:11 »

เพราะแนวคิดเรื่องการมัวแต่เอามหาวิทยาลัยออกนอกระบบ เพื่อแนวคิดทางด้านทุดนนิยมไงครับที่ผิด

อาจารย์มันก็สอนเหมือนขายความรู้ เด็กเข้าใจรึป่าว ไม่สนใจ

ผมไม่รู้ว่าจะบ้ากับการออกนอกระบบ ไปทำซากอะไร

อืม ให้สังเกตว่า ทำไมสถาบันเอกชนส่วนใหญ่มักจะสร้างและโฆษณาแต่สาขาแนวๆ นิเทศ ธุรกิจ การตลาด โฆษณา เพราะอะไร

ระวังสถาบันที่ออกนอกระบบก็อาจจะเป็นแบบนั้นแหละ หาเงินหาทอง  ความจริงในต่างประเทศออกนอกระบบแล้วมันดี แต่เผอิญประเทศนี้มันศรีธนญชัยกัน  ขนาด "รั้วจามจุรี สีชมพู" ยังขยันเอาที่มาสร้างแต่ shopping mall เลย  นี่คงเป็น "ความถนัด" ของเขากระมัง
Question
บันทึกการเข้า

aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #13 เมื่อ: 16-06-2008, 22:15 »

เมืองไทยไม่เหมือนใครเค้าอื่นค่ะ

มหาวิทยาลัยระดับท็อปของเมกา และที่มีชื่อเสียง ส่วนใหญ่เป็นของ "เอกชน" ทั้งนั้น หลายแห่งเติบโตมาจากโรงเรียนสอนศาสนา(คริสต์) วันอาทิตย์ [Sunday School] ด้วยซ้ำไป

ในขณะของบ้านเราเอง หลายแห่งก็กำลังไปได้ดี แต่เมื่อไม่นานนี้ ได้อ่านสัมภาษณ์อาจารย์ท่านหนึ่งที่เป็นหัวเรือใหญ่ของสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ตัดพ้อรัฐบาลว่า นอกจากจะไม่ได้ให้การสนับสนุนแล้ว ยังจะซ้ำเติมให้สถาบันหลายแห่งกำลังจะปิดตัวเองลง ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ รัฐเองที่เป็นฝ่ายขอความร่วมมือจากภาคเอกชนในการช่วยจัดการศึกษา  ส่วนมหาลัยของรัฐเองยังมีปัญหาไม่รู้จบว่าจะอยู่ในระบบหรือนอกระบบ 



บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
phutorn connection
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 263



« ตอบ #14 เมื่อ: 17-06-2008, 10:36 »

จริงๆแล้วเรื่องเรียนก็ควรเป็นไปตามถนัดมากกว่า ไม่ว่าด้านไหนก็พัฒนาได้เหมือนกัน แต่ทุกสิ่งทุกอย่างต้องรวมเป็นหนึ่งเดียวให้ได้ แล้วผลักดันไปพร้อมๆกัน

การสนับสนุนจากภาครัฐก็สำคัญเหมือนกันว่าจะไปในทิศทางไหน นักเรียนหัวกะทิหลายๆคนที่เคยได้รางวัลก็มีความใฝ่ฝันจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ตั้งเยอะ แต่พอมาเป็นนักวิจัย กลับกลายเป็นต๊อกต๋อย ไม่มีเงินสนับสนุนทั้งอุปกรณ์และค่าใช้จ่าย ขาดแรงจูงใจ

ขนาดแพทย์ที่เมืองไทยขึ้นชื่อนักหนา ก็ต้องเสียสมองไหลออกไปให้เอกชนบ่อยๆ เพราะอะไร งานหนัก รับผิดชอบเยอะ เงินน้อย แถมยังมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกฟ้องอีก ( high risk no return) มันน่าเศร้าแทนคุณหมอนะคะ

ตำรวจที่เป็นที่พึ่งของประชาชนที่ดี มีกี่คนที่ได้รับการปูนบำเหน็จเป็นข้าราชการขั้นสูง มีแต่พวกที่เป็นที่พึ่งของนักการเมืองทั้งนั้นที่เป็นใหญ่เป็นโต ทั้งๆที่ประชาชนต่างก็รู้ว่าคนเหล่านี้ส่วนใหญ่ทำอะไร ลูกหลานของตำรวจที่ได้พลีชีพเพื่อชาติหลายคนอยากดำเนินอาชีพเหมือนพ่ออย่างภาคภูมิใจ(ยกเว้นลูกดาบยิ้ม) แล้วสุดท้ายเป็นอย่างไร หลังเป็นข่าวแล้วก็จบอย่างที่เป็นนี้หรือ

ขืนเป็นอย่างนี้ต่อไปอาชีพอย่างทนายก็ไม่จำเป็นต้องมี เป็น แทะ-นาย ดีกว่า มีตังค์ มีเกี่ยรติด้วย
บันทึกการเข้า

หลังจาก วาทะ"บกพร่องโดยสุจริต"ของอาชญากรหนีคดี ประชาชนได้ให้โอกาส แต่ไม่เคยได้ให้อภัยคนคนนี้

หลายคนบอกว่าสิ่งที่ทักษิณทำก็เหมือนนักธุรกิจคนอื่นๆนั่นแหละ ไม่ว่าหนีภาษี ซุกหุ้น ซื้อนักการเมืองเป็นพวก แต่สิ่งที่คนเหล่านั้นลืมมองคือ ทักษิณมีอำนาจ นอกเหนือจากเงินทองในขณะที่นักธุรกิจคนอื่นไม่มี อำนาจที่สามารถชี้เป็นชี้ตายข้าราชการ อำนาจในการใช้กฏหมาย อำนาจในการตรากฏหมาย แต่สิ่งที่ทักษิณมีเหมือนนักธุรกิจคนอื่น คือ ความโลภ เมื่อความโลภรวมกับอำนาจ และสิ่งที่ทำร้ายทักษิณในปัจจุบันคือ ความโลภนี่เอง
see - u
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,370


.......... I'm not Supergirl


« ตอบ #15 เมื่อ: 17-06-2008, 10:56 »

คุณกำลังจะยอมรับว่า อยู่ดีๆประเทศญี่ปุ่น เกาหลี หรือ จีน ที่เขาเจริญขึ้นมา มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นมา เป็นเพราะ "เผอิญ" ว่า คนของเขา "ถนัด" ในเรื่องวิทยาศาสตร์  ในขณะที่ "เผอิญ" ว่า คนไทย "ถนัด" แต่เรื่องศิลปะหรือ Question Question  แปลว่า ทุกวันนี้ที่มันบ้าจะไปเป็นดีเจ นักร้อง ดารา ไปร่วมเรียลลิตี้โชว์ ก็แปลว่าพันธุกรรมคนประเทศนี้มีแค่นี้หรือ  Question Question
 


*  พูดคนละเรื่องเดียวกันแล้วมั้งเนี่ยยย  ( ในเรื่องความถนัด ) 

    เอาเหอะ .... ถ้าคุณจะคอนโทรลคนให้เป็นเหมือนแท่งสี่เหลี่ยม  กดปุ่มบังคับ  ซ้ายหัน ~ ขวาหัน

    ยัดโปรแกรมลงไปในสมองว่า  > ต้องทำแบบนั้น  ต้องคิดแบบนี้  ต้องชอบสิ่งนี้  <  มันถึงจะถูกต้อง... นั่นมันก็เรื่องของคุณ

    บังเอิญ  เราเป็นคนละคนกัน ..... ไม่จำเป็นต้องมองไปในทิศเดียวกันตลอด 

    จริง ๆ แล้วเรื่องของการพัฒนาและสนับสนุนในเรื่องวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องที่ดี ( ถ้าภาครัฐให้ความสนใจและสนับสนุน มากกว่านี้ )

    แต่นั่นต้องไม่ใช่การ " ยัดเยียด "  ให้เด็กต้องชอบ ... ค่ะ

    อีกอย่าง .... ทุกสาขาวิชาชีพย่อมมีการเกื้อหนุนกัน  ไม่งั้นเราคงไม่มีอาชีพ หมอ  นักข่าว  นักดนตรี  ช่างตัดผม  ครู ฯลฯ

    การคิดแต่จะวิ่งแข่งกับความเจริญ ........... มันทำให้จิตใจคนแห้งแล้งนะคะ

    ปล. ขอละลาบละล้วงหน่อย .... เพราะคำพูดคุณใน ทู้ นี้ทำให้อยากรู้ว่า   คุณจบด้านไหนมาเหรอค่ะ  ????

          จะตอบก็ได้ไม่ตอบก็ได้ .........  ไม่ว่ากัน  !!!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-06-2008, 11:04 โดย see - u » บันทึกการเข้า

    " I  will  unforgive  you  to  do  the  bad  thing  like  this. "   

                           

                        The  fox  changes  his  skin  but  not  his  habits.   *

                 Superman ( It's Not Easy )   >>  http://www.ijigg.com/songs/V2B7G4GPD
    
    
   "  กฏหมายต้องเดินหน้าเอาผิดต่อคนไม่ดี  ........  ไม่ใช่ปล่อยให้คนไม่ดีมากล่าวเอาโทษกฏหมาย  "

                                     
                                          
เพื่อนร่วมชาติ
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 777


« ตอบ #16 เมื่อ: 17-06-2008, 11:13 »

ถอยลงคลองยังน้อยไปครับสำหรับสภาพตอนนี้...

มันลงไปอยู่ในปลักขี้ควายเรียบร้อยแล้ว กับระบบการศึกษาที่มุ่งผลิตขี้ข้าป้อนระบบอุตสาหกรรม&นายทุน สร้างเด็กให้เป็นนักทำข้อสอบ ไม่ใช่ผู้เรียนรู้ ไม่ใช่นักคิด บุคลากรครูในระบบก็จมปลัก ผมเคยดูสารคดีครูฝึกลิงที่สุราษฎร์ ฟังคำพูดเขาแล้วยังอดรู้สึกไม่ได้ว่า ครูฝึกลิงยังรู้จักคิดมากกว่าครูมัธยมแถวบ้านผมอีก

นอกจากไม่รู้จักคิดแล้ว ยังสร้างเด็กที่ไม่มีจริยธรรมด้วย เอาง่าย ๆ ไปดูตามโรงเรียนใกล้บ้านคุณว่ามีขยะเกลื่อนกลาดตามถนนหนทางมากแค่ไหน แค่จิตสำนึกสาธารณะง่าย ๆ ยังล้มเหลว แล้วจะไปหวังอะไรกับเรื่องที่สูงกว่านั้น

ผมไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้ตำราเรียนยังให้เด็กอ่านเรื่องศรีธนญชัย พระอภัยมณี กับขุนแผนอยู่รึเปล่า ผมขอประณามคนที่ใส่สามเรื่องนี้ไว้ในตำราเรียน ว่าเป็นพวกไร้สติที่วางยาพิษให้กับเด็กและสังคม ใครจะบอกว่าสามเรื่องนี้เป็นวรรณกรรมสำคัญของไทยก็เชิญว่าไปตามสบาย แต่ผมขอยืนยันว่า มันไม่ใช่วรรณกรรมสำหรับเด็ก ในสามเรื่องนี้มีค่านิยมที่ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะปลูกฝังให้เด็ก ๆ ถ้าใครยังมองไม่เห็นก็ลองคิดกลับไปทบทวนดูละกันครับว่ามันมีอะไรแฝงอยู่ในนั้นบ้าง

ผมจะยกตัวอย่างว่า เรื่องที่ประเทศหนึ่งเขาให้เด็กอ่านคือ เรื่องเด็กชายชาวฮอลแลนด์ที่เห็นน้ำรั่วที่เขื่อน ก็เลยไปยืนเอามืออุดรอยรั่วเป็นชั่วโมง ๆ ช่วยให้คนในเมืองไม่โดนน้ำท่วม ลองประมวลดูละกันครับว่ามันต่างจากยาพิษสามเรื่องที่ให้เด็กไทยอ่านมาเป็นสิบ ๆ ปียังไง
บันทึกการเข้า
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: 17-06-2008, 11:26 »

สภาพตอนนี้เท่าที่พอรู้มาบ้างคือ

คนไทยมือเปื้อนไม่เป็น หมายความว่า เด็กมักจะมีค่านิยมว่าต้องจบ ป.ตรี แล้วจะสร้างเงินสร้างรายได้ ซึ่งมันทำให้องค์กรณ์ หรือบริษัทหลายๆแห่งตอนนี้ขาดแรงงานฝีมือ พวกประเภทจบ ปวช. ปวส.

จริงๆแล้วรัฐบาลน่าจะส่งเสริมตรงนี้ให้มากกว่าที่จะมาสร้างค่านิยมเรื่อง ป.ตรี

จริงๆแล้ว มันก็ไม่ใช่ค่านิยมซะทีเดียวหรอก หากว่าบริษัทเอกชนบางพวกได้พยายามบอกว่าต้องจบป.ตรีเท่านั้นถึงจะรับ
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
simona
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 63



« ตอบ #18 เมื่อ: 17-06-2008, 11:37 »

ก็ไม่ได้ส่งเสริมหางานให้หลังเรียนจบนี่นะครับ

เราควรเรียนอย่างนั้น เพราะอย่างนั้นกำลังขาดแคลน เราควรเรียนอย่างนี้ เพราะประเทศที่เจริญแล้วเขาเรียน

ฯลฯ

ที่ผ่านมาเตรียมงานให้เขาแค่ไหน

ผมเสียดายระดับมันสมองประเทศ ต้องมาหลงเชื่อโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลยุคก่อนๆ

มีลูกมีหลานบอกว่าเข็ดแล้ว ให้พวกมือสมัครเล่นมากำหนดชีวิตคน ให้เขาเลือกเรียนในสิ่งที่ทำความเจริญให้กับชีวิตดีกว่าครับ

บันทึกการเข้า
1ktip
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,457



« ตอบ #19 เมื่อ: 17-06-2008, 11:57 »

ในเสียมีดี ในดีมีเสียครับ วรรณกรรมไทยเหล่านั้นมันก็มีทั้งส่วนที่ดีและไม่ดี ขึ้นอยู่กับผู้สอนว่าจะนำทาง ให้ความรู้แบบไหนกับเด็ก

พบเห็นตัวอย่างที่ไม่ดี ครูสอนเค้าได้นี่ครับ แต่ก็อาจจะมิได้นำพา สอนสั่งมากไปกว่าเนื้อหาตามหลักสูตร

ถ้าไม่สามารถชี้แนะเด็กได้ การนำมาเป็นแบบเรียน ก็คงจะไม่ดีจริงๆ แหละครับ


ปัญหาตอนนี้คือ ครูส่วนใหญ่กลายเป็นแค่พนักงาน หรือลูกจ้างองค์กร ทำงานดิ้นรนเพื่อความก้าวหน้าในวิชาชีพมากเกินไป

จิตวิญญาณของครูผู้เป็นเรือจ้าง ต้องการประสิทประสาทวิชาความรู้มันเลือนหายไปพร้อมๆ กับสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป

ความสัมพันธ์ศิษย์-ครู ที่เปรียบเสมือนลูกหลาน-ผู้ปกครอง มันจืดจางลงจริงๆ สมัยเด็กๆ ผมเรียน รร.ประจำ

เวลาไม่สบาย ครูท่านก็พาผมไปดูแลเฝ้าไข้ในห้องนอนท่าน สมัยนี้คงหาครูแบบนี้ไม่เจอแล้ว


ตัวเด็กเอง จำนวนไม่น้อยที่ขาดภูมิคุ้มกันทางสังคม ขาดการดูแลเอาใจใส่จากผู้ปกครองอย่างเต็มที่

สิ่งยั่วยุ สื่อมีพิษ ก็เข้ามากัดกร่อนตัวตนของเด็กให้บิดเบี้ยว โตขึ้นมาอย่างทุลักทุเลเหลือเกิน


แนวนโยบายของรัฐก็เลอะเทอะ ขาดยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน การติดตามตรวจสอบ ประเมินผลนโยบายแทบไม่มี

เปลี่ยนหัวทีก็เปลี่ยนแผนที สักแต่ตั้งโครงการ ตั้งงบประมาณ ผลาญภาษีไปเรื่อย ส่วนใหญ่เสียเวลา

ไปสาละวนกับความพยายามปรับโครงสร้างองค์กร มากกว่าที่จะมุ่งพัฒนาหลักสูตร และแผนศึกษาในระยะยาว

การแนะแนว วัดและส่งเสริมทักษะ สร้างแรงจูงใจในการประกอบอาชีพ ต้องพัฒนาต่อเนื่องตั้งแต่วัยเด็กครับ ไม่ใช่ไปเริ่มกันช่วงเตรียมเอ็นท์
บันทึกการเข้า
บักหัวเถิก
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 438



« ตอบ #20 เมื่อ: 17-06-2008, 12:03 »

ก็ตั้งนานแล้วละประเทศไทยไม่ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลวกรทางการศึกษา หันไปสนใจหมอ ตำรวจ ให้ความสำคัญให้เงินเดือนเยอะ ว่างั้นนะ ทำให้คนเป็นครูที่ไม่ได้การสนใจเท่าที่ควร ไม่มีแรงจุงใจที่จะทำงาน ผมเห็นประเทศอย่างญี่ปุนนี่เข่าให้ความสำคัญกับครูหรือบุคลากรทางการศึกษามากครับ 
บันทึกการเข้า

qazwsx
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


นักธุรกิจและตำรวจ ต้องออกไปจากการเมือง


« ตอบ #21 เมื่อ: 17-06-2008, 12:08 »

ศรีธนญชัย น่าจะยังคงเป็น "เรื่องอ่านเล่น"
ไม่เป็นแม้แต่หนังสือนอกเ้วลา
ผมยังรู้สึกดีอยู่เมื่อได้ยินลูกชายผมวิจารณ์ศรีธนญชัยกว่า
"มันเป็นคนเจ้าเล่ห์  ใจร้าย  ไร้คุณธรรม"
เพราะผมให้อ่าน Comics เรื่องนัสรูดิน  ให้ดู Animation เรื่องอิ๊กคิว  ให้อ่านนิทานของเลี่ยจื่อ ควบคู่ไปด้วย
ทำให้แก "ตระหนักดีว่าอันใดคือดี - ชั่ว"

ส่วนเรื่องขุนช้างขุนแผน  อันที่จริงแล้วมัเเป็นเพีียงการฝึกขับเสภา
ไม่ควรจะเอา "เนื้อหาสาระ" มาเป็นประเด็นหลัก
เช่นเดียวกับพระอภัยมณี  ก็เป็น "เรื่องอ่านเล่น" ที่ฝึกให้ผู้อื่นสามารถแต่งบทกลอนได้ดี
...เหมือนให้เด็กดูรูปโป๊ ( ที่ไม่โฉ่งฉล่าง อล่างตา ลามก ) ก็อาจจะกลายเป็นผลดีได้
เช่น หลาย ๆ คนเติบโตขึ้นมาเป็นนักเขียนรูป - นักปั้น 
หรือแม้แต่วิศวะ ( วิชาเออกอร์นอมี )  แพทย์ ( อนาโตมี ) ก็ได้พื้นฐานไปจาก "รักที่จะดูเรือนร่างมนุษย์"
ถ้าเด็กชายชอบดูรูปผู้หญิงโป๊ ย่อมดีกว่าชอบดูรูปการฆ่ากัน - ตัดหัว - ตัดมือตัดตีน


กลับมาเรื่องการศึกษา
พูดกันอย่าตรงไปตรงมาเลยก็คือ 
ผมไม่ศรัทธาการศึกษาที่หลุดออกมาจากสมองพวกข้าราชการอัตตาสูงในกระทรวงศึกษา
ไม่ศรัทธาครูที่บางทีก็สอนลูกผมอย่างผิด ๆ ถูก ๆ จนผมต้องตามแก้ไขให้อย่างยากลำบาก
ไม่ศรัทธาระบบการฝึกวินัยในลักษณะเหมือนเล่นเกมส์ "มรึงรู้มั้ยว่าในห้องเรียนนี้ใครเป็นใหญ่"
ไม่ไว้ใจ "ค่านิยม" ที่มุ่งพัฒนา "อัตตา + จริืต" มากกว่า "สติ + ปัญญา"
...ฯลฯ

สาเหตุที่ยังให้ลูกเรียนในระับบก็เพียงเพราะผมออกใบรับรอง - วุฒิการศึกษาให้แกไม่ได้
อีกทั้งสมัยนี้ก็ไม่ยินยอมให้มีการสอบเทียบ "โดยไม่มีหลักฐานการลงทะเบียนเรียน ( ตามระเบียบกระทรวง ฯ )" เหมือนเมื่อก่อน
บันทึกการเข้า

see - u
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,370


.......... I'm not Supergirl


« ตอบ #22 เมื่อ: 17-06-2008, 12:12 »


- เรียนพิเศษกลายเป็นสิ่งจำเป็น (ต้องเรียนตั้งแต่อนุบาล)


*  ดิฉัน .... ว่าการแข่งขันมันสูงเกินจำเป็นนะ

    ดิฉัน .... เรียนพิเศษครั้งแรกก็ตอน ป. 5  แล้ว

    แต่เด็กเดี๋ยวนี้ต้องเรียนตั้งกะอนุบาล .... ดูแล้วสงสารเด็ก  แทนที่จะโตตามวัย

    เด็กบางคนไม่มีวันหยุดเลย .....  เรียน ๆๆๆ  มันอย่างเดียวทั้ง  7  วัน  ( รวมพวกเรียนเสริมเกินเหตุด้วย )

    สิ่งหนึ่งที่ผู้ปกครอง และ ครู ........ ควรให้เด็ก คือ สอนให้เขาคิดเป็น  มากกว่าเรียนได้ ที่ 1  อย่างเดียว
บันทึกการเข้า

    " I  will  unforgive  you  to  do  the  bad  thing  like  this. "   

                           

                        The  fox  changes  his  skin  but  not  his  habits.   *

                 Superman ( It's Not Easy )   >>  http://www.ijigg.com/songs/V2B7G4GPD
    
    
   "  กฏหมายต้องเดินหน้าเอาผิดต่อคนไม่ดี  ........  ไม่ใช่ปล่อยให้คนไม่ดีมากล่าวเอาโทษกฏหมาย  "

                                     
                                          
weshare
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 84



« ตอบ #23 เมื่อ: 17-06-2008, 13:30 »

ระบบนะมันน่าจะดีอยู่หรอก  และก็ที่ผู้บริหาร รร.จะตั้งมั่นที่จะบริหารรึป่าว หรือมีจิตใจและหวังดีต่อเด็กๆจริงๆ  โดยไม่มีอย่างอื่นแอบแฝง   มัวแต่นั่งคิดว่าปีนี้จะได้เงินบริจากเท่าไหร่ เพียงแค่จะเริ่มเดินก้าวแรกเข้ารั้ว รร.ก็เจอปัญหาด่านแรกซะแล้ว

บาง รร. ใช้สถานการศึกษาเป็นที่ทำมาหากินกันโจ๋งครึ่ม มันน่าอนาจใจมากกับการที่จะเสียแป๊ะเจี๊ยะให้กับ รร.รัฐบาล เป็นแสนๆ   (อันนี้ประสบกับตัวเองเมื่อเปิดเทิมที่ผ่านมามาดๆ)
บันทึกการเข้า
เพื่อนร่วมชาติ
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 777


« ตอบ #24 เมื่อ: 17-06-2008, 14:11 »

เหตุผลบางส่วนที่เด็กต้องเรียนพิเศษก็เพราะครูมันสอนกั๊ก ๆ ไว้ในชั้นเรียนครับ

หรือบางโรงเรียนก็มัดมือชกกันเลย

ใช้วิธีสอนเนื้อหาล่วงหน้าช่วงเรียนซัมเมอร์ พอเปิดเทอมมาก็ไปอย่างเร็ว คนที่ไม่ได้เรียนซัมเมอร์ก็ตามเพื่อนไม่ทัน (โทษฐานที่ไม่ยอมจ่ายค่าเรียนซัมเมอร์ให้โรงเรียน) ครูพวกนี้เลวมากครับ

บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: