Can ไทเมือง
|
|
« เมื่อ: 11-06-2008, 23:10 » |
|
กูรูรุมค้าน 'คูปองคนจน' - 'เลี๊ยบ' ไม่ถอยไอเดียเติมเงิน 400 บาท/ด. ผ่านบัตรปชช. มติชน วันที่ 11 มิถุนายน 2551 เวลา 21:18:36 น.
'เลี้ยบ' เตรียมจ่ายเงินคนจนผ่านบัตร 'สมาร์ทการ์ด' เติมเงิน 400/ด.-แจกชั่วคราวแค่1ปี ใครไม่มีแจกเงินสดแทน นักวิชาการติงได้ไม่คุ้มเสีย มาตรการพิสูจน์ความจนไม่เห็นภาพ ชี้อาจมีการรั่วไหลกันได้
'เลี้ยบ' แจกเงินคนจนผ่านบัตรปชช.
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการแจกคูปองคนจนว่า อยู่ระหว่างการให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ ศึกษาแนวทางการแจกคูปองแก่คนจน โดยต้องพิจารณาว่าเส้นความยากจนอยู่ตรงจุดไหน ซึ่งต้องพิจารณาค่าครองชีพที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ด้วย เพื่อให้รู้จำนวนคนจนและปริมาณเงินอุดหนุนที่แตกต่างกันและที่รัฐจะต้องจ่ายในแต่ละเดือน
เติมเงิน 400/ด.-แจกชั่วคราวแค่1ปี
''รูปแบบจะใช้วิธีทยอยเติมเงินผ่านบัตรประชาชนแบบอิเล็กทรอนิกส์ (สมาร์ทการ์ด) ให้ทุกเดือน ซึ่งอาจเป็นเดือนละ 300-400 บาท เพื่อให้ประชาชนในเมืองใช้ซื้ออาหารและค่าเดินทาง แต่ถ้าผู้ไม่มีบัตรสมาร์ทการ์ด และเป็นคนจนในพื้นที่ห่างไกลอาจให้เงินสด'' น.พ.สุรพงษ์กล่าว และยอมรับว่า อาจรั่วไหลได้ แต่การเติมเงินให้ทุกเดือนผ่านบัตรประชาชนจะมีระบบตรวจสอบย้อนหลังอยู่แล้ว โดยเฉพาะใครรับรองก็รับรู้กันทั่ว และคาดว่าทำเพียง 6 เดือน-1 ปีเท่านั้นเพื่อให้ประชาชนปรับตัวรับมือกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นได้
นพ.สุรพงษ์ยังกล่าวว่า ที่ผ่านมากระทรวงการคลังเตรียมมาตรการรับมือกรณีราคาน้ำมันไปที่ 150 เหรียญต่อบาร์เรลในช่วงสิ้นปีนี้ แต่ปัญหาขณะนี้มาเร็วกว่าที่คาดไว้ หลายเรื่องที่เตรียมไว้จึงต้องร่นระยะเวลาเร็วขึ้น ทั้งเรื่องเอ็นจีวี น้ำมันอี 85 หรือกระบวนการสร้างรายได้
นายวุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าว่า คาดว่าจะทราบตัวเลขของผู้มีรายได้น้อยที่จะได้รับสิทธิในการรับคูปอง และจำนวนที่จะต้องจ่ายให้รายเดือนภายใน 2 วันนี้ เบื้องต้นยืนยันว่า มีวงเงินงบประมาณเพียงพอที่จะดำเนินโครงการดังกล่าว
นักวิชาการเตือนผลเสียแจกเงิน
ผศ.ดร.จิตติ มงคลชัยอรัญญา คณบดีคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้สัมภาษณ์กรณี ''คูปองคนจน'' ว่า การที่รัฐช่วยเหลือคนจนที่เดือดร้อนเป็นเรื่องดี แต่มีเงื่อนไขว่าต้องมีเครื่องมือตรวจสอบความยากจนที่มีประสิทธิภาพ ในต่างประเทศมีแบบประเมินโดยเฉพาะ และให้เป็นเงิน แต่ประเทศไทยใช้การจดทะเบียนคนจน ซึ่งเสี่ยง เพราะมีทั้งคนที่ยากจนจริงๆ และคนที่อยากจน รัฐบาลต้องหามาตรการทดสอบให้ได้ก่อน นอกจากนี้ยิ่งแจกคูปองฟรีมากๆ ยิ่งเป็นการทำลายการสังคมสงเคราะห์ บั่นทอนศักดิ์ศรีมนุษย์ และสำนึกเรื่องการพึ่งตนเอง และความจริงแล้วมีหลายวิธีในการช่วยคนจน เช่นกลุ่มแรงงานอาจให้ลดการจ่ายเงินประกันสังคมแทนการให้คูปอง ส่วนแรงงานนอกระบบ อาจะเป็นการแจกคูปองอาหารนักเรียนยากจน แจกตั๋วรถโดยสาร เป็นต้น ส่วนสินค้าธงฟ้า มีข้อต้องระวัง คือคนจนมักไม่ได้ซื้อ แต่เป็นคนชั้นกลางที่ไปซื้อสินค้าตุน
นายสมพร เทพสิทธา สมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กลุ่มในภาคสังคม การศึกษา ศิลปวัฒนธรรมและศาสนา กล่าวว่า หลักการดีแต่ในทางปฏิบัติยาก และกลัวว่ากลไกของรัฐจะไม่มีประสิทธิภาพ อาจมีการรั่วไหลกันได้ ปกติการออกคูปองนั้น สภาพสังคมต้องแย่จริงๆ ประเทศชาติฉุกเฉินยามสงครามก็ต้องออกคูปอง แต่คูปองเป็นเรื่องของสวัสดิการที่ต้องระวัง เพราะจะก่อให้เกิดผลเสียหายมาก สมัยรับราชการที่กระทรวงพาณิชย์มานานหลายปีไม่เคยปรากฏการใช้คูปองเกิดขึ้น มีแต่สมัยสงครามโลก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
dragon baby
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 11-06-2008, 23:32 » |
|
เคยเห็นแต่ ประเทศที่ถึงขั้นต้องแจกคูปอง หรือปันส่วนอาหาร ส่วนใหญ่มันต้องภาวะฉุกเฉิน สงคราม ภัยพิบัติ อดอยาก...
.... ซื้อเสียงคนจน เป็นคำตอบสุดท้าย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ดอกฟ้ากับหมาวัด
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 11-06-2008, 23:35 » |
|
รัฐบวมนี้เกาไม่ถูกที่คันสักที...นโยบายประชานิยม
มอมเมาให้ประชาชนเป็นขอทาน เพื่อยังชีพไปวันๆแบบไม่เห็นอนาคต
เอาอวัยวะส่วนไหนคิด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ
น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
|
|
|
มารุจัง
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 12-06-2008, 00:04 » |
|
ดูนโยบายนี้แล้ว มีความรู้สึกเหมือน เป็นคอมมิวนิสต์ ยังไงไม่รู้ค่ะ ทุกอย่างผ่านส่วนกลาง แล้วทยอยกลับออกไป รัฐบวมนี้เกาไม่ถูกที่คันสักที...นโยบายประชานิยม
มอมเมาให้ประชาชนเป็นขอทาน เพื่อยังชีพไปวันๆแบบไม่เห็นอนาคต
เอาอวัยวะส่วนไหนคิด
ก็ใช้หัวคิดแหละค่ะ แต่ในหัว ไม่มีสมอง ก็เท่านั้นเอง ^^
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ประชาธิปไตย มิได้จบอยู่แค่การเลือกตั้งปล.รูปจากเวบ ผจก.
|
|
|
richard
น้องใหม่
ออฟไลน์
กระทู้: 7
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 12-06-2008, 00:17 » |
|
สอนให้ประชาชน งอมือ งอเท้า ไม่ต้องทำกิน นอนรอคูปองอย่างเดียว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ABCAB
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 12-06-2008, 00:18 » |
|
จะหาว่า double standard ไม่ได้แล้ว
เพราะจะกลุ่มไหน มันก็ใช้วิธี "เติมเงิน" เหมือนกันหมด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
........................... .......................... * * W A N T E D - DEAD OR ALIVE * *
73,000 million Baht PRICED !! A "walk-like-a-man" gator Accused in swallowing his own mother land in cheap !!
|
|
|
ปรมาจารย์เจได
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 12-06-2008, 00:20 » |
|
เงินแค่นั้นเอามาซื้อ LM ดูดได้แค่ 5 ซอง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
qazwsx
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 12-06-2008, 00:21 » |
|
อ่่านวรรคสุดท้ายใน Signature ของผมสิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jerasak
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 12-06-2008, 00:30 » |
|
จากนโยบาย "เพิ่มรายได้ 4 เท่า" เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ตอนนี้กลายเป็นนโยบาย "แจกเงิน 4 ร้อย" เสียแล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
= A dreamer lives for eternity.= == นักฝันมีชีวิตเพื่อนิรันดร์กาล ==
|
|
|
May The Force Be With You
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 12-06-2008, 00:44 » |
|
ซื้อเสียงประชาชนด้วยเงินประชาชน อ้างเป็นผลงานรัฐบาล ประชาชนซื่อบื้อสำนึกในพระคุณเลือกมันกลับมาโกงกินชาติต่อ วนอยู่อย่างนี้ไม่รู้จบ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"เจไดที่ฉลาดมากๆ คนหนึ่งเคยบอกข้าไว้ว่าเราไม่จำเป็นต้องชนะ แต่เราต้องสู้"
|
|
|
|
northstar
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 12-06-2008, 06:47 » |
|
ผมยังจำภาพยนตร์เรื่อง ผู้แทนนอกสภา เล่นโดย สรพงษ์ ได้คร๊าบบบบบ ถ้าจำไม่ผิด ดี๋ ดอกสะเดาไปหาเสียง แล้วให้รองเท้าไปข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างเอาไว้ให้หลังจากได้เป็นผู้แทน...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายเกตุ
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 12-06-2008, 07:45 » |
|
แก้ปํญาหาประเทศชาติด้วยการแจกเงิน เป็นวิธีคิด ที่คนอื่นคิดไม่ได้จริงๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Cherub Rock
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 12-06-2008, 09:02 » |
|
แจกเงินคนจน แต่ดันยกเลิกรถร้อน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
|
|
|
BeastGuy
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 12-06-2008, 09:45 » |
|
ผมว่ามันก็คล้าย ๆ กันกับนโยบายเพิ่มเงินค่าครองชีพของพนักงานรัฐวิสาหกิจกับราชการ แต่อันนี้จะเอาไปให้คนจน
คำถามคือ อะไรที่เรียกว่าคนจน คนจนได้เงินจริงหรือไม่ คนจนที่ได้เงินไปจะเอาไปซื้อของที่ไม่จำเป็นหรือเปล่า เช่น โทรศัพท์มือถือ ทำยังไงถึงให้คนจนใช้เงินที่ได้รับอย่างมีประสิทธิภาพ ขนาดโครงการกองทุนหมู่บ้านยังไม่รอดเลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
พรรณชมพู
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 12-06-2008, 09:54 » |
|
ภายใต้ระบอบทักษิณ ไทยเราก็มาถึงขั้นต้องแจกคูปองคนจนแล้ว ทำนายได้ว่าหากระบอบนี้จะยังคงอยู่ต่อไป ในอนาคตเราจะมี โรงทาน ทั่วประเทศ สำหรับรากหญ้าคลานมากินข้าวหมู กันอดตาย เลือกพลังประชาชน เพิ่มเงินในกระเป๋าพลังประชาชน จริงๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
RiDKuN
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 12-06-2008, 11:43 » |
|
ให้เงินเฉยๆ เดี๋ยวมันก็ลืมครับว่าได้เงินมาจากใคร สู้แจกบัตรไม่ได้ เห็นบัตรตลอดเวลา พวกทาสจะได้สำนึกบุญคุณว่าได้ 400/เดือนเพราะใคร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
|
|
|
Can ไทเมือง
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 12-06-2008, 12:34 » |
|
วันพฤหัสบดี ที่ 12 มิถุนายน 2551 จากเพิ่มรายได้ 4 เท่าของเจ๊มิ่ง ไหงกลายเป็นแจกคูปอง 400 ละท่าน Posted by Canไทเมือง , ผู้อ่าน : 44 , 03:11:35 น.
เลือกสมัคร ได้ทักษิณ เลือกพรรคถูก เงินในกระเป๋าเพิ่ม รายได้จะเพิ่ม 4 เท่า
**************************
ความเดือดร้อนกำลังจะมาปลายปีนี้ น้ำมันอาจพุ่งไป 2 ลิตรต่อ 100 บาท
หากไปถึงขั้นนั้น กูรูท่านบอกว่า เงินเฟ้อจะพุ่งไปถึง 9 % คนที่จะโดนหนักคือพวก SME ต้องรับไปเต็ม ๆ
ประชาชนที่รายได้ไม่เพิ่มก้หนักหนา
คนมีเงินฝากธนาคารก็คงทำหน้าปูเลี่ยนๆ อยู่ดีๆ เงินหด
ความฝันของ"เจ๊มิ่ง" ที่คุยนักคุยหนาว่าจะแก้เศรษฐกิจไทย เพิ่มรายได้เป็น 4 เท่าเมื่อปลายปีที่แล้ว...ท่าทางจะกินแห้งแล้วมั๊งเจ๊
แต่ถึงวันนี้ เจ๊แกคงรู้แล้ว พูดกับทำ มันไม่เหมือนกัน
พุดง่ายแต่ทำยาก แถมมีตัวแปรอีกมากมายมหาศาล
***********************************
ถึงนาทีนี้ใครไม่เป็นเจ๊มิ่ง ไม่รู้หรอกว่า อกหักซ้ำสองอีกแล้วครับท่าน
อุตส่าห์ไปทำงานเมืองนอกทำตลาดให้สินค้าไทย กลับมายังไม่ถึงเมืองไทย
ป๋าหมักก็หักดิบ ยกเลิกข้าวถุงธงฟ้า ผลงานสุดยอดอลังการ์งานสร้างของเจ๊เค้า
เพราะแทนที่ชาวนาจะขายข้าวได้ราคากลับทำให้พ่อค้ากดราคารับซื้อซะดื้อๆ แถมชาวนาขู่ว่าจะบุกกรุง ป๋าหมักเลยต้องจำใจหักดิบ
สั่งประกันราคาข้าวเปลือกมีผล 15 มิ.ย. นี้
มาเที่ยวนี้ก็เกิดอาการโดนหักดิบอีกแล้ว โดยรมต.กระทรวงการคลัง งัดมาตรการ "คูปองคนจน" ออกมา
ยังงี้ก็เท่ากับว่าแทนที่จะเพิ่มรายได้ 4 เท่า กลับต้องมาแจก 400 อย่างเหงา ๆ
หมอเลี๊ยบหวังว่าจะแจกคูปองเงินสดให้ชาวบ้านผู้มีรายได้น้อย ผ่านบัตรสมาร์ทการ์ด คนละ 400 ต่อเดือน
แล้วยังงี้จะไม่ให้ "เจ๊มิ่ง" น้อยใจยังไงไหว ก็ตอนเจ๊แกพรีเซ้นท์ ตังเลขช่วงเลือตั้ง
หวังว่าจะเพิ่มตัวเลขรายได้ 4 เท่า ทำเอาฮือฮากันทั้งประเทศ
มาเจอ คูปองคนจน ของหมอเลี๊ยบเข้าคราวนี้ เจ๊แกก็ต้องร้อง...เจ๊อยากตาย แหง ๆ
โถ...ก็เจ๊แกอุตส่าห์โปรโมท เพิ่มรายได้ 4 เท่า มาหยก ๆ ไหงมาหักกันดื้อ ๆ อิ อิ
************************************* ว่ากันถึงโครงการ "ประชานิยม" รอบใหม่ของหมอเลี๊ยบ สร้างความกังวลให้กับ ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยอยู่หลายประเด็น
โดยหมอเลี้ยบ' เตรียมจ่ายเงินคนจนผ่านบัตร 'สมาร์ทการ์ด' เติมเงิน 400 บาทต่อเดือน
ตั้งใจว่าจะแจกชั่วคราวแค่ 1 ปี
ส่วนใครที่ไม่มีบัตรสมาร์การ์ด ( บัตรประชาชนอีเลคโทรนิค ) ก็จะแจกเงินสดแทน
บรรดานักวิชาการออกมาติงว่าได้ไม่คุ้มเสีย
เพราะมาตรการพิสูจน์ความจนยังไม่เห็นภาพ แถมชี้ว่าอาจมีการรั่วไหลกันได้ไม่ยาก
หมอเลี๊ยบกล่าวว่า งานนี้อยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางแจกคูปองคนจน ซึ่งจะต้องพิจารณาว่าเส้นความยากจนอยู่ตรงจุดไหน และต้องพิจารณาค่าครองชีพที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ด้วย
ทั้งนี้ก็เพื่อให้รู้จำนวนคนจนและปริมาณเงินอุดหนุนที่แตกต่างกันและที่รัฐจะต้องจ่ายในแต่ละเดือน
ด้านผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ก็ออกมารับลูกในทันทีว่าจะทราบตัวเลขของผู้มีรายได้น้อยที่จะได้รับสิทธิในการรับคูปอง
และจำนวนเงินที่จะต้องจ่ายให้รายเดือนภายใน 2 วันนี้
และยืนยันมั่นเหมาะว่ามีวงเงินงบประมาณเพียงพอที่จะดำเนินโครงการดังกล่าว...ก็ว่ากันไป...
ผศ.ดร.จิตติ มงคลชัยอรัญญา คณบดีคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่าถึง ''คูปองคนจน'' ว่า
การที่รัฐช่วยเหลือคนจนที่เดือดร้อนเป็นเรื่องดี แต่มีเงื่อนไขว่าต้องมีเครื่องมือตรวจสอบความยากจนที่มีประสิทธิภาพ
ในต่างประเทศมีแบบประเมินโดยเฉพาะ และให้เป็นเงิน
แต่ประเทศไทยใช้การจดทะเบียนคนจน ซึ่งเสี่ยงมากเพราะมีทั้งคนที่ยากจนจริงๆ และคนที่อยากจน
ที่สำคัญการทำโครงการ "คูปองคนจน" มันบั่นทอนศักดิ์ศรีมนุษย์ และสำนึกเรื่องการพึ่งตนเอง
ความจริงแล้วมีหลายวิธีในการช่วยคนจน เช่นกลุ่มแรงงานอาจให้ลดการจ่ายเงินประกันสังคมแทนการให้คูปอง
ส่วนแรงงานนอกระบบ อาจะเป็นการแจกคูปองอาหารนักเรียนยากจน แจกตั๋วรถโดยสาร เป็นต้น
สำหรับสินค้าธงฟ้า มีข้อต้องระวัง คือคนจนมักไม่ได้ซื้อ แต่เป็นคนชั้นกลางที่ไปซื้อสินค้าตุนซะมากกว่า
นายสมพร เทพสิทธา ให้ข้อคิดว่า หลักการดีแต่ในทางปฏิบัติยาก
ที่สำคัญกลัวว่ากลไกของรัฐจะไม่มีประสิทธิภาพ อาจมีการรั่วไหลกันได้
ปกติการออกคูปองนั้น สภาพสังคมต้องแย่จริงๆ ประเทศชาติฉุกเฉินยามสงครามก็ต้องออกคูปอง
แต่คูปองที่เป็นเรื่องของสวัสดิการที่ต้องระวัง เพราะจะก่อให้เกิดผลเสียหายมาก
สมัยที่รับราชการที่กระทรวงพาณิชย์มานานหลายปีไม่เคยปรากฏการใช้คูปองเกิดขึ้น มีแต่สมัยสงครามโลก...อาจารย์สมพร เทพสิทธาทิ้งท้าย
แม้ได้ยินเสียงเตือนเรื่องการรั่วไหล หรือการติติงจากหลายฝ่าย แต่เชื่อขนมกินได้เลยว่า
หมอเลี๊ยบ คงไม่ถอยเป็นแน่แท้ เพราะนอกจากจะเป็นการ "ซื้อเสียงล่วงหน้า" แบบ ซื้อตรง ขายตรงขนาดนี้
เลือกตั้งอีกกี่ที หมอเลี๊ยบและพลพรรคก็ขนกันเข้าสภาได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย
ประเภทใช้เงินหลวงหาเสียงพรรคนี้เค้าถนัดอยู่แล้ว...
แต่ต้องไม่ลืมว่า การแจกปลา กับการแจกเบ็ดเพื่อหาปลา มันยุ่งยากผิดกัน
แจกเงินนี่มันของหมู ๆ ไม่ต้องให้ "หมอ" มาทำงานหรอก แค่เด็กจบใหม่ๆ ก็ทำได้
ประชาชนเดือดร้อนก็ขนเงินจากคลังออกมาลดแลกแจกแถม...
แล้วนโยบายเพิ่มรายได้ให้ประเทศ 4 เท่า ของเจ๊มิ่ง คุณหมอเลี๊ยบเอาไปทิ้งซะที่ไหน
ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชาซะดื้อๆ
เที่ยวนี้ระวังเจ๊แกน้อยใจเอาจริง ๆ นะครับ...ทำเป็นเล่น...
ถึงกระนั้น หมอเลี๊ยบคงแอบกระซิบเบาๆข้างหูเจ๊มิ่งว่า
ผมทำตามนโยบายพรรค "เลือกพรรคถูก เพิ่มเงินในกระเป๋า" ไงล่ะ...
ฮ่า ฮ่า ฮ่า
แต่พอเหลือบไปดูพาดหัวไทยรัฐ
บ้านพังมาแล้ว 'จะพังอีก'
ผมหัวเราะไม่ออกครับ
แคน ไทเมือง http://www.oknation.net/blog/canthai/2008/06/12/entry-1
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-06-2008, 13:13 โดย CanCan »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
The Last Emperor
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 12-06-2008, 13:08 » |
|
สงสัยจริงๆ...ทำไมพอรัฐบาลช่วยคนจนไม่กี่ร้อยล้าน คนในเว๊บถึงจะเป็นจะตายกันนักหนา แต่พอรัฐบาลโถมเงินแสนล้านสร้างรถไฟฟ้าให้คนกทมฯเสวยสุข...กลับพากันสนับสนุน บรรทัดฐานมันอยู่ตรงไหนและความเท่าเทียมมีกันบ้างไหมหา!?!
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
sensei
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: 12-06-2008, 13:13 » |
|
เงินแค่นี้เพื่อคนทั่วประเทศไม่ได้มากมายอะไรสำหรับรัฐบาล
"แต่"
การแก้ปัญหาแบบนี้มันกำปั้นทุบดินชอบกล "จน" - "แจกคูปอง" , ไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นตอของปัญหา มาแก้ที่ปลายเหตุปลายทาง "คูปองหมด" - จนกันต่อไป อุตส่าห์ได้เป็นใหญ่ มีปัญญาคิดกันได้แค่นี้ ?
วิธีที่มั่นคง ยั่งยืนกว่านี้คิดไม่เป็น ? / เอาเวลาไปหากินกัน เอาเวลาไปคิดช่วยไอ้เหลี่ยมหมดเลยหรือไง ?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Cherub Rock
|
|
« ตอบ #20 เมื่อ: 12-06-2008, 13:13 » |
|
ให้เงินเฉยๆ เดี๋ยวมันก็ลืมครับว่าได้เงินมาจากใคร สู้แจกบัตรไม่ได้ เห็นบัตรตลอดเวลา พวกทาสจะได้สำนึกบุญคุณว่าได้ 400/เดือนเพราะใคร
แบบนี้ก็เท่ากับพิมพ์ธนบัตรชนิดใหม่ มีตราประธานาธิปดีประทับบนธนบัตร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
|
|
|
The Last Emperor
|
|
« ตอบ #21 เมื่อ: 12-06-2008, 13:28 » |
|
เงินแค่นี้เพื่อคนทั่วประเทศไม่ได้มากมายอะไรสำหรับรัฐบาล
"แต่"
การแก้ปัญหาแบบนี้มันกำปั้นทุบดินชอบกล "จน" - "แจกคูปอง" , ไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นตอของปัญหา มาแก้ที่ปลายเหตุปลายทาง "คูปองหมด" - จนกันต่อไป อุตส่าห์ได้เป็นใหญ่ มีปัญญาคิดกันได้แค่นี้ ?
วิธีที่มั่นคง ยั่งยืนกว่านี้คิดไม่เป็น ? / เอาเวลาไปหากินกัน เอาเวลาไปคิดช่วยไอ้เหลี่ยมหมดเลยหรือไง ?
หลักการก็คือ การแจกคูปองให้คนจนคือวิธีการแก้ไขความเดือดร้อนของคนจนที่ต้องกระทำด่วนและปฏิบัติให้เห็นผลในวันนี้ ส่วนกลยุทธ์การแก้ไขปัญหาระยะกลาง/ยาวก็ต้องเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
แยกแยะให้ออกกันหน่อยดิ๊
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
sensei
|
|
« ตอบ #22 เมื่อ: 12-06-2008, 13:30 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
The Last Emperor
|
|
« ตอบ #23 เมื่อ: 12-06-2008, 13:34 » |
|
แยกให้เห็นคนละบรรทัดด้วยซ้ำไม่เจือกดูล่ะ นอกจากเรื่องคูปอง มีแจ้งอีกไหมล่ะว่าจะทำอะไรต่อจากนั้น ? อย่างที่บอกว่านี่คือการแก้ปัญหาให้คนจนอย่างด่วนและเดี๋ยวนี้ ส่วนมาตรการการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจต่างๆ รัฐบาลก็คลอดออกมาเป็นระยะๆแล้ว...ถ้าติดตามและไม่มีอคติหรืออยากกวนteen ทุกคนก็จะทราบกันดีอยู่แล้วนี่นา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
sensei
|
|
« ตอบ #24 เมื่อ: 12-06-2008, 13:35 » |
|
อย่างที่บอกว่านี่คือการแก้ปัญหาให้คนจนอย่างด่วนและเดี๋ยวนี้ ส่วนมาตรการการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจต่างๆ รัฐบาลก็คลอดออกมาเป็นระยะๆแล้ว...ถ้าติดตามและไม่มีอคติหรืออยากกวนteen ทุกคนก็จะทราบกันดีอยู่แล้วนี่นา
มีปัญญายกตัวอย่างไหมล่ะ ?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
The Last Emperor
|
|
« ตอบ #25 เมื่อ: 12-06-2008, 13:42 » |
|
มีปัญญายกตัวอย่างไหมล่ะ ?
ถ้าอยากได้ความรู้ในเรื่องดังกล่าว...กรุณากราบเดี๋ยวนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
sensei
|
|
« ตอบ #26 เมื่อ: 12-06-2008, 13:49 » |
|
ถ้าอยากได้ความรู้ในเรื่องดังกล่าว...กรุณากราบเดี๋ยวนี้ ตอบแบบนี้สรุปไำด้ว่าไร้ปัญญาเหมือนไอ้คนคิดเรื่องคูปอง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
|
« ตอบ #27 เมื่อ: 12-06-2008, 13:52 » |
|
หาเรื่องแจกเงินมั๊ง...ประชาชนจะได้จดจำ...เหมือนนโยบายเงินผัน..
ประเด็นคือ ทำไมไม่หาทางไปช่วยทางอื่น อย่างที่ฝ่าย"สังคมสงเคราะห์" เค้าเสนอมา
อย่าหากินกับความยากจนกันนักเลย
อยากให้เงินก็ทำเงินผันสิ ใครมีแรง มีสินค้าก็อุดหนุนกันไป ให้เค้ารู้จักใช้วิชา ใช้แรงงาน ใช้เวลาว่างหากินบ้าง
ไม่มีวิชาก็ใช้แรงงาน ใช้ความสามารถที่มี มันทำได้นี่นะ...
คราวก่อน เค้าทำ "คนจนรักษาฟรี" ยังไปโจมตีว่า ตีราคาคนต่ำต้อย
คราวนี้ทำไมกลับกลืนน้ำลายละครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
eAT
|
|
« ตอบ #28 เมื่อ: 12-06-2008, 13:55 » |
|
เปลี่ยนคนจนทั่วประเทศ ให้กลายเป็น "ขอทาน"
เซ็งเป็ด มันเงินภาษีของตู ต้องเอามาจ่ายให้คนจน โดยไม่เลือก จนเพราะขี้เกียจ มันควรจะปล่อยให้ อดตายไป มันต้องเลือกว่า จนเพราะอะไร สมควร ให้หรือไม่ ไม่ใช่หว่านไปทั่ว ถ้าเป็นเงินอ้ายหมาก จะทำยังไงก็ช่างมัน แต่นี้มันเงินของตูด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
sensei
|
|
« ตอบ #29 เมื่อ: 12-06-2008, 13:57 » |
|
เปลี่ยนจาก "หาปลามาให้กิน" มาเป็น "สอนตกปลา - แจกอุปกรณ์ตกปลา" ไม่ดีกว่าเหรอครับ ? (ผมว่าต้องสอนตกปลาด้วยครับ ไม่งั้นเดี๋ยวเอาเบ็ดไปขายกินอีก - ใช้ไม่เป็น)
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-06-2008, 14:01 โดย sensei »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
moon
|
|
« ตอบ #30 เมื่อ: 12-06-2008, 14:03 » |
|
ท้อแท้ครับพี่น้อง ท้อแท้กับนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลนี้เหลือเกิน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
The Last Emperor
|
|
« ตอบ #31 เมื่อ: 12-06-2008, 14:30 » |
|
หาเรื่องแจกเงินมั๊ง...ประชาชนจะได้จดจำ...เหมือนนโยบายเงินผัน..
ประเด็นคือ ทำไมไม่หาทางไปช่วยทางอื่น อย่างที่ฝ่าย"สังคมสงเคราะห์" เค้าเสนอมา
อย่าหากินกับความยากจนกันนักเลย
อยากให้เงินก็ทำเงินผันสิ ใครมีแรง มีสินค้าก็อุดหนุนกันไป ให้เค้ารู้จักใช้วิชา ใช้แรงงาน ใช้เวลาว่างหากินบ้าง
ไม่มีวิชาก็ใช้แรงงาน ใช้ความสามารถที่มี มันทำได้นี่นะ...
คราวก่อน เค้าทำ "คนจนรักษาฟรี" ยังไปโจมตีว่า ตีราคาคนต่ำต้อย
คราวนี้ทำไมกลับกลืนน้ำลายละครับ
ก่อนอื่นคงต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจนทุกฝ่ายครับว่า ปัญหาเศรษฐกิจอันเกิดจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นเกือบ 100% ในช่วงไม่ถึง 1 ปีนี้ส่งผลทำให้ค่าครองชีพและอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกสูงขึ้น อันส่งผลให้ทุกคนในสังคมโดยเฉพาะคนจนเดือดร้อนไม่มีเงินซื้ออาหารเหมือนก่อน
ประเด็นก็คือ รัฐบาลจะทำอย่างไรในการแก้ไขปัญหาของคนจนระดับต่ำสุดของสังคมให้มีเงินซื้ออาหารกินประทังชีวิต? วิธีแก้ไขในปัญหาด่วนดังกล่าวก็คือ การแจกคูปองแก่คนจนก็คือยุทธวิธีการเข้าถึงคนจนกลุ่มดังกล่าวโดยตรงและฉับไว จะมัวแต่ใช้เวลาศึกษาหาข้อมูลว่าใครจนจริง/ไม่จริง...คนจนดังกล่าวก็อดตายหรือไม่ก็ออกปล้นพวกที่ดีแต่ปากเสนอแนะให้ศึกษา จะเอามั้ย!?!
เงินแค่ไม่กี่ร้อยล้านเมื่อเทียบกับแสนๆล้านในการสร้างรถไฟฟ้าในกทมฯ...อย่าหงี่งกลนกันแบบนี้เลยครับ จ๊ะขอร้อง!!
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
|
« ตอบ #32 เมื่อ: 12-06-2008, 14:50 » |
|
ประเทศชาติมันพังตั้งแต่ เอาหมอมาดูแลคลัง เอาพยาบาลมานั่งเป็นรอง เอานักสร้างภาพมาทำพาณิชย์
เข้าใจปัญหามั๊ย....เป็นไงล่ะ....เงินในกระเป๋าเพิ่มจริงหรือเปล่า...รายได้เพิ่ม 4 เท่าหรือเปล่า
มันไม่มีกึ๋น...ประเทศชาติเสียหายคราวนี้ อย่ามาทำคุยว่าทำดีกว่ารัฐบาลเผด็จการ ตุ๋ย !!!
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ton
|
|
« ตอบ #33 เมื่อ: 12-06-2008, 15:09 » |
|
แก้ปัญหาอย่างนี้เอาเด็ก ป.2 มาเป็นรัฐมนตรีก็ได้ จริงๆแล้วคงถือโอกาสซื้อเสียงโดยไม่ต้องใช้เงินตัวเองมากกว่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
คนกวาดขยะ
|
|
« ตอบ #34 เมื่อ: 12-06-2008, 15:09 » |
|
พวกข้างบน ที่บอกว่า การแจกคูปองเป็นหารกระทำที่ ไม่มีหัวคิด น่ะ ผิดถนัด
เขาคิดดีแล้ว ถูกต้องแล้วสำหรับเขา เพราะ..นี่คือ
การแจกเงินซื้อเสียงล่วงหน้า โดยเงินของรัฐอีกแล้วครับท่าน
หัวคะแนนซึ่งก็คือ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. แม้ไม่จนจริงก็จะรับรองชื่อ้ได้กันทั่วในหมู่บ้าน
แล้วอย่างนี้ เลือกตั้งกี่ที มันก็เอาไปแดรกกกกก
แล้วแท้จริง ใครได้ประโยชน์ กันแน่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
สังคมไทยวิบัติ มาช่วยกันปฏิวัติสังคมใหม่กันเถอะ
|
|
|
The Last Emperor
|
|
« ตอบ #35 เมื่อ: 12-06-2008, 16:04 » |
|
ประเทศชาติมันพังตั้งแต่ เอาหมอมาดูแลคลัง เอาพยาบาลมานั่งเป็นรอง เอานักสร้างภาพมาทำพาณิชย์
เข้าใจปัญหามั๊ย....เป็นไงล่ะ....เงินในกระเป๋าเพิ่มจริงหรือเปล่า...รายได้เพิ่ม 4 เท่าหรือเปล่า
มันไม่มีกึ๋น...ประเทศชาติเสียหายคราวนี้ อย่ามาทำคุยว่าทำดีกว่ารัฐบาลเผด็จการ ตุ๋ย !!!
ถ้าไม่อคติกันเกินไปก็ต้องยอมรับกันว่าปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลกนี้...เกิดจากปัญหาราคาน้ำมันล้วนๆ ในช่วงปลายปีที่ผ่านมาราคาน้ำมันอยู่ที่ 20 บาทปลายๆ/ลิตร นโยบายที่ว่าจะเพิ่มรายได้ 4 เท่าจึงถูกกำหนดในช่วงสถานะการณืดังกล่าว พอปัจจุบันราคาน้ำมันขึ้นไปกว่า 40 บาท/ลิตร....สิ่งเร่งด่วนที่ต้องแก้ไขกลายเป็นการแก้ปัญหาให้คนจนที่มีรายได้ต่ำสุดในสังคมได้ประทังชีพไปวันๆมากกว่าจะมามุ่งแต่การเพิ่มรายได้ 4 เท่าที่ตอนนี้ต้องยอมรับว่ายาก
สถานะการณ์เปลี่ยน...วัตถุประสงค์และการแก้ไขปัญหาที่สำคัญสุดของรัฐบาลจึงเปลี่ยน จึงเป็นเรื่องของการมองสถานะการณืที่เป็นจริงแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งเป็นสิ่งที่ถกต้องอย่างยิ่งที่รัฐบาลที่ดีพึงกระทำ
พวกที่เอาแต่ด่าทอน๊ะ...มีวิที่ดีกว่านี้นำเสนอกันไหมหา!?!
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
*bonny
|
|
« ตอบ #36 เมื่อ: 12-06-2008, 16:10 » |
|
ถ้าไม่อคติกันเกินไปก็ต้องยอมรับกันว่าปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลกนี้...เกิดจากปัญหาราคาน้ำมันล้วนๆ ในช่วงปลายปีที่ผ่านมาราคาน้ำมันอยู่ที่ 20 บาทปลายๆ/ลิตร นโยบายที่ว่าจะเพิ่มรายได้ 4 เท่าจึงถูกกำหนดในช่วงสถานะการณืดังกล่าว พอปัจจุบันราคาน้ำมันขึ้นไปกว่า 40 บาท/ลิตร....สิ่งเร่งด่วนที่ต้องแก้ไขกลายเป็นการแก้ปัญหาให้คนจนที่มีรายได้ต่ำสุดในสังคมได้ประทังชีพไปวันๆมากกว่าจะมามุ่งแต่การเพิ่มรายได้ 4 เท่าที่ตอนนี้ต้องยอมรับว่ายาก
สถานะการณ์เปลี่ยน...วัตถุประสงค์และการแก้ไขปัญหาที่สำคัญสุดของรัฐบาลจึงเปลี่ยน จึงเป็นเรื่องของการมองสถานะการณืที่เป็นจริงแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งเป็นสิ่งที่ถกต้องอย่างยิ่งที่รัฐบาลที่ดีพึงกระทำ
พวกที่เอาแต่ด่าทอน๊ะ...มีวิที่ดีกว่านี้นำเสนอกันไหมหา!?! มีสิครับ.. มีปัญญาก็มีวิธีแก้ไข แต่ถ้าไม่มีปัญญาก็ต้องงัดคูปองมาแจกแบบนี้แหละ ปัญหาสินค้าราคาแพง สามารถแก้ได้นะครับ เพราะรัฐมีเครื่องมือและเงิน คุณลองไปศึกษาระบบGovernment stock ดูนะครับ ถ้าอยากให้ผมช่วย ให้ป๋าหมักต่อสายตรงมาที่เสรีไทย ผมจะไปอธิบายให้ มันแก้ได้ ไม่ใช่อับจนปัญญาขนาดงัดแผนแจกเงินไปเลย ไม่ต้องแก้ไขปัญหากันแล้ว เด็ก ป.4 ยังอายเลย วิธีคิด(สั้น)แบบนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ประเทศชาติมีภัย เสรีไทยร่วมกอบกู้
|
|
|
Solidus
|
|
« ตอบ #37 เมื่อ: 12-06-2008, 17:03 » |
|
สงสัยจริงๆ...ทำไมพอรัฐบาลช่วยคนจนไม่กี่ร้อยล้าน คนในเว๊บถึงจะเป็นจะตายกันนักหนา แต่พอรัฐบาลโถมเงินแสนล้านสร้างรถไฟฟ้าให้คนกทมฯเสวยสุข...กลับพากันสนับสนุน บรรทัดฐานมันอยู่ตรงไหนและความเท่าเทียมมีกันบ้างไหมหา!?! แน่ใจหรือครับว่าสร้างรถไฟฟ้าให้คนกทม ฯ เสวยสุข ลองเอาคนต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพ เรียนในกรุงเทพ กลับภูมิลำเนาตัวเองสิครับ รับรองไม่ต้องใช้รถไฟฟ้าเลยครับเพราะถนนจะโล่ง และอีกอย่างในเมื่อเก็บภาษีจากจังหวัดนี้ไปกว่าครึ่งของประเทศจะไม่ทดแทนเลยหรือครับ ผลที่ได้มันก็ไม่ได้อยู่ที่เฉพาะคนกรุงเทพ แต่คนต่างจังหวัดที่เข้ามาในกรุงเทพก็ได้ประโยชน์ หรือจะปฏิเสธว่าไม่มีคนต่างจังหวัดที่เข้ามาในกรุงเทพใช้รถไฟฟ้า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
The Last Emperor
|
|
« ตอบ #38 เมื่อ: 12-06-2008, 17:28 » |
|
ท่านใดที่คิดว่ามีวิธีการแก้ไขปัญหาให้คนจนที่ต้องการความช่วยเหลือแบบเห็นผลในวันนี้...กรุณาอธิบายหน่อยครับ ถ้าคนเรามีความคิดสร้างสรรค์ย่อมกระทำแต่สิ่งดีๆ ไม่ใช่เอาแต่เล่นการเมืองหรือดิสเครดิตจนประเทศชาติchipหายแบบนี้
ส่วนกรณีรถไฟฟ้า...ถ้าแน่จริง พวกพันธมารก็รณรงค์ให้รัฐบาลหยุดก่อสร้างรถไฟฟ้าซิครับ ไม่ใช่มาตะแบงว่าคนตจว.ที่อยู่ในกทมฯก็มีผลประโยชน์จากการก่อสร้างรถไฟฟ้า อย่าลืมเป็นอันขาดว่าคนที่เค้าจนจริงๆในกทมฯไม่มีปัญญานั่งรถไฟฟ้าหรอก เค้ามีปัญญาจ่ายแค่รถร้อนเท่านั้น....กรุณาแยกแยะให้ขาด อย่ามั่วครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Limmy
|
|
« ตอบ #39 เมื่อ: 12-06-2008, 18:21 » |
|
400 บาท ก็ได้แค่ล้อมวงกินเหล้ามื้อเดียว
หมดแล้วก็แบมือขออีก
อยากแก้แบบปัญหายั่งยืน เอาเงินตรงนี้ไปจ้างแรงงานท้องถิ่นดีกว่า
อยากสร้างสะพาน เอาสะพานไป แต่ใช้แรงงานในท้องถิ่นจริง ให้มีส่วนร่วมในการวางแผนคิดแก้ปัญหา หัดทำเรื่องค่าใช้จ่าย
อยากได้ยุ้งข้าว อยากได้สุขศาลา อยากได้อาคารเรียน อยากได้ห้องสมุด เอางบไปจ้างแรงงานชาวบ้าน ตั้งแต่ออกแบบยันก่อสร้าง
ให้ชาวบ้านคิด ให้ชาวบ้านทำ ให้บริหารจัดการกันเอง ได้ประโยชน์กว่าเยอะ
แจกเงินคนละ 400 มันทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันไม่ได้เลย เหมือนเบี้ยหัวแตก อย่างมากก็ได้กินไปสองสามมื้อ มันส่อไปในทางซื้อเสียงมากกว่าครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
DAWN
|
|
« ตอบ #40 เมื่อ: 12-06-2008, 18:47 » |
|
ท่านใดที่คิดว่ามีวิธีการแก้ไขปัญหาให้คนจนที่ต้องการความช่วยเหลือแบบเห็นผลในวันนี้...กรุณาอธิบายหน่อยครับ ถ้าคนเรามีความคิดสร้างสรรค์ย่อมกระทำแต่สิ่งดีๆ ไม่ใช่เอาแต่เล่นการเมืองหรือดิสเครดิตจนประเทศชาติchipหายแบบนี้
ส่วนกรณีรถไฟฟ้า...ถ้าแน่จริง พวกพันธมารก็รณรงค์ให้รัฐบาลหยุดก่อสร้างรถไฟฟ้าซิครับ ไม่ใช่มาตะแบงว่าคนตจว.ที่อยู่ในกทมฯก็มีผลประโยชน์จากการก่อสร้างรถไฟฟ้า อย่าลืมเป็นอันขาดว่าคนที่เค้าจนจริงๆในกทมฯไม่มีปัญญานั่งรถไฟฟ้าหรอก เค้ามีปัญญาจ่ายแค่รถร้อนเท่านั้น....กรุณาแยกแยะให้ขาด อย่ามั่วครับ
พี่ รู้จักพระอาจารย์สุบิน มณีโต แห่งวัดไผ่ล้อม ต.บางพระ อ.เมือง จ.ตราด ไหม ลองถามวิธีการจากท่านดู ซึ่งที่จริง กระบวนการทักษิโณมิก ก็เลียนแบบวิธีการของท่าน แต่ใช้ไม่ครบ ใช้ไม่หมด มีการศึกษาวิธีแก้ปัญหา โดยกระบวนการของพระอาจารย์สุบิน แล้วกลับนำเอาบางส่วนมาใช้ แทนที่จะแก้ปัญหาของประชาชน กลับกลายมาเป็นการผูกมัดประชาชน เรื่องนี้ต้องคุยกันยาวครับ ลองไปดูที่ www.ldinet.org จะเข้าใจ อย่าหลงนิยมวิถีดูดความนิยมจากประชาชน ของนักการเมืองอยู่เลยครับ วิธีที่ว่านี้ จะต้องสร้างแนวคิดที่ถูกต้อง วิธีการวางแผนชีวิตตนเอง วิธีการช่วยกันเองในชุมชน การยอมรับความจำเป็นร่วมกัน การร่วมกันพยุงสังคม ความรู้จักพอเพียง จึงจะแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืนครับ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-06-2008, 19:08 โดย DAWN »
|
บันทึกการเข้า
|
Shr
|
|
|
Limmy
|
|
« ตอบ #41 เมื่อ: 12-06-2008, 18:53 » |
|
ใช้เวลาแค่ห้าปี ทักษิณและไทยรักไทย เปลี่ยนคนไทยเป็นขอทาน
สิ้นเกียรติ สิ้นศักดิ์ศรี สิ้นความภาคภูมิใจ
และสิ้นชาติ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Solidus
|
|
« ตอบ #42 เมื่อ: 12-06-2008, 19:54 » |
|
ส่วนกรณีรถไฟฟ้า...ถ้าแน่จริง พวกพันธมารก็รณรงค์ให้รัฐบาลหยุดก่อสร้างรถไฟฟ้าซิครับ ไม่ใช่มาตะแบงว่าคนตจว.ที่อยู่ในกทมฯก็มีผลประโยชน์จากการก่อสร้างรถไฟฟ้า อย่าลืมเป็นอันขาดว่าคนที่เค้าจนจริงๆในกทมฯไม่มีปัญญานั่งรถไฟฟ้าหรอก เค้ามีปัญญาจ่ายแค่รถร้อนเท่านั้น....กรุณาแยกแยะให้ขาด อย่ามั่วครับ
แล้วมีได้ประโยชน์จริงรึเปล่าครับ คนจนใน กทม มีกี่ % ครับ คนจนทั่วประเทศมีกี่ % ครับ ขอตัวเลขคนจนจริง ๆ นะครับ เพราะมีผลต่อการแจกคูปองคนจน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
nobi
|
|
« ตอบ #43 เมื่อ: 12-06-2008, 20:04 » |
|
เดี๋ยวรีบไปถอนเงินมาฝังดินก่อน จะได้คิดว่าป๋มไม่มีเงิน อย่าลืมมาแจกแถวบ้านป๋มด้วยนะครับ แต่ถ้าจะให้ดีกว่านั้น ผมขอไม่เสียภาษีได้ไหมอ่ะ หรือไม่ก็เรียกขูดรีดภาษีจากคนต่างจังหวัด มาแจกคนกรุงเตปมั่งจิ ว่าแต่ ถ้าป๋มจนจริง แต่ตอนที่เค้าแจก ผมบอกว่า จะไม่เลีอก(เหลี่ยม)จตุรัส เค้าจะให้เงินป๋มไหมก้าบ จะให้เงินป๋มไหมก๊าบบบบ (ลืมตัวร้องแบบเหลิม) ส่วนคุณ TLE ถ้าเค้ามาแจกเงินให้ผมแล้ว ผมจะเอาไปให้คุณต่อนะ แต่ต้องถ่ายรูปตอนคุณจูบก้นเจ๊เพ็ญมาด้วยนะงับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
|
« ตอบ #45 เมื่อ: 13-06-2008, 00:07 » |
|
จุฬาฯ ค้านออก 'คูปองคนจน' หวั่นเลือกที่รักมักที่ชัง เป็นช่องหาเสียงของพรรคการเมือง มติชน
สำหรับการออกคูปองเพื่อช่วยเหลือคนจนในการซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคเดือนละ 300-400 บาทนั้น นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า ต้องศึกษาให้รอบคอบ เพื่อช่วยคนจนจริงๆ เพราะเงินที่จะใช้มาจากภาษีประชาชน ได้มอบให้ผู้เกี่ยวข้องศึกษารายละเอียดให้เสร็จภายใน 1 เดือน
นายสมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัยการพัฒนาเศรษฐกิจส่วนร่วมและการกระจายรายได้ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า เห็นด้วยกับแนวคิดการจัดทำคูปองคนจน เพราะจะช่วยคนที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจในภาวะที่ราคาสินค้าปรับขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ควรจะช่วยแค่ชั่วคราวและเจาะจงกลุ่มเป้าหมายให้เข้มงวด โดยสามารถนำเส้นความยากจนมาใช้จำแนกกลุ่มที่ไม่ได้รับอานิสงส์จากราคาสินค้าเกษตรที่ปรับสูงขึ้น รัฐบาลจะได้จำกัดวงเงินและระยะเวลาดำเนินการได้ถูกต้อง
''การแจกเงินเป็นสิ่งอันตราย โดยเฉพาะปัจจุบันที่เงินเฟ้ออยู่ระดับสูง ถ้ารัฐบาลยังนำเงินใส่ไปในระบบ โดยไม่ตรวจสอบให้ดีว่าใครเดือดร้อนจริง อาจทำให้อัตราเงินเฟ้อขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยคนที่รัฐบาลควรยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือคือ กลุ่มผู้รับจ้าง แรงงานก่อสร้าง ช่างฝีมือและเกษตรกรที่ไม่มีพื้นที่เพาะปลูกเป็นของตนเอง ซึ่งเชื่อว่าคนกลุ่มนี้จะมีประมาณ 2-3 แสนครอบครัว'' นายสมชัยกล่าว
นายสมชัยกล่าวว่า จากการตรวจสอบสถานการณ์ของเส้นความยากจนในปี 2551 พบว่า อยู่ที่ 1,530 บาทต่อคนต่อเดือน จากปี 2549 อยู่ที่ 1,386 บาทต่อคนต่อเดือน และปี 2550 อยู่ที่ 1,444 บาทต่อคนต่อเดือน เมื่อแยกเป็นภาคชนบทพบว่า เส้นความยากจนอยู่ที่ 1,504 บาทต่อคนต่อเดือน โดยมีอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 5 เดือนแรกปีนี้สูงถึง 12.8% จากช่วง 4 เดือนแรกที่เงินเฟ้อในชนบทอยู่ที่ 7.4% ซึ่งเป็นอัตราที่สูงมากในชนบท แต่ยังไม่น่าเป็นห่วง เพราะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด มาจากการที่เกษตรกรสามารถขายสินค้าเกษตร โดยเฉพาะข้าวได้ราคาดี แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ รายจ่ายสำหรับอาหารสูงถึง 22.2% และรายจ่ายที่ไม่ใช่อาหารอยู่ที่ 3.9%
สำหรับเส้นความยากจนในเขตเมือง อยู่ที่ 1,832 บาทต่อคนต่อเดือน โดยเงินเฟ้ออยู่ที่ 7.4% จากช่วง 4 เดือนแรกเงินเฟ้อในเขตเมืองอยู่ที่ 6.1% หากรัฐบาลนำเงินใส่เข้าไปในระบบทั้งคูปองคนจน โครงการพัฒนาศักยภาพหมู่บ้านและชุมชนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (เอสเอ็มแอล) และการรับจำนำข้าว แม้จะมีวงเงินรวมไม่ถึง 1 แสนล้านบาท แต่อาจดันให้เงินเฟ้อในเขตชนบทปรับตัวจาก 12.8% ไปอยู่ที่ 20% ภายในปีนี้
''รัฐบาลควรใช้เส้นความยากจนที่คาดว่าตอนนี้อยู่ที่ 5 ล้านคน หรือประมาณ 1 ล้านครอบครัว เป็นเกณฑ์หลัก ก่อนจะลงไปในรายละเอียดว่าใครลำบากจริง และให้ความช่วยเหลือ เพราะรัฐบาลต้องระวังเรื่องการใส่เงินในชนบท ซึ่งชาวนาและเกษตรกรบางส่วนยังมีรายได้เพียงพอกับรายจ่าย ไม่เช่นนั้นอาจทำให้ช่วงครึ่งปีหลัง อัตราเงินเฟ้อจะขยับสูงขึ้น แม้ว่าการเติมเงินเข้าไปในระบบอาจจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 และ 4 ขยายตัวได้ 6% ตามเป้าหมายที่รัฐบาลวางไว้ และทั้งปีอาจจะเฉลี่ย 5-6% แต่การเล่นกับเงินเฟ้อก็เหมือนเล่นกับไฟ เพราะถ้าเงินเฟ้อแรงกว่าที่คิด ปีหน้าเศรษฐกิจไทยจะหายไปแน่นอน ซึ่งทางที่ดี เราควรยอมรับอัตราการเติบโตที่น้อยลง จากกำลังซื้อที่ตกลงบ้างเล็กน้อย โดยไม่ต้องดันให้มีกำลังซื้อมากเกินความจำเป็น เศรษฐกิจก็ไม่น่าจะตกต่ำมาก'' นายสมชัยกล่าว
นายณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงมหาวิทยาลัย กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับวิธีการออกคูปอง เกรงว่าเงินจะตกกับคนบางกลุ่ม ไม่ครอบคลุมคนจน เกิดการเลือกที่รักมักที่ชังได้ สมควรที่จะให้ในรูปแบบอื่นๆ มากกว่า เช่น คูปองอาหาร ทุกคนสามารถนำไปใช้ได้ แต่ถ้าเป็นเงินไม่แน่ใจว่าคนจนจะนำไปใช้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์หรือไม่ หรืออาจจะเป็นช่องทางในการหาเสียงของพรรคการเมืองได้ อย่างไรก็ตาม เสนอให้รัฐบาลผลิตสินค้ามวลชน เช่น สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก ข้าวสาร เป็นต้น โดยอาศัยการจ้างบริษัทเอกชนดำเนินการและมีการโฆษณาผ่านสื่อของรัฐ สามารถลดต้นทุนการผลิต 10-30% และช่วยลดค่าครองชีพคนจนได้
นางประทิน เวคะวากยานนท์ ที่ปรึกษาเครือข่ายสลัม 4 ภาค กล่าวว่า ตอนนี้คนสลัมแย่สุดสุด ต้องอดมื้อกินมื้อ ในวันที่ 15 มิถุนายนนี้ จะเปิดเวทีสภาประชาชน ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ สะท้อนให้สังคมได้รับทราบถึงสถานการณ์ในขณะนี้ และในวันที่ 24 มิถุนายน พวกจะรวมตัวกับกลุ่มผู้ใช้แรงงานเดินขบวนใหญ่อีกครั้ง
นายสุชิน เอี่ยมอินทร์ แกนนำกลุ่มคนไร้บ้าน กล่าวว่า คูปองที่รัฐบาลจะแจกนั้น ไม่รู้จะถึงมือคนจนหรือพรรคพวกของคนในรัฐบาลกันแน่ เพราะแม้แต่ข้าวสารธงฟ้า ประชาชนก็ยังเข้าไม่ถึง เพราะมีแต่พ่อค้าคนกลางจ้างคนไปต่อแถวซื้อจนหมด ที่น่าเป็นห่วงคือ มีข่าวว่ารัฐบาลจะยกเลิกเมล์ร้อนทั้งหมด แล้วใช้รถแอร์แทน ตั้งต้นราคาที่ 15 บาท หากเป็นเช่นนี้จริงคงต้องเดือดร้อนหนัก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=35735&catid=5
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
An.mkII
|
|
« ตอบ #46 เมื่อ: 13-06-2008, 08:24 » |
|
จะบังเอิญรึไม่ผมก็ไม่รู้..
แต่ผมรู้ว่า หวยบนดิน หวยออนไลน์ ก็กำลังจะกลับมา..
และก็จะกำลังมีการเเจกเงินคนรากหญ้า..ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะออกมารูปไหน รูปเงินสดรึอะไร..
แต่ถ้าเเจกเป็นเงินสด และถ้าสองอย่างมันมาบรรจบกัน.. สุดยอด.. นโยบาย ที่เที่ยวปั่ันหัวคนไทย
และฉะนั้นผมก็คิดแล้วว่า
เขาคิดไม่ผิดที่เอาหมอมาคุมคลัง..
เพราะหมอคนนี้นั้นเก่งเรื่องสร้างผลงานให้นายใหญ่..ส่วนประชาชนจะบรรลัยก็ชั่งหัวมันฉันไม่เเคร์์
เพราะก็ไอ้ที่ให้ไปคุมไอซีที ก็เพราะต้องการแก้สัมปทานมือถือมิใช่หรือ.
และพอแก้เสร็จ ก็ทำท่าจะยุบกระทรวงไอซีที ตามข่าวที่เคยปรากฏ..
และเลี๊ยบก็ลาออกไปภายในบัดดล หลังจากการสร้างผลงานให้นายใหญ่ ได้กำไรไปหลายหมื่นล้าน
ฉะนั้นอย่าไปด่าเลี๊ยบว่า ไร้ความสามมารถ ..
แต่เลี๊ยมมีความสามรถ แต่ใช้ความสามารถนั้นไปช่วยนายใหญ่ มากกว่าจะช่วยประชาชน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
The Last Emperor
|
|
« ตอบ #47 เมื่อ: 13-06-2008, 08:48 » |
|
สรุปก็คือ คนในเว๊บนี้มี 2 ประเภคคือ หนึ่งอคติสุดขั้ว สอง แยกแยะวิธีการแก้ปัญหาระยะเร่งด่วน Vs. ปัญหาระยะปานกลาง/ยาว ไม่ได้...เรื่องการโต้กันไปมามันจึงไม่สามารถยุติได้เพียงเพราะเหตุผลดังกล่าว และที่สำคัญ ก็ไม่มีใครสักคนที่สามารถแนะนำวิธีการแก้ปัญหาเดือดร้อนเร่งด่วนของคนชั้นล่างสุดในสังคมได้เลย...พวก NATO ทั้งน้านนนนน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ton
|
|
« ตอบ #48 เมื่อ: 13-06-2008, 11:11 » |
|
สรุปก็คือ คนในเว๊บนี้มี 2 ประเภคคือ หนึ่งอคติสุดขั้ว สอง แยกแยะวิธีการแก้ปัญหาระยะเร่งด่วน Vs. ปัญหาระยะปานกลาง/ยาว ไม่ได้...เรื่องการโต้กันไปมามันจึงไม่สามารถยุติได้เพียงเพราะเหตุผลดังกล่าว และที่สำคัญ ก็ไม่มีใครสักคนที่สามารถแนะนำวิธีการแก้ปัญหาเดือดร้อนเร่งด่วนของคนชั้นล่างสุดในสังคมได้เลย...พวก NATO ทั้งน้านนนนน ตลอดอายุรัฐบาลทักษิณก็มีแต่นโยบายแบบนี้ มันคงเป็นการแก้ปัญหาระยะเร่งด่วนแบบยาวๆละมั้ง แทนที่จะแจกเงิน เปลี่ยนเป็นแจกอุปกรณ์ทำมาหากินดีกว่า น่าเกลียดน้อยกว่าเยอะ พวก NATO ก็เขาไม่ได้มีหน้าที่ไปทำนิ เขาเห็นอะไรไม่เข้าท่า ไม่ชอบมาพากลเขาก็วิจารณ์ ผิดกับพวกมีหน้าที่ได้รับเงินเดือนเป็นแสน แต่แก้ปัญหาเหมือนเด็กอนุบาล อย่างนี้จ้างเด็กอนุบาลทำงานดีกว่า ให้ค่าขนม 20 บาทเอง ประหยัดงบกว่าเยอะ อย่างนี้เขาเรียก เลี้ยงเสียข้าวสุก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
The Last Emperor
|
|
« ตอบ #49 เมื่อ: 13-06-2008, 11:19 » |
|
ตลอดอายุรัฐบาลทักษิณก็มีแต่นโยบายแบบนี้ มันคงเป็นการแก้ปัญหาระยะเร่งด่วนแบบยาวๆละมั้ง แทนที่จะแจกเงิน เปลี่ยนเป็นแจกอุปกรณ์ทำมาหากินดีกว่า น่าเกลียดน้อยกว่าเยอะ พวก NATO ก็เขาไม่ได้มีหน้าที่ไปทำนิ เขาเห็นอะไรไม่เข้าท่า ไม่ชอบมาพากลเขาก็วิจารณ์ ผิดกับพวกมีหน้าที่ได้รับเงินเดือนเป็นแสน แต่แก้ปัญหาเหมือนเด็กอนุบาล อย่างนี้จ้างเด็กอนุบาลทำงานดีกว่า ให้ค่าขนม 20 บาทเอง ประหยัดงบกว่าเยอะ อย่างนี้เขาเรียก เลี้ยงเสียข้าวสุก
พวกNATOที่ไม่ยอมรับว่าสติปัญญาของตัวเองมันด้อยกว่าฝ่ายบริหารนี่ถือว่าเป็นNPLของสังคมน๊า คิดได้ไง...แจกอุปกรณ์ทำมาหากิน แจกจอบ แจกเสียมเหรอ!?! กร๊ากกกกกก เมามันส์เจงๆได้ขยี้พวกNATOระดับล่างๆเนี่ย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|