ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
29-03-2024, 00:54
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑะกา: ทองแท้หรือทองชุบ!?! 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: 1 2 3 [4] 5
คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑะกา: ทองแท้หรือทองชุบ!?!  (อ่าน 21767 ครั้ง)
sanskritshower
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 245



« ตอบ #150 เมื่อ: 19-06-2008, 10:23 »

สรุปว่าไร้น้ำยา
อาศัียลีลาแถกแถตามเคย

...เสียเวลาเข้ามาดูจริง ๆ

เห็นชื่อ'จ๊ะเข้ามาตอบกระทู้เพิ่มเติมก็นึกว่าจะมีอะไรใหม่ ๆ
เอาเข้าจริงก็เหม็นน้ำลายขี้โม้

...ไม่รู้จักเขินอายบ้างหรือไง ?


ซ้ำให้อีกรอบ
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #151 เมื่อ: 19-06-2008, 10:27 »

ซ้ำให้อีกรอบ

ขอบคุณคร้าที่ช่วยupกระทู้อันทรงคุณค่าช่วยกันแฉช่วยกันถอนขนเป็นแก่ๆ คริ คริ
บันทึกการเข้า
sanskritshower
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 245



« ตอบ #152 เมื่อ: 19-06-2008, 11:25 »

ขอบคุณคร้าที่ช่วยupกระทู้อันทรงคุณค่าช่วยกันแฉช่วยกันถอนขนเป็นแก่ๆ คริ คริ

ไม่เลยครับ  ที่อ่านมาทั้งหมดมีแต่คนบ่น จ๊ะ อ่ะครับ

ผมก็ว่าไม่เหมือนจ๊ะคนเดิม  จ๊ะตอบมาหลายรอบ  ไม่มีข้อมูลอะไรมาแย้งเลย  ผิดหวังหลายกระทู้แล้วนะครับ  มันเสียเวลาเข้ามาอ่านด้วย
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #153 เมื่อ: 19-06-2008, 11:37 »

ไม่เลยครับ  ที่อ่านมาทั้งหมดมีแต่คนบ่น จ๊ะ อ่ะครับ

ผมก็ว่าไม่เหมือนจ๊ะคนเดิม  จ๊ะตอบมาหลายรอบ  ไม่มีข้อมูลอะไรมาแย้งเลย  ผิดหวังหลายกระทู้แล้วนะครับ  มันเสียเวลาเข้ามาอ่านด้วย


ฮ่าๆๆๆ....จ๊ะแค่ใช้หลักการ 'ลับ-ลวง-พราง' อ่ะคร้า  แหม..จะเอาข้อมูลล้วนๆมาเจรจากับพวกไพร่ทางปัญญา มันจะดีเหรอคร้า?!  หืมมม?
บันทึกการเข้า
sanskritshower
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 245



« ตอบ #154 เมื่อ: 19-06-2008, 11:44 »


ฮ่าๆๆๆ....จ๊ะแค่ใช้หลักการ 'ลับ-ลวง-พราง' อ่ะคร้า  แหม..จะเอาข้อมูลล้วนๆมาเจรจากับพวกไพร่ทางปัญญา มันจะดีเหรอคร้า?!  หืมมม?

มันไม่ลับไม่ลวงไม่พรางอะไรทั้งสิ้นน่ะสิครับ  ยอมรับเถอะครับ  กระทู้นี้ TLE ไม่มีราคาเลย  ผมจะไม่เสียเวลาเข้ามากระทู้นี้แล้วนะ  ถ้าTLE ไม่มีข้อมูลมาแย้ง

อ้อ อย่าลืมเรื่องเงินตกงานด้วยนะครับ
บันทึกการเข้า
ตะวิวา
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 48



« ตอบ #155 เมื่อ: 20-06-2008, 01:18 »

ไม่ได้เข้าเวปมาเสียนาน เพิ่งรู้ว่ามีพวกเหลือบมาอาศัยหาที่เกาะพ่นน้ำลายเยอะเชียว
บันทึกการเข้า

"...ประเทศของเรา ไม่ใช่ประเทศของหนึ่งคนสองคน เป็นประเทศของทุกคน
"เข้าหากัน ไม่เผชิญหน้ากัน แก้ไขปัญหา เพราะปัญหามีอยู่
"ที่เวลาเกิดจะใช้คำว่าบ้าเลือด เวลาคนมีการปฏิบัติรุนแรงมันลืมตัว ลงท้ายเขาไม่รู้ว่าตีกันเพราะอะไร แล้วก็จะแก้ปัญหาอะไร เพียงแต่ว่าจะต้องเอาชนะ แล้วก็ใครจะชนะ ไม่มีทาง อันตรายทั้งนั้น
"มีแต่แพ้ คือต่างคนต่างแพ้ ผู้ที่เผชิญหน้าก็แพ้ แล้วที่แพ้ที่สุดก็คือประเทศชาติ ประชาชน...
"แล้วก็จะมีประโยชน์อะไรที่จะทะนงตัวว่าชนะ เวลาอยู่บนกองซากปรักหักพัง..."

พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ.2535 ในเหตุการณ์ "พฤษภาทมิฬ"
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #156 เมื่อ: 20-06-2008, 11:00 »

ขุด ขุด ขุด  อีกแว๊ววววววว







"คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ฉาวฉึ่งอีกแล้ว


พฤติกรรมฉาวฉึ่งล่าสุดของคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา “ของดี” ของ คมช.
จากหนังสือพิมพ์ประชาทรรศน์
ฉาวโฉ่ “คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา” ทำซะเอง
ควักเงิน สตง. ว่าจ้างบริษัท ออดิต แอนด์ แมเนจเม้นท์ คอนซัลแตนท์ จำกัด
ผูกขาดจัดอบรมสัมมนาข้ามปี ..อย่างไรก็ตาม พบว่าบริษัทออดิต แอนด์
แมเนจเม้นท์ คอนซัลแตนท์ จำกัด ได้เช่าตึกแถวของนาย ทรงเกียรติ เมณฑกา
สามีของคุณหญิงคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา (เป็ด)
และยังปรากฏว่าบริษัทดังกล่าวไม่มีการขึ้นป้าย ไม่มีคนนั่งทำงานจริง
นอกจากนั้น ในเวลาเพียงหนึ่งปี หลังจากคุณหญิงคนนี้กลับมารับตำแหน่งใน
สตง. บริษัทดังกล่าวได้มีกำไรจากการสัมมนาเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า

หนังสือพิมพ์ ประชาทรรศน์ รายวัน ได้รับการร้องเรียนถึงความไม่ชอบมาพากล
ในแวดวงราชการ ของข้าราชการระดับสูงบางคน หลังจากพบว่าการเข้าไปจัด
อบรมให้กับสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ของบริษัท ออดิต แอนด์ แมเนจเม้นท์
คอนซัลแตนท์ จำกัด ที่มีนางพิไล เปี่ยมพงศ์สานต์ เป็นประธานกรรมการ และ
น.ส.ชนิดาภา สุขสะอาด เป็นผู้จัดการ มีประเด็นที่ชวนให้เกิดความสงสัยมากมาย

บริษัทดังกล่าวได้จัดอบรมให้กับ สตง. ไปแล้วประมาณ 9 รุ่น ล่าสุดได้จัด
อบรมเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ถึง 13 ธันวาคม 2550 ที่โรงแรมแกรนด์
เมอร์เคียว ฟอร์จูน และยังมีการอบรมต่อเนื่องไปจนถึงปี 2551 ซึ่งผู้ร้องเรียน
ระบุว่า การจัดอบรมดังกล่าวใช้งบประมาณแผ่นดินส่วนหนึ่ง และงบประมาณ
จากธนาคารโลกอีกส่วนหนึ่ง โดยการจัดอบรมเกี่ยวกับมาตรฐานการจัดทำบัญชี
โดยแหล่งข่าวกล่าวว่าการจัดจ้างบริษัท ออดิตฯ เป็นการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ
ไม่มีการสอบราคาจากผู้ดำเนินธุรกิจลักษณะเดียวกันรายอื่น ซึ่งผู้ร้องเรียน
ตั้งข้อสงสัยว่า มีการจ่ายเงินตอบแทนให้กับผู้ใหญ่บางคนที่มีความใกล้ชิด เพื่อ
ช่วยเหลือให้ได้รับงานมูลค่าสูงดังกล่าว..หรือไม่

ทั้งนี้ ในงานสัมมนาครั้งล่าสุด
มีคุณหญิงจารุวรรณ เป็นประธานเปิดงาน และร่วมถ่ายรูปร่วมกับผู้เข้าร่วมสัมมนา
รวมทั้ง นางพิไล เปี่ยมพงศ์สานต์ ประธานกรรมการบริษัท ออดิตฯ ด้วย

ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบบริษัทออดิต แอนด์ แมเนจเม้นท์ คอนซัลแตนท์ จำกัด
พบว่ามีที่ตั้งอยู่ที่เลขที่ 29 ซอย 40/1 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด
กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ ที่บริเวณข้างเคียงเป็นสถานที่ตั้งโรงพิมพ์กิติวรรณ
ของนายทรงเกียรติ เมณฑกา สามีตามกฎหมายของคุณหญิงจารุวรรณ

และจากการตรวจสอบทะเบียนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้ง 12
แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด ซอยจรัญสนิทวงศ์ 40/1
บ้านเลขที่ 29 ในลำดับที่ 343 และ 344 ปรากฏชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 2 คน คือ
1) นายทรงเกียรติ เมณฑกา และ
2) คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)
และกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน (คตส.) ที่มีการตั้งขึ้นหลังการรัฐประหารและ
ตั้งขึ้นโดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)

ประเด็นดังกล่าวได้ถูกตั้งข้อสงสัยถึงความเกี่ยวพันและผลประโยชน์ทับซ้อนระหว่าง
คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่า สตง. ในฐานะผู้ว่าจ้าง บริษัท ออดิต แอนด์ แมเนจเม้นท์
คอนซัลแตนท์ จำกัดฯ และการที่บริษัทดังกล่าวเช่าอาคารพาณิชย์ของสามีคุณหญิงจารุวรรณ
ที่ตัวคุณหญิงเองก็มีชื่ออยู่ในบ้านหลังดังกล่าวด้วย

อย่างไรก็ตาม บ้านเลขที่ 29 ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 40/1 ดังกล่าว
ไม่พบว่ามีผู้อาศัยอยู่ในบ้าน และไม่พบการขึ้นป้ายบริษัทหรือมีคนทำงานแต่อย่างใด
ส่วนตัวคุณหญิงจารุวรรณ เองพบว่าพักอยู่ที่บ้านอีกหลังหนึ่งในย่านประชาชื่น

นอกจากนี้ จากการแสดงงบดุลของ บริษัท ออดิตฯ ยังพบว่าจากปี 2548 ถึงปี 2549
บริษัทฯ มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 6.4 ล้านบาท เป็น 10.9 ล้านบาท โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้น
เป็นรายได้จากการสัมมนาล้วนๆ จากที่เคยมีรายได้ 1,194,893.45 บาท ในปี 2548
ได้เพิ่มเป็น 5,600,560.76 ในปี 2549 คิดเป็นเงินที่เพิ่มขึ้นกว่า 4.5 ล้านบาท
ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา
ได้กลับเข้ามารับตำแหน่งผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินอีกครั้ง เมื่อ 31 มกราคม 2549
ขณะเดียวกันบริษัทฯ ก็ยังได้ประมาณการรายรับที่จะได้รับจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินในปี 2550
ไว้อีกประมาณ 2.8 ล้านบาท ยังไม่รวมถึงรายได้ที่ยังคงผูกพันต่อไปถึงปี 2551 อีกด้วย"
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #157 เมื่อ: 23-06-2008, 15:20 »

ข่าวดีจ้า...ข่าวดี


"ชงคดีคฤหาสน์หญิงเป็ดเข้าสภา บีบชี้แจงข้อกังขาร่ำรวยผิดปกติ


กลุ่มต่อต้านคอร์รัปชั่นพึ่งกลไกรัฐสภา ง้างปาก “เป็ดดื้อ” แจงข้อกังขาร่ำรวยผิดปกติ สร้างบ้านหรู 50 ล้าน พร้อมอีกสารพัดข้อสงสัยของสังคม คาดส่งหนังสือร้องเรียนถึงมือ “ชัย ชิดชอบ” เร็วๆ นี้ พร้อมระบุที่คุณหญิงออกมาท้าขายบ้านให้ 40 ล้าน ค้ากำไรเกินควร หากสร้าง 4 ล้านจริงอย่างที่อ้าง พร้อมจ่ายให้เลย 7 ล้านบาท
จากกรณีที่กลุ่มติดตามการปฏิรูปการเมืองและต่อต้านการคอร์รัปชั่น ได้เข้าร้องเรียนต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้มีการตรวจสอบการก่อสร้างคฤหาสน์หรูของ คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าร่ำรวยผิดปกติ แต่ทั้ง ป.ป.ช. และตัวคุณหญิงเองก็กลับเงียบเฉยนั้น

ในเวลาต่อมาทางกลุ่มได้ยื่นหนังสืออีกครั้งที่ สตง. เพื่อเรียกร้องให้ คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ออกมาชี้แจงเรื่องของคฤหาสน์ที่ จ.นนทบุรี และอีกหลายเรื่องที่อยู่ในความสงสัยของสังคม แต่ก็ยังไม่ได้รับความสนใจ มีเพียงคำให้สัมภาษณ์ที่พยายามเบี่ยงเบนประเด็นเท่านั้น

ล่าสุดนายวันชัย จงจรูญหิรัญ หัวหน้ากลุ่มติดตามการปฏิรูปการเมืองและต่อต้านการคอร์รัปชั่น เปิดเผยว่า ได้มีการหารือกับสมาชิกกลุ่มถึงท่าทีเฉยเมยเป็นทองไม่รู้ร้อนดังกล่าว สมาชิกในกลุ่มตกลงที่จะดำเนินการยื่นหนังสือพร้อมข้อมูลเรื่องดังกล่าวผ่าน นายประชา ประสพดี ส.ส.พรรคพลังประชาชน ให้นำเรื่องเข้าสู่ระบบรัฐสภา เพื่อหาวิธีดำเนินการตรวจสอบต่อไป

ด้าน นายประชา ประสพดี ส.ส.พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ในเรื่องดังกล่าวนั้นได้มีการประสานกับทางกลุ่มของนายวันชัย ว่าจะรับหนังสือร้องเรียนเรื่องคุณหญิงจารุวรรณ ให้มีการดำเนินการตรวจสอบกรณีมีความร่ำรวยผิดปกติ โดยตนจะนำหนังสือดังกล่าวไปยื่นให้กับ

นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎรต่อไปเพื่อให้ทางรัฐสภารับทราบในเรื่องดังกล่าว

ส่วนประธานสภาจะมีความเห็นให้ฝ่ายไหนรับผิดชอบเรื่องนี้นั้นคงต้องรอการตัดสินใจของประธานสภาฯ อีกทีหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถทำความกระจ่างและให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่ายได้เป็นอย่างดี โดยคาดว่าทางกลุ่มของนายวันชัย น่าจะเดินทางเข้ามายื่นหนังสือให้กับตนในวันอังคารที่จะถึงนี้

ทั้งนี้กลุ่มของนายวันชัย ได้เคยออกหนังสือชี้แจงต่อประชาชนและสาธารชนต่อความดื้อด้านของคุณหญิงจารุวรรณ ไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยระบุว่า

1.ในเรื่องบ้านและที่ดินที่คุณหญิงอ้างว่า คุณหญิงใช้เงินค่าก่อสร้างไปประมาณ 4 ล้านบาท โดยกล่าวว่าบ้านหลังดังกล่าว มีราคาไม่ถึง 50 ล้านบาท ตามที่วิศวกรที่เรารู้จักประเมินให้ และท้าทายว่าจะขายบ้านให้ในราคา 40 ล้านบาท นั้น ทางกลุ่มขอเรียนให้ทราบว่า กลุ่มของเราเป็นประชาชนที่ทำมาหากิน ในภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง เช่นนี้ คงไม่มีเงินจำนวนขนาดนั้นไปซื้อคฤหาสน์หลังดังกล่าวจากคุณหญิงได้ แต่หากคุณหญิงยืนยันว่าคุณหญิงใช้เงินสร้างบ้านหลังดังกล่าวในราคา 4 ล้านบาทจริง เราใคร่ขอซื้อในราคา 7 ล้านบาท ซึ่งเราพอจะเรี่ยไรจากสมาชิกของกลุ่มได้ โดยให้กำไรคุณหญิงถึงร้อยละ 75 ซึ่งจัดว่าเป็นกำไรเกินสมควรด้วยซ้ำ แต่ราคา 40 ล้านบาทที่คุณหญิงเสนอนั้น จะเป็นกำไรถึง 10 เท่า หรือ 100 % ซึ่งเราเห็นว่ามากเกินสมควร ไปจนอยู่ในระดับที่ยอมรับไม่ได้ เข้าขั้น “หน้าเลือด” ซึ่งจะเป็นผลลบต่อชื่อเสียงและเกียรติยศของคุณหญิงได้ ทางกลุ่มเราจะไม่ยอมทำลายชื่อเสียงของคุณหญิงด้วยวิธีนี้อย่างเด็ดขาด

2.ในเรื่องที่ดินบริเวณใกล้เคียงกันซึ่งบุตรชายคุณหญิงซื้อมา ซึ่งไม่มีทางที่บุตรชายของคุณหญิงจะมีเงินมาซื้อที่ดินผืนดังกล่าวด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเองได้ คุณหญิงไม่ตอบคำถามนี้เลย เราสงสัยว่านี่คือการซุกที่ดิน เป็นตัวแทนถือทรัพย์สินแทนคุณหญิงและสามี เพื่อเหตุผลในการปกปิดทรัพย์สินที่จะต้องแสดงต่อคณะกรรมการ ปปช. กราบเรียนคุณหญิงได้กรุณาตอบคำถามนี้ต่อสังคมด้วย

3.เรื่องของการนำรถยนต์ประจำตำแหน่งที่ให้ไว้เพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ทางราชการเท่านั้น ไปใช้ในเรื่องส่วนตัวคุณหญิงก็เลี่ยงที่จะไม่ตอบคำถามนี้เลย เราขอกราบเรียนให้คุณหญิงได้โปรดกรุณาตอบคำถามในประเด็นนี้ให้กระจ่างด้วย

4.ในเรื่องที่คุณหญิงกล่าวอ้างก็คือคุณหญิงเล่าว่ามีบุคคลที่คุณหญิงไม่เปิดเผยชื่อ ได้นำเงินจำนวน 100 ล้านบาท มาให้เพื่อพยายามติดสินบนคุณหญิง ซึ่งคุณหญิงปกปิดไม่แจ้งความหรือดำเนินการใดๆกับบุคคลดังกล่าว ซึ่งเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเป้นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมาตรา 165 ซึ่งคุณหญิงก็มิได้ตอบคำถาม หรือเปิดเผย หรือดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิด หากคุณหญิงยังเพิกเฉยไม่ดำเนินการใดๆ เราต้องแจ้งความดำเนินคดีกับคุณหญิง เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดีของเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้มีหน้าที่ปกป้องและปราบปรามการทุจริตต่อไป

5.ในเรื่องอื่นๆที่คุณหญิงให้สัมภาษณ์ต่อสาธารณชนว่าจะดำเนินการทางกฎหมายเพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษในทันทีโดยปล่อยให้เวลาเนิ่นมาเกือบ 2 ปี ตั้งแต่คุณหญิงได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการของ คตส.

โดยเฉพาะเรื่องคดีเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด CTX นั้น การณ์กลับปรากฎว่า ไม่มีการส่งฟ้องใดๆมาจนกระทั้งบัดนี้ ตามสำนวนชาวบ้านคงจะต้องบอกว่า “ท่าดีทีเหลว” ทำให้เราเข้าใจว่าคุณหญิงได้หลอกลวงโป้ปดมดเท็จต่อสาธารณชนเพื่อสร้างภาพให้คุณหญิงดูดีตลอดที่ คมช. แต่งตั้งคุณหญิงให้ดำรงตำแหน่งใน คตส. เท่านั้นซึ่งบุคคลที่ดำรงตำแหน่งหน้าที่ราชการในระดับสูงต้องดำรงตนให้สาธารณชนเชื่อถือ ในความซื่อสัตย์สุจริตและเที่ยงธรรมเช่นคุณหญิง ไม่ควรกระทำ เพราะเป็นการทำลายเกียรติยศของตำแหน่งหน้าที่ราชการที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เราจึงขอเรียกร้องให้คุณหญิง ได้แสดงความรับผิดชอบในการกระทำครั้งนี้ของคุณหญิงด้วย"
บันทึกการเข้า
mokasak
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1


« ตอบ #158 เมื่อ: 23-06-2008, 17:10 »

จะรอดู แล้วคงจะได้รู้กันเสียที
จะได้ไม่ต้องพล่ามกันให้มากความ
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #159 เมื่อ: 24-06-2008, 09:33 »

จะรอดู แล้วคงจะได้รู้กันเสียที
จะได้ไม่ต้องพล่ามกันให้มากความ


เชิญดูหลักฐานและรายละเอียดกับตาท่านเองได้เลยที่  http://prachachonthai.com/www/index.php?option=com_content&task=view&id=120&Itemid=1 


คำเตือน: ผู้ทีเป็นโรคหัวใจลุ่มหลงในลัทธิแป๊ะลิ้ม..ระวังฟุบคาหน้าจอฯเด้อคร้าเด้อ
บันทึกการเข้า
hitman
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 24


« ตอบ #160 เมื่อ: 24-06-2008, 09:46 »

ให้ไอ้แม้วติดคุกจนตาย   

แล้วไปเกิดเป็นลูกหมาอีกห้าร้อยชาติ 


ไอ้เจ้าของกระทู้ก็ไม่สามารถเห้นพรรคพวกไอ้แม้วฟ้องคุณหญิงให้มีความผิดได้หรอก



ไอ้ขี้ครอก
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #161 เมื่อ: 24-06-2008, 13:54 »

ให้ไอ้แม้วติดคุกจนตาย   

แล้วไปเกิดเป็นลูกหมาอีกห้าร้อยชาติ 

ไอ้เจ้าของกระทู้ก็ไม่สามารถเห้นพรรคพวกไอ้แม้วฟ้องคุณหญิงให้มีความผิดได้หรอก

ไอ้ขี้ครอก


หลั่น ลั๊น ลา....วันนี้อากาศร้อนแดดแรงเหมาะสำหรับการเผาม๊อบพันธมารจริงๆน๊ะเนี่ย....ว้าววววววววว








"จี้ตั้งกรรมการสอบวินัย’หญิงเป็ด’หอบเงินแสนหนุนพันธมิตรป่วน

 
          “นักกฎหมาย-นักวิชาการ” รุมประณาม “จารุวรรณ” ทำตัวไม่เหมาะสม วางตัวไม่เป็นกลางชัดเจน เป็นข้าราชการแต่กลับรับอาสาเป็นตัวกลางส่งเงินแสนหนุนม็อบพันธมิตรฯ ขับไล่รัฐบาล สงสัยจะเป็นเงินตัวเองหรือเปล่า เพราะเหตุผลฟังไม่ขึ้น ชี้เบื้องต้นเข้าข่ายผิดวินัย แถมยังผิดทั้งคุณธรรม-จริยธรรม จี้นายกฯ ในฐานะผู้บังคับบัญชาเร่งตั้งกรรมการสอบสวน
       จากกรณีที่ปรากฏชัดแจ้งว่า คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ได้นำเงิน 1 แสนบาท สนับสนุนการชุมนุมขับไล่รัฐบาลของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยอ้างว่ามีผู้ฝากเงินจำนวนดังกล่าวมา เนื่องจากไม่สะดวกที่จะนำไปมอบด้วยตัวเองนั้น
   
       นายคำนวณ ชโลปถัมภ์ อดีตนายกสภาทนายความ กล่าวถึงพฤติกรรมของคุณหญิงจารุวรรณดังกล่าวว่าไม่เหมาะสมในฐานะที่เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เนื่องจากข้าราชการต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง การที่ผู้ว่าการ สตง. เป็นตัวกลางในการยื่นมือเข้าสนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝ่ายที่ประกาศชัดว่าเป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐบาล เป็นการไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง
 
     นอกจากนี้หากพิจารณาในด้านระเบียบวินัยของข้าราชการแล้ว อาจยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน แต่ในเมื่อคุณหญิงจารุวรรณยอมรับข้อสงสัยดังกล่าวว่า มีผู้ไม่ประสงค์ออกนามฝากเงินบริจาคแก่กลุ่มพันธมิตรฯ ผ่านมายังตนเองจริง นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้บังคับบัญชา ก็สามารถตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงได้ ตามหลักเกณฑ์ระเบียบข้อบังคับของข้าราชการ

      ส่วนกรณีที่ คตส. แข็งกร้าวไม่ดำเนินตามขั้นตอนทางกฎหมายภายหลังกองปราบปรามออกหมายเรียกให้ คตส. รับทราบข้อกล่าวหานั้น อดีตนายกสภาทนายความกล่าวว่า คตส. ถือเป็นบุคคลธรรมดา ไม่มีเอกสิทธิ์ใดๆ ที่จะไม่ทำตามกฎหมาย ดังนั้นควรดำเนินตามกระบวนการยุติธรรม ตามตัวบทกฎหมาย
 
     “ตัวบทกฎหมาย เมื่อใครถูกเป็นผู้ต้องหาทางอาญา พนักงานสอบสวนก็มีหน้าที่เชิญตัวไปเพื่อให้รับทราบข้อกล่าวหา ถ้าไม่มาก็ต้องดำเนินการขออำนาจศาลเพื่อให้ออกหมายจับ ผมอยากจะบอกว่า คตส.เป็นประชาชนธรรมดาคนหนึ่ง ไม่มีเอกสิทธิ์พิเศษที่จะไม่ทำตามกฎหมาย ฉะนั้นควรเดินตามกรอบกฎหมายน่าจะดีกว่า ไม่ว่าข้าราชการตัวเล็กหรือตัวใหญ่ที่อยู่ในการปกครองระบอบประชาธิปไตยก็ต้องทำตัวตามกฎหมาย” นายคำนวณกล่าว
   
      ด้าน ผศ.จรัล ดิษฐาอภิชัย ประธานคณะกรรมการประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 (คปพร.) กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่าเงินจำนวน 1 แสนบาท ที่คุณหญิงจารุวรรณ เป็นคนกลางมอบสนับสนุนกิจกรรมของกลุ่มพันธมิตรฯ นั้น อาจเป็นเงินส่วนตัวของคุณหญิง หรือเงินที่มีการเรี่ยไรมาจากเจ้าหน้าที่ สตง. ก็เป็นได้ แต่คุณหญิงกลับอ้างว่าเป็นเงินของผู้ไม่ประสงค์ที่จะออกนาม ถือเป็นแผนที่แนบเนียนที่จะได้ไม่สามารถเอาผิดทางกฎหมายได้

     พฤติกรรมของผู้ว่าการ สตง. ถือว่ามีความผิดวินัยราชการ มีเป้าหมายในการขับไล่รัฐบาลชัดเจน และยังไม่มีการกล่าวตักเตือนข้าราชการ สตง.ที่ไปขึ้นเวทีพันธมิตรฯ
 
     นอกจากนี้ยังขัดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่กำหนดว่าห้ามข้าราชการหรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมารับของขวัญ หรือสิ่งของที่มีมูลค่าเกิน 3 พันบาทขึ้นไป แม้จะเป็นผู้อื่นฝากมาก็ตาม  อย่างไรก็ตามผศ.จรัลกล่าวเสริมว่า วุฒิสภาต้องทำการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินเนื่องจากเป็นหน่วยงานอิสระ 
 
     “ผู้ไม่ประสงค์จะออกนามไม่จำเป็นต้องนำเงินฝากผ่านคนระดับคุณหญิงจารุวรรณ ก็ได้ ให้ญาติพี่น้องที่ไหนนำมามอบให้พันธมิตรฯ น่าจะดีกว่า ทำอย่างนี้มันแนบเนียน ตรวจสอบลำบาก ตอนนี้มีคนต้องการที่จะมอบเงินช่วยเหลือให้กลับกลุ่มพันธมิตรฯ แต่มักทำการฝากผ่านกันจากพวกนายทุน อย่างเช่น กลุ่มคลองเตยประชาธิปไตย ที่นำเงินมาบริจาคนั้น ใครๆ ก็ทราบกันว่าคนในชุมชนนั้นฐานะค่อนข้างยากจน แล้วเงินพวกนั้นมาจากการเรี่ยไรของชาวบ้านอย่างนั้นหรือ มันฟังไม่ขึ้น” ผศ.จรัล กล่าว

    ด้าน นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เรื่องเงินบริจาค ไม่มีตัวกฎหมายข้อใดออกมาระบุว่าการให้เงินบริจาคสนับสนุนเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย

     แต่ตนมองว่าการที่คุณหญิงอยู่ในตำแหน่งของผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) นั้น มันเป็นเรื่องของการที่ควรคำนึงถึงจริยธรรม และคุณธรรมมากกว่า
 นายนรินท์พงศ์ กล่าวว่า ส่วนการกระทำที่แสดงออกมาของคุณหญิงจารุวรรณ มันมีความชัดเจนเรื่องการเลือกข้าง มันเหมาะสมไหม ตอนนี้ไม่ใช่ประเด็นที่จะเอาผิดทางกฎหมาย แต่เป็นเรื่องของความเหมาะสมมากกว่า

     “ตอนนี้ผมฟันธงได้ว่าทางคุณหญิงให้การสนับสนุนกลุ่มพันธมิตรฯ อย่างแน่นอน เพราะเราต้องเท้าความกลับไปว่า คตส. เกิดขึ้นจากการปฏิวัติรัฐประหาร”
 
      ส่วนกรณีที่ คตส. ไม่ไปตามหมายเรียกของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น มองว่าเป็นเรื่องของสิทธิที่ประชาชนพึงกระทำได้ แต่ถ้าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการออกหมายจับเมื่อไรนั้น ก็คงที่จะยากในการปฏิเสธ เพราะทางตำรวจก็ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย แต่ยังห่วงว่า จะมีการสร้างกระแสว่าตำรวจเลือกข้าง เลือกปฏิบัติ เพราะสำนวนที่ทาง คสต.ร้องเรียนก็มีไม่เห็นจะปฏิบัติ จะกลายเป็นประเด็นนี้ไป"
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #162 เมื่อ: 03-07-2008, 14:55 »

เอาไปอีกดอกน๊ะเจ๊เป็ด






"กลุ่ม PRAC ยื่นหลักฐานเพิ่มเติมเอาผิดหญิงเป็ด

ที่มา เว็บไซต์ประชาชนไทย
3 กรกฎาคม 2551

ตามที่กลุ่มติดตามการปฏิรูปการเมืองและต่อต้านการคอรัปชั่นได้แสดงหลักฐานและแถลงการณ์เพื่อถามข้อเท็จจริงในพฤติกรรมของคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา เพื่อขอร้องให้คุณหญิงได้กรุณาตอบข้อสงสัยที่เราได้ตั้งประเด็นสอบถาม ซึ่งได้รับตอบเพียงบางประเด็น และบางส่วนเป็นการตอบไม่ตรงคำถาม ยิ่งซ้ำร้ายไปกว่านั้น บางคำตอบเป็นการกล่าวเท็จต่อสาธารณะชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราอยากตั้งข้อสังเกต กับบทความที่ถอดมาจากการคำสัมภาษณ์ของคุณหญิงต่อผู้สื่อข่าวลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ข่าวสด ฉบับ 25 มิถุนายน 2551 ดังนี้

1. ในเรื่องบ้านและที่ดิน ซึ่งเราได้ชี้แจงแล้วว่า เราไม่เคยติดใจเรื่องที่ดินที่เป็นที่ตั้งของตัวบ้านหลังดังกล่าว แต่ติดใจในเรื่องราคาค่าก่อสร้างบ้านจนแล้วเสร็จ ซึ่งคุณหญิงกล่าวเท็จต่อสังคมมาตลอด ในบทสัมภาษณ์ของคุณหญิงดังกล่าวข้างต้น คุณหญิงก็ยังยืนยังราคาค่าก่อสร้างว่าเป็นเพียง 4.4 ล้านบาท แต่ในบทความเดียวกันคุณหญิงระบุว่าบ้านหลังดังกล่าวพื้นที่ใช้สอยถึง 1,000 ตารางเมตร เมื่อคำนวณราคาต่อตารางเมตรจะตกตารางเมตรละ 4,400 บาท นั่นเป็นราคาที่หากแม้ว่าคุณหญิงมีบริษัทรับเหมาก่อสร้างเอง ก็ไม่สามารถสร้างในราคานี้ได้

ที่ผ่านมาเราตั้งประเด็นในการถามเรื่องนี้กับคุณหญิงว่า คุณหญิงโกหกต่อสังคมในเรื่องราคาค่าก่อสร้างบ้านหรือไม่ ซึ่งจะนำมาซึ่งข้อกังขาว่า คุณหญิงร่ำรวยผิดปกติโดยไม่สามารถแสดงที่มาที่ไปของทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้ และกำลังพยายามปกปิดมูลค่าที่แท้จริงของทรัพย์สินของคุณหญิง เราไม่ได้ตั้งคำถามกับคุณหญิงว่าบ้านดังกล่าวราคาถึง 50 ล้านบาทหรือไม่ เพราะฉะนั้น ขอได้โปรดอย่างเบี่ยงเบนประเด็น

2. ในเรื่องเหตุผลที่คุณหญิงต้องสร้างบ้านใหญ่โตจนอาจเรียกได้ว่าเป็น “คฤหาสน์” นั้น คุณหญิงได้ให้สัมภาษณ์ในบทความข้างต้นว่าเป็นการสร้างบ้านเพื่อให้น้องสาว 2 คนที่ยังไม่ได้แต่งงานมาอยู่ด้วย รวมถึงให้ญาติเข้ามาพักอาศัยด้วยนั้น

จากข้อมูลที่เรามีอยู่ เราพบว่าน้องสาวทั้ง 2 คนของคุณหญิงมีชื่อเป็นเจ้าของที่ดินที่ติดกับที่ดินที่กำลังก่อสร้างแปลงนี้ของคุณหญิง จำนวน 2 แปลง ซึ่งหากน้องสาวทั้งสองคนจะมาอาศัยอยู่กับคุณหญิงก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องซื้อที่ดินดังกล่าวไว้ ทางเราเห็นว่าคุณหญิงกำลังกล่าวเท็จเพื่อกลบเกลื่อนอัตตาความต้องการที่จะอวดศักดาบารมีของคุญหญิงที่ได้ลาภยศมาจากการร่วมมือกับคณะ คปค. ในการทำรัฐประหารและทำลายนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามในช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้คุณหญิงยังได้กล่าวคุณหญิงเป็นซูสีไทเฮาในบ้าน ต้องมีคนมาห้อมล้อมเพื่อเสริมบารมี ซึ่งคงเป็นความปรารถนาลึกๆในใจของคุณหญิง ซึ่งมนุษย์ปุถุชนทุกคนก็มีกิเสสตัณหาด้วยกันทั้งสิ้น เราเข้าใจคุณหญิงในเรื่องนี้

แต่เราอยากจะตั้งข้อสังเกตว่า ซูสีไทเฮาในประวัติศาสตร์จีน มีกำเนิดเป็นสามัญชน โดยมีคำทายโบราณว่าจะมีหญิงคนหนึ่งซึ่งเป็น “กาลีบ้านกาลีเมือง” จะมีอำนาจเหนือองค์จักรพรรดิ์ และจะทำให้ราชวงศ์ชิงล่มสลาย ซึ่งต่อมาก็เป็นจริง ซูสีไทเฮาโหดร้าย ผิดทำนองคลองธรรม ยึดอำนาจการปกครองไว้โดยผิดจารีตประเพณีและกฎหมายบ้านเมือง โดยจับองค์จักรพรรดิกักขังไว้และส่งยาพิษไปให้เสวยจนเสด็จสวรรคต เข่นฆ่าผู้คนผู้บริสุทธิ์มากมาย สุรุยสุร่ายเผาผลาญเงินในภาษีจำนวนมหาศาลที่อาจจะสร้างกองทัพเรือได้ทั้งกองทัพไปสร้างพระราชวังฤดูร้อนอี้เหอหยวนเพื่อตอบสนองความต้องการของตนเองโดยไม่สนใจประเทศชาติและประชาชน ซ้ำร้ายกว่านั้นยังเป็นผู้ที่ทำให้ระบอบการปกครองแบบสมบรูณาญาสิทธิราชแบบโอรสสวรรค์ของจีนที่มีอายุยาวนานหลายพันปีของจีนต้องล่มสลายเปลี่ยนเป็นสาธารณรัฐมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้ จึงนับว่าคุณหญิงช่างเลือกบุคคลที่เป็นแบบอย่างได้อย่างน่าชื่นชมมาก

มาจนกระทั่งถึงวันนี้ ต้องยอมรับว่า เราผิดหวังกับคุณหญิงมาก เสียดายความรู้สึกที่เคยชื่นชมและเชื่อมั่น บุคคลที่มีคุณธรรมจริยธรรม ตามที่คุณหญิงและพรรคพวกได้พร่ำสอนประชาชนมาตลอดเวลานั้น ควรจะต้อง เข้มงวดต่อตนเอง แต่ผ่อนปรนต่อผู้อื่น แต่คุณหญิงกลับประพฤติตรงข้าม คุณหญิงตรวจสอบผู้อื่นโดยใช้มาตรฐานที่เข้มงวดจนหาคนดีคนบริสุทธิ์ไม่ได้ แต่กับตนเองคุณหญิงกลับใช้มาตรฐานที่ปล่อยปละละเลยจนย่ามใจว่าตัวเองทำอย่างไรก็ไม่ผิด เพราะไม่มีใครจะมาตรวจสอบได้ ด้วยเหตุนี้ เราจึงต้องขอตรวจสอบคุณหญิงอย่างจริงจัง และจนถึงที่สุด เพื่อให้สังคมและประชาชนได้รับความยุติธรรมที่มีมาตรฐานเดียวกัน และมีความเสมอภาคภายใต้กฎหมายเดียวกันอย่างแท้จริง

จึงเรียนมาเพื่อทราบ

กลุ่มติดตามการปฏิรูปการเมืองและต่อต้านการคอรัปชั่น"
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #163 เมื่อ: 03-07-2008, 18:10 »

ลำบากผมต้องไปหาคอลัมน์ในข่าวสดวันที่ 25 มิถุนา ที่อ้างถึงมาดูอีก
อ่านดูแล้วก็ยิ่งเห็นว่า เรื่องบ้านเป็นการมั่วกล่าวหา และคุณหญิงก็ตอบ
มีความชัดเจน มีที่มาที่ไปของค่าสร้างบ้าน

ขนาด กลุ่มติดตามฯ ที่เป็นคนกล่าวหาเองตอนนี้ยังกลับลำเลิกอ้างถึง
ค่าก่อสร้าง 50 ล้านบาท (แต่ยังมีหน้าบอกว่าคุณหญิงเบี่ยงประเด็น Mr. Green)

ในบทสัมภาษณ์คุณหญิงระบุว่า พระครูวัดเทพศิรินทร์ มาลงเสาเอกให้
ตั้งแต่ปี 45 ส่วนค่าใช้จ่ายจนแล้วเสร็จ ก็ประเมินไว้ที่ 8-9 ล้านบาท
ที่น่าสนใจคือคุณหญิงเล่าถึงวิธีสะสมทุนผ่านการจำนอง+ผ่อนซื้อที่ดิน
น่าจะเป็นการตอบคำถามที่ว่าคุญหญิงรวยมาจากไหนได้ระดับหนึ่ง

คุณหญิงย้ำ 2 หนว่าเสร็จเรื่อง คตส.คงต้องตอบโต้เรียกค่าเสียหายคืน

(บางทีกลุ่มติดตามฯ อาจต้องสมทบทุนค่าสร้างบ้านให้คุณหญิงก็ได้)
อยากสงสัยกันดีนักว่าคุณหญิงเอาเงินมาจากไหน 

ปล. ไหนๆ ก็ลงทุนค้นแล้ว เอาลงให้สมาชิกเสรีไทยอ่านด้วยก็แล้วกัน

------------------------------------------------------------------------------------------------------------

คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา "รวยผิดปกติ" ...มันดูถูกกันเกินไป
ปัญญภัทร ศรีดี /สกล ทองหมี สัมภาษณ์

ข่าวสดรายวัน วันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6418
http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dNVEkxTURZMU1RPT0=&sectionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09DMHdOaTB5TlE9PQ==

ควบตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ
หรือ คตส. ตำแหน่งหลังคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) แต่งตั้งขึ้นมาเพื่อตรวจสอบการทุจริตในรัฐบาลทักษิณ
ที่จะหมดวาระในวันที่ 30 มิ.ย. จากที่เคยเป็นผู้ตรวจสอบวันนี้เลยกลายเป็นคนโดนตรวจสอบ

บ้านย่านปากเกร็ด บนเนื้อที่ 1 ไร่ ที่อยู่ระหว่างต่อเติมกลายเป็นปมให้โดนกล่าวหา "ร่ำรวยผิดปกติ" และคณะกรรมการ
ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รับไว้ตรวจสอบ


ที่มาของบ้านย่านปากเกร็ดที่เป็นข่าว

ที่ดินตรงนี้เป็นของสามี ซื้อไว้ตั้งแต่จบจากเมืองนอกกลับมาเมืองไทยใหม่ๆ ตั้งแต่ปี 2505 ไม่มีหลักฐานเอกสาร
ซื้อไว้เท่าไหร่ แต่สามีพูดว่าซื้อมา 1 หมื่นบาท รวมค่าใช้จ่ายอะไรด้วยเบ็ดเสร็จก็คงเกือบ 2 หมื่นบาท เรายึดมาตลอด
ว่าที่ดินนี้ได้มา 1 หมื่นบาท

ทิ้งเอาไว้นาน จนจะแต่งงานปี 2517 สามีกับดิฉันไปดูที่เพื่อสร้างบ้าน พอไปดูก็คิดว่าไม่เอาดีกว่าเพราะตอนนั้นที่ดิน
ยังเป็นป่า น่ากลัว มีโรงงานเลี้ยงไก่ โรงงานทอผ้า ไม่มีคนอยู่ เปลี่ยวมาก พอมืดต้องรีบกลับแล้ว เลยทิ้งไว้อย่างนั้น
จนลืม จนมาคิดว่าเราอายุมากแล้ว 60 กว่าแล้ว สามีก็กว่า 70 ปีแล้ว คิดว่าควรสร้างบ้าน มีหลักแหล่งให้เรียบร้อย


เจ้าของที่ดินเดิมที่ไปซื้อ

เราซื้อต่อจากหมอศรี ชื่อเต็มเป็นใครจำไม่ได้แล้ว แต่หมอศรีเป็นที่รู้จักกันดี เพราะเป็นเจ้าของที่ดินมากมาย
ทั้งโรงเรียนสารสาสน์วิทยา นารีอุปถัมภ์ ยอแซฟอุปถัมภ์ ต่างก็ซื้อที่ดินจากหมอศรีทั้งนั้น ตอนซื้อเรามีโฉนดเรียบร้อย


บ้านหลังนี้กลายเป็นประเด็นโจมตีว่าคุณหญิงร่ำรวยผิดปกติ

ที่บอกว่าดิฉันร่ำรวยผิดปกติก็ดูถูกเกินไปหน่อย ทำงานมา 40-50 ปี และสมาชิกในครอบครัวทั้ง 5 คน ก็ทำงาน
มีเงินเดือนมีรายได้ทั้งหมด รวมกันคนละหมื่นเดือนหนึ่งเรามี 5 หมื่น ผ่อนสบายๆ และครอบครัวเราไม่ได้อีลุ่ยฉุยแฉก
ดิฉันค่อนข้างมีแบบแผนจะกินจะอยู่ มีบ้างบางโอกาสที่จัดเลี้ยงญาติพี่น้อง โต๊ะจีนดีๆ หมูหันหรือเป็ดปักกิ่งซึ่งต้อง
เพิ่ม 2 ตัว เพราะครอบครัวเรากินจุทุกคน แต่ญาติพี่น้องก็มีฐานะไม่ได้ยากจนอะไร บางคนทำงานกับองค์กรระหว่าง
ประเทศ รับเงินเป็นดอลลาร์ด้วยซ้ำ

ที่กล่าวหากันอย่างนี้มันดูถูกกันเกินไป ฝากเรียนไปถึงนายวันชัย จงจรูญหิรัณย์ แกนนำกลุ่มติดตามการปฏิรูปการเมือง
และต่อต้านคอร์รัปชั่นหรือใครที่ ท่านกล่าวหาโดยไม่มีข้อเท็จจริงใดๆ เลย เสร็จธุระคตส.เราคงต้องตอบโต้คืน
เรียกค่าเสียหายคืน เราคงไม่ปล่อยให้ท่านมารังแกง่ายๆ แบบนี้ เพื่อเป็นแบบอย่างไม่ให้ไปรังแกใครอีก





มีการกล่าวหาใช้วัสดุก่อสร้างราคาแพงมาก

เราใช้หลักบริหารเงินตัวเองเหมือนเงินหลวง บริหารเงินหลวงเหมือนเงินตัวเอง ใช้ความรู้ที่เคยทำงานตรวจสอบ
ประกอบกับมีลูกเป็นวิศวกรก็มาช่วยกันดู ช่วยกันประเมิน คนรับเหมาต้องช่วยประเมินค่าใช้จ่าย การก่อสร้างเรามี
ใบบีโอคิวแสดงค่าใช้จ่ายทั้งหมดว่าใช้อุปกรณ์ทำเพดาน หลังคา สุขภัณฑ์ไปเท่าไหร่ บางอย่างเราซื้อเองเพราะ
ประเมินสามารถซื้อได้ถูกกว่า เช่น ปูนซีเมนต์ แต่อย่ามากล่าวหาว่าใช้ตำแหน่งหน้าที่กับเอกชน เพราะเราผจญ
กับบทเรียนความไม่ยุติธรรมมาแล้ว

เราได้ราคาถูก เพราะไม่มีนอกในและทำไปเรื่อยๆ ไม่เร่งรีบ ถ้าไม่เชื่อก็แล้วไปเพราะดิฉันไม่ได้ต้องการให้ใครเชื่อ
แต่ที่นายวันชัยบอกว่าบ้าน 50 ล้านบาท ดิฉันขายให้ 40 ล้านบาท เอาหรือไม่ ให้กำไรถึง 10 ล้านให้มาซื้อ
ตอนนี้เลย ถ้าเป็นนายวันชัย หรือกลุ่มนี้มาจะขายให้ 35 ล้านบาท แต่ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าเป็นเงินคุณเอง
ไม่ใช่เงินที่ไปรับจ๊อบใครมา


คนกล่าวหาว่าบ้านใหญ่เป็นคฤหาสน์

บ้านหลังนี้ออกแบบมีหลายห้อง ห้องนอน 8 ห้อง ขนาด 4 คูณ 4 เมตร ห้องน้ำ 8 ห้อง ห้องเยอะก็มองว่าเป็นคฤหาสน์
เป็นห้องไม่ใหญ่มาก ที่มีหลายห้อง เพราะคิดว่าจะให้น้องสาว 2 คน ที่ยังไม่ได้แต่งงานมาอยู่ด้วย แม่บ้าน หรือแขกไป
ใครมาก็สามารถมาพักได้ แบ่งหลายห้องให้ญาติมาอยู่ด้วย ดิฉันเป็นซูสีไทเฮาในบ้าน จะเรียกน้องๆ มาที่บ้านในเทศกาลสำคัญ

เสนอราคาก่อสร้างไว้ 4.4 ล้านบาท ตั้งแต่ของยังไม่แพง และตกแต่งเพิ่มเติมอีก คิดว่า 2-3 ล้านก็น่าจะอยู่ ส่วนสระว่ายน้ำ
ในบ้านไม่มีแน่นอน เราไม่ฟุ้งเฟ้อ พื้นที่ 1 ไร่ สร้างบ้านก็เต็มแล้ว ที่บอกมีห้องใต้ดินก็ไม่จริง เป็นเพียงลงลึกจากตัวบ้าน
ไปยังใต้ดินเพียง 1-2 เมตรเท่านั้น

หลังคาบ้านหรือรั้วบ้านก็ไม่ได้แพง 3 ล้านอย่างที่บอก หลังคาที่เห็นเป็นสีเหลืองดูไกลๆ อาจเข้าใจผิดคิดว่าใช้ของแพง
ที่จริงเป็นหลังคาสีเหลืองทองอุไรธรรมดาเท่านั้น รั้วบ้านตอนนี้ก็ยังไม่มี

รูปบ้านที่ไปถ่ายกันมาก็มีการเบี่ยงเบน ทำให้ดูเหมือนบ้านมี 4 ชั้น โดยถ่ายจากระยะไกล ถ่ายเทียบกับตึกพาณิชย์ที่อยู่ใกล้ๆ
ความจริงบ้านมี 2 ชั้นเท่านั้น พื้นที่ 1,000 ตร.ม. สร้างไปได้ 45% ไม่ได้กำหนดต้องเสร็จตอนไหน บ้านเสร็จเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น
เพราะปัจจุบันเราก็มีบ้านอยู่แล้ว


ออกแบบบ้านไว้อย่างไร

บ้านใหม่ที่กำลังสร้างต้องชมตัวเองว่ามีหัวอาร์ติสต์ เมื่อได้แบบดิฉันก็นำมาดัดแปลง เพราะเคยไปดูงานที่ยุโรป เห็นมีโดมสูงๆ
ติดกระจก 4 ด้าน เหมือนโบสถ์ เพราะดิฉันเป็นคริสต์ กระจกทั้ง 4 ด้านตรงโดมเดิมจะทำเป็นรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
แต่คิดว่าจะเกินควรไปหรือไม่ ก็อาจเป็นรูปพระเยซู หรืออาจใช้เป็นรูปดอกไม้วาด หรือรูปนางฟ้ากำลังบินลงมาเพื่อในโอกาส
วันคริสต์มาส เด็กๆ เพื่อนของลูกๆ จะมาร้องเพลงที่บ้าน เปิดไฟตรงโดมคงสวยดี

ส่วนที่ดัดแปลงทำหลังคาเป็นชั้นแล้วกล่าวหาว่าเป็นรูปทรงสเปน ก็ไม่มี เราดัดแปลงเองรูปทรงแนวกึ่งโบสถ์ของคริสต์
ดิฉันมองว่าบ้านเราวันนี้ศีลธรรมหายไปเยอะ จึงอยากมีห้องที่ลูก 3 คนและเพื่อนลูกมาเรียนรู้ศาสนา มาถกเรื่องศาสนาได้
ความฝันเป็นอย่างนี้

บ้านหลังนี้มีคนผ่านไปเห็นแบบแล้วยังชอบ โทร.มาขอดิฉันบอกเป็นแฟนพันธุ์แท้ ดิฉันก็ให้เอาไปปลูกที่บางนาตอนนี้


ค่าใช้จ่ายแล้วเสร็จประเมินไว้เท่าไหร่

ประเมินไว้ 8-9 ล้านบาท ขึ้นกับราคาวัสดุจะขึ้นอีกหรือไม่ ค่าก่อสร้างไม่ได้เพิ่มแต่ค่าแรงจะเพิ่ม ส่วนของตกแต่งไม่เอาอะไรมาก
เพราะตอนนี้ก็มีคนให้มามากมาย บ้านหลังนี้ท่านพระครูวัดเทพศิรินทร์ ท่านมาลงเสาเอกให้ตั้งแต่ปี"45 แต่ไม่ได้สร้างต่อเนื่อง
เพราะมีเงินแต่ต้องเก็บไว้ กลัวว่าใช้หมดเกิดไม่สบายขึ้นมาจะทำอย่างไร อีกอย่างต้องหาผู้รับเหมาที่ถูก ดีและซื่อสัตย์ด้วย


จำนองที่ดินตรงนี้หลายครั้ง

จำนองหลายครั้ง แต่ไม่ได้อดอยากข้นแค้นขนาดนั้น แต่ดิฉันเป็นนักบริหารไม่อยากเก็บที่ไว้เฉยๆ ก็เอามาหมุนได้ตราบที่
เรามีรายได้มากกว่าดอกเบี้ยที่เอาไปจ่าย แล้วผิดอะไร ก็นำเงินมาใช้หนี้ หรือตามที่เป็นข่าวว่าไปซื้อตึกแถวจรัญสนิทวงศ์
ราคา 2.4 แสน ดวงดิฉันจะรวยเร็ว ตึกแถว 2.4 แสน วันนี้ราคาเป็นล้านๆ ส่วนที่ดินซื้อมาหมื่นเดียววันนี้ราคา 4-5 ล้าน
เป็นเพราะเราบริหารจัดการเป็น

ครอบครัวดิฉันพอมีพอกินไม่ได้ ลำบากอะไร ดิฉันชอบซื้อที่ นอกจากที่เป็นข่าวยังมีที่ดินเปล่าย่านประชานิเวศน์ ปากน้ำ
รังสิต ศาลายา และดอนเมืองอีก เราจำนองที่เข้าแบงก์แล้วเอาไปซื้อที่อื่น ผ่อนกันไป อยากให้เป็นบทเรียนอนุชนรุ่นหลัง
ถ้าทำงานได้ก็ควรจะผ่อนที่ดินเดือนละ 1,500 บาท จำนองไปเรื่อยๆ 10 ปีผ่อนหมดยังไม่รู้ตัวเลย

ส่วนบ้านที่อยู่ปัจจุบันย่านประชานิเวศน์ไม่ใช่ที่ของเรา แต่เช่าที่แล้วปลูกบ้านเอง เชื่อว่าเราไม่โกงสักวันก็ต้องเป็นวันของเรา
เราไม่เดือดร้อน ซื้อที่ดินไว้มูลค่าเพิ่ม ดีกว่าฝากธนาคาร แล้ววันที่รอคอยก็มาถึง บ้านหลังใหม่ที่ปากเกร็ดกำลังก่อสร้างอยู่
ถือเป็นบ้านหลังสุดท้ายในชีวิตดิฉันแล้ว


เหตุที่ถูกโจมตีเพราะการทำงานไปกระทบคนอื่น

ดิฉันตรวจสอบไปเจอตอ เพราะมีบุคคลคนหนึ่งจากหน่วยงานของรัฐมาขอร้องดิฉันให้ยุติการตรวจสอบการใช้
วงเงินงบประมาณโดยมิชอบ แต่ดิฉันคงไม่ยอมง่ายๆ ต้องสู้กันถึงที่สุด จากนี้คงต้องตอบโต้ทางกฎหมาย
ทนายจะมาคุยแล้วจะดำเนินการตอบโต้บ้าง 3 คนที่อยู่ในรูป คนที่มาหน้าตึกสตง. ดิฉันเก็บหลักฐานไว้หมดแล้ว
หรือแม้แต่ในเว็บไซต์ที่ล้อเลียนหมิ่นประมาทจะปรึกษาทนาย ใครที่กล่าวหาผิดๆ ช่วยมาขอโทษด้วย



ถูกโจมตีจากการทำงาน สามีว่าอย่างไร

หลังเกิดเรื่องเกี่ยวกับบ้านหลังนี้ สามีก็ไม่ได้แนะนำอะไร เพราะไม่อยากยุ่ง แต่จะให้ดิฉันลาออกอย่างเดียว
ให้มาอยู่บ้านจะได้สงบๆ พูดอย่างนี้ทุกครั้งเวลามีเรื่อง มีอะไรดิฉันไม่ค่อยปรึกษา แต่สามีก็ห่วงมักจะโทร.มา
ทุก 15 นาที เพราะสามีก็อายุมาก 70 กว่าแล้ว เราห่างกัน 8 ปี สามีทำงานเอกชนตอนนี้เกษียณแล้วอยู่บ้าน
แต่สามีก็เป็นคนมีสตางค์เป็นเด็กสำเพ็ง แม่เป็นเถ้าแก่เนี้ยที่สำเพ็ง


เวลาเครียดทำอย่างไร

เคยเห็นดิฉันเครียดเหรอ ดิฉันไม่เครียด ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่มีกลุ่มคนไปที่บ้าน มีนักข่าวโทร.มาบอกตั้งแต่คืนวันเสาร์
ดิฉันก็บอกอยากไปก็ไป ไม่มีอะไรปกปิด ส่วนที่ไม่อยากให้นักข่าวไปถ่ายรูปที่บ้านเพราะดิฉันทราบว่ามีแผนจะมีคนไป
โยนเฮโรอีนเข้าไปในบ้าน เรากลัวมากเลย วันข้างหน้าเราไม่รู้ ทราบว่าจะทำ ตอนนี้ก็มีคนเฝ้าบ้านตลอด ห่วงเรื่อง
ความปลอดภัย คนงานทำงานไม่ได้ เรากลัวเนื่องจากมีคนไปถ่ายรูปบ้านมาหลายครั้งแล้ว

หน้า 21
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-07-2008, 18:23 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #164 เมื่อ: 03-07-2008, 19:06 »

"บ้านหลังนี้ออกแบบมีหลายห้อง ห้องนอน 8 ห้อง ขนาด 4 คูณ 4 เมตร ห้องน้ำ 8 ห้อง ห้องเยอะก็มองว่าเป็นคฤหาสน์
เป็นห้องไม่ใหญ่มาก ที่มีหลายห้อง เพราะคิดว่าจะให้น้องสาว 2 คน ที่ยังไม่ได้แต่งงานมาอยู่ด้วย แม่บ้าน หรือแขกไป
ใครมาก็สามารถมาพักได้ แบ่งหลายห้องให้ญาติมาอยู่ด้วย ดิฉันเป็นซูสีไทเฮาในบ้าน จะเรียกน้องๆ มาที่บ้านในเทศกาลสำคัญ

โอ้โห....แม่เจ้า นี่ขนาดพอเพียงน๊ะเนี่ย  ตั้ง 8 ห้องนอน  8  ห้องน้ำ ต่างคนต่างมีที่ขี้ที่เยี่ยวส่วนตัว!!  ถ้าไม่เรียกว่าคฤหาสน์...ก็ไม่รู้จะเรียกอะไรแล้ว  ขนาดบ้านราคาหลายสิบล้านบาทยังมีแค่ 4-5 ห้องนอนเอง




เสนอราคาก่อสร้างไว้ 4.4 ล้านบาท ตั้งแต่ของยังไม่แพง และตกแต่งเพิ่มเติมอีก คิดว่า 2-3 ล้านก็น่าจะอยู่ ส่วนสระว่ายน้ำ
ในบ้านไม่มีแน่นอน เราไม่ฟุ้งเฟ้อ พื้นที่ 1 ไร่ สร้างบ้านก็เต็มแล้ว ที่บอกมีห้องใต้ดินก็ไม่จริง เป็นเพียงลงลึกจากตัวบ้าน
ไปยังใต้ดินเพียง 1-2 เมตรเท่านั้น

การสร้างห้องต่างๆลึกลงไปใต้ดิน1-2เมตรนั้นใช้เงินมากมายหลายล้านในการก่อสร้างเมื่อเทียบกับการสร้างเหนือดินเพราะต้องตอกเสาเข็มมากกว่าและสร้างผนังให้สามารถรับแรงอัดจากการเคลื่อนของชั้นดิน...สังเกตุไหมว่าบ้านคนปรกติไม่กล้าลงทุนสร้างให้ลึกลงไปในดินเพราะต้นทุนค่าก่อสร้างแพงมาก เดี๋ยวก็จะได้มีการพิสูจน์กันจากสมาคมสถาปนิคแห่งประเทศไทย  เรื่องนี้ชัดเจนมาก



หลังคาบ้านหรือรั้วบ้านก็ไม่ได้แพง 3 ล้านอย่างที่บอก หลังคาที่เห็นเป็นสีเหลืองดูไกลๆ อาจเข้าใจผิดคิดว่าใช้ของแพง
ที่จริงเป็นหลังคาสีเหลืองทองอุไรธรรมดาเท่านั้น รั้วบ้านตอนนี้ก็ยังไม่มี

รูปบ้านที่ไปถ่ายกันมาก็มีการเบี่ยงเบน ทำให้ดูเหมือนบ้านมี 4 ชั้น โดยถ่ายจากระยะไกล ถ่ายเทียบกับตึกพาณิชย์ที่อยู่ใกล้ๆ
ความจริงบ้านมี 2 ชั้นเท่านั้น พื้นที่ 1,000 ตร.ม. สร้างไปได้ 45% ไม่ได้กำหนดต้องเสร็จตอนไหน บ้านเสร็จเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น
เพราะปัจจุบันเราก็มีบ้านอยู่แล้ว"

นี่ขนาดสร้างเสร็จไปได้เพียง 45% ยังออกมาอลังการขนาดนี้...งบสร้าง 10 ล้านบาทไม่พอแน่นอน  เจ๊เป็ดรีบไปจัดทำบิลให้ดีๆด่วนเลย ได้ข่าวว่าตอนนี้มีคนไปถ่ายโครงสร้างรอบๆบ้านและจัดคนเก็บทุกช๊อตแล้ว เจ๊เป็ดขยับเปลี่ยนโยกย้ายอะไรไม่ทันแล้วอ่ะ...เดี๋ยวเจ๊ก็จะรู้ว่าผลกรรมมันไม่เข้าใครออกใคร  หุ หุ
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #165 เมื่อ: 03-07-2008, 19:28 »

แถมเจ๊เป็ดอีกดอกคร้า




"PRAC บุก ปปช.จี้สอบหญิงเป็ดรวยผิดปกติ แฉซ้ำน้องสาวมีที่ดิน มูลค่า 28 ล้าน


กลุ่มปฏิรูปการเมือง และต่อต้านการคอรัปชั่น ยื่นคณะกรรมการปปช.สอบ จารุวรรณ ร่ำรวยผิดปกติเผยที่ดินดังกล่าวเคยเป็นสิทธิครอบครองของน้องสาว ที่รอยื่นให้ปปช.ตรวจสอบ
นายณัฐวุฒิ ด้วงนิล ผู้ประสานงานกลุ่มติดตามการปฏิรูปการเมือง และต่อต้านคอรัปชั่น นำข้อมูลพร้อมเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม ประกอบด้วย เอกสารสำเนาโฉนดที่ดิน จากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กรมที่ดิน ซึ่งเป็นที่ดินของน้องสาวคุณหญิงจารุวรรณ จำนวน 2 แปลง มูลค่า 28 ล้านบาท ยื่นให้คณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือป.ป.ช. ตรวจสอบ คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส. ฐานร่ำรวยผิดปกติ และไม่แสดงที่มาที่ไปของทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมทั้งพยายามปกปิดมูลค่าที่แท้จริงของทรัพย์ และแจ้งบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จต่อป.ป.ช. บิดเบือนข้อมูลที่ต้องเปิดเผยต่อสาธารณะ

ทั้งนี้เรื่องการสร้างคฤหาสน์ ที่มีมูลค่าสูงเกินกว่าที่แจ้งไว้ อยากให้ ป.ป.ช.เร่งรัดตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน เพื่อให้สังคม และประชาชนได้รับความยุติธรรม ที่มีมาตรฐานเดียวกัน รวมทั้ง มีความเสมอภาคภายใต้กฎหมาย อย่างไรก็ตามนายสิทธิชัย ระบุว่าจะนำข้อมูลที่ได้รับเพิ่มเติมในวันนี้ไปพิจารณารวมกับข้อมูลที่มีผู้ยื่นไว้ก่อนหน้านี้ โดยยืนยันว่า ป.ป.ช.จะดำเนินการเรื่องนี้โดยเร็ว."
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #166 เมื่อ: 03-07-2008, 19:36 »

"บ้านหลังนี้ออกแบบมีหลายห้อง ห้องนอน 8 ห้อง ขนาด 4 คูณ 4 เมตร ห้องน้ำ 8 ห้อง ห้องเยอะก็มองว่าเป็นคฤหาสน์
เป็นห้องไม่ใหญ่มาก ที่มีหลายห้อง เพราะคิดว่าจะให้น้องสาว 2 คน ที่ยังไม่ได้แต่งงานมาอยู่ด้วย แม่บ้าน หรือแขกไป
ใครมาก็สามารถมาพักได้ แบ่งหลายห้องให้ญาติมาอยู่ด้วย ดิฉันเป็นซูสีไทเฮาในบ้าน จะเรียกน้องๆ มาที่บ้านในเทศกาลสำคัญ

โอ้โห....แม่เจ้า นี่ขนาดพอเพียงน๊ะเนี่ย  ตั้ง 8 ห้องนอน  8  ห้องน้ำ ต่างคนต่างมีที่ขี้ที่เยี่ยวส่วนตัว!! 
ถ้าไม่เรียกว่าคฤหาสน์...ก็ไม่รู้จะเรียกอะไรแล้ว  ขนาดบ้านราคาหลายสิบล้านบาทยังมีแค่ 4-5 ห้องนอนเอง


มันก็พอเพียงกับการใช้งานตามที่คุณหญิงบอก ตัวเอง+สามี 1 ห้อง ลูกๆ 3 คนๆ ละห้อง
และน้องสาว 2 คนอีก 2 ห้อง รวมกันก็เป็น 6 ห้องแล้ว ที่เหลืออีก 2 ห้องสำหรับรับแขก

คุณหญิงก็บอกแล้วว่าทำเป็นห้องไม่ใหญ่ ขนาด 4x4 เมตร 8 ห้องรวมกันเพิ่งจะ 128 ตรม.
ที่จำนวนห้องเยอะก็เพราะเขาจะออกแบบให้มีหลายห้อง ตามวัตถุประสงค์ที่จะใช้ของเขา
ไปเทียบกับบ้านที่ทำขายได้ยังไง ขืนทำขายมี 8 ห้องเล็กๆ ใครจะซื้อ  

----

ปล. คิดว่าคงไม่ต้องตอบอะไรเพิ่มแล้ว รอดูพวกหาเรื่องใส่ตัวโดนฟ้องกลับดีกว่า
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #167 เมื่อ: 03-07-2008, 19:43 »

มันก็พอเพียงกับการใช้งานตามที่คุณหญิงบอก ตัวเอง+สามี 1 ห้อง ลูกๆ 3 คนๆ ละห้อง
และน้องสาว 2 คนอีก 2 ห้อง รวมกันก็เป็น 6 ห้องแล้ว ที่เหลืออีก 2 ห้องสำหรับรับแขก

คุณหญิงก็บอกแล้วว่าทำเป็นห้องไม่ใหญ่ ขนาด 4x4 เมตร 8 ห้องรวมกันเพิ่งจะ 128 ตรม.
ที่จำนวนห้องเยอะก็เพราะเขาจะออกแบบให้มีหลายห้อง ตามวัตถุประสงค์ที่จะใช้ของเขา
ไปเทียบกับบ้านที่ทำขายได้ยังไง ขืนทำขายมี 8 ห้องเล็กๆ ใครจะซื้อ  

----

ปล. คิดว่าคงไม่ต้องตอบอะไรเพิ่มแล้ว รอดูพวกหาเรื่องใส่ตัวโดนฟ้องกลับดีกว่า


ฮ่าๆๆๆๆ....ถ้าปปช.มีความโปร่งใสและยุติธรรมจริงก็ต้องทำเรื่องนี้ให้กระจ่างด่วนที่สุด  ส่วนเรื่องหญิงเป็ดจะฟ้องร้องใครต่อใครนั้น...หญิงเป็ดคงลืมไปแล้วว่าตอนนี้ตัวเองหมดอำนาจและมีหน้าที่ขึ้นศาลจากการถูกฟ้องหลายสิบคดี เอาเวลาไปพักผ่อนเยอะเพื่อขึ้นเบิกความดีกว่าน๊ะเจ๊น๊ะ  คริ คริ
บันทึกการเข้า
อิรวันชาห์ IrWanSyah
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 870



« ตอบ #168 เมื่อ: 03-07-2008, 19:45 »

24 สำนวน 13 คดีคือ ผลงาน “คตส.” ผลผลิตของ คมช. ที่ลากรถถังออกมาปฏิวัติรัฐบาลทักษิณเมื่อปี 49 เวลา 1 ปี กับ 9 เดือน คตส. เอาเป็นเอาตายตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชั่นของรัฐบาล     “ทักษิณ” ล้วน ๆ ไม่เลือกปฏิบัติ    ก็เหมือนเลือกปฏิบัติตั้งแต่เปิดฉากยันปิดฉากแล้ว

13 คดีของ คตส. มี 2 คดี ที่ศาลรับฟ้องคือ 1. คดีซื้อขายหุ้น     ชินคอร์ป ในส่วนของนายบรรณพจน์    ดามาพงศ์ 2. คดีซื้อที่ดินรัชดาภิเษก  และมี 3 คดี ที่อัยการสั่งไม่ฟ้องจน คตส. ต้องฟ้องเอง คือ 1. คดีทุจริต  กล้ายาง 2. คดีปล่อยกู้พม่าของเอ็กซิมแบงก์ 3.คดีหวยบนดิน ที่เหลือ คตส. ต้องส่งมอบให้ ป.ป.ช. ทำต่อ

ผลคดีจะออกมายังไงก็อยู่ที่ศาลจะวินิจฉัยตัดสิน

นายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส. แก้ตัวว่า ที่ผลงานน้อยก็เพราะหน่วยงานต่าง ๆ เกียร์ว่าง ไม่ยอมให้ความร่วมมือ แต่ไม่ยักมอง    ว่า ที่เอาแต่ชี้มือให้คนอื่นผิดทำไมไม่หันย้อนดูตัวเองบ้าง

ก็ทำไมข้าราชการจะไม่เกียร์ว่าง !!!

ในเมื่อตัวอย่างจะจะ คนเป็นปลัดกระทรวงทำตามมติ ครม. แท้ ๆ ยังถูกฟ้องดำเนินคดีหน้าตาเฉยด้วยข้อหาสุดบ้องตื้น “ไปนั่งประชุมใน ครม. แล้วไม่ค้าน เพราะอยากเป็นปลัดกระทรวงก็เลยต้องโดน (บูชายัญ)”

ไม่ผิดนิทาน หมาป่ากับลูกแกะเลย เอ็งไม่ผิด พ่อเอ็งก็ผิด ก็เหตุผลบ้า ๆ อย่างนี้แหละที่ ศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดตงฉิน โดนฟ้องอ่วมอยู่ตอนนี้ แล้วมันยึดหลัก “ธรรมา     ภิบาล” ตรงไหนเนี่ย 

นายนามบอกอีกว่า ไม่ได้ลำเอียงหรือ มีอคติกับใคร ทำตามกฎหมาย จึงไม่กลัวถูกเช็กบิล ซึ่งที่จริงก็ไม่เห็นต้องกลัวเพราะ ม.309 ใน รธน. คุ้มครองอยู่แล้ว ยิ่งล่าสุดศาล รธน. วินิจ ฉัยว่าการต่ออายุของ คตส. ชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญ

ก็ยิ่งทำให้ คตส. ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกใครมาตามเช็กบิลคืนแม้แต่น้อย

นายนามบอกไม่ลำเอียง แต่คดีหนึ่งกลับเกิดคำถาม ความเที่ยงธรรมและการเลือกปฏิบัติอย่างมากมายก็คือ คดีทุจริตการซื้อรถและเรือดับเพลิง 6,200 ล้าน ของ กทม.

ที่ครึกโครมและ “คตส.” ปิดคดีไม่ลง ต้องโยนให้ ป.ป.ช. ลุยต่อก็เพราะคณะอนุ กก. สอบสวนที่มี นาม ยิ้มแย้ม เป็นประธาน ตอบ ไม่ได้ว่า ทำไม นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ในฐานะผู้ลงนามเปิดแอลซี จึงไม่ติดร่างแหเช่นจำเลยอีก 5-6 คน เช่น นายสมัคร สุนทรเวช เมื่อครั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม. นายโภคิน พลกุล อดีต มท.1 นายประชา มาลีนนท์ อดีต มท.2 และ ฯลฯ

โดยเฉพาะ คุณหญิง ณัษฐนนท ทวีสิน ในฐานะปลัด กทม. กลับถูกคณะอนุ กก. ชี้   มูลความผิดและถูกฟ้อง แต่นายอภิรักษ์ กก. เชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่าไม่ผิด เพราะ  ถูกมหาดไทยบีบให้ทำ ทั้งที่อภิรักษ์  มาจากการเลือกตั้ง ถ้าไม่เห็นด้วยก็ไม่จำเป็นต้องเซ็นและต้องฟ้องประชาชนด้วยซ้ำเมื่อมีความไม่ชอบมาพากล  เกิดขึ้น
     
แล้วทำไม คุณหญิงณัษฐนนท ซึ่งเป็นลูกน้องผู้ว่าฯ กทม. กก. ไม่เชื่อโดยบริสุทธิ์ใจบ้างว่า ถูกผู้ว่าฯ บีบเล่า ยิ่งกว่านั้นหากย้อนไปดูคำฟ้องที่นายนามฟ้องหมิ่นประมาทนายสมัครตอนหนึ่งบรรยายว่า นายสมัครต้องการหลบหนีความผิดที่ตัวเองก่อไว้จึงโยนความผิดให้นายอภิรักษ์อย่างไร้จิตสำนึก !!!

ถ้าไม่รู้ว่าใครฟ้องใครคงคิดว่านายนาม  นี่แหละทนายหน้าหอให้นายอภิรักษ์ด้วยซ้ำ นี่ยังไม่นับข่าวล่าสุดที่เปิดเผยออกมาว่า ที่แท้ ลูกนายนาม ก็ทำงานอยู่ที่ กทม. ของนายอภิรักษ์นั่นเอง

คตส. ปิดฉากไปแล้วจะได้ดอกไม้หรือก้อนอิฐไม่ใช่เยินยอกันเอง ประชาชนต่างหาก จะเป็นผู้ตัดสิน.

ดาวประกายพรึก

http://www.dailynews.co.th/
บันทึกการเข้า

The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #169 เมื่อ: 03-07-2008, 19:47 »

ดาวประกายพรึกอัดคตส.ซะติดกำแพงเชียว....เดี๋ยวคงมีเสียงเห่าตอบกลับมาอ่ะ
บันทึกการเข้า
usa
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 102


« ตอบ #170 เมื่อ: 03-07-2008, 19:59 »


โธ่เอ๊ย  ยังไปเชื่อไอ้ ดาวประกายตัวนี้อีกเหรอ  มิน่า ความคิดถึงเป็นอย่างนี้

TLE  ไปหาหมอมาลินีตรวจ ประสาทโดยด่วน ๆ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #171 เมื่อ: 03-07-2008, 20:05 »

อีกคอลัมน์ในเดลินิวส์ฉบับเดียวกัน เขียนออกมาคนละเรื่องกับดาวประกายพรึก และน่าอ่านกว่าเยอะ 

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พันธกิจปราบ 'คนโกง' ยังไม่สิ้น
วันที่ 3 กรกฎาคม 2551
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?ColumnId=59608&NewsType=2&Template=1

ปิด ฉากไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) หลังปฏิบัติหน้าที่
นานถึง 1 ปี 9 เดือน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา คตส. ทั้ง 10 ท่าน ซึ่งมีนายนาม ยิ้มแย้ม เป็นประธาน ได้ถูกมรสุมทางการเมือง
ลูกแล้วลูกเล่าถาโถมรุมเร้าอย่างหนักหน่วง เพราะ คตส. คือ เครื่องมือสำคัญที่เกิดขึ้นจากการทำรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาล
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 เพื่อตรวจสอบกำจัดเชื้อโรคร้ายการทุจริตคอร์รัปชั่นในยุค
“ระบอบทักษิณ” เรืองอำนาจ แม้จะสามารถสรุปสำนวนการสอบสวนคดีต่าง ๆ ส่งให้ศาลตัดสินได้เพียง 5 คดีจากจำนวน 24 เรื่อง
ที่ตั้งแท่นเช็กบิลไว้ หากมองในแง่ปริมาณถือว่า ยังไม่ประสบผล แต่ถ้ามองในแง่คุณภาพ คงต้องไปวัดกันที่ผลการตัดสินของศาล
 
นับเป็นของขวัญทางใจชิ้นสำคัญที่ คตส. ได้รับใน วันสุดท้ายของการทำหน้าที่ วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2551 เมื่อตุลาการ
ศาลรัฐธรรมนูญชุดใหม่ ซึ่งมีนายชัช ชลวร เป็นประธาน ได้ลงมติเอกฉันท์ 9  ต่อ 0 วินิจฉัยว่า ประกาศคณะปฏิรูปการปกครอง
ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุขฉบับที่ 30 เรื่อง การตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหาย
แก่รัฐ ที่ตั้ง คตส. และ พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประกาศ คปค. ฉบับที่ 30 เรื่อง การต่ออายุการปฏิบัติหน้าที่ของ คตส. จนถึงวันที่
30 มิถุนายนนี้ ถือว่า “ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ” จึงนับเป็นยันต์ปกป้องคุ้มครองให้กับ คตส. ทั้งอดีต-ปัจจุบัน-อนาคต
 
สำหรับคดีที่ส่งถึงมือศาลแล้ว ต้องเป็นไปตามขั้น ตอนกระบวนการยุติธรรมพิจารณา ส่วนคดีที่ค้างคาไม่ว่า ชั้นอัยการ หรือที่
กำลังรอสั่งสำนวน หรือที่ยังไม่สรุปผลการไต่สวนได้ ก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
เป็นผู้รับไม้ต่อ โดยประสานกับฝ่ายอัยการ รวมทั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ที่แต่เดิม คตส.
มีอำนาจสามารถสั่งอายัดเงินและทรัพย์สิน  เพื่อทำการตรวจสอบได้ แต่เมื่อหมดอายุก็ต้องส่งไม้ต่อให้ ปปง. รับช่วงต่อ เพราะ
ป.ป.ช. ไม่มีอำนาจสั่งอายัดเงินและทรัพย์สินนี้ได้ ซึ่งหากไม่เล่นแง่ทางกฎหมายกันก็เชื่อว่า จะยังสามารถอายัดเงินและทรัพย์สินได้
จนกว่าจะสิ้นกระบวนการตรวจสอบ
 
แม้ คตส. รูดม่านกลายเป็นอดีต ผลงานที่ได้ฝาก ไว้ในแผ่นดินจะไม่สูญเปล่าก็ต่อเมื่อนับจากวันนี้เป็นต้นไป ผู้คนในสังคมต้องถือ
เป็นจุดเริ่มพันธกิจร่วม “ปฐมบทแห่งการปราบคนโกงในยุคตุลาการภิวัตน์” โดยประชาชนผู้คนทั้งแผ่นดินมีส่วนร่วมรับรู้ รับทราบ
ด้วยความเข้าใจในการพิสูจน์ “ใครผิด-ใครถูก” ต้องยึดหลักกระบวนการยุติธรรมตัดสินเป็นที่สุด.
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #172 เมื่อ: 03-07-2008, 20:13 »

24 สำนวน 13 คดีคือ ผลงาน “คตส.” ผลผลิตของ คมช. ที่ลากรถถังออกมาปฏิวัติรัฐบาลทักษิณเมื่อปี 49 เวลา 1 ปี กับ 9 เดือน คตส. เอาเป็นเอาตายตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชั่นของรัฐบาล     “ทักษิณ” ล้วน ๆ ไม่เลือกปฏิบัติ    ก็เหมือนเลือกปฏิบัติตั้งแต่เปิดฉากยันปิดฉากแล้ว

13 คดีของ คตส. มี 2 คดี ที่ศาลรับฟ้องคือ 1. คดีซื้อขายหุ้น     ชินคอร์ป ในส่วนของนายบรรณพจน์    ดามาพงศ์ 2. คดีซื้อที่ดินรัชดาภิเษก  และมี 3 คดี ที่อัยการสั่งไม่ฟ้องจน คตส. ต้องฟ้องเอง คือ 1. คดีทุจริต  กล้ายาง 2. คดีปล่อยกู้พม่าของเอ็กซิมแบงก์ 3.คดีหวยบนดิน ที่เหลือ คตส. ต้องส่งมอบให้ ป.ป.ช. ทำต่อ

ผลคดีจะออกมายังไงก็อยู่ที่ศาลจะวินิจฉัยตัดสิน

นายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส. แก้ตัวว่า ที่ผลงานน้อยก็เพราะหน่วยงานต่าง ๆ เกียร์ว่าง ไม่ยอมให้ความร่วมมือ แต่ไม่ยักมอง    ว่า ที่เอาแต่ชี้มือให้คนอื่นผิดทำไมไม่หันย้อนดูตัวเองบ้าง

ก็ทำไมข้าราชการจะไม่เกียร์ว่าง !!!

ในเมื่อตัวอย่างจะจะ คนเป็นปลัดกระทรวงทำตามมติ ครม. แท้ ๆ ยังถูกฟ้องดำเนินคดีหน้าตาเฉยด้วยข้อหาสุดบ้องตื้น “ไปนั่งประชุมใน ครม. แล้วไม่ค้าน เพราะอยากเป็นปลัดกระทรวงก็เลยต้องโดน (บูชายัญ)”

ไม่ผิดนิทาน หมาป่ากับลูกแกะเลย เอ็งไม่ผิด พ่อเอ็งก็ผิด ก็เหตุผลบ้า ๆ อย่างนี้แหละที่ ศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดตงฉิน โดนฟ้องอ่วมอยู่ตอนนี้ แล้วมันยึดหลัก “ธรรมา     ภิบาล” ตรงไหนเนี่ย 

นายนามบอกอีกว่า ไม่ได้ลำเอียงหรือ มีอคติกับใคร ทำตามกฎหมาย จึงไม่กลัวถูกเช็กบิล ซึ่งที่จริงก็ไม่เห็นต้องกลัวเพราะ ม.309 ใน รธน. คุ้มครองอยู่แล้ว ยิ่งล่าสุดศาล รธน. วินิจ ฉัยว่าการต่ออายุของ คตส. ชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญ

ก็ยิ่งทำให้ คตส. ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกใครมาตามเช็กบิลคืนแม้แต่น้อย

นายนามบอกไม่ลำเอียง แต่คดีหนึ่งกลับเกิดคำถาม ความเที่ยงธรรมและการเลือกปฏิบัติอย่างมากมายก็คือ คดีทุจริตการซื้อรถและเรือดับเพลิง 6,200 ล้าน ของ กทม.

ที่ครึกโครมและ “คตส.” ปิดคดีไม่ลง ต้องโยนให้ ป.ป.ช. ลุยต่อก็เพราะคณะอนุ กก. สอบสวนที่มี นาม ยิ้มแย้ม เป็นประธาน ตอบ ไม่ได้ว่า ทำไม นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ในฐานะผู้ลงนามเปิดแอลซี จึงไม่ติดร่างแหเช่นจำเลยอีก 5-6 คน เช่น นายสมัคร สุนทรเวช เมื่อครั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม. นายโภคิน พลกุล อดีต มท.1 นายประชา มาลีนนท์ อดีต มท.2 และ ฯลฯ

โดยเฉพาะ คุณหญิง ณัษฐนนท ทวีสิน ในฐานะปลัด กทม. กลับถูกคณะอนุ กก. ชี้   มูลความผิดและถูกฟ้อง แต่นายอภิรักษ์ กก. เชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่าไม่ผิด เพราะ  ถูกมหาดไทยบีบให้ทำ ทั้งที่อภิรักษ์  มาจากการเลือกตั้ง ถ้าไม่เห็นด้วยก็ไม่จำเป็นต้องเซ็นและต้องฟ้องประชาชนด้วยซ้ำเมื่อมีความไม่ชอบมาพากล  เกิดขึ้น
     
แล้วทำไม คุณหญิงณัษฐนนท ซึ่งเป็นลูกน้องผู้ว่าฯ กทม. กก. ไม่เชื่อโดยบริสุทธิ์ใจบ้างว่า ถูกผู้ว่าฯ บีบเล่า ยิ่งกว่านั้นหากย้อนไปดูคำฟ้องที่นายนามฟ้องหมิ่นประมาทนายสมัครตอนหนึ่งบรรยายว่า นายสมัครต้องการหลบหนีความผิดที่ตัวเองก่อไว้จึงโยนความผิดให้นายอภิรักษ์อย่างไร้จิตสำนึก !!!

ถ้าไม่รู้ว่าใครฟ้องใครคงคิดว่านายนาม  นี่แหละทนายหน้าหอให้นายอภิรักษ์ด้วยซ้ำ นี่ยังไม่นับข่าวล่าสุดที่เปิดเผยออกมาว่า ที่แท้ ลูกนายนาม ก็ทำงานอยู่ที่ กทม. ของนายอภิรักษ์นั่นเอง

คตส. ปิดฉากไปแล้วจะได้ดอกไม้หรือก้อนอิฐไม่ใช่เยินยอกันเอง ประชาชนต่างหาก จะเป็นผู้ตัดสิน.

ดาวประกายพรึก

http://www.dailynews.co.th/


คดีรถดับเพลิง......

ลุงหมักเล่าให้ฟังไม่หมด.....

มหาดไทย ได้มีคำสั่งเร่งด่วน ให้ กทม. เร่งเปิด L/C.....ในขณะที่ อภิรักษ์ ก็ทำท่าจะไม่เปิด...

ได้ทำหนังสือ สอบถามไปยัง มหาดไทย ถึง 3 ครั้ง 3 คราแต่ มหาดไทย คือนายโภคิน พลกุล ยังยื่นยัน

จะให้เปิด แอลซี......


ครั้งนั้น ยังต้องมีการชั่งน้ำหนัก ความเสียหาย ระหว่าง การไม่เปิด แอลซี....กับการผิดเงื่อนไขสัญญา ซึ่งจะต้องมีการปรับ

คณะอนุกรรมไต่สวนของ คตส. ได้สอบแล้ว มีความเห็นว่า นายอภิรักษ์ ไม่น่าจะเป็นสาเหตุให้เกิดความเสียหาย....

เนื่องจาก ความเสียหายได้เกิดขึ้นไปแล้ว เมื่อมีการเซ็นต์สัญญาซื้อขาย....

แต่ด้วยความละเอียด ความเถรตรงของ คณะกรรมการชุดใหญ่ คตส. ยังไม่มั่นใจ...จึงได้มีมติให้ อนุกรรมการ ไปสอบสรุปเรื่องมาใหม่

จนเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งกัน ระหว่างอนุกรรมการ กับ กรรมชุดใหญ่ ...และในที่ ก็มีมติให้ แจ้งข้อกล่าวหา นายอภิรักษ์...

ทำการสอบสวนเพื่อสรุปในขึ้นสุดท้ายก่อนส่งฟ้อง.....แต่ พยานหลักฐานไปไม่ถึง นายอภิรักษ์ จึงได้ไม่แจ้งข้อกล่าวหา...

ปมประเด็นสำคัญคือ ....เมื่อครั้ง ที่ ทำ TOR....ได้มีการระบุว่า เป็นค้าแบบ รัฐต่อรัฐ....และ เป็นลักษณะ barter trade .

คือ แลก รถดับเพลิง กับ การซื้อไก่ (ประมาณนั้น)......กับเงื่อนไขรายละเอียดต่าง ๆ อื่น ๆ

แต่ต่อมา กลับกลายเป็นว่า เป็นการซื้อระหว่างรัฐบาลไทย...กับ บริษัท เอกชน ของออสเตรีย แล้ว ยังมีการชำระเงิน..

แต่ไม่มีการซื้อสินค้าเกษตร...นั่นจึงเป็นทีมาของการตรวจสอบของ คตส
.


เห็นแปะอีก เลยเอามาแปะมั่ง.....

คุณหญิงนัฐนนท์ ทวีสิน....ถูกข้อกล่าว เนื่องจาก คตส.ได้รับเอกสาร มีลายเซ็นต์ ชัดเจน...
ชงกับลุงหมัก ....เอกสาร หลักฐาน สาวไปถึง....ไปแก้ตัวกับศาลเองละกัน..


 
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #173 เมื่อ: 04-07-2008, 14:22 »

ฮ่าๆๆๆ....ม่ะ ม่ะ ม่ะ ทั้ง USA jerasak & 55555 มารับโบนัสแบบเต็มอิ่มไปเต็มๆเลย ม่ะ ม่ะ ม่ะ




"คุณหญิงจารุวรรณ จะบ่ายเบี่ยงไปถึงไหน

โดย คุณ ดินประสิว
ที่มา เวบไวต์ ประชาชนไทย
4 กรกฎาคม 2551

เมื่อคืน ได้ดูรายการตาสว่างทางช่องเก้า ซึ่งปกติไม่คิดจะดูรายการนี้ เพราะลักษณะของรายการนั้น ค่อนข้างที่จะไม่ค่อยมีความเป็นกลางทางการเมืองเท่าไร นอกเสียจากว่า การที่เอาคนทางฝ่ายของเผด็จการมาออกรายการ เพื่อโจมตีฝ่ายตรงข้าม จึงไม่อยากที่จะดูเท่าไร ทั้งตัวพิธีกรเอง ก็หาสาระอะไรในความคิดไม่ได้ นอกจากที่เคยเป็นดารามีชื่อมาบ้างเท่านั้น แต่ครั้งนี้ ต้องยอมทนดูแบบเสียไม่ได้ เพราะมันมีประเด็นหนึ่งที่ต้องติดตาม ก็คือประเด็น คตส.ที่เพิ่งหมดอายุไป โดยคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา มาเป็นแขกรับเชิญในครั้งนี้

การดำเนินรายการที่ดูเป็นปี่เป็นขลุย ทั้งผู้ดำเนินรายการและแขกรับเชิญ เพราะดูเหมือนเป็นการออกมาโฆษณาชวนเชื่อ ให้กับ คตส.ในเรื่องผลงานที่สุดกู่อย่างที่เราทราบกันดี ก็จะมีแต่พวกนี้เท่านั้นเองกระมัง ที่พยายามยกหางกันเองอยู่เสมอว่า ผลงานที่ทำออกมานั้นดีเลิศ ก็คงไม่ต้องสาธยายอะไรมากมายนัก มาที่เรื่องของคุณหญิงเลยดีกว่า

การมาออกรายการครั้งนี้ เสมือนว่า คุณหญิงมาใช้เวทีของรายการ ตาสว่าง เพื่อต้องการตอบโต้ และแสดงความบริสุทธิ์ของตัวเอง โดยวิธีการพูดจ้อ ยกตัวเองตามถนัด ในกรณีเรื่องบ้านนั้น ก็ยังตอบแบบลุ่มๆ ดอนๆ ซึ่งใครได้ฟัง ก็จะต้องคิดว่า ไม่ได้ตอบอะไรมากมายไปกว่าเบี่ยงประเด็นไปเรื่อยๆ เพราะตั้งแต่เปิดประเด็นเรื่องทรัพย์สินของคุณหญิง ที่ส่อไปในทางร่ำรวยผิดปกติ คุณหญิงก็พยายามตอบ และพยายามออกมาโต้ทุกครั้งไป แต่ว่าแต่ละครั้ง ก็กลายเป็นประเด็นสงสัยเพิ่มเติมทุกที

จากครั้งแรกที่ออกมาตอบโต้เรื่องกรณี ทุจริตฮั้วประมูลโครงการอบรมเจ้าหน้า สตง. ก็ออกมาปฏิเสธว่า จะไปรับเงินทำไมแค่ 3 หมื่น ขนาดมีคนหิ้วเงินมาให้ ตั้ง 100 ล้าน ยังไม่รับเลย แต่พอโดนถามว่าใคร เมื่อไร ก็อ้อมแอ้มบอกว่า เป็นการโทร.มาเท่านั้น เลยตรวจสอบไม่ได้ ตกลงคำว่าหิ้วมากับโทร.มานั้น ในความหมายของคุณหญิงเป็นกิริยาเดียวกัน และบอกว่า ตามไม่ได้ไม่รู้ว่าใคร ตลกไหม?

ประเด็นที่ 2 เรื่องราคาคฤหาสน์ ที่ได้มีการเปิดเรื่องไว้ว่า สร้างร่วม 50 ล้านบาท ในทีแรกคุณหญิงไม่ได้ปฏิเสธเลยว่าราคาสร้างเท่านี้ แต่กลับบอกว่า ตัวเองมีเงินอยู่แล้ว ครอบครัวไม่ได้ยากจนขี้ริ้วขี้เหร่ รับราชการมา 40 ปี จะไม่มีเงินเก็บบ้างหรือไร พอโดนโต้กลับว่า ต่อให้รับราชการมาโดยเงินเดือนๆ ละ 1 แสนบาท 40 ปี ได้ 48 ล้าน โดยที่ไม่ได้ใช้เงินแม้แต่บาทเดียว ก็ออกมาตอบโต้ว่า คฤหาสน์นั้น สร้างโดยที่เอาที่ดินไปจำนองไว้ ซึ่งความจริงจำนองไว้ตั้งแต่ปี 2546 ในวงเงิน 5 ล้านบาท แต่บอกว่าสร้างแค่ 4.4 ล้าน ซึ่งก็ไม่มีใครเขาเชื่อ เพราะราคาสร้างอะไรมันจะถูกแสนถูก ขนาดนั้น

อีกทั้งพูดเรื่องหลังคาว่า ใช้สีเหลืองเพราะความ จงรักภักดี จากนั้นไม่นาน หลังจากที่รูปคฤหาสน์ของตัวเองแพร่ออกไป ก็เริ่มรู้ว่า ไม่ค่อยมมีคนเชื่อ ก็เลยออกมาแก้ข่าวอีกครั้ง ว่า สร้าง 8-9 ล้าน และคฤหาสน์นี้ มี 1,000 ตารางเมตร 8 ห้องนอน 8 ห้องน้ำ ตกลงอย่างไรแน่

หากราคาสร้าง 8-9 ล้าน 1,000 ตารางเมตรนี่ ราคาค่าก่อสร้างต่อตารางเมตรนั้น จะตกที่ 8 -9 พันบาทเท่านั้น และหากเป็นราคาที่บอกไว้แต่ทีแรกว่า 4.4 ล้าน มีใบ BOQ ก็อยากจะรู้ว่า ผู้รับเหมาหน้าไหน จะมาสร้างให้ ในราคา ตารางเมตรละ 4 พัน 4 ร้อยบาท เพราะราคากลางค่าก่อสร้างนั้น จะอยู่ที่ 16,000 – 25,000 โดยดูจากราคาวัสดุ ความยากง่ายของงาน และความเนี๊ยบหรือเกรดของงานนั่นเอง ซึ่งหลังจากได้เห็นโครงสร้างคฤหาสน์คุณหญิงแล้ว ก็บอกได้คำเดียวว่า อย่างต่ำสุดที่ บีบวก และหากตีราคากันตามจริง ตามขนาดของตัว โครงสร้างที่คุณหญิงกล่าวอ้างนั้นอย่างน้อย มันต้องสร้างที่ประมาณ 18-22 ล้าน นี่ไม่รวมค่าตกแต่ง และการปรับพื้นที่โดยรอบรั้ว อย่างน้อยๆ ราคาต้องไม่ต่ำกว่า 45 ล้าน ได้แบบสบายๆ

หากคุณหญิงแน่ใจว่า สร้างขนาดนี้ด้วยราคาถูกเป็นขี้อย่างนี้ ช่วยแนะนำหน่อยได้ไหมว่า ผู้รับเหมาเจ้านี้อยู่ที่ไหน เผื่อใครสนใจสร้างบ้านราคาถูกๆ อยากจะได้บ้าง และอยากจะบอกว่า หากสร้างราคา 8-9 ล้านจริง มันตกตารางเมตรล่ะ 8-9 พัน บอกตามตรงว่า ราคานี้ซื้อกรงหมา ที่ทำขายกันอยู่ตอนนี้ขนาด 1 ตารางเมตรกว่าๆ ยังไม่ได้เลยครับ

ประเด็นที่สาม มาถึงราคาที่ดิน ที่เป็นชื่อของลูกชาย และชื่อของน้องสาวคุณหญิงอีกสองคน ที่บอกว่า ราคาโอเวอร์เกินไป เพราะการเปิดประเด็นไปว่า สองแปลง อยู่ที่ 28 ล้านนั้น จริงอยู่ที่ว่า ราคาประเมินจากกรมที่ดินนั้น อยู่ที่ ตารางวาละ 10,000 บาท ก็ตกไร่ล่ะ 4 ล้าน แต่คุณหญิงไม่รู้ หรือแกล้งไม่รู้ว่า เพราะราคาที่ดินย่านนั้น ประเมินจากธนาคารอยู่ที่ ตารางวาละ 36,000 บาท ไม่มีใครหรอกครับ คุณหญิง ที่จะซื้อขายที่ดินตามราคาประเมินจากกรมที่ดิน หากคุณหญิงชอบซื้อที่ มาเก็งกำไร อย่างที่เคยบอกจริง ก็น่าจะเข้าใจดีว่า เขาซื้อขายกันอย่างไร ราคาที่ได้มาสามารถที่จะพิสูจน์ได้ เพราะเอกสารทุกอย่างนั้นมีอยู่จริง

แต่ที่คุณหญิงพยายามเบี่ยงประเด็นไปว่า ทุกคนทางบ้านมีเงิน ก็อยากที่จะเชื่อ เพราะที่สามแปลงนี้ ที่เป็นชื่อของลูกชาย ที่เพิ่งทำงานเป็นลขาฯคุณหญิง และน้องสาวที่ยังไม่ได้แต่งงานอีกสองคน ราคาซื้อขายตามท้องตลาดนั้น มันอยู่ที่ ไร่ล่ะ 14.4 ล้านบาท รวมแล้วก็ 43.2 ล้านบาทเข้าไปแล้ว จะมาอ้างราคาประเมินตามกรมที่ดินนั้น ใครได้ยินคงหัวเราะกันท้องแข็ง

คุณหญิงจะอ้างว่า ครอบครัวมีเงินอยู่แล้ว ซึ่งน้องสาวคุณหญิงทำงานอยู่กระทรวงเกษตร เป็นข้าราชการ และอีกคนทำงานรับเงินเป็นดอลลล่า และลูกชายที่เพิ่งได้งาน เพราะแม่เป็นผู้ว่าฯ สตง. แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่เราถามทั้งหมด เพราะที่แปลงนี้ ได้รับการโอนทำการซื้อขาย วันเดียวกัน ปีเดียวกัน และเป็นการซื้อหลังจาก มีการรัฐประหารไม่นาน เรียกว่ากำเงินสดๆ ไปซื้อ ตรงนี้ที่คุณหญิงไม่ยอมพูด โดยพยายามบ่ายเบี่ยง และแถไปเรื่อยว่า ตัวเองมีเงินอยู่แล้วเท่านั้น

และความเป็นจริง ที่ดินย่านนั้น ก็ไม่ได้ราคาเท่าที่มีการเปิดประเด็น มันแพงกว่าอีก เท่าที่รู้นั้น ซื้อขายกัน ตารางวาละ 4 หมื่นกว่าๆ เกือบๆ 5 หมื่น เอาล่ะไม่ว่าอย่างไร คุณหญิงก็ไม่ได้ตอบคำถามที่ตรงจุดเลย มีแต่เบี่ยงประเด็นไปมาอย่างน่าสงสาร และซ้ำยังดูถูกผู้ที่เปิดระเด็นนี้ว่า ไม่มีความน่าเชื่อถือ ไม่รู้กลุ่มนี้ไปจดทะเบียนที่ไหน ก็อยากจะขอให้คุณหญิงไปอ่าน รัฐธรรมนูญให้ดีๆ ว่า สิทธิของประชาชนนั้น มีอย่างไรบ้าง ก่อนที่จะดูถูกคนอื่นนั้น ก็ขอให้ดูตัวเองด้วยครับ"
บันทึกการเข้า
moon
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 780


« ตอบ #174 เมื่อ: 04-07-2008, 14:37 »

เอ่อ คุณ TLE ครับ ไอ้เว็บเนี่ยมันได้เผยแพร่กว้างขวางขนาดไหนเนี่ย แล้วไอ้คนเขียนนั้นน่ะ มันกล้ารับผิดชอบที่มันเขียนมั้ย

ดูแล้วถ้ามันกล้าก็คงจะกล้าใช้ชื่อจริง นามสกุลจริง ไม่ต้องใช้นามแฝง แต่คราวนี้ไม่ต้องเอาลิงค์มาแปะอีกนะ เดี๋ยวเหมือนแบบเดลินิวส์คราวที่แล้ว

คลิกดูก็ไม่มี คนอื่นเข้ามาช่วยหาอีกหลายๆ ทาง ก็ไม่มี ไม่เอานะ เอาแบบน่าเชื่อถือได้หน่อยนะ ตัดแปะตามหนังสือพิมพ์มาก็ได้ แต่ได้เว็บเนี้ย อย่าเลย เก็บไว้ให้พวกคุณอ่านกันเองเถอะ
บันทึกการเข้า
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #175 เมื่อ: 04-07-2008, 14:45 »

เขียนบทความเก่งดี เน๊อะ...ช่วยไปบอก ไอ้ดินปะสิว กับ ลูกไทยหลานไทย มาเปิดกระทู้ที่นี่หน่อยดิ...

หรือจะให้ไปเถียงที่ประชาไท ก็ได้ แต่ต้องตั้งกระทู้แขวนไว้เลย..แล้วอย่าลบความคิดเห็น..จะให้ดี เอาไอ้ประดาบมาด้วยก็ได้...


 
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #176 เมื่อ: 04-07-2008, 16:59 »

เอ่อ คุณ TLE ครับ ไอ้เว็บเนี่ยมันได้เผยแพร่กว้างขวางขนาดไหนเนี่ย แล้วไอ้คนเขียนนั้นน่ะ มันกล้ารับผิดชอบที่มันเขียนมั้ย

ดูแล้วถ้ามันกล้าก็คงจะกล้าใช้ชื่อจริง นามสกุลจริง ไม่ต้องใช้นามแฝง แต่คราวนี้ไม่ต้องเอาลิงค์มาแปะอีกนะ เดี๋ยวเหมือนแบบเดลินิวส์คราวที่แล้ว

คลิกดูก็ไม่มี คนอื่นเข้ามาช่วยหาอีกหลายๆ ทาง ก็ไม่มี ไม่เอานะ เอาแบบน่าเชื่อถือได้หน่อยนะ ตัดแปะตามหนังสือพิมพ์มาก็ได้ แต่ได้เว็บเนี้ย อย่าเลย เก็บไว้ให้พวกคุณอ่านกันเองเถอะ


คนเราหากอยากฉลาดก็ต้องหมั่นศึกษาและค้นคว้าด้วยตัวเอง อย่ามัวแต่อ้าปากรอรับอาหารสมองที่คนอื่นเค้าแล้วคายป้อนปากจนเคยตัวซิเอ๊ะ



ก็จากข้อมูลที่โพสต์ๆกันอยู่นี่แหล่ะที่นำไปสู่การที่ PRAC นำเรื่องนี้ยื่นต่อปปช.ในที่สุดและกำลังดำเนินการสะสางความจริงให้ปรากฏ ด้วยเหตุและผลดังกล่าว...ข้อมูลทุกชิ้นที่TLEนำมาโพสต์ จึงไม่ใช่ข้อมูลที่เลื่อนลอยหรือปราศจากความจริง เพราะไม่เช่นนั้นทางปปช.คงปฏิเสธรับเรื่องไว้พิจารณาไปแล้ว


ทุกอย่างมันมีที่มาและคำอธิบายได้....โปรดให้โอกาส ปปช. ในการทำงานต่อไปครับ!!

บันทึกการเข้า
qazwsx
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


นักธุรกิจและตำรวจ ต้องออกไปจากการเมือง


« ตอบ #177 เมื่อ: 04-07-2008, 17:17 »


จ๊ะ
ไม่ว่าจ๊ะ จะเอาข้อมูลจากไหนมา Repose
จ๊ะก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการกระทำของตัวเองนะ

เพราะ "ต้นเรื่อง" ทางคดีความไม่จำเป็นต้องสืบหาไปยัง "ต้นเหตุ"
ผู้เสียหายอยากจะหยิบเอาตอนใดของกระบวนการที่เขาเห็นว่าเป็นการก่อนิติเหตุขึ้นกับเขา
ย่อมกระทำได้เสมอ

ในกรณีฟ้องร้องหมิ่นประมาท
จ๊ะมีหนทางเดียวที่จะพิสูจน์หรือต่อสู้ให้พ้นข้อกล่าวหาได้ 
ก็คือการพิสูจน์ว่าคำกล่าวหาบุคคลอื่นที่จ๊ะได้กระทำการ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดนั้นเป็นข้อเท็จจริง
จะ "อ้างว่า" ฟังเขามา - อ่านเขามา - ลอกเขามา
แล้วนำพยานหลักฐาน "ต้นเหตุ" มาแสดงอย่างไร
ในชั้นศาลแล้ว  ไม่ถือว่าเกี่ยวข้องหรือเป็นหน้าที่ที่ศาลจะต้องไป "สืบต่อ" จากหลักฐานที่จ๊ะนำขึ้นกล่าวอ้าง

...นั่นเป็นเรื่องของจ๊ะเอง  ที่จะต้อง "ไล่เบี้ยเอาผิด" จากต้นเหตุที่ทำให้จ๊ะได้ก่อคดีหมิ่นประมาทขึ้น ในภายหลัง


เตือนไว้แค่นี้ล่ะ
เพราะอย่างไรเสียจ๊ะก็เป็นสมาชิกในเว็บบอร์ดนี้ 
ที่แม้ไม่เคยทำตัวให้ใครรัก ไม่ใช่ "คนกันเอง" ของใคร
หลาย ๆ คนรวมทั้งผม ก็ยังถือว่าจ๊ะเป็น "เพื่อนร่วมสังคม" อยู่


หวังว่ายังพอมีสติและความตระหนัก
บันทึกการเข้า

The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #178 เมื่อ: 04-07-2008, 17:19 »

งั้นจ๊ะขอมอบของแถมให้ qazwsx อีกหล่ะกานนนน




"รายการ 'ตาสว่าง' เรื่อง คุณหญิงปลูกบ้าน 50 ล้าน : ทำใจเชื่อได้ไงว่าจ่ายไป 3 ล้านบาทเอง

โดย คุณขาไม่ประจำ
ที่มา เวบบอร์ด พันทิปราชดำเนิน
4 กรกฎาคม 2551

ดูรายการตาสว่าง ที่มีคุณสัญญา คุณากร เป็นผู้ดำเนินรายการ เรื่องคุณหญิงปลูกบ้าน 50 ล้าน

ในรายการฉายวิดิโอ บันทึกบ้านคุณหญิงที่กำลังสร้างอยู่ประกอบด้วย

ผมสงสัยว่า คุณสัญญาซึ่งจบคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ทำใจให้เชื่อได้ไง ในกรณีที่คุณหญิงบอกว่า จ่ายเงินค่าสร้างบ้านไปแค่ 3 ล้านบาทเอง

ทั้งภาพที่ปรากฎเป็นบ้านขนาด 600 -800 ตร.ม. มีภาพแปลนบ้านด้วย

คุณสัญญาคูณหาพื้นที่ ก็ประเมินราคาเบื้องต้นได้ บ้านขนาดนี้ราคากลางน่าจะอยู่ที่ประมาณ 18-25 ล้าน ต้นทุนที่ทำมาได้ถึงขนาดนี้ ไม่น่าจะต่ำกว่า 8- 10 ล้าน คุณหญิงบอกว่าจ่ายเงินไป 3 ล้านกว่าบาทเอง

บ้านขนาดนี้ ค่าก่อสร้างรวมค่าตกแต่ง และเฟอร์นิเจอร์ บิลล์อิน(บ้านแบบนี้ คงไม่ซื้อเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูปแน่ๆ)

ค่าม่านอย่างเดียว น่าจะประมาณ 8 แสน ถึง 1.5 ล้านแล้ว แต่ชนิดผ้า

ค่าเหล็กอย่างเดียว จำนวนใช้ก็ประมาณ 25 ตัน ราคาเมื่อ 5 ปีก่อน ก็ประมาณ 5-6 แสนบาท ปัจจุบันก็ล้านกว่าบาท

อนึ่งใบอนุญาตปลูกสร้างจะมีอายุ 1- 2 ปี คุณหญิงบอกสร้างมา 5 ปี ถ้าจริง ก็น่าจะมีการต่อใบอนุญาต

เรื่องพวกนี้ คนธรรมดาอาจจะไม่ทราบ แต่สถาปนิกแบบคุณดู๋น่าจะรู้นะครับ "
บันทึกการเข้า
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #179 เมื่อ: 04-07-2008, 19:06 »

ไม่พ้นมั่วอีกตามเคย แปะแต่ละทีขยะทั้งนั้น


ปล. เตือนไปก็เท่านั้นแหละครับปู่
เควี่ยมันก็เป็นเควียอย่วันยังค่ำ
กลัวเกรงหรือสำนึกไม่มีอยู่ในสัตว์พันธุ์นี้
หนักหนาเลวทรามกว่านี้ มันก็ทำมาแล้ว
แม้ถึงวันที่มันโดนยำยำจนลงนรกมันก็เถียงกะยมบาลว่ามันไม่ผิด
บันทึกการเข้า
northstar
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 635


« ตอบ #180 เมื่อ: 05-07-2008, 03:31 »


คนเราหากอยากฉลาดก็ต้องหมั่นศึกษาและค้นคว้าด้วยตัวเอง อย่ามัวแต่อ้าปากรอรับอาหารสมองที่คนอื่นเค้าแล้วคายป้อนปากจนเคยตัวซิเอ๊ะ



ก็จากข้อมูลที่โพสต์ๆกันอยู่นี่แหล่ะที่นำไปสู่การที่ PRAC นำเรื่องนี้ยื่นต่อปปช.ในที่สุดและกำลังดำเนินการสะสางความจริงให้ปรากฏ ด้วยเหตุและผลดังกล่าว...ข้อมูลทุกชิ้นที่TLEนำมาโพสต์ จึงไม่ใช่ข้อมูลที่เลื่อนลอยหรือปราศจากความจริง เพราะไม่เช่นนั้นทางปปช.คงปฏิเสธรับเรื่องไว้พิจารณาไปแล้ว


ทุกอย่างมันมีที่มาและคำอธิบายได้....โปรดให้โอกาส ปปช. ในการทำงานต่อไปครับ!!



ขอคำตอบเรื่องเงินตกงานด้วยครับ... เผื่อจะเป็นทางสว่างให้กับในการใชัชีวิตที่สหรัฐ... เห็นท่านเอ็มบะเร่อเห้อชอบอ้างเหลือเกินว่า
ช่วยชี้ทางสว่างให้กับชาวเสรีไทย...
แล้วก็... ความหมายของคำว่า SOME
ทำไมมันถึงแปลว่า... สุดยอด
ขอคำชี้แนะด้วยครับ
     
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #181 เมื่อ: 05-07-2008, 16:48 »

ยังจำตัวเองได้ไหม... 

ที่เคยฟันธงว่าบ้านคุณหญิง ต้องมีเนื้อที่ไม่ต่ำกว่า 2 พัน ตรม.
ตอนนี้ไปซ่อมธงที่หักเรียบร้อยหรือยังล่ะครับ?

ระยะหลังระวังตัวกลัวธงหัก เลยไปหาบทความคนอื่นมาโพส
แต่ก็หาแบบระบุตัวคนเขียนได้ไ่ม่เจอ


...

ทรัพย์สินที่หาว่าคุณหญิงร่ำรวยผิดปกติ ก็ประเมินราคาเอาเอง
จนไปถึงทรัพย์สินของญาติคุณหญิง ก็ประเมินราคาเองทั้งนั้น
รวมทั้งหมดแล้วก็แค่ไม่กี่สตางค์

กลับไปมองอีกทาง แค่คดีภาษีของพี่ชายคุณหญิงพจมาน
ที่ทำกันจนหมดอายุความ ก็ปาเข้าไปเกิน 5 ร้อยล้านบาท

คดีอื่นถึงระดับเป็นพัน เป็นหมื่น เป็นแสนล้าน ไม่รู้จักไปดู 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
นักปฏิวัติ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 330



« ตอบ #182 เมื่อ: 05-07-2008, 18:07 »

งั้นจ๊ะขอมอบของแถมให้ qazwsx อีกหล่ะกานนนน




"รายการ 'ตาสว่าง' เรื่อง คุณหญิงปลูกบ้าน 50 ล้าน : ทำใจเชื่อได้ไงว่าจ่ายไป 3 ล้านบาทเอง

โดย คุณขาไม่ประจำ
ที่มา เวบบอร์ด พันทิปราชดำเนิน
4 กรกฎาคม 2551

ดูรายการตาสว่าง ที่มีคุณสัญญา คุณากร เป็นผู้ดำเนินรายการ เรื่องคุณหญิงปลูกบ้าน 50 ล้าน


ทั้งภาพที่ปรากฎเป็นบ้านขนาด 600 -800 ตร.ม. มีภาพแปลนบ้านด้วย


อนึ่งใบอนุญาตปลูกสร้างจะมีอายุ 1- 2 ปี คุณหญิงบอกสร้างมา 5 ปี ถ้าจริง ก็น่าจะมีการต่อใบอนุญาต

เรื่องพวกนี้ คนธรรมดาอาจจะไม่ทราบ แต่สถาปนิกแบบคุณดู๋น่าจะรู้นะครับ "

วัตถุประสงค์ แค่สำหรับประมาณการเท่านั้น

คร่าวๆ พท.(ตรม.) x ราคาประเมิน ; ใช้ราคาประเมิน ของสมาคมประเมินค่าทรัพย์สิน (http://www.thaiappraisal.org/pdfNew/const/cost50-web.pdf)
ซึ่ง ราคาเมื่อ 5 ปี มันไม่มีในเวบ แต่ผมมีข้อมูล สำหรับ บ้านตึก 2-3 ชั้น ราคาประมาณ 7,000 บาท/ตรม. (ราคาปี 2545 ด้านต่ำ 6,800 ไม่ต้องหักค่าเสื่อม ปีละ 2%)
สมมติ 700 ตรม.x 7,000 = 4,900,000 บาท

ดังนั้น เฉพาะราคาก่อสร้าง 4-5 ล้าน ก็สมเหตุผลครับ คือ หากพิจารณาค่าความคลาดเคลื่อนต่างๆ(tolerance) ก็ตีได้ว่า อย่างไรก็ต่ำกว่าที่กล่าวหาแน่ๆครับ เพราะเจ้าของค่อนข้างเป็นที่กว้างขวางทางสังคม การได้ Favourable จากเพื่อนฝูง แบบที่ทุกๆท่านได้รับก็คงจะมีแน่นอน(ผมเองมีเพื่อนเป็นผู้รับเหมา ถ้าสร้างเอง ก็คงต้องบีบคอเพื่อนกันบ้าง  Mr. Green ช่วยๆกัน) อย่าไปมุ่งจับผิดแบบไร้สาระเลยครับ
 
บันทึกการเข้า

"สุดยอดกลยุทธ์ คือชนะโดยไม่ต้องรบ" ซุนวู

"ผู้นำชั้นเลิศนั้น เพียงแต่เป็นที่รับรู้ว่ามีตัวตนอยู่
ชั้นรองลงมา เป็นที่รักและสรรเสริญ
ชั้นรองกว่านั้น เป็นที่เกรงกลัวและเกลียดชัง" เหล่าจื๊อ เต้าเต๋อจิง
KILL...ER
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 330



« ตอบ #183 เมื่อ: 05-07-2008, 21:10 »

อีเปรต... มันบอกว่า ใช้หลังคาสีเหลือง เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี !!!

อีนี่เว่อร์ใช้ได้เลยทีเดียว

ใครยังควายหลงเชื่อว่า มันเป็นคนดีประเสริฐเลอเลิศ อยู่อีก

แสดงว่า บริโภคมังสวิรัติ โดยเฉพาะ หญ้าและฟางแห้ง มากเกินไปแล้ว
บันทึกการเข้า

จงภาคภูมิใจในความเป็นไพร่กระฎุมพี
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #184 เมื่อ: 07-07-2008, 08:59 »


วัตถุประสงค์ แค่สำหรับประมาณการเท่านั้น

คร่าวๆ พท.(ตรม.) x ราคาประเมิน ; ใช้ราคาประเมิน ของสมาคมประเมินค่าทรัพย์สิน (http://www.thaiappraisal.org/pdfNew/const/cost50-web.pdf)
ซึ่ง ราคาเมื่อ 5 ปี มันไม่มีในเวบ แต่ผมมีข้อมูล สำหรับ บ้านตึก 2-3 ชั้น ราคาประมาณ 7,000 บาท/ตรม. (ราคาปี 2545 ด้านต่ำ 6,800 ไม่ต้องหักค่าเสื่อม ปีละ 2%)
สมมติ 700 ตรม.x 7,000 = 4,900,000 บาท

ดังนั้น เฉพาะราคาก่อสร้าง 4-5 ล้าน ก็สมเหตุผลครับ คือ หากพิจารณาค่าความคลาดเคลื่อนต่างๆ(tolerance) ก็ตีได้ว่า อย่างไรก็ต่ำกว่าที่กล่าวหาแน่ๆครับ เพราะเจ้าของค่อนข้างเป็นที่กว้างขวางทางสังคม การได้ Favourable จากเพื่อนฝูง แบบที่ทุกๆท่านได้รับก็คงจะมีแน่นอน(ผมเองมีเพื่อนเป็นผู้รับเหมา ถ้าสร้างเอง ก็คงต้องบีบคอเพื่อนกันบ้าง  Mr. Green ช่วยๆกัน) อย่าไปมุ่งจับผิดแบบไร้สาระเลยครับ
 



โถถถถถถถถ....พ่อคู้น ไปเอาตัวเลขปี 2545 มาใช้กับสภาวะเศรษฐกิจปี2549-2551 ที่วัสดุก่อสร้างถีบตัวเกือบ 70% แล้วยังคิดค่าก่อสร้าง+วัสดุเพีนงตรม.ละ 7 พันบาท  ประทานโทษ...นี่เค้าสร้างบ้านตุณหญิงฯน๊ะ ไม่ใช่สร้างฮวงซุ้ย!!

ทำเป็นอ้างตัวเลข...แต่ตรรกะไม่ได้ถูกนำมาใช้เลยสักนิดเดียว อคติและลำเอียงแบบนี้...เติ้ลตีกระจุย!!
บันทึกการเข้า
sanskritshower
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 245



« ตอบ #185 เมื่อ: 07-07-2008, 09:15 »

ยังจำตัวเองได้ไหม... 

ที่เคยฟันธงว่าบ้านคุณหญิง ต้องมีเนื้อที่ไม่ต่ำกว่า 2 พัน ตรม.
ตอนนี้ไปซ่อมธงที่หักเรียบร้อยหรือยังล่ะครับ?

ระยะหลังระวังตัวกลัวธงหัก เลยไปหาบทความคนอื่นมาโพส
แต่ก็หาแบบระบุตัวคนเขียนได้ไ่ม่เจอ


...

ทรัพย์สินที่หาว่าคุณหญิงร่ำรวยผิดปกติ ก็ประเมินราคาเอาเอง
จนไปถึงทรัพย์สินของญาติคุณหญิง ก็ประเมินราคาเองทั้งนั้น
รวมทั้งหมดแล้วก็แค่ไม่กี่สตางค์

กลับไปมองอีกทาง แค่คดีภาษีของพี่ชายคุณหญิงพจมาน
ที่ทำกันจนหมดอายุความ ก็ปาเข้าไปเกิน 5 ร้อยล้านบาท

คดีอื่นถึงระดับเป็นพัน เป็นหมื่น เป็นแสนล้าน ไม่รู้จักไปดู 

ขอคำตอบเรื่องเงินตกงานด้วยครับ... เผื่อจะเป็นทางสว่างให้กับในการใชัชีวิตที่สหรัฐ... เห็นท่านเอ็มบะเร่อเห้อชอบอ้างเหลือเกินว่า
ช่วยชี้ทางสว่างให้กับชาวเสรีไทย...
แล้วก็... ความหมายของคำว่า SOME
ทำไมมันถึงแปลว่า... สุดยอด
ขอคำชี้แนะด้วยครับ
     

ซ้ำให้อีกที เผื่อ TLE ไม่ได้อ่าน
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #186 เมื่อ: 07-07-2008, 10:38 »

ซ้ำให้อีกที เผื่อ TLE ไม่ได้อ่าน


ขอบคุณสำหรับแรงใจคร้า...แบบนี้ต้องตอบแทนนำสิ่งดีๆมามอบให้ซะแล้ว


"เดินแบบ(คุณหญิง)เป็ด


"ก๊าบ ก๊าบ ก๊าบ

ยามเมื่อเป็ดมันเดินไป มองแล้วไม่น่าดูเลย จำไว้เถิดเพื่อนเอ๋ยๆ จงอย่าเดินให้เหมือนเป็ด"

บทเพลงที่ผู้ใหญ่เมื่อวันวาน ร้องขับขานให้เด็กฟัง ทั้งเพื่อความเพลิดเพลิน ทั้งเพื่อสอนเด็กๆ หัดเดินให้ตรงทาง อย่าเดินส่ายไปส่ายมา เหมือนเป็ด ซึ่งเดินด้วยอาการกิริยาที่ไม่น่าดูชมแก่คนทั่วไป และไม่ควรจดจำนำท่าเดินของเป็ด มาเป็นเยี่ยงอย่างหรือต้นแบบการเดิน

วันนี้ผมอยากจะขยับลุกคอ เพลงสั้นๆ บทนี้ให้ เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ได้รับฟัง เพื่อเตือนความทรงจำแต่หนหลังที่พ่อแม่ หรือ ผู้หลักผู้ใหญ่ เคยร้องให้ฟัง และสั่งสอนไว้ว่า

"จงอย่าเดินให้เหมือนเป็ด"

ทั้ง เป็ด ก๊าบ ก๊าบ

และ เป็ด จารุวรรณ เมณฑกา นั่นล่ะ

ต้องเรียกอย่างให้เกียรติ ว่าคุณหญิง จึงจะถูกต้อง แต่เพื่อความสะดวกปาก และสะดวกใจ และสะดวกมือในการเขียนหนังสือ จึงขอเรียกเธอว่า คุณหญิงเป็ด ก็แล้วกัน สั้นๆ ได้ความ กระชับความรู้สึก เพื่อให้สอดรับกับชื่อเรื่อง

"เดินแบบ(คุณหญิง)เป็ด"

คนไทยในกาลอดีต เป็นคนช่างคิด ช่างเปรียบเทียบ สอนสั่งให้เด็กฟังแต่ละเรื่อง เพื่อให้จดจำได้ง่ายก็มักจะหยิบยกอาการของสัตว์ หรือ ธรรมชาติ ที่พบเห็นมาเทียบเคียงให้ได้เห็นภาพกันชัดๆ และเห็นกันบ่อยๆ ง่ายๆ เพื่อที่จะได้เข้าใจ และจดจำฝังรากหยั่งลึกในสมอง

ยิ่งเป็นเรื่องต้องห้าม ทั้งหลาย ก็จะสรรหาอาการกิริยาที่น่ารังเกียจ หรือ ไม่พึงประสงค์ของผู้คนทั่วไป มาเป็นตัวอย่าง เช่น การเดินของเป็ด ดังที่ถูกนำมาประดิษฐ์ถ้อยร้อยคำเป็นลำนำสั้นๆ แต่เห็นภาพชัดเจน และห้ามเด็ดขาดว่า

"จงอย่าเดินให้เหมือนเป็ด"

ซึ่งเป็นคำห้าม และ คำสอนที่นำมาปรับประยุกต์ใช้ได้เป็นอย่างดีกับสถานการณ์ปัจจุบันของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ที่มี คุณหญิงเป็ด เป็นผู้ว่าการ หรือผู้บริหารหมายเลขหนึ่ง ของหน่วยราชการอิสระหน่วยงานนี้

สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. เป็นหน่วยงานที่กำลังดังที่สุด มีบทบาทมากที่สุด และทรงอิทธิพลสูงสุด ในห้วงเวลาที่คณะรัฐประหาร มีอำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศไทย ยามนี้ เพราะถูกเลือกให้เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่สร้างพยานหลักฐาน รองรับความชอบธรรมของการก่อการรัฐประหาร ของคณะผู้ก่อการที่นำโดยพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชา การทหารบก

คงไม่ผิดนัก หากจะกล่าวว่าการรัฐประหารครั้งนี้ จะสมบูรณ์หรือไม่ จะชี้เป็นชี้ตายชะตากรรมและอนาคตของคณะผู้ก่อการทุกคน ก็ขึ้นอยู่กับการทำงานของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน นี้เอง ว่าจะสร้างสรรปั้นเสกพยานหลักฐาน มารองรับเหตุผลการก่อรัฐประหาร ได้อย่างแนบเนียน ไร้ซึ่งข้อทักท้วง หรือ ข้อโต้แย้ง กระทั่งมีพิรุธ ให้ถูกจับได้หรือไม่

หากว่า สตง. ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้ความเสีย หายแก่รัฐ หรือ คตส. และเป็นหน่วยงานหลักในการนำเสนอข้อมูลเรื่องราวต่างๆ ที่ถูกระบุว่ามีการกระทำทุจริตคอรัปชั่น ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ทำงานที่ได้รับมอบหมายไม่สำเร็จ บรร ลุผล ตามที่คณะรัฐประหารมอบหมาย

คนที่จะต้องตายแน่ๆ คาที่คาเท้าประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศ โดยที่ไม่มีโอกาสเรียกรถพยาบาลมาปั๊มหัวใจ ก็เห็นจะเป็น ผู้ก่อการรัฐประหาร ในฐานะที่ ก่อการรัฐประหาร ด้วยเหตุผลโป้ปดมดเท็จ

ตามมาติดๆ เป็นศพที่สองก็เห็นจะเป็นคณะกรรมการ คตส. ที่ถูกเชิดขึ้นมาให้เป็นตัวแทนของคณะรัฐประหาร มีอำนาจหน้าที่ผูกโยงเรื่องราวต่างๆ ให้มีน้ำหนักและหลักฐานว่า มีการกระทำทุจริตคอรัปชั่นจริง ตามที่คณะรัฐประหารได้แถลงเป็นข้ออ้างสำคัญในการก่อการรัฐประหารขึ้นมา

นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราได้เห็นคุณหญิงเป็ด เข้าพบหัวหน้าโจรใหญ่ ใจกบฎ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ที่รังโจรกองทัพบก หลังการยึดอำนาจไม่ถึง 24 ชั่วโมง เพราะคุณหญิงเป็ด คือความหวังทั้งหมดทั้งมวลของคณะรัฐประหารที่จะมาช่วยกันสร้างพยานหลักฐานรองรับข้ออ้างของการปล้นอำนาจประชาชนทำลายประชาธิปไตย ในครั้งนี้

คุณหญิงเป็ด จึงเป็นบุคคลที่สำคัญที่สุด และ ทรงอิทธิพลที่สุดในประเทศไทย ขณะนี้ และคงไม่เกินจริงหากจะบอกว่าคุณหญิงเป็ด คือผู้หญิงที่คณะรัฐประหารให้ความเกรงใจ และเกรงกลัวมากที่สุด ในฐานะผู้กุมทั้งความลับ ของลับ กล่องดวงใจของคณะผู้ก่อการรัฐประหาร ทุกคน

อีกทั้งยังเป็นผู้หญิงคนเดียวที่จะทำให้ บั้นปลายชีวิตของผู้ก่อการรัฐประหารครั้งล่าสุด จบลงอย่าง "เจ้า" หรือ อย่าง "โจร"

หากอยากรู้ว่าคุณหญิงเป็ด เป็นบุคคลสำคัญ และทรงอิทธิพลมากน้อยเพียงใด ท่านสามารถตรวจสอบได้จากประกาศคปค. ฉบับที่ 12 ซึ่งลงนามโดยพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2549 หลังจากที่คุณหญิงเป็ด เข้าพบ ซึ่งมีใจความสาระสำคัญยิ่งยวด ว่า

"ข้อ 1.ให้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน มีผลใช้บังคับต่อไป โดยให้งดการบังคับใช้บทบัญญัติในส่วนที่ 1 หมวด 1 จนกว่าจะมีประกาศเป็นอย่างอื่น และให้คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในวันที่ 18 กันยายน พ.ศ.2549 พ้นจากตำแหน่ง

ข้อ 2. ให้ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในวันที่ 18 กันยายน พ.ศ.2549 คงอยู่ในตำแหน่งต่อไป จนกว่าจะมีการประกาศเป็นอย่างอื่น

ข้อ 3. การใดที่กำหนดให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ตามพระราช บัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2542 ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน"

ใหญ่ไม่ใหญ่ก็เชิญพินิจกันเอาเอง เกรงใจไม่เกรงใจ ก็ลองคิดกันให้ทั่ว กลัวไม่กลัว ก็ใช้หัวแม่เท้าตรึกตรองกันให้ดี

คณะรัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญ แต่ต้องประกาศให้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน ซึ่งเป็นกฎหมายลูกของรัฐธรรมนูญ อยู่ได้ โดยไม่ต้องมีแม่ เปรียบเป็นผลไม้ก็คือ โค่นต้นทิ้ง แต่แขวนผลไว้กลางอากาศ ประหลาดดีแท้

คณะรัฐประหารยุบทิ้งคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ซึ่งได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งจากพระมหากษัตริย์ ให้มีอำนาจหน้าที่ควบคุมกำกับดูแลการปฏิบัติงานของผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน แต่ให้ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ทำงานต่อไปได้ โดยไม่ต้องมีคณะกรรมการกำกับดูแล และยังให้รวบริบอำนาจของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ที่บัญญัติไว้ในกฎหมาย มาเป็นของผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เรียกว่ารวบอำนาจมาไว้ในมือแต่เพียงผู้เดียว

เห็นกันหรือยังว่าคุณหญิงเป็ด ในชั่วโมงนี้ พ.ศ.นี้ ใหญ่โตบะเริ่มเทิ่มขนาดไหน

แต่ทว่า 9 เดือนผ่านไป นับตั้งแต่วันที่คุณหญิงเป็ด ได้รับมอบป้ายประกาศิตมาจากหัวหน้าโจรใหญ่ ใจกบฎ ที่ปราบดาภิเษกตัวเองเป็นประหนึ่งฮ่องเต้ นั่งเท่ห์อยู่บนเก้าอี้ประธานคปค. จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีแม้แต่เรื่องเดียวที่ตรวจสอบพบว่ามีการทุจริตคอรัปชั่นแบบจะๆ มีแต่ข้อกล่าวหาเต็มไปหมด

9 เดือนผ่านไป ข้อกล่าวหาก็ยังคงเป็นข้อกล่าวหา

แม้แต่การหาพยานหลักฐานมาสนับสนุนว่าข้อกล่าวหานั้น มีมูล น่าเชื่อถือ เพื่อที่จะเขยิบฐานะจากข้อกล่าวหา ขึ้นมาเป็นข้อเท็จจริง ก็ยังไม่บรรลุผล การพิสูจน์ความผิดที่มีอยู่จริงในข้อกล่าวหาแต่ละข้อ จึงยังไม่เริ่มต้นขึ้น

สอบกันไปสอบกันมา กรรมการคตส.หลายคน ทำท่าว่าจะถอดใจกันเสียแล้ว เพราะรู้อยู่แก่ใจว่า เรื่องที่สอบกันมานานเกือบปีกว่า 10 เรื่องนั้น นอกจากมีแห้วกระป๋อง รออยู่ที่ปลายทาง แล้ว ยังมีคดีความที่ต้องตกเป็นจำเลย รออยู่อีกไม่น้อยกว่าคนละ 10 คดี

กรรมการบางคนเริ่มทำใจแล้วว่า หลังจากหมดสิ้นอำนาจวาสนากับตำแหน่งคตส. ต้องเปลี่ยนอาชีพจากนักกฎหมาย อาจารย์ ทนายความ เป็น จำเลยอาชีพ มองเห็นอนาคตตัวเอง ต้องขึ้นศาลทุกวัน อยู่รำไรรำไร

เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะข้อมูลเบื้องต้นของแต่ละเรื่อง ที่คุณหญิงเป็ด รวบรวมมาให้ใส่แฟ้มกองโต แถมพกด้วยคำคุยโม้โอ้อวดว่า สตง. ตรวจสอบมาแล้ว เรื่องทั้งหมดนี้ มีหลักฐานมัดแน่น เอาผิดได้ทันที

แต่เมื่ออ่านกันอย่างถ้วนถี่ ตรวจกันดีๆ ลงลึกไปแต่ละหน้า แต่ละรายละเอียด กรรมการคตส. หลายคนถึงกับมีอาการจุกเสียด ท้องอืดเฟ้อเรอเหม็นเปรี้ยวขึ้นมาอย่าปัจจุบันทันด่วน

แต่ละเรื่อง แต่ละกรณี มีข้อกล่าวหารออยู่ แต่หลักฐานจะมัดตัวผู้กระทำผิดไม่มีมาด้วย ต้องเริ่มต้นตรวจสอบกันใหม่หมด

หลายเรื่องเคยฟังมาอย่างหนึ่ง แต่พอมาทำงาน มาตรวจสอบด้วยตาตัวเอง กลายเป็นอีกอย่างหนึ่ง จึงได้แต่นั่งอึ้ง ทึ่ง เสียว กลัวอนาคตตัวเอง แทนที่จะเดินทางตรงกลับบ้านอย่างปลอดภัย จะต้องเปลี่ยนเป็นเดินเลี้ยวเฉี่ยวประตูคุก ก็เพราะคุณหญิเป็ด คนนี้ล่ะ

กรรมการคตส. อย่างน้อย 2 คน เพิ่งเข้าใจว่าทำไม นายสวัสดิ์ โชติพานิช อดีตประธานศาลฎีกา ถึงลาออกจากการเป็นประธานกรรมการคตส. หลังจากเข้าประชุมร่วมกับคุณหญิงเป็ด เพียงครั้งเดียว โดยทิ้งคำพูดก่อนจากไปว่า คุณหญิงเป็ด ทำอะไรตาม ใจตัวเอง ถ้าเดินตามข้อมูลหลักฐานที่คุณหญิงเป็ด จัดทำมาให้ การทำงานยากจะประสบความ สำเร็จ

"ผมรู้ดีว่าสังคมให้ความหวังไว้สูงมากกับคณะกรรมการชุดนี้ แต่ผมก็ต้องพิสูจน์ด้วยหลักฐานที่ชัดเจน ไม่เช่นนั้นเมื่อเรื่องไปถึงศาลยุติธรรม คดีอาจจะหลุดในชั้นศาลเหมือนสมัยรสช.ก็ได้"

คำพูดของ นายสวัสดิ์ โชติพานิช สะท้อนให้เห็นว่าคุณหญิงเป็ด เป็นอย่างไร แต่สุดท้ายเมื่อท้ายสุด พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ก็ตัดสินใจเลือกคุณหญิงเป็ด ทำให้นายสวัสดิ์ โชติพานิช ลาออกจากตำแหน่งประธานคตส. ทันที

พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ต้องออกคำสั่งคปค. ตั้งคณะกรรมการคตส. ชุดใหม่ มีนายนาม ยิ้มแย้ม เป็นประธาน และ มีคณะกรรมการที่เป็นฝ่ายแค้นของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาทำหน้าที่ตรวจสอบพ.ต.ท.ทักษิณ แทนครบถ้วนทุกคน ตามที่คุณหญิงเป็ด ต้องการ โดยไม่คำนึงว่าขัดหลักนิติศาสตร์ และละเมิดหลักนิติธรรม อย่างไร

นี่ก็เป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าคุณหญิงเป็ด เป็นบุคคลสำคัญระดับใด

ก็ทั้งๆ ที่คุณหญิงเป็ด เป็นผู้ทรงอิทธิพลถึงเพียงนี้ แล้วเหตุใดไฉนเล่า นายประดาบ จึงมาร้องเพลง "ก๊าบ ก๊าบ ก๊าบ" เตือนเจ้าหน้าที่สตง. ว่า "จงอย่าเดินให้เหมือนเป็ด"

ก็เพราะผมมองเห็นอนาคตของคุณหญิงเป็ด น่ะสิครับ ว่าเธอคนนี้ เห็นทีจะหนีไม่พ้นการเป็นจำเลยอาชีพ แน่ๆ เมื่อเกษียณอายุราชการ ทั้งบำนาญ และ บำเหน็จ ถ้าหมดยุคเผด็จการเบ็ดเสร็จพ.ศ.นี้แล้ว คงจะต้องส่งคืนหลวงทั้งหมด เพราะผู้ต้องโทษคุมขัง ไม่มีสิทธิได้ รับน่ะสิครับ

ถามว่าเดินอย่าง(คุณหญิง)เป็ด ที่เจ้าหน้าที่สตง.ไม่ควรเดินตาม นั้นเดินแบบไหนหรือ

คำตอบ ก็คือ ...

เดินอย่าง(คุณหญิง)เป็ด แบบที่ว่า เมียเป็นผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน แต่สามีทำมาหากินกับเงินหลวง เปิดโรงพิมพ์ขนาดไม่ใหญ่ไม่โต แต่ใครไปเห็นกับตามาแล้ว ต้องร้องโอ้โห.. ทุกรายไป มีงานพิมพ์ทั้งจากเอกชน และส่วนราชการ เข้ามาไม่ขาดสาย

งานหลายงานรับมาแล้ว พิมพ์ไม่ทัน ต้องส่งต่อให้โรงพิมพ์อื่นพิมพ์แทน จึงได้แต่กินหัวคิวค่ารับงานเฉยๆ โดยเฉพาะงานพิมพ์ของส่วนราชการ ไม่รู้เป็นอะไรกันนักหนา ไหลมาเทมาที่โรงพิมพ์แห่งนี้ จนแท่นพิมพ์ไม่ว่าง ตารางการพิมพ์แน่นเอี๊ยด หลายปีมานี้ จึงได้แต่กินหัวคิวเฉยๆ เพราะพิมพ์ไม่ทัน

ไม่ต้องถามกันเข้ามาว่าโรงพิมพ์นี้อยู่ที่ไหน เพราะจะเฉลยให้เลยว่า โรงพิมพ์อยู่ย่านประชานิเวศน์ อยู่ในรั้วเดียวกันกับบ้านพักคุณหญิงเป็ด นั่นล่ะ

เดินอย่าง(คุณหญิง)เป็ด แบบที่ว่าใส่ชื่อลูกชายเป็นเลขานุการส่วนตัว กินเงินเดือน 30,000 บาท ฟรีๆ โดยไม่ต้องทำงาน ใครเอาเรื่องนี้มาประจาน ก็บอกว่าเป็นสิทธิของแม่ที่จะตั้งลูก เป็นเลขานุการ เพราะไว้วางใจเป็นพิเศษกว่าทุกๆ คน

เดินอย่าง(คุณหญิง)เป็ด แบบที่ว่าใส่ชื่อลูกสาวเป็นเจ้าหน้าที่สตง. เพื่อจะขอเบิกงบประมาณแผ่นดิน ซื้อตั๋วเครื่องบินให้ลูกสาวไปเที่ยวทริปเดียวกับที่คุณหญิงแม่ ไปราช การต่างประเทศ เมื่อถูกนำเรื่องมาเปิดโปงว่าเป็นคนขี้โกง ก็คุยขโมงว่าเงินแค่ไม่กี่บาท จ่ายเองก็ได้

เดินอย่าง(คุณหญิง)เป็ด แบบที่ว่ายื่นเงื่อนไขแลกขั้นเปลี่ยนตำแหน่งให้กับน้องสาวที่ชื่อ เจ๊ไก่ ข้าราชการผู้ยิ่งใหญ่แห่งกระทรวงกษตรและสหรณ์กับ การไม่ตรวจสอบทุจริตคอรัปชั่นขบวนการโกงลำใย ที่ทำกันแบบอุกอาจ 4 ปีซ้อน ราวกับเป็นมหกรรมทุจริตประจำปี ตั้งแต่สมัยประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ จนถึง สมศักดิ์ เทพสุทิน และสุดท้ายปิดมหกรรมที่ สุดารัตน์ เกยุราพันธ์

การยื่นเงื่อนไขแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ครั้งนี้ มีนายบรรพต หงษ์ทอง ปลัดกระทรวงเกษตรฯ หนึ่งในจำเลยขบวนการมหกรรมโกงกินลำไย เป็นผู้รับเงื่อนไข ส่งผลให้วันนี้ เจ๊ไก่ ไม่ใช่ข้าราชการธรรมดาอีกต่อไป แต่เป็นข้าราชการผู้ยิ่งใหญ่ ที่ปลัดกระทรวง ต้องเกรงใจ

เจ๊ไก่ น้องพี่เป็ด เลื่อนขั้นกระชั้นถี่ยิ่งนัก ยกระดับจาก 7 เป็น 8 และ 8 เป็น 9 ในเวลาอันเร็วรี่ แค่ไม่กี่ปี ก็ถีบตัวเองทะยานจ่อซี10 ตำแหน่งอธิบดีหญิงคงไม่ไกลเกินเอื้อม

เดินอย่าง(คุณหญิง)เป็ด แบบที่ว่าเลือกตรวจสอบเฉพาะบุคคล และหน่วยงานที่ขัดประ โยชน์ส่วนตนและครอบครัว ละเว้นการตรวจสอบบุคคล หน่วยงานที่เอื้ออำนวยประโยชน์แก่ตนและพวกพ้อง

ยอมเป็นข้าราชการ ภายใต้อำนาจเถื่อน เผด็จการทหาร แตไม่ยอมเป็นข้าราชการของรัฐบาลระบอบประชาธิปไตย

เดินอย่าง(คุณหญิง)เป็ด แบบที่ว่าอาสาคณะรัฐประหาร เล่นงานนักการเมือง เพื่อชำระแค้นส่วนตัว โดยไม่สนใจว่าจะต้อง "ทำมั่ว" และ "ทำชั่ว" อย่างไรบ้าง

นำวิชาชีพ และความไว้วางพระราชหฤทัยของพระมหากษัตริย์ ที่โปรดเกล้าฯ เป็นคุณหญิง มารองรับการประพฤติผิดคิดมิชอบ เพื่อประโยชน์ของตัวเอง

เดินอย่าง(คุณหญิง)เป็ด แบบที่ว่านำสำนักงานตวจเงินแผ่นดิน ซึ่งเห็นหน่วยราช การอิสระ ไปรับใช้คณะรัฐประหาร สร้างตำนานผู้นำการเมืองนอกระบบเข้าสู่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน เป็นคนแรก

นี่เป็นตัวอย่างการเดินแบบคุณหญิงเป็ด หรือ เดินแบบเป็ด ที่เจ้าหน้าที่สตง. ไม่ควรเดินตาม เพราะ "มองแล้วไม่น่าดูเลย" เป็นที่รังเกียจของประชาชนทั่วไป

นี่ยังไม่นับเรื่องตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ที่เป็นอยู่นั้น ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ตำแหน่งนี้เถื่อนหรือถูก ยังเป็นปมที่ผูกเอาไว้ รอให้มีการวินิจฉัยอีกครั้งหนึ่ง

เนื่องจาก ศาลอาญาได้สั่งจำคุกนายปัญญา ตันติยวรงค์ อดีตประธานคณะกรรม การตรวจเงินแผ่นดิน เป็นเวลา 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา เนื่องจากกระทำความผิด เสนอชื่อคุณหญิงเป็ด เป็นผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต่อวุฒิสภา ขัดต่อพระราชบัญญัติประ กอบรัฐรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน

กฎหมายกำหนดให้เสนอเพียงชื่อเดียวที่ได้รับคะแนนสูงสุด เข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภา แต่นายปัญญา เสนอทีเดียว 3 ชื่อ แอบใส่ชื่อคุณหญิงเป็ด ไปให้วุฒิสภา พิจารณาคัดเลือกด้วย ทั้งๆ ที่คุณหญิงเป็ด ไม่มีสิทธิ เพราะไม่ผ่านการสรรหาในชั้นต้น

การที่ศาลอาญา พิพากษาว่านายปัญญา ตันติยวรงค์ มีความผิด เพราะเสนอชื่อคุณหญิงเป็ด ขัดต่อกฎหมาย ทำให้เกิดคำถามขึ้นทันทีว่าแล้วตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินของคุณหญิงเป็ด เป็นตำแหน่งถูกหรือตำแหน่งเถื่อน เพราะไม่ได้มาตามหลักเกณฑ์ที่ถูกต้องของกฎหมาย

นายประธาน ดาบเพชร ผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุด แต่ไม่ได้เป็นผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เพราะความสามารถในการล็อบบี้ หรือ ศักยภาพการขอเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา ต่ำกว่าคุณหญิงเป็ด ที่ได้คะแนนต่ำ แต่ความสามารถการล็อบบี้สูง ซึ่งเป็นผู้ฟ้องดำเนินคดีกับนายปัญญา ที่ทำให้เสียสิทธิ สะท้อนให้เห็นถึงภาพการทำงานของคุณหญิงเป็ด ที่ไม่ควรเดินตาม ว่า

"จากการรวบรวมข้อมูลนับตั้งแต่ที่คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา เป็นผู้ว่าฯ สตง. เห็นว่ามีการทำผิดกฎหมายหลายเรื่อง โดยการทำงานมุ่งปราบปรามการทุจริต จนทำให้ประชาชนคาดหวัง แต่ทำไม่ได้ เพราะ สตง.จะต้องป้องกันการทุจริต และยังมีการทำผิดกฎหมายโดยรายงานการตรวจสอบอันเป็นเท็จ ในหลายเรื่อง ซึ่งได้ส่งเรื่องไปให้ประธาน คตง. นายกรัฐมนตรี และวุฒิสภาดำเนินการตรวจสอบแล้ว

ข้อมูลที่ผมเสนอไปนั้น ถ้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับไปดำเนินการจะสามารถเอาผิดกับคนเกี่ยวข้องได้ มีตั้งแต่ระดับผู้อำนวยการสำนักขึ้นไป รวมถึงผู้ว่าฯสตง. ผมสรุปจากพยานหลักฐาน แล้วแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ เพราะการดำเนินการนั้นทำให้ระบบการบริหารราชการแผ่นดินเกิดความระส่ำระสาย ผมเลยแจ้งให้หน่วยรับตรวจของ สตง. ให้ช่วยกันตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของ สตง. ให้อยู่ภายใต้กฎหมาย ไม่เกินเลยหลักนิติรัฐต่อไป"

วันนี้ ข้อมูลที่นายประธาน ดาบเพชร เสนอไปนั้น คงสูญหาย ถูกทำลายไปหมดแล้ว แม้จะไม่สูญหาย แต่ก็ไม่สามารถระคายผิวกายของคุณหญิงเป็ด ได้ อย่างแน่นอน

เห็นคุณหญิงเธอ เป็นผู้หญิง อย่าคิดว่าเธออ่อนแอ อ่อนน้อม และอ่อนไหว ดังภาพที่เห็นเชียวนา

ว่ากันว่าเมื่อถึงเวลาหงุดหงิด เธอโหดอำมหิตชนิดที่ชายต้องทึ่งปนเสียวทีเดียวล่ะ เธอเชือดได้ภายใต้สีหน้าที่เรียบสนิท ปราศจากความรู้สึกร้อนหนาว กระทั่งผิดชอบชั่วดี ก็อาจจะนับเหมารวมได้

ไม่อย่างนั้นแล้ว คณะรัฐประหาร ที่เป็นผู้ชายทั้งแท่ง (แต่แข็งไม่แข็งไม่รู้เหมือนกัน) คงไม่ตกอยู่ในคำสั่งของเธอ สั่งซ้ายหันขวาหันได้ตามใจชอบ

ก็ถึงขนาดสั่งให้มอบอำนาจทั้งหมดในกฎหมาย มาเป็นของเธอแต่เพียงผู้เดียว ทั้งๆ ที่ขัดหลักการและเจตนารมณ์ของกฎหมาย คณะรัฐประหาร ก็ยังทำตามอย่างว่าง่าย

เห็นหรือยังว่า อิทธิฤทธิ์คุณหญิงเป็ด เธอเป็นอย่างไร

โดยเฉพาะนายทหารเจ้าชู้ แบบบิ๊กบัง น่าจะเป็นคนแพ้ทางเป็ด

คงโดนคำขู่ "เดี๋ยวตัดให้เป็ดกินเสียเลย" มากจนประสาทเสีย

เจอคุณหญิงเป็ด ตัวเป็นๆ เข้า ก็เลยอ่อนระทวย ต้องยอมเอออวยเอาด้วยทุกเรื่องที่คุณหญิงเป็ด เสนอมา

แต่หนังชีวิตเรื่องนี้ ต้องดูกันยาวๆ เพราะไม่จบง่ายๆ

เหมือนกับที่สำนวนนักรบ เขาชอบพูดกันว่า สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร

หนังเรื่องชีวิตของ(คุณหญิง)เป็ด ก็เช่นเดียวกัน

หนังยังไม่จบ ยังดูไม่ออก บอกไม่ได้ว่าบทสุดท้ายของเป็ดอย่างคุณหญิงเธอ จะลงเอยอย่างไร

จะเป็นเป็ดพะโล้ หรือ เป็ดย่าง หรือ เป็ดดับกลิ่นชักโครก ยังตอบไม่ได้ ต้องดูกันยาวๆ

บางที่เราอาจจะเห็นเป็ดถูกจับใส่กรงขังไว้รอเชือดเมื่อถึงวันเวลาอันเหมาะสม ก็เป็นได้

ด้วยความหวังดี ก่อนจบคอลัมน์วันนี้ อยากจะร้องเตือนใจให้เจ้าหน้าที่สตง.ฟังกันอีกสักรอบ

"ก๊าบ ก๊าบ ก๊าบ

ยามเมื่อเป็ดมันเดินไป มองแล้วไม่น่าดูเลย จำไว้เถิดเพื่อนเอ๋ยๆ..

จงอย่าเดินให้เหมือนเป็ด"

โดยประดาบแห่งHi-Thaksin.net เขียนเมื่อ21/05/07"
บันทึกการเข้า
usa
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 102


« ตอบ #187 เมื่อ: 07-07-2008, 10:56 »


ไอ้ TLE  นี่ยังไม่หายบ้าอีกแฮะ  บอกให้ไป หา หมอ มาลินี ด่วน  ยังไม่ไปอีก  ทำไมมันดื้อเหมือน ไอ้หอกหัก จริง ๆ
บันทึกการเข้า
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #188 เมื่อ: 07-07-2008, 11:08 »

ไอ้ตัวไหนบอกจะฟ้องๆ ทำไมไม่ไปฟ้องซักทีละครับ
เห็นเก่งนัก นั่งเขียนโน่นประเมินนี่จินตนาการตอแห-ล
หลอกลวงชาวบ้าน ปั่นกระทู้เบิกเงินไปวันๆ
ทั้งในประชาถ่อ-ย ทั้งในเว็บนี้ มีแต่สวะขึ้ขลาดทั้งนั้น

ถุ๊ยยย.......ไอ้กระจอก
บันทึกการเข้า
sanskritshower
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 245



« ตอบ #189 เมื่อ: 07-07-2008, 11:18 »

ซ้ำให้อีกที เผื่อ TLE ไม่ได้อ่าน

สงสัยจะไม่ได้อ่านจริงๆ

อ่ะ  อีกรอบนึง

ยังจำตัวเองได้ไหม... 

ที่เคยฟันธงว่าบ้านคุณหญิง ต้องมีเนื้อที่ไม่ต่ำกว่า 2 พัน ตรม.
ตอนนี้ไปซ่อมธงที่หักเรียบร้อยหรือยังล่ะครับ?

ระยะหลังระวังตัวกลัวธงหัก เลยไปหาบทความคนอื่นมาโพส
แต่ก็หาแบบระบุตัวคนเขียนได้ไ่ม่เจอ


...

ทรัพย์สินที่หาว่าคุณหญิงร่ำรวยผิดปกติ ก็ประเมินราคาเอาเอง
จนไปถึงทรัพย์สินของญาติคุณหญิง ก็ประเมินราคาเองทั้งนั้น
รวมทั้งหมดแล้วก็แค่ไม่กี่สตางค์

กลับไปมองอีกทาง แค่คดีภาษีของพี่ชายคุณหญิงพจมาน
ที่ทำกันจนหมดอายุความ ก็ปาเข้าไปเกิน 5 ร้อยล้านบาท

คดีอื่นถึงระดับเป็นพัน เป็นหมื่น เป็นแสนล้าน ไม่รู้จักไปดู 

ขอคำตอบเรื่องเงินตกงานด้วยครับ... เผื่อจะเป็นทางสว่างให้กับในการใชัชีวิตที่สหรัฐ... เห็นท่านเอ็มบะเร่อเห้อชอบอ้างเหลือเกินว่า
ช่วยชี้ทางสว่างให้กับชาวเสรีไทย...
แล้วก็... ความหมายของคำว่า SOME
ทำไมมันถึงแปลว่า... สุดยอด
ขอคำชี้แนะด้วยครับ
     

อยากจะตัดแปะอะไรก็ตัดแปะไปเถอะครับ  แต่ช่วยชี้ทางสว่างให้ชาวไทยก่อนครับ  เรื่องเงินตกงานอ่ะครับ
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #190 เมื่อ: 07-07-2008, 17:24 »

ไอ้ตัวไหนบอกจะฟ้องๆ ทำไมไม่ไปฟ้องซักทีละครับ
เห็นเก่งนัก นั่งเขียนโน่นประเมินนี่จินตนาการตอแห-ล
หลอกลวงชาวบ้าน ปั่นกระทู้เบิกเงินไปวันๆ
ทั้งในประชาถ่อ-ย ทั้งในเว็บนี้ มีแต่สวะขึ้ขลาดทั้งนั้น

ถุ๊ยยย.......ไอ้กระจอก


แบบว่าเติ้ลมีหน้าที่แฉหล่อนแบบแสบๆคันๆอ่ะคร้า...มันเป็นหน้าที่ของเติ้ลน๊า
บันทึกการเข้า
นักปฏิวัติ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 330



« ตอบ #191 เมื่อ: 07-07-2008, 21:34 »



โถถถถถถถถ....พ่อคู้น ไปเอาตัวเลขปี 2545 มาใช้กับสภาวะเศรษฐกิจปี2549-2551 ที่วัสดุก่อสร้างถีบตัวเกือบ 70% แล้วยังคิดค่าก่อสร้าง+วัสดุเพีนงตรม.ละ 7 พันบาท  ประทานโทษ...นี่เค้าสร้างบ้านตุณหญิงฯน๊ะ ไม่ใช่สร้างฮวงซุ้ย!!

ทำเป็นอ้างตัวเลข...แต่ตรรกะไม่ได้ถูกนำมาใช้เลยสักนิดเดียว อคติและลำเอียงแบบนี้...เติ้ลตีกระจุย!!


คุณหญิงบอกสร้างมา 5 ปี
This is your information.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-07-2008, 21:36 โดย นักปฏิวัติ » บันทึกการเข้า

"สุดยอดกลยุทธ์ คือชนะโดยไม่ต้องรบ" ซุนวู

"ผู้นำชั้นเลิศนั้น เพียงแต่เป็นที่รับรู้ว่ามีตัวตนอยู่
ชั้นรองลงมา เป็นที่รักและสรรเสริญ
ชั้นรองกว่านั้น เป็นที่เกรงกลัวและเกลียดชัง" เหล่าจื๊อ เต้าเต๋อจิง
samepong(ยุ่งแฮะ)
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,402



« ตอบ #192 เมื่อ: 07-07-2008, 23:18 »

แล้วทำไมที่ คนเอาข้อมูลซึ่งน่าสงสัยของ พ่อจ๊ะมาแฉ จ๊ะไม่เห็น จะเออ ออ ห่อ ซกหมก มั้งอะ

บันทึกการเข้า

เวลาจะพิสูจน์ความเชื่อ สักวัน ไม่ว่าความเชื่อนั้นจะถูกหรือผิด ผมขอรับไว้ด้วยตัวเอง คิเสียว่าทำแล้วเสียใจดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ทำ
demon767
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18



« ตอบ #193 เมื่อ: 08-07-2008, 02:23 »

ขยันก๊อปมาแปะดีนะครับ ผมอ่านจนตาลายไปหมดแล้ว 
แต่จากข้อมูลแล้วน้ำหนักไม่เพียงพอที่จะทำให้เชื่อได้ และยังไม่มีความน่าเชื่อถือ
อีกทั้งบางบทความยังมาจากเว็บที่เป็นอันตรายต่อสถาบัน 
ผมไม่แปลกใจเลยที่คุณใช้ชื่อว่า The Last Emperor
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-07-2008, 02:25 โดย demon767 » บันทึกการเข้า
almondflavor
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 320



« ตอบ #194 เมื่อ: 08-07-2008, 10:01 »

ว่าคุณหญิงว่าพาลูกปดูงานต่างประเทศ แต่คุณหญิงจ่ายเงินส่วนตัวคืน

แต่ไอ้เหล่ไปแคนาดา ควิเบค คราวนี้ เอาน้องชายไปด้วย เอาไปทำไม

น้องมันทำไรให้ประเทศเหรอ แล้วไปเงินใคร

และที่สำคัญ มันโหลดกระเป๋าเปล่าๆ 5 ใบ หิ้วกระเป๋าเปล่าๆไปใส่อะไรกลับมา
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #195 เมื่อ: 08-07-2008, 10:10 »

ขยันก๊อปมาแปะดีนะครับ ผมอ่านจนตาลายไปหมดแล้ว 
แต่จากข้อมูลแล้วน้ำหนักไม่เพียงพอที่จะทำให้เชื่อได้ และยังไม่มีความน่าเชื่อถือ
อีกทั้งบางบทความยังมาจากเว็บที่เป็นอันตรายต่อสถาบัน 
ผมไม่แปลกใจเลยที่คุณใช้ชื่อว่า The Last Emperor


ไม่ทราบ ไม่รู้....ทราบและรู้แต่เพียงว่างานนี้หญิงเป็ดโดนถอนขนไปแล้วววววววว
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #196 เมื่อ: 08-07-2008, 10:16 »

ว่าคุณหญิงว่าพาลูกปดูงานต่างประเทศ แต่คุณหญิงจ่ายเงินส่วนตัวคืน

แต่ไอ้เหล่ไปแคนาดา ควิเบค คราวนี้ เอาน้องชายไปด้วย เอาไปทำไม

น้องมันทำไรให้ประเทศเหรอ แล้วไปเงินใคร

และที่สำคัญ มันโหลดกระเป๋าเปล่าๆ 5 ใบ หิ้วกระเป๋าเปล่าๆไปใส่อะไรกลับมา


อ้าวววววว....หญิงเป็ดคืนเงินให้หลวงทำไมถ้าตัวเองแน่ใจว่าการพาลูกไปทัวร์ตปท.ไม่ผิดน๊ะ!?! หลักฐานชัดเจนขนาดนี้...อย่าปากแข็งหน่อยเลย!!
บันทึกการเข้า
นักปฏิวัติ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 330



« ตอบ #197 เมื่อ: 08-07-2008, 13:13 »


คุณหญิงบอกสร้างมา 5 ปี
This is your information.
บันทึกการเข้า

"สุดยอดกลยุทธ์ คือชนะโดยไม่ต้องรบ" ซุนวู

"ผู้นำชั้นเลิศนั้น เพียงแต่เป็นที่รับรู้ว่ามีตัวตนอยู่
ชั้นรองลงมา เป็นที่รักและสรรเสริญ
ชั้นรองกว่านั้น เป็นที่เกรงกลัวและเกลียดชัง" เหล่าจื๊อ เต้าเต๋อจิง
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #198 เมื่อ: 08-07-2008, 17:24 »

อ่ะ...เอาไปอีกดอกงามๆ



"เผยผ่านพันทิป "หญิงเป็ด" หาเรื่องเล่นงานหน่วยงานราชการฝ่ายตรงข้าม


6 กรกฎาคม 2551

คุณ ปลาติดดิน บอกเล่าเรื่องราวที่ไม่ได้รับการยืนยัน แจ้งพฤติกรรมของคุณจารุวรรณ เมณฑกา ที่ใช้วิธีชิงเล่นงานหน่วยงานราชการที่ดูเหมือนจะเป็นศัตรูกับตนเอง หรือหน่วยงานที่กำลังคุ้ยเขี่ยความประพฤติมิชอบของคุณจารุวรรณ เพียงเพื่อความอยู่รอด และสร้างภาพพจน์ของตน


หลังจากที่ คุณหญิงเป็ด เจ้าแม่ใหญ่จาก สตง. หัดพูดภาษาไทยให้ ซาด ก็ยางม่าย ซาด ซักที แถมยังโดนขุดคุ้ยเรื่องที่ตัวเองทำงามหน้าไว้เยอะ จึงคิดหาทางแก้ต่าง โดยสั่งการให้ลูกน้องในสังกัด สตง. พยายามตรวจตามหน่วยงานราชการต่างๆ ที่แข็งข้อ หรือกำลังจะมีปัญหาต่อคุณหญิงเป็ด

หลายหน่วยงาน ต่างเอือมระอา แบบตรวจหาเรื่อง เช่น ถือไม้เมตรวัดขนาดห้อง หรือโต๊ะ ตู้ ที่จัดซื้อ จัดจ้าง หากขาดไปเซ็นต์หรือ ครึ่งเซ็นต์ ก็มีเรื่อง บางหน่วย ตรวจแบบไม่เจอก็ต้องเอาให้เจอ ปกติ สตง.จะตรวจปีละไม่กี่วัน แต่ตอนนี้ตรวจทีละหลายๆ เดือน

แล้วที่เจอเป็นอย่างไร เป็นการจัดซื้อ วงเงิน 3-5 หมื่น ไม่เกินแสน พบว่าเอกสารเซ็นต์ชื่อไม่ครบบ้าง พบแต่สำเนา ขาดตัวจริง ซึ่งบางอย่างไม่ได้สำคัญอะไร และไม่ได้ส่อว่าจะมีการทุจริต แต่ก็ถือว่าเจอความผิด ตั้งกรรมการเหมือนกัน ข้าราชการ เซ็ง กลัว สตง.แบบขี้หดตดหาย สมดังเจตนารมย์ของคุณหญิงแล้ว

บางราย เจอตรวจย้อนหลังแบบ 4-5 ปี ที่ผ่านมา ใครจะจำข้อมูลได้หมด หลักฐานใครจะเก็บไว้ เพราะคิดว่า ทุกอย่างสมบูรณ์แล้ว เพราะผ่านการตรวจ มาหลายครั้งแล้ว มาถึงตอนนี้จะขอเอกสารแผ่นนั้นแผ่นนี้

แต่ สตง. ยุคนี้ จะต้องขุดให้เจอให้ได้ เพื่อเป็นข้อต่อรองมั้ง เพื่อว่าจะได้ให้ตัวเองอยู่รอดต่อไปในสังคม แล้วทำตัวว่าเป็นคนดี ซื่อตรง ซื่อสัตย์

ข้าราชการ สตง.หลายคนก็ถอดใจ เจอนายแบบนี้ก็เซ็ง สั่งมาก็ต้องทำ แต่ถ้าจะให้สอบชิงทุนของหน่วย ย่อมหมดสิทธิ์ เพราะทุนอันนี้ ผู้มีสิทธิสอบได้มีคนเดียว คือ ลูกสาวของคุณหญิงเป็ด ข้าราชการของ สตง.คนอื่น มันโง่หมด ยกเว้น ลูกสาวข้าคนเดียว

ฝากวิงวอน ข้าราชการ สสตตงง. ที่มีคุณธรรมทกท่าน อย่าได้เป็นเครื่องมือ ของ คุณหญิงเป็ดฯ ทำความชั่วเลยครับ

คุณหญิงเป็ดฯ นี่แหละ มาเฟียตัวจริง ใครจะทำไม"
บันทึกการเข้า
almondflavor
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 320



« ตอบ #199 เมื่อ: 08-07-2008, 17:26 »


...ตลก...และเรื่องไอ้เหล่ ล่ะจ๊ะ..
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 [4] 5
    กระโดดไป: