ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
18-04-2024, 16:07
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  ห้องสาธารณะ  |  หลักสูตรประชาธิปไตยภาคปฏิบัติ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
หลักสูตรประชาธิปไตยภาคปฏิบัติ  (อ่าน 1534 ครั้ง)
ผ่านมา
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 11-06-2008, 09:46 »

เปลวสีเงิน
ด้วยสมองและหัวจิตหัวใจ
11 มิถุนายน 2551    กองบรรณาธิการ

เกินครึ่งเดือนแล้วที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เขาชุมนุมกันอยู่ที่สะพาน
มัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนินนอก หะแรกผมเองก็นึกว่ายิ่งนานวัน ประชาชนที่เข้า
ร่วมชุมนุมจะลดน้อยลง

ด้วยความอ่อนล้า เบื่อหน่าย ต้องฟังเรื่องราวจำเจของบรรดาแกนนำที่ขึ้นปราศรัย
บนเวที

ที่ไหนได้  กลับไม่เป็นอย่างที่ผมนึกไว้น่ะสิ เพราะยิ่งนานวันเข้าผู้คนเริ่มหนาตา
ผู้คนทะลักมาราวเขื่อนแตก
มีบางคืนผมมีโอกาสไปในฐานะคนทำข่าว  ซึ่งต้องรับฟังข้อมูลไม่ว่าจะเห็นด้วย หรือ
เห็นต่างก็ตาม โห..ต้องบอกว่าถนนราชดำเนินนอกแทบแตกเลยล่ะท่านเอ๋ย

ยิ่งถ้าช่วงไหนมีเสียงตะโกน โห่ร้องว่า "ทักษิณเข้าคุก" "สมัคร-เฉลิม ออกไป" ล่ะก็
ผมว่าผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม - ธรณีวิทยา ต้องเตรียมพร้อมหามาตรการ หรือ
ส่งสัญญาณเตือนภัย เพื่อป้องกันตึกรามบ้านช่องละแวกนั้นถล่มทลาย ก็น่าจะดีนะครับ

"เวอร์" เกินไปเนอะ

เปล่าหรอกครับ  ความจริงคือผมจะบอกว่า การที่ผู้คนที่เข้าร่วมชุมนุมกับทาง
พันธมิตรฯ เริ่มหนาตาเพิ่มจำนวนมากขึ้นๆ ทุกวันนั้น มันเป็นการส่งสัญญาณ บ่งบอก
อนาคตของรัฐบาลสมัครต่างหาก

บ่งบอกว่านาวานอมินีลำนี้ กำลังถูกคลื่นยักษ์โหมกระหน่ำเข้าใส่จนเอียงซ้าย
เอียงขวาโคลงเคลงๆ พยุงตัวแทบไม่ได้แล้ว

รอแค่วันอับปางเท่านั้น!

มีคำถามว่าบริเวณสะพานมัฆวานฯ มีอะไรเป็นสิ่งดึงดูดจูงใจ ให้ผู้คนหลั่งไหลไป
ที่นั่น เพิ่มมากขึ้นๆ ทุกวัน เพราะดูจากบุคลิกหน้าตาของแกนนำพันธมิตรฯ แต่ละคน 
มีทั้งพุงพลุ้ย ผอมแห้ง หัวหงอกก็มี บางรายน่ะ หนวดเนี่ยยาวเฟื้อย นึกว่าฤๅษีชีไพร
ยังไงยังงั้น

ไม่น่าจะทำให้ผู้คนที่พบเห็น เกิดอาการเคลิบเคลิ้ม คลั่งไคล้ กันแม้แต่น้อย ...จริงมั้ย

แต่มันน่าจะอยู่ที่มันสมองอันเต็มไปด้วยประสบการณ์ ควบคู่กับหัวจิตหัวใจ ของ
แกนนำพันธมิตรฯ เขาต่างหากล่ะ จึงสามารถดึงผู้คนเข้าร่วมชุมนุม ในจำนวนที่
มากขึ้น และก็มากขึ้นทุกวัน

การใช้ประสบการณ์และหัวจิตหัวใจ นำการเคลื่อนไหวมวลชน มากกว่าใช้เงิน
นำหน้าสร้างมวลชน   แบบนี้ล่ะก็ จะให้มีสักกี่ยี้ห้อย  ร้อยจตุพร  พ่วงจรัล เติมเหวง
เข้าไปอีกคน มีหรือจะต่อกรหรือเทียบชั้นกันได้

มวยมันคนละชั้น กระดูกคนละเบอร์กันครับ!

อย่าลืมนะครับว่าในช่วงที่  คุณจักรภพ  เพ็ญแข ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีประจำ
สำนักนายกรัฐมนตรี  และ ส.ส.พรรคพลังประชาชน  กับ ส.ว.บางคน ถอนชื่อออก
จากการเสนอญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญปี 2550 นั้น

พันธมิตรฯ  ถูกตั้งคำถามและมีข้อสงสัยจากสังคมต่างๆ นานา ถึงความชอบธรรม
ในการชุมนุมภายใต้ยุทธศาสตร์ "ปักหลักชุมนุมแบบยืดเยื้อ"

ได้คืบจะเอาศอก จราจรติดขัด ค้าขายไม่ได้ ซ้ำเติมปัญหาเศรษฐกิจให้แย่ลง
กว่าเดิมหรือไม่ นี่คือสารพัดคำถามและข้อสงสัยต่อความชอบธรรมของพันธมิตรฯ

มีบางกลุ่มเตลิดไปไกลถึงคำถามที่ว่า พันธมิตรฯ กำลังออกบัตรเชิญสร้างเงื่อนไข
ให้มีการรัฐประหารอีกครั้ง?!

คำถามนี้ กองทัพ-พันธมิตรฯ-คนของระบอบทักษิณ ชัดเจนในบทเรียน
จาก 19 กันยายน 2549 กันแล้ว รัฐประหารแบบนี้ ไม่ใช่ทางออก!


ใครคิดจะออกบัตรเชิญให้ทหาร ทำรัฐประหารในลักษณะเดิม  นอกจากจะโง่
แล้วยังจะเป็นตราบาปติดตัวไปจนวันตายโน่นแหละ

ข้อสงสัยนี้ จึงไม่ใช่เหตุผลหลักในการบั่นทอนความชอบธรรมในการชุมนุมของ
พันธมิตรฯ ได้

สิ่งที่พันธมิตรฯ กังวลมากเป็นพิเศษ ก็คือข้อสงสัยซึ่งสะท้อนถึง
วุฒิภาวะของสังคมไทย


ที่แยกไม่ออกระหว่างผลประโยชน์ส่วนรวมกับผลประโยชน์ส่วนตัว

รถติด  ค้าขายไม่ได้ ประชาชนเดือดร้อน ซึ่งรัฐบาลพรรคพลังประชาชน มักจะหยิบ
มาเป็นเครื่องมือในการโจมตีทำลายความชอบธรรมของพันธมิตรฯ ตลอด

แต่ด้วยมันสมอง  และหัวจิตหัวใจของแกนนำพันธมิตรฯ ซึ่งมุ่งมั่นในเป้าหมาย  เปิดรับ
ฟังข้อท้วงติงจากหลายฝ่ายในส่วนที่เป็นปัญหาเองของพันธมิตรฯ เช่นเนื้อหาสาระบน
เวที สุ้มเสียงของนักปราศรัยบางคนออกที่ออกไปทางหยาบคาย โจมตีฝ่ายตรงข้าม
อย่างไร้เหตุผล

ข้อท้วงติงเหล่านี้ หลายวันก่อนหน้านี้  ผมว่าแกนนำพันธมิตรฯ  เขาคงนำเข้าที่ประชุม
หารือกันเคร่งเครียดทีเดียว จะปรับแผนพลิกวิกฤติเป็นโอกาสได้อย่างไร

แล้วสิ่งที่ปรากฏให้เห็นบนเวที  มันกลายจากหน้ามือเป็นหลังมือ เสียงปราศรัยที่เคย
หยาบคาย ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีต่อเด็กและเยาวชน ได้ลดระดับลงไปมาก ทั้งยัง
เนื้อหาสาระบนเวที มิใช่แค่มุ่งโจมตีเหมือนช่วงแรก แต่เป็นการเพิ่มเนื้อหาสาระใน
รายการของคุณอัญชลี ไพรีรัก ของคุณเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ซึ่งดูจะมีเหตุมีผลในการ
สร้างความชอบธรรม ต่อการขับไล่รัฐบาลทีเดียว

ช่วงดึกๆ ระหว่างตีสามถึงตีสี่ ผมนั่งฟังแกนนำพันธมิตรฯ เขาพูดคุยสนทนาปราศรัย
บนเวทีกับผู้ร่วมชุมนุมที่ยังปักหลักอยู่ราวหลักพัน  ที่เห็นเกือบทุกวัน น่าจะเป็น
คุณพิภพ ธงไชยได้ฟังแล้วบอกได้ว่ามีสาระน่าสนใจครับ  เพราะคุณพิภพ  แกได้นำ
เสนอมุมมองต่อสังคมการเมืองไทย  ที่ชวนให้ครุ่นคิดตั้งคำถาม หรือกระทั่งสามารถ
โต้แย้งอย่างมีเหตุผลได้หากเห็นต่าง

ขณะที่ผู้ชุมนุมที่นั่งฟัง  ก็ดูจะตั้งอกตั้งใจฟังราวกับเป็นนักศึกษาที่กำลังเลคเชอร์ 
คำบรรยายของอาจารย์ผู้สอน

ก็สมควรแล้วนะครับ ที่ทางพันธมิตรฯ เขาจะตั้งชื่อสถานที่ชุมนุมว่าเป็น
"มหาวิทยาลัยราชดำเนิน" บรรยากาศนี้แหละ ผมว่าเป็นพัฒนาการ
เบื้องต้น ของการปกครองที่เรียกว่า "ประชาธิปไตย"


นี่ไม่ใช่โปรโมตให้พันธมิตรฯ เขานะครับ  แต่อยากจะเชิญชวนทั้งคนที่เห็นด้วยหรือ
เห็นต่าง   ในสถานการณ์ความขัดแย้งของสังคมการเมืองไทย  จะต้องฟังความ
รอบด้านทั้งจากฝ่ายพันธมิตรฯ  จากฝ่ายรัฐบาล ว่าเขาคิดเขามีเหตุผลอะไร

เผื่อถึงเวลาเลือกข้าง จะได้ตัดสินใจถูก!

การพลิกแผนปรับกลยุทธ์การชุมนุมของแกนนำพันธมิตรฯ ในลักษณะเน้นสาระ-ให้
ความรู้-เปิดโปงความฉ้อฉลในการบริหารงานรัฐบาล สังเกตไหมครับว่าระยะหลังนี้
นอกจากจะมีคนเข้าร่วมจำนวนมากขึ้นแล้ว เรื่องรถติด ค้าขายไม่ได้ ประชาชน
เดือดร้อน ไม่ค่อยจะมีเสียงท้วงติงเหมือนการชุมนุมในระยะแรกๆ

เป็นห่วงก็แต่ทางนาวานอมินีทักษิณ ที่กำลังโคลงเคลงอยู่ขณะนี้นั่นแหละ จะเอา
ตัวรอดไปได้ตลอดรอดฝั่งอย่างไร

เพราะสารพัดปัญหาที่ถาโถมเข้าใส่นั้น  ล้วนแต่หนักหนาสาหัสเกินกว่าระดับ
นายกรัฐมนตรี-รัฐมนตรีสมัครเล่น  จะรับมือไหวโดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ 
ซึ่งมีผู้ชำนาญเฉพาะด้าน  เย็บ-ผ่า-ตัด-ฉีด อย่าง  นพ.สุรพงษ์  สืบวงศ์ลี มารับ
ผิดชอบ นี่ถึงขนาดจะออกมาตรการแจก"คูปอง" แลกซื้ออาหารกันแล้ว

ประเทศไทยเราวิกฤติอดอยากปากแห้ง ใกล้เคียงกับประเทศแถบแอฟริกา
เชียวเหรอ!

เอาเถอะ "หมอเลี้ยบ"  จะทำอะไรก็รีบทำ ทำให้ออกมาดี และประชาชนได้
ประโยชน์ก็แล้วกันเพราะฟ้าหลังฝนกำลังจะมา เดี๋ยวท่านหาทางกลับไปเป็น
อาชีพหมอไม่ถูกจะหาว่าไม่เตือนกัน

แล้วลุงหมักล่ะ เป็นไงบ้างเมื่อวานก่อนเข้าร่วมโต๊ะอาหารกับแกนนำพรรคร่วมฯ
เห็นท่าทางท่านนายกฯ  ยืนทะมึน  ทำตาขวาง  ใส่นักข่าวที่ไปรอดักสัมภาษณ์แล้ว 
ก็อดขนหัวลุกเสียวแทนตับไตไส้พุงของเพื่อนพ้องน้องพี่นักข่าว ว่าจะเหลือกลับบ้าน
กันบ้างหรือเปล่า

เป็นไปได้ไหมว่าท่านนายกฯ สมัคร เกิดอาการเครียดในระดับขั้นรุนแรง หาทางออก
จากวิกฤติที่กำลังถาโถมใส่ไม่เจอ ทั้งยังถูกตีขนาบข้างจากพันธมิตรฯ อีกต่างหาก

แบบนี้ยุทธศาสตร์มุ่งมั่น "ชุมนุมปักหลักแบบยืดเยื้อ"  เติมเต็มเนื้อหาสาระ ให้กับผู้เข้า
ร่วมชุมนุมของแกนนำพันธมิตรฯ  กับอาการเครียดระดับขั้นรุนแรงของนายกฯ สมัคร 
ที่อาจจะพัฒนาไปสู่อาการ "ร่อแร่" เห็นทีมวยคู่นี้ไม่น่าจะครบยกเสียแล้ว!...

เพลิงทัศน์


จากไทยโพสต์  10 มิย.51

 
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: