ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
27-11-2024, 13:51
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  ห้องสาธารณะ  |  ท.สองสูง คือ ท.ขูดเลือดขูดเนื้อจากชนชั้นกลาง-ชนชั้นล่าง 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ท.สองสูง คือ ท.ขูดเลือดขูดเนื้อจากชนชั้นกลาง-ชนชั้นล่าง  (อ่าน 2228 ครั้ง)
ทษฎีต้นทาง-ปลายทาง
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 11-06-2008, 04:55 »

ท่านขุนน้อย

11 มิถุนายน 2551    กองบรรณาธิการ

ทฤษฎี 1 ต่ำ

    ในบรรดานักบริหาร  นักวิชาการ ที่ออกมาให้ความคิด ความเห็น ในเรื่องปัญหาราคาข้าว เท่าที่เห็นและเป็นอยู่ในขณะนี้...ดูเหมือนว่าอาจารย์ดอกเตอร์ ณรงค์ เพชรประเสริฐ ผู้มีฉายาว่า เศรษฐสยาม เจ้าเก่านี่แหละ ที่สามารถให้คำตอบแบบสั้นๆ แต่ชัดเจน ตรงไป-ตรงมา กินความหมายครอบคลุมกว้างขวางไปทั่วทั้งกระบวนการ และทั่วทั้งระบบ...
    ----------------------------------------
    ในรายการสนทนาทางทีวีสาธารณะเมื่อค่ำวันจันทร์ที่ผ่านมา  เมื่อพิธีกรอย่างคุณ กรุณา บัวคำศรี เธอตั้งคำถามแบบครอบคลุมไปทั่วทั้งระบบว่า "การแก้ปัญหาราคาข้าวอย่างยั่งยืนมีหรือไม่?...และมีวิธีอย่างไร?" โดยให้เวลาตอบคำถามประมาณ 1 นาที อาจารย์ ณรงค์  ท่านก็ตอบสนองด้วยการใช้คำพูดประมาณแค่  1 ประโยคและใช้เวลาไม่น่าจะเกิน 10 วินาที นั่นก็คือตอบว่า... "มี...และวิธีก็คือ...หาทางลดต้นทุนการผลิตให้กับชาวนา" อันนี้ต้องเรียกว่า...เป๊ะๆๆ...ไม่ต้องเสียเวลาลากไปลากมา น้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง ไปไหนมาสามวาสองศอก...ออกอ่าวออกทะเล ตีกรรเชียงลอดอุโมงค์แม่น้ำโขง...ดังเช่นพิธีกรรายการชิมไป-ด่าไปแม้แต่นิด...
    ----------------------------------------
    เพราะคำว่า การลดต้นทุนการผลิตของชาวนา เพียงคำเดียว...มันสามารถนำเอาไปอธิบาย ขยายความ ได้ทั่วทั้งระบบ ทั้งกระบวนการ ไม่ว่าจะไล่มาตั้งแต่เรื่อง ค่าเช่าที่นา  การจัดสรรที่ดิน การปฏิรูปที่ดิน หรือจะโยงใยไปถึงการกว้านซื้อที่ดินโดยบรรดา นอมินี อีกด้วยก็ยังได้ พูดง่ายๆ ก็คือ จะหาทางทำให้ ปัจจัยการผลิต ขั้นพื้นฐานของเกษตรกรชาวนา-ชาวไร่ อันได้แก่ ที่ดิน นั้น ได้รับการควบคุม ดูแล ตลอดไปจนถึงการป้องกัน เพื่อให้เกิด  ความเป็นธรรม  ขึ้นมาได้อย่างไร?...นั่นเอง รัฐที่มีทั้ง อำนาจ เครื่องมือ กฎหมาย งบประมาณ...พร้อมสรรพ ถ้าสามารถใช้กลไกต่างๆ สร้างความเป็นธรรมขึ้นมาได้แม้แต่เพียงนิดๆ ภาระของชาวนาไม่ว่าในระยะสั้นๆ หรือระยะยาวก็ตามที... น่าจะลดลงไปได้ไม่น้อยทีเดียว....
    -------------------------------------------
    ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น...ก็คือต้นทุนการผลิตในลำดับต่อไป ไล่มาตั้งแต่เมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย ยาปราบศัตรูพืช ฯลฯ ที่ถือได้ว่าเป็น เครื่องมือในการผลิต ในขั้นตอนต่างๆ ถ้าหากรัฐบาลสามารถควบคุมสิ่งเหล่านี้ ได้เหมือนกับควบคุมราคาค่าโดยสาร ค่าไฟ ค่าน้ำ ฯลฯ อั้นเอาไว้ไม่ให้มันกลายเป็นภาระของชาวนามากเกินไป จนต้นทุนการผลิตข้าวต่อไร่ขณะนี้ เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า 3 เท่า และไม่เคยลดลงมาเลย ไม่ว่าราคาข้าวจะตก หรือจะแกว่งไกวกันในลักษณะไหนก็ตาม ลองดูซิว่า...บริษัทผลิตปุ๋ยเคมี สารเคมีการเกษตร บริษัทขายเมล็ดพันธุ์ ฯลฯ มันจะกล้าฆ่าตัวตายกันแบบชาวนาเลยหรือไม่??? หรืออย่างมาก...ก็แค่ขอลด งบบริจาค ให้กับพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง-พรรคใด แต่เพียงเท่านั้นหรือเปล่า...???
    ----------------------------------------------
    แน่นอนว่า...ถ้าหาก ต้นทุนการผลิต ของชาวนาลดลงมาเหลือแค่ไร่ละ 4,000-5,000 บาท ต่อให้ราคาข้าวจะหัวทิ่มลงมาเหลือแค่ 7,000-8,000 บาท ชาวนาก็น่าจะแฮปปี้แล้ว ยังเหลือกำไรต่อไร่ตั้ง 2,000-3,000 บาท คงไม่คิดจะยกขบวนมาปิดถนนไม่ต้องเสียเวลามาปวดหัวกับเรื่องความชื้นของข้าว ไม่ต้องมึนงงกับความซับซ้อนของสิ่งที่เรียกว่า กลไกตลาด ไม่ว่าภายในประเทศหรือในระดับโลกก็ตาม และคงไม่จำเป็นที่รัฐบาลจะต้องทุ่มเทงบประมาณ ยกขบวนพยุหยาตราเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ลงไปทำหน้าที่ ค้ำประกันราคาข้าว ซึ่งมักจะกลายเป็นรายการ  เสียค่าโง่  ให้กับพ่อค้ากันไปซะทุกที...เพียงแต่รัฐบาลได้ทำหน้าที่ ค้ำประกันต้นทุนการผลิต หรือทำให้ต้นทุนการผลิตข้าวของชาวนาลดต่ำลงมา ด้วยกรรมวิธีที่ถูกต้อง เหมาะสม หรือด้วยการยึดมั่นอยู่ใน ความเป็นธรรม กันจริงๆ แล้ว...ภายใต้ ทฤษฎี 1 ต่ำ หรือต้นทุนการผลิตลดต่ำลงมาอย่างเดียวเท่านั้น...ทั้งชาวนาก็แฮปปี้ และผู้บริโภคก็ย่อมมีโอกาสแฮปปี้ตามไปด้วย เนื่องจากราคาข้าวมันย่อมต้องถูกลง ไปตามต้นทุนการผลิตที่ลดลง... วิน-วิน ด้วยกันทั้งสองฝ่าย....
    ------------------------------------------------------
    แต่เหตุที่ทั้งชาวนาและผู้บริโภค...ต่างกลายเป็นผู้ที่ต้องฉิบหายไปด้วยกันทั้งคู่ ก็เพราะผู้ที่ วินตัวจริง และ วินมาโดยตลอด นั้น...มันไม่ได้เป็นทั้งชาวนาและผู้บริโภคทั้งหลาย แต่มักจะได้แก่ผู้ที่ถือครองปัจจัยการผลิต ผู้ที่มีอิทธิพลในการควบคุมกระบวนการผลิต ไปจนถึงผู้ที่ครอบครองกลไกการตลาด...นั่นเอง ซึ่งว่าไปแล้ว...ก็เป็นเพียงแค่ผู้คน ไม่กี่กลุ่ม ไม่กี่กระจุก แต่ว่ากลับสามารถแฮปปี้ท่ามกลางความฉิบหายของผู้คนนับล้านๆ ในแต่ละประเทศ หรือนับเป็นพันๆ ล้านในระดับโลกเอาเลยก็ว่าได้...
    -----------------------------------------------------
    ในขณะที่ราคาสินค้าการเกษตร หรือราคาอาหารทั่วโลก แพงระเบิดเถิดเทิงพุ่งขึ้นไปถึงระดับเป็นร้อยๆ เปอร์เซ็นต์ ก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อผู้คนไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านคน อีกประมาณ 200 ล้านคนอยู่ในสภาพอดอยากหิวโหยใกล้จะอดตาย ไม่น้อยกว่า 30 ประเทศเกิดการจลาจลอาหาร...แต่เมื่อลองหันมาดูตัวเลข กำไร ของบรรษัทธุรกิจการเกษตรในระดับโลก  ที่เป็นผู้ควบคุมปัจจัยการผลิต  กระบวนการผลิต และการตลาดแบบครบวงจร ไล่มาตั้งแต่บรรษัทยักษ์ใหญ่อย่าง มอนซานโต ผลกำไรในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มจาก  543  ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้วมาเป็น 1.2 พันล้านดอลลาร์ บริษัท คาร์กิล จาก 553  ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว  เพิ่มเป็น 1 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปีนี้เช่นกัน บริษัท  อาเธอร์ ดาเนียล มิดแลนด์ จาก 363 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปีที่แล้ว เพิ่มเป็น 517 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ หรือเพิ่มขึ้น 42 เปอร์เซ็นต์ บริษัทค้าปุ๋ยเคมีระดับโลกอย่าง โมเสค คอมปานี จากกำไรประมาณ 42.2 ล้านดอลลาร์ใน 3 เดือนแรกของปีที่แล้ว มาปีนี้เพิ่มกำไรขึ้นเป็น 520.8 ล้านดอลลาร์เพียงแค่ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา...ฯลฯ
    ----------------------------------------------------
    สำหรับบ้านเรานั้น...ใครจะรวย แบบอุจจาระแตก อุจจาระแตน เหมือนกับบรรษัทธุรกิจการเกษตรระดับโลกหรือไม่? เพียงใด? ก็คงต้องไปคิดกันเอาเอง!!! แต่ทั้งนั้น-ทั้งนี้...ไม่ว่าใครจะตื่นเต้น ฮือฮา ซี้ดๆ ซ้าดๆ ไปกับทฤษฎี 2 สูง 3 สูงหรือ 4 สูงก็แล้วแต่...แต่ก็อย่าลืมคิดด้วยว่า ต้นทุนการผลิต ของสินค้าการเกษตรต่างๆ มันย่อมต้องสูงง์ง์ง์...ตามไปด้วย ชนิดที่ไม่เคยทำให้ กำไร ของบรรษัทเหล่านี้ กวัดแกว่ง หรือลดระดับลงมาเลยแม้แต่น้อย ต่างไปจากรายได้ชาวนา และรายได้ของผู้บริโภคทั้งหลาย ที่ต่างก็จะต้องแบกรับภาระต้นทุนกันในแต่ละรูปละแบบ  แถมยังต้องเสี่ยงกับภาวะความผันผวน  ขึ้นๆ-ลงๆ ของราคาตามกลไกตลาด ที่ทุกวันนี้มันกลายเป็นบ่อนการพนันเพราะการเก็งกำไรกันไปทั้งระบบ เมื่อหักลบกลบหนี้เรียบร้อยแล้ว (โดยแทบไม่ต้องคิดถึงอัตราเงินเฟ้ออีกด้วยก็ได้)...ยังไงๆ ก็คงต้องตกอยู่ในสภาพ...มีแต่...ตาย...กับ...ตาย เหมือนอย่างที่เคยเป็นมาในอดีต...ปัจจุบัน...และในอนาคตเบื้องหน้า ชนิดแทบไม่ต้องสงสัยใดๆ เลย...
    --------------------------------------------------------
    ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก มหาตะมะ คานธี... "ความชั่วมิได้สิงสถิตอยู่ในความล้าหลัง อย่างเช่นการใช้เกวียนเทียมวัว...แต่มันสิงสถิตอยู่ใน...ความเห็นแก่ตัว...ที่มักจะมาพร้อมๆ กับความทันสมัย..."
    ------------------------------------------------------
http://www.thaipost.net/index.asp?bk=thaipost&iDate=11/Jun/2551&news_id=159710&cat_id=500


-----------------
เคยคุยกันในกลุ่มเพื่อน ๆ เกี่ยวกับวามคิดนี้   เห็นกันว่า  แม้คนจะมีเงินเพิ่มแต่ใช่ว่า จะแก้ปัญหา  ชาวนา ได้

ข้างหนึ่งสูงขึ้น แต่ก็ไปใช้จ่ายอย่างอื่นไม่ถึงมือ ชาวนา  เพราะ พ่อค้าคนกลางเอาไปหมด

ชาวนา  ชาวสนวน ชาวไร่  ฯลฯ   มันไปอยุ่ที่พ่อค้าคนกลาง  ถ้าจำกัด หรือ กำจัด  พ่อค้าคนกลางได้ จะดีที่สุด

สมาชิกเวปบอร์ดนี้ เคยทิ้งความคิดเรื่อง  ต้นทาง---ปลายทาง ทำยังไงให้ ต้นทาง--ปลายทางถึงมือกัน

หรือ  มี ปชช  พ่อค้า แม่ค้า ผลไม้ สินค้น ต่าง เดินทางไปซื้อจากชาวนาชาวสวนาวไร่ โดยตรง เลย มาขาย

ไม่ต้องผ่า คนกลาง ไปซื้อจากชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน  แล้วพ่อค้า แม่ค้า ตามทั่ว ๆ ไป ต้องไปซื้อกับพ่อค้าคนกลางอีกที

ทำหงจะตัดพ่อค้าคนกลาง ทิ้งเสีย  เหลือต้นทาง---ปลายทาง  ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง นอกจากการลดต้นทุนการผลิต

ท.สองสูง เป็น ท. ขูดเลือดขุดเนื้อ จากคนมีเงิน และจากคนจน

บันทึกการเข้า
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #1 เมื่อ: 11-06-2008, 06:59 »

 
เคยคุยกันบ้างแล้วในกระทู้นี้ครับ

http://forum.serithai.net/index.php?topic=23605.0




ผมฟังเจ้าสัวผ่านๆ ที่สรยุทธ์สัมภาษณ์

ยังกับว่าซีพีต่อไปจะไม่ทำแค่ไก่ จะปลูกข้าว ทำไร่ไถนาด้วย

ชาวนาก็กลายเป็นคนงาน มีตอกบัตรเข้านา ทำนาโอที

ประมาณนั้นมั้ง


บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
ท.ต้นทาง-ปลายทาง
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: 11-06-2008, 07:48 »

ธุรกิจ ทางเกษตร  จะยึดไปหมดแล้ว

ก็ดูธุระกิจไก่ ก็แล้วกัน  คนเลี้ยงไก่ ที่เป็น ชาวบ้านทั่วไป  ต้องเปลี่ยนเป็นเลี้ยงในโรงปิดหมด
แล้วก็เลยต้องซื้อทุกอย่างจาก  ซีพี หมด  ทุกอย่าง

ไปถามดู คนเลี้ยงไก่  ร่ำรวยหรือไม่  หรือกำไรมากน้อยเท่าไหร่

แล้วพีซี เอาไก่ มาขาย ในตลาด  ราคาเท่าไหร่

มัน สองสูง จริงไหม   มันกลายเป็นว่า   คนเลี้ยงไก่  ไม่สูง  แต่ต้อง ขาย  ต่ำ ตามราคา ของ ซีพี
ส่วน พีซี  ก็าขายสูง ให้ ตลาด   ตกลงคือ ได้สูงทั้งสองทาง   

บันทึกการเข้า
ผ่านมาอ่าน
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: 04-07-2008, 17:46 »

ปัญญาเต่าล้านปี เสียเวลาอ่านจิ๊บอ๊าย
บันทึกการเข้า
samepong(ยุ่งแฮะ)
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,402



« ตอบ #4 เมื่อ: 30-07-2008, 09:12 »

ปัญญาเต่าล้านปี เสียเวลาอ่านจิ๊บอ๊าย

มันเป็นแนวคิดที่จะต้องช่วยกันหาทางออกครับ เพื่อให้เกษตกรอยู่อย่างยั่งยืนได้ จะได้ไม่ต้องหวังพึ่งนายทุนขูดรีด

ไม่ใช่หวังแต่เงินที่มาในรูปของหนี้สินที่พ่อเหลี่ยมเอามาแจก แล้วก็บอกมีเงินใช้ๆๆๆ แต่เป็นเงินในอนาคตที่ต้องมาจ่ายย้อนคืน
บันทึกการเข้า

เวลาจะพิสูจน์ความเชื่อ สักวัน ไม่ว่าความเชื่อนั้นจะถูกหรือผิด ผมขอรับไว้ด้วยตัวเอง คิเสียว่าทำแล้วเสียใจดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ทำ
ผ่านมา
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #5 เมื่อ: 26-08-2008, 04:12 »

ต้นทุนสูง  เกิดจากการผูกขาดของนายทุน ไม่กี่บริษัท  ที่เกษตรกร ต้องไปหาซื้อมา
ถ้ารัฐจริงใจ...ไม่เห็นแก่พวกพ้อง  แนะนำว่า ต้องให้มีการนำเข้า ดัดหลังพวกนายทุนเหล่านี้  ไม่งั้น เกษตรกร  บรรลัย แน่นอนครับ 
ตย. เรื่องไก่ ก็เห็นได้ชัดอยู่แล้วครับ   เจ๊งกันระนาว   อ่อยเหยื่อ เกษตรกร ช่วงแลก พอตอนหลังก็บีบให้ขาย
นี่คือ ความจริง
 
บันทึกการเข้า
สังคม
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #6 เมื่อ: 27-08-2008, 18:07 »

ถ้าเปลี่ยนพ่อค้าคนกลางที่ซื้อของจากชาวไร่ชาวนาในราคาตำแล้วไปขายในราคาสูง มาเป็นรัฐบาลซื้อจากชาวไร่ชาวนาเองและขายในราคาที่เป็นธรรมของที่แปลรูปมันก็ไม่แพงเวลาเข้าโรงงานออกมาก็ราคาถูก  แล้วถามว่าทำได้หรอบุคคลากรก็ไม่มี ก็สร้างซิครับไม่ใช่ให้มีการศึกษาแล้วก็ตกงานกันอย่างนี้ แล้วก็มาเอาใจใส่กระทวรงเกษตรให้มาขึ้น
แต่ความคิดที่ผมกล่าวมาคงทำไม่ได้หรอกครับก็ไอพวกพ่อค้าคนกลางมันก็มีส่วนได้เสียกับ ส.ส และนักการเมืองครับ
บันทึกการเข้า
สังคม
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #7 เมื่อ: 27-08-2008, 19:12 »

ถ้าเปลี่ยนพ่อค้าคนกลางที่ซื้อของจากชาวไร่ชาวนาในราคาตำแล้วไปขายในราคาสูง มาเป็นรัฐบาลซื้อจากชาวไร่ชาวนาเองและขายในราคาที่เป็นธรรมของที่แปลรูปมันก็ไม่แพงเวลาเข้าโรงงานออกมาก็ราคาถูก  แล้วถามว่าทำได้หรอบุคคลากรก็ไม่มี ก็สร้างซิครับไม่ใช่ให้มีการศึกษาแล้วก็ตกงานกันอย่างนี้ แล้วก็มาเอาใจใส่กระทวรงเกษตรให้มาขึ้น
แต่ความคิดที่ผมกล่าวมาคงทำไม่ได้หรอกครับก็ไอพวกพ่อค้าคนกลางมันก็มีส่วนได้เสียกับ ส.ส และนักการเมืองครับ
ลืมบอกไปครับ ถ้ารัฐตั้งมาเองจริงคงต้องมีการสอบเข้าเหมือนข้าราชการ เพราะถ้าเราทำเป็นของรัฐ กำไลที่ทำก็คิดน้อยหน่อยจะได้ ซื้อผลิตเกษตรแพงๆ แล้วขายให้กับโรงงานถูกๆ พอโรงงานออกมาขายของก็ไม่แพงประชาชนก็ซื้อถูก จริงไหมครับพี่น้อง   ฝันจริงๆผม มีใครฝันเหมือนผมไหมครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: