ส.ว.ออกมาทำงานแล้วครับ เข้าชื่อกัน 61 คน ยื่นขอเปิดอภิปรายการทำงานของ ครม.สมัคร
เหตุผลในการขอเปิดอภิปราย บรรยายมาได้ครอบคลุมดีเหลือเกิน ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ส.ว.ขอเปิดอภิปราย “หุ่นเชิด” ซักบริหารบ้านเมืองส่อล่มจมโดย ผู้จัดการออนไลน์ 9 มิถุนายน 2551 16:15 น.
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=951000006748461 ส.ว.เข้าชื่อยื่นขอเปิดอภิปราย ครม.ลูกกรอก จี้แก้ปัญหาปากท้องและการบริหารบ้านเมืองที่ส่อเค้าล่มจม
คาด 23 มิ.ย.เปิดศึกซักฟอก ด้าน ปธ.วุฒิฯ เสนอคนกลางเข้าไกล่เกลี่ยยุติปัญหาขัดแย้ง 2 ขั้ว
วันนี้ (9 มิ.ย.) กลุ่ม ส.ว.จำนวน 61 คน นำโดย น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี เข้ายื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป
เพื่อให้คณะรัฐมนตรีชี้แจงปัญหาความไม่สงบเรียบร้อย และปัญหาการบริหารราชการแผ่นดิน ที่ส่อว่าจะเกิดความเสียหายแก่บ้านเมือง
ตามมาตรา 161 ของรัฐธรรมนูญ 2550 ต่อ นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา โดย น.ส.สุมล กล่าวว่า การยื่นญัตติดังกล่าว
มีเจตนาให้รัฐบาลรับทราบปัญหาวิกฤตด้านปากท้องของ ประชาชน โดยต้องการสอบถามและฟังการชี้แจงจากรัฐบาล ไม่ได้มีเจตนา
ล้มล้างรัฐบาลแต่อย่างใด
ด้าน นายประสพสุข กล่าวว่า คาดว่า จะใช้เวลาตรวจสอบรายชื่อและญัตติดังกล่าวประมาณ 2-3 วัน จากนั้น จะบรรจุเข้าสู่
วาระการพิจารณาของวุฒิสภา ส่วนกำหนดการอภิปรายจะพยายามให้อยู่ในสมัยประชุมวิสามัญนี้ โดยส่วนตัวเห็นว่า วันที่ 23 มิถุนายน
จะมีความเหมาะสมที่สุด เนื่องจากหลังจากนี้ สภาผู้แทนราษฎรมีกำหนดประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี
งบประมาณ พ.ศ.2552 ซึ่งอาจไม่สะดวกที่รัฐบาลจะมาชี้แจง อย่างไรก็ดี กำหนดการอภิปรายที่ชัดเจนต้องดูความเหมาะสมและ
ความสะดวกของรัฐบาล ซึ่งต้องมาชี้แจงด้วยว่าจะมีความพร้อมในวันใด
นายประสพสุข ยังแสดงความเป็นห่วงปัญหาทางการเมือง ว่า หากมีคนกลางมาช่วยกันแก้ไขได้จะเป็นเรื่องดี ทั้งนี้ การชุมนุมต่างๆ
จะยุติได้หรือไม่ คงอยู่ที่ผู้ชุมนุมเอง เมื่อถามว่า มีความเห็นอย่างไรต่อการประกาศเดินทางมาชุมนุมหน้ารัฐสภา หากมีการพิจารณา
ญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 นายประสพสุข กล่าวว่า ยังไม่ทราบข่าว แต่เชื่อว่ากลุ่มพันธมิตร
ประชาชนเพื่อประชาธิปไตยคงไม่มา
เมื่อถามต่อถึงกรณีที่มีผู้เสนอแนวทางคลี่คลายความขัดแย้งโดยวุฒิสภา ควรทำหน้าที่เป็นคนกลาง นายประสพสุข กล่าวว่า
มีคนคิดอย่างนั้นเหมือนกัน แต่คงต้องให้คนที่มีความสามารถสูงมาเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยมากกว่า ต้องเป็นผู้ที่ได้รับความเชื่อใจจากทุกฝ่าย
ทั้งนี้ในญัตติดังกล่าวระบุว่า สืบเนื่องจากการที่คณะรัฐมนตรี ภายใต้การนำของนาย สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้บริหาร
ราชการแผ่นดินมาจนถึงบัดนี้เป็นเวลากว่า 4 เดือน โดยได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา อันเป็นตัวแทนของประชาชนชาวไทย เมื่อวันที่
18 ก.พ. 2551 ว่าจะบริหารราชการเพื่อให้เกิดประโยชน์สุขต่อชาติบ้านเมืองอย่างมี ประสิทธิภาพ แต่ปรากฏว่า ณ บัดนี้เกิดเหตุการณ์
ที่แสดงให้เห็นถึงความไม่สงบสุข และความไม่สงบเรียบร้อยขึ้นในบ้านเมืองทั่วทั้งราชอาณาจักร ตั้งแต่ภาคเหนือจรดภาคใต้ ทั้งจาก
ปัญหาเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ปัญหาบางประการรอคอยให้คณะรัฐมนตรีซึ่งเป็นฝ่ายบริหารเข้าไปแก้ไขอย่างรวด เร็วทันเหตุการณ์
อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ปัญหาบางประการเป็นผลสืบเนื่องมาจากมาตรการของฝ่ายบริหารโดยตรง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทั่วไปในขณะนี้เป็นเรื่องไม่ปกติ เกิดการชุมนุมประท้วงขึ้นทั่วประเทศ การชุมนุมประท้วงของกลุ่มพันธมิตร
ประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่25 พ.ค.2551 ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากการคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ส่อไปในทาง
ขัดต่อ มาตรา 291 รัฐธรรมนูญแห่งราชการอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 เพราะมีลักษณะเป็นการยกเลิกรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ไม่ใช่การ
แก้ไขประเด็นใดประเด็นหนึ่งหรือหลายประเด็น แม้นายกรัฐมนตรีจะปฏิเสธว่าเป็นเรื่องของฝ่ายนิติบัญญัติ แต่แท้จริงแนวโน้มความรุนแรง
ที่อาจเกิดขึ้น มีความเกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจบริหารโดยตรง โดยเฉพาะในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อวันที่25 พ.ค. 2551
ที่ไม่อาจป้องกันการปะทะกันของมวลชนที่มีความคิดเห็นแตกต่างกันได้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคำแถลงของนายกรัฐมนตรีผ่านสถานีวิทยุ
โทรทัศน์แห่ง ประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2551 และวันที่ 1 มิ.ย.2551 ที่มีลักษณะยั่วยุ และส่อว่าจะขัดหรือแย้ง
กับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550
นอกจากนั้นยังมีการประท้วงปิดถนนของชาวนาในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ กาฬสินธุ์ ฯลฯ การประท้วงปิดปากอ่าว
เผาเรือประมงของชาวประมงในภาคใต้ ปัญหาราคากุ้งกุลาดำตกต่ำที่ส่อว่าจะมีการประท้วงใหญ่ปิดการจราจรบนสะพานติณ สูลานนท์
ที่จังหวัดสงขลา การเดินทางเข้ามาประท้วงที่ทำเนียบรัฐบาลของกลุ่มเกษตรกรรายย่อย และฯลฯ ก่อนหน้านี้ไม่นาน ประชาชน
ผู้ประกอบการรถร่วมโดยสารสาธารณะในกรุงเทพมหานคร ชุมนุมปิดการจราจรที่หน้ากระทรวงคมนาคม และกำลังจะมีการประท้วง
ลักษณะเดียวกันของผู้ประกอบการเดินรถบรรทุก
ปัญหาราคาสินค้าแพงทวีความรุนแรงมากขึ้น นับจากกลุ่มที่ใช้เพื่อการบริโภค เช่นน้ำมันพืช และน้ำตาลก็เกิดข้อสงสัยถึงความ
ไม่โปรงใสในการนัดสินใจเชิงนโยบายของคณะ รัฐมนตรีว่ามิได้ทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน ขณะที่มาตรการแก้ปัญหาราคาข้าวสาร
ของกระทรวงพาณิชย์ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่ เหมาะสม และไม่ได้แก้ปัญหาจริง ซ้ำยังไปซ้ำเติมปัญหาให้รุนแรงมากขึ้น ขณะที่
ในกลุ่มอุปโภค ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นเรื่อยๆเป็นปัญหาการพลังงานที่จำเป็นต้องมีนโยบายแก้ ปัญหาที่ชัดเจนทั้งระยะสั้น ระยะกลาง
และระยะยาวออกมาโดยเร็ว กลับยังไม่มีความชัดเจนทั้งๆที่เรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่สุดที่ต้อง ระดมสรรพกำลังและองค์ความรู้ของ
ประเทศมาร่วมกันแก้ไข
กล่าวได้ว่าคณะรัฐมนตรีบริหารส่อไปในทางล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในการ แก้ไขปัญหาความยากจน ปล่อยให้มีการกดราคา
พืชผลของเกษตรกร ชาวไร่ชาวนาอย่างไม่เป็นธรรม ตลอดถึงการไม่นำพาต่อปัญหาค่าแรงงานขั้นต่ำซึ่งไม่สอดคล้องกับภาวะ
ข้าวยาก หมากแพงอย่างจริงจัง
นอกจากนั้นยังมีการตั้งข้อสงสัยถึงการบริหารราชการแผ่นดินว่ามิได้ ปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาลมีการโยกย้ายข้าราชการ
ที่ไม่เป็นธรรม มีพฤติกรรมขัดขวางการใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตรยา แทรกแซงการดทำงานขององค์การเภสัชกรรม เพื่อเอื้อประโยชน์
ให้กับฝ่ายบริหาร แทรกแซงและตัดตอนกระบวนการยุติธรรมด้วยการโยกย้ายอธิบดี และข้าราชการกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ
ข้าราชการตำรวจจำนวนมาก เสมือนเป็นการขัดขาวงมิให้คดีความของหมู่ขณะตนเองเข้าสู่การพิจารณาคดีใน ชั้นศาล หนำซ้ำล่าสุด
ยังได้มีการความพยายามใช้กลไกอำนาจสืบสวนสอบสวนทางราชคุกคาม กลั่นแกล้งและกดดันองค์กรตรวจสอบอิสระตามรัฐธรรมนูญ
อันมีลักษณะเป็นทั้งการ แทรกแซงองค์กรอิสระและแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม
คณะรัฐมนตรีมิได้สร้างความชัดเจนต่อสาธารณะว่ามีนโยบายและจุดยืนใด ที่มีอดีตนายกรัฐมนตรีชักนำนายทุนต่างชาติเข้ามา
ลงทุนอย่างกว้างขวาง ซึ่งถูกสังคมตั้งข้อสังเกตว่าเสมือนเป็นการเตรียมยึดครองทรัพยากรและผล ประโยชน์ของประเทศชาติ และ
สิทธิสัมปทานต่างๆในอนาคต ซึ่งเป็นอันตรายต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของชาติอย่างมีเงื่อนงำ เช่น กรณีการเปิดโอกาสให้
ชาวตะวันออกกลางเข้ามาศึกษาแทนผูกขาดในการทำงานการขนส่ง ทางบก เชื่อมต่อระหว่างบริเวณจากชายฝั่งทะเลตะวันออก
ไปยังชายฝั่งทะเลตะวันตก หรือที่เรียกว่า แลนด์บริดจ์ ตลอดจนการเปิดช่องทางให้ทุนขนาดใหญ่จากประเทศตะวันออกกลาง
ให้เข้ามาหา ประโยชน์จากการทำนาซึ่งเป็นอาชีพสงวนของคนไทย ตลอดจนทำธุรกิจข้าวแบบครบวงจร
ข้อปัญหาต่างๆที่ยกมากล่าวอ้างข้างต้นเป็นส่วนหนึ่งของความไม่สงบ เรียบร้อยในบ้านเมืองและปัญหาการบริหารราชการแผ่นดิน
ที่ส่อว่าจะเกิดความ เสียหายต่อบ้านเมือง ซึ่งครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและการเมืองเชื่อมโยงโดยตรงกับความ
ไม่สงบสุขและการขาดประโยชน์ของ ประชาชนเจ้าของประเทศ
เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย ข้าพเจ้าทั้งหลาย สมาชิกวุฒิสภา ผ็มีรายนามข้างท้ายนี้
ขอให้สิทธิตามมาตรา 161 ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 ขอเปิดอภิปรายทั่วไปในวุฒิสภาในประเด็นปัญหา
ความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง และปัญหาการบริหารราชการแผ่นดินที่ส่อว่าจะเกิดความเสียหายต่อบ้านเมือง เพื่อให้คณะรัฐมนตรี
ได้แถลงข้อเท็จจริงและได้ชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการ บริหารราชการแผ่นดินโดยไม่มีการลงมติเพื่อเป็นช่องทางดังกล่าวให้สมาชิก
วุฒิสภาทั้งปวงได้นำเสนอข้อปัญหาข้อสังเกตต่างๆต่อคณะรัฐมนตรีและเพื่อให้ คณะรัฐมนตรีได้ชี้แจงข้อปัญหาต่างๆดังกล่าวต่อที่ประชุม
วุฒิสภาอันจะเป็นการใช้กลไกตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550ให้เกิดประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดินของ
คณะรัฐมนตรีชุดนี้เพื่อให้ เป็นไปตามแนวนโยบายทีได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา
สำหรับรายชื่อส.ว.ที่ร่วมลงชื่อประกอบด้วยส.ว.สรรหา 48 คน ได้แก่นายวรินทร์ เทียมจรัส นาย อนุศักดิ์ คงมาลัย นาย ตวง อันทะไชย
นาย คำนูญ สิทธิสมาน นาย สมชาย แสวงการ นาง นิลวรรณ เพชระบูรณิน นาย พิเชต สุทรพิพิธ พล.ต.ต. เกริก กัลยาณมิตร นาย เจตน์
ศิรธรานนท์ นาย ภูมิศักดิ์ หงส์หยก นาย ไพบูลย์ นิติตะวัน นาย ประสาร มฤคพิทักษ์ นาย เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ นาง ตรึงใจ บูรณสมภพ
นาง พรพันธุ์ บุญยรัตนพันธุ์ นาย ธวัช บวรวนิชยกูร ม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต นาย มณเฑียร บุญตัน พล.ต.ต. สุเทพ สุขสงวน นาย พิชัย
อุตมาภินันท์ นาง ทิพย์วัลย์ สมุทรักษ์ นาย จารึก อนุพงษ์ นาย บุญชัย โชควัฒนา นาย วิรัติ พาณิชย์พงษ์ นาย สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย
พล.ร.อ. สุรศักดิ์ ศรีอรุณ นาย ถาวร ลีนุตพงษ์ นาย อนุรักษ์ นิยมเวช นาย ทรงศักดิ์ ศรีอนุชาต นาย วันชัย แสงสุขเอี่ยม
พล.ร.อ. ณรงค์ ยุทธวงศ์ นาย สงคราม ชื่นพิบาล นาย วิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์ พล.ท. กมล ประจวบเหมาะ นาย อิทธิพล เรืองวรบูรณ์
นาย สมัคร เชาวภานันท์ นาย วิระ มาวิจักขณ์ นาย อโณทัย ฤทธิปัญญาวงศ์ พล.อ.อ.ณพฤษภ์ มัณฑะจิตร นาย พรชัย สุนทรพันธุ์
นาย อนุศาสน์ สุวรรณมงคล นายชลิต แก้วจินดา นาย ธีระจิตต์ สถิโรตมวงศ์ นาง อัจฉรา เตชฤทธิพิทักษ์ พล.อ. เกษมศักดิ์ ปลูกสวัสดิ์
พล.อ.อ.ดาคม กาญจนหิรัญ นาย วิทวัส บุญญสถิตย์ นาย ธนู กุลชล
ส่วนส.ว.เลือกตั้ง 13 คน ได้แก่น.ส. สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี นาย สาย กังกเวคิน ส.ว.ระยอง นาย วรวิทย์ บารู
ส.ว.ปัตตานี น.ส. รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. นาง นฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์ นาย สุรจิต ชิรเวทย์ ส.ว.สมุทรสงคราม
นาย พรพจน์ กังวาน ส.ว.ระนอง นาย ภิญโญ สายนุ้ย ส.ว.กระบี่ นาย วรวิทย์ วงศ์สุวรรณ ส.ว.ลพบุรี นาย ประเสริฐ ชิตพงศ์
ส.ว.สงขลา นาย เจริญ ภักดีวานิช ส.ว.พัทลุง นาย วิเชียร คันฉ่อง ส.ว.ตรัง นาย สมชาติ พรรณพัฒน์ ส.ว.นครปฐม