คุณ Şiłąncē Mőbiuş ครับ... ผมเชื่อว่ามีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่เข้าใจผิดว่า อารยะขัดขืน = ผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด กลุ่มพันธมิตรจะต้องมีการขยายความอย่างเร่งด่วนว่าอารยะขัดขืนคืออะไร มิเช่นนั้นตำรวจออกมาบ่นเพียงนิดหน่อย ก็จะกลายเป็นว่าพวกพันธมิตรเราจงใจกระทำผิดกฎหมาย
อารยะขัดขืน (Civil Disobedience) มีความหมายที่รวบรัดที่สุดคือ ขัดขืน-ท้าทายกฎหมายที่ไม่ชอบธรรม แต่ไม่ละเมิดอำนาจกฎหมายนั้น
การไม่ละเมิดอำนาจกฎหมายนั้น หมายถึงว่าคุณอาจทำผิดกฎหมาย แต่ยอมรับการจัดการโดยดี... เช่น คุณขับรถฝ่าไฟแดง คุณยอมเสียค่าปรับโดยดี แต่ตัวอย่างนี้ยังไม่ใช่อารยะขัดขืน เพราะจุดประสงค์ของการท้าทายกฎหมายนี้เพื่อตัวคุณเอง ไม่ใช่เพื่อให้สังคมมีความอารยะมากขึ้น
การขายหุ้นโดยไม่เสียภาษี... ตัวอย่างนี้ก็มิใช่อารยะขัดขืน เพราะเป็นความจงใจละเมิดอำนาจทางกฎหมาย และมีจุดประสงค์เพื่อประโยชน์ส่วนบุคคล
แล้วอารยะขัดขืนเป็นอย่างไร?... ตัวอย่างเรื่องมหาตมะ คานธี เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนเรื่องหนึ่ง อีกตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงการมีมานานแล้วของอารยะขัดขืนก็คือ กรณีการดื้อแพ่งของอริสโตเติ้ลในการสอนปรัชญา เขายินดีถูกจับ และดื่มยาพิษตาย แต่ไม่ยอมหยุดสอนปรัชญา... ปัจจุบันวิชาปรัชญาของเขาปักหลักมั่นคงในระบบการศึกษาของโลก
สำหรับรายละเอียดของอารยะขัดขืน... ผมคิดว่าบทความที่ลงโดยกรุงเทพธุรกิจโดย สุรกิจ ปัญจวีณิน กรุงเทพธุรกิจ วันอังคารที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2549 ที่เขียนถึงอารยะขัดขืนของกลุ่มพันธมิตรในเวลานั้นได้ชัดเจนพอสมควร โดยเฉพาะคำนิยาม 7 ประการ คือ
1. เป็นการกระทำที่ละเมิดกฎหมาย หรือตั้งใจที่จะละเมิดกฎหมาย
2. ในแนวทางที่ปราศจากความรุนแรง
3. เป็นการกระทำที่เปิดเผย เป็นสาธารณะและประกาศให้รัฐทราบล่วงหน้า
4. มีความเต็มใจที่จะรับโทษทางกฎหมายของการกระทำผิดกฎหมาย
5. มีเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงนโยบาย กฎหมาย กฎระเบียบของรัฐเพื่อให้เป็นธรรมมากขึ้น
6. มุ่งที่จะก่อให้เกิดสำนึกแห่งความยุติธรรมที่แท้จริงต่อคนส่วนใหญ่ในสังคม ซึ่งอาจจะมองข้ามหรือเข้าใจความยุติธรรมที่แท้จริงผิดแปลกไป
7. มุ่งเชื่อมโยงกับสำนึกแห่งความยุติธรรมซึ่งโดยหลักแล้วเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายและสถาบันทางสังคม
รายละเอียดอ่านตามลิงก์ได้ครับ
http://www.nidambe11.net/ekonomiz/2006q2/2006april18p5.htm