แค่คิดจะทำยาบ้าปลอมขาย โดยกำหนดราคาเม็ดละ 50 สตางค์
ในขณะที่ราคายาบ้าจริงขายเม็ดละเป็นร้อย ก็เห็นแล้วว่าไม่ work
เพราะคนซื้อดูแค่ราคาก็รู้ว่าเป็นยาบ้าปลอม ถ้าจะหลอกให้สำเร็จ
ก็ต้องขายราคาเท่ากับยาบ้าจริง แต่คนเสพก็จะรู้ในครั้งแรกที่เสพ
และเลิกซื้อยาจากคนขายยาปลอมทันที อีกทั้งจะพัฒนาวิธีในการ
ตรวจสอบยาปลอมขึ้นมาอีก
ดีไม่ดีอาจทำให้ยาบ้าจริงราคาแพงขึ้นอีก กลายเป็นของพรีเมียม
ดูแล้วไ่ม่ใช่การแก้ปัญหาตรงไหน คงเป็นได้แค่ลองทำอะไรเล่นๆ
ป่วนตลาดได้ชั่วคราว แต่แก้ปัญหาอะไรไม่ได้
ความคิดผมน่าจะตั้งคำถามเบื้องต้นขึ้นมาก่อนว่าต้นเหตุปัญหา
มาจากอะไร ผมมองว่าคนเสพยาบ้ามี 2 กลุ่ม คือกลุ่มคนทำงาน
ซึ่งปัญหาส่วนหนึ่งมาจากไม่มีระบบควบคุมการทำงานเกินเวลา
ก็เลยอัดยาทำงานแบบโหนกะ ในขณะที่ปัญหาอีกส่วนก็มาจาก
ค่าจ้างแรงงานที่น้อยเกินไป และค่าใช้จ่ายที่มากเกินไปทำให้
คนทำงานตัดสินใจใช้ยาเพิ่มเวลาทำงาน
คนเสพยาอีกกลุ่มคือนักเรียน ซึ่งหลักๆ น่าจะมาจากการอยากรู้
อยากลอง ตามประสาวัยรุ่น ซึ่งมักตัดสินใจทำผิดกฎสังคมเพื่อ
แสดงความใจถึง ให้เพื่อนยอมรับ หรือประชดปัญหาตามประสา
ของวัยรุ่น จึงต้องไปดูแลที่เด็กกลุ่มเสี่ยงว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง
เพราะเด็กส่วนใหญ่ไม่ได้เสพยาและหลีกเลี่ยงไม่สนใจจะเสพด้วย
เรื่องยาบ้าปลอมคุณไชยาก็คงแค่อยากนำเสนอไอเดียแบบผ่านๆ
ที่เคยคิดเล่นๆ โดยยังไ่ม่มีการศึกษาจริงเท่านั้น
แต่ในฐานะ รมว.สาธารณสุข ก็ไม่น่าเสนอไอเดียเลื่อนลอยแบบนี้