ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
20-04-2024, 20:26
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  137 Academy Fantasia 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
137 Academy Fantasia  (อ่าน 1835 ครั้ง)
KILL...ER
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 330



« เมื่อ: 07-06-2008, 07:23 »

กลุ่มนักวิชาการ 137 คนลงชื่อประกาศเจตนารมณ์ ไปให้พ้นการเมืองแบบสองขั้ว พร้อมทั้งสนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แบบยกเครื่องทั้งฉบับ โดยให้มีการตั้ง สสร. จากทุกภาคส่วน เข้ามาดำเนินการ ซึ่งอันที่จริงแล้ว ก็ไม่อยากจะทับถมอะไร เพราะดูจากรายชื่อแต่ละรายแล้ว ส่วนใหญ่ก็หลงกล เผด็จการศักดินา ไปผสมโรงในเกมส์ทำลายล้างกันทางการเมืองด้วย เป็นการพิสูจน์ได้ประการหนึ่งว่า การศึกษาไม่ได้ช่วยยกระดับ สติและปัญญา ให้เกิดในหมู่ชนชั้นปัญญาชนไทยได้เลย กว่าจะกลับตัว พลิกสถานการณ์ได้ ก็เล่นเอาเหงื่อตก เสียรังวัดกันไปหลายชั่วโคตร แต่ก็ยังคงมีนักวิชาการ บางตัว ที่ยังสมองหมา ปัญญาหยาบ กลัวเสียฟอร์ม ยังคงแถเถือกไปอย่างหน้าด้านๆ สนับสนุนเผด็จการศักดินา อย่างไม่ลืมหูลืมตา ทั้งๆที่คนไทยเกือบต้องฆ่ากันนองเลือด เพราะแผนการณ์อันชั่วร้ายของพวกมัน

นักวิชาการ 137 คน ขอเสนอหลักการสำคัญ 4 ประการของการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ ดังต่อไปนี้

ประการแรก การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องเป็นการนำไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ทั้งฉบับ มิใช่เป็นเพียงการแก้ไขในมาตราหนึ่งมาตราใดเท่านั้น

อ้างถึง
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง เพราะโครงสร้างของรัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบัน ใช้คอนเซปท์ กรุงศรีฯ ระแวงไพร่ ไม่ไว้ใจชนชั้นรากหญ้า ว่าจะมีสติปัญญา พอที่จะกำหนดทิศทางประเทศได้หรือไม่ ไม่ไว้ใจว่าจะเลือกนักการเมืองที่ ถูกต้องตรงใจชนชั้นศักดินาหรือไม่ โดยเฉพาะ กลุ่มการเมืองที่ ชนชั้นศักดินา ไม่ปลื้มเข้ามาปกครองประเทศ ด้วยสาเหตุใดไม่เป็นที่แน่ชัด ยังคลุมเครือมาจนถึงบัดนี้

ประการที่สอง ต้องมีการตั้งคณะทำงานหรือสภาร่าง รัฐธรรมนูญอิสระที่ประกอบ ไปด้วยตัวแทนจากกลุ่ม องค์กรต่างๆ เข้ามาเป็นองค์ประกอบ สภาร่างรัฐธรรมนูญต้อง มิใช่เป็นองค์กรของข้าราชการระดับสูง นักธุรกิจ นักการเมือง หากต้องประกอบไปด้วยกลุ่มคนอันหลากหลายทั้งในทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม เพศและชาติพันธุ์ที่ดำรงอยู่ในสังคมไทย

อ้างถึง
ประเด็นนี้ก็ไม่มีอะไรมาก เพียงเสนอขึ้นมาแบบ Fake เป็นข้อเสนอที่ดัดจริต กระแดะไปตามกระแส ทั้งๆที่รู้ว่า ร่างกันขึ้นมาแล้ว พอบรรดาชนชั้นศักดินา ไม่พอใจเกิดความขัดแย้งขึ้นมา ก็ชี้ชวนให้ทหารออกมาฉีกทิ้งอีก ก็เพียงแค่ยึดเค้าโครงเดิมของ ฉบับปี 2540 ไว้เป็นสรณะ ก็พอแล้ว ก็ไม่เห็นว่ามันจะเป็นจะตายอะไร ต่อให้ยกโคตรเหง้าภาคประชาชน มาร่วมด้วยช่วยร่างก็ไม่ช่วยให้ ชนชั้นศักดินา มันมอง ชนชั้นรากหญ้า (ไพร่อุปถ้มป์) ไปในทิศทางที่ดีขึ้นหรอก

ประการที่สาม ในกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญ ต้องเปิดให้กับการมีส่วนร่วม จากประชาชนในการแสดงความคิดเห็น ผลักดัน แลกเปลี่ยน ข้อมูลและความต้องการ ของแต่ละกลุ่มให้เป็นไปอย่างเสรี และกว้างขวางที่สุด เพื่อให้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เกิดขึ้นจากฐานของสังคมอย่างแท้จริง ซึ่งจะเป็นไปได้ก็ด้วยบรรยากาศของสังคม ที่เป็นประชาธิปไตยและการเปิดพื้นที่ให้กับทุกฝ่าย ให้สามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ สื่อมวลชนทุกประเภท

อ้างถึง
นี่ก็เป็นความกระแดะ สืบเนื่องมาจากประการที่สองนั่นเอง เมื่อไหร่นักวิชาการมันจะเลิก Fake เสียทีก็ไม่ทราบ ก็เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่ามันเกิดความขัดแย้งระหว่าง ชนชั้นศักดินา บางกลุ่มกับตัวบุคคลคือ ดร.ทักษิณ เพียงเท่านี้แหละ  แล้วเขาก็หาทางวางแผนกำจัด ไม่เห็นจะต้องไปยกเมฆ อะไรมาสาธยายให้เปลืองค่าน้ำค่าไฟ ชาวบ้านเขารู้เช่นเห็นชาติกันทั้งประเทศ แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น ยัง Fake ไม่เลิกอีกหรือ ?

ประการที่สี่ หลังจากร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เสร็จสิ้นลงต้องเปิดให้มีการลงประชามติ โดยไม่มีการแทรกแซงจากทุกฝ่าย เช่นครั้งที่ผ่านมา

อ้างถึง
ประการนี้ชัดเจน และตรงไปตรงมาที่สุด เพราะได้แสดงว่า การลงประชามติ ครั้งที่ผ่านมา มีการแทรกแซงจากชนชั้นปกครอง ผู้มีอำนาจ ทำให้ผลประชามติ เกิดผลที่เบี่ยงเบนไปจากความเป็นจริงอยู่พอสมควร

นักวิชาการจำนวน 137 คน ดังมีรายชื่อข้างท้ายนี้ จึงใคร่ขอเรียกร้องสังคมไทยให้ร่วมกันกดดันให้เกิดกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามหลักการ 4 ข้อข้างต้น เพื่อนำไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญโดยกระบวนการที่สันติ เพื่อสร้างรัฐธรรมนูญที่เอื้อต่อการจัดความสัมพันธ์เชิงอำนาจในระบอบประชาธิปไตย และทำให้สังคมไทยหลุดพ้นจากสภาวะตีบตันทางการเมืองโดยเร็วที่สุด (รายชื่อไปอ่านกันเอาเองที่นี่)
บันทึกการเข้า

จงภาคภูมิใจในความเป็นไพร่กระฎุมพี
Onerukna
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 49


« ตอบ #1 เมื่อ: 07-06-2008, 08:47 »

ทำผิดกฎหมายก็แก้กฎหมาย ทำผิดรัฐธรรมนูญก็แก้รัฐธรรมนูญ

ไม่มีประโยชน์ ประชาธิปไตยของหมู่โจร ก็คงโหวตกันไปปล้นไปโกงชาติอยู่ดี
บันทึกการเข้า
northstar
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 635


« ตอบ #2 เมื่อ: 07-06-2008, 08:52 »

ไม่ว่าจะแก้กี่ชาติๆ...
ถ้าไม่มีมาตราใดรัฐธรรมนูญที่ควรจะมีไว้ป้องกันนักโกงเมืองเลวๆ... มันก็จะเลวทุกๆชาติไป
บันทึกการเข้า
Tuba ✿゚✎..✿.。.:。ღ
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 660


ทักษิณที่ดี คือทักษิณที่.......ตายแล้ว


« ตอบ #3 เมื่อ: 07-06-2008, 08:57 »

เอะอะ ก็ว่าเขาหลงกล เผด็จการ

หลงกลพันธมิตร หลงกลแป๊ะลิ้ม

แล้วไม่คิดหรือว่าตัวเอง หลงกลไอ้เหลี่ยม?

หรือว่าหลงเงินกันแน่ครับ???
บันทึกการเข้า

ทหาร เป็นอะไรก็ไม่ได้ดี นอกจากเป็นทหาร

ตำรวจ เป็นอะไรก็ดีไม่ได้ แม้กระทั่งเป็นตำรวจ
richard
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7


« ตอบ #4 เมื่อ: 07-06-2008, 09:06 »

แก้กันสนุก ไม่มีวันจบสิ้น เดือนร้อนประชาชนฉิบ............   
บันทึกการเข้า
KILL...ER
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 330



« ตอบ #5 เมื่อ: 07-06-2008, 22:11 »

แก้ก็แก้กันไป ไม่เห็นว่ามันจะไปเดือดร้อนใคร
ไม่เห็นว่ามันจะทำให้การทำมาหากินฝืดเคืองแต่ประการใด
ไม่ทำให้ใครตกงาน
ไม่ทำให้ต่างชาติถอนการลงทุน
ไม่ทำให้เงินเฟ้อ เงินฝืด
ไม่ทำให้ค่าแรงตก หรือน้ำมันขึ้นราคา
ไม่ทำให้ตลาดหุ้นตก หรือขึ้นกระฉูด
ไม่ทำให้ราคาข้าวดิ่งนรก
ไม่ได้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ใดๆทั้งสิ้น

แล้วทำไมถึงไม่ควรแก้...
ตรงนี้เป็นสิ่งที่พวกมันไม่สามารถให้คำตอบได้

ถ้าพวกศักดินามหาอำมาตยาธิปไตยบรรลัยโคตร มันไม่อยากให้แก้ มันคงออกบทเฉพาะกาลออกมาแล้วว่า ห้ามแก้เป็นระยะเวลา 7 ชั่วโคตร แต่นี่ไม่มีระบุอะไรเอาไว้ แสดงว่าแก้ได้ทุกเวลา แล้วแต่ความพอใจ
บันทึกการเข้า

จงภาคภูมิใจในความเป็นไพร่กระฎุมพี
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #6 เมื่อ: 08-06-2008, 07:48 »

เดือดร้อนสิจ๊ะ

ขืนแก้ ก็ไม่มี ม309 ไว้คุ้มกะลา

ความผิดทั้งหลายที่ทำไว้ ก็จะต้องรับโทษตามกฏหมาย อย่างเสมอภาค

ไม่ได้เป็นบุคคลพิเศษ "เหนือ กม." อย่างใน รธน. ปัจจุบัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-06-2008, 09:24 โดย snowflake » บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
สมชายสายชม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,048


« ตอบ #7 เมื่อ: 08-06-2008, 09:08 »

พวกนักวิชาการ(จัดตั้ง)ทำงานรับใช้ทักษิณ เห็นการแก้รัฐธรรมนูญสำคัญยิ่งกว่าปัญหาเศรษฐกิจ 
...
บันทึกการเข้า
ไทยพันธุ์แท้
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2


« ตอบ #8 เมื่อ: 08-06-2008, 10:29 »

เห็นเจ้าของกระทู้ด่าพวกศักดินา และเผด็จการ
แล้วก็แสดงอาการเทิดทูลระบอบทักษิณ
ว่าเป็นประชาธิปไตยตามนัยยะของตัวเอง

เห็นชัดว่าคำว่า “ประชาธิปไตย” ที่ตีโจทย์ออกมา
ดูเหมือนคล้ายกับคุณกำลัง หลงใหลไปกับการยึดติดในเปลือกห่อหุ้มของระบอบ
จนเกิดอาการหลงผิดและเกิดอาการคล้อยตามแนวคิดที่ยึดถือบุคคลเป็นใหญ่
ไม่ใช่ประชาธิปไตยตามอุดมการณ์ที่สังคมโลกนิยามไว้อย่างแน่นอน

ประชาธิปไตยคือระบอบการปกครองที่สะท้อนถึงร่มเงาแห่งระบอบที่เน้นภาคประชาชน
ความสำคัญของระบอบเป้าหมายหลักจะอยู่ที่ความร่มเย็นเป็นสุขของคนในชาติ
ที่ผู้ปกครองจะต้องเดินตามสัญญาประชาคมที่ให้ไว้กับประชาชน
 
ความจริงระบบการปกครองมันก็เป็นแค่วิธีการ หรือวิถีทาง ที่จะนำพาผลผลิตมาสู่ภาคประชาชน
ผลผลิตสำคัญก็คือความมีเสรีภาพ เสมอภาคของประชาชน
และจากระบบถ่วงดุลตามสัญญาประชาคมของแต่ละประเทศที่โครงสร้างทางสังคมอาจมีความแตกต่างกันไป

เป้าหมายที่น่าจะถูกเน้นและให้ความสำคัญมากสำหรับการปกครอง ก็คือประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชน
ไม่ใช่หยิบเอาระบบมาอ้างและดันไปแบกหามระบบว่ามันคือเป้าหมายสำคัญที่สุด

วันนี้..ระบบ..ดันกลับมากลายเป็นเป้าหมาย
คำว่า..ประชาธิปไตย.. จึงกลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่แตะต้องมิได้

เหมือนกับศาสนาของเราที่เน้นแต่พิธิกรรมจนหลงลืมแก่นแท้ในการปฏิบัติ
จึงเห็นภาพคนไทยนั่งไหว้สัตว์พิการ ต้นไม่ประหลาดกันอยู่เต็มเมือง

ประชาธิปไตยที่แท้จริง ไม่ใช่แค่เปลือกนอกสีสวย จากแค่จัดให้มีการเลือกตั้ง มีพรรคการเมือง
หรือไม่ใช่แค่การบ่นหาแต่ความปริสุทธิของอำนาจที่ปรากฏอยู่ในตัวหนังสือในรัฐธรรมนูญ

ความสำคัญน่าจะโฟกัสอยู่ที่ร่มเงาแห่งระบอบหรือภาคผลผลิตที่สะท้อนถึง
คือผู้ปกครองจะต้องสร้างร่มเงาแห่งระบอบให้ประชาชนเกิดความอยู่ดีมีความสุข
ดังนั้นหัวใจบริหารที่ผู้ปกครองจะขาดไม่ได้ก็คือหลักธรรมาภิบาล

แต่ที่ผ่านมามันสะท้อนให้เห็นสิ่งเหล่านี้หรือไม่ ?

วันนี้พอใครเห็นแย้งพวกนักเลือกตั้งก็จะกลายเป็นคนไม่รักประชาธิปไตย
พวกนั้นจะทำอะไรกันก็ได้ แล้วก็อ้างคะแนนเสียงที่ได้รับเลือกตั้งมาเพื่อเป็นความถูกต้องในทุกเรื่อง
ทั้งๆ ที่ประชาธิปไตยจริงแล้วก็คือจิตใจที่เปิดกว้าง
รับฟังทุกๆ ความเห็นโดยเฉพาะความเห็นที่แตกต่าง
เพื่อสมานประโยชน์ให้เกิดขึ้นแก่ส่วนรวม

เนื้อแท้ของระบอบประชาธิปไตยจึงน่าจะอยู่ตรงที่
ภาคผลผลิตของการเข้าถึงหลักความเสมอภาค เสรีภาพ ภารดรภาพ
และการถ่วงดุลจากก้อนอำนาจที่เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมมากที่สุด

เปลือกนอกจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่
ร่มเงาแห่งระบอบจะต้องสนองตอบความอยู่ดีมีสุขของประชาชนเป็นสำคัญก็แล้วกัน
บันทึกการเข้า
RiDKuN
Administrator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,015



เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 08-06-2008, 10:43 »

อะไรเป็นประโยชน์กับพวกตัวเอง ก็เอามาบอกว่าเป็นความจริง
อะไรที่ไม่เป็นประโยชน์ ก็บอกว่ากระแดะ fake
แล้วสรุปไอ้คนพูดนี่มันพูดความจริง หรือมันกระแดะ บอกหน่อย
หรือดีบ้างกระแดะบ้างผสมกันไป แล้วแต่คิลเลอะจะตัดสิน
บันทึกการเข้า

คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
เช็คบิล
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 580



« ตอบ #10 เมื่อ: 08-06-2008, 12:34 »

กลุ่มนักวิชาการ 137 คนลงชื่อประกาศเจตนารมณ์ ไปให้พ้นการเมืองแบบสองขั้ว พร้อมทั้งสนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แบบยกเครื่องทั้งฉบับ โดยให้มีการตั้ง สสร. จากทุกภาคส่วน เข้ามาดำเนินการ ซึ่งอันที่จริงแล้ว ก็ไม่อยากจะทับถมอะไร เพราะดูจากรายชื่อแต่ละรายแล้ว ส่วนใหญ่ก็หลงกล เผด็จการศักดินา ไปผสมโรงในเกมส์ทำลายล้างกันทางการเมืองด้วย เป็นการพิสูจน์ได้ประการหนึ่งว่า การศึกษาไม่ได้ช่วยยกระดับ สติและปัญญา ให้เกิดในหมู่ชนชั้นปัญญาชนไทยได้เลย กว่าจะกลับตัว พลิกสถานการณ์ได้ ก็เล่นเอาเหงื่อตก เสียรังวัดกันไปหลายชั่วโคตร แต่ก็ยังคงมีนักวิชาการ บางตัว ที่ยังสมองหมา ปัญญาหยาบ กลัวเสียฟอร์ม ยังคงแถเถือกไปอย่างหน้าด้านๆ สนับสนุนเผด็จการศักดินา อย่างไม่ลืมหูลืมตา ทั้งๆที่คนไทยเกือบต้องฆ่ากันนองเลือด เพราะแผนการณ์อันชั่วร้ายของพวกมัน

นักวิชาการ 137 คน ขอเสนอหลักการสำคัญ 4 ประการของการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ ดังต่อไปนี้

ประการแรก การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องเป็นการนำไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ทั้งฉบับ มิใช่เป็นเพียงการแก้ไขในมาตราหนึ่งมาตราใดเท่านั้น

ประการที่สอง ต้องมีการตั้งคณะทำงานหรือสภาร่าง รัฐธรรมนูญอิสระที่ประกอบ ไปด้วยตัวแทนจากกลุ่ม องค์กรต่างๆ เข้ามาเป็นองค์ประกอบ สภาร่างรัฐธรรมนูญต้อง มิใช่เป็นองค์กรของข้าราชการระดับสูง นักธุรกิจ นักการเมือง หากต้องประกอบไปด้วยกลุ่มคนอันหลากหลายทั้งในทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม เพศและชาติพันธุ์ที่ดำรงอยู่ในสังคมไทย

ประการที่สาม ในกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญ ต้องเปิดให้กับการมีส่วนร่วม จากประชาชนในการแสดงความคิดเห็น ผลักดัน แลกเปลี่ยน ข้อมูลและความต้องการ ของแต่ละกลุ่มให้เป็นไปอย่างเสรี และกว้างขวางที่สุด เพื่อให้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เกิดขึ้นจากฐานของสังคมอย่างแท้จริง ซึ่งจะเป็นไปได้ก็ด้วยบรรยากาศของสังคม ที่เป็นประชาธิปไตยและการเปิดพื้นที่ให้กับทุกฝ่าย ให้สามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ สื่อมวลชนทุกประเภท

ประการที่สี่ หลังจากร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เสร็จสิ้นลงต้องเปิดให้มีการลงประชามติ โดยไม่มีการแทรกแซงจากทุกฝ่าย เช่นครั้งที่ผ่านมา

นักวิชาการจำนวน 137 คน ดังมีรายชื่อข้างท้ายนี้ จึงใคร่ขอเรียกร้องสังคมไทยให้ร่วมกันกดดันให้เกิดกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามหลักการ 4 ข้อข้างต้น เพื่อนำไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญโดยกระบวนการที่สันติ เพื่อสร้างรัฐธรรมนูญที่เอื้อต่อการจัดความสัมพันธ์เชิงอำนาจในระบอบประชาธิปไตย และทำให้สังคมไทยหลุดพ้นจากสภาวะตีบตันทางการเมืองโดยเร็วที่สุด (รายชื่อไปอ่านกันเอาเองที่นี่)

ต่อให้กลุ่มแม่ของมึง กูก็ไม่สนหรอก

ก่อนที่มึงจะ post มึงควรขออณุญาต คนที่ควบคุมมึงก่อน 
บันทึกการเข้า
Familie
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 369



« ตอบ #11 เมื่อ: 08-06-2008, 12:46 »

ไม่ว่าจะแก้กี่ชาติๆ...
ถ้าไม่มีมาตราใดรัฐธรรมนูญที่ควรจะมีไว้ป้องกันนักโกงเมืองเลวๆ... มันก็จะเลวทุกๆชาติไป

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ 
บันทึกการเข้า


บรรพบุรุษ ของไทย แต่โบราณ      ปกบ้าน ป้องเมือง คุ้มเหย้า
เสียเลือด เสียเนื้อ มิใช่เบา           หน้าที่เรา รักษา สืบไป
ลูกหลาน เหลนโหลน ภายหน้า      จะได้มี พสุธา อาศัย
อนาคต จะต้องมี ประเทศไทย       มิยอมให้ ผู้ใด มาทำลาย
KILL...ER
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 330



« ตอบ #12 เมื่อ: 08-06-2008, 23:44 »

ไทยพันธุ์แท้ ไม่เคยมองประชาธิปไตย เริ่ดหรูอย่างที่ว่ามาเลยแม้แต่น้อยนิด มันคือระบอบที่เลวทรามต่ำช้า น้อยที่สุด ดูดีที่สุด ตอแหลน้อยที่สุด กะล่อนน้อยที่สุด ก็เท่านั้น

ส่วนใครจะไปใส่สีตีไข่ขยายความว่ามันคือ ยูโธเปียก อะไรก็เชิญ ไม่เคยสนใจ

ปัญหาการเมืองในปัจจุบันนี้ ไม่มีอะไรมากไปกว่า ชนชั้นศักดินามหาอำมาตยาธิปไตย เข้ามา "เสือก" เรื่องการเมือง เพราะไปขัดแย้งด้านผลประโยชน์บางประการกับนักการเมือง ก็เลยหาทางกำจัดนักการเมืองผู้นั้นไปเสีย โดยใช้กรรมวิธีสกปรกมดเท็จต่างๆนานา

ถ้านักการเมืองระดับกระจอกที่ผ่านมาในอดีต แค่เป่าทิ้งก็เรียบร้อยแล้ว

แต่นี่เป็นนักการเมืองที่ Popular มากที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทยสมัยใหม่ ก็เลยต้องออกแรง ลงทุนกันมากหน่อย แน่นอน บ้านเมืองย่อมฉิบหายเกินกว่าครั้งใดๆ ชาวบ้านร้านถิ่นต้องได้รับผลกระทบไปด้วยอย่างช่วยไม่ได้

อย่าดัดจริตตอแหล หลอกตัวเองอยู่เลย
บันทึกการเข้า

จงภาคภูมิใจในความเป็นไพร่กระฎุมพี
ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: 08-06-2008, 23:51 »

นักการเมืองหรือนักวิชาการที่ไม่มีศีลธรรม

ก็เป็นได้แค่เหรี้ยตัวนึงละครับ

หมาตัวนึงยังดูมีคุณค่ามีประโยชน์กว่า

เป็นถึงนักวิชาการแต่ไม่รู้จักดีชั่วถูกผิดชอบชั่วดี

ก็อย่าสะเออะมาเผยอปากเลย ผมไม่ฟังหรอกครับ ถ้าเหตุผลไม่ตั้งอยู่บนความถูกต้อง
บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


KILL...ER
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 330



« ตอบ #14 เมื่อ: 09-06-2008, 07:42 »

ร่างๆแก้ๆ มันฉีกทิ้งแป๊บเดียวเอง บ้านนี้เมืองนี้มันอุบาทว์อัปลักษณ์

เห็นแล้วก็สมเพชนักวิชาการพวกนี้นะ ต้องนั่งหลังขดหลังแข็ง ร่างแถลงการณ์กันเป็นว่าเล่นเลยชั่วโมงนี้ ทำไงได้ ประเทศเรามันมหัศจรรย์จริงๆ

ปล. ถ้าจะไล่กรูไปอยู่ประเทศอื่น รบกวนขอวีซ่าตลอดชีพให้ด้วย และขอเป็นประเทศที่เจริญแล้วทางประชาธิปไตยด้วยนะ
ถ้าจัดให้กรูไม่ได้ตามนี้ อย่าเสือกมาพิมพ์เกรียนๆ ในทำนองว่า "ไม่พอใจ มรึงก็ไปอยู่ประเทศอื่นสิว้ะ"
บันทึกการเข้า

จงภาคภูมิใจในความเป็นไพร่กระฎุมพี
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #15 เมื่อ: 09-06-2008, 11:16 »

แก้ก็แก้กันไป ไม่เห็นว่ามันจะไปเดือดร้อนใคร
ไม่เห็นว่ามันจะทำให้การทำมาหากินฝืดเคืองแต่ประการใด
ไม่ทำให้ใครตกงาน
ไม่ทำให้ต่างชาติถอนการลงทุน
ไม่ทำให้เงินเฟ้อ เงินฝืด
ไม่ทำให้ค่าแรงตก หรือน้ำมันขึ้นราคา
ไม่ทำให้ตลาดหุ้นตก หรือขึ้นกระฉูด
ไม่ทำให้ราคาข้าวดิ่งนรก
ไม่ได้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ใดๆทั้งสิ้น

แล้วทำไมถึงไม่ควรแก้...
ตรงนี้เป็นสิ่งที่พวกมันไม่สามารถให้คำตอบได้

ถ้าพวกศักดินามหาอำมาตยาธิปไตยบรรลัยโคตร มันไม่อยากให้แก้ มันคงออกบทเฉพาะกาลออกมาแล้วว่า ห้ามแก้เป็นระยะเวลา 7 ชั่วโคตร แต่นี่ไม่มีระบุอะไรเอาไว้ แสดงว่าแก้ได้ทุกเวลา แล้วแต่ความพอใจ

แล้วทำไมถึงควรแก้ ไหน ลองบอกเหตุผล ดี ซัก 3 ข้อ มาถกกันหน่อยดิครับ....

ส่วนไอ้ 309 มันไม่ได้คุ้มหัว ใครได้อีกแล้ว จะบอกให้ เผื่อบางคน อาจสติน้อย

ไม่รู้เรื่องกฏหมาย.....ไอ้ที่เค้าทำไปแล้ว มันก็ยังอยู่ภายใต้ ม.309 อยู่ดี...

เพราะ ทำในขณะ ที่ บทบัญญัติ ยังมีผลบังคับใช้อยู่.....

แต่ ไอ้คนที่จะยกเลิกเนี่ย ไม่รู้มันมีเหตุอะไร ที่จะไปยกเลิก....

หรือจะเป็นอย่างที่ เค้านินทากันทั้วบ้านทั่วเมืองน้า....

" เอาไว้ เป็นบันได้ ให้คนบางคน พ้นคุก "



 
บันทึกการเข้า
see - u
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,370


.......... I'm not Supergirl


« ตอบ #16 เมื่อ: 09-06-2008, 17:51 »


ปัญหาการเมืองในปัจจุบันนี้ ไม่มีอะไรมากไปกว่า ชนชั้นศักดินามหาอำมาตยาธิปไตย เข้ามา "เสือก" เรื่องการเมือง
เพราะไปขัดแย้งด้านผลประโยชน์บางประการกับนักการเมือง ก็เลยหาทางกำจัดนักการเมืองผู้นั้นไปเสีย โดยใช้กรรมวิธีสกปรกมดเท็จต่างๆนานา



*   เป็นเพราะวัน  ๆ  สุมหัวคุยกันแต่เรื่องพวกนี้  เลยหายใจเข้าออกแต่เรื่องนี้

     เพี้ยนพอ ๆ   กะ   ชอบแถ  เลย .... ได้ยินจนเลี่ยนแล้ว  เบื่อออออ

     แล้วนี่  สะกดจิต   ใครได้มั่งยัง  (  นอกจากแม่ยก  snowflake  )

     เอะ อะ ..... อะไรก็ด่าเจ้า  โทษข้างบน

     แล้วทำไมไม่มองมาข้างล่างมั่งหล่ะ ??  .......  ชอบกันไม่ใช่เหรอ  เรื่อง   ไพร่  เรื่อง  ศักดินา

     โทษแต่ว่ามีคนยื่นมือลงมายุ่ง  .....  แต่    ตาบอดตาใส   เรื่อง  นายทุน  ที่มันเกี๊ยเซี๊ยะกัน

     มันก็พอ ๆ กันนะแหละ  kill   
> ลืมตาข้างเดียวมองปัญหา   แต่หลับหูหลับตา  ด่าแบบ   ลำเอียง  <
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-06-2008, 17:54 โดย see - u » บันทึกการเข้า

    " I  will  unforgive  you  to  do  the  bad  thing  like  this. "   

                           

                        The  fox  changes  his  skin  but  not  his  habits.   *

                 Superman ( It's Not Easy )   >>  http://www.ijigg.com/songs/V2B7G4GPD
    
    
   "  กฏหมายต้องเดินหน้าเอาผิดต่อคนไม่ดี  ........  ไม่ใช่ปล่อยให้คนไม่ดีมากล่าวเอาโทษกฏหมาย  "

                                     
                                          
บักหัวเถิก
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 438



« ตอบ #17 เมื่อ: 10-06-2008, 11:42 »

แก้รัฐธรรมูญแล้ว เงินเฟ้อจะลดเป็น 3-5 % มั๊ย

แก้รัฐธรรมนูญแล้ว นำมันจะลดราคามั๊ย

แก้รัฐธรรมนูญแล้ว ข้าวเปลือกจะแพง ข้าวสารจะลดราคามั๊ย

แก้รัฐธรรมนูญแล้วค่ารถเมล์จะลดลงมั๊ย

แก้รัฐธรรมนูญแล้วชาวบ้านจะอยู่ดีกินดีมั๊ย

แก้รัฐธรรมนูญแล้ว นักการเมืองจะเลิกโกงมั๊ย

แก้รัฐธรรมนูญแล้วนักการเมืองขี้โกงจะติดคุกมั๊ย
 

ยืมลุง CanCaN มา
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
    กระโดดไป: