ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
06-07-2025, 21:51
378,182
กระทู้ ใน
21,926
หัวข้อ โดย
9,412
สมาชิก
สมาชิกล่าสุด:
MAN4U
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ปฏิทิน
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)
|
ทั่วไป
|
สภากาแฟ
|
ขบวนการที่เป็นภัยต่อราชบัลลังก์มีอยู่จริง (อ้างอิงจากคำพิพากษาคดีประวัติศาสตร์)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า:
[
1
]
ส่งหัวข้อนี้
พิมพ์
ขบวนการที่เป็นภัยต่อราชบัลลังก์มีอยู่จริง (อ้างอิงจากคำพิพากษาคดีประวัติศาสตร์) (อ่าน 3732 ครั้ง)
oho
ขาประจำขั้น 2
ออฟไลน์
กระทู้: 712
ขบวนการที่เป็นภัยต่อราชบัลลังก์มีอยู่จริง (อ้างอิงจากคำพิพากษาคดีประวัติศาสตร์)
«
เมื่อ:
04-06-2008, 08:57 »
ขบวนการที่เป็นภัยต่อราชบัลลังก์มีอยู่จริง (อ้างอิงจากคำพิพากษาคดีประวัติศาสตร์) (อภิปรายนอกสภา)
http://www.naewna.com/home.asp
บทความเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เรื่อง "
จุดยืนที่มั่นคงต่อราชบัลลังก์ของพรรคประชาธิปัตย์
" มีผู้สนใจจำนวนมากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมไปยังผู้เขียน
ข้อความที่เป็นตัวเอนทั้งหมด คือข้อเท็จจริงที่ปรากฏในคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ เกี่ยวกับเหตุการณ์อันทะนงองอาจที่เกิดขึ้นเมื่อ 62 ปีที่แล้ว คณะผู้พิพากษาประกอบด้วยองค์คณะ คือ พระดุลยกรณ์พิทารณ์ พระพิบูลย์ไอศวรรย์ พระดุลยนิติศาสตร์โกศล และ หลวงสุทธิภาสนฤพันธ์ ซึ่งล้วนเป็นผู้พิพากษาปูชนียบุคคลในวงการศาลที่ได้ล่วงลับไปแล้ว คำพิพากษาส่วนต่างๆเหล่านี้ปรากฏในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อย่างละเอียดพิสดารมากกว่า 200 หน้า และเนื่องจากเป็นคำพิพากษาศาลอุทธรณ์จึงไม่มีปรากฏอยู่ในคำพิพากษาศาลฎีกาที่อาจค้นหาได้ง่าย แต่สุดท้ายศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ให้ประหารชีวิตจำเลยที่ 2 และที่ 3 กับแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในส่วนที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 1 คือ ให้ประหารชีวิต นายเฉลียว ปทุมรส จำเลยที่ 1 เสียด้วย
คำวินิจฉัยในคำพิพากษาพิพากษา
จากคำเบิกความของพยานที่เป็นผู้ใหญ่ที่ใกล้ชิดกับเหตุการณ์ทั้งหมด แสดงให้เห็นว่า
ความคิดที่มุ่งร้ายต่อสถาบันอันเป็นที่เคารพสูงสุดของประชาชน ตลอดจนพฤติกรรมที่เป็นการ บังอาจจาบจ้วง
มีมาตั้งแต่หลังเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อปี 2475 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ถึงกับต้องหลบออกไปประทับอยู่ ณ ต่างประเทศ ต่อมาถึงกับต้องสละราชสมบัติ
บุคคลที่ได้พยายามปกป้องสถาบันด้วยชีวิตเยี่ยง "ไอ้หัวเถิก"
ก็มีมาตั้งแต่สมัยนั้นแล้ว คือนายฉันท์ หุ้มแพร ข้าราชการในพระราชสำนัก ซึ่งได้ถึงแก่กรรมไปก่อนคดีลอบปลงพระชนม์
นายควง อภัยวงศ์ เข้ารับตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีสืบต่อจาก จอมพล แปลก พิบูลสงคราม เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ใกล้ยุติ หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อจากนายควง อภัยวงศ์ ระหว่างวันที่ 17 กันยายน 2488 ถึงวันที่ 15 ตุลาคม 2488 หลังจากนั้นได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง
นายควง อภัยวงศ์ มาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2489 และพ้นจากตำแหน่งไปก่อนวันที่ 9 มิถุนายน 2489 อันเป็นวันเกิดเหตุการณ์
สูญเสียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประชาชนชาวไทยเนื่องจากการสวรรคตของล้นเกล้าล้นกระหม่อมรัชกาลที่ 8
นายควง อภัยวงศ์ และหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีดังกล่าวก่อนมีการก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2489
ก่อนตั้งพรรคประชาธิปัตย์
มีกลุ่มการเมืองที่เป็นฝ่ายรัฐบาลตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา 2 พรรคแล้ว
คือพรรคสหชีพ และพรรคแนวรัฐธรรมนูญ
คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยว่า
"...สำหรับพรรคสหชีพ และแนวร่วมรัฐธรรมนูญ นั้น ถึงจะมีชื่อต่างกัน แต่ตามพฤติกรรมที่แสดงออกพึงถือว่าเป็นพวกเดียวกัน
หากจะมีการอ้างอิงถึงอยู่บ้างว่าใครเป็นหัวหน้า
แต่ที่แท้ก็อยู่ในความสนับสนุนของนายปรีดี พนมยงค์ หรือพรรคทั้งสองนี้สนับสนุนนายปรีดี พนมยงค์ นั่นเอง
"
ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยต่อไปว่า "สำหรับพรรคประชาธิปัตย์นั้น นายควง อภัยวงศ์กล่าวว่าชั้นแรกที่ตั้งกันขึ้นนั้นมิได้เห็นด้วย แต่ต่อมาสมาชิกไปวิงวอนรบเร้าโดยอ้างว่า
พรรคสหชีพได้ตั้งขึ้นแล้ว จึงได้ยอมรับเป็นหัวหน้า และมีหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช เป็นรองหัวหน้า
"
นั่นคือนายควง อภัยวงศ์
เล็งเห็นแล้วว่า สถาบันอาจมีภัยจากพรรคการเมืองบางพรรค
จึงจำเป็นต้องตั้งพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นเพื่อปกป้องราชบัลลังก์ และได้ประกาศอุดมการณ์สำคัญของพรรคเป็นข้อแรกตั้งแต่ก่อตั้งว่า
"
จะเทิดทูนการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
"
ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยต่อไปว่า
"เหตุที่ได้พัวพันเข้ามาในคดีสวรรคต ตกอยู่ในระยะที่นายควง อภัยวงศ์ กราบถวายบังคมลาออกจากรัฐบาลแล้ว
นายปรีดี พนมยงค์ ถูกสมาชิกส่วนมากเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี .....
เมื่อสงครามเลิกนั้น นายปรีดี พนมยงค์ได้เรียกให้หม่อมเจ้าศุภสวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ คนหนึ่งในขบวนการเสรีไทยที่ปฏิบัติงานอยู่ในประเทศอังกฤษให้เข้ามากรุงเทพฯ
หม่อมเจ้าศุภสวัสดิ์ รับสั่งกับนายควง อภัยวงศ์ ว่า อยากให้เข้าร่วมรัฐบาลกับนายปรีดี พนมยงค์ ด้วย ....
ขอให้นายควง อภัยวงศ์ นึกถึงราชบัลลังก์บ้าง นึกถึงในหลวงบ้าง
นายควง อภัยวงศ์ ว่า การที่จะเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่เข้า จะเกี่ยวข้องแก่ราชบัลลังก์อย่างไร หม่อมเจ้า ศุภสวัสดิ์ไม่ยอมอธิบาย นายควงจึงไม่ยอมรับที่จะเข้าร่วมรัฐบาล
"
ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยจากคำพยานหลักฐานต่อไปว่า "อีกประการหนึ่ง ศาลอุทธรณ์ได้กล่าวมาแล้วว่า
นายควง อภัยวงศ์ มีความคิดทางการเมืองไม่ตรงกับนายปรีดี พนมยงค์
ถึงจะไม่ได้จากปากคำของนายควง อภัยวงศ์ เองว่าในข้อไหนบ้าง แต่นายควง อภัยวงศ์ก็ได้เคยระบายต่อ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล ตามที่ทรงเบิกความว่า
นายควง อภัยวงศ์ ยึดถือระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และทางเศรษฐกิจประชาชนต้องมีเสรีภาพ
ส่วนนายปรีดี พนมยงค์ มีความเห็นเป็นอีกอย่างหนึ่งไม่ระบุว่าไม่ตรงกันอย่างไร
แต่มีข้อสะดุดใจว่า ในระหว่างที่มีการสอบสวนของตำรวจต่อหน้าคณะกรรมการสอบสวนพฤติการณ์นั้น
พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล ได้
ถามนายปรีดี พนมยงค์ ว่า ทำไมไปคบกับคนที่นิยม ลัทธิมหาชนรัฐ คนเหล่านั้นอาจคิดฆ่าในหลวงก็ได้
ทั้งนี้โดยคนที่นิยมลัทธิมหาชนรัฐอยู่ทั้งในพวกแนวรัฐธรรมนูญและสหชีพ นายปรีดี พนมยงค์ ตอบว่า ต้องคบไว้ เพราะถ้าไม่คบไว้ก็จะตกไปอยู่ในมือของคนอื่น ตามที่พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคลเบิกความมานี้ เห็นได้ว่า นายปรีดี พนมยงค์ มิได้ปฏิเสธข้อความที่ว่า ในบรรดาสมาชิกของแนวรัฐธรรมนูญและสหชีพ มิได้มีคนใดมีความคิดเป็นปรปักษ์ต่อการมีพระมหากษัตริย์"
ในระยะเวลาอันยาวนานถึง 62 ปีที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ยังยืนหยัดตลอดมาด้วยอุดมการณ์ที่มั่นคงคือ ระบอบประชาธิปไตยต้องมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เศรษฐกิจไทยประชาชนต้องมีเสรีภาพ
คนอย่างมหาดเล็ก ฉันท์ หุ้มแพร ที่เคยคิดถวายชีวิตปกป้องล้นเกล้าล้นกระหม่อม ยังมีอยู่ปัจจุบันเช่นบุคคลที่ถูกนายกรัฐมนตรีเรียกว่า "ไอ้หัวเถิก"
พรรคการเมืองที่สืบทอดแนวคิดลัทธิมหาชนรัฐ จากพรรคแนวรัฐธรรมนูญและพรรคสหชีพ ก็ยังสืบทอดเชื้อร้ายมาตลอด 62 ปี ในชื่อพรรคการเมืองที่เปลี่ยนชื่อไปเรื่อยๆ
พฤติกรรมเยี่ยงคำพูดของอดีตรัฐมนตรีคนหนึ่งที่ได้แสดงออกทั้งในประเทศและนอกประเทศ มีมูลฐานที่เป็นขบวนการ
สิ่งที่บุคคลในสังคมบางกลุ่มบางเหล่ากำลังตีฆ้องร้องป่าวให้ช่วยกันกำจัดผู้บังอาจจาบจ้วง และช่วยกันปกป้องสถาบัน มีเค้ามูลที่ประชาชนมิควรเพิกเฉยเป็นอันขาด
มิฉะนั้นต่อไป "เสื้อแดง" จะลามระบาดแข่ง "เสื้อเหลือง"
พิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล
วันที่ 4/6/2008
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-06-2008, 09:34 โดย oho
»
บันทึกการเข้า
หน้า:
[
1
]
ส่งหัวข้อนี้
พิมพ์
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
ทั่วไป
-----------------------------
=> ตะกร้าข่าว
=> ห้องสาธารณะ
=> สภากาแฟ
=> ชายคาพักใจ
=> ร้อยรักษ์กวีวรรณ
=> สโมสรริมน้ำ
-----------------------------
ด้านเทคนิค
-----------------------------
=> ปัญหาการใช้งาน
=> ห้องทดสอบ
===> ทดสอบบอร์ดย่อย
Powered by SMF 1.1.20
|
SMF © 2005, Simple Machines
|
Thai language by ThaiSMF
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.175 วินาที กับ 21 คำสั่ง