ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
19-04-2024, 21:49
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  ห้องสาธารณะ  |  ศาสนา ช่วยอะไรได้บ้างฯ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ศาสนา ช่วยอะไรได้บ้างฯ  (อ่าน 1011 ครั้ง)
เทวฤทธิ์
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 04-06-2008, 08:27 »

ศาสนาช่วยอะไรได้บ้าง ในยุค เศรษฐกิจฝืดเคือง น้ำมันแพง เครื่องอุปโภค บริโภคราคาแพง โดยเฉพาะศาสนาพุทธ

ในที่นี้จะไม่กล่าวถึงคนในศาสนาอื่นๆ  เพราะทุกคนรู้เห็น และทราบกันดี ถึงความอยากชนะ ซึ่งกันและกัน ด้วยความโลภ ด้วยความแค้น อันไม่สามารถกล่าวถึงได้ เพราะมันจะเป็นการให้ร้ายศาสนาอื่นๆ

ดังนั้น จึงจะกล่าวถึงเฉพาะ ศาสนาพุทธ และบุคคลที่นับถือศาสนาพุทธ ทั้งหลาย ว่า หลักธรรมทางศาสนาพุทธ ช่วยอะไรประชาชนคนทั้งหลาย ได้บ้าง

ถ้าทุกคนที่เป็นคนไทย รุ้จักใช้ธรรมะทางศาสนา มาเป็นเครื่องเป็นปัจจัย เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต เป็นแนวทางในการปฏิสัมพันธ์ สังคมเป็นอยู่ร่วมกัน ประชาชนคนไทยทั้งหลายล้วนต้องอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขไม่เดือดร้อน

แล้วเพราะอะไรหรือ บ้านเมืองถึงระส่ำระสาย ไปทุกหย่อมหญ้า สาเหตุก็เพราะหลักธรรมศาสนา ไม่สามารถจรรโลงใจ ไม่สามารถทำให้เขาเหล่านั้นเห็นดีเห็นงามไปกลับหลักธรรมทางศาสนาทำให้จิตใจมีแต่ความเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้  ไม่ได้มีความสามัคคีปรองดอง กัน ตั้งแต่ระดับ การเมืองการปกครอง จนถึงระดับรากหญ้า

ถ้าเป็นสมัยโบราณ ข้าศึก หรือฝ่ายตรงกันข้าม ย่อมถือเป็นนิมิตหมายที่จะบุกเข้าโจมตีทำลายบ้านเมืองได้โดยง่ายดาย
คณะรัฐบาล ก็มัวหวง และห่วง เก้าอี้ตัวเอง เพราะรัฐธรรมนูญ ที่ไม่ค่อยมีความยุติธรรมเท่าที่ควรกับพวกเขาเหล่านักการเมืองทั้งหลาย    จนพวกเขาแทบไม่ได้สนใจหรือใส่ใจ หรือ สนใจน้อยมาก โดยถือสาเหตุว่า มาจากปัจจัยภายนอก อันได้แก่น้ำมัน ซึ่งในทางที่เป็นจริงแล้ว น้ำมันนั้น เป็นเพียงปัจจัย เล็กๆ ที่ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น ในการผลิตสินค้า และประกอบการต่างๆ  
หลักธรรมทางศาสนา ที่สามารถช่วยทำให้บุคคลรู้จักใช้สมองสติปัญญาช่วยเหลือ หรือแบ่งเบา สภาพจิตใจ สภาพความเป็นอยู่อันขัดสนในยุคนี้ มีอยู่หลายข้อหลายอย่าง   อันสามารถทำให้บุคคลทุกระดับทุกชนชั้น มีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น เข้าใจ และรู้จักเอาใจใส่ต่อตนเอง และคนรอบข้างได้เป็นอย่างดียิ่งในยุคสมัยนี้ ก็คือ
ทุกคน ควรได้มองดูตัวเองว่า ตัวเองนั้น

ครองเรือน อันได้แก่ บทบาท และหน้าที่ ของแต่ละบุคคลคือ อะไร สามารถที่จะให้ทาน คือช่วยเหลือ หรือสร้างนโยบาย  หรือจำกัด ราคาสินค้า หรือ ตรึงราคาสินค้า ลดราคาสินค้า  หรือ เอากำไรพอควร ในกิจการต่างๆ

การที่บุคคลรู้และระลึกนึกถึงได้อยู่เสมอถึง บทบาท และมีความคิดในหน้าที่ ในกิจการเกี่ยวกับหน้าที่ ซึ่งล้วนย่อมเกิดจาก การครองเรือน หรือรู้จักใช้บทบาท และหน้าที่นั้น สร้างสรรค์ นโยบาย จำกัด ราคา หรือ ตรึงราคาสินค้า ลดราคาสินค้า  หรือเอากำไรพอควร ในกิจการต่างๆ ซึ่งก็ล้วนขี้นอยู่กับ อาชีพต่างๆ(สรรพอาชีพ) ที่บุคคล ดำเนินการ หรือประกอบกิจการนั้นๆอยู่  อีกทั้ง บุคคลผู้ระลึก นึกถึง และคิดพิจารณา สภาพการครองเรือนของตน รวมไปถึงหน้าที่ของตน ล้วนย่อม ประพฤติ ปฏิบัติ ไปตาม จรรยาแห่งอาชีพต่างๆ เหล่านั้น เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง และหมู่คณะ อันหมายถึงครอบครัว ห้างร้าน บริษัท จนไปถึง ระดับประเทศชาติบ้านเมือง   การประพฤติ ปฏิบัติ ไปตามจรรยา ของอาชีพต่างๆเหล่านั้น   ล้วนย่อมเกิดจากการรู้คุณ เกิดจากการเจรจา หรือติดต่อสื่อสาร อันหมายถึง ความรู้ประสบการณ์ ที่ได้รับการขัดเกลา ได้ร่ำเรียน ศึกษา  ย่อมแสดงให้เห็น ย่อมแสดงให้รู้ถึงสภาพสภาวะจิตใจอันมี สติสัมปชัญญะ มีธรรมะ คือ ความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา  อันได้ชื่อว่า เป็นธรรมแห่งพรหม  ซึ่งแสดงถึงความเป็นพุทธศาสนิกชน ที่มีธรรมแห่งศาสนาอยู่ในจิตใจและความคิด

เมื่อบุคคล รู้ และระลึกได้ถึงการครองเรือน หรือรู้และระลึกได้ ถึงบทบาท หน้าที่ของตนเอง  รู้จักคิดพิจารณา สร้างสรรค์ ไปตามจรรยาแห่งสรรพอาชีพ ที่ประพฤติปฏิบัติอยู่  ทำให้เกิดรู้คุณ รู้เจรจา หรือการติดต่อสื่อสาร  หรือ ได้รับการขัดเกลา ได้รับจากประสบการณ์ ได้รับจากการศึกษา และเรียนรู้ จากการเจรจา รู้คุณ จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ  อีกทั้งยังหมายรวมไปถึงผู้อื่น  นั่นก็ย่อมหมายถึง ความสามารถ ในการที่จะบริหารงานใดใด กิจการใดใด ให้สำเร็จลุล่วง โดยมิได้ก่อความเดือดร้อนใดใดให้กับผู้อื่น
ความเดือดร้อน ของประชาชน นั้น ย่อมเกิดจากความเป็นห่วง วิตก วิจาร  เกรง จะไม่มีเงินพอใช้จ่าย ค่าขนมลูก ค่าเล่าเรียนลูก ค่าอาหารกลางวัน ค่ารถในแต่ละวัน  และค่าเครื่องใช้อุปโภคบริโภค ในแต่ละวัน ในแต่ละเดือน ที่กล่าวไปนี้ จะเป็นความเป็นห่วง วิตก วิจาร ของประชาชนคนทั่วไปเป็นส่วนใหญ่ หรือจะกล่าวว่าทุกครัวเรือนเลยก็ว่าได้    
ความห่วงกังวล วิตก วิจาร ของเขาเหล่านั้น ล้วนเป็นความคิด เป็นการระลึกนึกถึง อันเกิดจาก การครองเรือน และ จิตใจที่ต้องการให้ทาน ต่อบุคคลในครอบครัว   และเช่นเดียวกัน  ถ้าเป็นบุคคลในคณะรัฐบาล  หากมีความคิด มีการระลึกนึกถึง ตามการครองเรือน เพื่อที่จะให้ทาน นั้นก็หมายถึง การแบ่งปันทรัพยากรให้กับประชาชนอย่างเท่าเทียมกัน  อีกทั้งยังหมายรวมถึง พฤติกรรม หรือการปฏิบัติตน รู้คุณ รู้เจรจา มิให้เกิดความแตกแยก ให้เกิดมีสามัคคีต่อประชาชนในประเทศ โดยมิให้ประชาชนเกิดความเดือนร้อนระส่ำระสาย  ก็ย่อมแสดงให้เห็น แสดงให้รู้ถึงความเป็นผู้มีจรรยาแห่งอาชีพ  เป็นผู้มีศีลธรรม ตามหลักพุทธศาสนา เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประชาชน   ในอันที่แก้ไขปัญหาต่างๆให้ลุล่วงไปด้วยดี
สำหรับประชาชน คนทั้งหลายนั้น ต่างก็ล้วนมีสภาพสภาวะจิตใจ ดังที่ข้าพเจ้ากล่าวไปอยู่ทุกถ้วนหน้า  แต่ก็ยังมีบุคคลบางกลุ่มบางพวก  ที่ไม่สนใจในศาสนาเท่าที่ควร  โดยไม่ได้ระลึกนึกถึง และไม่ได้คิดว่า หลักธรรมทางศาสนาพุทธนั้น สามารถที่จะช่วยทำให้ประเทศชาติ หลุดรอด จากปัญหาต่างๆไปได้อย่างแน่นอน  

บันทึกการเข้า
Familie
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 369



« ตอบ #1 เมื่อ: 04-06-2008, 13:45 »

ศาสนาช่วยทำให้คนเรามีสติ......
บันทึกการเข้า


บรรพบุรุษ ของไทย แต่โบราณ      ปกบ้าน ป้องเมือง คุ้มเหย้า
เสียเลือด เสียเนื้อ มิใช่เบา           หน้าที่เรา รักษา สืบไป
ลูกหลาน เหลนโหลน ภายหน้า      จะได้มี พสุธา อาศัย
อนาคต จะต้องมี ประเทศไทย       มิยอมให้ ผู้ใด มาทำลาย
หน้า: [1]
    กระโดดไป: