ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
27-09-2024, 22:52
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  คำปราศรัย..นางมารเพ็ญ ณ.ลอสแองเจลิส 10 พ.ย. 2550 พูดเรื่องชาติ-ศาสนา-สถาบันฯ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
คำปราศรัย..นางมารเพ็ญ ณ.ลอสแองเจลิส 10 พ.ย. 2550 พูดเรื่องชาติ-ศาสนา-สถาบันฯ  (อ่าน 1695 ครั้ง)
oho
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 712


« เมื่อ: 30-05-2008, 14:19 »

http://www.naewna.com/home.asp


http://files.thaiday.com/download/Jakaphop_LA.zip


คลิ๊ป VDO http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9510000062060
คำปราศรัยของนายจักรภพ เพ็ญแข ที่ลอสแองเจลิส เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2550 ซึ่งได้กล่าวว่าจาที่ไม่เหมาะสม 3 ช่วงด้วยกัน คือ
       
       1.กล่าวหาหลวงตามหาบัว อยากเป็นพระสังฆราช
       
       “หลวงตาก็เจริญธรรมมาและก็มีญาติโยมไปขึ้นกันมาก ต่อมาญาติโยมนั้นก็เลยกลายเป็นเน็ตเวิร์กที่ต่อมาคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ใช้อย่างสบายใจ เช่น ท่านผู้หญิงสุทธาวัลย์ เสถียรไทย แม้กระทั่งพระบรมราชวงศ์ชั้นสูง ก็มีความเคารพในหลวงตามหาบัว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ ก็เสด็จฯ โดยเฉพาะเวลาหลวงตามากรุงเทพฯ ก็เสด็จไป
       
       โดยเฉพาะจำได้ไหมที่หลวงตาหาทองมาเพื่อชำระหนี้ประเทศตอนนั้น เป็นพีกของหลวงตา เป็นระยะที่หลวงตามีชื่อเสียงที่สุด ว่าเป็นพระพิเศษไม่เหมือนพระทั่วไป สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารีก็เสด็จที่วัดหลวงป่าบ้านตาด
       
       เอาล่ะ ทั้งหมดนั้นทำให้หลวงตาเองก็อยู่ในสถานะพระพิเศษ ปรากฏว่า ผู้ช่วยของหลวงตาที่มีชื่อว่า ทองก้อน ซึ่งบัดนี้แตกกันไปแล้ว ทองก้อนนี่เป็นคนที่ให้ความคิดกับหลวงตาว่า หลวงตามีอาวุโสในทางพระ ที่เรียกว่า พรรษาสูงกว่าทุกองค์ที่อยู่ในพระราชาคณะ
       
       ผมไม่ทราบว่าพูดอย่างไรล่ะ แต่ดูเหมือนกับว่าต่อมาความต้องการจะเป็นสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ คือ สมเด็จพระสังฆราชก็เกิดขึ้น แทนที่จะไปตามอริยศักดิ์ทั่วไป ก็คิดจะขึ้นทางด่วน
       
       เรื่องที่จะลัดขึ้นเคยมีคนใช้คำนี้ไว้แล้ว แต่ใช้ในทางที่ดี คือ พระพยอม กัลยาโณ วัดสวนแก้ว ซึ่งเป็นพระพิศาลธรรมวาที รู้สึกตอนนี้จะเลื่อนสมณศักดิ์แล้ว คนที่จำได้ท่าน เล่าให้ผมฟัง พระพยอมนี่เป็นพระครูธรรมดา แต่พระเจ้าอยู่หัวนี่โปรดเกล้าฯ ให้เป็นท่านเจ้าคุณ คือ เป็นพระพิศาลธรรมวาที เรียกว่าท่านเจ้าคุณที่พิศาลธรรมวาที ก็เรียกว่าเจ้าคุณพยอมนั่นเอง
       
       เคยเล่าให้ผมฟังว่า ในหลวงตั้งอย่างนี้ปรู๊ดปร๊าดรวดเร็ว วันที่เจ้าคุณพยอมไปรับพระราชทานพัดยศ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็เสด็จมาเป็นระยะๆ เรียกว่า มีพระราชปฏิสันถารกับพระแต่ละองค์ พอมาถึงพระพยอมท่านเป็นพระนักพูด มีปฏิภาณในการพูด ท่านก็ถวายพระพร บอกว่า พระมหาบพิตรแต่งตั้งพระองค์อย่างนี้มีคนเขาว่าเหมือนขึ้นลิฟต์ ก็กราบทูลอย่างนั้น พระเจ้าอยู่หัวก็รับสั่งสวนทันทีว่า ให้ขึ้นลิฟต์ไปทำงาน จะกลัวอะไร (คำพูดนางมารเพ็ญกล่าว)
       
       เพราะฉะนั้น คำว่าขึ้นลิฟต์มันก็มีในสารบบขึ้นมา ก็คือ การข้ามทางไปสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น ผมไม่รู้ว่าหลวงตาท่านคิดเรื่องนี้หรือเปล่า แต่ผมเชื่อว่าทองก้อนคิด พี่น้องทราบไหมครับว่า วัดในเมืองไทย ซึ่งมีอยู่จำนวนมาก หลายหมื่นวัด ถ้านำเอาที่ หรือที่เรียกว่าธรณีสงฆ์ และโบราณวัตถุต่างๆ ศาสนสถานวัตถุต่างๆ มารวมกันทั่วประเทศ กิจการคณะสงฆ์จะมีทรัพย์สินรวมกันทั่วประเทศประมาณ 4 แสนล้าน พี่น้องทราบเรื่องนี้ไหมครับ แล้วพี่น้องนึกภาพต่อไปไหมครับว่า ทำไมคนอยากเป็นใหญ่ในวงการนี้”

       


http://files.thaiday.com/download/Jakaphop_LA.zip
       2.กล่าวหาคนใกล้ชิดราชวงศ์เป็นคนตอแหล
       
       “มันเริ่มมีสัญญาณที่แปลก คุณสนธิเริ่มตั้งขบวนการนี้ที่เรียกว่า เรารักในหลวงจำได้ไหมครับ ใส่เสื้อเหลืองเป็นยุคแรกๆ คือ เสื้อเหลืองนี่ เป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นจากรัฐบาลทักษิณโปรโมตขึ้น และทำให้คนแสดงความจงรักภักดีอย่างกว้างขวางที่สุดในประวัติศาสตร์ อันนี้ฝีมือรัฐบาลทักษิณที่คนเขาว่าไม่จงรักภักดีนั่นแหละ
       
       เดี๋ยวๆ เรื่องพระเจ้าอยู่หัวกับนายกฯ ทักษิณจะพูดอีกทีหนึ่ง อยากจะทบทวนความจำเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น ผมอยู่ในที่เกิดเหตุตั้งหลายเรื่อง ก็เลยเล่าได้ เอาเรื่องนี้ก่อน คุณสนธิสร้างพลังเสื้อเหลืองขึ้นมา พูดง่ายๆ คือ ยุให้วังกับรัฐบาลตีกัน เพราะเห็นแล้วว่าไม่มีทางอื่นจะโค่นทักษิณได้ ยกเว้นจะว่าให้ตีกับในวัง หรือให้ในวังไม่ชอบ เพราะในวังนี่มีคนหลายประเภท พระบรมวงศานุวงศ์ระดับสูงเรายกไว้ แต่บุคคลที่เชื่อมระหว่างพระบรมวงศานุวงศ์ทั่วไปกับบุคคลข้างล่าง เป็นคนหลายหลากความคิดและจิตใจ หลายหลากผลประโยชน์ และที่สำคัญก็คือว่ามีลักษณะเหมือนคอร์ตทั่วๆ ไป
       
       ท่านเคยดูหนังจีนไหมครับ คนที่เป็นขุนนางในหนังจีนเขาจะมีความสามารถอะไรก็แล้วแต่ แต่สิ่งที่เป็นทักษะคือ ต้องมีความสามารถในการตอแหล คำว่า ตอแหลไม่ได้เป็นคำด่า แต่เป็นคำไทยแท้ที่แปลว่า ความจริงส่วนหนึ่ง ความเท็จส่วนหนึ่ง แล้วก็บิดเบือน มีความสามารถในการจับจริงมานิดหนึ่งให้คนพอเชื่อ แล้วผสมกับความเท็จลงไป”
       


       3.อ้างว่าการปฏิวัติ 19 ก.ย.มีคนที่สูงกว่า พล.อ.เปรมเกี่ยวข้อง
       
       “คุณสุรเกียรติ์ เสถียรไทย ผมทำงานด้วย ไม่อยากจะวิจารณ์ผู้บังคับบัญชาเลย แต่นี่มันบ้านเมืองใหญ่กว่า ความรู้สึกส่วนตัว คุณสุรเกียรติ์อยู่ได้จนถึงนาทีสุดท้าย เพราะอะไร อยู่เพื่อจะกระซิบคุณทักษิณที่นิวยอร์กว่าอย่าไปสู้เลย รัฐประหารครั้งนี้เนี่ยสูงมาก
       
       ซึ่งเป็นผลให้คุณทักษิณตัดสินใจไม่ตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น เพราะอยากเห็นความสมานฉันท์ในบ้านเมือง ผมนะเสียใจมาก ถ้ารู้ว่ารับมืออยู่กับโจรเนี่ย เชียร์ให้ตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นไปซะนานแล้ว ทางนี้จะได้กลายเป็นเถื่อนไปให้หมด
       
       ทางนี้หมายถึงที่กรุงเทพฯ นะ ไม่ว่าจะฤาษีเลี้ยงเต่าหรือเต่าควายอะไรทั้งหลายนั่นหนะ เถื่อนทั้งนั้น ...เถื่อนทั้งนั้น
       
       เพราะฉะนั้นเนี่ย มันมีเหตุผลที่จะต้องตัดสินใจยามคับขัน ผมเห็นใจท่านนายกฯ ตอนนั้นผมอยู่ที่กรุงเทพฯ นะครับ ท่านนายกฯ อยู่นิวยอร์ก ผมไม่ได้ไปด้วย เพราะว่าเราเริ่มได้กลิ่นอะไรไม่ค่อยดีกัน
       
       อ่ะ ตรงนี้ในเมื่อเข้าซอยตรงนี้ ก็เล่าตรงนี้ว่าทำไมไม่สู้ กำลังก็มี เตรียมไว้แล้วด้วย
       
       ก็ตอบสั้นๆ เท่านั้นล่ะครับ แล้วขอตอบประโยคเดียว ใครถามก็จะร้องเพลงให้ฟังแทน ไม่ตอบเพิ่มว่า ..เหตุที่ไม่สู้ ก็เพราะว่า เราเตรียม กำลังไว้ สู้กับคุณเปรมเท่านั้น ถ้าเป็นเฉพาะคุณเปรมนั่นเหรอก็จบเกมไปนานแล้ว
       
       เพราะว่าดูหนังจีนเรื่องเดียวกันรู้ว่าจะจัดการกับนางพญาผมขาวอย่างไร”

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-05-2008, 14:22 โดย oho » บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: