ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
29-03-2024, 20:23
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ตัดแปะ: "ทักษิณเนี่ยนะ! ที่จะทำลายระบบอุปถัมภ์'' โดย ... นิธิ เอียวศรีวงศ์ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ตัดแปะ: "ทักษิณเนี่ยนะ! ที่จะทำลายระบบอุปถัมภ์'' โดย ... นิธิ เอียวศรีวงศ์  (อ่าน 1868 ครั้ง)
ABCAB
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 311


Wipe out Thaksin


« เมื่อ: 30-05-2008, 14:17 »

"หลายคนที่ได้อ่านปาฐกถาคงอุทานว่า "ทักษิณเนี่ยนะ! ที่จะทำลายระบบอุปถัมภ์ (ทางการเมือง)" อย่างที่ผู้สื่อข่าวจะถามในภายหลัง แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผิด คุณจักรภพไม่ได้หูหนวกตาบอดเสียสนิทกับคุณทักษิณ คุณจักรภพพูดว่า คุณทักษิณขจัดอำนาจอุปถัมภ์ออกไป..."


 
ผมเห็นว่าปาฐกถาของคุณจักรภพ เพ็ญแขที่ชมรมผู้สื่อข่าวต่างประเทศนั้นน่าสนใจ แต่ไม่ใช่เรื่องว่าเป็นการ"จาบจ้วงเบื้องสูง"หรือไม่ อันนั้นผมไม่ทราบ แต่โดยปราศจากความรู้ทางกฎหมาย ผมมองไม่เห็นว่าจะเป็นความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือ 113 ตรงไหน (หรือถ้าเป็นมันจะยิ่งยุ่งกว่าไม่เป็น)

ยิ่งกว่านั้น เมื่อบัดนี้คุณจักรภพเองก็ได้พยายามยืนยันและพิสูจน์ความจงรักภักดีของตนที่มีต่อพระมหากษัตริย์ ตลอดจนเข้าไปกราบกรานพลเอกชวลิต ยงใจยุทธให้ช่วย"เคลียร์"เรื่องนี้แก่สาธารณชนแล้ว ผมก็ยิ่งไม่เห็นเหตุผลที่ผมจะไปวิเคราะห์ข้อความซึ่งเป็นปัญหาเหล่านั้น คุณจักรภพที่เป็นรัฐมนตรีในวันนี้ กับคุณจักรภพในปาฐกถา ดูเหมือนเป็นคนละคนกันในสายตาของผม

แต่ความน่าสนใจของปาฐกถาในทรรศนะของผมอยู่ตรงที่ บทบาทของคุณทักษิณ ชินวัตรในการปฏิรูปการเมืองไทย ตามความเห็นของคนที่จัดว่าเป็น "พวกทักษิณ" อย่างคุณจักรภพ ผมแน่ใจว่า "พวกทักษิณ" นั้นประกอบด้วยคนหลายประเภท มีความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกันแทบจะสุดขั้ว ยังไม่พูดถึงความศรัทธาที่มีต่อคุณทักษิณก็เป็นคนละชนิดกันอย่างที่จะจัดให้อยู่ในประเภทเดียวกันไม่ได้

อย่างไรก็ตาม "พวกทักษิณ" แบบคุณจักรภพ ก็มีอยู่จริง และคงไม่ได้มีคุณจักรภพเพียงคนเดียว ส่วนจะมากน้อยเท่าไรนั้นผมไม่ทราบแน่ แต่ให้รู้สึกว่าไม่น้อยเหมือนกัน

"ระบบอุปถัมภ์และประชาธิปไตยในการเมืองไทย" เป็นหัวข้อที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศตั้งให้แก่องค์ปาฐก ส่วนในความเป็นจริงคุณจักรภพเป็นผู้ส่งให้แก่ผู้เชิญหรืออย่างไร ผมไม่ทราบ ฉะนั้นประเด็นก็คือคุณจักรภพจะต้องพูดถึงสองอย่างนี้

ทรรศนะของคนเราต่อสองอย่างนี้ในการเมืองไทย อาจเป็นได้หลายอย่าง เช่น ทั้งสองอย่างนี้แม้ขัดแย้งกันแต่เกื้อกูลกันในทางการเมือง,สองอย่างนี้ไม่ขัดแย้งกันเลย (เพราะเหตุผลต่างๆ),ความขัดแย้งของสองอย่างนี้ ไม่ปะทะกันโดยตรงแต่ "ตีกิน" กันและกันอยู่ตลอด ฯลฯ

คุณจักรภพเลือกที่จะมองสองอย่างนี้ว่าเป็นขั้วตรงข้ามที่ไม่มีทางลงรอยกัน และแข่งขันที่จะกดทับกันและกัน ฉะนั้นถ้าได้อย่างก็ต้องเสียอย่างเสมอไป เป็นเรื่องของการต่อสู้ (ส่วนจะเลอะเทอะขนาดล้มปืน,ล้มทุน,ล้มเจ้าหรือไม่นั้นเป็นคนละเรื่อง) ที่เราต้องเลือกข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

และด้วยเหตุดังนั้น ที่เรียกว่าระบบอุปถัมภ์จึงถูกคุณจักรภพนิยามให้เป็นขั้วตรงข้ามกับประชาธิปไตย นั่นก็คือการรอคอยแต่การพึ่งพิงผู้อื่นที่มียศศักดิ์อำนาจและทรัพย์ที่อยู่เหนือตน เพราะคิดว่าตัวไม่มีสิทธิโดยพื้นฐานที่เท่าเทียมกัน เหตุดังนั้นระบบอุปถัมภ์จึงไม่ยอมรับความเสมอภาค ตรงกันข้ามประชาธิปไตยจึงหมายถึงความสำนึกในสิทธิอันเสมอภาคกัน และพร้อมจะกำหนดชีวิตตนเองโดยไม่หวังพึ่งคนอื่น

ในทรรศนะของคุณจักรภพ ระบบอุปถัมภ์ในการเมืองไทยจึงเริ่มจากการมีพระเจ้าแผ่นดินผู้ทรงให้ความอุปถัมภ์แก่ประชาชนในสมัยสุโขทัย แม้ในสมัยอยุธยาความคิดเรื่องเทวราชาซึ่งเพิ่งรับมาจากกัมพูชาจะได้รับความสำคัญ แต่ก็กลมกลืนไปกับระบบอุปถัมภ์ของสุโขทัย ส่วนในสมัยราชวงศ์จักรีนั้น ก็รับเอาทั้งสองอย่างมาจากอยุธยา แล้วเพิ่มเข้าไปอีกอย่างหนึ่งคือ "การจัดการความรู้" (ถ้าผมอ่านคุณจักรภพได้ถูก คงหมายถึงการเป็นผู้นำหรือผู้ผูกขาดความรู้ใหม่ๆ จากตะวันตก)

ฉะนั้นระบบอุปถัมภ์ในการเมืองไทยจึงประกอบด้วยสามส่วนนี้คือระบบอุปถัมภ์,เทวราชา และการจัดการความรู้ ระบบอุปถัมภ์ดังกล่าวดำรงอยู่สืบมาในเมืองไทยจนถึงปัจจุบัน การปฏิวัติ 2475 ไม่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง เพราะในทรรศนะของคุณจักรภพ เพราะการปฏิวัติประสบความล้มเหลว (แสดงให้ปรากฏได้ด้วยชะตากรรมของท่านปรีดี พนมยงค์)

เราจะพ้นออกไปจากระบบอุปถัมภ์ทางการเมืองได้อย่างไร คุณจักรภพฝากความหวังไว้กับสองอย่าง หนึ่งคือการตื่นตัวของประชาชนเอง ซึ่งคุณจักรภพมองเห็นความตื่นตัวนั้นจากเสียงกว่า 40% ที่ลงมติไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ และสองคุณจักรภพคิดว่าต้องมีผู้นำที่เข้ามาจัดระเบียบ (ทางการเมือง) ใหม่ และคนคนนั้นคือคุณทักษิณ

หลายคนที่ได้อ่านปาฐกถาคงอุทานว่า "ทักษิณเนี่ยนะ! ที่จะทำลายระบบอุปถัมภ์ (ทางการเมือง)" อย่างที่ผู้สื่อข่าวจะถามในภายหลัง แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผิด คุณจักรภพไม่ได้หูหนวกตาบอดเสียสนิทกับคุณทักษิณ คุณจักรภพพูดว่า คุณทักษิณขจัดอำนาจอุปถัมภ์ออกไป เปลี่ยนเป็นนโยบายสาธารณะที่คนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์ รากหญ้ารู้สึกในสิทธิของตนเอง แต่ทั้งหมดนี้คุณทักษิณกระทำไป ตามสำนวนของคุณจักรภพ-"อย่างคนเดินละเมอ"เท่านั้น

เพราะอะไร? ก็เพราะคุณทักษิณนั้นต้องการให้คนรักคนชอบ และอยากเป็นเศรษฐีที่มีประโยชน์ (ต่อบ้านเมือง) เท่านั้น คนรุ่นคุณทักษิณนั้นย่อมเป็นประชาธิปไตยได้ยาก เพราะเติบโตมาในระบบอุปถัมภ์ ตัวคุณทักษิณนั้นไม่ "ปฏิวัติ" (revolutionary) เพียงพอหรอก คุณทักษิณต่อสู้กับตัวเองตลอดระหว่างการเป็นนักธุรกิจเสรีนิยมและนายตำรวจ (แหะๆ คงหมายความว่าอำนาจนิยมกระมัง) ฉะนั้น ตอนที่คุณทักษิณจะต้องตัดสินใจว่า จะตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นหลังรัฐประหารหรือไม่ เพียงได้รับโทรศัพท์จากใครบางคนในกรุงเทพฯ คุณทักษิณก็ตัดสินใจไม่ตั้ง แสดงว่าคนที่การกระทำของเขาขจัดอำนาจของระบบอุปถัมภ์ออกไป ถึงตอนที่ต้องตัดสินใจในช่วงวิกฤตที่สุด เขากลับตัดสินใจไปบน(ฐานคิด)ของระบบอุปถัมภ์

คุณทักษิณจึงดำเนินนโยบายซึ่งทำให้อำนาจอุปถัมภ์ในสังคมอ่อนลง "อย่างคนเดินละเมอ" คือไม่รู้ว่าผลกระทบ (ทางการเมือง) ของมันคืออะไร ยิ่งเมื่อคุณทักษิณสามารถกุมเสียงในสภาหลังการเลือกตั้งทั่วไปได้ถึง 777 เสียง คุณทักษิณก็กลายเป็นนายกฯ ที่ไม่ต้องพึ่งพิงใคร ซึ่งนับ "เป็นบาปในระบบอุปถัมภ์" คุณทักษิณก็ยังไม่เข้าใจอันตรายดังกล่าวในขณะนั้น

แม้สำนึกถึงข้อจำกัดของคุณทักษิณดังกล่าว คุณจักรภพก็คิดว่า คุณทักษิณ"ดีพอ"สำหรับคุณจักรภพ เพราะเราต้องการคนที่อาจนำเราไปสู่แสงสว่างที่ปลายถ้ำได้

ตกลงความศรัทธาของคุณจักรภพต่อคุณทักษิณ จึงเป็นความศรัทธาต่อเครื่องมือ แม้เป็นเครื่องมือที่ไม่ดีนัก แต่ก็เป็นเครื่องมืออันเดียวที่มีอยู่ อาจใช้เพื่อบรรลุความใฝ่ฝันของตนเองได้

ผมย้อนกลับไปนึกถึงเมื่อตอนที่คุณทักษิณกำลังก่อตั้งพรรค ทรท. ผมได้พบกับที่ปรึกษาใกล้ชิดคุณทักษิณคนหนึ่ง หลังจากที่เขาบรรยายความคิดของเขาในการนำประเทศไทยออกจากวิกฤตเศรษฐกิจที่ไทยต้องเผชิญในขณะนั้นแล้ว ผมได้โอกาสที่ลูกน้องคุณทักษิณเดินออกไปทางอื่นหมด เหลือแต่เขาและผมตามลำพัง และเพราะเราเป็นเพื่อนกันมานาน ผมจึงถามเขาว่า "คุณคิดว่าไอ้หมอนี่น่ะรึ ที่จะทำสิ่งที่คุณพูดมาทั้งหมดนั้นได้" เขาอึ้ง และจ้องตาผมอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะพยักหน้าอย่างเชื่อมั่นและตอบว่า"ได้"

แต่ทั้งหมดที่เขาพูดกับผมนั้นเป็นความคิดของเขา ไม่ใช่ความคิดของคุณทักษิณ รวมทั้งคำถามของผมเองก็เป็นคำถามที่เห็นอยู่แล้วว่า จะใช้คุณทักษิณเป็นเครื่องมือเพื่อบรรลุการจัดการตามความคิดของเขา คำตอบของเขาจึงเป็นการยืนยันคุณประโยชน์ของเครื่องมือ ไม่ใช่บุคคล

ความเป็นเครื่องมือของนักการเมืองไม่เสียหายอะไร นักการเมืองเด่นๆ ทั้งหลายก็ล้วนเป็นเครื่องมือทั้งนั้น แต่คงไม่มีนักการเมืองคนไหนที่ทำให้ผู้คนคิดว่าเป็นเครื่องมือของตนได้กว้างขวางเท่าคุณทักษิณ เป็นเครื่องมือเข้าถึงทรัพยากรกลางโดยตรงของประชาชนรากหญ้า เป็นเครื่องมือเข้าสู่อำนาจของก๊วนการเมืองต่างๆ เป็นเครื่องมือเข้าสู่อำนาจทางการเมืองของนักวิชาการ,บุคคลสาธารณะ,ปัญญาชน,และนายทุนนักธุรกิจกลุ่มหนึ่ง ฯลฯ

ความศรัทธาที่ผู้คนมีต่อคุณทักษิณ จึงเป็นความศรัทธาต่อเครื่องมือ และโชคดีของคุณทักษิณด้วย ที่ไม่มีฝ่ายใดพร้อมจะเสนอทางเลือกของเครื่องมือมาแทนที่คุณทักษิณ ไม่ใช่ คมช.,ไม่ใช่พรรคเพื่อแผ่นดิน,ไม่ใช่นายพลทั้งหลาย,ไม่ใช่พันธมิตร, และไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์ (ทั้งหมดเหล่านี้ก็เป็นเครื่องมือเหมือนกัน แต่เป็นเครื่องมือที่ถูกใช้แคบกว่า) และตราบเท่าที่เป็นเช่นนี้ เราจึงต้องยังอยู่กับคุณทักษิณ หรือเงาของคุณทักษิณไปอีกนาน

แต่ดังที่ผมพูดเสมอว่า ไม่มีมนุษย์ที่ไหนที่เป็นแต่เครื่องมือ เพราะในทางกลับกันเขาก็ย่อมใช้คนอื่นเป็นเครื่องมือเหมือนกัน ความสัมพันธ์ของสองฝ่ายจึงเป็นความสัมพันธ์ที่ต่างรักษาให้อีกฝ่ายคิดว่ายังเป็นเครื่องมือได้อยู่ ด้วยเหตุดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างกันจึงไม่อยู่คงที่ มีการคืบคลานของอำนาจระหว่างกันอยู่ตลอดเวลา ที่เคยคิดจะใช้คุณทักษิณเป็นเครื่องมือ ก็อาจกลายเป็นเครื่องมือของคุณทักษิณไปโดยต่อรองได้น้อยลงก็ได้

ตัวความสัมพันธ์ระหว่างคุณทักษิณกับ"พวกทักษิณ"จึงเป็นประเด็นที่น่าสนใจมาก แต่ไม่อาจรู้ได้จากปาฐกถาของคุณจักรภพ เพ็ญแข
 

ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 11034 ,หน้า 6
Link: http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=32851




เป็นการ "ล่อนจ้อน" อีกครั้งหนึ่งของคุณนิธิ

ในแนวคิดของตัวเอง เกี่ยวกับ "สถาบัน" และ "ทักษิณ"

คนบางคน "แก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน" จริงๆ


บันทึกการเข้า

.....................................................

* * W A N T E D - DEAD OR ALIVE * *

73,000 million Baht PRICED !! A "walk-like-a-man" gator
Accused in swallowing his own mother land in cheap !!
แอ่นแอ๊น
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,591


"Angela Gheorghiu" My goddess


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 30-05-2008, 15:06 »

ที่หลังอาจารย์ก็อย่าไปรับเงินทักษิณมาทำแคมเปญอีก เพราะตั้งแต่ครั้งนั้นมันทำลายความน่าเชื่อถือที่มีมาทั้งชีวิตของอาจารย์หมดไปแล้ว
บันทึกการเข้า

       

"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
isa
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 151



« ตอบ #2 เมื่อ: 30-05-2008, 15:36 »

อ.นิธิครับ...

ผมเคยติดตามอ่านผลงานของอาจารย์มาตลอดและเคยศรัทธาด้วย
แต่ตอนนี้ผมว่าอาจารย์เลอะเทอะว่ะ...

สังคมไทยเป็นระบบอุปถัมภ์เกื้อกูลมาตั้งแต่แรก และผมไม่เห็นว่ามันจะเป็นความผิดตรงไหน
หากเป็นการอุปถัมภ์เกื้อกูลที่อยู่บนพื้นฐานของจริยธรรม และหากทำให้คนดีๆในสังคมอยู่
อย่างเป็นสุขได้

ต่อให้เป็นการเปลี่ยนไปสู่ระบบที่อาจารย์ศรัทธา ผมก็ไม่เคยเห็นเลยว่าประเทศไหนในโลกที่เอาไปใช้
แล้วประสบความสำเร็จ รัสเซียต้องเป็นเผด็จการไปกี่ปี เกาหลีเหนือยังเป็นเผด็จการเบ็ดเสร็จ
จีนก็ต้องหันมาเป็นกึ่งทุนนิยม อย่างของจีน เหมาปฏิวัติเอง สุดท้ายเหมาก็ลบด้วยเท้าซะเอง
แล้วตั้งตัวเป็นจักรพรรดิ

ทุกระบบมีจุดดี มีจุดเสื่อม มีจุดเปลี่ยน

แต่ถามหน่อยเหอะจารย์ ที่กระสันอยากจะเปลี่ยนแปลงกันมากนักเนี่ย รู้ไหมว่าในการเปลี่ยนแปลงแต่ละครั้ง
ต้องเสียคนดีๆสังเวยการเปลี่ยนแปลงไปมากเท่าไหร่ ถ้าเกิดขึ้นกับครอบครัวของอาจารย์ อาจารย์จะเจ็บปวดไหม

การเปลี่ยนแปลงของสังคมควรเป็นไปเองตามกระบวนการธรรมชาติ อาจจะการเปลี่ยนแปลงภายใน
หรือการบีบคั้นจากภายนอก แต่ไม่ใช่การกระทำของคนกลุ่มเดียวไปชี้นำ ชักพา ซึ่งสุดท้ายก็แท้งลูก
ไปไม่เคยถึงฝั่งฝันตั้งแต่สมัย 2475 เป็นต้นมา พวกที่ตายไปก็ตายสูญเปล่า

ถ้ากระสันนักก็ไประบายกับกิ๊กใหม่ของจารย์ดีกว่ามั้ย...ได้ยินว่าแหล่มนักนี่

ปล.ผมเลิกซื้อมติชนรายสัปดาห์อ่านแล้ว แอบไปยื่นอ่านฟรีเฉพาะเรื่องสั้นผีของหลวงเมืองเอาบนแผง
เพราะผมไม่อยากสนับสนุนความคิดชั่วๆว่ะ


 


บันทึกการเข้า
totoro on a tree
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 112



« ตอบ #3 เมื่อ: 30-05-2008, 15:39 »

คุณ isa ที่ตอบน่ะใช่เลย

แต่ก่อนเคยนับถืออาจารย์มาก

เดี๋ยวนี้แบบว่า 

นิสัยที่อ่านมติชนเพราะอ่านเรื่องผีของหลวงเมืองก็เหมือนกันเลย 55555555

มีดีอยู่ตรงนี้ที่เดียว

อีกที่หนึ่งก็อ่านดวงของมติชน

เพราะมันฮาดี

บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #4 เมื่อ: 30-05-2008, 16:10 »

ภาพของ อ.นิธิ กลายเป็นส่วนหนึ่งของ "พวกทักษิณ" ไปแล้ว
การเขียนวิจารณ์อะไรออกมา หนีภาพดังกล่าวไปไม่ได้

โดยพื้นฐาน อ.นิธิ ก็ไม่ได้โปรสถาบันฯ มาตั้งแต่ต้น การพยายาม
เลี่ยงไม่วิจารณ์คุณจักรภพในประเด็นหลัก ไปอธิบายประเด็นรอง
ว่าต่างฝ่ายต่างมองอีกฝ่ายเป็นเครื่องมือนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องน่าสนใจ
กลายเป็นถูกมองได้ว่าช่วยคุณจักรภพและคนรักทักษิณทางอ้อม

การทิ้งท้ายว่า ความสัมพันธ์ระหว่างคุณทักษิณกับ"พวกทักษิณ"
เป็นประเด็นที่น่าสนใจมาก
เหมือนกับไม่มีเรื่องอะไรเขียน

..ต่อให้สรุปไปถึงว่า อ.นิธิ ก็มองคุณทักษิณเป็นเครื่องมือด้วย..
เป็นอีกหนึ่งบทความที่ผิดหวังครับ รู้สึกเสียเวลาอ่านไปเปล่าๆ 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
boyk
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,477



« ตอบ #5 เมื่อ: 30-05-2008, 16:22 »

ต้องเริ่มอ่านหลัง 2 ยามถึงจะเก๊ตมั้งคับ..
บันทึกการเข้า

ไล่งับคนโกง ตอกฝาโลงไม่ให้เกิด
เพื่อนร่วมชาติ
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 777


« ตอบ #6 เมื่อ: 30-05-2008, 16:23 »

ตรูนึกว่าจะออกมาบอกว่า

ทักษิณจะทำลายระบบอุปถัมภ์ได้ไง ก็ในเมื่อทักษิณตายทางการเมืองไปแล้ว (อาแปะนิธิเขียนไว้เมื่อ 6 สิงหาปีที่แล้ว)

บทความนี้ยังหาอ่านได้ในเว็บเสรีไทย

http://forum.serithai.net/index.php?topic=15789.msg206763

     

เมื่อก่อนผมเรียนสถาบันที่อาแปะแกเคยสอน ก็เลยเรียกแกว่าอาจารย์

แต่พอเห็นพฤติกรรมแกล้งโง่ของแก ช่วงก่อนลงประชามติรัฐธรรมนูญ

ผมก็เลยเรียกแกว่าอาจารย์ไม่ลง

และเพื่อไม่ให้หยาบคายเกินไป ขอเรียกอาแปะละกัน
บันทึกการเข้า
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 30-05-2008, 17:18 »

"ทักษิณเนี่ยนะ! ที่จะทำลายระบบอุปถัมภ์ (ทางการเมือง)"

อ.นิธิ ตีความระบบอุปถัมภ์เป็นคนละความหมายของที่จักรภพ พูดเลย


+ ไม่รู้ยังไง หลังๆ บทความ อ.นิธิ พยายามเขียนให้งง หรือไงไม่รู้ ผมอ่านแล้วมึนกับการเชื่อมโยง ตรรกะ ของแก

 
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
แอ่นแอ๊น
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,591


"Angela Gheorghiu" My goddess


เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 30-05-2008, 20:43 »

ที่จริง เรื่องที่คนรับจานนิธิไม่ได้มากที่สุด กลับเป็นเรื่องส่วนตัวของแกอ่ะ เพราะสงสารภรรยาแกมากๆ 
บันทึกการเข้า

       

"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
ABCAB
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 311


Wipe out Thaksin


« ตอบ #9 เมื่อ: 30-05-2008, 21:23 »



ปล.ผมเลิกซื้อมติชนรายสัปดาห์อ่านแล้ว แอบไปยื่นอ่านฟรีเฉพาะเรื่องสั้นผีของหลวงเมืองเอาบนแผง
เพราะผมไม่อยากสนับสนุนความคิดชั่วๆว่ะ


 



เหมือนผมเลย



 

บันทึกการเข้า

.....................................................

* * W A N T E D - DEAD OR ALIVE * *

73,000 million Baht PRICED !! A "walk-like-a-man" gator
Accused in swallowing his own mother land in cheap !!
เทพเจ้าโดเรมอน
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 70


« ตอบ #10 เมื่อ: 31-05-2008, 15:10 »

ไม่เสียแรงที่ผมชอบ อ.นิธิ คอเดียวกันนี่หว่า                   

 แอบเข้าดูว่าที่นี่มีอะไรแปลกใหม่ขึ้นมั๊ย โอ๊ย.....กลัวแล้วไปละ 
บันทึกการเข้า
ABCAB
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 311


Wipe out Thaksin


« ตอบ #11 เมื่อ: 31-05-2008, 19:20 »

ไม่เสียแรงที่ผมชอบ อ.นิธิ คอเดียวกันนี่หว่า                   

 แอบเข้าดูว่าที่นี่มีอะไรแปลกใหม่ขึ้นมั๊ย โอ๊ย.....กลัวแล้วไปละ 


จิตอ่อนจัง

ยังงี้ก็เข้าประชาทุยส์ กะแรดดอเมินไม่ได้สิ



 
บันทึกการเข้า

.....................................................

* * W A N T E D - DEAD OR ALIVE * *

73,000 million Baht PRICED !! A "walk-like-a-man" gator
Accused in swallowing his own mother land in cheap !!
หน้า: [1]
    กระโดดไป: