ยุคประชาธิปไตยใกล้เต็มใบแบบเหลี่ยมๆ

[วิหค อัสนี]

ยุคประชาธิปไตยใกล้เต็มใบแบบเหลี่ยมๆ


ยึดกุมสื่อของรัฐเป็นกระบอกเสียง พูดกรอกหูประชาชนอยู่ข้างเดียวซ้ำๆ ไม่ผิดอะไรกับยุคเผด็จการ
นี่แหละ ยุคประชาธิปไตยใกล้เต็มใบแบบเหลี่ยมๆ

ประชาชนไม่พอใจรัฐบาล ชุมนุมประท้วงกันใหญ่โต สื่อมวลชนพากันเงียบกริบไม่กล้าเสนอข่าว อย่างกับตอนพฤษภาทมิฬ
นี่แหละ ยุคประชาธิปไตยใกล้เต็มใบแบบเหลี่ยมๆ

อันธพาลการเมืองเหิมเกริม ไล่ท้าตีท้าต่อยประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล อย่างกับตอน 6 ตุลา ตำรวจยืนมองนิ่งเป็นหัวหลักหัวตอ
นี่แหละ ยุคประชาธิปไตยใกล้เต็มใบแบบเหลี่ยมๆ

เมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ อยู่บำรุงจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
นี่แหละ ยุคประชาธิปไตยใกล้เต็มใบแบบเหลี่ยมๆ

สส. ผู้ทรงเกียรติ แต่มีคดีจากความถ่***สถุลเป็นตราติดตัวมาโชกโชนพอสมควร ก่อเรื่องด่าพ่อแม่ ท้าตีท้าต่อย กระโดดถีบเพื่อน สส. ในสภาผู้แทน
นี่แหละ ยุคประชาธิปไตยใกล้เต็มใบแบบเหลี่ยมๆ

ท่าน สส. ผู้นั้น ถูกคณะกรรมการร่วมวินิจฉัยแล้วว่าทำผิด ยังแถเอาตัวรอด ถึงกับเอ่ยปากสาปแช่งแม่บังเกิดเกล้าของตัวเองให้ตาย!!! ต่อหน้าสื่อ ต่อหน้าสาธารณชน ทั้งที่รู้ความจริงอยู่แก่ใจ
นี่แหละ ยุคประชาธิปไตยใกล้เต็มใบแบบเหลี่ยมๆ

อ้างว่ารัฐบาลได้สิทธิอำนาจเป็นล้นพ้นมาจากเสียงหมู่มาก ข้าจะทำบ้าบออะไรก็ได้ในแผ่นดินนี้ ไม่ต้องเห็นหัวใครทั้งสิ้นแล้ว
นี่แหละ ยุคประชาธิปไตยใกล้เต็มใบแบบเหลี่ยมๆ

ปฏิเสธแนวทางสภาร่างรัฐธรรมนูญ เพราะรีบร้อนหางจุกก้น อ้างสิทธิแก้รัฐธรรมนูญแบบชงเองกินเอง รวบเบ็ดเสร็จ เลือกเอาเน้นๆ เฉพาะข้อที่เปิดรูรั่วให้พวกตนเข้ามาครองอำนาจได้ง่ายขึ้น อยู่ติดเก้าอี้ทนทานด้านหนา ลอยตัวเหนือการตรวจสอบได้มากขึ้นเท่านั้น เหมือนให้นักเรียนมาโหวตเลือกข้อสอบที่ตัวเองจะต้องทำเอาตามใจชอบเสียอย่างนั้น
นี่แหละ ยุคประชาธิปไตยใกล้เต็มใบแบบเหลี่ยมๆ

เวลาที่ยึดสภาได้แล้ว ก็โหมประโคมกระแสว่าอำนาจที่ถูกต้องแท้จริงอยู่ในสภาเท่านั้น พวกนอกสภาจงหุบปากไปให้หมด แล้วก็ถือโอกาสฮั้วกันทำปู้ยี่ปู้ยำอะไรกับชาติและประชาชนเงียบๆ ในสภาต่อไป
นี่แหละ ยุคประชาธิปไตยใกล้เต็มใบแบบเหลี่ยมๆ

อวดอ้างว่ารักประชาธิปไตยยิ่งยวด ทุ่มเทชีวิตต่อสู้ต่อต้านเผด็จการ แต่พอพวกตนได้มีอำนาจขึ้นมาในบ้านเมืองบ้าง ก็โผล่หางใช้อำนาจที่ได้มาอย่างบ้าคลั่ง มาตรฐานต่ำกว่ายุคเผด็จการทหารที่ตัวเองต่อสู้เสียอีก
นี่แหละ ยุคประชาธิปไตยใกล้เต็มใบแบบเหลี่ยมๆ

เมื่อไหร่ที่มีข้อกล่าวหาจากสังคมว่าใครทำผิด แม้จะไปถึงศาลแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องแก้ข้อกล่าวหาว่าเขาไม่ได้ทำอย่างนั้นๆ เรื่องจริงมันเป็นอย่างนี้ๆ ให้เมื่อย
แค่ยกอำนาจในมือมาอวดอ้าง เอามาข่มเพื่อบิดความยุติธรรมก็พอ ไม่เคยจะยืดอกเผชิญหน้าความจริงที่ตัวเองทำไว้สักครั้ง
นี่แหละ ยุคประชาธิปไตยใกล้เต็มใบแบบเหลี่ยมๆ

ใครไม่สรรเสริญเยินยอ เห็นดีด้วยไปกับพวกเขาในเรื่องอะไร ก็จะกลายเป็นพวกทำลายชาติ พวกค้ายา ค้าของเถื่อน ผู้มีอิทธิพลไปทันที ถูกพวกลิ่วล้อสรรหาทุกวิถีทางดิสเครดิต ถูกขุดคุ้ยประวัติโคตรเหง้าตระกูลขึ้นมาด่าอย่างไม่ไว้หน้า
นี่แหละ ยุคประชาธิปไตยใกล้เต็มใบแบบเหลี่ยมๆ

เขาว่ากันว่าศักดินาอำมาตยาธิปไตยใกล้ล่มสลาย อำนาจประชาชนไทยเบ่งบาน ลิ่วล้อนักการเมืองสุมหัวตามหลากหลายเว็บไซต์ จาบจ้วงด่าทอเบื้องสูงอยู่ทุกวี่ทุกวัน เจ้าหน้าที่บ้านเมืองทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
นี่แหละ ยุคประชาธิปไตยใกล้เต็มใบแบบเหลี่ยมๆ

รังเกียจศักดินาระบบไพร่ เรียกร้องเสรีภาพความเสมอภาค แสดงเจตนาเรียกร้องให้ลากเบื้องสูงลงมาให้ตรวจสอบได้ ให้ทลายเกราะคุ้มกันทิ้งไปเสีย
แต่กับนายใหญ่ของพวกตน พากันยกหางเชิดชูเยี่ยงไพร่ไม่ยอมให้ใครแตะต้องมูลนาย ชื่นชมยินดีกับการเมืองที่ให้รัฐบาลแข็งแกร่งไร้เทียมทาน ไม่ต้องมีใครบังอาจเอื้อมมาตรวจสอบใดๆ ทั้งนั้น
นี่แหละ ยุคประชาธิปไตยใกล้เต็มใบแบบเหลี่ยมๆ

แม้แต่ระดับรัฐมนตรีก็ยังเอากับเขาด้วย พูดออกมาทุกอย่างทั้งเนื้อความแสดงความเป็นปรปักษ์ชัดเจน แล้วยังมาบิดเบือนสารโกหกออกอากาศ คิดว่าคนทั้งประเทศโง่อ่านภาษาอังกฤษไม่ออก? แถมยังมีอีกรายการหนึ่งพูดเป็นภาษาไทยเห็นๆ คนในรัฐบาลยังนิ่งนอนใจ
นี่แหละ ยุคประชาธิปไตยใกล้เต็มใบแบบเหลี่ยมๆ

ประชาชนที่จงรักภักดี รู้เห็นมามากจนทนไม่ไหว เอาหลักฐานหมิ่นโจ๋งครึ่มไปแจ้งความก็นิ่งไม่ขยับ ต้องหอบหลักฐานไปเผยแพร่ประจานคนจาบจ้วง กลับถูกข่มขู่ว่าเผยแพร่จะมีความผิดฐานหมิ่นด้วย
นี่แหละ ยุคประชาธิปไตยใกล้เต็มใบแบบเหลี่ยมๆ

ทำมารยาตีสองหน้าตลอดเวลา หาว่าฝ่ายตรงข้ามดึงฟ้าต่ำ เล่นสกปรกทางการเมือง แต่ไม่เคยยอมรับว่าพวกตนทำอะไรไว้บ้าง ถึงไปสร้างศัตรูกับเขาได้ทั่วทั้งแผ่นดิน
นี่แหละ ยุคประชาธิปไตยใกล้เต็มใบแบบเหลี่ยมๆ

สมคบกับองค์กรศาสนามีวิถีทางน่าสงสัย ทำอะไรๆ มีแต่แผ่อำนาจเป็นข่ายครอบงำ ส่อแววเหมือนจะสร้างรัฐซ้อนรัฐ ศาสนจักรซ้อนศาสนจักร สถาบันซ้อนสถาบัน
นี่แหละ ยุคประชาธิปไตยใกล้เต็มใบแบบเหลี่ยมๆ

นักการเมืองหากินกับการหลอกลวงประชาชน แม้แต่ สว. ยังมีถูกหลอกต้ม ให้ลงชื่อร่วมแก้รัฐธรรมนูญ
(แล้วจะเชื่อได้อย่างไรว่าเรื่องอื่นๆ เขาจะไม่หลอกเราได้?)
นี่แหละ ยุคประชาธิปไตยใกล้เต็มใบแบบเหลี่ยมๆ

ดูเอาเถอะว่า
ผู้แทนของพวกท่าน ที่รับเอาอำนาจจากพวกท่านไป ยังเป็นปากเป็นเสียง พิทักษ์สิทธิประโยชน์อันชอบธรรมของท่านได้อยู่ไหม?
หรือกลายเป็นแค่สัตว์เลี้ยงในคอกที่เรียกว่า "พรรค" ที่มีหน้าที่เพียงคอยรับใช้ "นายเงิน" บางพวก คอยช่วยเหลือให้พวกเขายึดเอาประเทศไทยที่ปู่ย่าตายายช่วยกันสร้างมา ไปเป็นของพวกเขาและโคตรเหง้าตระกูลของพวกเขาเอง ไปเสียแล้ว??

บนเส้นทางประชาธิปไตย ที่ยิ่งเดินหน้าไปยิ่งอึดอัด ยิ่งคับแคบ ยิ่งร้อนระอุ ยิ่งมืดบอดมองไม่เห็นอะไร

กับกลุ่มคนที่นับวันยิ่งมองไม่เห็นเงาหัว นับวันจะทำอะไรๆ เฉียดอนันตริยกรรมมากข้อขึ้นเรื่อยๆ นับวันจะสั่งสมกำลังพวกอันธพาลให้อาละวาดเพ่นพ่านไปทั่ว
ถ้าใครมาขวางทาง พวกเขาก็พร้อมจะทำลาย พร้อมจะเหยียบให้จมดิน ไม่ต้องปราณี ไม่ต้องถามถึงเหตุผล

พวกเขาเหล่านี้หรือ ที่พวกท่านยกย่องเชิดชู เห็นว่าจะพาพวกท่านแผ้วถางทางสู่แดนสวรรค์ยูโทเปีย สร้างสังคมในอุดมคติได้?
พวกท่านแน่ใจหรือ ว่าอยากจะร่วมสร้างชาติกับคนเหล่านี้?
พวกท่านอยากจะให้เขาลากจูงไป พร้อมคำป่าวประกาศให้ความหวัง ภาพแสงสีเสียงมากมายจูงใจซ้ำๆ ซากๆ ว่า เรามาถูกทางแล้วๆ อีกต่อไปหรือไม่?

แต่อย่าลืมว่า ในแผ่นดินนี้ ก็ยังมีประชาชนอีกมากที่มองเห็นไม่เหมือนกัน

พวกเขาหาว่าพวกเราอิจฉาพวกเขา อิจฉาพวกท่าน ไม่อยากให้พวกท่านไปได้ดี บนเส้นทางสู่สวรรค์ที่พวกเขานำไป
ถ้างั้น พวกเราคงจะไม่ห้ามพวกท่านอีกแล้ว อยากไปก็เชิญตามสบาย! แต่ขอยืนยันว่า ยังมีคนอื่นๆ ที่ไม่อยากถูกลากไปทางเดียวกันกับพวกท่านอยู่!
พวกที่เคยได้เห็นธาตุแท้ของบรรดาผู้นำของพวกท่านมาบ้างแล้ว และก็ไม่มีทางที่จะหันไปให้ความนับถือ ให้ความไว้วางใจอย่างใดๆ กับพวกเขาได้อีกเลยในชีวิตนี้
และก็เป็นพวกเรานี่แหละ ที่จะไม่ยอมก้มหัว ไม่ยอมสยบให้กับพวกเขาเป็นอันขาด ไม่ว่าจะอวดอ้างอำนาจล้นดินฟ้ามหาสมุทร หรือคลื่นพลังมวลหมู่มหาประชาชนนับสิบล้านร้อยล้านคนมาจากไหนก็ตาม

จำไว้ให้ดี!

วิหค อัสนี
29 พฤษภาคม 2551

[ชาวบ้าน]

ประชาฉิบตายห่า