ฟังอาจารย์ภูวดลตะกี้ชอบประโยคนี้ที่สุด
เพราะพวกนักสังคมจ๋ารอบตัวผม "มาร์กพ่อมาร์กแม่มัน"อยู่เสมอๆ
ไถ่ถามดูมันก็ไม่ได้เข้าใจอะไรเท่าไหร่ ทฤษฎีโน่น ทฤษฎีนี่ มาร์กแมร่งยัน
ทฤษฎีจัดนักเหมือนพูดอยู่บนหอคอยงาช้าง พ่นอะไรมาก็เอามาใช้ไม่ได้ซักอย่าง
และแก้ตัวด้วยคำง่ายๆ "ด้วยข้อจำกัดทางวิชาการ" "เพราะจำกัดตัวแปรสารพัด"
นอกจากนี้มันยังเป็นนักสังคมหมิ่นเจ้า เอาเจ้ามาด่าให้ฟังเสมอๆ
มันว่าเป็นเพราะ "มาร์กพ่อมาร์กแม่มัน" สังคมต้องเสมอภาค
คนจนก็จนเพราะเจ้าเพราะนายมันสูบไป เจ้าอยู่สุขสบายชาวนาอดตาย
อะไรๆมันก็สงสารยัน อยากช่วยชาวบ้าน(ฉิบหายบางพวก)
แต่มันไม่ยังกะสงสารเจ้า ไม่ยักกะสงสารประเทศบ้าง
สอนมันไปหลายทีมันก็เชื่อฝังหัวไม่เลิก
มันว่า "เจ้าสุขเจ้าสบาย ทำไมเจ้าไม่ช่วยชาวนาบ้าง"
แล้วที่พระองค์ทรงงานเช้ายันดึกนั่นเพื่อใคร
แล้วเวลาเกิดวิบัติ เกิดภัยพิบัติ ทั้งจากธรรมชาติ
และจากความบัดซบของนัักการเมือง ทุกอย่างบรรเทาได้เพราะใคร
พันธุ์ข้าว กังหันน้ำ ฝายน้ำ หญ้าแฝก ไบโอดีเซล ฯลฯ
พระองค์ทรงวิจัยมาหลายสิบปีเพื่อให้ประชาชนนำไปใช้
แต่กว่าผสกนิกรของพระองค์จะสำนึกก็ต้องมีวิกฤต
ไบโอดีดซลพระองค์ก็ทำไว้ตั้ง30ปี พอน้ำมันแพงทีนึงก็ตื่นทีนึง
พอหมดวิกฤติประชาชนก็ไม่สนใจ
บอกว่าเจ้าไม่ช่วย แต่จริงๆแล้วประชาชนต่างหากที่ทอดทิ้งพระองค์
ประชาชนต่างหากที่ไม่เดินตามแนวทางพระราชดำริ
ประชาชนต่างหากที่มัวเมา หลงลาภ หลงน้ำเมา หลงการพนัน
จนไม่ยอมทำมาหากิน เอาแต่แบมือขอเงินจากนักการเมืองชั่วๆ
แล้วก็ปล่อยให้นักการเมืองชั่วมาทำระ-ยำตำบอนประเทศเอาตามใจชอบ
เป็นอย่างนี้จะไปโทษใคร คงต้องโทษ "มาร์กพ่อมาร์กแม่"มันมั๊ง
ขออภัยที่หยาบคาย แต่โดนใจจริืงๆ(ว่ะ)
