นักลงทุนระดับชาติประสานเสียงด่าประนาม จอมบงกามเบื้องหลังพันธเมือก ทำธุรกิจเจ๊ง

“ขณะนี้นักลงทุนต่างชาติกำลังกังวลกับปัญหาการเมืองของไทย และเกรงว่าจะเกิดความรุนแรงขึ้น จึงได้ชะลอการลงทุนมากพอสมควร โดยนอกจากปัญหาการเมืองแล้วยังมีปัญหาราคาน้ำมัน ซึ่งหอการค้าไทยกำลังติดตามภาวะราคาอย่างใกล้ชิดเพราะมีผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทย ซึ่งหากราคายังสูงขึ้นเรื่อยๆ เศรษฐกิจไทยในปีนี้มีโอกาสขยายตัวต่ำกว่า 5% ถือว่าน่าเป็นห่วง รัฐบาลจะต้องเร่งหามาตรการต่างๆกระตุ้นให้เศรษฐกิจปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 5% ให้ได้” นายประมนต์กล่าว

“นักลงทุนต่างประเทศหน้าใหม่ที่สนใจจะลงทุนในไทยคงขาดความเชื่อมั่น และไม่อยากเข้ามาลงทุน แต่ถ้านักลงทุนเก่าๆ ที่ลงทุนในไทยอยู่แล้วคงยังไม่ถอนการลงทุน หอการค้าไทยก็ได้แต่เตือนสมาชิกให้ลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ลง เพื่อลดต้นทุน รวมถึงชี้แจงให้ลูกค้าทราบว่า การเมืองไทยยังไม่เลวร้ายมาก ผู้ประกอบการ ยังผลิตสินค้าและส่งออกได้ตามระยะเวลา อย่าเพิ่งขาดความเชื่อมั่นจนเลิกสั่งซื้อเลย สัปดาห์หน้าจะประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน คงจะหารือถึงปัญหาการเมือง และเสนอแนะทางออกเพื่อให้ปัญหาจบลงเร็วโดยเร็ว”

ปีเตอร์ แวน ฮาเรน อดีตประธานหอการค้าต่างประเทศในประเทศไทย กล่าวว่า “นักลงทุนต่างประเทศกำลังมองสถานการณ์การเมืองของไทยอยู่ว่า จะเลวร้ายลงมากกว่านี้จนถึงขั้นมีปฏิวัติอีกหรือไม่ เพราะการปฏิวัติครั้งที่ผ่านมาเพิ่งจะเกิดไม่นานมานี้ คนจึงยังมีความทรงจำอยู่และกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยขึ้นอีก แต่เชื่อว่าไม่น่าจะเกิดอะไรเลวร้ายจนทำให้ขาดความเชื่อมั่นจนถอนการลงทุน และยังเชื่ออีกว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้จะดีขึ้นกว่าปีก่อนเล็กน้อยเพราะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแล้ว”

พันธเมือกกากเดินสุนัขรับใช้เผด็จการศักดินาทรราช ออกมาเคลื่อนไหวรอบนี้ ได้รับแต่เสียงก่นด่าประนามสาปแช่ง จากทั่วทุกสารทิศ คงมีแต่พวกถือหาง สมองหมู ที่ยัง ตีอกชกหัว เสียดายการเลือกตั้งที่ผ่านมา ไม่ได้ครองอำนาจตามแผนการณ์ร้าย ที่ได้วางเอาไว้ เลยหนุนหลังให้เล่นเกมส์เดียรฉาน โค่นล้มฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ด้วยการก่อจลาจลนองเลือด หวังให้ทหารออกมาปว.อีกรอบ และโกงเลือกตั้งอีกครั้งเป็นการแก้ตัว

ไม่คำนึงถึงความวิบัติฉิบหายทางเศรษฐกิจ สังคม การเมืองแต่ประการใด