ไม่ได้เข้าข้างน่าเหลียมหรอกนะครับ
แต่ถ้าจะให้ขายน้ำมันจริงที่ 26 บาทคงเป็นไม่ได้
นั่นมันราคาน้ำมันดิบ
มันมีต้นทุนการกลั่น
มี่ค่าขนส่ง
ค่าภาษี
ค่ากองทุนน้ำมัน สารพัด รวมแล้วถึงได้จะสี่สิบบาท
ถ้าจะว่า ปตท ก็ต้องว่าที่ราคาตอนนี้มันเป็นราคาซื้อขายล่วงหน้าสองเดือน
ไม่รู้ว่าจะขึ้นราคาหน้าปั้มตามราคาตลาดโลกตอนนี้ทำแป๊ะอะไร
อย่าเมื่อสองเดือนก่อน สมมุติราคาไม่ถึง 100$ ซื้อมาแค่ 100$
แต่พอตอนนี้มัน 130$
ปตท มันดันจะตั้งราคา 130$ ท่าจะบ้า
ฉะนั้นผมว่ารายการนี้ ตาสว่างจริง โดนแหกตาจนสว่างเลยครับ
ดูจากรูปนี้คงเข้าใจมากขึ่น ได้จากพันติป รัชดา
26 บาทนั่นเป็นแค่ตัวอย่างวิธีคิดเลขครับ ถ้าคนฟังเข้าใจว่านั่นเป็นราคาน้ำมันดิบ ก็ย่อมรู้ว่ามันต้องมีค่ากลั่น ภาษี ฯลฯ อีก
ดังนั้นคงไม่มีใครเรียกร้องให้ขาย 26 บาทหรอกครับ ในกรณีที่น้ำมันดิบที่ซื้อมานั้นราคา 130 ดอลลาร์ต่อบาเรลจริง (แต่ซื้อมาจากที่ไหน ราคาเท่าไหร่ก็เป็นอีกเรื่อง - ซื้อดูไบก็ควรจะอ้างดูไบ)
ตัวเลขในตารางที่ยกมา ผมว่าไม่ได้ช่วยแก้ข้อกล่าวหาให้โรงกลั่นแต่อย่างใดนะครับ เพราะไม่ได้บอกที่มาที่ไปของตัวเลขในสดมภ์ (คอลัมน์) แรก ซึ่งผมเข้าใจว่าเป็นราคาหน้าโรงกลั่น (EX-REFIN)
ตัวเลขนี้ไม่ได้บอกว่า เบนซิน 95 ที่ขายหน้าโรงกลั่น 28 บาทกว่านั้น มาจากน้ำมันดิบราคาเท่าไหร่ โรงกลั่นกำไรไปเท่าไหร่
ข้อกล่าวหาสำคัญก็คือ ปตท. มีลักษณะผูกขาดโรงกลั่น ได้เปรียบคู่แข่งอย่างมาก
และ ปตท. ทำกำไรโรงกลั่นมหาศาลหลังจากแปรรูปโดยรัฐบาลหน้าเหลี่ยม
สมมุติถ้าวันนี้ผู้บริหาร ปตท. บอกจะลดกำไรการกลั่นลงครึ่งหนึ่ง ผู้ถือหุ้นจะยอมแต่โดยดี หรือจะหาทางเอาผิดผู้บริหาร ปตท. ที่ทำให้พวกเขาเสียผลประโยชน์?
เวลานี้ ในขณะที่ผู้ใช้น้ำมันและผู้โดยสารยวดยานรับทุกข์กันอยู่เห็น ๆ ใครที่ได้ประโยชน์จากกำไรมหาศาลของ ปตท.?
ขณะที่สื่อก็เสนอข้อมูลแค่สามส่วน คือราคาน้ำมันดิบตลาดโลก ราคาน้ำมันสำเร็จรูปสิงคโปร์ ค่าการตลาดที่ต่ำ
ซึ่งทั้งหมดเท่ากับชี้นำว่า ปตท. มีความชอบธรรมในการกำหนดราคาน้ำมันไว้เท่านี้