http://www.nocoup.net/cgi-bin/board/simpleforum_pro.cgi?fid=01&topic_id=1211852102Posted on 27/05/08 08:35:02
สื่อสามาตย์และผู้ที่ดวงตามืดบอดกรุณาอ่านด้วย
เอกสารแถลงข่าวนปช.
--------------------------------------------------------------------------------
คำแถลงแนวร่วมประชาชนต่อต้านเผด็จการ(นปช.)
การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญไม่ใช่ไม่การสร้างระบอบสาธารณรัฐ
นปก.ไม่สนับสนุนความรุนแรง สิ่งที่เกิดขึ้นในวันที่ 25 พฤษภาคม 2551 นั้นพันธมิตรเป็นผู้ยั่วยุ
พรรคประชาธิปัตย์ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ด้วย
รัฐธรรมนูญ 2550 ระบุชัดเจนในมาตรา 291 ให้ประชาชนจำนวนห้าหมื่นชื่อขึ้นไป หรือ ส.ส.และส.ว. รวมกันจำนวนเกินกว่า 126 คนขึ้นไปสามารถเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาได้ เนื้อหาสำคัญของร่างแก้ไขฉบับ คปพร.ก็ดี หรือ ของส.ส.และส.ว ก็ดี ล้วนยืนยันชัดเจนว่า
1.ให้คงหมวดหนึ่งและหมวดสองของรัฐธรรมนูญ 2550 ไว้ซึ่งเป็นหมวดที่ระบุชัดเจนในมาตรา 2 ว่า ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และในหมวดสองก็เป็นหมวดพระมหากษัตริย์ยังคงเดิมทุกประการ ดังนั้นที่สื่อบางฉบับว่าต้องการปฏิเสธสถาบันองคมนตรีจึงเป็นเรื่องโกหกมดเท็จสิ้นเชิง
2.ให้เสนอให้มีการแก้ไขในส่วนที่เป็นข้องบกพร่องบางอย่างของรัฐธรรมนูญ 2540 ที่อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลหรือรัฐมนตรียากให้ง่ายขึ้น และอาจจะมีการแปรญัตติได้ในวาระ 2
นายสันธิ ลิ้มทองกุลและพันธมิตรฯโจมตีว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 เป็น ขบวนการโค่นล้มสถาบันพระมหากษัตริย์และสร้างระบอบสาธารณรัฐ เป็นการล้มเป็นการฉีกรัฐธรรมนูญ 2550 จึงเป็นเรื่องเท็จโดยสิ้นเชิง และแก่นแท้ของการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ เมื่อเย็นวันที่ 25 พฤษภาคม 2551 จึงเป็นเรื่องที่พวกเขาประกาศอย่างไม่ปิดบัง คือ ไล่รัฐบาลหรือโค่นล้มรัฐบาล นั่นเอง นอกจากนี้ยังกล่าวเท็จจริงต่อสาธารณชนอีกว่า รัฐนี้เป็นรัฐโจร เพราะความจริงแล้วรัฐหรือรัฐบาลปัจจุบันมาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งทั้งประเทศตามรัฐธรรมนูญ 2550 นี่เอง นั้นเท่ากับนายสนธิลิ้มกับพวกกำลังโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนด้วยวิถีอื่นอันไม่ได้กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ 2550 ซึ่งอาจจะทำให้เข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ซึ่งประชาชนทุกคนมีสิทธิต่อต้านตามมาตรา 69 นอกจากนี้ยังอาจจะเข้าข่ายมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113,116 อีกด้วย
การที่พรรคประชาธิปัตย์ประกาศให้สมาชิกพรรคปชป.สามารถเข้าร่วมกับ นายสันธิ ลิ้มทองกุล กับพันธมิตรฯ ได้นั้นย่อมเป็นการยืนยันแล้วว่าพรรคปชป. มีนโยบาลและแนวทางเดียวกับนายสนธิมทองกุลกับพันธมิตรฯ ดังนั้นพรรคปชป.เองก็น่าจะเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 และประชาชนสามารถต่อต้านพรรคปชป.ตามมาตรา 69 และ 70 ของรัฐธรรมนูญ 2550 รวมไปถึงน่าจะเข้าข่ายผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113,116 ด้วยเช่นกัน
เมื่อเป็นเช่นนี้เท่ากับเป็นการ สร้างความแค้นเคืองให้กับประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยของประเทศโดยตรง และเป็นเจ้าของรัฐบาลโดยตรง ดังนั้นประชาชนที่รักประชาธิปไตยทุกคนจึงมีสิทธิที่จะไปติดตามการชุมนุนของพันธมิตรฯและมีที่จะแสดงความไม่เห็นด้วยกับพันธมิตรฯ ในสิ่งที่พันธมิตรฯ และนายสินธิ ลิ้มทองกุลกล่าวเท็จโดยสิ้นเชิงดังกล่าว และก็ปรากฏชัดเจนจากสื่อทีวี ว่าทางฝ่ายพันธมิตรฯ ไม่มีจิตวิญญาณประชาธิปไตย ไม่สามารถรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่ตอบโต้ความเท็จของพวกเขาได้ พวกเขาจึงเป็นเฝ่ายเริ่มการโจมตีประชาชนด้วยการขว้างปาสิ่งของต่าง ๆ และปรากฏชัดว่าพวกเขาได้ นำเอาอายุธที่พวกเขาตระเตรียมมาอันได้แก่ ไม้หน้าสาม มีด และของมีคมอื่นมาทำร้ายประชาชนที่รักประชาธิปไตยจนได้รับบาดเจ็บไปหลายคน
แนวร่วมประชาชนขับไล่เผด็จการ(นปก.)หรือแนวร่วมประชาชนต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) เดินแนวทางสันติวิธีมาโดยตลอด ยืนยันได้จากการจัดตั้ง หน่วยสันติวิธี และมีการฝึกฝนวิธีที่จะเผชิญหน้าเผด็จการด้วยความอดทน ไม่ใช้ความรุนแรงโดยตลอด นปก., นปช.ไม่มีนโยบายใช้ความรุนแรงใด ๆ แม้แต่น้อย เป็นฝ่ายแนะนำประชาชนเสมอว่า จุดแข็งของเราก็คือสันติวิธี ประชาธิปไตยฝ่ายเราต้องชนะอย่างแน่นอน การใช้ความรุนแรงจะทำให้เราพ่ายแพ้ เราต้องใช้สันติวิธีอย่างเดียว
ดังนั้นเหตุการณ์รุนแรงไม่ได้เกิดจากนปก.หรือ นปช.ขอความกรุณาสื่อทุกชนิดได้โปรถอย่าใช้ความมักง่ายในการทำข้อสรุปว่า นปก. หรือ นปช.เป็นผู้ก่อความรุนแรง
26 พฤษภาคม 2551
-------------
ไม่เชื่อโว้ย ตามคุณ กูมาแล้วอีกคนหนึ่ง