ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
24-04-2024, 14:50
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  หลักฐานออนไลน์ "สมัคร" รับเงินเดือนละแปดหมื่นจาก "เฟส มีเดีย" 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
หลักฐานออนไลน์ "สมัคร" รับเงินเดือนละแปดหมื่นจาก "เฟส มีเดีย"  (อ่าน 2168 ครั้ง)
ABCAB
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 311


Wipe out Thaksin


« เมื่อ: 24-05-2008, 02:08 »

อ้างถึง



นิตยสารสกุลไทย
ฉบับที่ 2453 ปีที่ 47 ประจำวันอังคารที่ 23 ตุลาคม 2544   
สัมภาษณ์โดย  เมล็ดข้าว

 
สมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าราชการ กทม. เปิดบ้านส่วนตัวและบ้านเพื่อชาวกทม.
 
สมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครกับแมวคู่ชีวิต
            บ้านเลขที่ ๗๐/๙๘ หมู่บ้านโอฬารพัฒนา ๒ ถนนสุขาภิบาล ๑ ซึ่งอยู่ในซอยเดียวกับโบสถ์พระมารดานิจจานุเคราะห์ บ้านหลังนี้คือบ้านแรกของครอบครัวผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนปัจจุบัน คือ สมัคร และภริยา-คุณหญิงสุรัตน์ สุนทรเวช บนเนื้อที่ ๑๐๘ ตารางวา เมื่อปี ๒๕๑๗ จากนั้นค่อยๆ ซื้อที่ดินจากเพื่อนบ้านและต่อเติมสร้างบ้าน ๓ หลัง และ ๒ หลังเชื่อมติดต่อกันทั้งหมด ๕๐๐ ตารางวา ทัศนียภาพของบ้านจึงเต็มไปด้วยสวนธรรมชาติที่ร่มรื่น มีนกนานาชนิดมาอาศัยร่มเงา ส่งเสียงร้องเริงร่าด้วยความสุข อีกมุมหนึ่งกระรอกตัวจ้อยก็กระโดดจากกิ่งไม้หนึ่งและไล่จี้ตามกัน พลางกัดกินผลไม้บนต้นด้วยความเพลิดเพลิน มองดูสภาพแวดล้อมแล้วรู้ได้เลยว่าเจ้าของบ้านเป็นคนมีเมตตาต่อสัตว์เลี้ยงนานาชนิด

            วันนั้นฝนตกพรำๆ ตั้งแต่เช้าต่อเนื่องจากกลางคืนซึ่งตกอย่างกระหน่ำจนน้ำเจิ่งนอง เมื่อคณะเราไปถึงเด็กๆ ในบ้านกำลังจัดการเช็ดพื้นเป็นการใหญ่ บริเวณหน้าบ้านมีเก้าอี้สนามสีขาวเป็นมุมโปรดมุมหนึ่ง ซึ่งทราบภายหลังว่าเจ้าของบ้านมีความสุขกับการนั่งเอกเขนกพักผ่อนหลังเลิกงาน

            วันนี้เจ้าของบ้านเป็นไข้หวัดจนตาแดง แต่ด้วยสุขภาพที่แข็งแรงเป็นนิจ ก็พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์แม้ว่าจะดูเพลียๆ เสียงไม่ค่อยจะดีนัก ปากก็ร้องเรียกแมว ๑๑ ตัว ให้เข้ามาอยู่ใกล้ๆ เพื่อให้ช่างภาพของเราถ่ายรูป

             “เด็กๆ เอาถุงเท้าขาวมา ไดมอนด์ด้วย เจ้าตัวนี้ไม่ชอบอยู่บ้าน” คุณสมัครเรียกหาเด็กในบ้านให้อุ้มแมวตัวโปรดออกมาให้ พลางลูบหัวแมวตัวที่ชื่อถุงเท้าขาวด้วยความรักใคร่ เล่าว่า “ส่วนไดมอนด์เป็นแมวไทยคอปเปอร์ทองแดง ส่วนแมวสีสวาทตอนนี้ไม่มี หายไปหมดแล้ว แต่ก่อนแมวชื่อนำโชค นำลาภ ตัวผอมน่าเกลียด เดี๋ยวนี้อ้วนโตขึ้นเยอะก็เลยเปลี่ยนชื่อแล้ว เจ้าไดมอนด์เป็นแมวรับแขกมากที่สุด วันก่อนมีรายการสารคดีจากประเทศเกาหลีมาถ่ายทำที่บ้าน แมวตัวอื่นหนีหมดเหลือแต่ไดมอนด์รับแขกอยู่ตัวเดียวเท่านั้น”

            ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครยามนี้กำลังใช้ชีวิตส่วนตัวอย่างที่เรียกว่าง่วนอยู่กับแมว

 
มุมหนึ่งในบริเวณบ้านส่วนตัวของ สมัคร สุนทรเวช
 
ภาพที่เราได้เห็นนานๆ ครั้ง บทบาทของผู้ว่าราชการกทม.ในการรับและส่งแขกเมือง
 
ชะลอ “รถราง” สัญลักษณ์ของกทม.ในสมัยหนึ่งมาเป็นสถานที่จัดเลี้ยงชุมนุมผู้คุ้นเคย
             “แมวจะเอาอะไร แมวคันหัว เอ้า มานี่ๆ แตงไทยมานี่ มานี่ แตงไทยมานี่ แตงไทยดุหน่อยเป็นลูกผสมเปอร์เซียเป็นแมวแก่แล้ว อายุมาก แมวทั้ง ๑๑ ตัว ผมรักทุกตัวจำชื่อได้หมด ถุงเท้าขาวเป็นแมวฉลาดรู้ภาษา เจ้าขาวเล็กตัวนี้ยุ่มย่ามที่สุด พูดมากตลอดทั้งวัน เขามาขออยู่ผมก็ให้เขาอยู่ ไอ้ขาวเล็กดูสิไม่พูดกัน ไม่เอา ไม่เอา มานี่ ไม่พอใจอะไรกัน ตาเหลืองจะเอาอะไรเหรอ ขู่ตลอดเลย แมวอะไร เอาอะไร แย่จริงๆ ข้าวต้ม น้ำตาล ตัวนี้นอนกับพื้นตบมือแล้วมันจะนอนหงายกับพื้น มันชอบลับเล็บกับต้นแก้ว น้ำตาลจะหน้าตาคล้ายตัวเสียงแหบ เสียงมันแหบ”

            สมัคร สุนทรเวช เลี้ยงแมวมาแล้วเกือบ ๖๐ ปี ตั้งแต่เด็ก ๗ ขวบ

             “แมวไม่เอาใจเรา เราต้องเอาใจแมว ฝึกให้เรารู้จักเอาใจคน ปกติไม่มีใครเอาใจผม ผมเอาใจคนมากกว่า แมวไม่เหมือนหมา หมาเจอคนกระดิกหางดีใจเจอคน แต่แมวเจอเจ้าของมันก็เฉย แต่เมื่อมันหิวจะกระดิกหางเข้ามาคลอเคลีย แมวรักอิสระ ผมไม่ได้รักอิสระ แต่ผมต้องเอาใจมันเหมือนกับเอาใจคนอื่น เอาใจแมวง่ายกว่าเอาใจคนคุณรู้ไหม คนไม่ได้ชอบเราทุกคน ถ้าเขาเข้าใจเราก็ทำงานสำเร็จ ทำให้เขาเข้าใจเรา ผมชอบแมวแต่ก็เลี้ยงหมาด้วยตัวหนึ่งชื่อฉลุยมันก็อยู่กับแมว ๑๑ ตัวได้ มันเป็นหมาตัวเดียวในบ้าน”

            นี่คือความสุขเล็กๆ ของผู้ชายชื่อ สมัคร สุนทรเวช ผู้ชายวัย ๖๐ ต้นๆ ผู้อาสาเข้ามาเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๔๓ จนบัดนี้ผ่านมาแล้วปีกว่าๆ

             “มีคนกล่าวหาผมว่าเดินช็อปปิ้งที่ดีพาร์ตเม้นต์สโตร์ก่อนกลับบ้าน คิดจะเลิกเล่นการเมืองแล้วจึงเข้ามาลงเล่นสนามเล็กผู้ว่าราชการ กทม. อยากจะบอกความในใจว่า ผมอยากจะทำงานให้บ้านเมือง แต่โอกาสไม่มี คุณโกวิท สีตลายัน หนังสือพิมพ์ไทยรัฐบอกว่าผมเหมาะสมกับตำแหน่งผู้ว่าราชการ กทม.มากที่สุด ผมจึงตัดสินใจและอาสาทำงานให้ชาว กทม.ผมไม่ได้คิดจะไปช็อปปิ้งที่ไหน ผมเชื่อว่า ๔ ปี ที่ทำงานในตำแหน่งผู้ว่า กทม.สนุกสนานมาก ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาบริหารงานใน กทม. ไม่ได้เหลืองบให้ผมพัฒนาได้เลย ผมยังไม่กลับบ้าน ผมไม่ได้ตุหรัดตุเหร่หรือหิวกระหายเข้ามาตักตวงค้นค้วาหาอะไรใส่พกใส่ห่อ ผมทำงานด้วยความเต็มใจ ผมขอทำงานให้ผู้คนในท้องถิ่น ๑๐ ล้านคน อย่างเต็มที่ ผมยังทำงานได้อีกเยอะมากทั้งๆ ที่ไม่มีงบประมาณ”

            รู้ๆ กันอยู่แล้วว่า สมัคร สุนทรเวช มีประสบการณ์ทางการเมืองมาแล้ว ๓๐ ปี เป็นรองนายกรัฐมนตรี ๓ สมัย รัฐมนตรี ๕ สมัย ส.ส.๑๐ สมัย อดีตคอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์สยามรัฐ และผู้ร่วมก่อตั้งหนังสือพิมพ์เดลิมิเรอร์ เขาเป็นผู้หนึ่งที่เป็นแมวเก้าชีวิตทางการเมือง เป็นทั้งฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้านมาแล้วหลายรอบ และไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใดก็โด่งดังโดยตลอด ไม่เคยกลัวใคร กล้าคิด กล้าพูด กล้าทำ และทะเลาะกับสื่อมวลชนในหลายสถานการณ์ที่เจ้าตัวยืนยันว่า ขอสั่งและสอนด้วยความปรารถนาดี

            เป็นธรรมดาเมื่อให้เยี่ยมเยือนถึงบ้าน ก็คงจะต้องถามคำถามแบบสบายๆ ว่าคนทั่วไทย อยากจะทราบว่าผู้ว่าฯกทม.ยุควิกฤตเศรษฐกิจเงินเดือนเท่าไหร่ นำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ชักหน้าไม่ถึงหลังเหมือนคน กทม. ส่วนใหญ่หรือไม่ ก็ได้รับคำตอบที่น่ารักว่า

             “ผมได้เงินเดือน ๑ แสนบาท กับค่ารับรองอีก ๒,๕๐๐ บาท แต่ภาษีแพงเหลือเกิน หักแล้วเหลือแปดหมื่นเจ็ดพันบาท จ่ายเป็นค่าพวงหรีดเดือนละหมื่นบาท ผมมีเจ้าประจำเขาคิดพวงละ ๕๐๐ บาท เดือนหนึ่งก็ ๒๐ พวง หมื่นบาท ค่าถวายของพระเดือนละหมื่นบาท เวลาเป็นเจ้าภาพงานศพเราไม่เอาของวัด แต่เราจะมีไปเอง ไปงานแต่งงานอีก หมื่นบาท ผู้ว่าฯใส่ซองครั้งละห้าพันบาท ไม่ลดไปกว่านี้ เงินเดือนที่ได้มาก็หมดสิครับ ผมจ่ายกับข้าวสัปดาห์ละ ๒ ครั้ง ไม่มีเหลือหรอก สังคมเอาไปกินหมด ไม่มีเหลือให้คุณหญิง เขาก็ใช้ของเขา เงินเดือนมากกว่าผมตั้ง ๓ เท่า คุณหญิงอยู่ได้ ไม่เดือดร้อน ผมทำงานแล้วไม่มีเงินเหลือไม่เห็นเป็นไร ผมจะมีอะไรมากไปกว่านี้อีก”

            ส่วนการทำหน้าที่พิธีกรกิตติมศักดิ์รายการโทรทัศน์ ชิมไปบ่นไป ที่ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา ๑๐.๓๐ น. - ๑๑.๐๐ น. ทางไอทีวี ผลิตรายการโดยบริษัทเฟสมีเดีย เป็นเงินเดือนเดือนละ ๘ หมื่นบาท ก็บริจาคให้กองทุนสุนัขและแมวจรจัดสังกัดกรุงเทพมหานคร เพื่อทำหมันและใส่ปลอกคอสีเขียว
 
 
ด้วยความที่ชอบแมวเป็นชีวิตจิตใจ ไม่ว่าการตกแต่งที่มุมไหนในตัวบ้าน เราจึงพบแต่ “แมว” เต็มไปหมด
             “ชีวิตผมไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้อีกแล้ว ผมมีบ้านอยู่ มีเงินในกระเป๋าพอกินข้าว อย่างกินข้าวกลางวัน ผมเดินคนเดียวกิน ๒๐ บาท ชามเดียวก็พอแล้ว ผมต้องลดพุงกินชามเดียว แต่ถ้าไปกันหลายๆ คน ผมเลี้ยงเขาบ้าง เขาเลี้ยงผมบ้างสลับกันไป ก่อนผมกลับเข้าบ้านตอนเย็น ผมก็ซื้อผลไม้ติดไม้ติดมือกลับบ้านตามแต่สะดวก แวะที่ไหนก็ซื้อได้ บางทีก็บางลำภู ตลาด อตก. บางวันอยากซื้อของถูกใจ ขนมถ้วย กะลอจี้ หน้าห่วงเส็ง ข้าวมันส้มตำ หน้าตั้งฮั่วเส็ง จุ๋ยก้วย กล้วยเชื่อม ไข่เชื่อมเละๆ ลูกเขยผมสองคนชอบทุเรียนผมก็ซื้อฝากเขา ผมเป็นพ่อบ้านที่จำได้ว่าใครชอบอะไร มีโอกาสก็ซื้อกลับบ้าน บ้านผมรับประทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันตอนทุ่มหนึ่ง ใครไม่มาไม่รอทานกันไปก่อน เรากินข้าวพร้อมกัน ๖ คน”

            ทุกวันนี้ภารกิจในงาน กทม.บริหารข้าราชการ กทม. ๒ หมื่นคน และลูกจ้างอีก ๕ หมื่นคน เพื่อให้คนกรุงเทพฯจำนวน ๑๐ ล้านคน เป็นคนที่อยู่ในทะเบียนบ้าน ๖ ล้านคน และนอกทะเบียนบ้านอีก ๔ ล้านคนนั้นต้องหลอมดวงใจผู้บริหารสภา กทม. ข้าราชการและลูกจ้าง กทม. เป็นอันหนึ่งอันเดียว เป็นครอบครัวเดียวกัน ทำงานอย่างมีความสุข

             “ผมจะไม่ลงไปก้าวก่ายข้าราชการประจำ มีอะไรจะพูดกับผู้บังคับบัญชาสูงสุดคือปลัด กทม. ผู้บริหาร กทม. มีเพียง ๖ คน ที่ปรึกษา ๔ คน มีหน้าที่ให้คำปรึกษา ไม่มีหน้าที่ไปยุ่งเกี่ยวหรือก้าวก่ายกับการบริหารงานข้าราชการประจำ ข้าราชการทุกระดับชั้นต้องมีความเป็นตัวของตัวเอง ทำงานให้สนุกไม่ต้องมีความทุกข์หรือแหงนคอดูเบื้องบนว่าคนเป็นผู้บังคับบัญชาในระดับสูงจะเอาอย่างไร”

เขากล่าวต่อไปว่า

             “สิ่งสำคัญที่พูดเสมอๆ คือไม่ชอบการตั้งแถวรอรับ ไปเองกลับเองได้ ใครมีหน้าที่อะไรก็ทำไป ไม่ต้องมาคอยรวมกลุ่มคอยรับรอง ที่ไม่ชอบมากที่สุดคือก่อนนัดหมายพิธีการ เอานักเรียนมาเข้าแถวตากแดดกันหัวแดง กะเกณฑ์คนมารับมาแสดงพลังกัน ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องเอาดนตรีมาบรรเลงรับ

            การเป็นผู้ว่าฯกทม.งานหนักกว่าสมัยที่เป็น ส.ส.ทั้งนี้จะมีงานตั้งแต่เช้าจรดเย็น หลังเลิกงานแล้วยังมีงานสังคมลมโชย งานแต่งงาน งานศพ งานปาฐกถา บางวันมีถึง ๔ งานเรียงคิวกัน เคยตั้งใจว่าทุกวันเสาร์จะทำงานให้พรรคประชากรไทย และวันอาทิตย์เป็นวันหยุดสำหรับครอบครัว แต่ที่สุดกลายเป็น ๗ วัน ทำงานสำหรับ กทม.ทั้งหมด”

            จากการสนทนาได้ทราบว่าแม้งานหนักอย่างไร คุณสมัครก็ได้ค้นพบว่างานสนุกได้พัฒนา เป็นงานที่ท้าทายเพราะแม้เริ่มต้นเข้ามาบริหารงานตั้งแต่วันแรกไม่มีงบประมาณให้ใช้ เพราะเงิน ๒๓,๐๐๐ ล้านบาท และเงินอีก ๗,๖๐๐ ล้านบาท เป็นเงินอุดหนุนจากทางรัฐบาลได้จัดสรรไว้หมดแล้วด้วยคณะผู้บริหารชุดเก่า จึงไม่มีช่องทางไปรื้อหรือทำใหม่ได้อีก แต่ถึงแม้จะไม่มีงบประมาณก็สามารถคิดสร้างสรรค์งานได้ด้วยการดึงภาคเอกชนทั้งในเมืองไทยและจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจีน คุณสมัครกล่าวว่า

 
สมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าราชการ กทม.
             “ผมได้เงินเดือน ๑ แสนบาทกับค่ารับรองอีก ๒,๕๐๐ บาท หักภาษีแล้วเหลือ ๘ หมื่น ๗ พัน จ่ายเป็นค่าพวงหรีดงานศพเดือนละหมื่น ค่าเป็นเจ้าภาพถวายของพระเดือนละหมื่น งานแต่งงานเดือนละหมื่น ผู้ว่าใส่ซองครั้งละห้าพันบาท...ไม่เหลือหรอก สังคมเอาไปกินหมด ผมจ่ายกับข้าวสัปดาห์ละ ๒ ครั้ง ไม่มีเหลือให้คุณหญิง”
 
 
คุณหญิงสุรัตน์ สุนทรเวช
             “คุณหญิงเขาก็ใช้ของเขา เงินเดือนมากกว่าผมตั้ง ๓ เท่า คุณหญิงอยู่ได้ไม่เดือดร้อน ผมทำงานแล้วไม่มีเงินเหลือไม่เห็นเป็นไร” สมัคร สุนทรเวช
 
             “ญี่ปุ่นเขาต้องการสร้างงานนอกประเทศ โดยเฉพาะถ้าคนไทยคบค้าสมาคมกับคนเหล่านี้สามารถสร้างงานและคนไทยเรียนรู้งานได้อีกมาก เป็นการแก้วิกฤตเศรษฐกิจให้ประเทศไทยได้ด้วย”

            ระหว่างการให้สัมภาษณ์อยู่นั้นเป็นช่วงเวลา ๑๐.๓๐ น. คุณสมัครได้ชวนชาวคณะสกุลไทยมานั่งอยู่หน้าจอโทรทัศน์เพื่อดูรายการชิมไปบ่นไปพร้อมกัน เจ้าของบ้านนั่งลงที่พื้นพรมและจ้องดูโทรทัศน์พลางหัวเราะอย่างมีความสุข ที่ได้ทำหน้าที่พิธีกรกิตติมศักดิ์ทำกับข้าวให้คนทั้งประเทศดูกันทั่วหน้า เป็นรายการที่มีดนตรีไทยเล่นเพลงเก่าๆ ประกอบ เช่น โสมส่องแสง และอีกหลายเพลงที่หาฟังยากในสมัยนี้ ไม่น่าเชื่อว่ารายการครึ่งชั่วโมงมีสปอนเซอร์เต็มเหยียด เช่น ขนมปังฟาร์มเฮ้าส์ น้ำส้มสายชูกลั่น อสร. ซุปไก่ผงชอยส์ ง่วนสูนพริกไทย กะทิฮาวาย เตาแก๊สอีมาแฟล็กซ์ เฟอร์นิเจอร์ครัวอินเด็กซ์

             “ผมไปอัดเทปรายการเดือนละครั้งครั้งละ ๖ ชั่วโมง ที่สตูดิโอ ๖๔ เตรียมเสื้อไปเอง ๔ ตัว เป็นเสื้อจิม ทอมป์สัน เขาก็ยังไม่ยอมเป็นสปอนเซอร์ ผมลงทุนซื้อไปเองเข้ารายการชวนไปกิน เที่ยวไปกินไป ก่อนถึงวันอัดรายการ ผมก็ต้องเตรียมงานไว้ก่อน ช่วงกลางคืนก็โทรศัพท์ไปคุยกับตำรวจท้องที่ว่าผมรู้จักร้านนั้นร้านนี้ยังอยู่ไหม ตอนนี้มีร้านไหนอร่อยอีก ก็จะเขียนแผนที่ให้ทีมงานเข้าไปสำรวจและถ่ายทำไว้ก่อนอัดรายการ แล้วเขาก็มารายงานในวันถ่ายทำเราก็พูดตามข้อมูล ตอนหลังทำรายการให้ง่ายขึ้น เมื่อเสนอเรื่องก๋วยเตี๋ยวราดหน้าก็พูดถึงราดหน้าหลายๆ แห่ง ข้าวหมกไก่ ก็ข้าวหมก ข้าวแกงทำให้ทุ่นเวลา เขียนบัญชีชื่อไว้ งานสนุกดีเขาทำรายการถี่ถ้วนขึ้นผมถูกใจ นี่ทำกันมา ๓๑ เสาร์แล้ว”

            สุภาพบุรุษผู้นี้มีชีวิตส่วนตัวที่น่าสนใจมากมาย เขาชอบซื้อกับข้าวและทำกับข้าวเองมาตั้งแต่เล็ก เล่นกลมาแล้วกว่า ๒๐ ปี ชอบเลี้ยงแมวมีชีวิตและสะสมแมวพอร์ซีเลนจากประเทศต่างๆ จากการเดินทางรอบโลกมาแล้ว ๒๖ ครั้ง เป็นแมวทั้งหมด ๓ ร้อยกว่าตัว รวมทั้งปฏิทิน หนังสือ รูปภาพและอะไรอีกหลายอย่างที่เกี่ยวกับแมวซึ่งเมื่อมีผู้รู้ว่าคุณสมัครชอบแมว ก็จะส่งเรื่องที่เกี่ยวกับแมวมาให้ ดังนั้น ของทุกอย่างที่เกี่ยวกับแมวจึงจัดอย่างเป็นระเบียบภายในห้องหนึ่งๆ ซึ่งปกติจะไม่ค่อยมีใครได้เข้าไปเยี่ยมกราย แต่เจ้าของบ้านอนุญาต คณะของเราจึงมีโอกาสเข้าไปชื่นชมอยู่นาน

             “ผมชอบดูหนังโรง สมัยก่อนดูเกือบทุกเรื่องที่อยากดู ไปคนเดียว ก็คุณหญิงเขาไม่ชอบดูหนัง ส่วนลูกๆ เขาก็ไปดูกับกลุ่มพรรคพวกเขา ตั้งแต่เป็นผู้ว่าฯยังไม่ได้เข้าโรงหนังมาปีหนึ่งแล้ว ตั้งใจจะไปดูเพิร์ล ฮาเบอร์ ก็ยังไม่ได้ดูสักที สงสัยจะต้องรอดูจากยูบีซีเสียแล้ว เวลานี้ก็เลยดูหนังอยู่กับบ้านแล้ว”

            เมื่อถามถึงการเล่นกล เราได้รับคำตอบว่า

             “ไม่ได้ฝึกซ้อมมากมาย เวลามีฝรั่งหรือแขกเหรื่อเข้าพบก็เล่นสนุกๆ ให้ดูจับผิดไม่ได้ ก็หัวเราะสนุกสนานกันไป”

            งานสำคัญเร่งด่วนของ กทม.คือการสร้างที่อยู่อาศัยราคายุติธรรมสำหรับคนกรุงเพื่อจะได้มีบ้านอยู่ไม่ไกลที่ทำงาน คืออาคารแฟลตฝักข้าวโพด

             “คนส่วนใหญ่ที่ทำงาน กทม.มีบ้านพักอยู่ชานเมือง สมุทรปราการ สมุทรสาคร นนทบุรี ปากเกร็ด บางมด ต้องตื่นนอนตั้งแต่ตี ๔ ตี ๕ มาทำงาน คนโสดยังไม่มีภาระก็ทำได้ แต่คนที่มีลูกรับส่งลูกไม่มีรถของตัวเอง ต้องโหนรถเมล์ก็ต้องเดือดร้อน”

            แฟลตฝักข้าวโพดไม่ไกลจากที่ทำงานสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก ผ่อนส่งเดือนละ ๓,๗๕๐ บาท เนื้อที่ ๔๐ ตารางเมตร ได้สิทธิเป็นเจ้าของเมื่อผ่อนส่งครับ ๒๕ ปี จ่ายเงินดาวน์ ๕,๙๐๐ บาท เป็นเวลา ๑๕ เดือนกับธนาคาร โครงการนี้เตรียมไว้ที่ถนนรามคำแหง หลังตลาด อตก. หลังประดิพัทธ์และฝั่งธนบุรี จะขยายไปยังย่านชุมชนต่างๆ โฉมหน้า กทม.จะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิเป็นการสร้างที่อยู่อาศัยให้ใกล้กับแหล่งงานมากขึ้น

             “บริเวณชั้นล่างของอาคารแฟลตฝักข้าวโพด จะกันพื้นที่ให้ผู้ที่เกษียณอายุแล้วรับเงินบำนาญเข้ามาอยู่ อย่างน้อยคู่สามีภรรยาที่เกษียณอายุแล้วจะได้มีคนคอยดูแล รวมถึงคู่สมรสใหม่ที่มีลูกเล็กจะได้นำฝากเลี้ยงไว้ข้างล่าง เช้ามาส่งเย็นมารับทำให้ความสัมพันธ์ของคนสามวัยเป็นไปด้วยดี จ่ายค่าเลี้ยงดูให้คนที่เกษียณแล้วมีงานทำ คนหนุ่มสาวก็ไปทำงานได้สะดวกไม่ต้องห่วงมากเพราะมีผู้สูงอายุช่วยกันเลี้ยงดูลูกผูกสมัครรักใคร่กัน” ท่านผู้ว่าราชการกล่าว

            เมื่อถามถึงเรื่องระบบขนส่งมวลชน ท่านผู้ว่าฯกล่าวว่า

             “โครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพฯที่ต้องต่อขยายเป็นวงกลม ปัจจุบันรถไฟฟ้า BTS แยกเป็นสองเส้นทาง ๓ ทิศ ระยะทาง ๒๓ กิโลเมตร ใช้เวลาก่อสร้างนาน ๗ ปี เจอวิกฤตการเงิน ๔ ปี เพิ่มค่าก่อสร้างจาก ๓ หมื่นล้านบาท เป็น ๕ หมื่นล้านบาท เก็บเงินได้วันละ ๔ ล้านบาท ค่าเดินรถวันละ ๕ ล้านบาท ต้องแบกภาระดอกเบี้ยวันละ ๘ ล้านบาท เท่ากับติดลบวันละ ๙ ล้านบาท

            บริการระบบขนส่งมวลชนต้องขยายออกไปจากสะพานสาทรอีก ๓๐ กิโลเมตร ไปถึงสมุทรสาครทางด้านเหนือต่อออกไปให้ถึงอนุสรณ์สถาน แล้วเส้นทางเข้าถนนดอนเมือง คลอง ๑๖ เข้าไปถึงอำเภอลำลูกกา ด้านตะวันออกต้องต่อจากสำโรงไปถนนเทพารักษ์ถึงบางพลี โดยให้บริษัทกรุงเทพธนาคมเป็นผู้ถือหุ้นเพื่อให้เกิดความมั่นใจในเรื่องเงินที่กู้ยืมแล้วสามารถใช้คืนได้” ท่านอธิบายต่อไปว่า

             “นอกจากนี้จำเป็นต้องสร้างรถไฟชานเมืองรอบกรุงเทพฯระยะทาง ๑๒๐ กิโลเมตรวิ่งติดพื้นบนแนวทางที่เหลือบนแนวถนนวงแหวนรอบนอก ด้านตะวันออก ตะวันตก และด้านใต้กับแนวถนนที่อยู่ด้านเหนือของกรุงเทพฯ ที่วิ่งจากด้านตะวันออกไปตะวันตก ออกจากมีนบุรียกระดับไปบนถนนรามอินทรา ถนนแจ้งวัฒนะ ไปถึงท่าน้ำนนทบุรี ข้ามสะพานตามโครงการออกถนน ๓๔๕ เลี้ยวซ้ายเข้าวงแหวนด้านตะวันตก ไปจนถึงบางบอน วิ่งด้านล่างของทางยกระดับจากบางบอนไปถึงคอคอดตรงกระเพาะหมูที่แม่น้ำแคบที่สุด มุมลอดใต้แม่น้ำ ๓๘๐ เมตร ไปโผล่ที่ถนนปู่เจ้าสมิงพราย ผ่านสุขุมวิทไปตามแนวถนนเทพารักษ์ถึงบางพลี เลี้ยวขวาเข้าตามแนวถนนวงแหวนด้านตะวันออกผ่านถนนบางนา-ตราด ผ่านอ่อนนุชไปถึงมีนบุรี” ท่านผู้ว่าราชการกล่าวอย่างแคล่วคล่องว่องไว ไม่ติดขัด แสดงถึงความทรงจำยังดีอยู่มาก ท่านกล่าวถึง กทม.ในความฝันต่อไปอีกว่า

             “และยังมีโครงการทำสนามหลวง ๓ มุมเมืองใหม่ของ กทม. บนที่ดินว่างเปล่ากว่าพันไร่ ทำสนามหลวงฟื้นอดีตในบรรยากาศเก่าๆ มีลานขี่จักรยาน ลานกีฬากลางแจ้ง ลานเล่นว่าวหลากสี สวนสัตว์อะควอเรียม แสดงความเป็นอยู่ของปลาทั้งหลายไว้ให้ผู้คนที่ไม่เคยดำน้ำลงไปใต้ทะเลดูที่นี่จะเป็นเมืองใหม่อยู่ระหว่างรอยต่อเขตสะพานสูงกับเขตบางกะปิทางถนนกรุงเทพกรีฑา บริเวณรอบนอกสามารถสร้างเป็นที่อยู่อาศัยชั้นดีอยู่ใกล้กับสนามกอล์ฟยูนิโก้กรุงเทพกรีฑา สามารถเป็นที่อยู่ long stay สำหรับชาวญี่ปุ่นที่เกษียณอายุแล้วพักผ่อนในค่าครองชีพที่ถูกกว่าหลายเท่าตัวในประเทศญี่ปุ่น”

            เท่าที่ได้สดับตรับฟังดังได้สรุปมาถ่ายทอด ณ ที่นี้นั้น โฉมหน้ากรุงเทพฯจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ด้วยการผลักดันให้เอกชนสานงานของราชการ เพื่อให้ชาวกรุงเทพฯได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีโอกาสได้พักผ่อนและมีความสุขในการใช้ชีวิตในเมือง ไม่ต้องเหนื่อยล้ากับการเดินทาง เราจึงต้องเห็นคุณภาพชีวิตและคุณภาพงานดีขึ้นในวันนี้และวันข้างหน้า มีความสุขกันถ้วนหน้าไม่ว่าจะยากดีหรือมีจนอย่างไร

 


ที่มา http://www.sakulthai.com/DSakulcolumndetail.asp?stauthorid=39&stcolcatid=1&stcolumnid=942&stissueid=2453



search จาก google
เว็บสกุลไทยยังเก็บข้อมูลไว้อยู่

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-05-2008, 02:16 โดย tong » บันทึกการเข้า

.....................................................

* * W A N T E D - DEAD OR ALIVE * *

73,000 million Baht PRICED !! A "walk-like-a-man" gator
Accused in swallowing his own mother land in cheap !!
999
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,022



« ตอบ #1 เมื่อ: 24-05-2008, 02:11 »



อันนี้เห็นแล้วแต่ไม่ได้แสดงว่าเป็นลูกจ้างได้หรอกครับ

เขาต้องดูสัญญาว่าจ้าง.. หลุดครับ อย่าไปลุ้น
บันทึกการเข้า

ABCAB
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 311


Wipe out Thaksin


« ตอบ #2 เมื่อ: 24-05-2008, 02:19 »


อันนี้เห็นแล้วแต่ไม่ได้แสดงว่าเป็นลูกจ้างได้หรอกครับ

เขาต้องดูสัญญาว่าจ้าง.. หลุดครับ อย่าไปลุ้น



ก็ไม่แน่นะครับ
ส่วนเรื่องสัญญาว่าจ้าง อย่าไปหวัง
ตอนนี้คงไม่เหลืออะไรมาอ้างอิงได้แล้ว
บันทึกการเข้า

.....................................................

* * W A N T E D - DEAD OR ALIVE * *

73,000 million Baht PRICED !! A "walk-like-a-man" gator
Accused in swallowing his own mother land in cheap !!
999
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,022



« ตอบ #3 เมื่อ: 24-05-2008, 02:21 »


ก็ไม่แน่นะครับ
ส่วนเรื่องสัญญาว่าจ้าง อย่าไปหวัง
ตอนนี้คงไม่เหลืออะไรมาอ้างอิงได้แล้ว


คุณสดศรีออกมาพูดแล้ว  ก็แล้วแต่ครับรอดูไม่กี่วันเอง
บันทึกการเข้า

login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #4 เมื่อ: 24-05-2008, 02:23 »

ส่วนที่ ๒
การกระทำที่เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์
มาตรา ๒๖๕ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาต้อง
(๑) ไม่ดำรงตำแหน่งหรือหน้าที่ใดในหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ
หรือตำแหน่งสมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น หรือข้าราชการส่วนท้องถิ่น
(๒) ไม่รับหรือแทรกแซงหรือก้าวก่ายการเข้ารับสัมปทานจากรัฐ หน่วยราชการ หน่วยงาน
ของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือเข้าเป็นคู่สัญญากับรัฐ หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ
อันมีลักษณะเป็นการผูกขาดตัดตอน หรือเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่รับ
สัมปทานหรือเข้าเป็นคู่สัญญาในลักษณะดังกล่าว ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม

(๓) ไม่รับเงินหรือประโยชน์ใด ๆ จากหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ
เป็นพิเศษนอกเหนือไปจากที่หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ ปฏิบัติต่อบุคคลอื่น ๆ
ในธุรกิจการงานตามปกติ
(๔) ไม่กระทำการอันเป็นการต้องห้ามตามมาตรา ๔๘
บทบัญญัติมาตรานี้มิให้ใช้บังคับในกรณีที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภา
รับเบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญ เงินปีพระบรมวงศานุวงศ์ หรือเงินอื่นใดในลักษณะเดียวกัน และมิให้ใช้
บังคับในกรณีที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภารับหรือดำรงตำแหน่งกรรมาธิการของ
รัฐสภา สภาผู้แทนราษฎร หรือวุฒิสภา หรือกรรมการที่ได้รับแต่งตั้งในการบริหารราชการแผ่นดิน
ให้นำความใน (๒) (๓) และ (๔) มาใช้บังคับกับคู่สมรสและบุตรของสมาชิกสภาผู้แทน
ราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภา และบุคคลอื่นซึ่งมิใช่คู่สมรสและบุตรของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือ
สมาชิกวุฒิสภานั้น ที่ดำเนินการในลักษณะผู้ถูกใช้ ผู้ร่วมดำเนินการ หรือผู้ได้รับมอบหมายจาก
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาให้กระทำการตามมาตรานี้ด้วย
มาตรา ๒๖๖ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาต้องไม่ใช้สถานะหรือตำแหน่ง
การเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาเข้าไปก้าวก่ายหรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของ
ตนเอง ของผู้อื่น หรือของพรรคการเมือง ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม ในเรื่องดังต่อไปนี้
(๑) การปฏิบัติราชการหรือการดำเนินงานในหน้าที่ประจำของข้าราชการ พนักงาน หรือ
ลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ กิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่ หรือราชการ
ส่วนท้องถิ่น
(๒) การบรรจุ แต่งตั้ง โยกย้าย โอน เลื่อนตำแหน่ง และเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการ
ซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำและมิใช่ข้าราชการการเมือง พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยราชการ
หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ กิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่ หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือ
(๓) การให้ข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำและมิใช่ข้าราชการการเมือง
พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ กิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่ หรือ
ราชการส่วนท้องถิ่น พ้นจากตำแหน่ง
มาตรา ๒๖๗ ให้นำบทบัญญัติมาตรา ๒๖๕ มาใช้บังคับกับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีด้วย เว้นแต่เป็นการดำรงตำแหน่งหรือดำเนินการตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย และจะดำรงตำแหน่งใดในห้างหุ้นส่วน บริษัท หรือองค์การที่ดำเนินธุรกิจโดยมุ่งหาผลกำไรหรือรายได้มาแบ่งปันกัน หรือ เป็นลูกจ้างของบุคคลใดก็มิได้ด้วย
มาตรา ๒๖๘ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีจะกระทำการใดที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๖๖
มิได้ เว้นแต่เป็นการกระทำตามอำนาจหน้าที่ในการบริหารราชการตามนโยบายที่ได้แถลงต่อรัฐสภา
หรือตามที่กฎหมายบัญญัติ
มาตรา ๒๖๙ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต้องไม่เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วน
หรือบริษัท หรือไม่คงไว้ซึ่งความเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทต่อไป ทั้งนี้
ตามจำนวนที่กฎหมายบัญญัติ ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีผู้ใดประสงค์จะได้รับประโยชน์
จากกรณีดังกล่าวต่อไป ให้นายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีผู้นั้นแจ้งให้ประธานกรรมการป้องกันและ
ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติทราบภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้ง และให้นายกรัฐมนตรี
หรือรัฐมนตรีผู้นั้นโอนหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทดังกล่าวให้นิติบุคคลซึ่งจัดการทรัพย์สินเพื่อ
ประโยชน์ของผู้อื่น ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ
นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีจะกระทำการใดอันมีลักษณะเป็นการเข้าไปบริหารหรือจัดการใด ๆ
เกี่ยวกับหุ้นหรือกิจการของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทตามวรรคหนึ่ง มิได้

บทบัญญัติมาตรานี้ให้นำมาใช้บังคับกับคู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของ
นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีด้วย และให้นำบทบัญญัติมาตรา ๒๕๙ วรรคสาม มาใช้บังคับโดยอนุโลม
--------------------------------------------------------------------

ผิดมาตราไหนบ้างก็ดูกันครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-05-2008, 02:31 โดย login not found » บันทึกการเข้า
ABCAB
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 311


Wipe out Thaksin


« ตอบ #5 เมื่อ: 24-05-2008, 02:36 »

^
^
อันนี้แหละครับ ที่กำลังหาอยู่
ขอบคุณมากครับ



 
บันทึกการเข้า

.....................................................

* * W A N T E D - DEAD OR ALIVE * *

73,000 million Baht PRICED !! A "walk-like-a-man" gator
Accused in swallowing his own mother land in cheap !!
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #6 เมื่อ: 24-05-2008, 02:53 »

พักนี้พวกนี้ทำผิดแล้วชอบอ้างกันบ่อย
ไหนจะเรื่องแก้ รธน.อีก
มี รธน. 2550 เก็บไว้อ้างอิงก็ดีครับ

หากยังไม่มีโหลดจากนี่ได้เลย
รัฐธรรมนูญ 2550
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2550/A/047/1.PDF

รัฐธรรมนูญ 2540
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2540/A/055/1.PDF
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-05-2008, 02:58 โดย login not found » บันทึกการเข้า
ABCAB
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 311


Wipe out Thaksin


« ตอบ #7 เมื่อ: 24-05-2008, 11:13 »

โหลดแล้วครับ ขอบคุณอีกครั้ง

 
บันทึกการเข้า

.....................................................

* * W A N T E D - DEAD OR ALIVE * *

73,000 million Baht PRICED !! A "walk-like-a-man" gator
Accused in swallowing his own mother land in cheap !!
RiDKuN
Administrator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,015



เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 24-05-2008, 15:48 »

ใน wikisource ก็มี อาจจะดูได้ง่ายกว่าครับ

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย_พุทธศักราช_๒๕๕๐
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย_พุทธศักราช_๒๕๔๐
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-05-2008, 18:00 โดย RiDKuN » บันทึกการเข้า

คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #9 เมื่อ: 25-05-2008, 15:21 »

กกต. เสียงแตก คดีสมัคร ‘ลูกจ้างหรือรับจ้าง’ ระบุไม่มีอำนาจ
วินิจฉัยเรื่อง รธน.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว. ระบบสรรหา ยื่นเรื่อง
ร้องเรียนให้ กกต. ตรวจสอบคุณสมบัติของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี
กรณีจัดรายการ ชิมไป บ่นไป ทาง ททบ.5 และรายการยกโขยง 6 โมงเช้า ซึ่ง
อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ เป็นผลให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงนั้น   

มีรายงานว่า ภายใน กกต. มีความเห็นแตกออกไปอย่างน้อย 2 ทางในกรณีสิทธิ
ในการยื่นเรื่องดังกล่าวต่อ กกต. โดยแนวทางแรกเห็นว่า นายเรืองไกร สามารถ
ร้องต่อ กกต. ได้ เนื่องจากรัฐธรรมนูญ มาตรา 267 ที่ระบุว่า นายกรัฐมนตรีและ
รัฐมนตรีจะดำรงตำแหน่งใด ในห้างหุ้นส่วน บริษัท หรือองค์การที่ดำเนินธุรกิจโดย
มุ่งหาผลกำไรหรือรายได้มาแบ่งปันกัน หรือเป็นลูกจ้างของบุคคลใดมิได้ ซึ่งการ
ส่งเรื่องมายัง กกต.นั้น อาจทำให้ กกต. ส่งเรื่องการสิ้นสุดของการดำรงตำแหน่ง
รัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 182 วรรคท้าย ที่ระบุว่า ให้
คณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นผู้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ด้วย

อย่างไรก็ตาม มีฝ่ายที่เห็นว่า นายเรืองไกร ไม่สามารถใช้ช่องทางมาร้องเรียน
กกต. เรื่องคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีได้เอง แต่ต้องใช้สิทธิ์ของความเป็นสมาชิก
วุฒิสภา ตามมาตรา 91 ของรัฐธรรมนูญ ที่ระบุให้สมาชิกวุฒิสภาจำนวนไม่น้อย
กว่าหนึ่งในสิบของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา เข้าชื่อร้องต่อ
ประธานวุฒิสภาว่า สมาชิกภาพของสมาชิกคนใดคนหนึ่งนั้นสิ้นสุดลง ซึ่งฝ่ายที่
เห็นว่า นายเรืองไกร ใช้ช่องทางในการร้องเรียนไม่ถูกต้อง เชื่อว่ากรณีดังกล่าว
อาจส่งผลให้ กกต. ไม่มีอำนาจที่จะวินิจฉัยได้ และ กกต. ไม่มีอำนาจส่งเรื่องไป
ยังศาลรัฐธรรมนูญตามรัฐธรรมนูญมาตรา 182 วรรคท้ายที่ให้ กกต. เป็นผู้ส่งเรื่อง
ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพราะยังไม่มีการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 91

นอกจากนั้นยังเห็นว่า กกต. ไม่มีอำนาจวินิจฉัยเรื่องที่เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ แต่อำนาจ
ของ กกต. เป็นไปตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. มาตรา 10 (10) ที่
ระบุว่าให้ กกต. มีอำนาจหน้าที่ในการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงและวินิจฉัย
ชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้งที่เกิดขึ้น เกี่ยวกับการปฏิบัติตาม พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรม-
นูญเพียง 4 ฉบับ ประกอบด้วย 1) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการ
เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 2) พระราชบัญญัติ
ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 3) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่า
ด้วยการออกเสียงประชามติ 4) กฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือ
ผู้บริหารท้องถิ่น

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายที่เห็นว่า กกต. ไม่มีอำนาจวินิจฉัยเรื่องรัฐธรรมนูญนี้ แสดงความ
เห็นว่ากกต. อาจวินิจฉัยกรณีคุณสมบัติของนายสมัครได้ หากส่งเรื่องการร้องเรียน
มาตั้งแต่นายสมัคร ยังไม่ได้รับการรับรองให้เป็น ส.ส. เพราะ กกต. ยังสามารถใช้
อำนาจตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง
ส.ว. ในการตรวจสอบคุณสมบัติได้ แต่หลังจากนายสมัครได้รับการรับรองเป็น ส.ส.
แล้ว การจะถอดถอนหรือตรวจสอบควรจะเป็นเรื่องของรัฐสภา เว้นแต่ยื่นเรื่องมาถึง
กกต. ก่อนที่นายสมัครจะได้รับการรับรองเป็น ส.ส. และ กกต. ยังสืบสวนสอบสวน
เรื่องค้างอยู่ จึงจะสามารถยื่นศาลรัฐธรรมนูญได้ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 182 วรรค
ท้ายที่ให้ กกต. เป็นผู้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ด้วย

ทั้งนี้ฝ่ายที่เห็นว่าการตรวจสอบคุณสมบัติของนายสมัคร ไม่ใช่เรื่องของ กกต. ยัง
เห็นว่ากรณีการร้องเรียนดังกล่าว ผู้ร้องอาจจะต้องไปร้องต่อคณะกรรมการป้องกัน
และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะองค์กรตรวจสอบตามรัฐธรรม-
นูญ มาตรา 62 ที่ระบุว่า “บุคคลย่อมมีสิทธิติดตามและร้องขอให้มีการตรวจสอบการ
ปฏิบัติหน้าที่ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หน่วยงานของรัฐ และเจ้าหน้าที่ของ
รัฐ…” ซึ่งการร้องเรียนต้องร้องต่อองค์กรตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐหรือหน่วยงาน
ของรัฐ เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ยกตัวอย่างเช่น
ควรร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ว่าการกระทำของนายสมัครอาจเข้าข่ายทุจริตหรือไม่ ซึ่ง
การมาร้องต่อ กกต. นั้นอาจทำให้เรื่องตกไป ด้วยเหตุว่า การยื่นเรื่องไม่ถูกต้อง แม้
เนื้อหาตามข้อเท็จจริงอาจจะสามารถถอดถอนตำแหน่งของนักการเมืองได้ก็ตาม

http://www.prachatai.com/05web/th/home/12263

ยื่นไม่ถูกที่ ไม่ถูกเวลา ก็อาจใช้การไม่ได้นะจ๊ะ

ยื่น "หลัง" จากเป็น สส. ก็ไม่เกี่ยวกับ กกต. ที่มีหน้าที่พิจารณาเฉพาะกรณี "ก่อน"

ยื่นให้ "พ้น" จากการเป็นรัฐมนตรี หรือยื่นถอดถอน ต้องไปยื่นในสภา

หรือไม่งั้นก็กับ ปปช. ข้อหาทุจริตต่อหน้าที่ เลย


ว่าแต่ ตำแหน่ง สว. ลากตั้ง นี้ ทั่นได้แต่ใดมา

ใช่เพราะว่า เคยทำเรื่องจ่ายภาษีที่พ่อยกหุ้นให้ อันโด่งดัง นั่นหรือเปล่า

วานบอก
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
ABCAB
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 311


Wipe out Thaksin


« ตอบ #10 เมื่อ: 26-05-2008, 12:36 »


ขอบคุณอีกครั้งครับ

 
บันทึกการเข้า

.....................................................

* * W A N T E D - DEAD OR ALIVE * *

73,000 million Baht PRICED !! A "walk-like-a-man" gator
Accused in swallowing his own mother land in cheap !!
หน้า: [1]
    กระโดดไป: