ใบสั่งเก็บ... 'จักรภพ เพ็ญแข' วันที่ 22 พฤษภาคม 2551 เวลา 08:07:41 น. ส่งข่าว พิมพ์ข่าว - ขนาดข้อความ +
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=32164&catid=1 คำประกาศลอยแพ 'จักรภพ เพ็ญแข' ด้วยการยืมปากของ 'พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ' ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายแต่อย่างใด เพราะ 'วาจากร้าว' ที่หลุดออกจากปาก 'จักรภพ' เป็นเรื่องที่ต่อให้ 'คนใหญ่' แค่ไหน ก็ไม่อาจเคลียร์ได้ คำประกาศลอยแพ "จักรภพ เพ็ญแข" รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ด้วยการยืมปากของ "พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ" อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายแต่อย่างใดเพราะ "วาจากร้าว" ที่หลุดออกจากปาก "จักรภพ" ระหว่างกล่าวปาฐกถาที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศ (เอฟซีซีที) เมื่อ 29 สิงหาคม 2550 จนถูกฝ่ายค้านตราหน้าว่าเป็น "บุคคลที่มีทัศนคติอันตราย" เป็นเรื่องที่ต่อให้ "คนใหญ่" แค่ไหน ก็ไม่อาจเคลียร์ได้นอกเสียจากปล่อยให้ "จักรภพ" รับผิดชอบปากตัวเอง..!อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าพฤติกรรมดึงฟ้าลงต่ำ-แอบอ้างสถาบัน เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายในภาวะที่ 2 ขั้วการเมืองกำลังรบพุ่ง แต่ในกรณี "จักรภพ" สังคมต่างรู้ดีว่า
เขาไม่ได้สู้เพื่อตัวเอง แต่เป็นการต่อสู้แทน "ใคร" บางคน"ใคร" คนนั้นจะเป็นอื่นไปไม่ได้ นอกเสียจาก "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี 1 ปีผ่านไป... "องครักษ์พิทักษ์นาย" ได้รับค่าเหนื่อยเป็นเก้าอี้รัฐมนตรี และเขาน่าจะทำหน้าที่ "ตัวล่อ-ตัวชน" ต่อไปได้ หาก "มือที่มองไม่เห็น" ไม่งัด "วีรกรรมย่ามใจ" ในอดีตขึ้นมาล่อจนกระอัก
ผลจากการไล่เด็ดหัว "จักรภพ" เพียงคนเดียว ได้สร้างแรงสะเทือนต่อคนใน พปช.เกือบยกแผง เนื่องจากหลักฐานชิ้นสำคัญว่าด้วย "วาทกรรมจักรภพ" ได้ฉายให้เห็นถึง "แนวรบ-แนวร่วม-ปลายทางในการต่อสู้" แบบหมดหน้าตัก และงานนี้ "วงใน พปช." ประเมินว่าเรื่องวุ่นๆ ที่เกิดจาก "รมต. มุ้งสายบัว" ทำท่าจะสงบไม่ลง
จึงไม่แปลก หากจะมีใบสั่ง "ตัดตอน" นักรบผู้นี้..?แต่ครั้น "นายใหญ่" จะลงไปบัญชาการเขี่ย "จักรภพ" ให้พ้นทางด้วยการปรับออกจาก ครม.ก็ทำไม่ได้ เพราะจะทำให้บรรดาขุนพล แม่ทัพ นายกองที่ขยันออกมาท้าตีท้าต่อยกับ "อรินาย" ตกอยู่ในอาการฝ่อ ฐานลูกพี่ไม่ปกป้อง พอเสร็จนาก็ฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพลทางออกที่ดีที่สุดจึงอยู่ที่การยืมมือ "บุคคลที่ 3" ลงดาบเชือดนิ่มๆ!"ดาบแรก" มี "ขุนพลคู่ใจ" ที่ชื่อ "เนวิน ชิดชอบ" หัวหน้าวังบุรีรัมย์ เป็นผู้รับมอบ ก่อนส่งซิกให้ "ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง" โฆษก พปช.กลุ่มเพื่อนเนวิน ออกมาแกว่งดาบโชว์ พร้อมแกว่งปากสะกิดต่อมรับผิดชอบต่อองค์กรของ "จักรภพ"
"ดาบสอง" ถูกส่งต่อให้ "พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ" อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ออกมาปูดข่าว "ขบวนการล้มปืน ล้มทุน ล้มเจ้า" ว่ากันว่างานนี้มีการจัดฉาก-เตรียมคิวล่วงหน้า โดย "พ.ต.ท.ทักษิณ"ได้เลื่อนเวลาตบเท้าเข้าอวยพรวันคล้ายวันเกิดปีที่ 76 ของ "บิ๊กจิ๋ว" เมื่อ 15 พฤษภาคม จากเดิมตั้งใจจะย่องไปอวยพรเงียบๆ ในเวลา 07.00 น. เป็น 09.00 น. เพื่อให้มีประจักษ์พยานร่วมรู้เห็นการกลับไปเป็น "โซ่เส้นเดียวกัน" ของ "พี่จิ๋ว-น้องแม้ว"
สุดท้ายก็เป็น "บิ๊กจิ๋ว" นั่นเองที่ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า "พ.ต.ท.ทักษิณห่วงใยมากในสิ่งที่คุณจักรภพพูด คุณจักรภพต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ คงต้องพิจารณาว่าจะทำอย่างไร""ดาบสาม" กลับคืนไปอยู่ในมือของ "หัวหน้าวังบุรีรัมย์" ซึ่งพรั่งพร้อมด้วยสรรพกำลัง มี ส.ส.ในสังกัดกว่า 90 ชีวิต และยังมากด้วยข้อมูล "อินไซด์" ของบุคคลที่ตกอยู่ในสภาพ "เชลยทหาร" เนื่องจากเคยร่วมต่อสู้ในฐานะ "นักรบเสื้อแดง" มาด้วยกัน
หาก "เพชฌฆาต" ได้รับสัญญาณให้ลงดาบเมื่อไร ปฏิบัติการฆ่าตัดตอน "จักรภพ" ย่อมสำเร็จเมื่อนั้น
ว่ากันว่าในระยะหลังมานี้ "นายใหญ่และแกนนำวังจันทร์ส่องหล้า" ยอมปล่อยให้ "หัวหน้าวังบุรีรัมย์" แสดง "อำนาจเหนือ" กว่าในการตัดสินใจครั้งสำคัญหลายเรื่อง
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะต้องการโลว์โพรไฟล์ตัวเอง เพื่อลดแรงปะทะจากทั้งภายในและภายนอก
ขณะที่ อีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะต้องการรอรับผลตอบแทน โดยไม่ต้องออกแรง
ดังนั้น การเสีย "นักรบฝีปากกล้า" ไปหนึ่งคนจึงไม่มีผลอะไรต่อ "แนวรบ-แนวร่วม-เป้าหมายในการต่อสู้" ของ พ.ต.ท.ทักษิณเพียงแต่ต้องจัด "ขุนพล" และ "ปรับยุทธวิธี" ให้แนบเนียนมากขึ้นเท่านั้น
หากยังจำกันได้ในช่วงปลายรัฐบาล "ทักษิณ 2" ปี 2549 มีข้อเสนอจากแกนนำพรรคไทยรักไทยให้พ.ต.ท.ทักษิณ "เว้นวรรค" และหันไปเล่นบทบาทผู้ใหญ่ทางการเมือง คอยให้คำปรึกษาแก่นักการเมืองรุ่นหลัง
แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 บทบาท "ผู้นำนอกทำเนียบฯ" ก็หายไป
กระทั่ง พปช.ได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล อดีตนายกฯ ที่ถูกโค่นอำนาจกลับมามีบทบาทอีกครั้ง โดยแสดงออกมาในทำนองเดียวกับ "ลี กวนยู" อดีตนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ หรือ "เหมา เจ๋อ ตุง" อดีตประธานของคณะโปลิตบูโรของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน
ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น "นพดล ปัทมะ" รมว.ต่างประเทศ และรองเลขาธิการ พปช.ยังออกมาระบุว่าคณะผู้บริหารของ พปช.จะลงนามบันทึกความเข้าใจกับพรรคคอมมิวนิสต์จีนว่าด้วยการแลกเปลี่ยนการอบรมบุคลากร
คำถามที่เกิดขึ้นคือ ปลายทางสุดท้ายในการทำสงครามรอบใหม่คืออะไร?
ที่มา หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 11030http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=32164&catid=1