ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
10-07-2025, 08:24
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  อภิรักษ์ ปิ๊งไอเดีย เก็บค่าผ่านทางรถเข้าเมือง 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
อภิรักษ์ ปิ๊งไอเดีย เก็บค่าผ่านทางรถเข้าเมือง  (อ่าน 3135 ครั้ง)
เล่าปี๋
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,417


ทำดีได้ดีมีไฉน ทำชั่วได้ดีมีถมไป


« เมื่อ: 22-05-2008, 07:45 »

              อภิรักษ์ ปิ๊งไอเดีย เก็บค่าผ่านทางรถเข้าเมือง

                                         


“อภิรักษ์” ปิ๊งแก้ลำน้ำมันแพง เล็งออกกฎเก็บเงินค่าผ่านทางเข้าโซนธุรกิจ สีลม-สาทร-สุขุมวิท


นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า ที่ประชุมผู้บริหาร กทม. มีมติเห็นชอบให้สำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล และนักการจราจรและขนส่งไปศึกษาแนวทางการเก็บค่าผ่านทางในพื้นที่การจราจรแออัดใน กทม. เหมือนในหลายประเทศ เช่น สิงคโปร์ หากมีความเป็นไปได้ จะนำเรื่องเข้าสู่สภา กทม. เพื่อออกเป็นข้อบัญญัติสำหรับบังคับใช้ภายใน 1 เดือน






“ในอนาคตอาจจะเก็บเงินผู้ขับขี่รถยนต์ส่วนตัวเข้าพื้นที่ กทม.ชั้นใน หรือย่านธุรกิจที่มีการจราจรคับคั่ง ได้แก่ สีลม สาทร สุขุมวิท เนื่องจากในย่านนั้นมีทั้งรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดินไว้บริการอยู่แล้ว โดย กทม.จะกำหนดอัตราการเก็บให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคม ราคาที่จัดเก็บจะแตกต่างกันไป เช่น หากรถยนต์ 1 คัน มีคนขับเพียงคนเดียว จะต้องจ่ายแพงกว่า หากจะบังคับใช้มาตรการนี้จริง กทม.จะประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจกับประชาชนอีกครั้ง นโยบายนี้เพื่อลดการใช้น้ำมัน” ผู้ว่าฯ กทม. กล่าว



นายอภิรักษ์ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้มีแนวโน้มว่าราคาน้ำมันจะทะลุลิตรละ 40 บาท ฉะนั้นไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้อีกแล้ว อีกทั้งเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลกก็บังคับใช้กฎหมายนี้ และเก็บค่าผ่านทางที่แพงมาก



พล.ต.ต.ภานุ เกิดลาภผล ผู้บังคับการจราจร กล่าวว่า การออกนโยบายควรคำนึงถึงทางเลือกของประชาชนผู้ใช้ถนนด้วย หากมีระบบขนส่งมวลชนที่ไม่ดีพอ นโยบายดังกล่าวก็จะทำให้คนใช้รถใช้ถนนเดือดร้อน หากต้องเสียค่าผ่านทางทุกครั้งก็จะกลายเป็นการสร้างภาระให้กับคนกลุ่มนี้ โดยที่อาจจะไม่ช่วยแก้ปัญหาด้านการจราจรนัก



อย่างไรก็ดี เมื่อวานนี้ คณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง ได้อนุมัติให้ปรับเพิ่มค่าโดยสารของ รถเมล์ ขสมก. และรถร่วมบริการ



สำหรับอัตราค่าโดยสารที่ปรับเพิ่มขึ้นรถโดยสารธรรมดา ครีม-แดง เป็น 8.50 บาท และรถครีม-น้ำเงิน เป็น 10 บาท และรถมินิบัส จาก 7.50 บาท เป็น 8.50 บาท ส่วนรถปรับอากาศยูโรทู (เหลืองส้ม) ปรับเพิ่มเป็น 13–25 บาท รถปรับอากาศขึ้นเป็น 12–24 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค. นี้


 

ที่มาจากหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

 
http://webboard.mthai.com/52/2008-05-21/378977.html


 
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เป็นความคิด ที่ดีครับ...

บันทึกการเข้า

ขงเบ้งดูดาว เฮอะเอ่อเอ้ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอกเมือเห็นดาว
ไม่พราวไสว  หรือว่าตัวเราจะหมดบุญ จึงเป็นไป
ดาวที่สดใสเมื่อก่อนนั้น  พลันมืดมัว....
นู๋เจ๋ง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,877



« ตอบ #1 เมื่อ: 22-05-2008, 08:00 »

ทำไมไม่ไปคิดเรื่องดีๆ ลดภาระค่าครองชีพคนกรุง

ให้คนกรุงอยู่สุขสบาย อากาศดี ถนนหนทาง บ้านเมือง สะอาด กว่าที่เป็นอยู๋

หาทางประหยัดทั้งพลังงานทรัพยากรแบบอิ่น เดินทางสะดวกแบบอื่นๆ

คิดแต่เรื่องให้ค่าครองชีพคนกรุงสูงขึ้น คิดแต่จะหาเงินอย่างเดียว

คนกรุงเค้าคงชอบ รักไอ้ผู้ว่าคนนี้น่าดู
บันทึกการเข้า

~จะแน่วแน่...แก้ไข...ในสิ่งผิด~
ScaRECroW
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,000


สุสูสัง ลภเต ปัญญัง - ผู้ฟังดี ย่อมเกิดปัญญา


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 22-05-2008, 08:46 »

ผมเห็นด้วยกับนโยบายนี้นะ ก็ขอให้กำหนดแนวทางการปฏิบัติให้ดีหน่อย อย่าให้กลายเป็นเพิ่มช่องทางทุจริตให้กับ จนท.ก็แล้วกัน
บันทึกการเข้า

Politic is nothing but the continuation of [the sin of] 7 by other means.

ท่านคิดว่า นรม. ควรทำอย่างไรเมื่อพบว่ากฏหมายบางฉบับมีช่องโหว่?
ก.ใช้อำนาจ นรม.ที่ได้รับมาจากประชาชนแก้กฏหมายเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านั้น เพราะเป็นประโยชน์ของแผ่นดิน
ข.ฉวยโอกาสใช้ช่องโหว่เหล่านั้นเพื่อประโยชน์ของตนเองและคนรอบข้าง แล้วก็อ้างว่าคนอื่นเขาก็ทำกัน
(ลุง)ถึก สไลเดอร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,026



« ตอบ #3 เมื่อ: 22-05-2008, 09:04 »

เมืองหลวงต่างๆในยุโรปเขาก็เก็บกันทั้งนั้น สตอคโฮล์มเก็บเฉพาะจันทร์ถึงศุกร์
อนาคตจะปิดถนนหลายๆสายให้คนเดิน เป็นการลดการทำร้ายปอดของคนที่อาศัยอยู่ในเมืองหลวง
  บ้านเมืองเรา ธุรกิจต่างๆ หน่วยราชการ อะไรต่อมิอะไรมันมาอัดแน่นกันอยู่แต่ใน กทมฯ ถ้าจะ
ให้ดีต้องสร้างรถใต้ดิน รถไฟฟ้าเพิ่ม หาที่จอดรถตามสถานีต่างๆให้พร้อม ผมว่าคนอาจจะหันมาใช้
บริการ ขสมก กันมากขึ้น
  ผมเคยเห็นที่จอดรถอัจฉริยะที่นิวยอร์ค สร้างเป็นตึกสูงๆหลายชั้น เอารถเข้าไปจอด เจ้าหน้าที่
จะออกบัตรมาให้หนึ่งใบ ทิ้งรถไว้ได้เลย ส่วนค่าบริการนั้นอาจจะมีการเสียเป็นรายวันรายสัปดาห์
หรือรายเดือนก็ว่ากันไป
  พอทำธุระเสร็จก็เอาบัตรยื่นให้พนักงงาน เสียบเข้าไปในช่องคอนโทรน แล้วรถเราก็จะลงมา
ใช้เวลาไม่นานเลยครับ
  นโยบายของ อภิรักษ์ดีครับ แต่คงโดนด่าตามมาอีกหลายกระบุงโกย เก็บค่าผ่านเข้าเมือง จะมี
รายได้เข้ารัฐอย่างมโหฬารทีเดียว
   คนหาเช้ากินค่ำจะพลอยได้รับความเดือดร้อนไปด้วยอีกไม่น้อยอยู่เหมือนกัน
บันทึกการเข้า

(ลุง)ถึก สไลเดอร์
northstar
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 635


« ตอบ #4 เมื่อ: 22-05-2008, 09:16 »

จะให้ได้อย่าง...มันก็ต้องเสียอย่าง แบบอัสนีย์งัย... ต้องดูว่าผลดีกับผลเสียอันไหนมันมากกว่ากัน...
บันทึกการเข้า
RiDKuN
Administrator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,015



เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 22-05-2008, 09:22 »

เครือข่ายขนส่งมวลชนบ้านเราไม่ได้ดีพอที่จะสามารถทำแบบนั้นได้
รถคันนึงภาษีปาเข้าไปกี่ร้อย % คนก็ยังซื้อ... เพราะขนส่งมวลชนมันห่วย
จะมาบีบให้คนมีรถยนต์มาใช้ขนส่งมวลชน มันทำไม่ได้หรอก
ถ้าเก็บเงินคงได้เป็นรายได้แค่นั้น แต่คงไม่ได้ผลอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
บันทึกการเข้า

คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 22-05-2008, 11:08 »

แนวความคิดอันนี้เห็นด้วยนะ 

แต่ในเรื่องการปฏิบัติ คงต้องศึกษารายละเอียดให้ดีเด้ออออ

เดี๋ยวจะได้ก้อนหินแทนดอกไม้นะเออ 
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 22-05-2008, 11:43 »

น่าจะมีนโยบายอื่นๆนำมาพิจารณาด้วย อย่างสลับวันขับรถ รถที่มีทะเบียนวันคู่กับวันคี่จะต้องสลับกันขับคนละ1วัน

หรือนโยบายรับคนข้างทางไปกับรถด้วยถ้าไปทางเดียวกัน อย่างในฝรั่งเศส การโบกรถนั้นเป็นเรื่องธรรมดาๆ

เริ่มแรกอาจเป็นเรื่องที่เหลือทน แต่ถ้านานวันเข้าจะเริ่มชอบกับปรากฎการณ์ใหม่ที่เกิดขึ้นกับกทม.อย่างแน่นอนคือรถมีจำนวนน้อยลง การจราจรสะดวกสบายมากขึ้น
บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


มารุจัง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,761


@^____^@


« ตอบ #8 เมื่อ: 22-05-2008, 11:49 »

ถามว่าเห็นด้วยมั้ย
ก็เห็นด้วยนะคะ แต่....
บ้านหนูอยู่ที่ถ.สุขุมวิท แล้วหนูต้องเีสียค่าผ่านทาง
จะไปไหนมาไหน ก็เสร็จสิคะ ฮือ ฮือฮือ

จะนั่งแท็กซี่ พวกนี้เดี๋ยวนี้ก็ไม่รับคนไทยเท่าไร
จะนั่งรถเมล์ เวลาซื้อของที่ซุปเปอร์ ก็หิ้วกันไม่ไหว ทำไงดีคะ
T_T
บันทึกการเข้า


ประชาธิปไตย มิได้จบอยู่แค่การเลือกตั้ง
ปล.รูปจากเวบ ผจก.
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 22-05-2008, 11:51 »

ถามว่าเห็นด้วยมั้ย
ก็เห็นด้วยนะคะ แต่....
บ้านหนูอยู่ที่ถ.สุขุมวิท แล้วหนูต้องเีสียค่าผ่านทาง
จะไปไหนมาไหน ก็เสร็จสิคะ ฮือ ฮือฮือ

จะนั่งแท็กซี่ พวกนี้เดี๋ยวนี้ก็ไม่รับคนไทยเท่าไร
จะนั่งรถเมล์ เวลาซื้อของที่ซุปเปอร์ ก็หิ้วกันไม่ไหว ทำไงดีคะ
T_T

ผมว่าเค้าน่าจะยกเว้น สำหรับผู้ที่มีที่พักอาศัยบริเวณนั้นนะ 
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
ScaRECroW
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,000


สุสูสัง ลภเต ปัญญัง - ผู้ฟังดี ย่อมเกิดปัญญา


เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 22-05-2008, 12:14 »

จำได้ว่าตอนอยู่ที่สิงคโปร์ คนที่มีบ้านอยู่ในเขต ก็ซื้อตั๋วเดือน ที่ราคาถูกกว่าตั๋วรายวัน

ผมว่าถ้าทำจริง เงินที่เก็บได้ไม่ควรเอาทำอย่างอื่น แต่เอาไปใช้ในการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนสาธารณะให้มีประสิทธิภาพ
บันทึกการเข้า

Politic is nothing but the continuation of [the sin of] 7 by other means.

ท่านคิดว่า นรม. ควรทำอย่างไรเมื่อพบว่ากฏหมายบางฉบับมีช่องโหว่?
ก.ใช้อำนาจ นรม.ที่ได้รับมาจากประชาชนแก้กฏหมายเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านั้น เพราะเป็นประโยชน์ของแผ่นดิน
ข.ฉวยโอกาสใช้ช่องโหว่เหล่านั้นเพื่อประโยชน์ของตนเองและคนรอบข้าง แล้วก็อ้างว่าคนอื่นเขาก็ทำกัน
เพื่อนร่วมชาติ
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 777


« ตอบ #11 เมื่อ: 22-05-2008, 12:24 »

แนวคิดดี น่าศึกษา

แต่มาเริ่มช่วงใกล้หมดวาระแบบนี้ น่าหวาดเสียวครับ

นี่ยังไม่รู้เลยนะว่าอภิรักษ์จะลงสมัครอีกสมัยรึเปล่า
บันทึกการเข้า
เอกราช
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 826


กับคนที่ไร้ซึ่งจริยธรรม ยังจะสามารถสมาคมด้วยหรือ


« ตอบ #12 เมื่อ: 22-05-2008, 13:34 »

อภิรักษ์หาลาภมาให้พรรคแล้วซิ
งานนี้พรรคประชาธิปัตย์
คงไม่ต้องการลาภอันไม่พึ่งประสงค์แน่......อิ อิ อิ

 
บันทึกการเข้า

สภาพดินฟ้าอากาศที่ได้เปรียบมิสู้มีชัยภูมิที่มั่นคง
ชัยภูมิที่เป็นเลิศมิอาจเทียบได้กับความมีน้ำหนึ่งใจเดียวของผู้คน
天时不如地利,地利不如人和
morning star
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,119


don't let them make up your mind


« ตอบ #13 เมื่อ: 22-05-2008, 15:56 »

เห็นด้วยครับ กับภาษีที่ต้องเสียไปให้กับการจัดการจราจร เป็นภาษีของคนที่ไม่ได้ใช้รถด้วย หนำซ้ำคนที่ต้องใช้ขนส่งมวลชนยังต้องมาเจอกับปัญหารถติดที่คนใช้รถมีส่วนสร้างขึ้นมาอีก

ถ้าใครทำงานอยู่ในโซนนั้น บริษัทควรจะออกค่าใช้จ่ายให้ผู้ใช้รถเข้าไปทำงานด้วย ส่วนผู้อยู่อาศัยในโซนนั้นก็ไม่ต้องเสียค่าขับเข้าไป ส่วนเงินที่เก็บได้ก็เอามาปรับปรุงการจราจรนั่นแหละ จะได้ไม่ไปรบกวนภาษีของประชาชนส่วนใหญ่เค้า
บันทึกการเข้า

อย่าเดินตามใคร เพราะเรามีจุดมุ่งหมายของเราเอง
เล่าปี๋
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,417


ทำดีได้ดีมีไฉน ทำชั่วได้ดีมีถมไป


« ตอบ #14 เมื่อ: 22-05-2008, 20:54 »

แนวความคิดอันนี้เห็นด้วยนะ 

แต่ในเรื่องการปฏิบัติ คงต้องศึกษารายละเอียดให้ดีเด้ออออ

เดี๋ยวจะได้ก้อนหินแทนดอกไม้นะเออ 


แนวคิดเรื่องนี้ ผมว่าจะต้องศึกษารายละเอียด

ให้ดีๆก่อน ไม่ยังงั้น เจอก้อนหิน แน่ๆครับ



บันทึกการเข้า

ขงเบ้งดูดาว เฮอะเอ่อเอ้ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอกเมือเห็นดาว
ไม่พราวไสว  หรือว่าตัวเราจะหมดบุญ จึงเป็นไป
ดาวที่สดใสเมื่อก่อนนั้น  พลันมืดมัว....
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #15 เมื่อ: 22-05-2008, 20:58 »

ไอเดียดี แต่ทำยากครับ

ผมกลัวว่าพอเก็บเงินแล้ว

รถจะมาอออยู่ถนนที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางนั้นสิครับ

คราวนี้ถนนไม่เคยติด มันก็จะติด
บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
alucardx
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5


« ตอบ #16 เมื่อ: 22-05-2008, 22:33 »

ไอเดียสร้างสรรค์ดีครับ แต่แผนปฏิบัติงานถ้าไม่ดีจะเป็นดาบสองคมที่รุนแรงครับ อาจะเกิดกระแสต่อต้าน และได้ขยะมาเต็มกระบุง
แต่จริง ๆ แล้วมองอีกแง่หนึ่งอาจเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุรึเปล่าครับ (ในความเห็นผม) ผมว่าเรื่องการใช้ทรัพยากรน้ำมัน
มันเกี่ยวเนื่องมาจากปัญหาเรื่องรถติดเป็นประเด็นสำคัญส่วนหนึ่ง การแก้ปัญหารถติดก็ต้องมองอีกว่า เกิดจากอะไร (ในความเห็นผม)
เกี่ยวกับทุกคนเลยครับ ไม่ใฃ่เฉพาะคนขับรถ ต้อง educate ทักษะ และมารยาทในการขับรถ เอาง่าย ๆ แค่ไฟสัญญาณสีเหลือง
ถ้ารู้ว่าจะต้องชะลอหรือจอดรับส่ง ก็ให้เปิดล่วงหน้าไว้เลย ไม่ใช่ชะลอแล้วค่อยเปิด รถที่อยู่ข้างหลังก็เสียจังหวะในการเปลี่ยนเลน มันก็จะเป็นลูกโซ่ไปอีก
ทำให้เกิดรถติด เรื่องคนที่ไม่ได้ขับรถ ต้องให้ความรู้ เวลาข้ามถนน หรือเดินข้างถนน ทำอย่างไร ต้องรอจังหวะกันยังไง รถจะได้ไม่ติด
ไปดูแถวเยาวราช เจริญกรุง คลองถม (ทั้งเก่า และใหม่) น่าจะเป็นกรณีศึกษาได้ระดับหนึ่ง และอีกอย่างที่ลืมไม่ได้เด็ดขาด คือให้ความรู้
ฝึกฝนทักษะการปล่อยรถ นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่านี้มาช่วย ไม่ใช่ว่าในแต่ละจุดมองแค่แยกถัดไปและก่อนหน้าแค่ 2-3 แยก และใช้แค่วอ ในการติดต่อสื่อสาร
ควรมองเป็นระบบ มันมีศาสตร์ของมันที่น่านำมาศึกษาครับ แม้ว่าจะต้องใช้เวลานานอีกเป็น 5-10 ปี (โดยเฉพาะการ educate)
แต่ถ้าไม่เริ่มก็จะเป็นแบบนี้ต่อไปก็อย่างน้อยอีก 20 ปี (เพราะตอนนั้นน้ำมันหมดโลกแล้ว ^_^) ผมคิดมากไปรึเปล่าเนี่ย

เริ่มต้นขอแค่คนทำงานเป็น เก่ง ไม่โกงมาบริหารประเทศก่อนแล้วกัน (ท่าทางจะขอมากเกินไป) 
บันทึกการเข้า
คาคาชิ
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 521


ที่นี่เหมือนโลกที่โดนมนุษย์ต่างดาวบุกหาตรรกะไม่เจอ


« ตอบ #17 เมื่อ: 23-05-2008, 00:37 »

ผมว่า สำเร็จยาก
และจะโดนด่าเละ

นึกถึง วงจรชีวิต ของคนใช้รถสิครับ
บางคนก็ใช้รถเก๋ง นั่งขับมาคนเดียว
แต่ก็มีของที่ต้องขนไว้เบาะหลัง
และต้องเข้าไปทำงานในเมือง

พ่อแม่บางคน ก็ห่วงกลัวลูกจะเดินทางไม่สบาย
ก็ซื้อรถให้ขับ เข้าไปเรียนในเมือง

ถ้าจะประหยัดพลังงานจริง ๆ ต้องทำให้ ปตท. ลดกำไรสุทธิ ลงเสียบ้าง
ไตรมาสแรกของปีนี้ ปตท. กำไร ห้าหมื่นล้าน  ส้นตรีนจริง ๆ

ต้องมีการแก้ปัญหาทั้งระยะสั้น และระยะยาว
ระยะสั้นคือ ต้องรีบส่งเสริม อุตสาหกรรมการติดถังแก๊สในรถ
ต้องทำให้การติดถังแก๊สในรถยนต์ ปลอดภัยที่สุด
และรถเก่า ขนาดไหน ก็ต้องติดได้ อันนี้สำคัญ
เพราะ 60 เปอร์เซ็นต์ รถที่วิ่งบนถนน เป็นเก่าทั้งนั้น เกิน 10 ปีแล้ว ทั้งนั้น
ถ้าติดแก๊สได้ และปลอดภัย คิดดูแล้วกัน น้ำมันจะขายไม่ออกเลยล่ะ

อีกวิธีนึง แต่คิดว่า ทำไม่ได้หรอก คือ
ให้ตำรวจ งด ๆ เรียกมอเตอร์ไซด์ มาตรวจซะบ้าง
คนเขาจะได้กล้า ๆ ขับมอเตอร์ไซด์ เพิ่มขึ้น  จะได้ประหยัดพลังงานไง
ที่เขาขับรถเก๋งน่ะ เพราะ รถเก๋ง ไม่ค่อยโดนตำรวจ เรียก
รถกระบะ รถมอเตอร์ไซด์  โดนประจำ

อีกวิธีนึงคือ ให้นับจำนวนรถ ถ่วงน้ำหนักกับ จำนวนคนที่มีอยู่ในทะเบียนบ้าน
โดยต้องส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ตามเขตต่าง ๆ เพื่อกันการโกหก
ให้เจ้าบ้าน แจ้งไปที่อำเภอ ว่า ที่บ้านอยู่กันกี่คน
รัฐ จะอนุญาตให้มีรถได้ไม่เกินกี่คัน ก็ว่ากันไป แบบถ่วงน้ำหนัก

แถวบ้านผมนะ มีพวกบ้านหลังเล็ก ๆ แต่เสือกมีรถกันคนละคัน
ไอ้บ้านนี้ มันมี 5 คน มันมีรถ 5 คัน แล้วมันก็จอดรถในบ้านไม่ได้ มันก็จอดมั่วไปหมด
ผมว่า แบบนี้มันก็เกินไป   หากใช้วิธีจำกัด จำนวนรถ ถ่วงน้ำหนักกับจำนวนคนในครอบครัว
น่าจะได้ผลมากกว่า ทำให้รถที่อยู่บนถนน ก็จะน้อยลง

อย่าลืมจำกัด พวกแท็กซี่ด้วยล่ะ เพียบเลย

ส่วนปัญหาระยะยาว ก็ต้องหาพลังงานอื่น ทดแทนได้แล้ว
ให้น้ำมัน มันขายไม่ออกไปเลย  เดี๋ยวมันก็ลดราคาเอง


บันทึกการเข้า
ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #18 เมื่อ: 23-05-2008, 00:49 »

เห็นด้วยกับคุณคาคาชิในหลายประเด็นครับ

แต่ผมไม่เชื่อว่าน้ำมันดีเซลจะราคาลดลงครับ

การใช้น้ำมันดีเซลกับเบนซินของไทยในตลาดโลกน่าจะกระทบกระเทือนน้อยมาก

อีกทั้งน้ำมันดีเซลยังใช้เป็นกำลังการผลิตสินค้าหลายประเภทครับ

ถ้าจะลงก็คงจะลงน้อยมากจริงๆ

แต่ผมสนับสนุนให้มีการประหยัดพลังงานนะครับ ปัญหาโลกร้อนอาจจะดีขึ้นบ้าง แม้จะน้อยนิดก็เถอะ
บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


morning star
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,119


don't let them make up your mind


« ตอบ #19 เมื่อ: 23-05-2008, 05:30 »

ก็กลัวกันเกินไป... ผมยังเชื่ออยู่ว่า จำนวนคนใช้รถส่วนตัวกับจำนวนคนใช้รถสาธารณะ ยังสู้อย่างหลังไม่ได้ เพราะฉะนั้นการผลักภาระไปยังผู้ใช้รถส่วนตัวบ้างก็น่าจะไม่เสียคะแนนเสียงไปมากนัก
บันทึกการเข้า

อย่าเดินตามใคร เพราะเรามีจุดมุ่งหมายของเราเอง
เล่าปี๋
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,417


ทำดีได้ดีมีไฉน ทำชั่วได้ดีมีถมไป


« ตอบ #20 เมื่อ: 23-05-2008, 12:29 »

น่าจะมีนโยบายอื่นๆนำมาพิจารณาด้วย อย่างสลับวันขับรถ รถที่มีทะเบียนวันคู่กับวันคี่จะต้องสลับกันขับคนละ1วัน

หรือนโยบายรับคนข้างทางไปกับรถด้วยถ้าไปทางเดียวกัน อย่างในฝรั่งเศส การโบกรถนั้นเป็นเรื่องธรรมดาๆ

เริ่มแรกอาจเป็นเรื่องที่เหลือทน แต่ถ้านานวันเข้าจะเริ่มชอบกับปรากฎการณ์ใหม่ที่เกิดขึ้นกับกทม.อย่างแน่นอนคือรถมีจำนวนน้อยลง การจราจรสะดวกสบายมากขึ้น

คุณ ริวเซย์ ครับ เรื่องวันคู่วันคี่ สลับกันวิ่ง วันคู่ก็เสียเปรียบสิครับ..
บันทึกการเข้า

ขงเบ้งดูดาว เฮอะเอ่อเอ้ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอกเมือเห็นดาว
ไม่พราวไสว  หรือว่าตัวเราจะหมดบุญ จึงเป็นไป
ดาวที่สดใสเมื่อก่อนนั้น  พลันมืดมัว....
s38593
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 67


« ตอบ #21 เมื่อ: 23-05-2008, 21:14 »

เห็นด้วยครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: