Aha555
|
|
« เมื่อ: 21-05-2008, 14:45 » |
|
โหรชี้ทุบพนมรุ้ง อีสานเตรียมรับภัยธรรมชาติ นักโบราณคดีจวกคนทุบปัญญาอ่อน 21 พฤษภาคม 2551 11:39 น. โหรบุญเลิศ เชื่อมือมืดทำลายเขาพนมรุ้งเป็นจุดเริ่มต้นความรุนแรงในพื้นที่ภาคอีสาน ระบุอาจถูกภัยธรรมชาติร้ายแรง ให้เตรียมรับมือโดยไม่ประมาท ด้าน อ.พิเศษ เจียรจันทร์พงษ์ ชี้ชัดเป็นเรื่องความเชื่อ จวกปัญญาอ่อนมากกับการทุบทำลายวัตถุอันทรงคุณค่า ขณะที่ เทพมนตรี เผยสิ่งที่ทุบเป็นของใหม่ไม่น่าจะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์พอที่จะนำไปทำมวลสาร ระบุก่อนหน้านี้ เนวิน เคยมาทำพิธีสะเดาะเคราะห์ให้ ทักษิณ ที่นี่มาแล้ว จากที่มีกลุ่มคนใจบาปบุกปราสาทหิน พนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ กลางดึกประกอบพิธีกรรม ก่อนใช้ของแข็งทุบข้อมือทวารบาล ทั้ง 2 ข้าง แล้วนำไปทุบทำลายหน้าสิงห์ 2 ตัว เศียรพญานาค 11 เศียร และทำลายปากโคนนทิ ซึ่งล้วนเป็นเทพบริวารปกปักรักษาปราสาท พร้อมย้ายศิวลึงค์ไปทิ้งบริเวณรางสรงบ่อน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ คล้ายการประกอบพีกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งนั้น ดร.บุญเลิศ ไพรินทร์ ส.ว.ฉะเชิงเทรา และนักโหราศาสตร์ กล่าวถึงกรณีที่ปราสาทหินพนมรุ้งถูกทุบทำลายว่า โดยส่วนตัวแล้วไม่เชื่อหลักไสยศาสตร์จึงไม่ขอออกความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวในหลักความเชื่อ แต่เมื่อมองในมุมของโหราศาสตร์ถือว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นจุดเริ่มต้นของความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สืบเนื่องจากในทิศตะวันออกเฉียงเหนือมีดาวมฤตยูอันเป็นดาวบาปเคราะห์ ซึ่งเป็นดาวให้โทษประจำอยู่ ประกอบกับทำมุม 90 องศากับดาวมฤตยูจรราศีเมษดวงเมืองของกรุงเทพฯ ผลจากการโคจรของดวงดาว ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศไทย และจะเกิดปัญหาที่รุนแรงขึ้นต่อเนื่องไปจนกระทั่งถึงปี 2552 ดาวมฤตยูนี้เป็นดาวให้โทษที่จะทำให้เกิดความรุนแรงเกิดขึ้น ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นภัยธรรมชาติ แผ่นดินไหว ลมพัดกระหน่ำ หรือผลกระทบด้านผลผลิตการเกษตรซึ่งจะมีลักษณะคงจะไม่ต่างจากพม่า หรือจีนเท่าใดนัก เพราะเมื่อดูดวงดาวแล้วก็พบว่าดาวมฤตยูเล็งไปที่ราศีสิงห์ในทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งพม่าอยู่ในแกนนั้นของโลกพอดีนักโหราศาสตร์กล่าว ทั้งนี้ เหตุการณ์ทุบทำลายปราสาทหินพนมรุ้งได้สร้างความกระทบกระเทือนจิตใจให้แก่คนในพื้นที่และผู้ศรัทธาเป็นอย่างมาก และไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นต่อไปอีกหรือไม่ก็ตาม ดร.บุญเลิศ ให้คำแนะนำว่า ภัยธรรมชาติเป็นภัยที่ยากจะป้องกัน แต่หากตั้งอยู่ในความไม่ประมาทตามหลักคำสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ระดับความรุนแรงก็จะไม่มาก โดยจะต้องใช้สติในการแก้ปัญหา กรณีของเขาพนมรุ้งก็เกิดจากความประมาท ถ้าหากผู้ดูแลไม่ประมาท ก็จะไม่มีคนมาทำลายได้ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราก็ต้องไม่ประมาท เพราะการโคจรของดวงดาวเราห้ามไม่ได้ ต้องปล่อยมันไป ดร.บุญเลิศกล่าว ด้านนักโบราณคดีอย่าง อ.พิเศษ เจียรจันทร์พงษ์ ให้ความเห็นว่า ไม่น่าจะเกี่ยวกับความขัดแย้ง แต่น่าจะเกิดจากประเด็นความเชื่อรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งมากกว่า ในอดีตมันก็เคยมี ช่วงก่อนสองขั้นก็อาจจะมีการกลั่นแกล้งกันเพื่อผลประโยชน์ด้านการทำงาน แต่มันก็มักจะเกิดกันในช่วงเดือนกรกฎาคม ซึ่งก็ยังไม่ถึง ดังนั้น ผมไม่คิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะมาจากประเด็นความขัดแย้ง ซึ่งถ้าหากจะให้ผมมอง ผมคงมองในประเด็นความเชื่อ ทุกวันนี้บ้านเรามันขาดหลัดยึด ทำให้มีความเชื่อเกิดขึ้นมากมาย อ.พิเศษ ปฏิเสธที่จะฟันธงว่ากรณีการทุบศิวลึงค์ ทวารบาล และวัตถุโบราณอื่นๆ ในปราสาทหินพนมรุ้งที่เกิดขึ้นนี้ว่าเป็นความเชื่อประเด็นไหนอย่างแน่ชัด คิดว่าค่อนข้างจะเกิดจากประเด็นความเชื่อ แต่ที่ว่าจะเกิดจากเพราะก่อนหน้านี้เป็นสถานที่ที่เขาเคยใช้ประชุม ครม.สัญจรยุคนายกฯ ทักษิณหรือไม่นั้น ก็เป็นกระแสที่พูดกันไป ที่แน่ๆ คือโบราณสถานนี่เป็นสมบัติของชาติ เป็นของโบราณเก่าแก่ที่ทรงคุณค่า ซึ่งน่าเสียดายมากที่ถูกกระทำแบบนี้ เพียงเพราะความเชื่อ ซึ่งพูดได้ว่า เป็นบริบทที่ปัญญาอ่อนมากกับการทุบทำลายวัตถุอันทรงคุณค่า ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และศักดิ์ศรี เพียงเพราะความเชื่อ อ.พิเศษกล่าว ด้านนักประวัติศาสตร์ อย่าง เทพมนตรี ลิมปพยอม มองว่าสิ่งที่ถูกทำลายลงไปไม่น่าจะศักดิ์สิทธิ์พอจะนำมวลสารที่ทุบไปทำเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากสิ่งที่ถูกทุบอย่างศิวลึงค์นั้นเป็นของใหม่ที่อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์เป็นคนเอาไปวางไว้ไม่นานมานี้ โคนนทินั่นก็ใหม่ ส่วนอย่างอื่นๆ เช่น สิงห์ นาค ก็ไม่ใช่ว่าไม่สำคัญ เขาก็เป็นทวารบาลประจำเทวาลัย เพียงแต่เขาไม่ศักดิ์สิทธิ์พอที่จะนำไปทำมวลสาร ถ้าจะเอาไปทำมวลสารส่วนใหญ่จะเอาจากผงพระในกรุเก่า ก่อนหน้านี้เคยมีการอนุญาตให้นายเนวิน ชิดชอบ และพราหมณ์อินเดียมาทำพิธีกรรมในปราสาทหินพนมรุ้ง เพื่อสะเดาะเคราะห์ให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งผมคิดว่าควรจะเลิกอนุญาตให้ทุกคนไม่ว่าใครหรือใหญ่แค่ไหนน่าจะดีที่สุด อ.เทพมนตรี ให้ความเห็น ********************** http://www.prachatai.com/webboard/topic.php?id=649515********************** ธาตุแท้กะความคิดของ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ...กับการเปิดเผยธาตุแท้ของคนแก๊งเหลี่ยมในกระทู้ "ใครเป็นใคร"
|
|
|
|
|
ปรมาจารย์เจได
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 21-05-2008, 14:58 » |
|
บางเรื่องมันก็พูดดีนะ
แต่การที่ยกเจ้าให้ดูต่ำ แล้วทำทักษิณให้ดูสูงขึ้นนี่แหละ ทำให้หัวโตเป็นที่น่ารังเกียจ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
prinz_bismarck
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 21-05-2008, 15:05 » |
|
ในสมัย ร.ศ.112 ถ้าไม่ได้สถาบัน ถ้าไม่ได้รัชกาลที่ 5 คนไทยเป็นขี้ข้าฝรั่งเศสไปแล้วครับ ใครเลิกทาส ก็รัชกาลที่ 5อีก ทั้งหมดทีรัชกาลที่ 5 ทำลงไป ใครได้ประโยชน์ ก็คนไทยกับประเทศไทยได้ประโยชน์ แล้วแบบนี้ไม่เรียกว่าผู้มีคุณกับชาติแล้วจะเรียกว่าอะไร
ใครจะไปรู้ล่ะครับถ้าสมมติขณะนั้นไทยมีประธานาธิบดีเป็นประมุขที่เลือกตั้งจากสามัญชน อาจจะกุลีกุจอยกประเทศขายให้ต่างชาติไปเลยก็ได้ แต่ไม่ปรากฎพระมหากษัตริย์องค์ใดในประวัติศาสตร์ไทยที่ทำแบบนี้เลยหนำซ้ำกลับปกป้องประเทศรอดภัยพิบัติมาได้ทุกครั้ง
นี้คือข้อแตกต่างระหว่างสามัญชน กับ ขัตติยะ
แล้วทำไมพนักงานสอนหนังสือคนนี้(ไม่อยากเรียกอาจารย์)ถึงไม่เคยคิดบ้าง แล้วเรื่อง
ผมนึกว่า ประชาชนคือผู้เสียภาษีอากร ลงทุนลงแรง อาบเหงื่อต่างน้ำ ผจญชีวิตที่ยากลำบาก สนับสนุน เลี้ยงดู และค้ำจุน ชนชั้นเจ้า เสียอีก เรื่องการเสียภาษีถ้าจำไม่ผิดการเสียภาษีเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนนีครับ รัฐธรรมนูญกำหนดหน้าที่อะไรเอาไว้ สถาบันทำหน้าที่ครบถ้วนหมด ไม่ว่าจะเรื่องเสียภาษี รับราชการทหาร ช่วยเหลือผู้ประสบภัย เหล่านี้เป็นหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ที่เจ้าทุกคนทำหมด แล้วทำไมพนักงานสอนหนังสือคนนี้ไม่พูดบ้าง
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-05-2008, 15:07 โดย prinz_bismarck »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
justy
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 21-05-2008, 15:15 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
พรรคไทยรักไทยมิได้ให้ความสำคัญหรือเห็นคุณค่าของสิทธิเลือกตั้งของประชาชน อันเป็นรากฐานสำคัญของการปกครองระบอบประชาธิปไตย นอกจากนี้ยังแสดงถึงการไม่เคารพยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง ทั้งที่พรรคไทยรักไทยเป็นพรรคการเมืองที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนสูงสุดในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอันเป็นการเลือกตั้งทั่วไปก่อนหน้านี้ 2 ครั้ง ควรต้องสร้างความยั่งยืนให้แก่การปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยมั่นคงกับหลักการที่ว่า กฎหมายต้องอยู่เหนือสิ่งอื่นใด ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นข้อบ่งชี้ด้วยว่า พรรคไทยรักไทย มิได้มีอุดมการณ์ทางการเมืองที่มุ่งพัฒนาประเทศชาติเพื่อให้คนในชาติมีความสุขทั่วหน้าดังที่ได้รณรงค์หาเสียงไว้ต่อประชาชนอย่างแท้จริง หากแต่มุ่งประสงค์เพียงดำเนินการในทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ นอกเหนือจากครรลองที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศตลอดจนบทกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องที่หาอุดมการณ์อันแท้จริงของพรรคให้เกิดความมั่นใจแก่ประชาชนโดยรวมว่า เมื่อเป็นรัฐบาลมีอำนาจบริหารราชการแผ่นดินแล้ว จะดำเนินการปกครองโดยสุจริต ไม่ประพฤติมิชอบหรือบริหารราชการแผ่นดินโดยแอบแฝงไว้ซึ่งผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อ
|
|
|
ริวเซย์
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 21-05-2008, 15:36 » |
|
คุณohoอย่าเอาข้อความชั่วๆของไอ้หัวโตมาแปะเลยครับ บอร์ดของเราจะตกต่ำไปเปล่าๆ อีกประการนึง เดี๋ยวบอร์ดของพวกเราจะพลอยฟ้าพลอยฝนซวยไปด้วย ช่วงนี้ไอ้เป็ดเหลิมยิ่งตั้งท่าจะปิดเว็บหมิ่น ฯ อยู่ด้วย เสรีไทยอาจจะโดนพวกมันกลั่นแกล้งเอาได้ พวกเรายิ่งด่าไอ้หน้าเหลี่ยมทุกวันอยู่ด้วยแล้ว.... ปล.แต่อ่านแล้วอดโมโหไม่ได้จริงๆ สงสัยจริงๆว่ามันใช่คนไทยรึเปล่า เป็นเอาได้ขนาดนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^
|
|
|
ชัย คุรุ เทวา โอม
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 21-05-2008, 16:01 » |
|
ในสมัย ร.ศ.112 ถ้าไม่ได้สถาบัน ถ้าไม่ได้รัชกาลที่ 5 คนไทยเป็นขี้ข้าฝรั่งเศสไปแล้วครับ ใครเลิกทาส ก็รัชกาลที่ 5อีก ทั้งหมดทีรัชกาลที่ 5 ทำลงไป ใครได้ประโยชน์ ก็คนไทยกับประเทศไทยได้ประโยชน์ แล้วแบบนี้ไม่เรียกว่าผู้มีคุณกับชาติแล้วจะเรียกว่าอะไร
ใครจะไปรู้ล่ะครับถ้าสมมติขณะนั้นไทยมีประธานาธิบดีเป็นประมุขที่เลือกตั้งจากสามัญชน อาจจะกุลีกุจอยกประเทศขายให้ต่างชาติไปเลยก็ได้ แต่ไม่ปรากฎพระมหากษัตริย์องค์ใดในประวัติศาสตร์ไทยที่ทำแบบนี้เลยหนำซ้ำกลับปกป้องประเทศรอดภัยพิบัติมาได้ทุกครั้ง
นี้คือข้อแตกต่างระหว่างสามัญชน กับ ขัตติยะ
แล้วทำไมพนักงานสอนหนังสือคนนี้(ไม่อยากเรียกอาจารย์)ถึงไม่เคยคิดบ้าง แล้วเรื่อง เรื่องการเสียภาษีถ้าจำไม่ผิดการเสียภาษีเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนนีครับ รัฐธรรมนูญกำหนดหน้าที่อะไรเอาไว้ สถาบันทำหน้าที่ครบถ้วนหมด ไม่ว่าจะเรื่องเสียภาษี รับราชการทหาร ช่วยเหลือผู้ประสบภัย เหล่านี้เป็นหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ที่เจ้าทุกคนทำหมด แล้วทำไมพนักงานสอนหนังสือคนนี้ไม่พูดบ้าง
เกิดทันหรือ เรืองรัชกาลที่5 นี่ เป็นประเด็นที่พูดกันมาก จนนำเอารัชกาลที่5แห่งราชวงค์จักรีมาเป็นจตุคาม(ดังก่อน) เรื่องการเสียดินแดนส่วนหนึ่ง ก่อนจะเสียทั้งหมด ที่จริงเราไม่ควรเสียมาเลเซีย(มลายู) ให้อังกฤษด้วยซ้ำ หาดพูดกันตามแบบชาตินิยม แต่ความคิดแบบชาตินิยม ก็เกิดจากการสถาปนารัฐสมบูรณาญาสิทธิราช ของตังร.5เองด้วย การเกิดขึ้นของกรมทหารม้ารักษาพระองค์เพราะความกลัวเจ้าพระยามหาศรีสุริยะวงค์ รวมทั้งพระองค์เจ้า ยอร์ช วอชิงตัน(ชื่อนี้จริง) ตอนหลังเลยเอากรมทหารนี้มาฆ่าคนเล่น ดูจากกบฎผีบุญ แน่นอนท่านเสียแผ่นดินไม่ได้อยู่แล้ว เพราะท่านต้องถูดปลูกฝังมาว่า แผ่นดินนี้ของท่าน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..." คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน (How the Steel Was Tempered) นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933 ******************************* เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ http://www.oknation.net/blog/amalit1990
|
|
|
RXP 215
น้องใหม่
ออฟไลน์
กระทู้: 2
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 21-05-2008, 16:07 » |
|
ขอสาปแช่งพวกที่คิดไม่ตีต่อสถาบัน ให้มันจงตายโหง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
meriwa
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 21-05-2008, 16:07 » |
|
เกิดทันหรือ เรืองรัชกาลที่5 นี่ เป็นประเด็นที่พูดกันมาก จนนำเอารัชกาลที่5แห่งราชวงค์จักรีมาเป็นจตุคาม(ดังก่อน)
เรื่องการเสียดินแดนส่วนหนึ่ง ก่อนจะเสียทั้งหมด
ที่จริงเราไม่ควรเสียมาเลเซีย(มลายู) ให้อังกฤษด้วยซ้ำ หาดพูดกันตามแบบชาตินิยม
แต่ความคิดแบบชาตินิยม ก็เกิดจากการสถาปนารัฐสมบูรณาญาสิทธิราช ของตังร.5เองด้วย
การเกิดขึ้นของกรมทหารม้ารักษาพระองค์เพราะความกลัวเจ้าพระยามหาศรีสุริยะวงค์ รวมทั้งพระองค์เจ้า ยอร์ช วอชิงตัน(ชื่อนี้จริง)
ตอนหลังเลยเอากรมทหารนี้มาฆ่าคนเล่น ดูจากกบฎผีบุญ
แน่นอนท่านเสียแผ่นดินไม่ได้อยู่แล้ว เพราะท่านต้องถูดปลูกฝังมาว่า แผ่นดินนี้ของท่าน
โถ่ไอ้หนู แล้วเองน่ะเกิดทันหรอ คิดเองเออเองกันทั้งนั้น นี่ไม่ใช่เกมเด็กเล่นนะ พอเล่นตายแล้วก็กดย้อนไปเล่นใหม่ได้ กะแค่อ่านหนังสือคนละเล่ม ทำมาเป็นคุยเหมือนเห็นกับตาเลยนะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ผู้ปกครองระดับธรรมดา ใช้ความสามารถของตน อย่างเต็มที่ ผู้ปกครองระดับกลาง ใช้กำลังของคนอื่น อย่างเต็มที่ ผู้ปกครองระดับสูง ใช้ปัญญาของคนอื่น อย่างเต็มที่
...คำคมขงเบ้ง
|
|
|
เพื่อนร่วมชาติ
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 21-05-2008, 16:08 » |
|
พ่อแม่มีบุญคุณต่อเรานี่ แค่พอฟังได้เหรอฟระ
ใครเป็นพ่อเป็นแม่ไอ้หัวโตคงดีใจเนอะ ที่ลูกตัวเองบรรลุได้ถึงขั้นนี้
อีกนิดนึงก็เป็นพวกเขมรแดงได้แล้ว
ขอเสนอว่าถ้าใครเรียนธรรมศาสตร์ เวลาเห็นไอ้หัวโตเดินมาตามทางเดินแคบ ๆ
ไม่ต้องหลีกครับ เดินกร่างสวนไปเลย
จะแสดงความนอบน้อมทำไม ในเมื่อไอ้หัวโตก็มีงานมีเงินอยู่ได้เพราะค่าเทอมที่ครอบครัวคุณจ่ายให้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชัย คุรุ เทวา โอม
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 21-05-2008, 16:11 » |
|
โถ่ไอ้หนู แล้วเองน่ะเกิดทันหรอ
คิดเองเออเองกันทั้งนั้น
นี่ไม่ใช่เกมเด็กเล่นนะ พอเล่นตายแล้วก็กดย้อนไปเล่นใหม่ได้
กะแค่อ่านหนังสือคนละเล่ม ทำมาเป็นคุยเหมือนเห็นกับตาเลยนะ
แล้วเกิดทันหรือ เรื่อง พระยาช่วง ยังกะไม่ใช่เรื่องจริง เป็นเรื่องจริงมากกว่าจตุคามด้วยซ้ำ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..." คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน (How the Steel Was Tempered) นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933 ******************************* เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ http://www.oknation.net/blog/amalit1990
|
|
|
prinz_bismarck
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 21-05-2008, 16:16 » |
|
เกิดทันหรือ เรืองรัชกาลที่5 นี่ เป็นประเด็นที่พูดกันมาก จนนำเอารัชกาลที่5แห่งราชวงค์จักรีมาเป็นจตุคาม(ดังก่อน)
เรื่องการเสียดินแดนส่วนหนึ่ง ก่อนจะเสียทั้งหมด
ที่จริงเราไม่ควรเสียมาเลเซีย(มลายู) ให้อังกฤษด้วยซ้ำ หาดพูดกันตามแบบชาตินิยม
แต่ความคิดแบบชาตินิยม ก็เกิดจากการสถาปนารัฐสมบูรณาญาสิทธิราช ของตังร.5เองด้วย
การเกิดขึ้นของกรมทหารม้ารักษาพระองค์เพราะความกลัวเจ้าพระยามหาศรีสุริยะวงค์ รวมทั้งพระองค์เจ้า ยอร์ช วอชิงตัน(ชื่อนี้จริง)
ตอนหลังเลยเอากรมทหารนี้มาฆ่าคนเล่น ดูจากกบฎผีบุญ
แน่นอนท่านเสียแผ่นดินไม่ได้อยู่แล้ว เพราะท่านต้องถูดปลูกฝังมาว่า แผ่นดินนี้ของท่าน
พูดแบบนี้คุณเป็นคนไทยรึเปล่า คุณPost-modern คุณก็คิดซะแบบนี้เหมือนกับพวกฟ้าเดียวกัน พอยกความดีก็เถียงข้างๆคูๆว่าสถาบันทำเพื่อรักษาตัวเองไว้
คือมันไม่เกี่ยวหรอกครับว่าทำเพื่อตัวเอง หรือถูกปลูกฝังว่าแผ่นดินนี้ของใคร ประเด็นมันก็คือท่านทำประโยชน์ให้แผ่นดิน ให้ประชาชน ประชาชนได้ประโยชน์จริง ทุกประเทศในโลกนี้ประชาชนต่างยกย่องวีรชนที่ทำเพื่อประเทศทั้งนั้น ไม่ว่าประเทศไหน
ถ้าสถาบันไม่ทำเพื่อรักษาแผ่นดินตัวเองไว้จะมีแผ่นดินไทยให้คุณกอบโกย นั่งเล่นอินเตอร์เน็ตโพสท์ด่าสถาบันอยู่ตอนนี้เหรอ
ถ้าคุณยังทำประโยชน์ให้แผ่นดินได้ไม่เท่าองค์รัชกาลที่ 5 คุณไม่มีสิทธิ์ไปติฉินนินทาพระองค์ท่าน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
morning star
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 21-05-2008, 16:26 » |
|
แยกแยะว่าอันไหนถูก ผิด ควรเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย
แต่อยากให้สถาบันพระมหากษตริย์คงอยู่ อยู่ภายใต้กฏหมาย และการวางตัวที่เหมาะสม เพราะถือเป็นส่วนนึงของประวัติศาสตร์ชาติ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
อย่าเดินตามใคร เพราะเรามีจุดมุ่งหมายของเราเอง
|
|
|
บักหัวเถิก
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 21-05-2008, 16:28 » |
|
ควาย สมศักดิ์ แผ่นดินที่ให้มิงยืนทุกวันนี้ประเทศที่ให้มิงเรียนหนังสือจนเป็นพนักงานสอนหนังสือ ถ้ามึงม่สำนึกบุญคุณมิงก็ไปอยู่แผ่นดินอื่นเหอะ กูเกลียยดมิงวะ สมศักดิ์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชัย คุรุ เทวา โอม
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 21-05-2008, 16:30 » |
|
พูดแบบนี้คุณเป็นคนไทยรึเปล่า คุณPost-modern คุณก็คิดซะแบบนี้เหมือนกับพวกฟ้าเดียวกัน พอยกความดีก็เถียงข้างๆคูๆว่าสถาบันทำเพื่อรักษาตัวเองไว้
คือมันไม่เกี่ยวหรอกครับว่าทำเพื่อตัวเอง หรือถูกปลูกฝังว่าแผ่นดินนี้ของใคร ประเด็นมันก็คือท่านทำประโยชน์ให้แผ่นดิน ให้ประชาชน ประชาชนได้ประโยชน์จริง ทุกประเทศในโลกนี้ประชาชนต่างยกย่องวีรชนที่ทำเพื่อประเทศทั้งนั้น ไม่ว่าประเทศไหน
ถ้าสถาบันไม่ทำเพื่อรักษาแผ่นดินตัวเองไว้จะมีแผ่นดินไทยให้คุณกอบโกย นั่งเล่นอินเตอร์เน็ตโพสท์ด่าสถาบันอยู่ตอนนี้เหรอ
ถ้าคุณยังทำประโยชน์ให้แผ่นดินได้ไม่เท่าองค์รัชกาลที่ 5 คุณไม่มีสิทธิ์ไปติฉินนินทาพระองค์ท่าน
พึ่งรู้ว่านี่คือการนินทา ด่าสถาบัน เอาประวัติศาสตร์มาพูด ผิดด้วยหรือ เราทุกคนต่างเกิดไม่ทันทั้งนั้น (หรือมีคนเกิดทัน) logic เหมือน ทำดีไม่เท่าทักษิณอย่านินทาทักษิณของพวกแม้วเลยจริงๆ ผมอาจทำดีน้อยในสายตาของบางคนก็ได้ อาจจะทำดีมากในสายตาบางคนก็ได้ อันนี้ก็คงต้องไปดูกันตอนตายว่าใครจะได้ไป ชั้นพรหม หรือใครจะได้ไปโลกุตระในชาตินี้ละนะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..." คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน (How the Steel Was Tempered) นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933 ******************************* เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ http://www.oknation.net/blog/amalit1990
|
|
|
prinz_bismarck
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 21-05-2008, 16:37 » |
|
พึ่งรู้ว่านี่คือการนินทา ด่าสถาบัน
เอาประวัติศาสตร์มาพูด ผิดด้วยหรือ
เราทุกคนต่างเกิดไม่ทันทั้งนั้น (หรือมีคนเกิดทัน)
logic เหมือน ทำดีไม่เท่าทักษิณอย่านินทาทักษิณของพวกแม้วเลยจริงๆ
ผมอาจทำดีน้อยในสายตาของบางคนก็ได้ อาจจะทำดีมากในสายตาบางคนก็ได้
อันนี้ก็คงต้องไปดูกันตอนตายว่าใครจะได้ไป ชั้นพรหม หรือใครจะได้ไปโลกุตระในชาตินี้ละนะ
ถ้าคุณทำดีอะไร เอามาแสดงเลยครับ สังคมจะเป็นผู้ตัดสินเอง
แต่ผมบอกอะไรให้คุณรู้ไว้ว่า ความจริงก็คือ ความจริง ไม่ว่าจะพยายามหลอกตัวเองยังไง ก็หนีความจริงไม่พ้นหรอก
ถ้าสถาบันไม่ทำเพื่อรักษาาตัวเอง หรือรักษาแผ่นดินให้ประชาชน ตามที่คุณจะกล่าวหา
ผมถามหน่อยจะมีแผ่นดินไทยให้คุณยืนอยู่ทุกวันนี้เหรอ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-05-2008, 16:39 โดย prinz_bismarck »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชัย คุรุ เทวา โอม
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 21-05-2008, 16:47 » |
|
ถ้าคุณทำดีอะไร เอามาแสดงเลยครับ สังคมจะเป็นผู้ตัดสินเอง
แต่ผมบอกอะไรให้คุณรู้ไว้ว่า ความจริงก็คือ ความจริง ไม่ว่าจะพยายามหลอกตัวเองยังไง ก็หนีความจริงไม่พ้นหรอก
ถ้าสถาบันไม่ทำเพื่อรักษาาตัวเอง หรือรักษาแผ่นดินให้ประชาชน ตามที่คุณจะกล่าวหา
ผมถามหน่อยจะมีแผ่นดินไทยให้คุณยืนอยู่ทุกวันนี้เหรอ
LOgic คุณคงประมาณ ไม่มีสถาบัน ไทยคงเป็นคอมมิวนิสต์ ซึ่งมันไม่จริงเลย ไทยเรามีบริบทที่ต่างกับประเทศคอมมิวนิสต์ อย่างมาก ไทยเรามีสถาบันที่แข๋งแรง อาจจะอ่อนยวบยาบไปสมัย ร.6-ต้น ร.9 ไทยเราไม่เคยอกอยากเหมือนกับฝรั่งเศส หรือ โซเวียต แต่สถาบัน เองก็มีส่วนช่วยในการรักษาประเทศ ดูจากสายสัมพันธ์ สถาบัน - สฤษฎิ์ - สหรัฐ แน่นอน เราจึงมีสงครามไปร่วมคือ สงครามเวียดนาม ทั้งที่ไม่เกี่ยวกับไทย สงครามเกาหลี(อันนี้พออนุโลมได้ว่าเป็นมติยูเอ็น ที่แบ่งเกาหลีเป็นสองประเทศ) อาจจะเป็นเพราะทำเพื่อชาติให้ไทย กินข้าวลด10% ในเกาหลีก็ได้นะ ผมอาจไม่ดีก็ได้นะ เพราะผมไม่เห็นด้วยกับการทำสงครามละ ผมอาจไม่ดีก็ได้นะ ที่ผมวิพากษ์ท่านอยู่ทุกวัน แต่ไม่ได้เกลียดท่านเลยแม้แต่น้อย เป็นการตีความส่วนบุคคลละครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..." คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน (How the Steel Was Tempered) นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933 ******************************* เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ http://www.oknation.net/blog/amalit1990
|
|
|
ปรมาจารย์เจได
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 21-05-2008, 16:52 » |
|
ิือิคึๆๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
prinz_bismarck
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 21-05-2008, 16:57 » |
|
LOgic คุณคงประมาณ ไม่มีสถาบัน ไทยคงเป็นคอมมิวนิสต์
ซึ่งมันไม่จริงเลย ไทยเรามีบริบทที่ต่างกับประเทศคอมมิวนิสต์ อย่างมาก
ไทยเรามีสถาบันที่แข๋งแรง อาจจะอ่อนยวบยาบไปสมัย ร.6-ต้น ร.9
ไทยเราไม่เคยอกอยากเหมือนกับฝรั่งเศส หรือ โซเวียต
แต่สถาบัน เองก็มีส่วนช่วยในการรักษาประเทศ
ดูจากสายสัมพันธ์ สถาบัน - สฤษฎิ์ - สหรัฐ
แน่นอน เราจึงมีสงครามไปร่วมคือ สงครามเวียดนาม ทั้งที่ไม่เกี่ยวกับไทย
สงครามเกาหลี(อันนี้พออนุโลมได้ว่าเป็นมติยูเอ็น ที่แบ่งเกาหลีเป็นสองประเทศ)
อาจจะเป็นเพราะทำเพื่อชาติให้ไทย กินข้าวลด10% ในเกาหลีก็ได้นะ
ผมอาจไม่ดีก็ได้นะ เพราะผมไม่เห็นด้วยกับการทำสงครามละ
ผมอาจไม่ดีก็ได้นะ ที่ผมวิพากษ์ท่านอยู่ทุกวัน แต่ไม่ได้เกลียดท่านเลยแม้แต่น้อย
เป็นการตีความส่วนบุคคลละครับ
ผมไม่เคยบอกว่าถ้าไม่มีสถาบันเราจะเป็นคอมมิวนิสต์ครับ ในขณะนี้ทุกคนต่างรู้ว่ามีคนต้องการสาธารณรัฐ แต่จะเป็นคอมมิวนิสต์หรือทุนนิยมสามานย์ก็อีกเรื่องหนึ่ง เรื่องประชาธิปไตยมีแนวคิดมาตั้งแต่สมัย ร.6แล้ว เรื่องเมืองจำลองดุสิตธานี ถ้าเป็นไปตามขั้นตอนเหมือนรัชกาลที่ 5 เลิกทาส การเมืองเราอาจจะพัฒนาดีกว่านี้ก็ได้ แต่นี้หักหาญปฏิวัติทีเดียว ผลสุดท้ายเราก็ไม่ใช่ประชาธิปไตยที่แท้จริง มาหลายทศวรรษ ส่วนเรื่องเวียดนาม ใครว่าเราไม่เกี่ยว ก็ตอนนั้นคอมมิวนิสต์กำลังระบาดหนัก เวียดนามในประเทศก็สู้กันระหว่างคอมมิวนิสต์กับทุนนิยม เราส่งทหารไปช่วยเพราะถ้าฝ่ายโลกเสรีแพ้ จะลามมาถึงประเทศเรา ดังนั้นไทยจึงเกี่ยวโดยตรง เวียดนามเองตอนรวมประเทศก็เกือบจะบุกเราแล้ว โชคดีที่ได้จีนมาช่วยทำสงครามสั่งสอน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ปรมาจารย์เจได
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: 21-05-2008, 17:01 » |
|
นี่ล่ะัน๊า
เค้าเรียกว่าการสะกดจิตตัวเองด้วยหนังสือ พออ่านมากๆ ก็ว่าตัวเองรู้มากกว่าคนอื่น
บางทีคนที่อ่านมากๆ มากกว่าคุณ เขาอาจรู้มากกว่าคุณ และเขาอาจจะไม่คลั่ง บ้าพลัง อินเกินเหตุก็ได้ครับ
คลั่งปรีดีก็คลั๊ง คลั่ง คลั่งเช ก็คลั๊ง คลั่ง คลั่ง ส ศิวลึง ก็คลั๊ง คลั่ง
คนเราคลั่งหมอนพพร บางทียังมีเหตุและผลที่ดีมากกว่าเลยครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชัย คุรุ เทวา โอม
|
|
« ตอบ #20 เมื่อ: 21-05-2008, 17:04 » |
|
ผมไม่เคยบอกว่าถ้าไม่มีสถาบันเราจะเป็นคอมมิวนิสต์ครับ ในขณะนี้ทุกคนต่างรู้ว่ามีคนต้องการสาธารณรัฐ แต่จะเป็นคอมมิวนิสต์หรือทุนนิยมสามานย์ก็อีกเรื่องหนึ่ง เรื่องประชาธิปไตยมีแนวคิดมาตั้งแต่สมัย ร.6แล้ว เรื่องเมืองจำลองดุสิตธานี ถ้าเป็นไปตามขั้นตอนเหมือนรัชกาลที่ 5 เลิกทาส การเมืองเราอาจจะพัฒนาดีกว่านี้ก็ได้ แต่นี้หักหาญปฏิวัติทีเดียว ผลสุดท้ายเราก็ไม่ใช่ประชาธิปไตยที่แท้จริง มาหลายทศวรรษ ส่วนเรื่องเวียดนาม ใครว่าเราไม่เกี่ยว ก็ตอนนั้นคอมมิวนิสต์กำลังระบาดหนัก เวียดนามในประเทศก็สู้กันระหว่างคอมมิวนิสต์กับทุนนิยม เราส่งทหารไปช่วยเพราะถ้าฝ่ายโลกเสรีแพ้ จะลามมาถึงประเทศเรา ดังนั้นไทยจึงเกี่ยวโดยตรง เวียดนามเองตอนรวมประเทศก็เกือบจะบุกเราแล้ว โชคดีที่ได้จีนมาช่วยทำสงครามสั่งสอน
โลกเสรี ผมขอบอกว่าทุเรศ ขอเรียกโลกนายทุน แล้วกัน เวียดนามสมัยนายทุน ที่ให้พระมาเผาตัวเล่น ให้ยัยมาลีลิน มอนโร ดูนะเหรอ กลับมาเรื่องดุษิตธานี คุณรู้มั้ยทำไมไม่สำเร็จ เพราะไอ้เหล่าเจ้าพระยาทั้งหลายยอมซะที่ไหน ใครจะยอมเสียผลประโยชน์ละจริงมั้ย การถวายรัฐธรรมนูญที่ ร.7ร่างกับ ฟรานซิส (เจ้าพระยากัลยาณไมตรี) ก็ถูกระงับโดยตัวแกเอง การทำเมืองของเล่นดุษิตธานีจึงล้มเหลวไม่เป๋นท่าแน่นอน แต่การเรียนการสอนไม่ยักบอกนะ แปลกจริงๆ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-05-2008, 17:10 โดย Post-modern ++++ »
|
บันทึกการเข้า
|
"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..." คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน (How the Steel Was Tempered) นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933 ******************************* เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ http://www.oknation.net/blog/amalit1990
|
|
|
ปรมาจารย์เจได
|
|
« ตอบ #21 เมื่อ: 21-05-2008, 17:06 » |
|
ผมไม่เคยบอกว่าถ้าไม่มีสถาบันเราจะเป็นคอมมิวนิสต์ครับ ในขณะนี้ทุกคนต่างรู้ว่ามีคนต้องการสาธารณรัฐ แต่จะเป็นคอมมิวนิสต์หรือทุนนิยมสามานย์ก็อีกเรื่องหนึ่ง เรื่องประชาธิปไตยมีแนวคิดมาตั้งแต่สมัย ร.6แล้ว เรื่องเมืองจำลองดุสิตธานี ถ้าเป็นไปตามขั้นตอนเหมือนรัชกาลที่ 5 เลิกทาส การเมืองเราอาจจะพัฒนาดีกว่านี้ก็ได้ แต่นี้หักหาญปฏิวัติทีเดียว ผลสุดท้ายเราก็ไม่ใช่ประชาธิปไตยที่แท้จริง มาหลายทศวรรษ ส่วนเรื่องเวียดนาม ใครว่าเราไม่เกี่ยว ก็ตอนนั้นคอมมิวนิสต์กำลังระบาดหนัก เวียดนามในประเทศก็สู้กันระหว่างคอมมิวนิสต์กับทุนนิยม เราส่งทหารไปช่วยเพราะถ้าฝ่ายโลกเสรีแพ้ จะลามมาถึงประเทศเรา ดังนั้นไทยจึงเกี่ยวโดยตรง เวียดนามเองตอนรวมประเทศก็เกือบจะบุกเราแล้ว โชคดีที่ได้จีนมาช่วยทำสงครามสั่งสอน
เรามาเป็นห่วงคนไทยบ้าเกาหลีกันดีกว่าครับ ถ้าผม ลงสมัคร สส เลือกผมนะครับ ผมจะเสนอกฏหมายเข้าสภา ให้รัฐบาลมีสิทธิ์ยิงเป้าพวกบ้าเกาหลี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชัย คุรุ เทวา โอม
|
|
« ตอบ #22 เมื่อ: 21-05-2008, 17:08 » |
|
นี่ล่ะัน๊า
เค้าเรียกว่าการสะกดจิตตัวเองด้วยหนังสือ พออ่านมากๆ ก็ว่าตัวเองรู้มากกว่าคนอื่น
บางทีคนที่อ่านมากๆ มากกว่าคุณ เขาอาจรู้มากกว่าคุณ และเขาอาจจะไม่คลั่ง บ้าพลัง อินเกินเหตุก็ได้ครับ
คลั่งปรีดีก็คลั๊ง คลั่ง คลั่งเช ก็คลั๊ง คลั่ง คลั่ง ส ศิวลึง ก็คลั๊ง คลั่ง
คนเราคลั่งหมอนพพร บางทียังมีเหตุและผลที่ดีมากกว่าเลยครับ
ใครบอกตอนหลัง คลั่ง nietzche ถ้าผมบ้าพลัง แนะให้ไปดูฟ้าเดียวกันดีกว่าแนะ จะได้ไม่สะกดจิตตัวเองด้วยกำแพงฝนหลวง ช่วย นากิสต์ กรั๊กกกก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..." คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน (How the Steel Was Tempered) นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933 ******************************* เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ http://www.oknation.net/blog/amalit1990
|
|
|
ปรมาจารย์เจได
|
|
« ตอบ #23 เมื่อ: 21-05-2008, 17:13 » |
|
อะ ที่พูดไปน่ะโดนคุณหรอกเหรอครับ ฟ้าเดียวกัน ก็เอาไว้ให้คุณไปเล่นกะมหาศาสตราจารย์สมศักดิ์ คนที่ทำให้ประเทศไทยเจริญก้าวหน้าด้วยเศรฐกิจ เทคโนโลยี และด้านพลังานเถิดครับผม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชัย คุรุ เทวา โอม
|
|
« ตอบ #24 เมื่อ: 21-05-2008, 17:15 » |
|
ลืมบอกไป ไม่คลั่งภาคนิยมด้วยครับ อิอิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..." คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน (How the Steel Was Tempered) นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933 ******************************* เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ http://www.oknation.net/blog/amalit1990
|
|
|
ปรมาจารย์เจได
|
|
« ตอบ #25 เมื่อ: 21-05-2008, 17:18 » |
|
ไม่ว่ากันครับ เดี๋ยวนี้คนไอคิวสูงๆ เค้าเลือกที่จะหมิ่นเจ้าิ และไปเรียนรัฐศาสตร์ กับประวัติศาสตร์กันหมดแล้ว
ส่วนภาคนิยม คนเรารักบ้านเกิด ผมก็ว่าดีนะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
bgn
|
|
« ตอบ #26 เมื่อ: 21-05-2008, 17:32 » |
|
มาจนถึงบัดนี้ ต้องบอกว่า ไอ้หงอกนี่เสียชาติเกิดจริงๆ แก่ปานนั้นน่าจะเข้าวัดปฏิบัติธรรมได้แล้ว มาเป็นหัวหน้าแก็งเด็กปัญญาอ่อนที่: เรียนก็ไม่เอาไหน หน้าตาก็อัปลักษณ์ กีฬาก็ไม่ได้เรื่อง ดนตรีก็ไม่กระดิก มีอยู่ทางเดียวที่จะแจ้งเกิดเพื่อดึงดูดสาวๆได้คือทำและเชื่อในเรื่องโง่ๆที่สังคมเขาไม่ให้ราคา เฮ้อ ... ถ้าอยากได้วัดดี ก็ตั้งกระทู้ถามได้นะหงอกนะ หรือจะรอขึ้นเมรุทีเดียวถึงเข้าวัด???? ตอบกระทู้ ผมสงสัยอยู่คนเดียวเท่านั้นครับพี่น้อง มีอยู่คนเดียวเท่านั้นในประเทศนี้ที่งมงายแบบสุดลิ่มทิ่มน้องลิ สรุป... เสร็จอาห้อยอีกตามเคย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
prinz_bismarck
|
|
« ตอบ #27 เมื่อ: 21-05-2008, 18:02 » |
|
โลกเสรี ผมขอบอกว่าทุเรศ
ขอเรียกโลกนายทุน แล้วกัน
เวียดนามสมัยนายทุน ที่ให้พระมาเผาตัวเล่น ให้ยัยมาลีลิน มอนโร ดูนะเหรอ
กลับมาเรื่องดุษิตธานี คุณรู้มั้ยทำไมไม่สำเร็จ
เพราะไอ้เหล่าเจ้าพระยาทั้งหลายยอมซะที่ไหน
ใครจะยอมเสียผลประโยชน์ละจริงมั้ย การถวายรัฐธรรมนูญที่ ร.7ร่างกับ ฟรานซิส (เจ้าพระยากัลยาณไมตรี) ก็ถูกระงับโดยตัวแกเอง
การทำเมืองของเล่นดุษิตธานีจึงล้มเหลวไม่เป๋นท่าแน่นอน
แต่การเรียนการสอนไม่ยักบอกนะ แปลกจริงๆ
ผมต้องการเสรีนิยมแบบทางสายกลางไม่ได้ต้องการทุนนิยมสามานย์หรือซ้ายจัดแบบคอมมิวนิสต์ เสรีนิยมแบบสายกลางของผมก็คือการแข่งขันทางเศรษฐกิจอบ่างเป็นธรรม ทุกคนตั้งกิจการขึ้นมาแข่งขันอย่างยุติธรรม ออกกฎหมายป้องกันการผูกขาดและเอารัดเอาเปรียบ เหมือนกับยุโรปตอนเหนือ ผมไม่ต้องการคอมมิวนิสต์ เพราะไอ้ระบอบนี้ดีแต่ในตำราแต่เอาเข้าจริงล้มเหลวไม่เป็นท่า โซเวียตล่มสลายไปแล้ว จีนก็ต้องเปิดรับโลกเสรี เวียดนามก็ต้องเปิดรับ ประชาชนยากจน แต่พวกชนชั้นปกครองอยู่ดีกินดี(เท่าเทียมยังไง) ระบอบนี้ทำให้ขาดแรงจูงใจในการพัฒนาสินค้าด้วย เพราะกิจการทุกอย่างตกเป็นของรัฐ ถ้าเป็นในโลกเสรี ผู้ผลิตสินค้ามีการแข่งขันกัน ทุกคนต้องพัฒนาสินค้าเพื่อให้แข่งขันในตลาดได้ ทำให้สินค้าออกมาดีและให้ผู้บริโภคเลือกซื้อได้ ถ้าไม่พัฒนาก็อยู่รอดไม่ได้ แต่กับคอมมิวนิสต์ทุกอย่างเป้นของรัฐหมด ไม่มีการแข่งขัน ทำให้ไม่มีแรงจูงใจในการพัฒนาสินค้ากลับมาเรื่องดุษิตธานี คุณรู้มั้ยทำไมไม่สำเร็จ
เพราะไอ้เหล่าเจ้าพระยาทั้งหลายยอมซะที่ไหน
ใครจะยอมเสียผลประโยชน์ละจริงมั้ย ก็เหมือนกับเรื่องเลิกทาสนั้นแหละ ถ้ารัชกาลที่ 5 ออกพระราชบัญญัติหักหาญเลิกทาสทีเดียว มีหวังได้เกิดสงครามกลางเมืองแบบอเมริกาแน่ แต่รัชกาลที่ 5 มีพระปรีชาสามารถก็ออกกฎหมายค่อยๆริดลอนทาสไปเรื่อยๆจนกระทั่งหมด ถ้าเป้นรัชกาลที่ 5 ก้ทรงใช้วิธีเดียวกันในการพัฒนาการเมืองยุคใหม่ แต่มาปฏิวัติทีเดียวหักหาญทีเดียว ประชาชนยังไม่พร้อมกับระบอบนี้ แล้วเป็นไง มีกี่ยุคที่เป็นประชาธิปไตยจริงๆ จนถึงตอนนี้ 75 ปี ผมบอกเลย คนไทยก็ยังไม่เหมาะกับระบอบนี้จริง ดูจากพวกชั่วครองสภาก็รู้แล้ว
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-05-2008, 18:04 โดย prinz_bismarck »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|