snowflake
|
 |
« เมื่อ: 19-05-2008, 19:44 » |
|
ไม่รู้สึกเคอะเขินกันบ้างเลยหรือ?
โดย คณิน บุญสุวรรณ
ประชาทรรศน์ 17 พ.ค. 2008 - 02:16:26 น. : ผู้อ่าน 138 คน - ตอบ 3 คน
http://www.prachatouch.com/content.php?id=4861
นับตั้งแต่ประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 เมื่อ วันที่ 24 สิงหาคม 2550 เป็นต้นมา ปรากฏว่ามีบุคคล คณะบุคคล และองค์กรซึ่ง ได้ดิบได้ดีมีตำแหน่งจากผลพวงของการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 รัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2549 รวมทั้งบรรดาประกาศ คณะปฏิรูปการปกครองฯ ฉบับต่างๆ ได้รับอานิสงส์ชนิดบุญหล่นทับสืบเนื่องต่อไป เลย จำนวนหลายตำแหน่งและหลายคน ดังจะยกตัวอย่างเฉพาะที่เห็นกันจะจะ ดังต่อไปนี้ 1. มีกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน 2 คน ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการ การเลือกตั้ง ตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองฯ ฉบับที่ 13 คนหนึ่งเป็นอดีตผู้ พิพากษาศาลฎีกา อีกคนหนึ่งเป็นอดีตรองอัยการสูงสุด ภายหลังเมื่อรัฐธรรมนูญ ประกาศใช้ ก็ได้รับแต่งตั้งโดยบทเฉพาะกาลมาตรา 299 ให้ดำรงตำแหน่งเป็น กรรมการการเลือกตั้งต่อไปเลย จนกว่าจะครบวาระ 7 ปี ในวันที่ 19 กันยายน 2556 พร้อมกันนั้น องค์กรที่เป็นต้นสังกัดเดิมของกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งสองคนดังกล่าว ก็ได้รับอานิสงส์จากบทเฉพาะกาลมาตรา 306 อย่างชนิดที่ เรียกว่า เต็มเปา เลยทีเดียว โดยกำหนดให้ผู้พิพากษาศาลฎีกาและพนักงาน อัยการซึ่งมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2550 เป็นต้นไป ปฏิบัติ หน้าที่เป็น ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา และ อัยการอาวุโส ไปจนกว่าจะมี อายุครบเจ็ดสิบปีบริบูรณ์
ถามว่า ไม่รู้สึกเคอะเขินกันบ้างเลยหรือ?
นึกออกไหมว่าเป็นใคร
ข้อนี้ออกจะง่าย กว่าข้อต่อๆ ไป 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Even the smallest person can change the course of the future.
|
|
|
snowflake
|
 |
« ตอบ #1 เมื่อ: 21-05-2008, 18:23 » |
|
2. มีกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญหนึ่งคน และมีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญอีกหนึ่ง คน ที่ก่อนหน้านั้นได้รับแต่งตั้งตามประกาศ คปค. ฉบับที่ 19 ให้เป็นกรรมการ ป.ป.ช. ภายหลังเมื่อประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่ ก็ได้รับแต่งตั้งโดยบทเฉพาะกาลมาตรา 299 ให้ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการ ป.ป.ช. ต่อไปเลย จนกว่าจะครบวาระ 9 ปี ใน วันที่ 21 กันยายน 2558
กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยนั้น เคยเป็นผู้พิพากษา ระดับสูง ขณะที่สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นกรรมการ ป.ป.ช. นั้น ยังมีอีก ตำแหน่งหนึ่ง คือ กรรมการ คตส. ซึ่งจะอยู่ในตำแหน่งจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2551
ถามว่า ไม่รู้สึกเคอะเขินกันบ้างเลยหรือ?
ไม่มีใครอยากตอบเลยเหรอ
ใบ้หน่อยก็ได้ ไม่ถูกก็แย้งแล้วกัน
ข้อ 1 ที่ว่าง่ายนั้น ก็คือ ป.น. และ ส.ส.
ส่วนข้อ 2 ขอเดาว่าเป็น ว.ม. และ ก.จ.
ใครว่าไม่ใช่ แย้งมาเรยยยยยยยยยย 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Even the smallest person can change the course of the future.
|
|
|
meriwa
|
 |
« ตอบ #2 เมื่อ: 21-05-2008, 20:02 » |
|
ตื่นๆๆๆ หนังจบนานแล้ว 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ผู้ปกครองระดับธรรมดา ใช้ความสามารถของตน อย่างเต็มที่ ผู้ปกครองระดับกลาง ใช้กำลังของคนอื่น อย่างเต็มที่ ผู้ปกครองระดับสูง ใช้ปัญญาของคนอื่น อย่างเต็มที่
...คำคมขงเบ้ง
|
|
|
Can ไทเมือง
|
 |
« ตอบ #3 เมื่อ: 21-05-2008, 21:10 » |
|
คณิน เหรอ
คนนี้ไม่ใช่เหรอ ที่เขียน รัฐธรรมนูญ 2540 ตายแล้ว
แถมชอบอ้างตัวเป็น สสร. เป็นประจำ มากกว่าคนอื่น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
snowflake
|
 |
« ตอบ #4 เมื่อ: 22-05-2008, 00:24 » |
|
คณิน เหรอ
คนนี้ไม่ใช่เหรอ ที่เขียน รัฐธรรมนูญ 2540 ตายแล้ว
แถมชอบอ้างตัวเป็น สสร. เป็นประจำ มากกว่าคนอื่น
แล้วไง ข้อไหนที่เขาพูดไม่จริง ก็บอกมา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Even the smallest person can change the course of the future.
|
|
|
snowflake
|
 |
« ตอบ #5 เมื่อ: 22-05-2008, 01:16 » |
|
ตื่นๆๆๆ หนังจบนานแล้ว  จบอะไร นี่เพิ่งเริ่ม ภาคต่อ
ไม่เห็นเหรอ "ต่อท่อ" อะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Even the smallest person can change the course of the future.
|
|
|
Can ไทเมือง
|
 |
« ตอบ #6 เมื่อ: 22-05-2008, 02:27 » |
|
นักการเมืองเปลี่ยนจุดยืน เรียกว่า ฆ่าตัวตายทางการเมือง
นักการเมืองที่ตายไปจากความน่าเชื่อถือเรียกว่า "ซากศพนักการเมือง"
รัฐธรรมนูญตายแล้ว เรียกว่า ซากศพรัฐธรรมนูญ
การนำซากศพรัฐธรรมนูญ 2540 ที่ตายไปแล้วมาใช้ คือ "ปลุกผีรัฐธรรมนูญ"
แม้ปลุกขึ้นมาได้ทั้งฉบับ เค้าก็เรียก รัฐธรรมนูญ พศ......
"คณิน" คนเก่าตายไปแล้ว...ในเส้นทางการเมืองและความน่าเชื่อถือ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
snowflake
|
 |
« ตอบ #7 เมื่อ: 22-05-2008, 02:44 » |
|
ล้มละลายทางความน่าเชื่อถือ น่าจะเป็นคนนี้
คนธรรมดาที่ไหนทำงานได้ 5 ตำแหน่ง ในเวลาเดียวกัน
Superwoman ???!!!3. หลังจากการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 คณะกรรมการตรวจเงิน แผ่นดินซึ่งมีอยู่ 10 คน ได้ถูกยกเลิกไปพร้อมกับรัฐธรรมนูญ 2540 และโดยประกาศ คณะปฏิรูปการปกครองฯ ฉบับที่ 12 ก็ได้ให้ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินเป็นผู้ว่าการ ตรวจเงินแผ่นดินต่อไป พร้อมกับควบอำนาจของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินทั้ง คณะด้วย
ภายหลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่ โดยบทเฉพาะกาลมาตรา 301 ก็ให้ผู้ว่าการ ตรวจเงินแผ่นดินซึ่งควบอำนาจคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินดังกล่าว ทำหน้าที่ ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน เพื่อให้เป็นหนึ่งในเจ็ดคณะกรรมการสรรหา ส.ว. จำนวน 74 คน ด้วย นอกเหนือจากตำแหน่งกรรมการ คตส. ซึ่งมีอยู่แล้วก่อนหน้า นั้น เรียกว่าคนคนเดียวมีถึงห้าตำแหน่ง หรือเข้าตำรา สวมหมวกห้าใบในเวลาเดียว กัน
ถามว่า ไม่รู้สึกเคอะเขินกันบ้างเลยหรือ?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Even the smallest person can change the course of the future.
|
|
|
Can ไทเมือง
|
 |
« ตอบ #8 เมื่อ: 22-05-2008, 02:54 » |
|
ประเด็นพวกนั้น เราไม่สนใจหรอก
ประชาธิปไตยเมืองไทยใช้คนดี ดีกว่าพวกกึ่งดีกึ่งชั่ว ไร้จุดยืน
บทบาทนักการเมืองที่ตายแล้ว สู้เด็ก ๆ แถวนี้ที่มีจุดยืน "ใฝ่ดี" ยังไม่ได้เลย
นี่ก็ฝังไปอีก 1 ศพ จบบทบาททางการเมือง คือ "จักรภพ เพ็ญแข" ที่กลายเป็น "ซากศพนักการเมือง"
เสียหายไปทั้งตระกูล ถึงพ่อเป็นทหาร สาบานตนทุกปีก็ช่วยไม่ได้
คงไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดทางการเมือง ทำนองเดียวกับ "วีระ มุสิกพงศ์"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สมชายสายชม
|
 |
« ตอบ #9 เมื่อ: 22-05-2008, 02:58 » |
|
1. มีกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน 2 คน ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการ การเลือกตั้ง ตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองฯ ฉบับที่ 13 คนหนึ่งเป็นอดีตผู้ พิพากษาศาลฎีกา อีกคนหนึ่งเป็นอดีตรองอัยการสูงสุด ภายหลังเมื่อรัฐธรรมนูญ ประกาศใช้ ก็ได้รับแต่งตั้งโดยบทเฉพาะกาลมาตรา 299 ให้ดำรงตำแหน่งเป็น กรรมการการเลือกตั้งต่อไปเลย จนกว่าจะครบวาระ 7 ปี ในวันที่ 19 กันยายน 2556 พร้อมกันนั้น องค์กรที่เป็นต้นสังกัดเดิมของกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งสองคนดังกล่าว ก็ได้รับอานิสงส์จากบทเฉพาะกาลมาตรา 306 อย่างชนิดที่ เรียกว่า “เต็มเปา” เลยทีเดียว โดยกำหนดให้ผู้พิพากษาศาลฎีกาและพนักงาน อัยการซึ่งมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2550 เป็นต้นไป ปฏิบัติ หน้าที่เป็น “ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา” และ “อัยการอาวุโส” ไปจนกว่าจะมี อายุครบเจ็ดสิบปีบริบูรณ์
ข้อ 1. อ่านดูแล้ว ก็ไม่เห็นมีจุดไหนที่ต้องเคอะเขิน .. หรือว่าจะให้โละ แล้วให้พวก ส.ว. ที่เป็นลิ่วล้อพรรค เหี้.ยหลงหอเลือก กกต.ใหม่ แบบ สามหนาห้าห่วง  แต่ก็เห็นมี กกต. ที่ผิดสังเกตอยู่คนหนึ่ง นะ .. ที่ตอนแรกบอกว่า " ไม่ถนัดเป็นผู้ตรวจสอบ จะขอลาออก .. ต่อมาภายหลังตัดสินใจอยู่ต่อ เพื่อ อยู่สู้เพื่อนายใหญ่" 
2. มีกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญหนึ่งคน และมีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญอีกหนึ่ง คน ที่ก่อนหน้านั้นได้รับแต่งตั้งตามประกาศ คปค. ฉบับที่ 19 ให้เป็นกรรมการ ป.ป.ช. ภายหลังเมื่อประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่ ก็ได้รับแต่งตั้งโดยบทเฉพาะกาลมาตรา 299 ให้ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการ ป.ป.ช. ต่อไปเลย จนกว่าจะครบวาระ 9 ปี ใน วันที่ 21 กันยายน 2558
กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยนั้น เคยเป็นผู้พิพากษา ระดับสูง ขณะที่สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นกรรมการ ป.ป.ช. นั้น ยังมีอีก ตำแหน่งหนึ่ง คือ กรรมการ คตส. ซึ่งจะอยู่ในตำแหน่งจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2551
ถามว่า ไม่รู้สึกเคอะเขินกันบ้างเลยหรือ?
ข้อนี้ก็ไม่เห็นจุดไหนที่ต้องเคอะเขิน .. หรือว่าจะให้โละ แล้วให้พวก ส.ว. ที่เป็นลิ่วล้อ พรรค เหี้.ยหลงหอเลือก ปปช.ใหม่ แบบที่ อดีต ปปช. ลงมติว่า "ทักษิณซุกหุ้น"
ต่อมาภายหลัง มี ปปช. คนหนึ่งในชุดนั้นไปเป็นพยานให้คุณแก่ทักษิณในศาลรัฐธรรนูญ 
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-05-2008, 03:07 โดย สมชายสายชม »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
snowflake
|
 |
« ตอบ #10 เมื่อ: 22-05-2008, 03:03 » |
|
ประเด็นพวกนั้น เราไม่สนใจหรอก
ประชาธิปไตยเมืองไทยใช้คนดี ดีกว่าพวกกึ่งดีกึ่งชั่ว ไร้จุดยืน
"คนดี" เอาอะไรมาวัด
ใช้ตัวเองเป็นไม้บรรทัด หรือ นั่งทางในเอา
พวกที่ด่าเขา แล้วบอกว่าตัวเองดี
แต่ก็มีพฤติกรรมไม่ต่างกัน เนี่ยนะ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Even the smallest person can change the course of the future.
|
|
|
Can ไทเมือง
|
 |
« ตอบ #11 เมื่อ: 22-05-2008, 03:10 » |
|
รัฐธรรมนูญดีแค่ไหน แต่หากคนชั่วมาใช้ ก็ก่อให้เกิดวิกฤติได้เรื่อย ๆ
ไม่งั้นคณิน บุลสุวรรณ คงไม่บอก "รัฐธรรมนูญตายแล้ว"
ต้องถามคณินว่า "ใคร/กลุ่มไหน" ทำให้ "รัฐธรรมนูญตายแล้ว" ตายก่อนปฏิวัติเสียอีกไม่ใช่เหรอ คณิน
ถ้าไม่รู้กระทั่งว่า "คนดีคืออะไร" ก็น่าจะเป็น "จำพวกไม่รู้จัดผิดชอบชั่วดี"
พระพุทธเจ้าจัดให้เป็นจำพวก "บัวใต้น้ำ" สมควรเป็นอาหารของเต่าและปูปลา
คนดีในทางพุทธ เรียกว่า "สัปบุรุษ" ก็คือ ผู้มี "สัปปุริสธรรม"
แต่ถ้ายังใฝ่รู้อยู่บ้าง เชิญอ่านคำวินิจฉัญส่วนตน ของ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ลุงปุฯ นำมาเป็นลายเซ็นต์
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-05-2008, 03:28 โดย CanCan »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สมชายสายชม
|
 |
« ตอบ #12 เมื่อ: 22-05-2008, 03:13 » |
|
3. หลังจากการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 คณะกรรมการตรวจเงิน แผ่นดินซึ่งมีอยู่ 10 คน ได้ถูกยกเลิกไปพร้อมกับรัฐธรรมนูญ 2540 และโดยประกาศ คณะปฏิรูปการปกครองฯ ฉบับที่ 12 ก็ได้ให้ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินเป็นผู้ว่าการ ตรวจเงินแผ่นดินต่อไป พร้อมกับควบอำนาจของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินทั้ง คณะด้วย
ภายหลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่ โดยบทเฉพาะกาลมาตรา 301 ก็ให้ผู้ว่าการ ตรวจเงินแผ่นดินซึ่งควบอำนาจคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินดังกล่าว ทำหน้าที่ ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน เพื่อให้เป็นหนึ่งในเจ็ดคณะกรรมการสรรหา ส.ว. จำนวน 74 คน ด้วย นอกเหนือจากตำแหน่งกรรมการ คตส. ซึ่งมีอยู่แล้วก่อนหน้า นั้น เรียกว่าคนคนเดียวมีถึงห้าตำแหน่ง หรือเข้าตำรา “สวมหมวกห้าใบในเวลาเดียว กัน”
ถามว่า ไม่รู้สึกเคอะเขินกันบ้างเลยหรือ? ข้อนี้ก็ไม่เห็นจุดไหนที่ต้องเคอะเขิน .. หรือว่าจะให้ ส.ว. ลิ่วล้อพวก เหี้.ยหลงหอ ทำเรื่องปลด แบบผู้ว่าคนก่อนที่พระเจ้าอยู่หัวไม่่ทรงทำตามเรื่องปลด แล้วนายสุชินยังบังอาจจะยื่นเรื่องเดิมให้ พระเจ้าอยู่หัวอีกครั้ง ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jerasak
|
 |
« ตอบ #13 เมื่อ: 22-05-2008, 03:13 » |
|
องค์กรที่เป็นต้นสังกัดเดิมของกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งสองคนดังกล่าว ก็ได้รับอานิสงส์จากบทเฉพาะกาลมาตรา 306 อย่างชนิดที่ เรียกว่า “เต็มเปา” เลยทีเดียว โดยกำหนดให้ผู้พิพากษาศาลฎีกาและพนักงาน อัยการซึ่งมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2550 เป็นต้นไป ปฏิบัติ หน้าที่เป็น “ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา” และ “อัยการอาวุโส” ไปจนกว่าจะมี อายุครบเจ็ดสิบปีบริบูรณ์
ถามว่า ไม่รู้สึกเคอะเขินกันบ้างเลยหรือ?
เรื่องให้ ผู้พิพากษาศาลฎีกาและอัยการ สามารถทำงานเป็น “ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา” และ “อัยการอาวุโส” จนถึงอายุ 70 ปี น่าจะเป็นเกณฑ์อายุปฏิบัติงานปกติของสายงานนี้ ซึ่งในต่างประเทศก็มีกำหนดแบบนี้เหมือนกัน และในสายงานอื่นๆ เช่น สายงานการแพทย์ ก็มีการให้แพทย์อาวุโสทำงานต่อหลังอายุ 60 ปี เพราะประสบการณ์ทำงานยังมีประโยชน์ เรื่องนี้ถ้าไม่ได้พิจารณาในรัฐบาลก่อน ก็ต้องนำมาพิจารณาในรัฐบาลนี้ เพราะเป็นแนวคิด ที่มีการนำเสนอกันมาก่อนการรัฐประหาร และถ้าพิจารณากันจริงๆ ก็คงจะได้รับการเห็นชอบ เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่ใครจะต้องคัดค้าน ผมว่าัตัวคุณคณินต่างหากที่อกหักไม่ได้ตำแหน่งสมใจหลังรัฐประหาร แล้วฟาดงวงฟาดงา คอยให้ความเห็นประหลาดๆ โจมตีรัฐบาลที่แล้วอยู่เป็นประจำ ที่ทำมาโดยตลอดให้คนอื่นมอง ตัวคุณคณิณไม่เคอะเขินบ้างเลยหรือไง? 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
= A dreamer lives for eternity.= == นักฝันมีชีวิตเพื่อนิรันดร์กาล ==
|
|
|
สมชายสายชม
|
 |
« ตอบ #14 เมื่อ: 22-05-2008, 03:24 » |
|
ขอแย้งหัวข้อกระทู้ " คนดีมีน้อย" .. ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น เช่น มีคนดี(หมอ)ที่อยากช่วย ให้คนจนมียารักษามะเร็ง ยารักษาโรคหัวใจ และยารักษาโรคเอดด์ ราคาถูก แต่มีไอ้ชั่วที่จ้างบริษัทฝรั่งให้ดิสเครดิตเมืองไทย ต่อมาก็มี คนชั่วได้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน เที่ยวไล่ปลด คนดี เช่น ปลดหมอ และปลดหัวหน้าดีเอสไอ ฯลฯ อยากแนะนำให้ จขกท. ไปอ่านเรื่อง " คนดีไม่มีเสื่อม" ของ รตอ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ และให้อ่านคำวินิจฉัยของคุณประเสริฐ นาสกุล ประธานศาลรัฐธรรนูญในคดีซุกหุ้นภาค ๑ http://www.pub-law.net/decission/concourt/psn2044_1.html...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
snowflake
|
 |
« ตอบ #15 เมื่อ: 22-05-2008, 03:31 » |
|
เรื่องให้ ผู้พิพากษาศาลฎีกาและอัยการ สามารถทำงานเป็น ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา และ อัยการอาวุโส จนถึงอายุ 70 ปี น่าจะเป็นเกณฑ์อายุปฏิบัติงานปกติของสายงานนี้ ซึ่งในต่างประเทศก็มีกำหนดแบบนี้เหมือนกัน และในสายงานอื่นๆ เช่น สายงานการแพทย์ ก็มีการให้แพทย์อาวุโสทำงานต่อหลังอายุ 60 ปี เพราะประสบการณ์ทำงานยังมีประโยชน์ เรื่องนี้ถ้าไม่ได้พิจารณาในรัฐบาลก่อน ก็ต้องนำมาพิจารณาในรัฐบาลนี้ เพราะเป็นแนวคิด ที่มีการนำเสนอกันมาก่อนการรัฐประหาร และถ้าพิจารณากันจริงๆ ก็คงจะได้รับการเห็นชอบ เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่ใครจะต้องคัดค้าน ผมว่าัตัวคุณคณินต่างหากที่อกหักไม่ได้ตำแหน่งสมใจหลังรัฐประหาร แล้วฟาดงวงฟาดงา คอยให้ความเห็นประหลาดๆ โจมตีรัฐบาลที่แล้วอยู่เป็นประจำ ที่ทำมาโดยตลอดให้คนอื่นมอง ตัวคุณคณิณไม่เคอะเขินบ้างเลยหรือไง?  ไม่เห็นจะประหลาดตรงไหน
คนที่ไม่มีประชาชนเลือก เข้ามาใช้อำนาจที่ยึดมาด้วยกำลัง
ไม่มีความชอบธรรมใดๆ ให้ผู้มีสติไปเชลียร์
ส่วนกรณีต่ออายุ
จะผ่านการเห็นชอบหรือไม่ ก็ไม่มีทางจะรู้ได้
ถ้าเชื่อว่าเป็นเรื่องถูกต้องเหมาะสม ไยต้องงุบงิบรีบทำกันในกระจุกคนไม่กี่คน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Even the smallest person can change the course of the future.
|
|
|
jerasak
|
 |
« ตอบ #16 เมื่อ: 22-05-2008, 03:32 » |
|
ล้มละลายทางความน่าเชื่อถือ น่าจะเป็นคนนี้
คนธรรมดาที่ไหนทำงานได้ 5 ตำแหน่ง ในเวลาเดียวกัน
Superwoman ???!!!
3. หลังจากการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 คณะกรรมการตรวจเงิน แผ่นดินซึ่งมีอยู่ 10 คน ได้ถูกยกเลิกไปพร้อมกับรัฐธรรมนูญ 2540 และโดยประกาศ คณะปฏิรูปการปกครองฯ ฉบับที่ 12 ก็ได้ให้ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินเป็นผู้ว่าการ ตรวจเงินแผ่นดินต่อไป พร้อมกับควบอำนาจของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินทั้ง คณะด้วย
ภายหลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่ โดยบทเฉพาะกาลมาตรา 301 ก็ให้ผู้ว่าการ ตรวจเงินแผ่นดินซึ่งควบอำนาจคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินดังกล่าว ทำหน้าที่ ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน เพื่อให้เป็นหนึ่งในเจ็ดคณะกรรมการสรรหา ส.ว. จำนวน 74 คน ด้วย นอกเหนือจากตำแหน่งกรรมการ คตส. ซึ่งมีอยู่แล้วก่อนหน้า นั้น เรียกว่าคนคนเดียวมีถึงห้าตำแหน่ง หรือเข้าตำรา “สวมหมวกห้าใบในเวลาเดียว กัน”
ถามว่า ไม่รู้สึกเคอะเขินกันบ้างเลยหรือ?
ลองพิจารณาการดำรงตำแหน่งต่างๆ ของ คุณหญิงจารุวรรณ + ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน + ใช้อำนาจของ คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน + เป็น ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน + เป็นกรรมการ ใน คณะกรรมการสรรหา ส.ว. + เป็นกรรมการ ใน คตส.ถ้าจะบอกว่าเป็นการทำงาน 5 ตำแหน่ง ที่คนธรรมดาทำไม่ได้ ผมคิดว่าคนวิจารณ์แบบนั้น พูดเหมือนไม่รู้เรื่องการบริหารจัดการ ตามปกติของระบบราชการเลย ตัวอย่างก็ลองไปดูข้าราชการคนไหนก็ได้ แต่ละคนดำรงตำแหน่ง อะไรเยอะแยะ ยิ่งเป็นระดับอธิบดี ขึ้นไปจนถึงปลัดกระทรวงแล้ว อาจนับตำแหน่งกันไม่ถูกเลยทีเดียว ... ในขณะที่กรณีคุณหญิงจารุวรรณ เห็นได้ชัดว่าเป็นการพยายาม "มั่วกล่าวหา" เพราะ 5 ตำแหน่งที่ยกมา จริงๆ มีแค่ 2-3 งานหลักๆ คือ "ตรวจเงินแผ่นดิน" และตำแหน่งใน คตส. ก็เกี่ยวเนื่อง กับการทำงานตรวจเงินแผ่นดิน นับเป็นเรื่องเดียวกันได้อีก ที่อาจแยกไปต่างหากมีเพียงตำแหน่ง กรรมการ ใน คณะกรรมการ สรรหา ส.ว. ซึ่งจะว่าไปก็เกี่ยวข้องกับงานตรวจเงินแผ่นดินได้อีก เพราะสามารถใช้ประสบการณ์และอำนาจจากการตรวจเงินแผ่นดิน ในการตรวจสอบคุณสมบัติของ ส.ว. ..ถ้าคุณคณินตั้งป้อมกล่าวหาคุณหญิงจารุวรรณแบบนี้.. ถามว่า คุณคณินไม่รู้สึกเคอะเขินบ้างเลยหรือไง? 
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-05-2008, 03:49 โดย jerasak »
|
บันทึกการเข้า
|
= A dreamer lives for eternity.= == นักฝันมีชีวิตเพื่อนิรันดร์กาล ==
|
|
|
สมชายสายชม
|
 |
« ตอบ #17 เมื่อ: 22-05-2008, 03:33 » |
|
ผมว่าัตัวคุณคณินต่างหากที่อกหักไม่ได้ตำแหน่งสมใจหลังรัฐประหาร แล้วฟาดงวงฟาดงา คอยให้ความเห็นประหลาดๆ โจมตีรัฐบาลที่แล้วอยู่เป็นประจำ ที่ทำมาโดยตลอดให้คนอื่นมอง ตัวคุณคณิณไม่เคอะเขินบ้างเลยหรือไง?  ถ้าบังเอิญในสมัยรัฐบาลนี้มีส้มหล่นใส่ตีนคุณคณิน(จนตีนบวมหรือไม่ก็แล้วแต่) ได้รับตำแหน่งใหญ่โต คุณคณินก็คงจะไม่ เคอะเขิน มั๊ง 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สมชายสายชม
|
 |
« ตอบ #18 เมื่อ: 22-05-2008, 03:40 » |
|
คุณ Snowflake คงจะลืมไปว่า สมัยรัฐบาลทักษิณ ๑ ก็มี Superman นายทนง พิทยะ ที่มีตำแหน่งใหญ่โตพร้อมกัน มากกว่า 5 ตำแหน่ง  หรือคุณ Snowflake อาจจะเกิดไม่ทันเห็น ไอ้หมัก ที่ไม่รู้สึก เคอะเขิน ในการ รับตำแหน่ง ม.ท.๑ หลังจากไปพูดปลุกระดมที่สถานีวิทยุยานเกราะจนเกิดเหตุการณ์ ๖ ตุลา  ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jerasak
|
 |
« ตอบ #19 เมื่อ: 22-05-2008, 03:44 » |
|
ไม่เห็นจะประหลาดตรงไหน
คนที่ไม่มีประชาชนเลือก เข้ามาใช้อำนาจที่ยึดมาด้วยกำลัง
ไม่มีความชอบธรรมใดๆ ให้ผู้มีสติไปเชลียร์
ส่วนกรณีต่ออายุ
จะผ่านการเห็นชอบหรือไม่ ก็ไม่มีทางจะรู้ได้
ถ้าเชื่อว่าเป็นเรื่องถูกต้องเหมาะสม ไยต้องงุบงิบรีบทำกันในกระจุกคนไม่กี่คน
อย่างนั้นหรือครับคุณ snowflake .. จนถึงป่านนี้ผมไม่เห็นมีใครออกมาโต้แย้งเรื่องการต่ออายุว่าไม่ถูกต้องเลยสักคน มีแต่จะแก้รัฐธรรมนูญกันในประเด็นอื่นๆ เรื่องต่ออายุมีการนำเสนอกันมาก่อนรัฐประหาร ถ้าเป็นเรื่องที่เหมาะสมอยู่แล้ว ก็พิจารณากันไปเลย ประเทศชาติได้ประโยชน์ได้คนมีประสบการณ์ทำงานต่อ ทำไมจะต้องรอให้เสียเวลา+เสียบุคลากรที่มีคุณค่าไปเปล่าๆ ล่ะครับ ผมย้อนถามว่า ถ้าเชื่อว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้องเหมาะสมจริง ทำไมคุณคณินไม่พูด เปิดประเด็นคัดค้าน หรือดำเนินการเคลื่อนไหวให้แก้ไขยกเลิกการต่ออายุถ้าทำได้แค่ประชดประชันแบบนี้ ก็เท่ากับแสดงการ "อกหัก" เท่านั้นเอง 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
= A dreamer lives for eternity.= == นักฝันมีชีวิตเพื่อนิรันดร์กาล ==
|
|
|
Can ไทเมือง
|
 |
« ตอบ #20 เมื่อ: 22-05-2008, 03:50 » |
|
คนดีไปอยู่ที่ไหนก็ทำแต่ความดี แต่คนชั่วไปอยู่ที่ไหนก็กลายเป็นคนชั่ว
ลองถามๆ แถว ๆ รองอัยการสูงสุด ที่มาเป็นอัยการสูงสุดตอนนี้สิ
ทำไมกลายเป็นผู้ถูกกล่าวหาไปได้...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
snowflake
|
 |
« ตอบ #21 เมื่อ: 22-05-2008, 04:02 » |
|
ลองพิจารณาการดำรงตำแหน่งต่างๆ ของ คุณหญิงจารุวรรณ + ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน + ใช้อำนาจของ คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน + เป็น ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน + เป็นกรรมการ ใน คณะกรรมการสรรหา ส.ว. + เป็นกรรมการ ใน คตส.ถ้าจะบอกว่าเป็นการทำงาน 5 ตำแหน่ง ที่คนธรรมดาทำไม่ได้ ผมคิดว่าคนวิจารณ์แบบนั้น พูดเหมือนไม่รู้เรื่องการบริหารจัดการ ตามปกติของระบบราชการเลย ตัวอย่างก็ลองไปดูข้าราชการคนไหนก็ได้ แต่ละคนดำรงตำแหน่ง อะไรเยอะแยะ ยิ่งเป็นระดับอธิบดี ขึ้นไปจนถึงปลัดกระทรวงแล้ว อาจนับตำแหน่งกันไม่ถูกเลยทีเดียว ... ในขณะที่กรณีคุณหญิงจารุวรรณ เห็นได้ชัดว่าเป็นการพยายาม "มั่วกล่าวหา" เพราะ 5 ตำแหน่งที่ยกมา จริงๆ มีแค่ 2-3 งานหลักๆ คือ "ตรวจเงินแผ่นดิน" และตำแหน่งใน คตส. ก็เกี่ยวเนื่อง กับการทำงานตรวจเงินแผ่นดิน นับเป็นเรื่องเดียวกันได้อีก ที่อาจแยกไปต่างหากมีเพียงตำแหน่ง กรรมการ ใน คณะกรรมการ สรรหา ส.ว. ซึ่งจะว่าไปก็เกี่ยวข้องกับงานตรวจเงินแผ่นดินได้อีก เพราะสามารถใช้ประสบการณ์และอำนาจจากการตรวจเงินแผ่นดิน ในการตรวจสอบคุณสมบัติของ ส.ว. ..ถ้าคุณคณินตั้งป้อมกล่าวหาคุณหญิงจารุวรรณแบบนี้.. ถามว่า คุณคณินไม่รู้สึกเคอะเขินบ้างเลยหรือไง?  ก็ถ้ามันใช้แค่คนเดียวทำได้
แล้วจะมีหลายตำแหน่งไปทำไมกัน ให้มันสิ้นเปลือง
เรื่องประโยชน์ทับซ้อนกับการตรวจสอบถ่วงดุลนี่
"คนดีๆ" ไม่ต้องมีกันละนะ
ไอ้ที่ด่าเค้าไว้มากมายว่า แทรกแซง นู่นนี่
ถึงเวลา "คนดี" มาเป็นใหญ่ ไม่ต้องแทรกแซงอะไร
ตั้งตัวเองเข้าไปเป็นหมดทุกตำแหน่ง ยิ่งกว่าแทรกแซงแล้ว
พวกที่ใช้กำลังยึดอำนาจ ใช้ป้าย "คนดี" มาปิดปาก ทำลายระบบ
นั่นแหละที่บ่อนทำลายสังคม อย่างแท้จริง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Even the smallest person can change the course of the future.
|
|
|
jerasak
|
 |
« ตอบ #22 เมื่อ: 22-05-2008, 04:22 » |
|
ก็ถ้ามันใช้แค่คนเดียวทำได้
แล้วจะมีหลายตำแหน่งไปทำไมกัน ให้มันสิ้นเปลือง เรื่องประโยชน์ทับซ้อนกับการตรวจสอบถ่วงดุลนี่
"คนดีๆ" ไม่ต้องมีกันละนะ
ไอ้ที่ด่าเค้าไว้มากมายว่า แทรกแซง นู่นนี่ ถึงเวลา "คนดี" มาเป็นใหญ่ ไม่ต้องแทรกแซงอะไร ตั้งตัวเองเข้าไปเป็นหมดทุกตำแหน่ง ยิ่งกว่าแทรกแซงแล้ว
พวกที่ใช้กำลังยึดอำนาจ ใช้ป้าย "คนดี" มาปิดปาก ทำลายระบบ นั่นแหละที่บ่อนทำลายสังคม อย่างแท้จริง
ผมว่าคุณ snowflake หลงประเด็นแล้วนะครับ ที่ผมแย้งคือการนั่งหลายตำแหน่งของคุณหญิงจารุวรรณ ไม่ใช่การเป็น superwomen อย่างที่ถูกกล่าวหา การบริหารราชการตามปกติเขาก็นั่งหลายตำแหน่งแบบนี้ การเป็น "กรรมการโดยตำแหน่ง" มันเป็นเรื่องปกติธรรมดา เพราะเป็นการทำงานที่เกี่ยวเนื่องกับตำแหน่งหลัก ตำแหน่งหลักของคุณหญิงจารุวรรณมีแค่ตำแหน่งเดียว คือ "ผู้ว่าการตรวจเงินแ่ผ่นดิน" แต่ที่ต้องนั่งรักษาการ ในตำแหน่ง ประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และใช้อำนาจของ คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ก็เพราะคณะกรรมการฯ ถูกยุบ แต่ต้องมีคนรักษาการ ซึ่งเป็นเรื่องชั่วคราวก่อนเข้าสู่กระบวนการปกติ ส่วนการเป็นกรรมการ คตส. และ คณะกรรมการสรรหาฯ ก็เป็นการดำรงตำแหน่งที่เกี่ยวเนื่องกับตำแหน่งหลัก ทั้งหมดเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่กลับมีการกล่าวหา พยายามบิดเบือนไปว่าดำรงตำแหน่งถึง 5 ตำแหน่ง เป็นเรื่องผิดปกติ .. เป็น superwomen!!! ..เขากล่าวหาบิดเบือนเห็นได้ชัดเจนแบบนี้.. คุณ snowflake จะเปลืองตัวไปปกป้องทำไม? 
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-05-2008, 04:24 โดย jerasak »
|
บันทึกการเข้า
|
= A dreamer lives for eternity.= == นักฝันมีชีวิตเพื่อนิรันดร์กาล ==
|
|
|
Can ไทเมือง
|
 |
« ตอบ #23 เมื่อ: 22-05-2008, 04:54 » |
|
เค้าเรียกตั้ง "คนดี" มาล้างบาง "คนชั่ว"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
55555
|
 |
« ตอบ #24 เมื่อ: 22-05-2008, 09:58 » |
|
นึกว่าใคร....ที่แท้ คณิน นี่เอง.....
ตอนไล่ทักษิณ ออกมาด่า ระบอบทักษิณ ยกใหญ่....
ก่อน ประกาศรายชื่อ สสร. ก็ยังด่าระบอบทักษิณ อยู่
แต่ พอประกาศ รายชื่อ สสร ไปแล้ว...เชอะ...เปลี่ยนคนด่า ซะแล้ว...
ปล. แต่ คนชั่ว นี่ มันอยู่นานจังเลย....ไล่เท่าไหร่ ไม่ไป ซ๊ากกก ที
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ปรมาจารย์เจได
|
 |
« ตอบ #26 เมื่อ: 23-05-2008, 00:00 » |
|
อ่อ คณิน ไอ้ที่ออกมาสับทักษิณเรื่อง รัฐบาลรักษาการเถื่อน
มาอยู่ประชาทรรศน์ ไข่แม้วเลยรักว่างั้นเถอะ
วันหลังขออะไรที่กลั่นจากสมองมั่งนะครับที่รัก แปะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆอยู่ทุกวี่ทุกวัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
mebeam
|
 |
« ตอบ #27 เมื่อ: 23-05-2008, 20:44 » |
|
เอามาฝาก ไม่รู้จะกระทบ คนที่สวมหมวก 5 ใบ นั่ง 5 ตำแหน่ง มั๊ย ดีเอสไอเดินหน้าสอบ สตง. เอื้อประโยชน์เอกชนจัดฝึกอบรม หลังพบมีความสัมพันธ์เชื่อมโยง บิ๊ก สตง.จริง เล็งเสนอเป็นคดีพิเศษหลังถกครั้งสุดท้าย 2 มิ.ย. พ่วงกับคดีฮั้วพิมพ์บัตรเลือกตั้ง ปิดข้อโต้แย้ง กกต. งัดข้อเรื่องอำนาจสอบสวน วันนี้ (23 พ.ค.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยภายหลังประชุมคณะพนักงานสอบสวนกรณีมีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ตรวจสอบผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ซึ่งมีพฤติกรรมช่วยเหลือบริษัทเอกชนให้ได้รับโครงการฝึกอบรมใน สตง.แบบผูกขาด ว่า พนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นเวลากว่า 1 เดือน พบความคืบหน้าการสอบปากคำพยานบุคคล และตรวจเอกสารทางบัญชีของบริษัท ที่ได้รับว่าจ้างให้จัดการฝึกอบรมให้เจ้าหน้าที่ สตง.
นอกจากนี้ ยังตรวจสอบความเกี่ยวข้องของพยานบุคคล พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้บริหาร สตง.ตามที่ถูกกล่าวหา การสอบสวนยังพบพิรุธ และมีข้อเชื่อมโยงหลายส่วน ที่ส่อไปในทางที่ไม่ถูกต้อง ตามที่มีการกล่าวหาร้องทุกข์ ดังนั้น ตนจึงสั่งให้พนักงานสอบสวนเร่งรวบรวมหลักฐาน ทั้งเอกสารและพยานบุคคล ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ เนื่องจากมีบางข้อกล่าวหา อาจต้องนำเข้าสู่การพิจารณาเพื่อรับเป็นคดีพิเศษของคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) โดยจะประชุมติดตามความคืบหน้าอีกครั้งในวันที่ 2 มิถุนายนนี้
นายธาริต กล่าวอีกว่า หากมีการสอบสวนในคดีเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหน้าที่ไม่ถูกต้อง เอื้อประโยชน์ให้เอกชน ดีเอสไอจะต้องรวบรวมข้อมูลและหลักฐานเบื้องต้น ก่อนนำสำนวนส่งต่อให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รับไปดำเนินการ และเมื่อมีหลักฐานชัดเจนเพียงพอ พนักงานสอบสวนจะมีหมายเรียกหรือเชิญผู้บริหารระดับสูงของ สตง.ที่ถูกกล่าวหามาให้ปากคำ
ส่วนความคืบหน้าการสอบสวนคดีฮั้วประมูลการพิมพ์บัตรเลือกตั้ง ว่า ดีเอสไอคงไม่จำเป็นต้องไปชี้แจงเรื่องอำนาจการสอบสวนคดีฮั้วประมูลกับนายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)อีกแล้ว เพราะกกต.ทำหนังสือแย้งมาชัดเจนว่า ดีเอสไอไม่มีอำนาจสอบสวน เพราะการประมูลดังกล่าวมีวงเงินไม่ถึง 100 ล้านบาท ดังนั้น ดีเอสไอจะนำคดีดังกล่าวเสนอให้คณะกรรมการคดีพิเศษ ลงมติรับเป็นคดีพิเศษ เพื่อยุติข้อโต้แย้งเรื่องอำนาจสอบสวน
ก่อนหน้านี้ นายวันชัย จงจรูญหิรัณย์ กลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อดีเอสไอ ถึงความไม่ชอบมาพากลใน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จากการที่บริษัท ออดิต แอนด์ แมเนจเม้นท์ คอนซัลแตนท์ จำกัด ผูกขาดการจับอบรมให้กับบุคลากรของ สตง. มูลค่านับสิบล้านบาท และบริษัทดังกล่าวยังเช่าอาคารพาณิชย์ของ นายทรงเกียรติ เมณฑกา สามีคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่า สตง. ที่ส่อเข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อนยังเป็นข้อกล่าวหาอยู่ ก็ยังต้องแก้กันไป 
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-05-2008, 08:46 โดย mebeam »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
999
|
 |
« ตอบ #28 เมื่อ: 24-05-2008, 00:53 » |
|
ถ้าสะอาดจริงก็คงไม่กระไร แหมแต่พอปล่อยให้มีคนออกมาหาเรื่องนายกฯไม่เป็นเรื่องรู้สึกเหมือนเลือกปฏิบัติ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|