ท่านขุนน้อย
16 พฤษภาคม 2551 กองบรรณาธิการ
มือใหม่-หัดขับ
อืออ์อ์มม์ม์....ก็แปลก...จะเป็นเพราะเผด็จการพม่าโหดกว่า ***มกว่า หรือยังไงก็ไม่ทราบได้??? ถึงสามารถเข้ากันได้ดีกับ น้าหมัก ชนิดเป็นปี่เป็นขลุ่ย ออกอาการจี๋ๆ จ๋าๆ จนแทบจะจำแลงแปลงร่างเป็นโฆษกรัฐบาลพม่าไปแล้วก็ว่าได้ ส่วนถ้าหากเป็นเผด็จการเกสรอ่อนระทวยอย่าง คมช. รับรองว่า...มีแต่โดน น้าหมัก ไล่จิก ไล่ด่า โขกสับเสียๆ หายๆ มาโดยตลอด...ทั้งที่เป็นคนไทยด้วยกันแท้ๆ...
---------------------------------------
แต่เอาเป็นว่า... ในแง่บทบาทความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ น้าหมัก ท่านก็คงต้องเล่นไปตามบทนั่นแหละ เพียงแต่ว่า...ในบางครั้ง-บางครา ท่านอาจจะ อิน กับบทเกินไปหน่อย คือแค่พูดจาปราศรัยไปตามบท ตามสคริปต์ พอหอมปากหอมคอ ก็น่าจะพอแล้ว... ไม่ต้องแสดงอาการเหมือนกับเพิ่งคว้าคอเผด็จการพม่ามาจูบปาก แล้วต้องออกมาโฆษณาถึงความลึกซึ้ง ดื่มด่ำ ที่มีต่อรสสวาทของหม่องแต่ละหม่อง กันแบบชวนให้ขนลุกขนพองประเภท เขาทำของเขาทุกอย่างเรียบร้อย...ในย่างกุ้งฟื้นตัวเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ หรือ เผด็จการไม่เผด็จการไม่รู้ครับ...แต่เขาแก้ปัญหาของเขาได้...อันนี้...ต้องเรียกว่า...วิทยุกระจายเสียงภาคพม่าเกินไปนิด...
-----------------------------------------
เพราะอย่างน้อยที่สุด...ข่าวคราวความเดือดร้อนของราษฎรพม่า ในพื้นที่ชนบทห่างไกล ที่รัฐบาลยังเข้าไม่ถึง มันยังคงทยอยออกมาจากบรรดาองค์กรด้านมนุษยธรรม ไม่เว้นแต่ละวัน แม้กระทั่งแถวๆ ชายแดนประเทศไทยก็ตาม เสียงโหยหวน วิงวอน ข้ามชายแดนของชาวพม่า ก็ยังคงดังมาไม่ได้ขาด...เพียงแค่เดินทางไปนั่งลูบเข่าจับขากับเผด็จการพม่าไม่กี่ชั่วโมง เรียกว่า...ตดยังไม่ทันหายเหม็น ก็กลับมาป่าวประกาศการันตีความมีประสิทธิภาพของรัฐบาลพม่ากันแบบเต็มปากเต็มคำเช่นนี้...มันจึงออกจะเป็นอะไรที่...เว่อร์...เกินบท เกินจริงไปพอสมควร...
----------------------------------------
อันที่จริงแล้ว...ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่มันจะมีความมั่นคง ถาวร และยั่งยืนกันจริงๆ...มันคงจะต้องวางเอาไว้บนพื้นฐานความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับประชาชนนั่นแหละ ไม่ใช่แค่ระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาลเท่านั้น...ประเภทที่เอาแต่มุ่งเน้นความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาล คุยใหญ่คุยโตว่าซี้แหงย่ำปึ้ก มีเพื่อนเป็นนายกรัฐมนตรีพม่าชื่อ ขิ่น ยุ่นต์ แวบเดียวก็เคยหงายท้อง แทบตกม้าตายมาแล้ว...เมื่อจู่ๆ ขิ่น ยุ่นต์ โดนเผด็จการพม่าด้วยกัน สอยร่วงกลางอากาศ...การแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ระหว่างกันและกัน ถึงขั้นแทบเจ๊ง...พังพินาศ ทุนหายกำไรหดมาแล้วเห็นๆ....
----------------------------------------
การที่คนอย่าง น้าหมัก ซึ่งก็ไม่ได้มี ผลประโยชน์โดยตรง กับรัฐบาลเผด็จการพม่า...หรือไม่ได้คิดจะไปเปิดสาขาแฟรนไชส์ร้านขายซี่โครงไก่ต้มฟักในพม่าแต่อย่างใดนั้น...ว่าไปแล้วก็ไม่น่าจะถึงกับต้องไป อิน ในการเล่นบทเลิฟซีนกับรัฐบาลพม่ากันซักเท่าไหร่นัก ระดับถึงขั้นต้องไปด่าใครต่อใครในโลก เพื่อให้พม่ารัก...อันนี้...ต้องเรียกว่า...ออกไปทาง คาวี สวรรค์เบี่ยง เกินไปหน่อย...คือ ซาดิสต์ แบบไม่มีเหตุไม่มีผล เพราะถึงแม้นว่าหลายสิ่งหลายอย่างของพวกฝรั่ง หรือพวกตะวันตก...มันอาจจะไม่เข้าท่าเข้าทางอยู่ไม่น้อย...แต่ก็ไม่ได้มีความจำเป็นใดๆ เลย ที่จะต้องไปตบๆ-จูบๆ ทั้งๆ ที่ไม่ใช่เป็นพระเอกละครน้ำเน่า...แต่มีฐานะเป็นผู้นำประเทศแท้ๆ...
-------------------------------------------
ภายใต้การรับบททาสสวาทของเผด็จการพม่าเช่นนี้ คงต้องคิดให้ถี่ถ้วนด้วยว่า... มันจะขัดแย้งกับความรู้สึกของประชาชนชาวพม่า อันเป็นรากฐานที่แท้จริงของเนื้อหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มากน้อยเพียงใด??? แม้นว่า โดยอำนาจ รัฐบาลพม่ายังคงสามารถอ้างความเป็นตัวแทนของชาวพม่าอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ แต่อำนาจใดๆ ก็ตาม...ใช่ว่าจะคงทนสมบูรณ์นิรันดรไป ข่าวความเคลื่อนไหวการประท้วง การต่อต้านรัฐบาล ที่มีอยู่อย่างไม่หยุดหย่อน ต่อเนื่อง สม่ำเสมอ...ตลอดช่วงระยะนับเป็นทศวรรษๆ ที่ผ่านมา และจะยังคงมีต่อไป โดยเฉพาะในอีกไม่นานนับจากนี้ อย่างน้อย...ก็น่าจะทำให้เกิดสติ ในการกำหนดระยะห่าง ระยะเคียง เอาไว้บ้าง...ไม่ใช่โผเข้าจูบปากกันแบบดื่มๆ ด่ำๆ แค่นายกฯ พม่าโผล่มาชิมอาหารถึงบ้านเท่านั้น...ก็พร้อมที่จะพลีกายพลีใจให้เผด็จการกันไปซะแล้ว...
------------------------------------------
ที่สำคัญก็คือ...แม้นว่านายกฯ พม่าจะจริงจัง จริงใจ ไม่เคยคิดจะโกหก น้าหมัก เอาเลยก็ตาม แต่สำหรับผู้ที่ไม่ใช่ น้าหมัก เขาก็มีสิทธิ์ที่จะคิดว่า...มันอาจจะออกไปในทาง จิงโจ้ มากกว่า เพราะการที่รัฐบาลเผด็จการพม่ากระโดดหย็อยๆ ไปไหน-มาไหน...โดยไม่ได้คิดที่จะสนใจ ความรู้สึกของประชาคมโลก เอาเลยนั้น มันได้กลายเป็นตัวสร้าง เงื่อนไข และ ปัญหา ในระดับภูมิภาคหนักขึ้นเรื่อยๆ...แน่นอนว่าในฐานะประเทศที่มีรั้วชิด-ติดกัน ปัญหาของพม่า ก็มักจะกลายเป็นปัญหาของไทยตามไปด้วย...ด้วยเหตุนี้ การกำหนดท่าทีระหว่างพม่ากับไทย ไปพร้อมๆ กับท่าทีระหว่างไทยกับประชาคมโลกควบคู่ไปด้วย...มันจึงมีความประณีต ละเอียดอ่อนเอามากๆ จะไปใช้วิธีหยาบๆ คายๆ แบบ ชิมไป-บ่นไป ไม่ได้เด็ดขาด...
-------------------------------------------
แต่ก็อย่างว่า... มือใหม่-หัดขับ ก็คงต้องประมาณนี้นั่นแหละ ทำไงได้...ระดับแค่พ่อครัวแท้ๆ แต่ยังอุตส่าห์โดนมือดีคว้าเอามาวางไว้ในตำแหน่งผู้นำประเทศกันจนได้ โอกาสที่จะเข้าถึง-เข้าใจ เรื่องราวที่มีความลึกซึ้ง ประณีตละเอียดอ่อน อย่างเรื่องกิจการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้น...คงลำบาก อย่างที่เพิ่งออกมายืนยันเสียงสั่นเสียงแข็งเมื่อไม่กี่วันมานี้ว่า... เรื่องเขาพระวิหารกับผลประโยชน์ซ้อนทับทางทะเลในอ่าวไทยนั้น เป็นคนละเรื่อง...ไม่เกี่ยวกันเด็ดขาด แต่อยู่ๆ รัฐมนตรีพาณิชย์เขมร นาย จาม ประสิทธิ์ ดันไปให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์กัมพูชาว่า...ฝ่ายไทยนั่นแหละ...ที่พยายามจะโยงให้เป็นคนละเรื่องเดียวกันจนได้...แล้วยังงี้จะทำไงต่อไป...เรียกว่า หน้าแหกระดับประเทศ กันเห็นๆ....
------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก ลารอชพูโคลด์ นักจริยธรรมชาวฝรั่งเศส (อีกครั้ง)... "คนเรานั้น...มักจะดูใหญ่โตในงานที่ต่ำกว่าระดับความสามารถของเขา...แต่จะดูด้อยค่าทันที...เมื่อต้องเผชิญกับงานที่เหนือความสามารถ..."
-------------------------------------------
http://www.thaipost.net/index.asp?bk=thaipost&iDate=16/May/2551&news_id=158626&cat_id=500
