ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
30-11-2024, 18:18
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  ห้องสาธารณะ  |  "พลังแห่งจิตวิญญาณ(กฏแห่งกรรม)" จะเป็นพลังงานควบคุมทุกสรรพชีวิตในโลก 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
"พลังแห่งจิตวิญญาณ(กฏแห่งกรรม)" จะเป็นพลังงานควบคุมทุกสรรพชีวิตในโลก  (อ่าน 1185 ครั้ง)
สายใจ
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 15-05-2008, 17:40 »

เส้นทางกฎหมาย'เส้นทางประเทศ' 

เปลวสีเงิน

15 พฤษภาคม 2551    กองบรรณาธิการ

เมื่อวานนี้ ดูเหมือนทั้งบ้าน-ทั้งเมืองจะเต็มไปด้วยเรื่องคดีความ ท่านอยากทราบ
ว่าเป็นเรื่องอะไรบ้าง ก็ลองค้นๆ หาเอาจากข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์เถอะครับ
แต่ที่จะเป็น "หนังชีวิต"


ข้ามภพ-ข้ามรัฐบาล เห็นจะเป็นคดี "หวยบนดิน ๒ ตัว ๓ ตัว" นั่นแหละ

คดีนี้น่าสนใจเป็นพิเศษนะครับ โดยแยกความพิเศษเป็น ๒ ขั้นตอน คือขั้นตอน
อันเป็นเนื้อหาของคดี กับขั้นตอนก่อนที่จะนำคดีฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญา
ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

นี่เรากำลังคุยกันถึงขั้นตอนหลังนะครับ คือการฟ้องคดี ถือเป็นคดีแรกที่ คตส.
ตั้งทีมทนายฟ้องเอง แทนที่จะให้ "ทนายแผ่นดิน" คืออัยการเป็นผู้ทำหน้าที่ฟ้อง

ก็ไม่ใช่ คตส.อยากฟ้องเองหรอก หากแต่ระยะหลังๆ คล้ายกับว่าทางอัยการผู้ตรวจ
สำนวนฟ้อง กับ คตส.ผู้ทำสำนวน ทำงานร่วมกันแบบ "เกลียวหวาน"
อะไรประมาณนั้น

เมื่อเรื่องเดียวกัน   แต่มองไปคนละมุม อัยการแย้งประเด็นให้กลับไปสอบสวน
เพิ่มเติม  แต่ คตส.เห็นว่าที่สอบมาครบถ้วนสมบูรณ์ดีแล้ว ไม่ควรที่จะยื้อเป็น
การเตะถ่วงเวลา

คตส.ก็เลยหาทนายมาฟ้องศาลเสียเองเลย!

คดีหวยบนดิน  ๒  ตัวและ ๓  ตัวนี้ คตส.หรือคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำ
ที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ  ยื่นฟ้องคณะรัฐมนตรีชุดของ พ.ต.ทักษิณ ชินวัตร
ทั้งคณะ

รวมถึงประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล  ปลัดกระทรวงการคลัง กรรมการ
สลากกินแบ่งรัฐบาล และ ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ในยุคนั้น
รวมทั้งหมด ๔๗ คน!

ถ้าจำไม่ผิด คตส.ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ ไปเมื่อต้นเดือนมีนาคม ๒๕๕๑

แล้วก็ให้ "สวรรค์เบี่ยง" เสียจริงๆ ในจำนวนผู้ต้องหา ๔๗ คนนั้น มีอยู่ ๓  คนที่
"ฟ้าจัดสรร" ให้มาเป็นรัฐมนตรีอยู่ในคณะรัฐบาลขณะนี้  คือ  นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี 
รัฐมนตรีคลัง นางอุไรวรรณ เทียนทอง รัฐมนตรีแรงงาน และนายอนุรักษ์ จุรีมาศ
รมช.คมนาคม

ก็เลยเป็นปัญหาทางกฎหมายขึ้นทันที เพราะตาม พ.ร.บ.คณะกรรมการป้องกัน
และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) บอกว่า ในกรณีอย่างนี้
รัฐมนตรีทั้ง ๓ คนต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที

ถ้า "ศาลประทับรับฟ้อง"!!

นี่แหละครับ ที่ว่าคดีนี้น่าสนใจเป็นพิเศษ  เพราะนอกจากประเด็นที่มองกันว่า
"คตส.มีอำนาจฟ้องเองหรือไม่?" แล้ว  ก็ยังมีเดิมพัน  ๓ เก้าอี้รัฐมนตรีนี้ด้วย

เมื่อวานนี้ (๑๔ พ.ค.) เป็นแค่ศาลนัดมาฟังคำสั่งคดีเท่านั้น ไม่ใช่วันตัดสินคดี
แต่ถือว่าเป็นวันตัดสินชะตา "สุรพงษ์-อุไรวรรณ-อนุรักษ์" บนตำแหน่งรัฐมนตรี
โดยตรง เพราะแค่ว่าศาล "ประทับรับฟ้อง" เท่านั้น

ทั้ง ๓ คน ก็ต้อง "หยุด" การทำงานในตำแหน่งรัฐมนตรีทันที!

แต่ก็ถอนหายใจโล่งอกไปได้อีกพักใหญ่ครับ  เพราะศาลท่านยังไม่ประทับ
รับฟ้องคดี แต่ให้ส่งเรื่องต่อ "ศาลรัฐธรรมนูญ" วินิจฉัยคุณสมบัติ และการต่อ
อายุการทำงานของ คตส.ว่า

"ขัดกับรัฐธรรมนูญ" หรือไม่?

คือฝ่ายจำเลยที่ ๓๑-๔๗ เขาอ้างว่า คปค.ฉบับที่ ๓๐ ที่ให้อำนาจ คตส.
ตรวจสอบการกระทำผิด นั้น เป็นการให้อำนาจตรวจสอบในส่วนของคณะรัฐมนตรี
และการที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช.แก้ไขเพิ่มเติมคำประกาศ คปค.
ต่ออายุ คตส.ออกไปจนถึงวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๑ นั้น

ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๖ ที่ว่า "รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ 
บทบัญญัติใดของกฎหมาย กฎหรือข้อบังคับ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญนี้
บทบัญญัตินั้นเป็นอันใช้บังคับมิได้"

ครับ..ก็อึ้งกันไปคนละแบบสองแบบ  แต่สรุปได้แบบเดียวว่า
"ศาลท่านใช้ดุลยพินิจบนความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายดีแล้ว"

ในเมื่อมีความเห็นขัดแย้งกันในข้อกฎหมาย เพื่อยุติข้อโต้แย้งจากทุกฝ่าย
ก็เดินตามช่องเพื่อให้หายข้องจิตกันซะแต่แรก ศาลรัฐธรรมนูญท่านวินิจฉัย
ว่าอย่างไรแล้ว

ศาลฎีกาแผนกคีอาญาฯ ก็จะสั่งคดีไปตามบรรทัดฐานนั้นว่า จะรับฟ้อง
หรือไม่รับฟ้อง

เออ..แต่ว่า "ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ" ๙  ท่าน ที่เกิดตามรัฐธรรมนูญ
ฉบับใหม่นี้ เรียบร้อยพร้อมเข้าปฏิบัติหน้าที่กันแล้วหรือยัง ก็น่าสำรวจกัน
ดูหน่อยนะครับ

แต่เดิม คือตามรัฐธรรมนูญ ปี ๒๕๔๐ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มี ๑๕ ท่าน
ก็ชุดวินิจฉัย "ทักษิณซุกหุ้น-ไม่ผิด" นั่นแหละ

แต่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ  ตามรัฐธรรมนูญ ปี ๒๕๕๐ กำหนดให้มี ๙ ท่าน 
มาจากที่ประชุมใหญ่ศาลศาลฎีกา ๓ ท่าน ที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด 
๒ ท่าน มาจากผู้ทรงคุณวุฒิสาขานิติศาสตร์  ๒ ท่าน และมาจากผู้ทรงคุณวุฒิ
รัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์อีก ๒ ท่าน

รวมทั้งหมดเป็นคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ๙ ท่าน!

นี่แหละครับ  ถ้ารักจะสนใจการบ้าน-การเมือง  ต้องสนใจ  ๙ ตุลาการ
ศาลรัฐธรรมนูญกันให้มากไว้ เพราะหนังชีวิตที่ผมว่านั้น ไม่เพียงเรื่องคดี
หวยบนดินนี้แค่นั้น

ยังมีอีกหลายคดีในส่วนการทำงานของ คตส.ที่จะ "ฟ้องเอง" และยังไม่นับคดี
"ยุบพรรค" ที่ กตต.ส่งให้อัยการตรวจสำนวนอยู่ขณะนี้ ซึ่งตุลาการทั้ง ๙ ท่าน
นี่แหละเป็นผู้กำชะตาชีวิต!
บันทึกการเข้า
สายใจ
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: 15-05-2008, 17:54 »

ทำความรู้จักหน้า-รู้จักตา ๙ ท่าน ไว้บ้างก็ดีนะครับ มีดังนี้

สายนิติศาสตร์-รัฐศาสตร์ รวมเป็น ๔ ท่าน คือ

๑.นายจรัญ ภักดีธนากุล จากปลัดกระทรวงยุติธรรม

๒.นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ จากผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์ ภาค ๔

๓.นายเฉลิมพล เอกอุรุ จากอดีตรองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ

๔.นายสุพจน์ ไข่มุก จากอดีตกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ

จากที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด ๒ ท่าน คือ

๕.นายจรูญ อินทจาร

๖.นายอุดมศักดิ์ นิติมนตรี

จากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ๓ ท่าน คือ

๗.นายกิติศักดิ์ กิติคุณไพโรจน์

๘.นายนุรักษ์ มาประณีต

๙.นายชัช ชลวร

นี่แหละครับ ทั้ง ๙ ท่านอยู่ระหว่างการคัดเลือกกันเอง ๑ คนขึ้นมาเป็น
 "ประธานศาลรัฐธรรมนูญ" ที่เหลืออีก ๘ ก็เป็น "ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ"

ตอนนี้  ผิวหน้าราบเรียบ แต่ลึกลงไปใต้บาดาล ใครจะได้เป็น ๑ ใน ๙
เห็นเขาคุยกันว่า..น้ำป่วนไปหมด!

ขอแทรกนิด บางท่านอาจเข้าใจว่า ขณะนี้ศาลรัฐธรรมนูญ "ว่าง" การทำหน้าที่
จนกว่าตุลาการทั้ง ๙ นี้จะเข้ามาทำงาน ความจริงไม่ใช่อย่างนั้นครับ

ไม่ว่ารัฐบาลปฏิวัติ  หรือรัฐบาลเลือกตั้ง ยังมีศาลรัฐธรรมนูญทำหน้าที่วินิจฉัยคดี
ตามปกติครับ แต่เรียกว่า "ตุลาการรัฐธรรมนูญ" เหมือนอย่างชุดวินิจฉัย
คดียุบพรรคไทยรักไทยนั่นแหละ

๙  ตุลาการนี้มารับหน้าที่ใหม่เมื่อไหร่  ตุลาการรัฐธรรมนูญที่มี "ประธานศาลฎีกา"
เป็นประธานโดยตำแหน่งก็จะสลายไปโดยปริยาย!

ท่านลองตรวจรายชื่อทั้ง ๙ แล้วหาคำตอบคร่าวๆ ไว้ในใจ  เป็นการทบทวน
ความรู้ทางกฎหมายของท่านไปพร้อมๆ กันก็ได้นะครับว่า 

ประเด็นขัดแย้งทางข้อกฎหมายที่ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ ส่งให้ตีความ
เรื่องคุณสมบัติของ คตส. และเรื่องที่ สนช.ต่ออายุให้ คตส.นั้น 
ผิดรัฐธรรมนูญมาตรา ๖ หรือไม่

ในใจท่าน..วินิจฉัยได้คำตอบออกมาอย่างไร?

เก็บคำตอบไว้ในใจนะครับ อย่าเพิ่งเที่ยวตะโกนไปเชียว!

ตรงนี้ถือเป็น "หูรูด" ของคดีที่ คตส.ทำอยู่ทั้งหมดเกือบ ๒๐ คดี
ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าคุณสมบัติ คตส.และการต่ออายุ คตส.ขัดต่อกฎหมาย
คดีนี้ก็ถือว่า "สิ้นสุด" จบกันไปเลย

รวมทั้งคดีอื่นๆ ที่ คตส.ทำอยู่ทั้งหมดด้วย  ยกเว้นคดีที่ดินรัชดาภิเษกคดีเดียว
ที่ไม่อยู่ในเงื่อนไขข้อกฎหมายที่ฝ่ายจำเลยยกขึ้นมาต่อสู้!

บ้านเมืองข้างหน้า ชักตื่นเต้น เร้าใจ ขึ้นเรื่อยๆ แล้วมั้ยล่ะ?

ผมก็บอกเป็นครั้งที่  ๑๘,๒๙๗  แล้วมิใช่หรือว่า 
บนเส้นทางเปลี่ยนของประเทศ "กฎหมาย-บุคคลในกฎหมาย"
จะเป็นผู้ควบคุมวงจรและกลไก สู่เส้นทางเปลี่ยน
และนอกจากบุคคลในกฎหมายแล้ว "พลังแห่งจิตวิญญาณ"
จะเป็นพลังงานควบคุมที่ "เหนือการควบคุม". ?


การนำเอาบทความนี้มาโพสต์ในเสรีไทย ก็คงเหมือนเอามะพร้าวห้าวมาขายสวน
เพราะหลายๆ ท่านในเสรีไทยคงได้ผ่านตามาก่อนแล้ว
แต่เพราะต้องการให้อ่านบทความนี้อย่างมีวิจารณญาณ ให้บังเกิดสติปัญญา
เกิดกำลังใจในการ "ทำความดีเพื่อแผ่นดิน สังคม ชุมชน ครอบครัว และตนเอง"
จึงนำมาโพสต์ไว้ ในยามที่ "ชคม" ดังที่เราท่านรู้กันอยู่
ด้วยเข้าใจในสภาวะที่บ้านเมืองมีวิกฤต จริยธรรม คุณธรรม วิกฤตสติปัญญา
ของผู้คนในบ้านเมืองเช่นนี้

ขอตั้งจิตอธิษฐานภาวนาให้ และขอเชิญชวน เพื่อน พ้อง น้อง พี่
ผู้รักชาต ศาสนา พระมหากษัตริย์ อธิษฐานจิตร่วมกัน
ขอจงรักษาจิตให้เป็นกุศล พลังงานจากจิตที่เป็นกุศลเท่านั้น
จะคุ้มครองประเทศไทยได้
และขอให้เชื่อกฏแห่งกรรม และช่วยกันกระทำกรรมดีเถิด
และกรรมดีไม่ใช่การนิ่งเฉย การเบี่ยงประเด็น การมีอคติ หรือการขุดรูอยู่
กรรมดี อันดับแรก คือ เมตตา และมีพรหมวิหาร ๔
แต่ขณะเดียวกันต้องทำความจริงในปรากฏ ตามกาละเทศะ
กาละเทศะ คือ การควร ไม่ควร ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยากมาก


จากผู้ที่กำลังเดินอยู่บนเส้นทางฝึกฝนตนเองให้ดี
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: