ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
28-09-2024, 01:18
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  นักประชาธิปไตยแม๊วๆ มีนักประชาธิปไตย'หัวชนฝา' และ 'ซ้ายพิกล' เป็นพันธมิตร... 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
นักประชาธิปไตยแม๊วๆ มีนักประชาธิปไตย'หัวชนฝา' และ 'ซ้ายพิกล' เป็นพันธมิตร...  (อ่าน 1843 ครั้ง)
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« เมื่อ: 14-05-2008, 15:26 »

เวลานี้นักประชาธิปไตยแม๊วๆ มีแนวร่วมเป็ดไก่ พรรคปล้นชาติ ม๊อบเติมเงิน
นักประชาธิปไตย'หัวชนฝา' และ 'ซ้ายพิกล-สมองพิการ'
เป็นแนวร่วม เพื่อแก้ไข/ยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ด้วยข้อหาว่า
เป็นรัฐธรรมนูญร่างโดยเผด็จการทหาร แต่มีเจตนาซ่อนเร้น...
เพื่อทำลายสถาบันที่เป็นที่เคารพของคนไทย
ระบอบประชาธิปไตยอันมี่พระมหากษัตริย์เป็นประมุข....
เพื่อล้มคณะกรรมการ คตส. และ คณะกรรมการ ปปช.
เพื่อยกเลิกข้อกล่าว ล้มล้างผลการสอบสวนทุจริต ฉ้อโกงในอดีตต่าง ๆ เช่น
คดีที่ดินรัฐดาฯ คดีเครื่องตรวจสอบระเบิด CTX 9000 คดีหวยบนดิน...ฯลฯ


เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ น่าประหลาดใจที่นักประชาธิปไตย'หัวชนฝา'
สามารถเป็นแนวร่วม สนิทสนมกับนักประชาธิปไตยแม๊วๆ และบริวารได้....


บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #1 เมื่อ: 15-05-2008, 00:05 »

ชมรมส.ส.ร. 50 แจงรธน. 50 ดีกว่าปี 40 ผ่านเวบไซต์

ชมรมส.ส.ร.50 แจงรธน.50 ดีกว่าปี 40 ผ่านเวปไซต์ เตือนภาคประชาชน เสนอแก้รธน.เข้าข่ายล้มล้างรธน.ผิดม.68

นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานชมรมส.ส.ร.50 แถลงภายหลังการประชุมว่า ชมรมส.ส.ร.ยังคงมีจุดยืนเดิมคือไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 เพราะเป็นการแก้ไขเพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องและยังเห็นว่าการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญในขณะนี้มีการเสนอข้อมูลรัฐธรรมนูญปี 50 ผิดไปจากเจตนารมณ์ในการร่างและสร้างความสับสนให้กับประชาชน เช่น มีการระบุว่ารัฐธรรมนูญปี 50ให้มีอมาตยธิปไตย เป็นรัฐธรรมนูญที่มาจากรัฐประหาร ไม่ได้เป็นประชาธิปไตย

ดังนั้น ชมรมส.ส.ร.50 จะจัดทำข้อมูล ข้อเท็จจริงโดยการเปรียบเทียบข้อดีของรัฐธรรมนูญปี 50เหมาะที่จะใช้ในสถานการณ์ปัจจุบันอย่างไร และปัญหาอุปสรรคในการใช้รัฐธรรมนูญปี 40 โดยจะดำเนินการอย่างรีบด่วนภายใน 5-7 วัน เพื่อเผยแพร่ให้ประชาชนรับทราบ ซึ่งชมรมส.ส.ร.50 จะลงในเวปไซด์ www.ssr50.net

นายเสรี กล่าวว่า มีภาคประชาชนส่วนหนึ่งได้เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเข้าชื่อ 50,000 รายชื่อเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ และควรสนับสนุน แต่อยากให้ทำให้ถูกต้องตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญและหลักของกฎหมาย โดยการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องดำเนินการอย่างแท้จริง ไม่ใช่ไปยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 50 แล้วนำรัฐธรรมนูญปี 40 มาใช้ทั้งฉบับ ซึ่งอาจเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 , 291 ซึ่งเป็นการล้มล้างรัฐธรรมนูญเปลี่ยนรูปแบบการปกครอง นอกจากนี้ขอเรียกร้องให้รัฐสภาเร่งออกกฎหมายว่าด้วยการเสนอกฎหมายตามมาตรา 291 เนื่องจากขณะนี้แม้ประชาชนจะเข้าชื่อเสนอแก้ไขกฎหมายก็ไม่สามารถทำได้

ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาล อ้างว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของรัฐสภาไม่เกี่ยวกับรัฐบาล นายเสรี กล่าวว่า เป็นการแก้ตัวที่ฟังขึ้น เพราะการเสนอแก้ไขกฎหมายรัฐบาล ส.ส. ส.ว.ประชาชน สามารถเสนอได้ ซึ่งที่ผ่านมาก็เห็นได้ชัดเจนว่ารัฐบาลเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยตัวเอง ดังนั้นจึงเป็นการปฎิเสธข้อกล่าวหา

 
http://special.bangkokbiznews.com/detail.php?id=1431&username=thot
บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #2 เมื่อ: 15-05-2008, 00:07 »

วันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 เวลา 16:17:59 น. แสดงความคิดเห็น [5] , จำนวนผู้อ่าน [318] 
"“สีแดง”แรงฤทธิ์มาแล้ว!"
By pracha

หลังพิธีกรรม “อาหารค่ำ” ณ ร้านอาหารอิตาเลียนของ 6 หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลผ่านไป ดูเหมือนสถานการณ์ “สงครามรัฐธรรมนูญ” จะคลี่คลาย เมื่อรัฐบาลโยนเรื่องร้อนไปที่สภาฯ

แต่ความเป็นจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ เพราะตอนสายวันพฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม 2551 “ทัพหลวง” ของขบวนการคนรักทักษิณ ได้เรียกระดมพลคนสวม “เสื้อแดง” เรือนพันเคลื่อนทัพไปที่หน้าสภาฯ

ในนามของ คณะกรรมการประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 (คปพร.)  หรือเหล้าเก่าในขวดใหม่ ซึ่งแกนนำก็คนหน้าเดิมๆ จาก “แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ” (นปก.)

ไม่ว่าจะเป็น จรัล ดิษฐาอภิชัย, น.พ.เหวง โตจิราการ, วิภูแถลง พัฒนภูมิไท, ชินวัฒน์ หาบุญพาด, ดร.เมธาพันธ์ โพธิ์ธีรโรจน์ และ สมยศ พฤกษาเกษมสุข

นี่คือยุทธศาสตร์ “สองประสาน” ที่เดินเกมคู่ขนานกันระหว่าง “ในสภา” และ “นอกสภา”

โดยมีเป้าหมายคือ รื้อรัฐธรรมนูญ 2550 และนำเอารัฐธรรมนูญ 2540 กลับคืนมา!

จึงมิควรแปลกใจที่เห็น “สหายขวด” สุนัย จุลพงศธร อดีตแนวร่วม พคท.เขตงานตาก ,จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำม็อบพีทีวี และ ทวีศักดิ์ คิดบรรจง ส.ว.บุรีรัมย์ สังกัดวังศิลาชัย ออกมารับรายชื่อประชาชน 1.5 แสนคน ที่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550

มินับความพยายามที่จะดัน “ชัย โมเช่” บิดา เนวิน ชิดชอบ ขึ้นเป็น “ประมุขนิติบัญญัติ” เพื่อคุมเกมการแก้ไขรัฐธรรมนูญ


นี่คือการกลับมาของขบวนคนรักทักษิณ ในนาม “ภาคประชาชน” ที่ต้องการล้างระบอบเผด็จการ หรือกำจัดมรดก คมช.ให้สิ้นซาก


ที่น่าสนใจในข้อเสนอการแก้ไขรัฐธรรมนูญของ คปพร.ในหมวดหน้าที่ของปวงชนชาวไทย โดยมีการเพิ่มเติมเรื่อง “พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ” กลับเข้ามาอีกครั้ง

การจุดพลุเรื่องพุทธศาสนา ก็สอดรับกับคำแถลงของ “ชาญวิทย์” มือแจกใบปลิวเถื่อนเมื่อวันก่อน ที่ออกมาแฉว่า “เจ้าอาวาสวัดใหญ่” แถวปทุมธานี เป็นคนแต่งเพลงเชิดชู “วีรบุรุษทักษิณ”
 และประเด็น “พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ” ก็คือ “ธง” ของวัดใหญ่เมืองปทุมฯ ที่แอบให้การสนับสนุนชาวพุทธหลายกลุ่มเคลื่อนไหวมาก่อนหน้านี้

ฉะนั้น “พลังนอกสภา” สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 จึงประกอบด้วยกำลัง 3 ส่วนหลัก
 1.พลังประชาธิปไตย ที่มีคนชั้นกลาง นักวิชาการ เอ็นจีโอบางปีกที่ไม่เอาด้วยกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
 2.พลังคนรักทักษิณ ที่เป็นกำลังส่วนใหญ่ ภายใต้การนำของ “หมอผีอีสานใต้” และเหล่า “สาวกหมอผี” กว่า 80 ชีวิตในสภาผู้แทนฯ
 3.พลังชาวพุทธวัดใหญ่ ที่มีเครือข่ายอยู่ทั่วประเทศ ทั้งที่เป็น “สาวกวัดใหญ่” และ “วัดแนวร่วม”

หากพลังสามกลุ่มผนึกกันขับเคลื่อน เชื่อว่าสามารถระดมพล “เรือนแสน” เข้าสู่ถนนราชดำเนินได้อย่างไม่ยากเย็น

และเชื่อว่าหลังจากนี้ นายกฯ สมัคร และแกนนำ 6 พรรคร่วมก็จะปล่อยให้เป็นเรื่อง “เกมในสภา” และ “เกมนอกสภา” ที่จะจัดการรื้อรัฐธรรมนูญ 2550

หากสถานการณ์เป็นไปตามยุทธศาสตร์ของ “หมอผีอีสานใต้” ก็หวั่นเกรงกันว่า สงครามท้องถนน มีโอกาสเกิดขึ้นค่อนข้างสูง

เมื่อกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาชน เคลื่อนพลสู่หน้าสภาฯ ตามที่เคยประกาศไว้ว่าวันใดที่สภารับหลักการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
 สถานการณ์แหลมคมเช่นนี้ ก็จะย้อนกลับไปสู่บรรยากาศสงครามท้องถนนปี 2549 และ 2550

เมื่อถึงวันนั้น..ก็จะเป็นอีกครั้งที่กระแสเพรียกหา “อัศวินม้าขาว” ดังกระหึ่ม!

ถ้านับตามกรอบเวลาแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชาชน ก็น่าจะ “ขมวดปม” ทุกอย่างไว้ราวเดือนกันยายน-ตุลาคม

บังเอิญว่าในห้วงเวลานั้นก็เป็น “ฤดูโยกย้ายนายทหาร” ประจำปีพอดิบพอดี

จะได้ฟังเพลงมาร์ชกองทัพหรือไม่..ก็ขึ้นอยู่ “สงครามรัฐธรรมนูญ” บนถนนราชดำเนินว่าจะดำเนินไปถึงขั้นไหน?

ถ้ายึดตามคำพูด “สหายเพ็ญ” ที่ต้องการเห็น “สงครามประชาชน” ก็เชื่อว่าคนไทยจะได้เห็น “เทศกาลรถถังโชว์” อย่างแน่นอน!

http://www.bangkokbiznews.com/
บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #3 เมื่อ: 15-05-2008, 00:14 »

ออกมารับลูกทางการเมืองหา'คนหัวเถิก'สอดรับกัน เมื่อนายกฯพูด จักรภพก็พร้อมจะแปลเอกสารชี้แจง


:"ถือว่าเป็นความกรุณาของหัวหน้าของผมโดยตรงให้ความเป็นธรรม และมองว่าเรื่องทั้งหมดจงใจเจตนาหาเรื่องกัน ซึ่งมันเป็นเช่นนั้น หากดูคำแปลในคำบรรยายของผมนั้น ถือว่าแปลผิดและหาเรื่องทั้งนั้น"

กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : จักรภพ เพ็ญแข รมว.ประจำสำนักนายกฯปัดที่จะตอบ"หัวเถิก"คือใคร เพียงเล่นคำ"ไม่รู้ และต้องตีความว่าเถิกมาก เถิกน้อย " แต่ยืนยันพร้อมที่จะแปลบรรยายที่ไปปาฐกถาสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ

เป็นทางออกที่ดีที่สุด ว่าใครกันแน่เป็นบ่อนทำลาย หลังจากที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวใน"รายการสนทนาประสาสมัคร" อัดคน"หัวเถิก"ที่เป็นคนกำลังหมิ่นสถาบัน และขอให้"จักรภพ"ไปแจ้งความดำเนินคดีได้

การออกมารับลูกกันทางการเมืองหา"คนหัวเถิก"สอดรับกันพอดี เมื่อนายกฯพูดรายการ จักรภพก็หาทางออกที่จะแปลเอกสารที่ปาฐกถาวันนั้นชี้แจง

กระแสไปไกลถึง"จตุพร พรหมพันธุ์"ส.ส.ระบบสัดส่วนพรรคพลังประชาชนว่า"คนหัวเถิก"มีตัวตนจริง...."ถ้า ม.ล.ปีย์ (มาลากุล ณ อยุธยา)ร้อนตัวก็ขอให้แสดงตัวมาเลย คาดว่าอีกไม่กี่วันจะมีความชัดเจน"

เรื่องดังกล่าวแดงร้อนแรงขึ้นเมื่อหัวหน้าฝ่ายค้าน "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ออกมาจี้ใจดำ"สมัคร"ให้จัดการ"จักรภพ"ที่ปาฐกถาสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศว่าเรื่องมีความละเอียดอ่อน และทัศนคติเป็นอันตรายต่อประเทศ จนวิปฝ่ายค้าน เตรียมยื่นเสนอถอดถอน"รมว.ประจำสำนักฯ"ในวันที่ 15 พ.ค.นี้

เรื่องก็จี้ใจดำรัฐบาลทั้ง"นายกฯสมัคร"และตัว"จักรภพ"ที่นิ่งนอนใจเสียมิได้ ต้องออกมาตอบโต้ทันควัน ไม่กลัว"ฝ่ายค้าน"หากยื่นถอดถอน แต่อ้างต้องยึดครรลองประชาธิปไตย ไม่ว่าตั้งข้อกล่าวหามีความเข้าใจผิด คลาดเคลื่อน ยินดีจะชี้แจง

เรื่อง"คนหัวเถิก"จึงขับเคี่ยว พร้อมจะร้อนแรงเข้มข้น ไม่มีทางหยุดยั้ง และเป็นประเด็นที่แต่ละฝ่ายต้องการพิสูจน์ให้สังคมเห็น กรณีหมิ่นเบื้องสูงอยู่ในขณะนี้ ที่เป็นบ่อนทำลายชาติ

"จักรภพ"เกิดเมื่อ 21 ตุลาคม 2510 จบการศึกษาโรงเรียน สาธิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโทมหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ สหรัฐอเมริกา และปริญญาโท MASTER OF COMPARATIVE LAW,SOUTHERN METHODIST UNIVERSITY,DALLAS,TAXAS USA.

ประวัติการทำงาน เป็นเจ้าหน้าที่ทูต กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และปัจจุบันรมว.ประจำสำนักนายกฯ

ผ่านประสบการณ์ทำงานด้านการเมือง เป็นแกนนำ "ม็อบพีทีวี" ขึ้นไฮด์ปาร์กบนเวทีสนามหลวงขับไล่คมช. และต่อมาเป็นหนึ่งในแกนนำแนวร่วนปก.คัดค้านรัฐประหาร 19กันยาฯ 2549

"จักรภพ"ยืนยันกรณีตัวเขาโดนเล่นงานจากขบวนการที่ดำเนินอยู่นี้คล้ายรูปแบบประวัติศาสตร์ทางการเมืองก่อนเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ 2519 กรณี"สุรินทร์ มาศดิตถ์" อดีตรมว.ประจำสำนักนายกฯขณะนั้นโดนกล่าวหาว่าไม่จงรักภักดี และต่อมา"สุรินทร์"เส้นโลหิตแตก หมดสภาพ และเสียชีวิตในที่สุด

เมื่อเขารู้ถึงประวัติศาสตร์ทางการเมืองไทยสอนเอาไว้ให้เขารู้แล้ว ต้องติดตามการเมืองเรื่อง"คนหัวเถิง"กันต่อ

เพราะเป็นการขับเคี่ยวกันไม่จบสิ้น อาจจะมีการปรับครม.ครั้งใหญ่ ย่อมเป็นไปได้


http://www.bangkokbiznews.com/
บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #4 เมื่อ: 15-05-2008, 00:20 »

รายงาน-"เลี่ยงบาลี"-แก้ไขรธน.
 
 
ข้อสรุป...ของหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล6 พรรค ที่ให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 เป็นเรื่องของ "สภา" ไม่เกี่ยวกับ "รัฐบาล" นั้น



เป็น"การเลี่ยงบาลี เพื่อปัดให้พ้นตัว"

เพราะการให้สภาเป็นผู้พิจารณาเรื่องนี้ไม่ต่างหรือเท่ากับ "รัฐบาล" เป็นผู้เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเอง

เนื่องจากเสียงข้างมากที่ยึดครองสภาอยู่ในขณะนี้ก็คือ เสียง ส.ส.ของพรรคร่วมรัฐบาล 6 พรรคนั่นเอง

โดยมี2 วิธีการ

วิธีแรกคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ล่ารายชื่อ ส.ส.ซีกรัฐบาลและ ส.ว.เพื่อเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ

วิธีที่สองใช้ร่างรัฐธรรมนูญของคณะกรรมการประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 (คปพร.) ที่มีประชาชนเข้าชื่อ 1.5 หมื่นคน ซึ่งมีการยื่นไว้ต่อรัฐสภา

คปพร.ก็ไม่ใช่ใครอื่นเพราะเป็นคนของเครือข่ายแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) และกลุ่มคนรักทักษิณ ทั้งสิ้น

อย่างไรก็ตามคาดว่าน่าจะใช้วิธี ส.ส. ส.ว.เข้าชื่อเสนอญัตติมากกว่า ซึ่งตอนนี้วิปรัฐบาลก็เริ่มเดินหน้าแล้ว

เพราะหากใช้ร่างของคปพร.ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบรายชื่อประชาชนนาน ไม่ทันใจรัฐบาล

แต่ "ธง" ก็ยังเหมือนเดิมคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อตัวเอง คือการแก้ไขมาตรา 237 และมาตรา 309

โดย"มิได้นำพา" กับกระแสเรียกร้องจากสังคมทุกภาคส่วนรวมทั้งนักวิชาการและแพทย์อาวุโส ที่ว่าหากจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องมี สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญหรือ ส.ส.ร.3 เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มิใช่ใช้แค่เสียงข้างมากในสภาที่มีแต่ฝ่ายการเมืองลากไปเท่านั้น

และหากมองไปถึงการวางตัวของ"พรรคพลังประชาชน "ที่ให้ นายชัยชิดชอบ เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรก็จะทำให้เห็นชัดถึง "ธง" ที่ต้องการให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จโดยเร็วโดยไม่ต้องมี ส.ส.ร.3

เพราะกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญตั้งแต่ต้นจนจบคือ ตั้งแต่การยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่รัฐสภา การนัดประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาวาระแรก วาระสอง วาระสาม ไปจนถึงกระบวนการก่อนนำร่างฯ ขึ้นทูลเกล้าฯ

ผู้ที่มีบทบาทสำคัญในแต่ละขั้นตอนก็คือ ประธานสภาผู้แทนราษฎรในฐานะเป็น "ประธานรัฐสภา" โดยตำแหน่งนั่นเอง

ที่ผ่านมานายชัย ซึ่งเป็น "ประธานวิปรัฐบาล" ได้แสดงท่าทีสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีการยกร่างฯ โดยวิปรัฐบาล อย่างเต็มที่ชนิดสุดลิ่มทิ่มประตู

ดังนั้นหากมีนายชัย นั่งในตำแหน่งประธานสภา เชื่อขนมกินได้เลยว่า วาระต่างๆ ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่ได้รับญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ การบรรจุเป็นระเบียบวาระ การนัดหมายประชุมรัฐสภาให้ ส.ส.และ ส.ว.มาประชุมร่วมกันเพื่อพิจารณาทั้ง 3 วาระ จะสะดวกราบรื่น ไม่มีสะดุดในทุกขั้นตอน

หันมาดูทาง"พรรคประชาธิปัตย์" เกี่ยวกับจุดยืนต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ต้องบอกว่า น่าผิดหวัง

เพราะจนป่านนี้ก็ยังไม่มีมติออกมาให้ชัดเจน ว่าจะเอาอย่างไร

และเมื่อผลหารือของหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล6 พรรค ออกมาว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของสภา

พรรคประชาธิปัตย์ก็ชะลอการประชุมกำหนดท่าทีเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญออกไปทันที โดยให้เหตุผลว่า เมื่อหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ได้มีมติเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทางฝ่ายค้านก็ไม่มีเหตุที่ต้องประชุมกำหนดท่าทีเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเช่นกัน

ซึ่งเป็นการชิงไหวชิงพริบทางการเมืองจนมากเกินงาม

ทั้งที่น่าจะรู้ดีอยู่แล้วว่าการโยนเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญของหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลให้แก่สภา ผลก็ไม่ต่างอะไรกับรัฐบาลเป็นผู้เสนอแก้ไขเอง เพราะรัฐบาลคุมเสียงข้างมากในสภาอยู่แล้ว

อีกทั้งตอนนี้กระแสเรียกร้องของสังคมที่ให้มีส.ส.ร.3 ก็ดังเซ็งแซ่อยู่แล้ว

หากพรรคประชาธิปัตย์มีมติว่า พร้อมเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เพื่อให้มี ส.ส.ร.3 เชื่อได้เลยว่าจะได้เสียงสนับสนุนจาก ส.ว.อีกจำนวนไม่น้อย ในการร่วมลงชื่อเสนอญัตติด้วย

เพราะการเสนอญัตติให้มีการแก้ไขมาตรา291 เพื่อให้มี ส.ส.ร.3 เป็นวิธีหนึ่งที่พอจะหยุดยั้ง มิให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านสภาฉลุย

เนื่องจากเมื่อญัตติแก้ไขมาตรา291 เข้าไปสู่การพิจารณาของรัฐสภา จะเกิดกระแสเรียกร้องจากสังคมช่วยหนุนส่งให้มี ส.ส.ร. 3 ซึ่งจะเป็นแรงกดดันต่อ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ที่จะยกมือเป็น "ฝักถั่ว" ผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ

อีกทั้งยังเป็นทางเลือกให้แก่พรรคร่วมรัฐบาลด้วยหากต้องการเอาใจออกห่างจากพรรคพลังประชาชน โดยยกมือสนับสนุนญัตติให้มี ส.ส.ร. 3 ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

กรณีนี้จะต่างกันโดยสิ้นเชิงกับการรอเพียงยกมือไม่เห็นด้วยในสภาแต่เพียงอย่างเดียว ซึ่งเท่ากับไม่ได้ทำอะไรเลย เพราะมีแต่ "แพ้" กับ "แพ้" เนื่องจากเสียงในสภาสู้กันไม่ได้

ที่สำคัญ..การมีส.ส.ร.3 ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นหนทางเดียวที่พอมองเห็นในขณะนี้ว่า จะช่วยดับวิกฤติการเมือง ที่กำลังจะเกิดขึ้นได้


http://www.komchadluek.net/2008/05/14/x_pol_k001_202016.php?news_id=202016


 
บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #5 เมื่อ: 15-05-2008, 00:23 »

อย่าเล่นกับศรัทธา
 
 
ลองเข้าไปท่องเว็บไซต์ดู พบว่ามีบทความเกี่ยวข้องกับสถาบันที่คนไทยเคารพรักต่อเนื่องและค่อนข้างหมิ่นเหม่ บางเว็บไซต์ปล่อยไว้ 2-3 วัน


แล้วดึงออก ปรับเปลี่ยนไปเรื่อย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไล่สกัดกันไม่ทัน

 บทความ รูปภาพ ข้อเขียนลักษณะนี้แพร่หลายมาตลอดต่อเนื่องหลายปี ปัจจุบันรุนแรงหนักกว่า แปลกตรงที่ปรากฏพร้อมๆ กับท่าทีท้าทายของขาใหญ่บางคน ที่ได้อำนาจการเมืองกลับคืน

 ในภาคอีสาน ภาคเหนือบางส่วนปลุกปั่น ชี้นำดุเดือดกว่า มีเครือข่ายกระจายทั่วถึงทุกหมู่บ้าน ความจริงคนอีสานส่วนใหญ่ก็ไม่ชอบการกระทำลักษณะดังกล่าวนัก แต่เก็บเงียบไว้ เพราะลักษณะสังคมเป็นคนไม่ก้าวร้าว รอถึงเวลาต้องเลือกข้างเท่านั้น

 อย่าย่ามใจว่า "นโยบายประชานิยม" จะทำให้ชาวบ้านตกเป็นเหยื่อ ครอบงำได้ งมงายอยู่กับเศษเงินเพียงเล็กน้อย แล้วสร้างเป็นกองทัพตัวเองใช้ชาวบ้านเป็นเครื่องมือ

 เชื่อว่าศรัทธาชาวบ้านต่อสถาบันจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง เมื่อถึงเวลานักการเมืองจะรู้ว่าอะไรคือของจริง

 ม็อบที่ถูกจัดตั้งมาปั่นป่วนช่วงนี้อย่าเพิ่งตกใจ เพราะพวกนี้แค่ลิ่วล้อนักการเมือง ไม่ใช่พลังมวลชนของแท้ การชุมนุนเรียกร้องใดๆ ต้องอยู่ในกรอบกฎหมายทั้งฝ่ายพันธมิตรและกลุ่มต่อต้าน 

 เงื่อนไขที่ถูกสร้างเพื่อให้เกิดความระส่ำรุนแรง อาจเข้าทางคนพวกหนึ่ง แต่ทั้งหมดนี้คงไม่รอดสายตาตำรวจสันติบาล และหน่วยงานด้านความมั่นคงเกาะติดอยู่ แม้ผู้นำหน่วยจะถูกส่งมาจากการเมือง แต่มีระดับล่างรวบรวมหลักฐานเก็บไว้รอวันแตกหัก

 ตำรวจต้องแสดงบทบาทที่ชัดเจน

 ขณะนี้มีความพยายามดึงฟ้าลงมาใกล้ตัว ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ล่าสุดมีข่าวฉาวโฉ่ถึงเมืองผู้ดี ธงชาติไทยมีชื่อใครบางคนปรากฏ เหมาะสมหรือไม่ย่อมรู้แก่ใจ

 กูรูการเมืองต่างฟันธงกันแล้วว่า บ้านเมืองกำลังเข้าสู่จุดวิกฤติครั้งสำคัญ ส่อเค้ารุนแรง ยิ่งท่าทีรัฐมนตรีบางคนสนับสนุนชัดเจน มีกระบวนการบั่นทอนสิ่งยึดเหนี่ยวคนไทย

 เมื่อกลุ่มการเมืองเดิมกลับมามีบทบาทอีกครั้ง ย่อมแสดงและคิดได้ว่าอำนาจที่ได้มาคือ คำตอบของทุกสิ่ง

 และคงไม่ง่ายนักสำหรับการแก้ไขกฎหมายเพื่อฟอกตัวใครบางคนบางกลุ่ม

 ตั้งแต่โบราณมามีตัวอย่างปรากฏ พวกคิดคดทรยศบ้านเมือง ท้าทายศรัทธาของสูง ล้วนพบจุดจบที่น่าอนาถทั้งสิ้น !!!

http://www.komchadluek.net/2008/05/14/x_colu_m005_200660.php?newsid=200660

 
บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
northstar
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 635


« ตอบ #6 เมื่อ: 15-05-2008, 00:29 »

ถ้าพวกนั้นจะเอาแต่อ้างว่า เป็นรัฐธรรมนูญที่ร่างโดยเผด็จการทหาร รัฐบาลที่มีอยู่ตอนนี้ก็มาจากรัฐธรรมนูญที่ร่างโดยเผด็จการทหารเหมือนกัน ถ้าเผด็จการจริง...
รัฐบาลที่ว่านี้ก็คงไม่ได้คลอดออกมาเป็นรัฐบาทลูกกรอก
บันทึกการเข้า
see - u
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,370


.......... I'm not Supergirl


« ตอบ #7 เมื่อ: 15-05-2008, 01:15 »

*  เรื่องอ้าง รธน. 50  ว่ามาจากเผด็จการ .....  ก็เพราะไม่รู้จะหาข้ออ้างอะไรที่ดีไปกว่านี้แล้ว

    และกรุณาอย่าถามมากไป... เพราะ   ลุงหมัก   แกนึกคำตอบไม่ออกค่ะ  ( ถนัดแต่  ด่า  อย่างเดียว )

    เปลว  สีเงิน .....  เขียนไว้ในคอลัมภ์หลังจาก ลุงหมัก  นัดทานดินเนอร์  6  พรรคร่วมรัฐบาล  ( เมื่อวันที่ 7 พ.ค. )

    กรณีที่มีการตกลงกันว่า  >   เรื่องแก้รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของสภาฯ เค้า  รัฐบาลไม่เกี่ยว!?    <

    คุณเปลว  เค๊าเปรียบเปรยเอาไว้แบบนี้ ......... 


   "  พูดเหมือนพวกแมงดา  เรื่องขายตัว  ขายประเวณี  เป็นเรื่องของโสเภณีเค้า  ผม..แมงดาไม่เกี่ยว?? 

      ถ้าแมงดากับโสเภณีไม่เกี่ยวกัน โลกนี้คงไม่มีคำว่า "แมงดาคุมซ่อง" เป็นแน่..ท่านว่ามั้ย ?

      ก็สมแล้วหละครับที่ "อาจารย์ธีรยุทธ  บุญมี" ตั้งฉายาให้เป็น "รัฐบาลลูกกรอก" คือกลอก  และกลิ้งไปได้ทุกทาง

      พอถูกสังคมกระหนาบดิ้นไม่หลุดว่า "แก้รัฐธรรมนูญเพื่อตัวเองและทักษิณ

      ก็โยนหิน-เปลี่ยนเส้นทางน้ำ  ให้พวกลูกกรอก  พวกรัก-ยม เบี่ยงปัญหารับหน้าเสื่อแทน!  "


    นั่นแหละ !!  ถึงจะโยนไม้ไปให้  สภา  ก้ใช่ว่าจะไม่มีการเดินหน้าต่อเรื่อง  รธน.

    รัฐบาลกำลังเล่นเป็น    ลิงหลอกเจ้า   กะ  ประชาชน  อยู่  .........  !!

    ไอ้ที่ทำเงียบ ๆ หงิม ๆ เรื่องนี้  ....  ใช่ว่าจะไม่มีการสานต่อนี่ค่ะ   

     เกมส์  นี้ ..........  คงต้องดูกันอีกยาว 


บันทึกการเข้า

    " I  will  unforgive  you  to  do  the  bad  thing  like  this. "   

                           

                        The  fox  changes  his  skin  but  not  his  habits.   *

                 Superman ( It's Not Easy )   >>  http://www.ijigg.com/songs/V2B7G4GPD
    
    
   "  กฏหมายต้องเดินหน้าเอาผิดต่อคนไม่ดี  ........  ไม่ใช่ปล่อยให้คนไม่ดีมากล่าวเอาโทษกฏหมาย  "

                                     
                                          
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #8 เมื่อ: 15-05-2008, 10:54 »

เงื่อนเวลา บีบบังคับให้นายใหญ่ต้องสั่งลุย

จำเป็นต้องเปิดสภาสมัยวิสามัญ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะจะรอสมัยประชุมปกติไม่ได้ ไม่ทันเวลาแล้ว

ขณะนี้รอการโปรดเกล้าประธานสภาผู้แทนคนใหม่ และให้หมดสมัยประชุมนี้ ก็จะต้องเร่งเปิดประชุมสมัยวิสามัญในทันที

และทันทีที่เปิดสภาสมัยวิสามัญเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ  สงครามก็บังเกิดในทันที 
บันทึกการเข้า
see - u
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,370


.......... I'm not Supergirl


« ตอบ #9 เมื่อ: 15-05-2008, 13:10 »

*  ถ้าจะมองโดยภาพรวมมีการ   ส่งต่อ  ~  รับลูก   ในเรื่องต่าง ๆ เป็นระยะ ๆ มาสักพักหนึ่งแล้ว

    แต่เป้าหมายหลักต่างหาก คือ สิ่งที่สนใจ ...........

    ต่อจากนี้คงเข้มข้นขึ้นอีกเยอะ .....  เพราะเวลาของ  แม้ว  เหลือน้อยลงทุกทีแล้ว 
    สนุกดีประเทศไทย  .........  !!!
   

บันทึกการเข้า

    " I  will  unforgive  you  to  do  the  bad  thing  like  this. "   

                           

                        The  fox  changes  his  skin  but  not  his  habits.   *

                 Superman ( It's Not Easy )   >>  http://www.ijigg.com/songs/V2B7G4GPD
    
    
   "  กฏหมายต้องเดินหน้าเอาผิดต่อคนไม่ดี  ........  ไม่ใช่ปล่อยให้คนไม่ดีมากล่าวเอาโทษกฏหมาย  "

                                     
                                          
หน้า: [1]
    กระโดดไป: