แก้วสรร ข้องใจศาลฏีกา ส่งศาลรธน.ตีความ คตส. ( โปรดอย่าก้าวล่วงศาลนะครับ )

[Can ไทเมือง]

แก้วสรร ข้องใจศาลฏีกา ส่งศาลรธน.ตีความ คตส.
เนชั่นทันข่าว  14:39 น.

นายแก้วสรร อติโพธิ เลขานุกการคตส.กล่าวถึงกรณีศาลฏีกาฯส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการต่ออายุของคตส.ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ให้คตส.หมดวาระ 30 มิ.ย.และการแต่งตั้งคตส.ตามประกาศคปค.ฉบับที่ 30 ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ก่อนที่จะรับวินิจฉัยคดีหวยบนดินว่า ไม่เคยเห็นกฎหมายแบบนี้ คดียังไม่เข้าประตูศาล และศาลเองยังไม่ได้รับว่าจะรับฟัองหรือไม่ แล้วจะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้อย่างไร อย่างไรก็ตามคตส.จะไม่ทำอะไรและคงไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของคตส.

“ รัฐธรรมนูญที่ผมเข้าใจตามที่เรียนมาและสอนลูกศิษย์มา คดีนี้ยังไม่เข้าศาล ศาลยังไม่ได้รับอะไรเลย พวกนั้นยังไม่เป็นจำเลย แล้วมันจะมีช่องทางไปสู่ศาลรัฐธรรมนูญได้อย่างไร เพราะกฎหมายที่ผมเข้าใจไม่มีแบบนี้ ตามหลักแล้วต้องเป็นคดีที่ศาลฏีการับฟ้องแล้ว เห็นว่าขัดรัฐธรรมนูญถึงจะส่งไปศาลรัฐธรรมนูญได้ “ นายแก้วสรรกล่าว

นายแก้วสรรกล่าวถึงขั้นตอนของรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 211 ที่บัญญัติว่า ในการที่ศาลจะใช้บทบัญญัติแห่งกฎหมายบังคับแก่คดีใด ถ้าศาลเห็นเองหรือคู่ความโต้แย้งพร้อมด้วยเหตุผลว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมายนั้นต้องด้วยบทบัญญัติมาตรา 6 และยังไม่มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบทบัญญัตินั้น ให้ศาลส่งความเห็นเช่นนั้นตามทางการเพื่อศาลรัฐธรรมนูญจะได้พิจารณาวินิจฉัย ในระหว่างนั้นให้ศาลดำเนินการพิจารณาต่อไปได้ แต่ให้รอการพิจารณาคดีไว้ชั่วคราว จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

นายแก้วสรร กล่าวว่า ศาลฎีกามีอำนาจในการวินิจฉัย เมื่อวินิจฉัยอะไรก็เป็นไปตามนั้นย เคารพการวินิจฉัยของศาลฏีกาเพียงแต่คตส.ไม่คาดคิดว่าจะออกมาอย่างนี้ เพราะนึกว่าจะยื่นเรื่องว่าขัดรัฐธรรมนูญได้เมื่อทั้งหมดตกเป็นจำเลยแล้ว คตส.ก็คงไม่ต่อสู้อะไร เพราะยังไม่มีใครบอกว่าคตส.ใช้อำนาจไม่ถูก แต่บอกว่ากฎหมายไม่ถูก แต่ถ้าศาลรัฐธรรมนูญไม่รับก็จะยุ่งกันไปใหญ่ 
 
 
 
(โปรดแสดงความคิดเห็นที่ไม่เข้าข่ายละเมิดศาลนะครับ เดี๋ยวจะยุ่ง )

[Can ไทเมือง]

ศาลฎีกายังไม่เคาะ 'คดีหวยบนดิน' ส่งศาลรธน.วินิจฉัย 'การตั้ง-ต่ออายุ' คตส.ขัดรธน.หรือไม่
มติชน  วันที่ 14 พฤษภาคม 2551 - เวลา 14:56:52 น. 
 
ศาลฎีกามีคำสั่งส่ง 'คดีหวยบนดิน' ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย 2 ประเด็น 1.ตั้งคตส.ขัดรธน.ปี 50 หรือไม่ 2.กม.ต่ออายุคตส.ขัดรธน.ปี 50 หรือไม่ ต่อลมหายใจ 'เลี้ยบ-ป้าอุ-อนุรักษ์' อีกเฮือก

ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดอ่านคำสั่งศาลในคดีที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ได้ยื่นฟ้องคดีทุจริตหวยบนดิน (ออกสลากพิเศษเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว) ซึ่งมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และคณะกรรมาธิการสลากกินแบ่งรัฐบาลในสมัยนั้นรวม 47 คน เป็นจำเลย ซึ่งคตส.ได้ยื่นฟ้องไปเมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยศาลมีคำสั่งส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่า

1.ประกาศ คปค. ฉบับที่ 30 เรื่องการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ที่แต่งตั้ง คตส.ขึ้นมานั้น ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 หรือไม่

2.พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 เรื่อง การตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ลงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2549 ที่ต่ออายุการปฏิบัติหน้าที่ของ คตส.ออกไปถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2551 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 หรือไม่

ทั้งนี้ คำฟ้องดังกล่าว คตส.ได้ยื่นคำฟ้องจำนวน 57 หน้า พร้อมสำนวนพยานหลักฐานการทุจริต โดยได้ระบุในคำฟ้องว่า พ.ต.ท.ทักษิณและพวกได้ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการมีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2548 ในการออกสลากพิเศษเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว โดยคตส.ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยทั้ง 47 คนตามกฎหมาย และขอให้ศาลมีคำสั่งให้จำเลยทั้งหมดร่วมกันคืนหรือใช้เงิน ที่จำเลยร่วมกันมีมติอนุมติให้จ่ายเงินซึ่งเป็นเงินรายได้จากการออกสลากของสำนักงานสลากกินแบ่ง ที่เป็นผู้เสียหาย จำนวน 14,862,254,865.94 บาท รวมทั้งขอให้นับโทษพ.ต.ท.ทักษิณ จำเลยที่ 1 ต่อจากคดีทุจริตซื้อ-ขายที่ดินรัชดาภิเษกด้วย

ต่อมา เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 พ.ค. นายรุ่งโรจน์ รื่นเริงวงศ์ ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนและองค์คณะผู้พิพากษารวม 9 คน ได้ออกนั่งพิจารณาในคดีหมายเลขดำที่ อม.1/2551 ระหว่างคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดควาามเสียหายแก่รัฐ (คตส.) โจทก์ พ.ต.ท.ทักษิณ จำเลยที่ 1 กับพวกรวม 47 คน โดยทนายโจทก์ได้เดินทางมาศาล แต่ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ไม่มาศาล

องค์คณะผู้พิพากษาได้พิจารณาคำฟ้อง คำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องครั้งที่ 1 ลงวันที่ 18 มีนาคม 2551 และคำร้องของจำเลยที่ 31 ถึง 47 ลงวันที่ 3 เมษายน 2551 แล้ว โจทก์อ้างว่า โจทก์มีอำนาจตรวจสอบและมีอำนาจฟ้องตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรางเป็นประมุข (คปค.) ฉบับที่ 30 เรื่อง การตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ และพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 เรื่อง การตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ลงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2549

จำเลยที่ 31 ถึง 47 โต้แย้งว่าประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 เรื่อง การตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ และคตส.เป็นการจัดทำขึ้น หรือตั้งขึ้นเพื่อตรวจสอบเฉพาะการดำเนินงานหรือโครงการที่ได้รับอนุมัติ หรือเห็นชอบโดยบุคคลในคณะรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรี เฉพาะคณะที่พ้นจากตำแหน่งโดยผลของการปฎิรูปการปกครองฯ เท่านั้น ไม่ใช่บังคับแก่กรณีหรือบุคคลทั่วไป และคตส.ก็ปฏิบัติหน้าที่ได้ในเวลาที่กำหนดในระยะสั้นเท่านั้น กรณีจึงเป็นการออกกฎหมายเพื่อจำกัดสิทธิและเสรีภาพที่กระทบกระเทือนสาระสำคัญแห่งสิทธิเสรีภาพของประชาชน และเป็นการออกกฎหมายที่ให้มีผลใช้บังคับเป็นการเฉพาะ ไม่ใช่การทั่วไป โดยมุ่งหมายให้ใช้บังคับเฉพาะแก่กรณีและเฉพาะแก่บุคคล เพื่อคณะบุคคลดังกล่าวข้างต้นเท่านั้น จึงขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 29

นอกจากนี้ ประกาศ คปค.แต่งตั้ง คตส. ขึ้น โดยให้มีอายุในการปฏิบัติหน้าที่ตามข้อ 11 เป็นเวลา 1 ปี นับแต่วันที่ประกาศดังกล่าวใช้บังคับ คือวันที่ 30 กันยายน 2549 ถึง 30 กันยายน 2550 ก่อนวันที่ คตส.จะหมดอายุลงตามประกาศฉบับดังกล่าว สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ได้ตรา พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 ขึ้นมา ให้มีการต่ออายุการปฏิบัติหน้าที่ของ คตส.ออกไปเป็นวันที่ 30 มิถุนายน 2551 เป็นระยะเลา 9 เดือน ก่อนที่ พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 จะประกาศในราชกิจจานุเบกษา มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2550 ได้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญในราชกิจจานุเบกษา มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2550 ซึ่งบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญได้กำหนดให้มีองค์กรตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐไว้เป็นการเฉพาะแล้ว เช่น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) การที่รัฐจัดตั้งหรือต่ออายุองค์กรตรวจสอบใดขึ้นมา จะต้องอยู่ภายใต้บังคับหรือเป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 29 การที่สนช.ตรา พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 ต่ออายุการปฎิบัติหน้าที่ของคตส.ออกไปถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2551 ถือเป็นการจัดตั้งองค์ใหม่ให้ทำหน้าที่ตรวจสอบ ซึ่งมิใช่องค์กรตรวจสอบตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 จึงเป็นองค์ที่ตั้งขึ้นโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คำร้องของจำเลยที่ 31 ถึงที่ 47 ทั้งสองข้อดังกล่าว เป็นการโต้แย้งว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมายนั้น ต้องด้วยบทบัญญัติมาตรา 6  ของรัฐธรรมนูญ และยังไม่มีคำวินิจฉัยของรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวกับบทบัญญัตินั้น ถ้าบทบัญญัติแห่งกฎหมายนี้ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ บทบัญญัตินั้น ก็จะเป็นอันใช้บังคับมิได้ คตส.ซึ่งเป็นโจทก์ในคดีนี้ ก็จะไม่มีอำนาจตรวจสอบและไม่มีอำนาจฟ้อง เป็นกรณีที่ศาลต้องใช้บทบัญญัติแห่งกฎหมายนั้นบังคับแก่คดี จึงให้ส่งไปให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยว่า 1. ประกาศ คปค. ฉบับที่ 30 เรื่องการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ที่แต่งตั้ง คตส.ขึ้นมานั้น ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 หรือไม่ 2. พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 เรื่อง การตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ลงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2549 ที่ต่ออายุการปฏิบัติหน้าที่ของ คตส.ออกไปถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2551 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 หรือไม่

เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยแล้ว องค์คณะผู้พิพากษาจะได้วินิจฉัยเกี่ยวกับคำฟ้อง คำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องครั้งที่ 1 และคำร้องของจำเลยที่ 31 ถึงที่ 47 ต่อไป

ให้ถ่ายสำเนาคำฟ้อง คำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องครั้งที่ 1 คำร้องของจำเลยที่ 31 ถึงที่ 47 และรายงานกระบวนพิจารณานี้ โดยรับรองสำเนาถูกต้อง ส่งไปศาลรัฐธรรมนูญโดยเร็ว

[999]

ผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับการแก้ไขหรือเปลี่ยนรัฐธรรมนูญบ่อยๆ

แต่ก็จำเป็นหากการร่างหรือใช้รัฐธรรมนูญรัดกุมจนขัดแย้งกันในตัวรัฐธรรมนูญนั้นๆก็เป็นไปได

กฏหมายที่ดีทุกชนิดต้องคุ้มครองผูุ้สุจริตเป็นหลัก

[login not found]

คงเป็นเพราะจำเลยร้องค้านว่า คตส.ไม่มีอำนาจ
และการต่ออายุของคตส.อาจขัดรัฐธรรมนูญ
ศาลจึงต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญให้ตัดสินก่อน

ก็ดีครับ ที่เถียงๆกันมาเรื่องอำนาจและอายุของ คตส.จะได้ข้อสรุปซักที
ผลการตัดสินเป็นประโยชน์ในการพิจารณาคดีอื่นๆที่ยังค้างอยู่ด้วย
ยิ่งศาลรธน.ตัดสินเร็วเท่าไหร่ยิ่งดีครับ

[mebeam]

อ.แก้วสรร คงจะโมโห ที่ใช้อำนาจ ศาลฏีกาเล่นงาน อดีต รมต. ไทยรักไทยไม่ได้
   หวังว่า จะให้รับฟ้อง แล้ว รมต ต้องหยุดทำงาน  ถามหน่อยทำเพื่ออะไร ถ้าไม่ใช่จะกลั่นแกล้ง
เป็นอย่างนี้ก็ดีครับ ศาลท่านเข้าใจหาทางออก ไม่ใช่รับฟ้องให้หยุดทำงาน อีก3 เดือนมาบอก ว่าสถานะไม่ถูกต้อง ยกฟ้อง

[TheBluECaT]

ก็ดีแล้วหนิครับ...

ให้เป็นขั้นตอนของกฎหมายในชั้นศาล ให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ

จะได้เคลียร์ทุกเรื่องให้หายข้องใจกันทั้ง 2 ฝ่ายไปเลย

[พรรณชมพู]

คงเป็นเพราะจำเลยร้องค้านว่า คตส.ไม่มีอำนาจ
และการต่ออายุของคตส.อาจขัดรัฐธรรมนูญ
ศาลจึงต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญให้ตัดสินก่อน

ก็ดีครับ ที่เถียงๆกันมาเรื่องอำนาจและอายุของ คตส.จะได้ข้อสรุปซักที
ผลการตัดสินเป็นประโยชน์ในการพิจารณาคดีอื่นๆที่ยังค้างอยู่ด้วย
ยิ่งศาลรธน.ตัดสินเร็วเท่าไหร่ยิ่งดีครับ

ศาลฎีกาเป็นเจ้าภาพเอง ศาลรัฐธรรมนูญก็คงดำเนินการให้ ไม่ต้องมีปัญหาว่า ผู้ส่งเรื่องมีอำนาจหน้าที่หรือไม่

จะได้จบเรื่องคุณสมบัติไปเสียทีค่ะ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญรับรองสภานภาพ คราวนี้ ทุกคดีก็ไม่ต้องมีปัญหาข้อกฎหมายนี้อีก 

[พบกันครึ่งทาง]

น่านนะสิ....แล้วอาจารย์แก้วสรรจะโมโหไปทำไม

ทำแอ๊บแบ๊ว....ไม่เคยเห็นของแปลกไปได้  กฏหมายย้อนหลังที่เป็นโทษนิแปลกป่ะจาน...

[sak]

 สงสัยจะเอาผิดไม่ได้และเพราะคนชั่ว ครองเมืองเสียแล้ว  ทำงานไปมีแต่ท้อแท้อาจารย์สู้นะครับ   

  2551 คนเลวของเมือง(คนดีอยู่ไม่ได้แต่ถ้าอยากอยู่ต้องเอาคนไม่ดีไปเข้าคุกไม่หมด)

[55555]

อย่าไปทุกข์ใจเลยครับ.....ศาลฏีกา ท่านว่าอย่างไร ก็ตามนั้น....

อาจเป็นความรอบตามสไตร์ ของ ผู้พิพากษา...ปัญหาทำนองนี้ เคยเกิดขึ้นมาแล้ว...เมื่อครั้งรสช.ยึดทรัพย์นักการเมือง

ผมไม่ค่อยกังวัลเท่าไหร่....ดูยังไง...คตส. ก็มาถูกต้อง...

การต่ออายุ คตส. ไมรู้มีการต่ออายุก่อนรัฐธรรมนูญ ปี 50 ประกาศใช้ หรือปล่าว...

เดี๋ยว คงเห็น อิทธิฤทธิ์ ของ ม. 309 กัน ครับ

[Solidus]

ทีนี้ได้รู้กันไปซะที

[An.mkII]

ผมว่าเราต้องมองกันหลายๆมุมครับ..


ที่ว่า...มุมของคนทำงาน ที่ว่าก็อยากให้งานราบรื่นไปด้วยดี..

ฉะนั้ั้นการที่อ.แกข้องใจแกโมโหก็คงจะไม่ผิดอะไร..


ซึ่งถ้ามองอีกมุมหนึ่ง..


ก็จะได้เป็นเครื่องการันตีว่าศาลท่านไม่ได้เข้าข้างใคร...

เพราะตอนนี้เหล่าพวกตรงข้ามก็ออกมาขานรับแลวบอกว่าศาลท่านเชื่อได้ 

และตรงนี้ก็จะเป็นเครื่องการันตีได้ว่าไม่ว่าผลจะออกมาแบบไหน มันก็จะพลิกลิ้นไม่ได้แล้ว เพราะมันออกมาบอกกันแล้วว่าศาลท่านเชื่อได้..


ดังนั้นมองโลกกันในหลายๆมุมเราก็จะได้ความคิดหลายๆแบบครับ

[ปุถุชน]

อ.แก้วสรร คงจะโมโห ที่ใช้อำนาจ ศาลฏีกาเล่นงาน อดีต รมต. ไทยรักไทยไม่ได้
   หวังว่า จะให้รับฟ้อง แล้ว รมต ต้องหยุดทำงาน ถามหน่อยทำเพื่ออะไร ถ้าไม่ใช่จะกลั่นแกล้ง
เป็นอย่างนี้ก็ดีครับ ศาลท่านเข้าใจหาทางออก ไม่ใช่รับฟ้องให้หยุดทำงาน อีก3 เดือนมาบอก ว่าสถานะไม่ถูกต้อง ยกฟ้อง

น่านนะสิ....แล้วอาจารย์แก้วสรรจะโมโหไปทำไม

ทำแอ๊บแบ๊ว....ไม่เคยเห็นของแปลกไปได้  กฏหมายย้อนหลังที่เป็นโทษนิแปลกป่ะจาน... 

ข้อความโดย: พบกันครึ่งทาง

แก้วสรร ข้องใจศาลฏีกา ส่งศาลรธน.ตีความ คตส.
เนชั่นทันข่าว  14:39 น.

นายแก้วสรร อติโพธิ เลขานุกการคตส.กล่าวถึงกรณีศาลฏีกาฯส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการต่ออายุของคตส.ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ให้คตส.หมดวาระ 30 มิ.ย.และการแต่งตั้งคตส.ตามประกาศคปค.ฉบับที่ 30 ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ก่อนที่จะรับวินิจฉัยคดีหวยบนดินว่า ไม่เคยเห็นกฎหมายแบบนี้ คดียังไม่เข้าประตูศาล และศาลเองยังไม่ได้รับว่าจะรับฟัองหรือไม่ แล้วจะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้อย่างไร อย่างไรก็ตามคตส.จะไม่ทำอะไรและคงไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของคตส.
“ รัฐธรรมนูญที่ผมเข้าใจตามที่เรียนมาและสอนลูกศิษย์มา คดีนี้ยังไม่เข้าศาล ศาลยังไม่ได้รับอะไรเลย พวกนั้นยังไม่เป็นจำเลย แล้วมันจะมีช่องทางไปสู่ศาลรัฐธรรมนูญได้อย่างไร เพราะกฎหมายที่ผมเข้าใจไม่มีแบบนี้ ตามหลักแล้วต้องเป็นคดีที่ศาลฏีการับฟ้องแล้ว เห็นว่าขัดรัฐธรรมนูญถึงจะส่งไปศาลรัฐธรรมนูญได้ “ นายแก้วสรรกล่าว 


นายแก้วสรรกล่าวถึงขั้นตอนของรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 211 ที่บัญญัติว่า ในการที่ศาลจะใช้บทบัญญัติแห่งกฎหมายบังคับแก่คดีใด  ถ้าศาลเห็นเองหรือคู่ความโต้แย้งพร้อมด้วยเหตุผลว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมายนั้นต้องด้วยบทบัญญัติมาตรา 6 และยังไม่มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบทบัญญัตินั้น ให้ศาลส่งความเห็นเช่นนั้นตามทางการเพื่อศาลรัฐธรรมนูญจะได้พิจารณาวินิจฉัย ในระหว่างนั้นให้ศาลดำเนินการพิจารณาต่อไปได้ แต่ให้รอการพิจารณาคดีไว้ชั่วคราว จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

นายแก้วสรร กล่าวว่า ศาลฎีกามีอำนาจในการวินิจฉัย เมื่อวินิจฉัยอะไรก็เป็นไปตามนั้นย เคารพการวินิจฉัยของศาลฏีกาเพียงแต่คตส.ไม่คาดคิดว่าจะออกมาอย่างนี้ เพราะนึกว่าจะยื่นเรื่องว่าขัดรัฐธรรมนูญได้เมื่อทั้งหมดตกเป็นจำเลยแล้ว คตส.ก็คงไม่ต่อสู้อะไร เพราะยังไม่มีใครบอกว่าคตส.ใช้อำนาจไม่ถูก แต่บอกว่ากฎหมายไม่ถูก แต่ถ้าศาลรัฐธรรมนูญไม่รับก็จะยุ่งกันไปใหญ่ 
 
 
 
(โปรดแสดงความคิดเห็นที่ไม่เข้าข่ายละเมิดศาลนะครับ เดี๋ยวจะยุ่ง )

ขอให้อ่านความคิดเห็น การอ้างอิงของอาจารย์แก้วสรร ก่อนจะวิพากษ์วิจารณ์
อย่าเห็นว่าเป็น'แก้วสรร' ด่าไว้ก่อน ในฐานะชอบตรวจสอบการทุจริตของ'นักประชาธิปไตยแม๊วๆ' และ บริวาร.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[ปุถุชน]

ผมว่าเราต้องมองกันหลายๆมุมครับ..


ที่ว่า...มุมของคนทำงาน ที่ว่าก็อยากให้งานราบรื่นไปด้วยดี..

ฉะนั้ั้นการที่อ.แกข้องใจแกโมโหก็คงจะไม่ผิดอะไร..


ซึ่งถ้ามองอีกมุมหนึ่ง..


ก็จะได้เป็นเครื่องการันตีว่าศาลท่านไม่ได้เข้าข้างใคร...

เพราะตอนนี้เหล่าพวกตรงข้ามก็ออกมาขานรับแลวบอกว่าศาลท่านเชื่อได้ 

และตรงนี้ก็จะเป็นเครื่องการันตีได้ว่าไม่ว่าผลจะออกมาแบบไหน มันก็จะพลิกลิ้นไม่ได้แล้ว เพราะมันออกมาบอกกันแล้วว่าศาลท่านเชื่อได้..


ดังนั้นมองโลกกันในหลายๆมุมเราก็จะได้ความคิดหลายๆแบบครับ

ข้อต่อสู้ ข้ออ้างอิงของ'นักประชาธิปไตยแม๊วๆ' และ บริวาร คือ....
1. คณะตุลาการรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจพิจารณา กรณีคดียุบพรรคไทยรักไทย
2. กรรมการ คตส. เป็น'อริ'กับนักประชาธิปไตยแม๊วๆ และ บริวาร
3. การแต่งตั้งองค์กรอิสระ เช่น คณะกรรมการ คตส. คณะกรรมการ ปปช. ฯลฯ
   โดยคณะ คมช.. และ รัฐบาล'สุรยุทธ์'ไม่ถูกต้อง....

ไม่มีการต่อสู้ อ้างอิงว่า ไม่ได้กระทำผิด ไม่ได้ทุจริตตามข้อกล่าวหา
เช่นคณะตุลาการรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยไว้ในคดียุบพรรคฯ แล้ว....

กรณี รสช.นั้น ศาลยุติธรรม ได้วินิจฉัยว่า
คณะกรรมการที่พิจารณา'ยึดทรัพย์' ไม่ได้เปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหา ได้ชี้แจงข้อกล่าวหา
และไม่นำคดีสู่ขบวนการศาลยุติธรรม.....

ซึ่งแตกต่างกับแนวทางของคณะ คมช. รัฐบาล'สุรยุทธ์'ที่ได้แต่งตั้งคณะกรรมการ คตส. และ คณะกรรมการ ปปช.
ให้ตรวจสอบ สอบสวน เปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจง ผ่อนผันให้ผู้กล่าวหาเลื่อนนัดด้วยข้ออ้างนานาประการ
หน่วงเหนี่ยวการพิจารณามาตลอด เพื่อให้หมดเวลา หมดหน้าที่คณะกรรมการ คตส. สิ้นเดือนมิถุนายน 2551...

ทุกคดีนำสู่ขบวนการยุติธรรม ฟ้องร้องต่อศาลฯ...

ถ้าผู้ถูกกล่าวหา เข้าใจว่าคณะกรรมการ คตส. ไม่มีอำนาจ ไม่ถูกกฏหมาย(?)
คงไม่ประวิงเวลา หน่วงเหนี่ยว เลื่อนนัด ผัดผ่อน ฯลฯ จนหมดข้ออ้างอิง แล้วค่อยสงสัยอย่างนี้.....

[Can ไทเมือง]

ประเด็นโต้แย้ง มาเกี่ยวพันระหว่าง รัฐธรรมนูญ 2549 และประกาศ คปค.

มาปะทะกับ รัฐธรรมนูญ 2550

"คดีที่ดินรัชดา" เสร็จก่อน การประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2550...อัยการสูงสุดสั่งฟ้อง ไม่มีปัญหา

พอประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2550 ก็เกิดการตีความ คล้ายๆ กับตอน มีรสช. ที่ยึดทรัพย์ รมต.

เที่ยวนี้คล้ายๆ กัน มีข้อโต้แย้งจากฝ่ายผู้ถูกกล่าวหา ว่า คตส. และ กฎหมายเที่เกี่ยวข้องกับ คตส. ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ 2550 หรือไม่

มีเนื้อหาขัดกับรัฐธรรมนูญ 2550 หรือไม่ ศาลฎีกาจึงส่ง เรื่องไปตีความ 2 ประเด็นตามข่าว

อย่างน้อยก็จะได้บรรลุข้อยุติ ว่า คตส. หรือ การกระทำของ คตส. ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ 2550 หรือไม่

ตามมาตรา 6 ของรัฐธรรมนูญ 2550

พูดง่ายๆ ก็คือ ตีความ 309 โดยไม่ต้องแก้รัฐธรรมนูญนั่นแหละครับ

[ปุถุชน]

ถึงศาลยุติธรรมมีแนวทางปฏิบัติอย่างนี้
นักประชาธิปไตยแม๊วๆ และ บริวาร ยังกล่าวหาว่าศาลยุติธรรม
ไม่เที่ยงธรรม ไม่ได้ให้ความเป็นธรรมแก่พวกเขา มาตลอด....

[Can ไทเมือง]

คตส. ก็ยอมรับในอำนาจของศาลฎีกา ว่าท่านมีอำนาจ ท่านจะว่ายังไงก็ยอมรับ

ส่วนพวก ลิ่วล้อและหน้าเหลี่ยมจะพูดตลอดว่า "เป็นศาลที่ไม่ยุติธรรม"

ใช้กระบวนการของเผด็จการ ไม่ใช่ศาลประชาธิปไตย

ครั้งนี้ เพื่อให้มีการวินิจฉัยให้สิ้นสุด ไม่มีข้อโต้แย้งในทางกฎหมายกันอีก ก็ชอบแล้วที่ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

เมื่อผลออกมายังไงก็ต้องยอมรับ

หากผลออกมาเป็นบวกสำหรับคตส.  ฝ่ายหน้าเหลี่ยมก็จะบอก เป็นศาลรัฐธรรมนูญที่มีทัศนคติ เป็นลบ กับพรรคพลังประชาชน ( สมัครบอกยังงั้น )

หากผลออกมาเป็นลบ กับ คตส. พวกหน้าเหลี่ยมก็ได้โอกาส ถล่ม คมช. อีกรอบ

คือในทางสังคมนักวิชาการ นักกฎหมายเค้ายอมรับได้ แต่ฝ่ายพลังประชาชนหรือพวกหน้าเหลี่ยม ออกมาแบบไหนก็ด่าได้ทั้งนั้น

[jerasak]

ตอนนี้ก็ต้องมาดูว่าศาลรัฐธรรมนูญจะใช้เวลาวินิจฉัยนานแค่ไหน
ถ้าผลออกมาก่อนสิ้นเดือนมิถุนายน 2551 คตส.ยังไม่หมดอายุ
และถ้าวินิจฉัยว่า คตส.มีอำนาจฟ้อง ก็ดำเนินคดีกันต่อ

แต่ถ้าผลออกมาหลังมิถุนา 51 คตส. ก็จะหมดอายุไปเสียก่อน
ต่อให้ผลวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญออกมาว่า คตส.มีอำนาจฟ้อง
ก็คงต้องส่งเรื่องต่อให้หน่วยงานอื่น น่าสงสัยว่าจะต้องเริ่มนับหนึ่ง
คดีหวยบนดินใหม่หรือเปล่า

..สังเกตว่าฝ่ายทักษิณยื้อกันสุดฤทธิ์ ไม่ยอมสู้คดีในศาลง่ายๆ..
ก็คงดิ้นกันทุกวิธีตามประสานะครับ เกิดแพ้คดีจะย่ำแย่ไปตามๆ กัน

[พรรณชมพู]

http://thaiinsider.info/portal/content/view/8264/12/

'คตส.'ห่วงปม'ต่ออายุ' หากขัดกม.คดีล้มหมด ถ้าศาลรธน.ไม่วินิจฉัย ยิ่งยุ่งใหญ่-คดียิ่งล่าช้า

“อุดม-นาม” ประสานเสียง เป็นห่วงประเด็น “ต่ออายุ” ที่อาจขัดกม. ส่อทำให้คดีความต่างๆ ล้มทั้งหมด เหตุมีคดีเดียวคือ “คดีที่ดินรัชดาฯ” ที่ทำเสร็จในช่วงยังไม่ต่ออายุ และส่งฟ้องศาลไปแล้ว ส่วนคดีอื่นๆ มาเสร็จในช่วงที่มีการต่ออายุไปแล้ว

ปธ.คตส.งงทำไมศาลฎีกาฯไม่วินิจฉัยเอง ทำไมต้องส่งให้ศาลรธน.ตีความ ชี้หากศาลรธน.ไม่รับตีความจะยิ่งทำให้ยุ่งใหญ่ เพราะจะทำให้คดีล่าช้าเข้าไปอีก

วันที่ 15 พ.ค. 2551 นายอุดม เฟื่องฟุ้ง กรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนโครงการออกสลากพิเศษ 2 ตัว 3 ตัว หรือหวยบนดิน กล่าวยอมรับว่า การที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งให้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยสถานะของคตส.และการต่ออายุการปฏิบัติหน้าที่ของคตส. ว่าขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญปี 2550 หรือไม่ คงส่งผลกับการทำงานของคตส. หากผลวินิจฉัยออกมาว่า การต่ออายุขัดกับกฎหมาย ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น จะทำให้คดีที่ทำมาอาจล้มทั้งหมด

นายอุดม ยอมรับด้วยว่า เรื่องที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่ไม่เกินความคาดหมายและศาลฎีกาฯ สามารถทำได้ เพราะการตีความเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในอำนาจของศาลยุติธรรม ซึ่งเป็นช่องทางที่ผู้ถูกกล่าวหาสามารถร้องได้ ส่วนระยะเวลาการวินิจฉัยชี้ขาดว่า การต่ออายุคตส. ขัดกฎหมายหรือไม่ต้องแล้วแต่ดุลพินิจของศาลรัฐธรรมนูญ

นายนาม ยิ้มแย้ม ประธานคตส. กล่าวว่า ข้อต่อสู้ของจำเลย  มีการหยิบเรื่องสถานะของคตส.มาต่อสู้แทบทุกเรื่อง ทั้งนี้อัยการไม่มีอำนาจสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง เพราะสำนวนที่คตส.ส่งไป หากเห็นว่าไม่สมบูรณ์ก็ต้องตั้งคณะทำงานร่วมกัน หากยังมีความเห็นต่างกัน คตส.ก็ต้องฟ้องเอง ตามประกาศคปค.ฉบับที่ 30 ข้อ 9

เมื่อถามว่า ความเห็นแย้งของอัยการที่ขอให้สอบเพิ่ม มิใช่ความเห็นแย้งของสำนวน นายนาม กล่าวว่า “ที่บอกเพิ่มๆ ผมไม่เห็นว่าจะเพิ่มอะไร เพราะการพิจารณาของศาลนักการเมือง เราไม่ได้ใช้ “วิอาญา” ดังนั้นอัยการจะใช้ไม่ได้ แต่เป็นระบบไต่สวน”

“ผมก็สงสัยเหมือนกัน ศาลฎีกาฯน่าจะวินิจฉัยเอง ไม่น่าจะส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ แต่ก็เป็นดุลยพินิจของศาล”นายนามกล่าวและว่า ในอดีตที่ผ่านมา กฎหมายของคณะปฏิวัติที่ผ่านมา ศาลฎีกาฯก็วินิจฉัยว่าเป็นคำสั่งที่ชอบมาแล้ว ก็เคยมีคดีตัวอย่างมาแล้ว ตนกำลังดูว่า มีรัฐธรรมนูญมาตราไหนหรือไม่ ว่ามีกฎหมายให้ศาลฎีกาฯส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความได้หรือไม่ ทั้งนี้หากศาลรัฐธรรมนูญไม่รับวินิจฉัยจะยุ่งเลยนะ แล้วศาลฎีกาฯจะทำอย่างไรต่อไป ก็จะมีปัญหาต่อไป ทำให้คดีล่าช้าลงไปอีก

เมื่อถามว่า ประกาศคปค.ฉบับที่ 30 เกิดขึ้นก่อนจะมีรัฐธรรมนูญก่อนปี 2550 แต่มีการหยิบประเด็นนี้ส่งไปให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ แสดงว่าศาลฎีกาฯให้น้ำหนักกับข้อโต้แย้งนี้หรือไม่ นายนาม กล่าวว่า อย่างความเห็นของกฤษฎีกาที่ตีความมา ศาลฎีกาฯก็มีเยอะที่ไม่ฟัง เพราะเป็นอำนาจของศาล ไม่ใช่ว่าตีความอย่างไร แล้วต้องถือตาม ทั้งนี้ประเด็นที่ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความใน 2 ประเด็นนั้น ในประเด็นที่ 1 คือให้วินิจฉัยว่าประกาศคปค.ฉบับที่ 30 ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ทั้งที่ประกาศคณะปฏิวัติที่เดิมๆ มาก็ถือว่าชอบทั้งนั้น ก็ถือว่าเป็นกฎหมาย ศาลฎีกาฯก็วินิจฉัยต่อกันมาว่าเป็นกฎหมาย

“หากประเด็นที่ 1 ไม่มีปัญหา แล้วประเด็นที่ 2 (ให้วินิจฉัยเรื่องการต่ออายุของคตส.) มีปัญหา ก็จะทำให้คดีความต่างๆ ล่มสลายหมด เพราะว่าจะมีคดีเดียวที่ทำก่อนจะต่ออายุคือ คดีที่ดินรัชดาฯ ที่ทำเสร็จก่อน และส่งฟ้องศาลไปแล้ว เพราะถือว่าทำไปโดยไม่มีอำนาจ เฉพาะช่วงนั้นหลายคดียังไม่เสร็จ จึงมีการต่ออายุ อย่างไรก็ตาม คดีอะไรก็แล้วแต่ที่ได้ทำในช่วงต่ออายุ สำนวนก็ยังอยู่ ก็อาจต้องโยนให้ป.ป.ช.ไปดำเนินการต่อ ผมคิดว่าอย่างนั้น เชื่อว่า มันคงไม่สูญเปล่า คงให้ป.ป.ช.รับไปดำเนินการต่อได้ นี่เป็นความเห็นเฉพาะของผมนะครับ”ประธานคตส.กล่าว

-------------------

รอฟังศาลรัฐธรรมนูญอย่างเดียวค่ะ 

[Can ไทเมือง]

ประธานคตส. ชี้แจง อธิบายได้ชัดเจน

ประเด็นแรกคงผ่าน แต่ประเด็นต่ออายุ อาจยังกั๊กๆ อยู่

แต่ยังไงก็ตาม ปปช. รอรับลูกอยู่แล้ว ช้าหรือเร็วก็ต้องรอ

คดีผู้นำประเทศแบบนี้เสร็จภายใน 5 ปี ก็นับว่าเก่ง

[55555]

“หากประเด็นที่ 1 ไม่มีปัญหา แล้วประเด็นที่ 2 (ให้วินิจฉัยเรื่องการต่ออายุของคตส.) มีปัญหา ก็จะทำให้คดีความต่างๆ ล่มสลายหมด เพราะว่าจะมีคดีเดียวที่ทำก่อนจะต่ออายุคือ คดีที่ดินรัชดาฯ ที่ทำเสร็จก่อน และส่งฟ้องศาลไปแล้ว เพราะถือว่าทำไปโดยไม่มีอำนาจ เฉพาะช่วงนั้นหลายคดียังไม่เสร็จ จึงมีการต่ออายุ อย่างไรก็ตาม คดีอะไรก็แล้วแต่ที่ได้ทำในช่วงต่ออายุ สำนวนก็ยังอยู่ ก็อาจต้องโยนให้ป.ป.ช.ไปดำเนินการต่อ ผมคิดว่าอย่างนั้น เชื่อว่า มันคงไม่สูญเปล่า คงให้ป.ป.ช.รับไปดำเนินการต่อได้ นี่เป็นความเห็นเฉพาะของผมนะครับ”.......ประธานคตส.กล่าว

ดังนั้น ประเด็นการแก้รัฐธรรมนูญ จึงมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน.....เนื่องจากมีการสะดุดหกล้ม ของ คตส....ความสำคัญจะไปอยู่ที่ ปปช....

หากมีการแก้รัฐธรรมนูญ แล้วกลับไปใช้วิธีการสรรหาแบบ ปี 40....จะมีการเข้าแทรกแซงของฝ่ายการเมือง ...แล้วทีนี้ จะมีเหตุการณ์ล้มกระดานครับ...

...เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นก็น่าจะเป็นข้อเตือนใจ ของคนที่ยังไม่เข้าใจว่า เหตุใด การแก้รัฐธรรมนูญ จึงไปเกี่ยวข้องกับ คดีความต่าง ๆ

ทำไม นักวิชาการ จึงได้พูดนัก พูดหนา ว่า มันจะไปมีผล ต่อการต่อสู้คดีอย่างไร.......ผมว่า เรืองนี้ นักกฏหมาย ทางฝั่ง พปช. คงมองเอาไว้แล้ว

อย่างไร ก็ดี ผมยังเชื่อ อิทธิฤทธิ์ ของ ม. 309 ครับ....

 

[ScaRECroW]

ผมเชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญคงไม่ใช้เวลานานมากที่จะตีความกรณีนี้

[Can ไทเมือง]

ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ยังไม่ได้โปรดเกล้าฯให้ครบ แต่คิดว่าคงอีกไม่นาน น่าจะภายในเดือนนี้

สภาทนายความ ่จะร่างแถลงคัดค้านคำร้องตรวจสอบสถานะ คตส.
 เนชั่นทันข่าว 09:45 น.

นายนคร ชมพูชาติ คณะทำงานจากสภาทนายความที่ยื่นฟ้องคดีการออกโครงการจำหน่ายสลากแบบพิเศษเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว หรือหวยบนดิน เปิดเผยว่า คณะทำงานจะมีการร่างคำแถลงคัดค้านคำร้องของผู้ถูกกล่าวหาที่ 31-47 ที่ยื่นต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติและการต่ออายุของ คตส. ว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ โดยทนายความจะเสนอให้ คตส.ชุดใหญ่ พิจารณาคำแถลงคัดค้าน และคาดว่าในสัปดาห์

หน้าจะสามารถยื่นต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อรวบรวมเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยร่วมกับคำร้องของผู้ถูกกล่าวหา พร้อมกันไปด้วย

ทั้งนี้ ทนายความให้ความสนใจในคำร้องของผู้ถูกกล่าวหา ในกฎหมายมาตรา 29 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน โดยผู้ร้องอ้างว่า การออกกฎหมายในลักษณะดังกล่าวจะบังคับใช้เฉพาะบุคคลหรือไม่
  
 

[ริวเซย์]

สภาทนายความไม่ชอบทักษิณมาแต่ไหนแต่ไรแล้วครับ ตั้งแต่สมัยอ.สัก กอแสงเรือง นายกสภาทนายความคนก่อน

จนมาคนปัจจุบันท่านเดชอุดม ไกรฤทธิ์

เวลาผมไปฟังสัมนา ก็เห็นกล่าวโจมตีทักษิณตลอด แต่ก็มีทนายดังๆอีกสายหนึ่งที่ไปทางทักษิณ อย่างทนายธนา เบญจาธิกุล ทนายมะโน ทองปาน ทนายปรพมาณ เรืองวัฒนวนิช...