ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
24-04-2024, 02:36
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  วันนี้ 14 พค. 2551 ลุ้นหลายคดี 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
วันนี้ 14 พค. 2551 ลุ้นหลายคดี  (อ่าน 1691 ครั้ง)
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« เมื่อ: 14-05-2008, 10:00 »

1. http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=31075&catid=1

อ้างถึง
ศาลฯอ่านคำพิพากษา'เทพเทือก'ฟ้องอดีต 4 กกต.

ศาลชั้นต้น เตรียมอ่านคำพิพากษา ในเวลา 09.00 น. คดีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องพล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ อดีตประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายปริญญา นาคฉัตรีย์ นายวีระชัย แนวบุญเนียร และพล.อ.จารุภัทร เรืองสุวรรณ ซึ่งเป็นอดีต กกต.เป็นจำเลยที่ 1 - 4 ตามลำดับในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบมาตรา 157 หมิ่นประมาทโดยการโฆษณาและกระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่ เพื่อเป็นคุณหรือเป็นโทษ แก่พรรคการเมืองตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2541 กรณีจำเลยทั้ง 4 ได้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริง ตามที่พรรค ปชป.ได้ร้องเรียน พูดพร้อมแสดงหลักฐานอันควรเชื่อด้วยว่าก่อนวันหลังเลือกตั้ง ส.ส.และผู้บริหารพรรคไทยรักไทย (ทรท.) ได้กระทำการ โดยไม่สุจริต จ้างวานหรือใช้ให้พรรคพัฒนาชาติไทยและพรรคแผ่นดินไทยจัดส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในหลายจังหวัด เพื่อให้เป็นคู่แข่งกับผู้สมัครรับเลือกตั้งพรรค ทรท.

2. http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=31070&catid=1

อ้างถึง
ศาลฯนัดฟังรับฟ้องคดีหวยบนดินหรือไม่ 10 โมงเช้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เตรียมนัดฟังคดีว่าจะมีคำสั่งประทับรับฟ้องหรือไม่ สืบเนื่องมาจาก คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีและคณะกรรมาธิการสลากกินแบ่งรัฐบาลในสมัยนั้นร่วม 47 คน เป็นจำเลย กรณีออกสลากพิเศษเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว หรือหวยบนดิน โดยมิชอบ โดยร่วมกันมีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2546 ให้ดำเนินโครงการออกสลากพิเศษ ตั้งแต่งวดวันที่ 1 ส.ค. 2546 ถึง 26 พ.ย. 2549 พร้อมเรียกค่าเสียหายกว่า 14,000 ล้านบาทแล้ว

ทั้งนี้ ในเวลา 10.00 น. จะมีการแถลงข่าวว่าจะประทับรับฟ้องคดีดังกล่าวหรือไม่ สำหรับคดีดังกล่าว คตส.ได้ทำการยื่นฟ้องต่อศาลเองผ่านทนายความ ภายหลังอัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง นอกจากนี้ หากศาลประทับรับฟ้องแล้วรัฐมนตรี 3 คนในรัฐบาลปัจจุบัน ประกอบด้วย นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นางอุไรวรรณ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนายอนุรักษ์ จุรีมาศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม จะต้องยุติบทบาทการทำหน้าที่รัฐมนตรีหรือไม่

ทุกคดี ล้วนแล้วแต่เป็นของระบอบทักษิณทั้งสิ้น ใครจะหนาวจะร้อนบ้าง วันนี้คงได้รู้กันค่ะ 
บันทึกการเข้า
THE THIRD WAY
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,821


Love looks not with eyes, but with the mind.


« ตอบ #1 เมื่อ: 14-05-2008, 10:12 »

สวรรค์มีตา
สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง
 
บันทึกการเข้า

ความรักนั้นหวาน ไม่ว่าจะรับหรือให้
************************
การขับไล่ทรราช เป็นภารกิจของเจ้าของประเทศ
(ลุง)ถึก สไลเดอร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,026



« ตอบ #2 เมื่อ: 14-05-2008, 10:16 »

เฉยๆครับ....คอยดูผลกันต่อไป.....เอิ้กกกกก
 
บันทึกการเข้า

(ลุง)ถึก สไลเดอร์
soco
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,842



« ตอบ #3 เมื่อ: 14-05-2008, 10:31 »

1. http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=31075&catid=1


ทุกคดี ล้วนแล้วแต่เป็นของระบอบทักษิณทั้งสิ้น ใครจะหนาวจะร้อนบ้าง วันนี้คงได้รู้กันค่ะ 

คดีแรก ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน จำคุก 2 ปี ไม่รอการลงโทษ ถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี 


คดีที่สอง ส่งให้ส่งเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญตีความเรื่องการต่ออายุ คตส. ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ 
บันทึกการเข้า
eAT
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,066



« ตอบ #4 เมื่อ: 14-05-2008, 11:00 »

อุทธรณ์ยืน คุก 2 ปี ตัดสิทธิ์การเมือง 10 ปี กกต.3 หนา
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 14 พฤษภาคม 2551 10:28 น.

ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน จำคุก 2 ปี พ่วงตัดสิทธิ์การเมือง 10 ปี อดีตกกต.สามหนา คดีถูก สุเทพ เทือกสุบรรณ ฟ้อง ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ศาลชี้อ้างคุณงามความดี ปัญหาด้านสุขภาพ ฟังไม่ขึ้น
     
      วันนี้( 14 พ.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ อดีตประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. นายปริญญา นาคฉัตรีย์ กกต. และนายวีระชัย แนวบุญเนียร กกต. เป็นจำเลยฐานกระทำความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง กรณีไม่เร่งรัดสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยว่าจ้างพรรคแผ่นดินไทย และพรรคพัฒนาชาติไทย ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง ส.ส. ในพื้นที่ภาคใต้ เมื่อปี 2549 เพื่อหนีเกณฑ์คะแนนขั้นต่ำร้อยละ 20
     
      คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย คนละ 4 ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือคนละ 2 ปี และตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี
     
      จำเลยอุทธรณ์ว่ากรณีมีเหตุปรานีลดหย่อนโทษ และรอการลงโทษให้แก่จำเลยหรือไม่ โดยจำเลยอ้างปัญหาด้านสุขภาพ และได้ประกอบคุณงามความดี รับราชการด้วยความวิริยะอุตสาหะ อีกทั้งได้ดำรงตำแหน่งหน้าที่สำคัญมาก่อนนั้น ศาลเห็นว่าการที่พวกจำเลย รับราชการจนได้รับตำแหน่งหน้าที่สำคัญมาก่อนเป็นคุณสมบัติข้อหนึ่งที่ทำให้ได้รับเลือกเป็น กกต.
     
      ศาลอุทธรณ์ประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า การที่จำเลย มีประสบการเคยดำรงตำแหน่งที่สำคัญมาก่อนจนมีคุณสมบัติตามวัตถุประสงค์ของรัฐธรรมนูญ ได้เป็น กกต. แต่กลับไม่ได้ใช้ประสบการณ์สร้างความสงบสุขและช่วยระงับวิกฤติที่เกิดขึ้นในชาติบ้านเมือง พฤติการณ์ของจำเลยจึงไม่มีเหตุปรานีลดโทษตามที่ขอ ที่ศาลชั้นต้นใช้ดุลยพินิจกำหนดโทษมานั้นชอบแล้ว อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสามฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 14-05-2008, 11:08 »

สามหนาคงลุ้นไม่ขึ้น ถึงฏีกาคงไปลุ้น ลดโทษผ่อนโทษลงบ้าง ประมาณนั้น

ส่วนคดีหวย ยังต้องสู้กันหลายยก เพราะอัยการสูงสุด มีความเห็นแย้ง คตส.

ยังไงก็รอได้ครับ....

จะว่าไป คดีหวย ผมว่างั้นๆ นะครับ ไม่จังๆ เหมือนคดีทุจริตอื่น ๆ
บันทึกการเข้า

นายเกตุ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,289



« ตอบ #6 เมื่อ: 14-05-2008, 11:13 »

สม
บันทึกการเข้า
ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 14-05-2008, 12:27 »

ถือเป็นข่าวดีจริงๆครับ 
บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


mebeam
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 634


Fear can hold you prisoner. Hope can set you Free.


« ตอบ #8 เมื่อ: 14-05-2008, 13:24 »

มิถุนายน จะตีความเสร็จมั๊ย
แล้วเรื่องอื่นๆ ที่จะฟ้องเองล่ะ

เจอมุขนี้ ไม่เป็นขบวนเลย



เอามาฝากอีก
  โดยเมื่อวาน (13 พ.ค.) ที่ผ่านมา พ.ต.ท.กานต์ พร้อมด้วยทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก นายยงยุทธ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ ให้ดำเนินคดีกับ นายชัยวัฒน์ ฉางข้าวคำ กำนัน ต.จันจว้า อ.แม่จัน จ.เชียงราย พยานในคดี ที่ กกต.ให้ใบแดงกับนายยงยุทธ ในข้อหาเบิกความอันเป็นเท็จต่อศาลฎีกา แผนกคดีเลือกตั้ง กรณีให้การว่า ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ แต่ทาง กกต.รับรองว่า นายชัยวัฒน์ เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย.2547 และขณะนี้ยังไม่พ้นจากสมาชิกภาพ และนายชัยวัฒน์ ยังโกหกต่อเจ้าหน้าที่ กกต.และต่อศาลฎีกา เพื่อให้เข้าองค์ประกอบการดำเนินคดีอาญากับนายยงยุทธ กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

    ขณะที่ นายคารม พลทะกลาง ทนายความชมรมนักกฎหมายเพื่อประชาชน กล่าวว่า นายชัยวัฒน์ ฉางข้าวคำ ถือมีความผิดฐานเบิกความเท็จ แต่ต้องให้ศาลทำการพิจารณาว่า จะมีความผิดถึงขนาดลงโทษทางคดีอาญาได้หรือไม่ ซึ่งการกระทำในครั้งนี้ นายชัยวัฒน์มีโอกาสติดคุกสูง เนื่องจากหลักฐานการรับรองการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์จากคณะกรรมการการ กกต. สามารถชี้ชัดได้อย่างชัดเจน และ พ.ต.ท.กานต์ ทำถูกต้องแล้วที่รีบแจ้งความดำเนินคดี

อย่างไรก็ตาม พยานหลักฐานทั้งหมดที่นายชัยวัฒน์ให้การไว้ ศาลอาจไม่ให้ความน่าเชื่อถือ และพิจารณาได้ว่าไม่มีน้ำหนัก และอาจไม่รับฟัง เพราะนายชัยวัฒน์ ถือว่ามีสถานภาพเป็นสมาชิกพรรคระชาธิปัตย์ แต่ไม่กล่าวข้อเท็จจริงนี้ต่อศาล นอกจากนี้ สังคมอาจมองได้ว่ามีการจัดฉากกลั่นแกล้งนายยงยุทธ จริง เพราะนายชัยวัฒน์มีสถานภาพทางการเมือง แต่ไม่ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อศาล

บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 14-05-2008, 13:41 »

คดียุทธ์ ตู้เย็นคงดิ้นไปก่อน ศาลจะว่ายังไงก็ขึ้นกับศาลครับ
บันทึกการเข้า

jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #10 เมื่อ: 14-05-2008, 14:11 »

มิถุนายน จะตีความเสร็จมั๊ย
แล้วเรื่องอื่นๆ ที่จะฟ้องเองล่ะ

เจอมุขนี้ ไม่เป็นขบวนเลย



เอามาฝากอีก
  โดยเมื่อวาน (13 พ.ค.) ที่ผ่านมา พ.ต.ท.กานต์ พร้อมด้วยทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก นายยงยุทธ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ ให้ดำเนินคดีกับ นายชัยวัฒน์ ฉางข้าวคำ กำนัน ต.จันจว้า อ.แม่จัน จ.เชียงราย พยานในคดี ที่ กกต.ให้ใบแดงกับนายยงยุทธ ในข้อหาเบิกความอันเป็นเท็จต่อศาลฎีกา แผนกคดีเลือกตั้ง กรณีให้การว่า ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ แต่ทาง กกต.รับรองว่า นายชัยวัฒน์ เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย.2547 และขณะนี้ยังไม่พ้นจากสมาชิกภาพ และนายชัยวัฒน์ ยังโกหกต่อเจ้าหน้าที่ กกต.และต่อศาลฎีกา เพื่อให้เข้าองค์ประกอบการดำเนินคดีอาญากับนายยงยุทธ กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

    ขณะที่ นายคารม พลทะกลาง ทนายความชมรมนักกฎหมายเพื่อประชาชน กล่าวว่า นายชัยวัฒน์ ฉางข้าวคำ ถือมีความผิดฐานเบิกความเท็จ แต่ต้องให้ศาลทำการพิจารณาว่า จะมีความผิดถึงขนาดลงโทษทางคดีอาญาได้หรือไม่ ซึ่งการกระทำในครั้งนี้ นายชัยวัฒน์มีโอกาสติดคุกสูง เนื่องจากหลักฐานการรับรองการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์จากคณะกรรมการการ กกต. สามารถชี้ชัดได้อย่างชัดเจน และ พ.ต.ท.กานต์ ทำถูกต้องแล้วที่รีบแจ้งความดำเนินคดี

อย่างไรก็ตาม พยานหลักฐานทั้งหมดที่นายชัยวัฒน์ให้การไว้ ศาลอาจไม่ให้ความน่าเชื่อถือ และพิจารณาได้ว่าไม่มีน้ำหนัก และอาจไม่รับฟัง เพราะนายชัยวัฒน์ ถือว่ามีสถานภาพเป็นสมาชิกพรรคระชาธิปัตย์ แต่ไม่กล่าวข้อเท็จจริงนี้ต่อศาล นอกจากนี้ สังคมอาจมองได้ว่ามีการจัดฉากกลั่นแกล้งนายยงยุทธ จริง เพราะนายชัยวัฒน์มีสถานภาพทางการเมือง แต่ไม่ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อศาล



น่าสังเกตด้วยว่าเมื่อสัปดาห์ก่อนนายชัยวัฒน์ให้การเอาไว้ว่า ไม่เคยสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์
แต่เป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทยตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง และเมื่อเปลี่ยนมาเป็นพรรคพลังประชาชนก็ได้ไปสมัคร
เป็นสมาชิกเช่นกัน

แต่ทำไม พปช. บอกว่านายชัยวัฒน์เป็นสมาชิก ปชป. ตั้งแต่ ปี 47 จนถึงปัจจุบัน   

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สืบพยานโจทก์ปากแรกคดี กกต.ฟ้องเพิกถอนสิทธิ"ยงยุทธ ติยะไพรัช" กำนัน ต.จันจว้า แฉ
แจกเงิน 10 กำนันคนละ 2 หมื่นให้ช่วย"ละออง" น้องสาวเป็น ส.ส.

http://www.naewna.com/news.asp?ID=107920

ที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง สนามหลวง วันที่  8 พฤษภาคม 51 เวลา 09.00 น.  นายกำธร โพธิ์สุวัฒนากุล
ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา พร้อมองค์คณะรวม 3 คน ออกนั่งบัลลังก์สืบพยานคดีหมายเลขดำที่ ลต. 38 /2551
ระหว่าง คณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต.) ผู้ร้อง และ นายยงยุทธ ติยะไพรัช  ส.ส.สัดส่วนกลุ่มที่ 1 และรองหัวหน้าพรรค
พลังประชาชน และ น.ส.ละออง ติยะไพรัช น้องสาวนายยงยุทธ  ส.ส.แบ่งเขต 3 จ.เชียงราย พรรคพลังประชาชน
ผู้คัดค้านที่ 1-2   กระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา ( ส.ว.) 
พ.ศ.2550 ด้วยการทุจริตการเลือกตั้งด้วยการแจกเงินให้กับกลุ่มกำนัน อ.แม่จัน จ.เชียงรายซึ่งเป็นตัวแทน (หัวคะแนน)
ของนายยงยุทธ แจกเงินซื้อเสียงเพื่อให้มีการลงคะแนนเลือกผู้สมัครของพรรคประชาชน โดย กกต. ยื่นคำร้องขอให้ศาล
เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง นายยงยุทธ ซึ่งให้ถูกใบแดง และสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ ในเขต 3 จังหวัดเชียงราย ที่ น.ส.ละออง
ถูกให้ใบเหลือง

โดยนายชัยวัฒน์ ฉางข้าวคำ กำนันต.จันจว้า อ.แม่จัน จ.เชียงราย ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นเบิกความว่า ไม่กลัวการเผชิญหน้า
กับนายยงยุทธ เพราะเป็นคนบ้านเดียวกันคุยกันได้ ไม่รู้สึกกดดัน สบาย   การเดินทางมาเบิกความวันนี้ไม่มีใครจ้างวาน
จะเบิกความไปตามข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่มี ที่ผ่านมาตนและครอบครัวถูกข่มขู่ และได้มีการร้องเรียนแล้วและ
คุ้มครองพยานแล้ว

เมื่อถึงเวลา 09.30 น. นายชัยวัฒน์  ฉางข้าวคำ กำนันต.จันจว้า อ.แม่จัน จ.เชียงราย อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นประจักษ์พยาน
สำคัญคดีนี้ เบิกความว่า เป็นกำนันตำบลจันจว้า มานาน 4 ปี ตั้งแต่ พ.ค.47 โดยเมื่อตุลาคม 50 ด.ต.เทพรัตน์ เขื่อนคุณา
สภ.แม่จัน จ.เชียงราย ซึ่งเป็นผู้ติดตามนายยงยุทธ ได้ ติดต่อผ่านโทรศัพท์ให้เดินทางมา กทม. เพื่อพบนายยุงยุทธ
กับคณะกำนันตำบลใน อ.แม่จันและนายบรรจง ยางยืน นายกเทศมนตรีตำบลจันจว้า  โดย 2 ครั้งแรกที่ติดต่อบอกให้
มาทางรถตู้ แต่ไม่ได้มา ครั้งที่สามบอกให้เดินทางโดยเครื่องบินจึงเดินทางมา ซึ่งตนสำรองจ่ายค่าตั๋วเครื่องบิน 3.8 หมื่นบาท
เดินทางออกมาจาก จ.เชียงรายเมื่อวันที่ 28 ต.ค.50 เวลา 13.00 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ มีรถตู้มารับเดินทางไปที่ทำการ
พรรคไทยรักไทยเก่า ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ทำการพรรคพลังประชาชน นายบรรจง จึงพาขึ้นไปชั้น 4 บอกว่าจะไปพบนายยงยุทธ
ซึ่งรอประมาณ 3 ชม. นายบรรจงจึงพาไปโรงแรมจำชื่อไม่ได้ ไปพบนายงยุทธ ที่ห้องรับรองชั้น 2  โดยนายยงยุทธ ขอร้อง
ให้ช่วย น.ส.ละออง และนายอิทธิเดช แก้วหลวง ในการเลือกตั้งให้ได้รับเลือกเป็น ส.ส. ซึ่งพยานและกลุ่มกำนันรับปากว่า
จะช่วย น.ส.ละออง กับ ส.จ.หล้า หรือ ส.ต.ต.ชมชาติ กัปปาหะ ผู้สมัครอีกคน เนื่องจากเป็นคน อ.แม่จัน แต่จะไม่ช่วย
นายอิทธิเดช เพราะไม่ใช่คนในพื้นที่ หลังจากนั้นนายยงยุทธก็ไม่ได้พูดเรื่องนี้อีก ตนกับพวกจึงขอให้นายยงยุทธ ทวงถาม
หนี้สินของนายชูชาติ จันทวลย์ ที่ปรึกษานายยงยุทธ สมัยเป็น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยนายชูชาติ
ติดหนี้ตน 2.5 แสนบาท จากที่ตนรับเหมาสร้างถนนต่อนายชูชาติ และยังเป็นหนี้กำนันคนอื่นด้วย โดยนายยงยุทธรับปากว่า
จะทวงถามหนี้ให้ซึ่งใช้เวลาพูดคุยกันประมาณ 30 นาที และนายยงยุทธ กลับไปก่อนโดยนายบรรจงเดินอออกไปส่ง ส่วนตน
และกลุ่มกำนันนั่งกินข้าว จากนั้นนายบรรจงเรียกทุกคนออกไปข้างนอกพร้อมส่งซองปิดผนึกให้ตนกับพวกทั้ง 10 คนโดยระบุว่า
“ นายฝากมาให้ ” และหลังจากนั้นตนและกลุ่มกำนันพากันเข้าไปในห้องน้ำและเปิดซองดูพบว่ามีเงิน สด 20,000 บาท   
ซึ่งพยานเชื่อว่าที่นายบรรจงบอกว่า “นาย” หมายถึง นายยงยุทธ  เพราะนายยงยุทธ เป็นผู้นัดมาเจอที่โรงแรม โดยพยาน
ยังได้ทวงถามเงินค่าตั๋วเครื่องบินกับนายบรรจง ซึ่งนายบรรจง ได้ควักเงินสดจำนวน  40,000 บาทให้พยานด้วย

จากนั้นนายชัยวัฒน์ เบิกความต่อว่า รุ่งขึ้นได้เดินทางกลับ ซึ่งออกจากโรงแรมไปยังสนามบินด้วยรถตู้ที่ด้านข้างเขียนว่า
ใช้ในราชการ เมื่อไปถึงเชียงรายกำนันทั้งหมดก็ไปรับประทานร้านอาหารแจ่วฮ้อนก็พบ กำนันตี๋ กำนันตำบลเชียงแสน
และผู้หญิงหนึ่งคน และผู้ชายอีก 2 คนซึ่งตนไม่รู้จัก หลังจากวันนั้นตำรวจสันติบาล เรียกตนไปสอบสวนที่กองบังคับการ
ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย เพื่อสอบเพื่อเรื่องที่เดินทางไป กทม. ก่อนที่จะถูก อนุ กกต. กลาง สอบสวนอีก ซึ่งตนให้การ
ตามเดิม โดยยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกับนายวิจิตร อยู่สุวรรณ ไม่เคยโกรธเคืองกับนายยงยุทธ น.ส.ละออง และด.ต.เทพรัตน์

นายชัยวัฒน์ ยังได้ตอบคำถามค้านทนายความสรุปว่า ไม่เคยมีความบาดหมางกับนายบรรจง โดยเมื่อปี  2547 สมัยที่เป็น
ผู้ใหญ่บ้าน เคยให้การสนับสนุนนายบรรจง ลงรับสมัครเป็นนายกเทศมนตรีตำบลจันจว้า โดยมีบุตรชายสมัครร่วมทีมเป็น
สมาชิกสภาเทศบาลด้วย โดยไม่เคยสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ แต่เป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทยตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง
และเมื่อเปลี่ยนมาเป็นพรรคพลังประชาชนก็ได้ไปสมัครเป็นสมาชิกเช่นกัน
อย่างไรก็ตามยอมรับว่ารู้จักกับ พ.อ.ธนัชย์ ปัญญา
รอง ผอ.กอ.รมน.จ.เชียงราย และเคยร่วมรับประธานอาหารกัน 1-2 ครั้ง  แต่ไม่ได้รายงานให้ พ.อ.ธนัชย์ ทราบว่าจะเดินทาง
ไปพบนายยงยุทธ ที่กรุงเทพ ซึ่งต่อนาย พ.อ.ธนัชย์ ได้นำภาพถ่ายพร้อมหลักฐานการเดินทางไปพบนายยงยุทธ มาให้ดู
พร้อมสอบสวน ซึ่งครั้งแรกให้การว่าไปพบจริง แต่ยังไม่ได้บอกให้ทราบเรื่องเงิน 20,000 บาท ต่อมา พ.อ.ธนัชย์ เรียก
ไปสอบสวนพร้อมกำนันในตำบลแม่จัน จึงแจ้งให้ทราบว่านายยงยุทธให้เงินมา เหตุที่ไม่ได้แจ้งให้ทราบว่าได้รับเงินมา
เพราะต้องการปิดเป็นความลับ ไม่คิดไปแจ้งความเพราะเป็นคน อ.แม่จันด้วยกัน คดีนี้ตนไม่ได้เป็นผู้แจ้งความร้องทุกข์
แต่เป็นพยานให้การตามข้อเท็จจริง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่จัน จ.เชียงราย นำหมายจับจากศาลจังหวัดเชียงราย ฐานพยายามฆ่าผู้อื่น
มาจับกุมนายชัยวัฒน์ ที่กำลังเบิกความอยู่ เมื่อพักการพิจารณาศาลได้แจ้งให้นายชัยวัฒน์  ทราบและกำชับให้รับประทานอาหาร
อยู่ในบริเวณศาลเท่านั้น และไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวนายชัยวัฒน์ ในตอนนี้ หากฝ่าฝืนศาลจะดำเนินการขั้นเด็ดขาด
โดยไม่ล้อเล่น

ภายหลังเสร็จสิ้นการพิจารณาในช่วงเช้า นายยงยุทธ ให้สัมภาษณ์ ว่า ตนเชื่อมั่นในกระบวนการพิจารณาของศาล โดยเฉพาะ
ในส่วนของพยานหลักฐาน ทั้งวีซีดี และข้อเท็จจริง ซึ่งก่อนหน้านี้ กกต. ไม่ได้รับหลักฐานดังกล่าวประกอบการพิจารณา
เพียงแต่พิจารณาคำให้การของกำนันที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางมาพบตนเท่านั้น และสรุปแค่มีความผิดเพียงน่าเชื่อได้ว่า
อย่างไรก็ตามไม่ห่วงเรื่องคดีของตนเอง แต่เป็นห่วงเรื่องปัญหาบ้านเมืองมากกว่า โดยเฉพาะบรรยากาศการอยู่ร่วมกันในสังคม
ที่นับวันมีการเผชิญหน้ากัน จึงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายทำให้บ้านเมืองสงบ และเชื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้น  ซึ่งตนเองได้แสดงสปิริต
ด้วยการถอยออกมาให้เห็นว่ามีความจริงใจถอดสลักตัว เองออกมาเพื่อแสดงให้เห็นความจริงใจ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าคดีของ
นายยงยุทธ เป็นส่วนหนึ่งที่นำไปสู่ปัญหาความขัดแย้ง นายยงยุทธ กล่าวว่า หากได้เข้าไปฟังกระบวนการไต่สวนจะทราบว่า
อะไรเป็นข้อเท็จอะไรเป็นข้อจริง
 
วันที่ 8/5/2008
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #11 เมื่อ: 14-05-2008, 14:25 »

ศาลฎีกา เป็นเจ้าภาพเอง ในการส่งตีความสถานะของ คตส. ที่ถูกกล่าวหามานานว่า มีอำนาจหน้าที่ และขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ 

การตีความสถานะนี้ ไม่นานก็คงจะเรียบร้อย ผลออกมาอย่างไร คงได้ตกใจกันไปอีกพักหนึ่ง 

ถ้าตัดสินออกมาว่า สถานะไม่ถูกต้อง คดีทั้งหมดก็ล้มระแนระนาด จบกันไป 

แต่ถ้าตัดสินออกมาว่า สถานะถูกต้องแล้ว 

ขนหัวลุก ไล่ตั้งแต่อัยการสูงสุดมานั่นแหละ  และไม่ช้า คงได้เห็นอัยการสูงสุดต้องพักการปฎิบัตราชการ 

แต่ว่า การตีความ จะเสร็จก่อนมีปฎิวัตหรือไม่   น่าสงสัย 
บันทึกการเข้า
เอกราช
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 826


กับคนที่ไร้ซึ่งจริยธรรม ยังจะสามารถสมาคมด้วยหรือ


« ตอบ #12 เมื่อ: 14-05-2008, 15:07 »

ศาลฎีกา เป็นเจ้าภาพเอง ในการส่งตีความสถานะของ คตส. ที่ถูกกล่าวหามานานว่า มีอำนาจหน้าที่ และขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ 

การตีความสถานะนี้ ไม่นานก็คงจะเรียบร้อย ผลออกมาอย่างไร คงได้ตกใจกันไปอีกพักหนึ่ง 

ถ้าตัดสินออกมาว่า สถานะไม่ถูกต้อง คดีทั้งหมดก็ล้มระแนระนาด จบกันไป 

แต่ถ้าตัดสินออกมาว่า สถานะถูกต้องแล้ว 

ขนหัวลุก ไล่ตั้งแต่อัยการสูงสุดมานั่นแหละ  และไม่ช้า คงได้เห็นอัยการสูงสุดต้องพักการปฎิบัตราชการ 

แต่ว่า การตีความ จะเสร็จก่อนมีปฎิวัตหรือไม่   น่าสงสัย 

แต่ถ้าตัดสินออกมาว่า สถานะถูกต้องแล้ว 
ขนหัวลุก ไล่ตั้งแต่อัยการสูงสุดมานั่นแหละ  และไม่ช้า คงได้เห็นอัยการสูงสุดต้องพักการปฎิบัตราชการ 

ช่วยลุ้นให้เป็นไปตามนี้
บันทึกการเข้า

สภาพดินฟ้าอากาศที่ได้เปรียบมิสู้มีชัยภูมิที่มั่นคง
ชัยภูมิที่เป็นเลิศมิอาจเทียบได้กับความมีน้ำหนึ่งใจเดียวของผู้คน
天时不如地利,地利不如人和
mebeam
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 634


Fear can hold you prisoner. Hope can set you Free.


« ตอบ #13 เมื่อ: 14-05-2008, 15:52 »

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-05-2008, 15:58 โดย mebeam » บันทึกการเข้า
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #14 เมื่อ: 14-05-2008, 19:30 »

ศาลฎีกา เป็นเจ้าภาพเอง ในการส่งตีความสถานะของ คตส. ที่ถูกกล่าวหามานานว่า มีอำนาจหน้าที่ และขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ 

การตีความสถานะนี้ ไม่นานก็คงจะเรียบร้อย ผลออกมาอย่างไร คงได้ตกใจกันไปอีกพักหนึ่ง 

ถ้าตัดสินออกมาว่า สถานะไม่ถูกต้อง คดีทั้งหมดก็ล้มระแนระนาด จบกันไป 

แต่ถ้าตัดสินออกมาว่า สถานะถูกต้องแล้ว 

ขนหัวลุก ไล่ตั้งแต่อัยการสูงสุดมานั่นแหละ  และไม่ช้า คงได้เห็นอัยการสูงสุดต้องพักการปฎิบัตราชการ 

แต่ว่า การตีความ จะเสร็จก่อนมีปฎิวัตหรือไม่   น่าสงสัย 

ผมคิดว่า ที่ศาลฏีกา ทำ ก็น่าจะถูกต้องแล้วครับ.....

ยังมีอีกหลายคดี ที่ คตส. จะต้องส่งฟ้องเอง.....หากศาลรัฐธรรมนูญ ตีความว่า ที่มาไม่ถูกต้อง...

ทุกคดี ก็น่าจะจบ....ไม่ต้องไปสู้กันอีกให้เสียเวลา....แต่ก็คงไม่สูญปล่าว....ส่ง ปปช.ทำงานต่อ..แล้ว ก็ตายอยู่ดีเพียงแต่ ช้ากว่า

แต่ ถ้าศาล รธน. ตีความว่า คตส. มีที่มาถูกต้องทุกอย่าง...เรื่องก็จะเดินต่อ...แล้ว ไม่ช้า..ก็ตายยกเขียง...

บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: