สิทธิมนุษยชน

[ชัย คุรุ เทวา โอม]

ในปัจจุบันเรื่องที่สำคัญที่สุดของมนุษย์คือเรื่องสิทธิมนุษยชน เพราะในปัจจุบันนั้น มนุษย์ไม่มีระบบการกดขี่อีกต่อไปแล้ว แต่นั่นมันเป็นแค่ลายลักษณ์อักษร ที่จริงการกดขี่ในปัจจุบันยังมีอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการกดขี่ในเรื่องเพศ การเอารัดเอาเปรียบกันในสังคม และยังมีการแบ่งแยกชนชั้นทางศาสนาของบางศาสนาด้วย และการแบ่งแยกทางการปกครอง แค่นี้ยังแค่ส่วนกว้างๆ ยังมีอีกมากมายในประเทศต่างๆ สิทธิมนุษยชนในปัจจุบันยังไม่เป็นเรื่องที่แท้จริงนัก เพราะมันยังเป็นแค่การสมมุติขึ้น คนยังต้องการเอารัดเอาเปรียบกันอยู่เสมอ เพราะคนยังไม่รู้จักคำว่าพออย่างแท้จริง ยังมีความโลภอยู่เสมอ ความต้องการไม่มีคำว่าพอสำหรับบางคน ตราบใดที่ทุนนิยมยังครองโลกในปัจจุบัน มันเป้นการขัดกันของ2หลักการที่เกี่ยวข้องกัน ประชาธิปไตยสนับสนุนสิทธิมนุษยชน แต่หลักการทุนนิยมกลับเป็นการขัดแย้งสิทธิมนุษยชน บางคนอาจเถียงว่าทุนนิยมทำให้สิทธิมนุษยชน ดีขึ้นไม่ใช่เหรอ แต่ไม่ใช่เลยมันแค่การสร้างภาพ ทุนนิยมเป็นการทำให้แบ่งแยกทางการค้า ทำให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบทางการค้า ระบบทุนนิยมเป็นระบบของความโลภ แต่ก้ไม่ได้หมายความว่าระบบนี้แย่ทุกส่วน ในปัจจุบันสิทธิมนุษยชน หลายครั้งยังถูกแทรกแซง จากคนมีอำนาจยังสามารถริดรอนสิทธิผู้อื่นได้เสมอ เพราะกฎหมายยังไม่แข็งแกร่งพอ เงินยังสำคัญกว่าสิทธิมนุษยชน ของคนบางคน ในประเทศบางประเทศสามารถ สั่งขังคนที่เราไม่ชอบได้โดยผู้ที่มีอำนาจ และบางคนละเมิดสิทธิผู้อื่นเพื่อเงิน ปัจจุบันนี้สื่อเองยังถูกริดรอน สิทธิสื่อ สื่อไม่สามารถทำข่าวได้อย่างเต็มที่ เพราะบางทียังต้องเกรงใจผู้มีอำนาจ ต้องเกรงใจในเรื่องธุรกิจ และบางทีก็มีเรื่องเงินมาเกี่ยวข้อง แต่ยังไงก้ตามเมื่อประเทศไหนสิทธิมนุษยชน ถูกริดรอนมากเข้า ก็จะมีการเดินขบวน เพื่อให้ปลดล็อกการปกครองประเทศเพื่อให้อำนาจ ในการปกครองแก่ประชาชนมากขึ้น แต่ตราบใดที่คนยังมีการเอารัดเอาเปรียบผู้อื่นเมื่อนั้น สิทธิมนุษยชน ก็ยังเกิดขึ้นไม่ได้เต็มประสิทธิภาพ

[Can ไทเมือง]

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ( มาตรา 199 - 200 )

 
http://www.ect.go.th/thai/free-Org/7.html

[ตลก]

อ่านแล้วนึกถึง ที่อินเดียน นศ แพทย์อินเดียน ประท้วงไม่ให้รัฐบาลออกทุนการเรียนให้ นศ ที่มีคลาสต่ำ ได้รับทุน คงเนื่องมาจากเรื่อง วรรณะ ละมั้งครับ พวกเค้าถึงได้รังเกียจ และที่นั่งสำหรับ นร ทุน แพทย์ ที่พวกคลาสสูงๆทั้งหลายแหล่ลดจำนวนเพื่อไปแชร์กับ เด็ก นร ทุน คลาสต่ำ เจ้าพวกไฮโซพวกนี้เลยลุกฮือประท้วง

เป็นที่น่าเห็นใจ เพราะ ไม่ว่าใครจะได้ทุน ผลดีก็อยู่ที่ประเทศอินเดียเอง และยิ่งถ้าแจกทุนเด็กคลาสไม่สูงแล้ว น่าจะทำให้เศรษฐกิจบ้านเมืองของเค้าเข้าที่เข้าทาง ไม่ค่อนไปทางใดทางหนึ่ง แล้วยังถือว่าเป็นการลดการแบ่งชนชั้นได้ดีอีกด้วย แต่เจ้าพวกนี้ดันโวยกันใหญ่

บ่นๆครับ แต่น่าจะเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน เพราะว่า ทุกคนเท่าเทียมกัน

[Can ไทเมือง]

การศึกษา คือการแบ่งชนชั้นอย่างหนึ่ง

พวกเรียนสูงกลายเป็นพวกดูถูกชาวนาก็เยอะ

[Ziggy Stardust]

การศึกษา คือการแบ่งชนชั้นอย่างหนึ่ง

พวกเรียนสูงกลายเป็นพวกดูถูกชาวนาก็เยอะ

ขอเสริมลุงแคนว่าคนที่มันเรียนสูงด้วยกันแต่เรียนคนละศาสตร์ คนละแขนงยังเอามาแบ่งแยกชนชั้นกันได้เลยครับ

[snowflake]

เบ่ง เอ๊ย แบ่งหรือไม่ แล้วแต่นิสัยคนมังคะ
ถ้าพ่อแม่ครูบาอาจารย์สั่งสอนมาดี ก็ไม่กลายเป็นคนนิสัยแบบนั้นไปได้

แต่ระยะหลังๆ อาจสอนกันน้อยไปหน่อย หรือสอนผิดๆ
ขนาดระดับผู้นำประเทศ ยังไม่รู้จักหรือเห็นความสำคัญของการมีจริยธรรม
ซึ่งหลักข้อหนึ่งคือ การไม่เบียดเบียนผู้อื่น = เคารพสิทธิของผู้อื่นเท่าๆ กับของตนเอง

[snowflake]

All I really need to know about how to live and what to do and how to be I learned in kindergarten.
Wisdom was not at the top of the graduate school mountain, but there in the sand pile at school.

These are the things I learned:
Share everything.
Play fair.
Don't hit people.
Put things back where you found them.
Clean up your own mess.
Don't take things that aren't yours.
Say you're sorry when you hurt somebody.
Wash your hands before you eat.
Flush.
Warm cookies and cold milk are good for you.
Live a balanced life - learn some and think some and draw and paint and sing and dance and play and work every day some.
Take a nap every afternoon.
When you go out in the world, watch out for traffic, hold hands and stick together.
Be aware of wonder. Remember the little seed in the Styrofoam cup: the roots go down and the plant goes up and nobody really knows how or why, but we are all like that.
Goldfish and hamsters and white mice and even the little seed in the Styrofoam cup - they all die. So do we.
And then remember the Dick-and-Jane books and the first word you learned - the biggest word of all - LOOK.
Everything you need to know is in there somewhere. The Golden Rule and love and basic sanitation. Ecology and politics and equality and sane living.

Take any one of those items and extrapolate it into sophisticated adult terms and apply it to your family life or your work or government or your world and it holds true and clear and firm. Think what a better world it would be if we all - the whole world - had cookies and milk at about 3 o'clock in the afternoon and then lay down with our blankies for a nap. Or if all governments had as a basic policy to always put things back where they found them and to clean up their own mess.

And it is still true, no matter how old you are, when you go out in the world, it is best to hold hands and stick together.

(an excerpt from the book by Robert Fulghum, All I Really Need To Know I Learned In Kindergarten, Villard Books: New York, 1990, page 6-7. )

[100600]

การศึกษา คือการแบ่งชนชั้นอย่างหนึ่ง

พวกเรียนสูงกลายเป็นพวกดูถูกชาวนาก็เยอะ

นั่นสิ การศึกษา คือการแบ่งชนชั้นอย่างหนึ่ง

แต่ยุคนี้เกิดปรากฎการณ์ "พวกชาวนาดูถูกพวกเรียนสูง" ตามคำยุยงให้ท้ายของพวกเรียนสูงอีกกลุ่มหนึ่งที่เข้ามากุมอำนาจโปรยประชานิยม
มีการยกขบวนที่เรียกตัวเองว่า "คาราวานคนจน (บ้ากาม)" ไปตามท้าทายถึงมหา'ลัย และตึกสนง.ข่าว กันมาแล้ว

[snowflake]

การศึกษา คือการแบ่งชนชั้นอย่างหนึ่ง

พวกเรียนสูงกลายเป็นพวกดูถูกชาวนาก็เยอะ

นั่นสิ การศึกษา คือการแบ่งชนชั้นอย่างหนึ่ง

แต่ยุคนี้เกิดปรากฎการณ์ "พวกชาวนาดูถูกพวกเรียนสูง" ตามคำยุยงให้ท้ายของพวกเรียนสูงอีกกลุ่มหนึ่งที่เข้ามากุมอำนาจโปรยประชานิยม
มีการยกขบวนที่เรียกตัวเองว่า "คาราวานคนจน (บ้ากาม)" ไปตามท้าทายถึงมหา'ลัย และตึกสนง.ข่าว กันมาแล้ว

และใน "ราชดำเนิน" ด้วย มีมากมายหลายกระทู้ น่าสงสัยว่าเป็นกระบวนการจัดตั้งของคนกลุ่มเดียวกัน เพื่อ discredit ฝ่ายที่เห็นตรงข้าม

[ตะนิ่นตาญี]

สวัสดีครับ เจ้าของกระทู้ คุณ snowflake

ขออนุญาตคิดด้วยคนครับ

ความคิดแรกเมื่ออ่านกระทู้ของ คุณ snowflake

ทำให้ผมนึกถึง First Ten Amendments หรือที่เรียกกันว่า The Bill of Right

ของอเมริกา โดยเฉพาะ ใน First Amendment

ซึ่งถือกันว่าเป็น สิทธิสมบูรณ์ Absolute Right ของมนุษย์ทุกคน

ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ความเชื่อและการนับถือศาสนา

หรือ *เสรีภาพในการพูด การพิมพ์ การสื่อสาร* ฯลฯ


เจ้าของกระทู้ คุณ snowflake ครับ

เสรีภาพนั้นไม่เคยมาจากรัฐบาล หากแต่เสรีภาพจะมาจากมนุษย์ด้วยกันเอง

ประวัติศาสตร์แห่งเสรีภาพคือประวัติศาสตร์แห่งการถูกจำกัดอำนาจของรัฐบาล


นี่คือเหตุผลแห่ง รัฐธรรมนูญ

นี่คือเจตนารมณ์แห่ง รัฐธรรมนูญ

ซึ่งนั่นก็คือ *การจำกัดอำนาจของรัฐบาล*

เอกสารใดก็ตามที่ *พร่ำพรรณาถึงอำนาจอันหาขอบเขตไม่ได้ของรัฐบาล*

เอกสารนั้น *หาสมควร* เรียกว่า รัฐธรรมนูญ ไม่


รบกวนอยากให้เจ้าของกระทู้ คุณ snowflake พิจารณาถึง

ขอบอำนาจอันหาที่จำกัดไม่ได้ของ กกต.

จนเกิดเป็นข้อโต้แย้งกันในทุกวันนี้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเพิกเฉยต่อมติของ ศาล จาก กกต.


คุณ snowflake บุคคลเพียงแค่ ๕ คน ที่มีอำนาจอันหาขอบเขตไม่ได้นั้น

สามารถกระทำการ *อันเป็นการริดรอนสิทธิและเสรีภาพของประชาชน* ได้หรือไม่?

รบกวนพิจารณาดูครับ คุณ snowflake ครับ


ตะนิ่นตาญี

วันเสาร์ที่ ๒๗ พฤฏษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๙

[ตะนิ่นตาญี]

ตายแล้วผมดูชื่อเจ้าของกระทู้ผิดไป

เรียนตรงๆพึ่งตื่นขึ้นมา *เมาขี้ตา* ครับ

ที่ถูกต้องแล้วเจ้าของกระทู้คือ คุณ amalit1990

ขอโทษจริงๆครับ คุณ amalit1990 ครับ

[Can ไทเมือง]

เรื่อง "สิทธิมนุษยชน" หากจะว่ากันไป 3 วัน 3 คืนก็ไม่จบ

อ่านแค่หมวด "สิทธิ์" ในรัฐธรรมนูญก็ยังหลายสิบมาตรา

ขอให้รัฐทำตรงนั้นให้ครบก่อนเถิด เรื่องอื่นค่อยว่ากัน

[snowflake]

คุณ ตะนิ่นตาญี เอ่ยชื่อข้าพเจ้าตั้ง 6 ครั้ง แล้วค่อยมาแก้ (ตัว) ว่าเข้าใจผิด
ถ้าเข้าใจถูก หรือมีครั้งที่ 7 อาจต้องสงสัยว่าอยากเป็นแฟนคลับเข้าให้แล้ว 

[snowflake]

อ้าว คุณ CanCan กลายเป็นผีจูออน ไปแล้ว บรื๋อว...

ยืมคุณ Killer มาหรือ? (เปิดเพลง แต่ปางก่อน ประกอบให้)

แล้วมีการเย็บปากอีกต่างหาก โอ้ว... 

[Can ไทเมือง]

อืมม..ใครขวัญอ่อนต้องระวัง...

มาแถมให้กับหลาน.."โอม อำมฤต"
..........................................
ฟ้อง 'อันนัน' รัฐบาลละเมิดสิทธิซ้ำซาก 119 เอ็นจีโอลงชื่อจม.เปิดผนึก



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโอกาสที่นายโคฟี อันนัน เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อเข้าเฝ้าฯทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวานนี้ (26 พ.ค.) นางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยานายสมชาย นีละไพจิตร ทนายความนักสิทธิมนุษยชนที่หายสาบสูญ พร้อมด้วยตัวแทนกลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนที่มีทั้งองค์กรต่างๆ นักวิชาการ นักศึกษา นักสิทธิมนุษยชน ร่วมลงนามรวม 119 รายชื่อเป็นจดหมายเปิดผนึกยื่นถึง นายโคฟี อันนัน

จดหมายดังกล่าวได้รายงานให้ทราบถึงสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย และขอให้เลขาธิการสหประชาชาติเรียกร้องต่อรัฐบาลไทยให้ดำเนินการปกป้องคุ้มครองสิทธิมนุษยชน โดยเนื้อความในจดหมายว่า รัฐบาลภายใต้การบริหารงานของรักษาการนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวในการส่งเสริมและปกป้องคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดการปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่น กรณีกรือเซะ หรือตากใบ ที่ทำให้ชาวมุสลิม จำนวนกว่า 200 คน เสียชีวิตระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ และการประกาศใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่สามารถใช้อำนาจอย่างเกินขอบเขตในพื้นที่ที่ประกาศภาวะฉุกเฉิน หรือการปราบปรามยาเสพติดที่ยังคงไม่มีความก้าวหน้าในการตรวจสอบสืบสวนสอบสวนกรณีการฆ่าตัดตอนจำนวนกว่า 2,598 รายระหว่างเดือน ก.พ.-เม.ย. 2546

"นอกจากนี้ยังมีนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนอีก 19 คนที่ถูกฆ่าสังหารไปแล้วตั้งแต่ปี 2544 ซึ่งเป็นปีแรกของการบริหารงานของนายกรัฐมนตรีทักษิณ ส่วนกรณีอื่นๆ ได้แก่การปิดกั้นสื่อและการปกป้องผู้ลี้ภัยในประเทศไทย" จดหมายดังกล่าวระบุ

อย่างไรก็ตาม นายโคฟี อันนัน ไม่ได้มารับจดหมายเปิดผนึกดังกล่าวเอง แต่ให้ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นดีพี เป็นผู้รับแทน โดยรับปากว่าจะส่งจดหมายเปิดผนึกนี้ให้กับนายโคฟี อันนัน ทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากการยื่นจดหมายดังกล่าวแล้ว นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จำนวนหนึ่งยังได้ถือป้ายรณรงค์เกี่ยวกับการหายตัวไปของทนายสมชาย รวมทั้งการเสียชีวิตของนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนอีก19 คนป้ายเรียกร้องให้ยุติการวิสามัญฆาตกรรม รวมถึงการเป็นรัฐตำรวจที่เจ้าหน้าที่ไม่ถูกดำเนินคดีเมื่อกระทำผิด
http://www.thairath.co.th/online.php?section=newsthairathonline&content=7336

[ชัย คุรุ เทวา โอม]

ขอบคุณครับ สำหรับข้อมูลอื่นๆ และความคิดเห็น